+++รักพี่เอ๋ย...บทที่ 9+++
|
 |
๙.
ลำธารหมอกสีขาวที่ลอยอ้อยอิ่ง โอบล้อมยอดภูที่ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตาไปกับป่าเขียวครึ้ม ท้องฟ้าสีอ่อนจางรับแสงอรุณระเรื่อที่ปลายขอบฟ้า เมื่อก้มมองยังเบื้องล่างคือแม่น้ำที่ทอดยาวคดเคี้ยว บ้านเรือนเห็นเป็นหลังเล็กกระจิ๋วปลูกอยู่อย่างกระจัดกระจาย ให้ความรู้สึกอันเป็นอิสระ จนเรวินทร์ไม่อาจละสายตาออกจากภาพทิวทัศน์อันงดงามเบื้องหน้าได้
ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นตากับภาพวิวตรงหน้าเหลือเกิน แต่ทำไมเขาถึงนึกไม่ออกนะว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วนี่เขาหนีออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เพียงแค่นึกถึงเท่านั้นบรรยากาศปลอดโปร่งโล่งสบายเมื่อครู่กลับอึมครึมลงอย่างรวดเร็ว ภาพทิวเขาสลับซับซ้อนเบื้องหน้าถูกบดบังด้วยม่านหมอกสีขาวที่โรยตัวลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ สร้างความกังวลใจให้แก่หนุ่มลูกครึ่งเป็นอย่างยิ่ง มองไปทางไหนก็เห็นแต่ควันสีขาวครอบคลุมเต็มไปหมด จนน่ากลัวว่าอาจจะหลงทางได้ เขาต้องรีบลงจากภูเขาแห่งนี้โดยเร็วที่สุด
ทว่ายิ่งเดินเขากลับหาทางออกไม่เจอ ได้แต่หลงวนเวียนไปมาอยู่ในป่าใหญ่ด้วยความรู้สึกอึดอัดถาโถม และจู่ๆ งูเหลือมตัวใหญ่ยักษ์ ก็ทิ้งตัวจากกิ่งไม้เข้ามาเลื้อยพันที่รอบกายเขาอย่างรวดเร็ว ยิ่งเขาดิ้นรนเอาชีวิตรอดเท่าไหร่ มันยิ่งรัดเขาแน่นมากยิ่งขึ้น อะไรไม่ร้ายเท่ากับเมือกเหนียวที่ชวนคลื่นเหียนที่มันพ่นออกมาใส่หน้าเขา แทบอยากจะสลบกลับกลิ่นอันเหลือรับประทานนั่น
เขาพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดสุดกำลัง ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาพรั่นพรึงจนร่างกายเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ คือ งูเหลือมที่พันรัดกายเขามันมีหัวงอกเพิ่มออกมาอีกห้าหัว เขาตกใจจนแทบสิ้นสติ ซ้ำร้ายปากอันกว้างใหญ่ของมันก้มลงมาหาเขา งับเข้าที่ศีรษะอย่างแรง เลือดสีแดงฉานไหลพุ่ง
อ๊ากกกก!!!
หนุ่มลูกครึ่งผวาตื่น ความรู้สึกแรกคือชาตามแขนและขา จนไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ เขาเหลือบมองรอบกายอย่างเบลอๆ ห้องนอนอันไม่คุ้นเคย ก่อนมาสะดุดกับกลุ่มเส้นผมเล็กๆ ที่เบียดซุกจนแทบเกยอยู่บนคางของเขา เสียงกรนเบาๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังหลับสบาย
มิน่าเล่า! เขาถึงได้ฝันร้าย เจ้าหมูน้อยเล่นนอนทับเขาทั้งตัวแบบนี้
เรวินทร์ค่อยๆ ดันเจ้าหนูให้พ้นกาย ลุกขึ้นนั่งหอบหายใจเพลียๆ มือใหญ่ยกขึ้นแตะใบหน้าของตัวเองเพราะรู้สึกเหนอะหนะที่แก้ม กลิ่นเหม็นหึ่งมาเชียว เขามองดวงหน้ากลมป้อมที่มีน้ำลายไหลยืด ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาน้ำลายของเจ้าตัวเล็กนี่แน่ๆ เลย นอนดิ้นอะไรแบบนี้นะ เป็นเด็กที่ขี้เซาจริงๆ นอนดิ้นตกเตียงลงมายังไม่รู้สึกตัวอีก
เอ้าคุณตื่นพอดีเลย ผมกำลังจะมาปลุกให้คุณเตรียมตัวเดินทางนะ เราจะออกกันแต่เช้าไปถึงตำบลทรายทองจะได้ไม่สายมากนัก ตุ่มเปิดประตูห้องเข้ามา เดินตรงมาที่เจ้าตัวเล็กที่ยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่อง
อ้อแอ้ตื่นได้แล้ว ลุกเร็วเจ็ดโมงเช้าแล้วนะ ถ้าไม่ลุกจะปล่อยทิ้งไว้ที่บ้านคนเดียวนี่ล่ะ ตุ่มงัดหลานชายขึ้นมาจากกองที่นอนของเรวินทร์ ก่อนจะสังเกตเห็นความอิดโรยบนใบหน้าของชายหนุ่ม จึงถามด้วยความห่วงใย
นอนไม่หลับแปลกที่เหรอคุณ
เรวินทร์ส่ายหน้าก่อนเผยเรื่องฝันให้ฟัง เรื่องแปลกที่ผมไม่เคยเป็นนะ ผมนอนหลับได้ทุกที่...แต่ผมฝันร้าย มันเป็นฝันที่น่ากลัวมากๆ ทีเดียว
ตุ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หนุ่มลูกครึ่งฝันอะไรหว่าไม่แน่อาจจะไปตีเป็นเลขเด็ดก็ได้ จึงรีบซักถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น คุณฝันว่าอะไรมั่งเล่าให้ฟังหน่อยสิครับ มันอาจเป็นลางบอกเหตุอะไรซักอย่างก็ได้ผมก็พอจะแปลฝันได้บ้างนา
เรวินทร์อมยิ้ม ที่หนุ่มหน้าละอ่อนวางท่าเป็นหมอดูนักทำนายฝัน ไม่ได้เชื่อถืออีกฝ่ายเท่าใดนัก คงไม่มีอะไรหรอก ผมโดนอ้อแอ้นอนทับบนหน้าอกก็เลยทำให้นอนหลับไม่สบายเท่านั้นเอง
ผมแปลฝันเก่งนา แปลตรงตัวเป๊ะๆ ไม่ได้โม้ด้วย เล่ามาสิครับว่าฝันร้ายขนาดไหน เผื่อจะได้หาทางช่วยแก้ไขได้ทัน
น่าคุณ ตุ่มพยายามหว่านล้อมสุดฤทธิ์
เมื่อเจอลูกตื้อหนักๆ เข้า ชายหนุ่มก็ยอมปริปากเล่าความฝันของตนให้อีกฝ่ายฝัง ผมฝันว่าผมไปเที่ยวที่ภูเขาที่ไหนไม่รู้ แล้วทีนี้พอผมเดินลงจากภูเขาก็เจอเข้ากับงูตัวใหญ่ มันหล่นจากต้นไม้มารัดตัวผมเสียแน่นเชียว แล้วทีนี้หัวของมันก็เหมือนอมีบา แยกเซลล์ออกมาเป็นห้าหัว มันพ่นน้ำลายใส่ด้วยเหม็นมาก แล้วมันก็งับลงมาที่หัวผม ทำให้ผมตกใจสะดุ้งตื่นนี่แหละ ก็เจออ้อแอ้นอนทับอยู่บนตัวน้ำลายไหลยืดเปรอะหน้าผมเต็มไปหมด
ฝันว่างูรัดโบราณเขาบอกว่าคุณกำลังจะเจอเนื้อคู่ ตุ่มรีบแปลฝันให้ด้วยความรวดเร็ว โชคดีแล้วล่ะคุณจะได้ภรรยา
พี่เอ๋ยไง
เรวินทร์ตีหน้าปุเลี่ยน ที่จู่ๆ อีกฝ่ายก็มายัดเยียดญาติตัวเองให้เขา จึงไม่ได้มีท่าทีเชื่อถือต่อคำทำนายฝันของตุ่มเท่าใดนัก แต่คร้านจะโต้เถียง
ตุ่มยักไหล่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ยังไงงวดนี้เขาก็ได้เลขเด็ดจากอีกฝ่ายมาเรียบร้อยแล้ว
คุณไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ เสร็จแล้วลงไปทานข้าวเช้าที่ห้องครัวได้เลย ป่านนี้พี่เอ๋ยคงทำกับข้าวเสร็จแล้วล่ะ
โอเค เรวินทร์พยักหน้ารับคำทำตามคำสั่งของตุ่มอย่างว่าง่าย ดีเหมือนกันอาบน้ำกินข้าวกินปลาก่อน เสร็จแล้วค่อยไปคิดอีกทีว่าจะเอาอย่างไร จะไปหรือจะอยู่กับครอบครัวนี้ต่อค่อยว่ากันอีกที... . . . . .
เรวินทร์มองภาพความวุ่นวายเล็กๆ ตรงหน้าอย่างลังเล อ้อแอ้กำลังออกฤทธิ์ออกเดชอยู่กับตุ่ม อยากจะขอลองขับรถเล่นดูบ้าง ส่วนด้านอิสรีย์ขึ้นไปนั่งรออยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว เขาควรจะร่วมเดินทางไปกับครอบครัวนี้ดีหรือไม่
คุณไรท์มัวยืนทำอะไรอยู่รีบขึ้นรถเร็วๆ สิ ตุ่มร้องเตือนเมื่อเห็นเรวินทร์ยังยืนนิ่ง
หนุ่มลูกครึ่งถอนหายใจ คงไม่มีประโยชน์ที่จะหนีไปตอนนี้ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คิดเสียว่าไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาแล้วกัน ต.ท่าทรายทองเขายังไม่เคยไปเยี่ยมเยียนซะด้วยสิ เขาเปิดประตูรถด้านหน้าเตรียมขึ้นไปนั่งข้างคนขับ หากแต่ถูกตุ่มห้ามปราม ไปนั่งข้างๆ คอยดูแลพี่เอ๋ยดีกว่าคุณ อย่ามานั่งตรงนี้เลย เจ้าแอ้มันจองแล้ว
ไม่เป็นไรคับ พี่แองเจิ้ลนั่งกับน้องแอ้ก็ได้ เจ้าตัวดีชักชวนหน้าระรื่น
แล้วจะมาเบียดกันทำไมล่ะ ไปๆ คุณไรท์นั่งกับพี่เอ๋ยนั่นแหละดีแล้ว ทว่าตุ่มไม่เห็นด้วย เขาอุ้มเด็กชายขึ้นนั่งเบาะหน้าพร้อมทั้งคาดเข็มขัดนิรภัยให้อย่างเรียบร้อย
เรวินทร์จึงจำต้องไปนั่งที่ห้องโดยสารด้านหลังคู่กับอิสรีย์โดยปริยาย เธอเหลือบตามองที่เขาแวบหนึ่งก่อนเสไปมองวิวนอกรถ ซึ่งเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการเมินเฉยของเธอ
คนความจำเสื่อมลอบผ่อนลมหายใจเบาๆ ไม่รู้ว่าจะตบตาคนในครอบครัวนี้ไปได้อีกนานเท่าไหร่ เมื่อคืนแทบไม่ได้หลับได้นอน เพราะมัวสืบค้นหาตนเองทั้งคืน ด้วยการอ่านข่าวย้อนหลังทางอินเตอร์เน็ต นึกว่าโชคดีอากู๋(กูเกิ้ล)จะช่วยเธอได้แล้วเชียว หากแต่ข้อมูลที่พบทำเอาแทบคลั่ง คนชื่อจิตตาที่ประสพอุบัติเหตุ ในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกันดันมีตั้งสามคน เลยไม่รู้ว่าคนไหนเป็นตัวเธอกันแน่ แต่ละคนอยู่ห่างกันคนละโยชน์ คนที่อยู่ใกล้ที่สุดก็จังหวัดปทุมธานี คนที่สองอยู่เพชรบุรี ส่วนคนสุดท้ายประสพอุบัติเหตุที่จังหวัดมุกดาหาร
ไม่ได้เฉียดใกล้กรุงเทพมหานครเลยสักกะนิด จะสลับวิญญาณกันได้อย่างไรนี่ แค่คิดก็เวียนหัวแล้ว
แถมต้องมาตื่นแต่เช้าเตรียมหุงหาอาหารสำหรับทุกคนในครอบครัวอีก ทำให้หญิงสาวรู้สึกเพลียจัด บวกกับฤทธิ์ยาที่เริ่มออกฤทธิ์ ออกเดินทางจากกรุงเทพได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี อิสรีย์ก็หลับปุ๋ยไปอย่างง่ายดาย
ศีรษะทุยสวยเอียงส่ายไปมาตามประสาคนนอนไม่ได้ที่ กระแทกกับกระจกหน้าต่างก็หลายที หากแต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมตื่นเป็นเพราะฤทธิ์ยา เห็นแล้วชายหนุ่มรู้สึกสงสาร คงไม่สบายเท่าไหร่กับการหลับในท่านั่ง มือใหญ่เอื้อมไปหยิบหมอนอิงที่อยู่เบาะด้านหลังมา ก่อนจะช้อนศีรษะของเธอเพื่อดันหมอนรองเข้าใต้คอ ทว่ารถที่แล่นเลี้ยวโค้งอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างเล็กขยับเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขาโดยไม่ตั้งใจ ศีรษะของเธอซบอยู่กับบ่าเขา หนุ่มลูกครึ่งพยายามใช้นิ้วดันศีรษะของเธอให้ไปอยู่ที่เดิม
ฮั่นแน่! พี่แองเจิ้ลทำอะไรพี่เอ๋ยเอ่ย! เด็กชายทักเสียงดัง พลางชะโงกหน้ามาจากเบาะที่นั่งของตน
เรวินทร์ตกใจเผลอปล่อยมือจากอิสรีย์ เหมือนแกล้งกันศีรษะที่ยังไม่ทันตั้งตรงของเธอก็เอนกลับมาซบที่เดิมตามแรงโน้มถ่วงของโลก
นั่งดีๆ อ้อแอ้ การ์ตูนที่เปิดไว้เนี่ยจะดูไหม ถ้าไม่ดูก็ปิดไปเลยนะ ตุ่มเตือนเสียงเข้มพลางดึงเจ้าจอมวุ่นให้กลับมานั่งที่เดิม
มันร้องเพลงอยู่...ห้ามปิดนะหนูโกรธจริงๆ ด้วย อ้อแอ้รีบหันกลับทันควัน ความสนใจกลับมาอยู่ที่จอดีวีดีที่กำลังฉายการ์ตูนสุดโปรด
จัดการเจ้าตัวเล็กให้อยู่ในความสงบได้แล้ว ตุ่มมองที่กระจกส่องหลังเห็นลูกพี่ตนดูลำบาก จึงออกปากขอร้องเรวินทร์ว่า คุณก็ให้พี่เอ๋ยนอนหนุนตักหน่อยจะเป็นไร พี่เอ๋ยจะได้สบายๆ หน่อย เป็นแฟนกันไม่ต้องอายหรอกน่า
ทว่าชายหนุ่มยังไม่ทันได้ทำตามคำขอของตุ่ม อิสรีย์ก็ตื่นขึ้นมาเสียก่อนเมื่อเห็นสภาพของตนเอง สีหน้าของหญิงสาวมีรอยเก้อกระดากนิดหนึ่ง ก่อนจะรีบเด้งตัวกลับไปนั่งเรียบร้อยดังเดิม
หมอนอิงครับ หมอนอิงถูกยื่นส่งมาจากคนตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ
ขอบคุณ
อิสรีย์พึมพำเสียงเบารับหมอนอิงมากอดแนบอก ไม่กล้าเหลือบแลไปทางเขาเพราะยังรู้สึกขัดเขินอยู่มิหาย ได้แต่ปฏิญาณกับตนว่าจะไม่หลับอีกเด็ดขาดตลอดการเดินทางนี้ แต่อนิจจาเพียงแค่สิบนาทีต่อมา ร่างบางก็เอียงซบกลับไปยังจุดเดิม
เรวินทร์ได้แต่ปลงคร้านจะปลุกเธอขึ้นมา เสียสละไหล่ให้เธอหนุนนอนแค่นี้ไม่หนักหนาหรอก เขาหรุบตามองกลุ่มผมสีดำสลวยที่ซุกซบอยู่แทบบ่าด้วยความเอ็นดู และโดยไม่ทันตั้งตัวท่อนแขนของเขาถูกเธอยึดเข้าไปกอด ใจหนุ่มกระตุกวาบกับสัมผัสนุ่มนิ่มจากอกอุ่นๆ ที่แนบชิด
แบบนี้ไม่ดีแน่!
ชายหนุ่มเกร็งแขนอย่างอึดอัด พยายามแงะมือเธอและดึงแขนตนเองให้หลุดจากการเกาะกุม คนขี้เซายังคงนอนนิ่งไม่ได้รู้สึกระแคะระคายสักนิด กับมือใหญ่ที่ไต่แตะอยู่แถวนิ้วเรียวของตน
แม่คุณเอ๋ยขี้เซาทั้งตระกูลจริงๆ
หนุ่มลูกครึ่งค่อนแคะขณะเดียวกันความวิตกกังวลเริ่มก่อตัว กลัวใจตนเองเหลือเกิน สู้ให้เธอนอนบนตักเขาดีกว่ามาเกาะติดเป็นปลิงอยู่แบบนี้ และก่อนที่เขาจะได้ทันขยับร่างบาง รถยนต์ที่นั่งโดยสารมาก็เบรกอย่างกะทันหัน
ส่งผลให้คนที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยอย่างเขาถลาไปด้านหน้าเล็กน้อย ศีรษะที่ซุกซบอยู่กับบ่าไถลลื่น มือใหญ่เอื้อมคว้าโดยสัญชาตญาณ กลายกลับเป็นเขาดันกอดเธอไว้ทั้งตัวแทน
:-)เอ้ย! จะเลี้ยวทำไมไม่เปิดไฟเลี้ยววะ แซงเข้ามาได้ขับรถเป็นเปล่าเนี่ย! ตุ่มสบถอย่างหัวเสียพลางบีบแตรไล่รถคันหน้า
ฆ่ามัน!!! เจ้าตัวเล็กตะโกนลั่นชูสองมือหรา
เว่อร์ไปแล้วเจ้าแอ้! ตุ่มปรามกับท่าทางล้นเกินพอดีของหลานชาย จากที่โกรธๆ กลับหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง
อะไร...มีอะไรกันคะ คนที่ถูกปลุกแบบไม่ทันตั้งตัวขยับศีรษะถามขึ้นแบบงัวเงีย ทั้งๆ ที่ดวงตายังปิดสนิท
ไม่มีอะไรหรอก คุณนอนต่อเถอะ
เสียงทุ้มนุ่มตอบพร้อมกับอ้อมแขนที่โอบกระชับ ชวนให้รู้สึกวางใจและแสนสบาย คนที่กำลังท่องอยู่ในดินแดนนิทราอย่างเธอ จึงละความสนใจกลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งโดยง่าย
เขาชอบนะ!
มุมปากได้รูปยกขึ้นสูงอย่างพึงใจ ร่างเล็กในอ้อมกอดให้ความรู้สึกเหมือนลูกแมวขี้อ้อน
พี่แองเจิ้ลทำอะไรคับ เจ้าจอมวุ่นวายที่เอี้ยวตัวมองหนุ่มสาวร้องถาม
ชู่ว์...อย่าส่งเสียงดังนะครับ เรวินทร์ห้ามปรามพร้อมทั้งค่อยๆ ประคองร่างของอิสรีย์ให้เอนลง เอาหมอนรองใต้ศีรษะ พยายามจัดท่าทางให้เธอนอนสบายมากที่สุด
ทำไมล่ะ เจ้าตัวเล็กมองคนป่วยที่นอนหนุนตักของหนุ่มลูกครึ่งอย่างไม่เข้าใจ
ลืมแล้วเหรอพี่เอ๋ยไม่สบายนะ ต้องพักผ่อน...นอนหลับเอาแรงมากๆ ไง
ไม่ลืมคับ น้องแอ้ไม่กวนพี่เอ๋ยหรอก ราตรีสวัสดิ์นะคับคนดี รักนะจุ๊บๆ พ่อหนูกระซิบกระซาบทำท่าส่งจูบ ก่อนจะหันกลับไปให้ความสนใจกับภาพยนตร์การ์ตูนของตนต่อ เลิกสนใจหนุ่มสาวทั้งคู่
เรวินทร์ก้มมองคนที่นอนหนุนตัก มือใหญ่ปัดปอยผมที่ปรกหน้าผากมนออก เส้นผมนิ่มสลวยชวนสัมผัส แล้วเขาก็เผลอลืมตัวลูบไล้เรือนผมของเธอเล่น
ยามปกติเวลาท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ความสนใจทั้งหมดทั้งมวลของเขามักจะอยู่ที่วิวสองข้างทาง หาก ณ ยามนี้ชายหนุ่มรู้สึกว่าต่อให้มีวิวทิวทัศน์สิบวิวสวยงามมารายล้อม ก็ไม่สามารถฉุดรั้งสายตาเขา ให้พ้นจากร่างของเธอไปได้ . . . . .
เรือนไม้โบราณหลังใหญ่หลังคาทรงไทยยกใต้ถุนสูง อาณาบริเวณล้อมรอบด้วยต้นมะม่วงสูงใหญ่ ที่ลานหน้าบ้านอันร่มรื่นจากเงาต้นไม้ บัดนี้แน่นขนัดด้วยผู้คนเกือบยี่สิบชีวิต ต่างจับกลุ่มซุบซิบพูดคุยเสียงดังอื้ออึง ก่อนเงียบเสียงลงเมื่อเห็นรถกระบะสีดำคันใหญ่ แล่นเข้าไปจอดยังโรงรถของบ้าน
มากันแล้วใช่ไหมนั่น เสียงถามไถ่จากผู้เฒ่าผู้แก่ตะเบ็งเซ็งแซ่ พร้อมกับเด็กชายสองสามคนกรูไปยังรถคันนั้น
ใช่ซะที่ไหนกันล่ะ จำไม่ได้เหรอนั่นมันรถของพ่อสิงห์ทอง ลุงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
แล้วท่านรองนายกอบต.มาทำไมนี่
บรรดาลุงๆ ป้าๆ ได้แต่มองหน้ากันด้วยความสงสัย ก่อนจะเหลือบแลไปยังร่างสูงใหญ่ที่ก้าวลงจากรถมาด้วยท่วงท่ามั่นใจ
สวัสดีครับพ่อกำนัน ลุงๆ น้าๆ ทุกคน สิงห์ทองอดีตนายอำเภอยกมือไหว้กราดด้วยท่าทางนอบน้อม ใบหน้าคร้ามยิ้มแย้มเห็นฟันขาวเงาวับตัดกับสีผิวเข้มๆ
ลมอะไรหอบพ่อสิงห์ทองมาถึงที่นี่ได้ล่ะ
อ้อ...วันนี้ผมว่าผมจะมาทำสังฆทานครับ ชายหนุ่มตอบพลางกวาดตามองผู้คนด้วยความสงสัย และเขาก็ไม่รั้งรอที่จะถามไถ่ แต่เอ...วันนี้มีงานบุญอะไรกันรึเปล่าฮะ ถึงได้มารวมตัวกันแบบนี้ครับ
ไม่มีงานบุญอะไรหรอก แต่เห็นพ่อกำนันบอกว่าแม่เอ๋ยจะพาแฟนกลับมาด้วยล่ะ
ป้าจันทร์พูดว่าอะไรนะครับ สิงห์ทองถามย้ำอย่างไม่เชื่อหู ดวงหน้ายิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงโดยไม่ทันรู้ตัว
ไม่ทันแก่เลยนะพ่อสิงห์ ป้าจันทร์เย้ายิ้มๆ รู้สึกสะใจเล็กๆ จะว่าแค้นเคืองแทนหลานสาวก็ได้ หนอยมาตามจีบเทียวไล้เทียวขื่ออยู่ได้ ทั้งๆ ที่แต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตนอยู่ทั้งคน หน้าไม่อายจริงๆ เลย ถ้าโสดล่ะก็ว่าไปอย่าง วันนี้แม่เอ๋ยจะพาแฟนมาเปิดตัว
เหรอครับ อบต.หนุ่มรับรู้เสียงเย็น ก่อนแย้มยิ้มออกมาเมื่อจดจำได้ถึงลักษณะกริยาอาการ ที่ดูผิดแผกจากสตรีปกติทั่วไปของอิสรีย์ ห้าวจนคล้ายผู้ชาย แล้วแฟนเอ๋ยเนี่ยเขาผู้หญิงหรือผู้ชายฮะ
ผู้ชายจ้ะ ป้าจันทร์ตอบเสียงหนักแน่น
แน่ใจเหรอครับ
แน่ไม่แน่พ่อสิงห์ก็คอยดูเอาสิ อ้ะมากันโน่นแล้วใช่ไหม ป้าจันทร์ชี้ไปยังรถแลนด์โรเวอร์สีดำที่แล่นเข้ามาตามทาง ก่อนจอดสนิทเคียงข้างรถกระบะสีดำของเขา
เด็กสองสามคนกรูไปเกาะที่กระจกข้างรถ พากันแนบหน้าเพื่อมองบุคคลที่อยู่ด้านในด้วยความอยากรู้อยากเห็น ตุ่มขยับเปิดประตูรถด้านคนขับแล้วก้าวเดินฉับๆ มาช่วยเปิดประตูรถให้กับเด็กชายโอสธี แล้วเดินไปเปิดท้ายรถเพื่อขนสัมภาระของเรวินทร์และสองป้าหลานลงมา
อ้อแอ้มาแล้ว คิดถึงทุกคนนะคับ ทุกคนคิดถึงอ้อแอ้ไหมคับ เท้ายังไม่ทันแตะพื้นดินดีเลยเจ้าหนูก็ร้องตะโกนด้วยน้ำเสียงร่าเริงสุดฤทธิ์ พลางยกมือยกไม้โบกหยอยๆ ทำราวกับว่าตัวเองเป็นดาราคนหนึ่งทีเดียว
พวกเด็กๆ เข้ามารุมล้อม ส่งเสียงตะเบ็งเซ็งแซ่ด้วยความดีใจ กระดี๊กระด๊าสุดฤทธิ์ที่ได้พรรคพวกเพื่อนเพิ่มขึ้น เจ้าตัวที่น่าจะเป็นหัวโจกสุดเอ่ยปากชวน เฮ้ย! ไอ้แอ้ไปเล่นในสวนกันเปล่า
จะไปไหนเจ้าอ้อแอ้ สวัสดีปู่เขาแล้วรึยัง มานี่เลย เสียงป้าจันทร์ร้องทักเจ้าตัวดี ที่ตอนนี้ทำท่าว่าจะตามพวกเพื่อนๆ ออกไปเล่นในสวน
อ้อแอ้ทำหน้าบู้ที่ถูกขัดจังหวะ จำใจเดินไปยังกลุ่มผู้ใหญ่ ก่อนจะยกมือขึ้นเหนือหัว เอาหลังมือสองข้างแตะกันทำเป็นรูปวงหัวใจ ซารางเฮโย...รักทุกคนนะคับ สบายใจกันแล้วนะ อ้อแอ้ขอตัวไปเล่นก่อนนะฮับ
กล่าวเสร็จเจ้าตัวเล็กก็ผลุนผลันผละไปหาเพื่อนๆ ที่รออยู่ทันที ไม่รอฟังคำทักทายหรือคัดค้านจากพวกผู้ใหญ่
มันพูดภาษาอะไรของมันฟะ ฟังไม่รู้เรื่อง พี่ป้าน้าอาต่างบ่นงึมกับภาษาของเจ้าตัวเล็ก แต่ก็คร้านจะใส่ใจไต่หาถึงความหมาย เพราะจุดสนใจของทุกคนพุ่งไปที่แลนด์โรเวอร์สีดำ
อ้าวพวกลุงๆ ป้าๆ มาชุมนุมอะไรกันล่ะนี่ ตุ่มร้องทักถามอย่างแปลกใจในมือหอบหิ้วเป้และกระเป๋าของเรวินทร์เตรียมไปเก็บไว้บนบ้าน
หากแต่คนที่ตอบคำถามนี้กลับเป็นสิงห์ทองแทน เห็นป้าจันทร์บอกว่าเอ๋ยพาแฟนกลับมาบ้าน ก็เลยอยากเห็นหน้าสักหน่อย
ว่าแต่แฟนแม่เอ๋ยนี่เขาหน้าตาหล่อไหมไอ้ตุ่ม ป้าจันทร์ถามแทรกขึ้น
หล่อมั้ง เดี๋ยวแม่ก็ดูเอาเองแล้วกัน ตุ่มยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แล้วก้าวเลยผ่านผู้เป็นแม่เข้าไปยังตัวบ้าน นำสัมภาระขึ้นไปจัดเก็บยังห้องบนชั้นสอง
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นสุดฤทธิ์ บวกกับความหมั่นไส้คนข้างตัวที่ยืนเก๊กท่าอย่างสิงห์ทอง ทำให้ป้าจันทร์ก้าวตรงไปยังรถแลนด์โรเวอร์เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันจะๆ ตาไปเลย ด้วยการแนบหน้ามองเข้าไปในรถ
ภายในรถ
คุณตื่นเถอะ ถึงบ้านของคุณแล้ว หนุ่มลูกครึ่งพยายามเขย่าแขนปลุกหญิงสาว
แพขนตางอนหนากระพริบถี่ยิบ คนป่วยครางพลางบอกเล่าเสียงเบา อืม...ปวดหัวค่ะ รู้สึกหัวมันหนักๆ มึนๆ พิกล
มือใหญ่สัมผัสที่หน้าผากและข้างแก้ม ตัวไม่ร้อน ไม่น่าจะมีไข้ นี่คุณทานยาครบตามที่หมอสั่งรึเปล่า
ทานสิคะ อิสรีย์ตอบพยายามจะผงกศีรษะขึ้น แต่เพราะความวิงเวียนหน้ามืดทำให้เธอต้องทิ้งศีรษะลงบนตักของเรวินทร์อีกครั้ง
เขาจึงต้องช่วยประคองให้เธอลุกขึ้นนั่ง และช่วยปลดล็อคเปิดประตูรถยนต์ออกให้ หนุ่มผมทองจำต้องโน้มกายเข้าไปหาหญิงสาว ทำให้คนที่ยืนจ้องอยู่นอกรถเข้าใจผิด เพราะเห็นเพียงแต่แผ่นหลังกว้างบดบังหน้าตาของอิสรีย์เสียมิด
อุ้ยตาย! ป้าจันทร์กรีดเสียงอุทาน พลางหันมาบอกกับอดีตปลัดหนุ่มด้วยใบหน้าเยาะๆ ว่า หวานซะไม่มีนะคู่นี้ มีจู๋จี๋จูจุ๊บกันด้วย...ฮิฮิ
ซึ่งก็สมใจป้าจันทร์ เมื่อสิงห์ทองเบ้ปากก่อนกล่าวตอบโต้ ผมว่าป้าจันทร์น่าจะไปตรวจเช็คสายตาสักหน่อยนะครับ พูดแบบนี้คนอื่นจะเข้าใจเอ๋ยผิดเอาได้นะครับ ผมไม่อยากให้เอ๋ยเดือดร้อนตกเป็นขี้ปากของชาวบ้าน
พ่อสิงห์! ใบหน้าของป้าจันทร์แดงก่ำด้วยความโกรธจัด หากแต่เจ้าตัวก็พยายามฝืนข่มกลั้นโทสะของตนเอาไว้ พร้อมทั้งตอกกลับไปนิ่มๆ แม่เอ๋ยกับแฟนเขารักกันจะเดือดร้อนอะไร เธอต่างหากเกี่ยวอะไรด้วย ถึงได้มาเดือดเนื้อร้อนใจแทนแม่เอ๋ยไม่ทราบ
ป้าจันทร์! ครานี้เป็นสิงห์ทองบ้างที่ถูกจี้จุดโกรธ ดวงตาของอบต.หนุ่มแทบลุกเป็นไฟ นี่ถ้าเผาผลาญคนตรงหน้าได้ ป้าจันทร์คงมอดไหม้เป็นจุลไปแล้วแน่ๆ
และก่อนที่ทั้งคู่จะเขม่นขี้หน้ากันไปมากกว่านี้ เรวินทร์ก็เปิดประตูรถออกมาพอดี เพราะไม่ทันเห็นสิงห์ทองที่ยืนค่อนไปทางท้ายรถ บานประตูจึงกระแทกโดนต้นแขนของอบต.หนุ่มเข้า ซึ่งแรงกระแทกนั้นไม่ได้รุนแรงถึงขนาดทำให้อีกฝ่ายเป็นแผลฟกช้ำดำเขียว
โอ๊ะ...ซอรี่ เอ่อขอโทษครับผมไม่ทันเห็น หนุ่มลูกครึ่งรีบออกปากขอโทษตามวิสัยคนมารยาทดี
ไม่เป็นไร ทีหลังก็ระวังหน่อยแล้วกัน สิงห์ทองยักไหล่แม้ปากจะพูดให้อภัย แต่สีหน้านี่สิบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด
เรวินทร์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ในท่าทีอันเป็นอริของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ทว่าความสงสัยของเขาคงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อบรรดาญาติๆ ของอิสรีย์ต่างเข้ามารุมล้อมชายหนุ่ม ไม่ต่างจากแฟนคลับที่เฝ้าแห่แหนพวกดารา เสียงพูดคุยเสียงถามไถ่ดังระเบ็งเซ็งแซ่ไปหมด
โหยหล่อยังกับพระเอกหนังฮอลีวู๊ดแน่ะ สาวๆ พากันกรี๊ดกร๊าดชื่นชม
พูดไทยได้ใช่ไหม ลุงๆ น้าๆ ผู้ชายรีบถามแทรกด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่เคยพูดคุยแบบสนิทสนมใกล้ชิดกับชาวต่างชาติผมสีทองตัวเป็นๆ แบบนี้มาก่อน
ฮาว ดู ยู ดู ส่วนเด็กๆ วัยรุ่นรีบทดลองพูดภาษาอังกฤษกับเรวินทร์ทันที
สิงห์ทองมองภาพการห้อมล้อมนั้นด้วยความหมั่นไส้ ที่ญาติๆ ของอิสรีย์เอาแต่เห่อหนุ่มลูกครึ่ง ก่อนจะสบถออกมาเสียงเบา
ไอ้ฝรั่งขี้นกเอ๊ย!
+++++++++++++++
(ติดตามต่อตอนหน้านะคะ)
ตั้งแต่เดือนเมษาเป็นต้นไปจะอัพเพิ่มเป็นอาทิตย์ละสองตอนค่า เพิ่มวันเสาร์อีกวันค่ะ ติชมกันมาได้นะคะ ^__^
คุณพิมพ์นรา...ใช่แล้วษาอ่านข้ามจ้า ^^ : It's gonna make sense, พิมพ์นรา, แก้วกังไส, ปุ๊กกุย ขอบคุณสำหรับกิ๊ฟค่า >0<
ลิงค์ตอนเก่าจ้า...^0^
บทที่ 8... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11889306/W11889306.html บทที่ 6-7... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11859551/W11859551.html บทที่ 5... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11829456/W11829456.html บทที่ 4... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11798581/W11798581.html บทที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11768529/W11768529.html บทที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11734893/W11734893.html บทที่ 1... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11706142/W11706142.html
จากคุณ |
:
แก้วชมพู
|
เขียนเมื่อ |
:
3 เม.ย. 55 21:17:56
|
|
|
|