Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ย้อมใจด้วยไอรัก บทที่ 6 ติดต่อทีมงาน

+++++++++++++++++++++

มิตรซึ่งประจำหน้าพวงมาลัยหันขวับมองชายโสดหญิงสวยที่นั่งเคียงคู่อยู่เบาะหลังอย่างไม่สบอารมณ์ เขากระดิกนิ้วที่สองของมือข้างขวา...ซึ่งคือนิ้วกลาง พลางผิวปากรัว ๆ ใส่หน้าขาวผ่องแม้อยู่ในมุมสลัวของน้องชาย



“ทำไม?” อธิวัฒน์เอียงคอถาม ตากะพริบปริบ ๆ พอมิตรนิ่วหน้าทำปากจิ๊กจั๊กหนวดกระดิกเขาก็ส่งยิ้มงุนงงให้ “กุญแจรถก็เสียบอยู่นั่นแล้วไง ถ้าอยากจะเปิดเครื่องเสียงก็กดปุ่มสีเงินเล็ก ๆ ทางซ้าย...หรือว่าน้ำมันใกล้หมด? แต่เพิ่งเติมเต็มถังไว้เมื่อตอนเย็นเองนี่?”



กิริยาหน้าซื่อตาใสของน้องชายทลายทำนบความอดกลั้นของพี่ชายเสียยับย่อย มิตรฟาดกำปั้นใส่อากาศ ตวาดเสียงดังจนผู้โดยสารสาวสวยสะดุ้งหน้าเริด



“ข้าไม่ใช่คนขับแท็กซี่มิเตอร์นะโว้ย! ไสกบาลเอ็งมานั่งข้างหน้า บัด-เดี๋ยว-นี้!!”



“โอ๊ะ!” ร่างผึ่งผายกระตุกนิดหนึ่งคล้ายคนสะดุ้งตื่น เพิ่งสำนึกได้ว่าพี่ชายต้องการส่งสัญญาณบอกอะไรกับตน ส่งเสียงตอบไปออดอ่อย “ขอโทษที...ปกติเวลามีคนขับรถให้ฉันต้องมานั่งเบาะหลังน่ะ”



“โถ...พ่อชายน้อยสุดสวาทขาดใจของพี่! น้ำหน้าอย่างเอ็งนี่เขาเรียกว่าแก่เกินเกรียนแล้วนะโว้ย!” ผู้กำกับเอ็ดอึง สุดจะเดาได้ว่าคุณชายเผลอไผลไปจริง ๆ หรือว่าแกล้งทำมึนยั่วโมโหเล่นกันแน่ แต่น้ำเสียงที่ขอโทษขอโพยนั้นไร้เดียงสาสิ้นดี ช่างสวนทางกับอายุหลักสามและหน้าที่การงานใหญ่โตของเจ้าตัวเสียเหลือเกินจนเขาคร้านจะเก็บมาเป็นอารมณ์อีกต่อไป สีหน้าเคียดขึ้งจึงค่อยคลาย



ระหว่างรอน้องชายมานั่งประจำที่อันควรเขาก็หันไปหาหญิงสาวคนเดียวในรถแล้วถามไถ่ห่วงใย

“แอร์หนาวไปไหมจ๊ะ...”



“ไม่ค่ะ กำลังพอดี” ณิตาปฏิเสธเต็มปากทั้งที่มือกระชับเสื้อสูทแน่น



“เหรอ? แต่ถ้าหนาวไป น้องก็เขยิบมานั่งใกล้ ๆ พี่นะจ๊ะ พี่เป็นคนอบอุ่น...ร้อนเร่าเข้าถึงทรวง” ผู้กำกับอวดสรรพคุณพลางตบอกหนาดังปุ ๆ



“คนรึไมโครเวฟน่ะ?” คุณชายที่กำลังคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ตรงเบาะด้านซ้ายรำพึงเบา ๆ จากนั้นจึงเอ่ยเสียงเข้ม “ออกรถได้ ขอแวะร้านสะดวกซื้อหน่อยนะ...อยากได้ผ้าเย็นสักผืน”



“แหม...ไอ้นี่ ได้ทีสั่งเอา ๆ เชียวนะโว้ย! คนนะไม่ใช่น้ำมูก!” สารถีประชดฉุนเฉียวแต่ก็ออกรถสู่ถนนใหญ่แต่โดยดี





ตีสองกว่า รถเก๋งยุโรปซึ่งบรรทุกผู้โดยสารสองคนจอดกึกข้างบาทวิถีเยื้องกับประตูหน้าร้านสะดวกซื้อซึ่งเปิดให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แสงไฟเรือง ๆ จากในร้านส่องสว่างออกมาถึงข้างนอก คนในรถจึงก้าวออกมาสู่เบื้องนอกได้สะดวกเท้า



“เฮ้ย! กาแฟเย็นกระป๋องนึง! ไม่เอาแบบผสมนมนะมันจืด!” มิตรโผล่หน้าออกจากรถตะโกนบอกน้องชายที่เดินไปถึงประตูกระจกใสซึ่งกำลังเลื่อนออกอัตโนมัติและส่งเสียงสัญญาณต้อนรับสั้น ๆ

“สั่งจริง คนนะไม่ใช่น้ำมูก!” หมอหนุ่มตะโกนกลับ คราวนี้พี่ชายรู้ทัน...มันแกล้งยั่ว!



พนักงานหญิงหน้าเคาท์เตอร์ส่งเสียงทักทายตามเคยปากน้ำเสียงชินชาแล้วคิดเงินให้ลูกค้าต่อ ร่างผึ่งผายค่อย ๆ เดินผ่านช่องทางเดินแคบ ๆ ไปที่ด้านหลังสุดซึ่งมีตู้แช่เครื่องดื่มนานาชนิดอยู่ ปณิตาซึ่งเดินเข้ามาก่อนกำลังเปิดตู้เลือกเครื่องดื่ม หมอเอ็กซ์หยุดยืนที่ตู้ข้าง ๆ กวาดตามองหากาแฟพร้อมดื่ม เลือกหยิบกระป๋องสีแดงคาดขาวรสเข้มมาหนึ่งกระป๋องสำหรับพี่มิตร หยิบรังนกมาหนึ่งขวดสำหรับตัวเอง และตบท้ายด้วยผ้าเย็นเช็ดหน้าสามผืน



เขาเหลือบตามองปณิตาซึ่งยังไม่ขยับไปทางไหน ดวงตาคู่สวยฉายความลังเล...ไอเย็นกรูเกรียวออกมาจากประตูตู้แช่ที่เปิดค้างอยู่ มือเรียวของดีไซน์เนอร์สาวจ่อตรงชั้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บรรจุกระป๋องมากหน้าหลายตรา

“คุณกำลังจะหยิบกระป๋องนี้หรือเปล่า?” อธิวัฒน์ตัดปัญหา หยิบขวดเครื่องดื่มแก้เมาค้างซึ่งตั้งถัดจากแถวเบียร์ยัดเยียดใส่มือหญิงสาวแบบเดียวกับตอนที่เธอยื่นแก้วเหล้าดองยารสชาติแย่บรมให้เขานั่นแหละ



ปณิตาชะงักนิ้วจากแถวเครื่องดื่มอันโปรดปราน จำใจรับขวดกะทัดรัดฉลากสีดำไปกำไว้ด้วยสองมือ



“ไปคิดเงินกันเถอะ” เขาออกปากชวนเพื่อไม่ให้หญิงสาวหยิบอะไรที่ไม่สมควรมาเพิ่มอีก พยักพเยิดเพื่อให้เธอเดินนำไปที่เคาท์เตอร์ก่อน

“เลดี้เฟิร์สครับ...”




ชุมชนย่านสนามกอล์ฟชื่อดัง บ้านเดี่ยวสองชั้นสไตล์รีสอร์ทโทนสีน้ำตาลขาวหลังใหญ่ยังคงเปิดไฟหน้าบ้านและตามแนวรั้วสว่างโร่ท้าทายความมืดมิดอึมครึมยามวิกาล เสียงยานพาหนะที่เคลื่อนตัวมาจอดเทียบประตูรั้วเพียงแผ่วเบาคล้ายจะดังกระหึ่มท่ามกลางความเงียบสงัด



เพียงครู่แม่บ้านร่างผอมเกร็งผิวคล้ำก็วิ่งจี๋มาส่องดูแล้วปลดล็อกประตูให้ สีหน้าโล่งใจที่เจ้านายตนกลับถึงบ้านโดยปลอดภัยแต่ในรอยยิ้มกว้างก็แฝงความกังวลด้วยในที เมื่อมองผ่านช่องประตูลึกเข้าไปที่ระเบียงหน้าบ้าน ชายสูงวัยร่างใหญ่มาดภูมิฐานเอ้เตอยู่กับเก้าอี้โยก ไปป์ไม้ทรงโค้งตรงมุมปากไหวนิด ๆ ตามจังหวะการหายใจ แสงนวลจากไอแพดสีขาวในมือส่องกระทบเสี้ยวหน้าที่เข้มขรึมและมีร่องรอยกรุ่นโกรธอยู่มิใช่น้อย



“ส่งแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างในคืนนี้นะคะ หมอเอ็กซ์ คุณมิตร” ปณิตาขอบคุณลวกลนก่อนลงรถ ขาเพรียวยาวก้าวฉับ ๆ ไปที่ประตูซึ่งเปิดรอท่า



สองหนุ่มร่วมนามสกุลหันมองหน้ากันชั่วอึดใจคล้ายหารือทางกระแสจิต



“เข้าไปไหว้พ่อเขาเสียหน่อยดีมั้ย? ไหน ๆ ก็มาถึงหน้าบ้านแล้ว” คนเครางามเป็นฝ่ายเอ่ยถามความเห็น



น้องชายจับตามองความเป็นไปหลังรั้วโปร่งสูงท่วมหัวแล้วชักจะไม่แน่ใจว่าที่มิตรเสนอจะเหมาะกับกาลเทศะขณะนี้นัก

“ไม่รู้ซี ฉันว่ามันออกจะแปลก ๆ อยู่นะ ดูสิ...พ่อเขายังไม่เงยมองลูกตัวเองด้วยซ้ำ” เอ่ยพลางชี้ชวนให้ท่านผู้กำกับดู



“เอาน่ะ อย่างน้อยเขาก็จะได้ไม่ตำหนิเอาว่าใครหน้าไหนก็ไม่รู้มาส่งลูกสาวที่บ้าน”



อธิวัฒน์ระบายลมหายใจหนัก ผายมือบอกเสียงเรียบ “งั้นเชิญคนต้นคิดแล้วกัน ฉันขอรออยู่ในรถ”



เท่านั้นแหละชายเคราครึ้มเต้นผาง

“ปัดโธ่! ขืนข้าเข้าไป เขาคงว่าลูกสาวพาโจรมาปล้นบ้านสิ!”



“หรือจะเข้าไปพร้อมกัน?” น้องชายเสนอทางเลือกใหม่ซึ่งผู้เป็นพี่โอดทันควัน



“ชายสองหญิงหนึ่ง! ไม่เหมาะ ๆ”



“แล้วจะเอายังไงล่ะ?” คนถามเริ่มฉิวเพราะความมากเรื่องของพี่ชาย โน่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ได้...



“บ๊ะ! มีกันอยู่แค่สองคน ข้าเข้าไม่ได้ก็เอ็งน่ะสิวะจะมีหมาที่ไหน! อีกอย่างเอ็งเป็นถึงหมอถ้าเกิดโดนเขายิงไส้ทะลักยังไงเอ็งก็ปฐมพยาบาลตัวเองได้อยู่แล้ว!” ผู้กำกับยกเอาข้อได้เปรียบเรื่องอาชีพเข้าอ้างข้าง ๆ คู ๆ ครั้นเห็นน้องชายเบ้หน้าเบื่อโลกเขาจึงเปลี่ยนแผนเสนอทางตัดสินปัญหาด้วยวิถีกล้าแกร่งแห่งบุรุษ

“งั้นเป่ายิ้งฉุบ! ใครแพ้...เข้า!”






นี่มันบ้าอะไรกันนะ! อธิวัฒน์ฮึดฮัดปิดประตูรถคันโปรดหนักมือ…เห็นทีคืนนี้จะเป็นคืนดวงดับของเขาโดยแท้ ทำอะไรก็ผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปเสียหมด กระทั่งเป่ายิ้งฉุบก็ยังแพ้คนมีนิ้วมือไม่ครบ! พนันได้เลยว่าถ้าเหตุการณ์ในบ้านไม่ส่อเค้ามึนตึงขึ้งเคียดอย่างเช่นที่เป็นอยู่ตอนนี้ ขี้คร้านคนอย่างมิตรจะถลาเข้าไปเอาหน้าชนิดที่เปิดประตูรับแทบไม่ทัน!



ใกล้รุ่งน้ำค้างเริ่มลงจัด กระแสลมอ่อนพัดเอากลิ่นหอมของดอกลีลาวดีมาแตะจมูก ความชื้นทำให้ผมที่จัดแต่งไว้อย่างดีเริ่มแตกทรง ปอยผมร่วงปรกหน้าผาก ยังดีที่ได้ผ้าเย็นซับฝุ่นและความหมองมันบนใบหน้าออกไป แต่กระนั้นสภาพเขาก็ไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไร...ท่าทางอิดโรยอ่อนล้า เสื้อยับผมยุ่ง รองเท้าเปื้อนฝุ่น เนื้อตัวก็เหม็นเหงื่อและควันรถ



ระหว่างยืนรอให้หญิงผิวคล้ำแง้มประตูรั้วให้ หมอหนุ่มปราดมองคู่พ่อลูกซึ่งเหมือนจะแปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมา ลูกสาวคนสวยรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนี้แจ้ว ๆ ราวทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญเหลือเกินสำหรับเธอ

“แวะไปดื่มกับเพื่อนแล้วขากลับโดนตำรวจจับค่ะ รถทิ้งไว้ที่โรงพัก หลังขึ้นศาลจะแวะไปเอากลับ ตอนเช้าหนูขอคนขับรถด้วยนะคะ โดนยึดใบขับขี่...”



บิดาก้มหน้าก้มตาอยู่กับหน้าจอแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์เครื่องบางกะทัดรัดไม่อินังขังขอบ ทั้งที่ดูก็รู้ว่าการที่ชายชรามานั่งตากยุงอยู่หน้าบ้านอย่างนี้ต้องมารอลูกสาวแน่ทีเดียว กระทั่งปณิตาจ้ำเท้าจนชายเสื้อสูทที่คลุมไหล่สะบัดไหว ๆ ลับเข้าไปในตัวบ้านร่างบนเก้าอี้โยกก็ยังนิ่งอยู่ท่าเดิม ไม่ได้หันไปมองหรือปริปากว่ากระไร รูปการแนวนี้...สงครามเย็นในครัวเรือนชัด ๆ



จนเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ ร่างท้วมบนเก้าอี้โยกจึงขยับนั่งหลังตรง ยกมือคีบไปป์สีโอ๊คออกจากปาก ดวงตากร้านโลกของผู้อาวุโสเพ่งพิจารณาเจ้าของร่างผึ่งผายนานเนิ่นราวกับจะไม่ให้พลาดไปสักอณูขุมขน



“สวัสดีครับ ผมอธิวัฒน์ครับ...” หมอหนุ่มยกมือไหว้แนะนำตัวแช่มช้า หยั่งเชิงปฏิกิริยาเจ้าบ้านอยู่ในที



บิดาเพื่อนสาวเพียงแต่พยักหน้ารับท่าทางเฉยชา แขกจึงขอตัวกลับเพราะคาดว่าคงเป็นการรบกวน

“ผมขอตัวก่อนนะครับ ดึกมากแล้วคุณลุงจะได้พักผ่อน” หมอเอ็กซ์กระพุ่มมือค้อมตัวไหว้ลาหนึ่งทีแล้วหันหลังกลับไปที่ประตูอัลลอยซึ่งยังเปิดอ้าอยู่ ทว่าเสียงแหบทุ้มของผู้สูงวัยดังยื้อไว้

“เดี๋ยวก่อนสิ คุณอธิวัฒน์...”





มิตรนั่งกระวนกระวายก้นแทบไม่ติดเบาะ รัวนิ้วเคาะพวงมาลัยรถสลับกับลูบเคราหยิกรุงรัง เขาเหลือบดูตัวเลขดิจิตอลบอกเวลา...ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีแล้ว ไม่รู้ว่าสองคนนั่นงัดเอาอะไรมาคุยกันนักหนา กำลังนึกจะเข้าไปตามก็พอดีกับที่น้องชายเดินหน้านิ่งกลับออกมา



“คุยอะไรกันวะ นานชะมัด! นั่งรอจนก้นแทบจะละลายติดเบาะอยู่แล้ว!” พอคุณชายนั่งประจำที่ ผู้กำกับก็ถามฉุน



“คุณลุงถามเรื่องโหลดแอพ...” ตอบหน้าซื่อเสียงซื่อตามเคยแต่มิตรมิใคร่จะปักใจเชื่อนัก



“จริงอะ?!”



“จริ้ง!” อธิวัฒน์รับคำเสียงสูงกลั้นยิ้มตาวาว มิตรส่ายหัวด๊อกแด๊กยอมแพ้เพราะลงเข้าอีหรอบนี้แล้วไม่มีทางง้างปากน้องชายให้คายความลับได้ง่าย ๆ แน่



เก๋งยุโรปสีดำเรี่ยมเคลื่อนออกจากถนนคอนกรีตในซอย เบนหน้ากลับเข้าสู่ถนนใหญ่อีกครั้ง หลังจากปล่อยให้ความเงียบบุกยึดรถหลายนาทีผู้กำกับเคราดกก็จุดประเด็นสนทนาขึ้นใหม่ด้วยการโพล่งขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไร้การอารัมภบทใด ๆ ทั้งสิ้น

“เฮ้ย! ข้าว่า...ข้าเจอแล้วว่ะ!”



อธิวัฒน์ซึ่งจ้องเป๋งที่หน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ง่วนแก้ไขโปรแกรมตารางงานและนัดหมายในโทรศัพท์มือถือเอ่ยถามเป็นพิธี

“เจออะไร?”



“นางเอก...”



คำตอบเรียกความสนใจได้ดี ผู้ร่วมโปรเจ็คท์คนสำคัญละสายตาจากมือถือหันมองหน้าอูมของพี่ชายเขม็ง

“นี่...จะเปลี่ยนไปทำหนังเหรอ?”



มิตรหัวเราะในลำคอ ปฏิเสธจริงจัง “ไม่ใช่ ข้าหมายถึงคนที่จะมาเล่นรายการเรียลลิตี้ของเรานั่นแหละ แม่สาวคนนั้นน่ะคุณสมบัติเธอผ่านฉลุยทุกข้อเลยเอ็งว่ามั้ย หน้าตาดี มีประวัติเรื่องเหล้า”



“เหมือนชีวิตเธอกำลังจะดราม่าเพราะว่าเหล้าเสียด้วยซี...” ผู้เห็นเหตุการณ์สงครามเย็นเสริมให้



“นี่แหละ ๆ ข้าว่ายิ่งน่าสน!” ประกายกระตือรือร้นเต้นยิบ ๆ ในดวงตาเรียวเล็ก น้ำเสียงบ่งชัดว่ามุ่งมาดเหลือล้น กระนั้นก็ยังมิวายถูกดักคอว่า



“เอาจริงน่ะ?”



“จริ้ง-ง-ง!” ผู้กำกับตอบรับประชดประชันเสียงสูงปรี๊ดแถมลูกคอให้ด้วยสามชั้นครึ่งแล้วเปลี่ยนเรื่อง

“ไอ้จงอาง เอ็งบอกทางข้าด้วยนะ ไม่ได้ไปบ้านเอ็งเจ็ดแปดปีแล้วมั้ง ถนนหนทางข้าลืมไปหมด”



หมอหนุ่มบอกทางให้คนขับพลางหวนถึงอดีต แม้จะเป็นญาติพงศ์วงศา พ่อเขากับลุงเด็ดสนิทชิดเชื้อกันแต่มิตรก็ไม่ได้แวะเวียนไปเยี่ยมเยียนใกล้ชิดครอบครัวเขา เหตุผลข้อแรกเพราะก่อนหน้านี้พี่ชายไปทำงานไกลถึงญี่ปุ่นนานทีปีหนจะแวะกลับมาบ้าน และเหตุผลอีกข้อที่สำคัญคือ...แม่อรของเขา





เคหสถานอันหรูหราอารยะของหมอหนุ่มสร้างความตื่นตะลึงใจและเสียงหัวเราะดังสนั่นราวจะถล่มฟ้าทลายดินจากผู้กำกับร่างใหญ่ได้ไม่ขาดสาย ไม่มีอะไรในอาณาบริเวณบ้านของเขาเลยที่จะรอดพ้นฝีปากอันคึกคะนองของมิตร ทั้งสวนกว้างหน้าบ้านตกแต่งสไตล์อังกฤษจ๋า รูปปั้นเทพีวีนัสตั้งตระหง่านเหนือน้ำพุและบรรดาเทพคิวปิดตัวน้อยอิริยาบถต่าง ๆ ประดับตามแนวรั้ว



“แม่เจ้าโว้ย! ข้าว่าพระภูมิเจ้าที่บ้านเอ็งที่แอบอยู่ตรงโน้นท่านคงงงน่าดูละว่าตอนนี้ท่านอยู่ในลอนดอนหรือว่าแถบเทือกเขาโอลิมปัส!” มิตรระเบิดหัวเราะร่วน ยกศอกกระทุ้งเจ้าของบ้านให้ดูศาลพระภูมิเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวด้านซ้ายของบ้านสองชั้นสไตล์ร่วมสมัยสวยสะดุดตา



กระทั่งจอดรถเทียบบันไดที่ทอดลงจากมุขหน้าบ้านมิตรก็ยังขำไม่หยุด เสียงหัวเราะเหมือนฟ้าลั่นปลุกให้ผู้ที่หลับใหลอยู่ชั้นบนของบ้านเปิดไฟสว่างโร่รี่ออกมาหาต้นเสียงทันที



“สวัสดีครับอาชัย...น้าอร” หลานชายหุบปากฉับ ค้อมศีรษะให้คู่สามีภรรยาที่แสดงอาการบนใบหน้าต่างกันอย่างสิ้นเชิง อาอภิชัยยิ้มแย้มดีใจปรี่เข้าตบไหล่ทักทาย ส่วนน้าจงอรผู้เป็นภรรยายืนกอดอกแน่น สำรวจสารรูปลูกชายผู้สมบูรณ์แบบแล้วนางก็เห็นความผิดปกติ



“หน้าผากลูกเป็นอะไร!” นางโวยวายขณะที่ลูกชายรีบปัดปอยผมปกปิดรอยนูนแดงกลางหน้าผาก



“เดินไม่ระวังครับแม่อร ชนอะไรไม่รู้จำไม่ได้แล้ว ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ” ปดพลางยิ้มร่ากลบเกลื่อน ฝ่ายแม่อรร้องหาน้ำแข็งมาประคบวุ่นไป รอดตัวไปได้หนึ่งเรื่องแต่อีกเรื่องก็เกิดแดงขึ้นมา...



“ทำอีท่าไหนมาด้วยกันได้ล่ะ?” ผอ.อภิชัยถามทั้งลูกทั้งหลาน เมื่อขยับแว่นให้มองได้ถนัดเขาก็เห็นรอยถลอกปอกเปิกและบุบบี้ที่หน้ารถคันใหม่ของลูกชายชัดตาคำถามใหม่ตามมาอย่างรวดเร็ว

“มันรอยชนนี่?!”



“รถคันหน้าเบรกกะทันหันครับผมหยุดไม่ทัน.../จอดทิ้งไว้แล้วรถคันหน้าถอยมาชนครับอา” ต่างฝ่ายต่างแก้ตัวกันไปคนละทาง ชายชราส่ายหัวไม่รู้จะฟังใครแต่ก็อนุมานไว้ก่อนว่ามีความเป็นไปได้ที่คืนเดียวจะเกิดได้ถึงสองเรื่อง



“คืนเดียวชนสองครั้ง?” ผู้อาวุโสถามอย่างนึกขัน แล้วก็เป็นอีกหนที่ต้องทนฟังลูกกับหลานตอบคำถามแตกสามัคคี...คนหนึ่งตอบรับ อีกคนบอกปัดว่าไม่



“เออ ๆ เอาเถอะ ช่างมัน คนไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว...แล้วนี่เจ้ามิตรจะเอายังไง ค้างที่นี่ไหม?”



ผู้กำกับร่างใหญ่มองใบหน้าเฉยเมยไร้แววเอ็นดูของน้าสาวแล้วหัวเราะเก้อ ยกมือลูบท้ายทอยออกตัวกับอา “นอนบ้านอื่นไม่ค่อยหลับครับ ผมกลับบ้านดีกว่า”



“ตามใจ...งั้นเดี๋ยวให้คนไปส่ง รอเดี๋ยวนะ” เจ้าของบ้านบอกคนรับใช้ให้ไปตามคนขับรถ ส่วนภรรยาดึงตัวลูกชายเข้าไปประคบหน้าผากในบ้าน



“แม่ไม่ชอบเลย ไม่อยากให้เอ็กซ์ไปคบค้าสมาคมด้วย ไม่รู้บ้านโน้นเขาเลี้ยงลูกยังไงนะ มือไม้แข็ง แต่งตัวซกมกปล่อยหนวดเครารุงรังยังกับมหาโจร...” หย่อนตัวลงกับโซฟาหนังแกะได้ แม่อรก็แสดงความในใจอย่างเปิดเผย



“ญาติเรามีเหลือแค่นี้นะครับแม่...” ลูกชายพยายามโน้มน้าวเสียงอ่อนเอาใจ มือก็ยกน้ำแข็งประคบรอยปูดแดงเหนือคิ้ว “อีกอย่างพี่มิตรเขาก็โผงผางอย่างนั้นเอง ตามสไตล์อาร์ตติสนั่นแหละครับ”



“แก้ตัวให้กันดีนักนะ! ลืมไปแล้วเหรอพี่ชายตัวดีน่ะฝากแผลไว้ให้เราเท่าไรต่อเท่าไรแล้ว!”



“นักสู้ย่อมมีบาดแผลน่า” สามีที่ส่งหลานชายเรียบร้อยแล้วเดินอ้อมมาทางด้านหลัง บีบไหล่ภรรยาที่กำลังอารมณ์เสียเบา ๆ



“พี่มิตรคงไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ” อธิวัฒน์อ้อมแอ้ม “พวกเราก็...ซนกันตามประสาเด็ก”



“ใช่ซี่...ไม่ตั้งใจ” แม่อรเห็นทั้งสามีทั้งลูกเข้าข้างมหาโจรก็เดือดปุด “พาลูกไปล้มปากเจ่อเข่าแตกก็ไม่ตั้งใจ ปล่อยให้หมาข้างถนนมางับแขนลูกนั่นด้วย แล้วตอนไปเที่ยวห้างที่ออสเตรเลียก็พาเดินหลงไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้ ประกาศตามหาห้างแทบแตก! นี่ถ้าเกิดเขาตั้งใจป่านนี้เอ็กซ์คงหายสาบสูญไม่ก็ตายไปแล้วล่ะมั้ง!”



ความจำมารดาดีเยี่ยมอย่างน่าอัศจรรย์ทั้งที่บางเรื่องคนเจ็บตัวเริ่มเลือน ๆ ไปแล้ว เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหมางับแขนข้างไหน ที่จำได้สนิทใจก็มีแต่เรื่องจักรยานล้มเรื่องเดียวนั่นแหละ



“ไม่เอาน่ะคุณ! แช่งลูก...” คราวนี้สามีออกปากปรามจริงจังแล้วชักชวนไปพักผ่อนต่อ “ไปนอนเถอะ ลูกจะได้พักผ่อนด้วย นี่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว”



หมอหนุ่มรับมุกแกล้งปิดปากหาว แม่อรจึงต้องยกประโยชน์ให้จำเลยหนึ่งครั้ง เดินปึ่งกลับขึ้นห้องไปก่อนทิ้งให้พวกถือหางมหาโจรอยู่ด้วยกัน



“ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะเรา” บิดาสบโอกาสเปรยขึ้นก่อนโยงเข้าเรื่องงานอย่างเป็นห่วง “อีกสองอาทิตย์จะประชุมประจำเดือนแล้ว...การบ้านที่ ดร.พชร ให้มา ลูกกับมิตรตกลงกันได้รึยังล่ะ”



“วันนี้ก็เพิ่งหารือกัน พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” ชายหนุ่มรับคำซ่อนอาการพิรุธ น้ำเสียงปกติสุขเพื่อไม่ให้บิดารับรู้ความกังวลใจใด ๆ



ทว่าเมื่อกลับถึงห้องอธิวัฒน์รีบเปิดโน้ตบุ้ค เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหารายการเก่า ๆ ที่มิตรนั่งแท่นผู้กำกับ อุปสรรคด้านภาษาทำให้ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเจอคลิปรายการที่มีผู้อัพโหลดลงในโลกไซเบอร์...



รายการที่ว่าเป็นเรียลลิตี้นัดบอดหนุ่มสาวของญี่ปุ่นถ่ายทำเมื่อปีที่แล้ว ว่าที่ผู้ร่วมโปรเจ็คท์คนใหม่นั่งดูร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วยกมือกุมขมับ อยากจะเอาหัวทิ่มคีย์บอร์ดเสียด้วยซ้ำถ้าไม่ติดที่ว่าจะซ้ำรอยแผลเก่า....รูปแบบรายการช่างมั่วซั่วไร้สาระสิ้นดี เหตุการณ์หักมุมไม่คาดฝันขยันโผล่มาทุกห้านาทีราวเขียนสคริปต์



...นึกย้อนไปวันที่ลุงเด็ดอวดลูกว่าเป็นถึงผู้กำกับมือรางวัลแล้วอธิวัฒน์ชักสงสัย...เพราะหากพี่ชายจะสมควรได้รับรางวัลอะไรล่ะก็ เขาคิดว่า ‘จับแพะชนแกะอวอร์ด’ น่าจะเป็นเพียงรางวัลเดียวในโลกที่คู่ควรและสาสมกับคนอย่างมิตร!



กว่าจะรู้ตัวว่าต้องร่วมงานกับคนแบบไหนก็ต่อเมื่อสายเกินไปเสียแล้ว!


(มีต่อค่ะ)

จากคุณ : ปลากินเมฆ
เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 22:20:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com