ผีที่ไหนครับ? ศศวรรธน์ถามรัวเร็วตกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้รู้
อ้าว นี่ยังไม่รู้เหรอครับ ก็คืนก่อนวันที่คุณหวีจะเสีย ผมขี่รถตรวจตราให้หมู่บ้านตามปกติ แต่พอใกล้จะถึงบ้านคุณเท่านั้นแหละหมามันหอนกันเย็นไปหมด มองไปก็เห็นใครไม่รู้ขึ้นไปนั่งอยู่บนกำแพงนู่น คุณลองคิดดูสิกำแพงฝังแก้วคมซะขนาดนั้น ใครมันจะขึ้นไปนั่งห้อยเท้าอยู่ได้
แล้วไอ้ผีที่เห็นนี่มันแต่งตัวยังไงครับ? ทัตพงศ์ถามขึ้นเมื่ออะไรๆ มันชักจะเข้าเค้า
เป็นผู้ชายใส่เสื้อราชปะแตนนุ่งโจงกระเบนอย่างคนโบราณ ถือดาบเล่มยาวอยู่ในมือเลือดงี้อาบไปทั้งตัว พอผมมองเขาก็กระโดดจากกำแพงขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้านคุณเลย พอผมเล่าให้ฟังคุณหวีเลยให้เจ้าหมึกไปเอาน้ำมนต์ที่วัด ก่อนจะออกไปมันยังมาทักผมที่ป้อมเลย ที่ไหนได้เผลอแผล็บเดียวคุณหวีตกบันไดส่วนเจ้าหมึกก็รถคว่ำ ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันหรือเปล่านะครับ รปภ.เล่าก่อนจะรีบขอตัวเมื่อหันไปเห็นคนรู้จักเข้า
ศศวรรธน์ชาไปทั้งตัวตั้งแต่ได้ยินคำว่า ถือดาบเล่มยาวอยู่ในมือ แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าผีที่ว่านั่นต้องเป็นมัน ไอ้วิญญาณร้ายนั่นมันเข้ามาอยู่ในบ้านเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่แท้มันก็เป็นคนฆ่าแม่นมของเขา นี่เองใช่ไหมเรื่องที่ฉวีวรรณต้องการสื่อให้เขารู้ แต่เพราะอำนาจที่น้อยกว่าถึงไม่เคยบอกตรงๆ ได้สักครั้ง ชายหนุ่มสะดุ้งวาบเมื่อคิดถึงแม่ หรือว่าที่แม่เขาป่วยก็เป็นฝีมือของมันเหมือนกัน
เฮ้ย จะไปไหนวรรธน์ ทัตพงศ์ถามเมื่อเห็นเพื่อนวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน
กลับบ้าน ตอนนี้มันต้องอยู่ที่บ้านฉันแน่
แล้วแกจะเอาอะไรไปสู้กับมัน ฉันว่ารอหลวงตากลับมาก่อนแล้วนิมนต์ท่านไปด้วยกันดีกว่าไหม? เสียงนั้นหอบเพราะต้องวิ่งตามไปด้วย
ฉันรอไม่ได้ กว่าหลวงตาจะกลับก็เย็น อีกอย่างท่านก็เคยบอกแล้วว่ามันไม่ใช่กิจของสงฆ์ ฉันต้องกลับไปจัดการเอง ก่อนที่มันจะฆ่าใครในบ้านฉันอีก ชายหนุ่มบอกพลางเปิดประตูเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ ทัตพงศ์เองก็ตามเข้าไปติดๆ ก่อนรถจะพุ่งฉิวออกไปทันที
รถของศศวรรธน์แล่นมาได้ไม่เท่าไรก็มาจอดติดอยู่กลางทาง เพราะจำนวนรถที่มากขึ้นในช่วงพักกลางวัน มือใหญ่ที่จับพวงมาลัยจึงเคาะนิ้วรัวๆ ราวกับจะเร่งให้ถนนโล่งขึ้นได้กระนั้น
วรรธน์แกเดาออกไหมว่ามันไปอยู่บ้านแกได้ยังไง?
มันอาจจะตามหมึกมาตอนไปเอารถให้ฉัน ศศวรรธน์ตอบก่อนจะฉุกใจคิดขึ้นมาได้ถึงความผิดปกติหลังจากที่นายหมึกออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว และถ้าเขาเดาไม่ผิดธุวชิตคงสิงอยู่ในร่างของนายหมึกมาตลอด ยิ่งคิดชายหนุ่มก็ยิ่งร้อนใจเป็นห่วงไปหมดสารพัด โดยเฉพาะแม่ที่นอนเจ็บอยู่โรงพยาบาล
เอางี้ดีไหมฉันว่าเราไปหาหมอผีกันดีกว่า แกจำหมอเขมรที่เราเคยติดต่อไปก่อนจะเจอหลวงตาได้ไหม ให้เขาจับมันไปทำเป็นโหงพรายไว้รับใช้ซะเลย มันจะได้ทรมานชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อไว้สักที ทัตพงศ์เสนออย่างแค้นแทนเพื่อน ตั้งแต่มีเรื่องผีๆ สางๆ เข้ามาในชีวิต พวกเขาก็ศึกษาเกี่ยวกับภูตผีวิญญาณกันมาตลอด จึงได้รู้ว่าการเป็นโหงพรายนั้นคือ วิญญาณตายโหงที่ถูกมัดไว้ด้วยอาคมคอยรับใช้คนที่เลี้ยงจนไม่ได้ไปผุดไปเกิด
ดี ศศวรรธน์ตอบรับทันควันด้วยไฟแค้นที่ลุกโพลงยิ่งกว่าที่เคยผ่านมา ชาติที่แล้วมันทำลายครอบครัวของเขายังไม่พอ ชาตินี้มันยังตามมาฆ่าแม่นมของเขาอีก ในเมื่อมันไม่ยอมเลิกราเขาก็จะตามจองล้างจองผลาญมันให้ถึงที่สุดเช่นกัน ชายหนุ่มกำมือแน่นจนรู้สึกถึงปลายเล็บที่จิกเข้าในเนื้อ เมื่อกุญแจมือแห่งความพยาบาทที่เคยผูกติดไว้กับคู่อาฆาตตั้งแต่ชาติที่แล้ว ได้รัดเขากับอีกฝ่ายให้แน่นขึ้นอีก พลันคำของหลวงตาก็ดังขึ้นในใจ
เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ถ้าไม่อยากวนอยู่ที่เดิมเราก็ต้องยอมเป็นฝ่ายปล่อยก่อน
งั้นแกเอามือถือมา ฉันจะโทร.ไปนัดให้เองเดี๋ยวนี้เลย
เสียงทัตพงศ์ที่เร่งมายิ่งบีบคั้นให้เขาต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรดี ถ้าพักเรื่องความแค้นเอาไว้แล้วคิดกันด้วยเหตุผล เขาไม่นึกสนับสนุนไสยศาสตร์ทุกประเภท หากหมอผีที่ได้วิญญาณธุวชิตไปนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือสั่งให้ไปทำร้ายคนอื่นจะมีอีกสักกี่คนที่ต้องเดือดร้อน ใจจริงแล้วเขาไม่อยากปล่อยมันไปเลย และยิ่งไม่อยากยอมแพ้มันด้วย
ทว่าชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ไม่ใช่การเอาชนะผู้อื่น แต่คือการเอาชนะความแค้นในใจตนเอง ด้วยเหตุนี้อภัยทานจึงเป็นทานอันสูงสุด เพราะมันทำได้ยากอย่างนี้เอง
ศศวรรธน์พยายามบอกตัวเอง ก่อนจะกัดฟันกลั้นใจตอบไปว่า ฉันจะปล่อยมันไป
เฮ้ย แต่มันฆ่าพี่หวีนะเว้ย แกไม่แค้นแทนพี่หวีเลยหรือไง
แค้นสิ แต่ถึงจับมันไว้พี่หวีก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี มีแต่ทางนี้เท่านั้นที่เขาจะสร้างกุศลเพื่อฉวีวรรณได้ แม้ว่าใจจริงเขาจะไม่อยากให้อภัยมันเลยก็ตาม ให้หลวงตาทำพิธีส่งมันไป ฉันกับมันจะได้หมดเวรหมดกรรมกันเสียที
ทัตพงศ์อ้าปากอยากจะแย้งหากแล้วก็พยักหน้าอย่างจำใจยอมรับไปด้วย ไม่ใช่เรื่องสนุกนักหรอกที่จะต้องคอยจองเวรใครและคอยระวังไม่ให้ใครมาตามจองเวรตัวเองอยู่ตลอดเวลา
เอาไงก็เอากัน แล้วนี่แกจะทำยังไงต่อ อย่าบอกนะว่าจะไปไล่มันมือเปล่า
ไม่ต้องห่วง ฉันมีวิธีไว้แล้ว แม้จะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แต่เขาก็ต้องลองเสี่ยงดู และหวังว่ามันจะอาศัยบ้านเขาอยู่นานจนนอนใจ ไม่รู้ตัวเสียก่อนว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
เมื่อขับรถมาจอดหน้าบ้านชายหนุ่มก็เจอแมวที่กำลังยืนรอรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลอยู่พอดี ในมือมีข้าวของหลายอย่างที่แม่เขาคงโทร.มาสั่งให้เอาไปให้
ทำไมไม่ให้หมึกขับรถไปส่งล่ะแมว รถก็จอดอยู่นี่ ศศวรรธน์ลองถามพลางมองเข้าไปในบ้าน
พี่หมึกไม่สบายค่ะ อารมณ์ไม่ดีนี่ยังไล่หนูให้รีบไปเลย แมวรีบหันมาฟ้องขณะเปิดประตูให้ชายหนุ่มได้เอารถเข้าไปจอดด้านใน
งั้นก็รีบไปเถอะ รถแท็กซี่มาโน่นแล้วเดี๋ยวฉันปิดประตูเอง ทัตพงศ์อาสาขณะที่ผู้เป็นเพื่อนเดินไปเปิดท้ายรถหยิบถุงน้ำขนาดใหญ่ออกมา เฮ้ย นี่มันน้ำมนต์ที่หลวงตาให้เอากลับมาให้คนที่บ้านกินด้วยนี่ เขาทักอย่างจำได้เพราะได้มาเหมือนกัน
ใช่ และไอ้หมึกก็เป็นคนแรกที่จะได้กิน
ศศวรรธน์ไม่รอช้าเขารีบเทน้ำมนต์ใส่ขันเงินใบใหญ่ที่วางอยู่ในครัว แล้วเดินตรงไปยังห้องของคนรับใช้ที่อยู่ไม่ห่างกันนั้นทันที ห้องของนายหมึกนั้นอยู่ลึกสุดเพราะเป็นผู้ชายคนเดียว เมื่อเดินไปถึงเขาก็เห็นประตูห้องแง้มไว้อยู่แล้ว ผลักเข้าไปเต็มแรงก็เห็นอีกฝ่ายลุกพรวดขึ้นนั่ง แววตาที่มองตรงมากร้าวแข็งและแดงเถือกไปด้วยเส้นเลือด ชายหนุ่มไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรทั้งนั้นก็สาดน้ำโครมใหญ่ใส่ทันที
อ๊ากกกกกก เสียงนายหมึกร้องโหยหวนพร้อมกับลงไปดิ้นทุรนทุราย ทว่านอกจากร่างเนื้อที่มองเห็นแล้วยังมีอีกร่างหนึ่งเหลื่อมซ้อนขึ้นมา ท่าทางของมันดูเจ็บปวดทุกข์ทรมานยิ่งกว่านายหมึกหลายเท่านัก มันมองตรงมาอย่างอาฆาตคล้ายกับเสือร้ายที่บาดเจ็บ ก่อนจะหนีออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงร่างที่นอนสลบเหมือดอยู่กับพื้น