Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+ - + - + นางฟ้าของฉัน + - + - + ติดต่อทีมงาน

* สิ่งที่ดีที่สุด…  คือการได้พบเธอ  ได้ดูแลเธอ… ได้รักเธอหมดใจ   อยากบอกเธอสักหน่อย  บอกให้เธอรู้ใจ…ว่าโชคดีแค่ไหน ได้พบคนอย่างเธอ *…เสียงเรียกเข้า พร้อมกับไฟกระพริบถี่ๆที่มาจากมือถือเครื่องจิ๋วที่วางอยู่ข้างๆ มันทำให้ฉันแทบจะไม่มีแรงหยิบมันขึ้นมา “ ให้ตาย!! “ ฉันสบถในใจก่อนจะกดรับและเปิดลำโพง…

“เดียร์…แกมีอะไรนักหนาวะ  นี่มันเพิ่งจะหกโมง และชั้นก็เพิ่งจะได้นอนไปเมื่อตีสี่ นี่มันวันหยุด…”

“แกจะนอนไปกี่ชั่วโมงรึอะไร ชั้นไม่สนหรอกนะ…โมแกลุกมาเปิดประตูเดี๋ยวนี้เลย ชั้นกับดีดี้ยืนอยู่ที่ประตูหน้าห้องแกแล้ว”

“หา!! แกจะบ้ารึไง ดีดี้ไหน แกอย่าบอกนะว่า…”

“เออๆ เร็วๆ พูดมากอยู่นั่นแหล่ะ”


ทันทีที่ฉันเปิดประตูออกไป ภาพที่เห็นก็คือ เดียร์เพื่อนสุดที่รักของฉันมันมาพร้อมกับข้าวของพะรุงพะรัง  แต่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือ ในรถเข็ญที่อยู่ข้างมันมีเด็กตัวเล็กๆ อายุน่าจะประมาณ6-7เดือนกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างไร้เดียงสา


“โม…ชั้นจะเอาดีดี้มาฝากให้แกช่วยเลี้ยง” เพื่อนรักของฉันมันเอ่ยขึ้นหลังจากที่วางข้าวของเป็นที่เรียบร้อย

“บ้า! รึไง รู้ซะบ้างว่าเวลาไหนควรเล่นไม่ควรเล่น ชั้นปวดหัวจะตายอยู่แล้วนะกับเรื่องงานที่เพิ่งจะสะสางเสร็จเมื่อไม่กี่ชั่วโมงและ เพิ่งจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง”ฉันเอ็ดตะโรอย่างมีอารมณ์ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาหลับตาอย่างอ่อนล้า

“โม…ชั้นรู้ว่าแกเหนื่อย ขอโทษว่ะ แต่ชั้นก็ไม่มีใครจริงๆ  ชั้นต้องบินตอนเที่ยง  มันกระทันหันมาก…พี่เลี้ยงดีดี้ก็ลากลับต่างจังหวัดเพราะญาติเค้าเพิ่งเสีย…ชั้นจะขอลาหยุดก็ไม่ทันแล้วมันกระชั้นชิดมากและอีกอย่างมันเป็นช่วงเทศกาลด้วย…โปรแกรมมันถูกวางไว้หมดแล้ว  หาใครแทนไม่ได้…ชั้นรู้ว่ามันเป็นช่วงวันหยุด เป็นวันที่ต้องพักผ่อน  ส่วนชั้นก็ต้องทำงาน  แกก็รู้ว่างานของชั้นมันเป็นยังไง…ชั้นขอร้องนะเพื่อนรัก  อีกห้าวันชั้นก็กลับมาแล้ว…ถ้าไม่เห็นแก่ชั้นก็ขอให้เห็นแก่ดีดี้หลานสุดที่รักตัวน้อยๆของแกเถอะนะ…นะ…นะ”อีกฝ่ายเสียงอ่อนลงทันที เพราะมันรู้ว่าฉันเป็นคนใจอ่อนขี้สงสาร…เมื่อมัน มาไม้นี้ทีไรฉันจะต้องยอมมันทุกครั้งไป

“ตั้งห้าวันนะเดียร์และอีกอย่างชั้นก็มีโปรแกรมในช่วงวันหยุดแล้ว…ชั้นจะกลับไปบ้านและจะไปทำบุญกับแม่ แล้วชั้นก็บอกแม่ไว้แล้ว…”

“แกก็เอาดีดี้ไปด้วยก็ได้  เค้าไม่งอแงหรอกเลี้ยงง่ายจะตาย ดูสิหลับปุ๋ยเลย”

“ชั้นไม่เคยเลี้ยงเด็กนะแก…เวลาขี้เยี่ยวชั้นจะทำยังไง ไหนจะเวลากิน  เวลานอนอีกล่ะ  แกเอาไปฝากเนอสเซอสรี่ไม่ดีกว่าเหรอ”

“ตอนนี้มันเพิ่งหกโมง  เนอสเซอรี่ที่ไหนจะเปิดตอนนี้ และอีกอย่างชั้นก็ไม่ไว้ใจอ่ะ บอกตามตรง”

“แต่แกมาไว้ใจชั้นเนี่ยนะ แล้วถ้าเกิดดีดี้ไม่สบายเป็นอะไรไปแล้วชั้นจะทำยังไง…”

“ไม่รู้ล่ะ…ชั้นไว้ใจแกที่สุด  ตายแล้ว!!  นี่มันหกโมงเกือบเจ็ดโมงแล้วนี่ ชั้นยังไม่ได้เอากระเป๋ามาเลย ต้องถึงสนามบินก่อนเก้าโมงด้วย…ดีดี้จ๋า  คนดีของม่ามี๊  หนูต้องเป็นเด็กดีนะจ้ะ อย่างอแง อย่ากวนม่ามี๊โมนะลูก ม่ามี๊ไปทำงานอีกห้าวันเราเจอกัน….จุ๊บบจ้ะดีดี้คนดี จุ๊บๆนะโมเพื่อนสุดที่ร๊ากของชั้น”

“เฮ้ย!!เดียร์…ไอ้เดียร์ แกจะมามัดมือชกแบบนี้ไม่ได้นะ…แกก็รู้ว่าชั้นไม่เคย…”ก่อนที่ฉันจะพูดจบประตูก็ปิดลงอย่างสนิทซะแล้ว …ฉันหันหน้ากลับมาก็เจอแต่ข้างของที่เป็นของใช้เด็กอยู่ในตะกร้าใบใหญ่ ส่วนที่รถเข็ญเด็กหญิงวัยเจ็ดเดือนที่ทุกคนเรียกเธอว่า “ดีดี้” ก็ยังคงนอนหลับปุ๋ยอยู่ในสภาพเดิม

“ไอ้เดียร์!! ชั้นอยากจะฆ่าแกให้ตายกับมือซะจริงๆ ดูสิ! แล้วแกจะให้ชั้นทำยังไงเนี่ย” ฉันพึมพำกับตัวเองอย่างหัวเสีย เดินไปมาอย่างคิดหาทางออก  เข็นรถเด็กมาใกล้โซฟา ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ


*********************************************************

“เสียงเด็กที่ไหนมาร้องหว่า?”หูฉันแว่วได้ยินเสียงเสียงเหมือนเด็กร้อง และเหมือนกับว่ามันดังใกล้เข้ามาทุกขณะ  สุดท้ายกลายเป็นเสียงกรีดร้อง…

“โอ๋เอ๋…โอ๋เอ๋  ดีดี้คนดี ไม่ร้องนะคะ ม่ามี๊ขอโทษ…ที่เผลอหลับไป ที่ทิ้ง หนูไว้คนเดียว ไม่ร้องนะคะ…คนดี” ฉันลุกลี้ลุกลนลุกขึ้นมาจากโซฟา  เอามือสองข้างไปอุ้มทารกที่กำลังร้องไห้จ้าออกมาจากรถเข็ญ  อุ้มไว้แนบอกเดินวนเวียนไปมา  ปากก็พร่ำขอโทษขอโพยต่างๆนานา…ราวๆห้านาทีเด็กถึงเงียบไป ฉันปล่อยเธอลงนั่งที่พื้น  ก่อนจะไปสำรวจที่ตะกร้าใบใหญ่ที่มีข้าวของเครื่องใช้ของเธอว่ามีอะไรบ้าง…ก่อนอื่นฉันต้องชงนมให้เธอเป็นลำดับแรก เพราะเธอไม่ได้กินมาหลายชั่วโมงแล้ว  ที่ข้างกระป๋องนม มีลายมือของเพื่อนรักที่มันเขียนโน๊ตแปะไว้ว่า…



“ ขวดนมที่ดีดี้ใช้  มันคือขวด สี่ออนซ์    แล้วใส่นมไปสามช้อน …ส่วนข้าวให้กินโจ๊กหรือข้าวต้มก็ได้  ให้กินสองเวลา  คือแปดโมง กับห้าโมงเย็น…ดีดี้ชอบฟังเพลงก่อนนอน  ช่วยเปิดเพลงกล่อมด้วย…ตอนกลางคืนเค้าจะตื่นขึ้นมากินนมตอนเที่ยงคืนกับตอนตีสี่  ชั้นไว้ใจแกที่สุดจ้ะเพื่อนรัก  จุ๊บบ…ชั้นเชื่อว่าแกทำได้ (แกทำได้อยู่แล้วเพื่อชั้นกะดีดี้) ”

เฮ้อ! ค่อยยังชั่ว ฉันถอนหายใจ อย่างน้อยเดียร์มันก็ยังรอบคอบที่เขียนโน๊ตทิ้งไว้ ไม่เช่นนั้นฉันต้องตายแน่ๆเลย…


” ใช่สิ!! ทำไมชั้นจะทำไม่ได้ ก็แกเล่นมัดมือชกแบบนี้ มากกว่านี้ชั้นก็เคยทำมาแล้ว…ก็เพราะว่าชั้นมีเพื่อนบ้าๆอย่างแกไงล่ะ”


วันแรก…ผ่านไปอย่างทุลักทุเล  วงจรชีวิตของฉันเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ  จากที่เคยกินก็ไม่ได้กิน  จากที่เคยนอนก็ไม่ได้นอน  มันระแวงไปหมดทุกอย่าง ทุกครั้งที่ดีดี้ขยับตัวฉันจะรีบโผเข้าไปหาเธอทันที… จนฉันแอบคิดว่าตัวเองใกล้บ้าไปแล้วทุกขณะ


วันที่สอง…ฉันกับดีดี้เราเริ่มปรับตัวเข้าหากันได้ในระดับนึง ถึงแม้ว่าเมื่อคืนฉันจะไม่ได้นอนเลยสักงีบก็ว่าได้ …เกือบๆเที่ยงเราสองคนไปเดินที่ซุปเปอร์ฯเพื่อหาซื้อของกิน  เราใช้เวลานานพอสมควรกับการจับจ่าย…เพราะว่าอีกสามวันที่เหลือ เราสองคนต้องกลับไปใช้ชีวิตที่สระบุรีบ้านเกิดของฉัน  ที่มีแม่กับน้ารออยู่ที่นั่น   วันนี้ดีดี้ไม่ได้ใช้รถเข็ญ แต่ใช้เป้สะพายเด็กแทน…เป็นสิ่งที่ฉันนึกไม่ถึงเลยจริงๆ  เพราะ ฉันเพิ่งรู้ว่าการที่สะพายเด็กแล้วเดินเป็นเวลานานมันทำให้ปวดหลังมาก…และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ฉันนอนไม่หลับ เพราะปวดหลังมากเหลือเกิน


วันที่สาม… แปดโมงเช้า ฉันและดีดี้ เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง  เธอตาแป๋วแต่เช้า นั่ง มองตามฉันไปมาในขณะที่ฉันวุ่นวายเตรียมข้าวของสำหรับการเดินทาง…เกือบๆสองชั่วโมงเราสองคนก็ถึงที่หมาย ดีดี้น่ารักมากตลอดการเดินทาง เธอเป็นเพื่อนร่วมทางที่น่ารัก  ไม่งอแง นอนลืมตาแป๋วฟังเพลงไปตลอดการเดินทาง…ส่วนฉันก็เป็นโซเฟอร์ที่น่ารักพอๆกับเธอ  เพราะปกติฉันจะขับรถเร็วมาก  แต่เพราะมีเธออยู่ข้างๆในวันนี้ ฉันถึงไม่ได้เป็นตัวเองมากนัก…เพราะว่าฉันห่วงความปลอดภัยของเธอมากๆนั่นเอง


สามวันที่ฉันกับดีดี้ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข …แม่กับน้าดูแลเราสองคนเป็นอย่างดี  ดีดี้ดูเธอจะมีความสุขมาก หัวเราะเอิ๊กอ๊ากได้ทั้งวัน  แม่กับน้าเอ็นดูเธอมาก ชมว่าเธอเป็นเด็กน่ารัก เลี้ยงง่ายไม่งอแง แม่ยังเอ่ยทีเล่นทีจริงว่า หากเจอเดียร์จะเอ่ยปากช่วยเลี้ยงดีดี้ให้ เพราะว่าแม่กับน้าจะได้ไม่เหงา…


“เดียร์มันรักลูกยังกะแก้วตาดวงใจ  คงไม่มีทางปล่อยให้ไกลตาเด็ดขาด…ขนาดย่าของดีดี้จะเอาไปช่วยเลี้ยงมันยังไม่ยอม”


ห้าวันของฉันกับดีดี้กำลังจะหมดลงในอีกไม่ถึงสองชั่วโมงข้างหน้า  เราร่ำลาแม่กับน้าอย่างอาวรณ์ …บ่ายสามโมงครึ่งฉันขับรถออกจากสระบุรีอย่างไม่รีบร้อน….ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดีดี้ที่นอนอยู่เบาะข้างๆฉันเธอก็หลับไปซะแล้ว
เสียงเพลงเบาๆขับกล่อมเราทั้งคู่…เพลงโปรดของฉันได้บรรเลงขึ้นอีกครั้ง นั่นคือเพลง * สิ่งที่ดีที่สุด…นั่นคือการได้พบเธอ มันเป็นเพลงที่ฉันใช้เป็นสายเรียกเข้า …ฉันชอบน้ำเสียงของศิลปินและเนื้อหาของเพลง…แต่ณ.ตอนนี้และในวินาทีนี้เพลงนี้ทำเอาฉันน้ำตาไหลซะแล้ว…เธอคนที่ทำให้ฉันซึ้งได้ขนาดนี้ก็ยังคงหลับปุ๋ยเช่นเดิม ฉันเริ่มใจหายตั้งแต่เมื่อเช้า…เสียงของเดียร์ยังคงแว่วอยู่ในหู …


“เครื่องลงสี่โมงนะโม  กว่าจะถึงห้องแกก็น่าจะหกโมงอ่ะ”

ฉันลดระดับความเร็วของเครื่องยนต์ลงเรื่อยๆ เพื่อที่ฉันจะได้อยู่กับเธอให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้…ห้าโมงครึ่งเดียร์โทรเข้ามาอีกครั้ง…

“ใกล้ถึงแล้วล่ะแก อยู่ปากซอยแล้ว   รถเข้าเยอะมาก “ ฉันไม่มีคำพูดใดที่จะบอกเดียร์ได้นอกจากโกหกไปแบบนี้

“ฉันถึงแล้วอ่ะ รอที่ทางเข้านะ”

“จ้ะ” ฉันใจหาย  มองเธอที่นอนดูดนมลืมตาอยู่ข้างๆ


ในคืนนี้เป็นอีกคืนหนึ่งที่ฉันข่มตาหลับไม่ลง  เดียร์กับดีดี้ได้ลากลับไปเกือบๆสี่ทุ่มหลังจากที่เราทานข้าวกันเรียบร้อย…กอดสุดท้ายระหว่างฉันกับดีดี้มันยังคงอุ่นอยู่ในหัวใจฉัน….กลิ่นหอมละมุนยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูก เสียงหัวเราะหยอกเย้ายังคงกังวาลอยู่ในหู…ทุกอริยบทของเธอฝังอยู่ในความทรงจำไม่อาจลบเลือนได้…ฉันหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กๆของเธอขึ้นมาแตะที่จมูกก่อนที่น้ำตาจะไหลรินออกมา…


“โม... ระหว่างเราไม่มีคำพูดคำใดที่จะสามารถอธิบายความรู้สึกนี้ได้…ฉันกับลูกรักแกมากที่สุด” เราสามคนสวมกอดกันแน่นก่อนที่เธอกับลูกจะลากลับไป


******************************************************************


“โม…ชั้นมีเรื่องให้แกช่วยอีกแล้วอ่ะ” เพื่อนรักของฉันมันบอกด้วยสีหน้าอันเศร้าหมองเหมือนกับทุกครั้งที่มันอยากขอความช่วยเหลือ

“แกมีอะไรอีกล่ะ ดีดี้ไม่สบายอีกแล้วเหรอ” ฉันจ้องมองดีดี้ที่เดียร์อุ้มพาดบ่า

“ป่าว…คือ ชั้นจะแต่งงานใหม่  โทนี่เค้ารับไม่ได้ที่ชั้นจะเอาดีดี้ไปอยู่ด้วย ฉันรักลูกมากนะโม แกช่วยเลี้ยงลูกแทนชั้นนะ…นะโม ชั้นจะยกลูกให้แก ให้จดทะเบียนเป็นบุตรบุญธรรม”

“แกจะบ้ารึไง…แกไม่สงสารลูกเหรอ”

“ถ้าแกไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร ที่ชั้นเอ่ยปากเพราะชั้นไว้ใจและคิดว่าแกก็คงรักดีดี้ไม่ต่างจากชั้น….ชั้นจะเอาลูกไปคืนให้พ่อเค้าเลี้ยง  เสียแรงที่ชั้นคิดว่าแกเป็นเพื่อนที่ชั้นรัก  และไว้ใจที่สุด…ชั้นผิดหวังจากแกจริงๆ” เธอตัดพ้อฉันต่างๆนานา

“เดี๋ยวสิเดียร์”ฉันเรียกขณะที่เธอจะหันหลังกลับ

“ถ้าแกไม่คิดที่จะช่วย ก็ไม่ต้องมาเรียก”เธอหันหน้ากลับมาด้วยน้ำตานองหน้า

“เดียร์!!!...แกกลับมาก่อน….เดียร์!!”ฉันตะโกนสุดเสียงแต่เธอก็ได้หาสนใจไม่ เดินจากไปจนลับสายตา

“เดียร์!!!”


*******************************************************


“พี่โมๆๆ”เหมือนมีคนมาเขย่าที่แขนฉันแรงๆ

“อะไร…ถึงแล้วเหรอ!” ฉันลืมตาตื่นลุกขึ้นนั่งในทันที

“ยังเลยพี่…อีกประมาณครึ่งชั่วโมงอ่ะ พี่โมฝันไปรึป่าวตะโกนซะเสียงดัง”

“เออๆ พี่คงฝันไปจริงๆอ่ะ ไม่ได้นอนมาสามคืนแล้ว…ถึงไหนแล้วอ่ะ”ฉันบอกพลางเอามือลูบหน้าตัวเองเบาๆ

“เพิ่งออกจากประจวบฯเอง…ถ้าไม่ไหวพี่โมก็นอนต่อเถอะ ถึงแล้วหนูจะเรียก”

“ไม่แล้ว…มา เดี๋ยวพี่เปลี่ยนมือต่อ ขับมาสองชั่วโมงแล้วนี่เรา”

“ไหวอยู่แล้ว…เดี๋ยวก็ถึง พี่โมนั่งสบายๆเถอะ”


“จ้ะ” ฉันปรับระดับเบาะให้เป็นปกติ  ก่อนจะเอื้อมมือไปที่เครื่องเสียง กดปุ่มบรรเลงเพลงโปรดของฉันอีกครั้ง …กลิ่นหอมละมุนยังคงลอยมาแตะจมูกของฉันเหมือนทุกครั้ง…ในเวลาที่ฉันคิดถึงเธอ ฉันเผลอยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะล้วงมือลงไปในกระเป๋าหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นมาแตะที่ปลายจมูก…


“หนูนึกแล้วว่าพี่ต้องเปิดเพลงนี้” คนขับแอบแซวเล็กน้อย พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ


****************************************************************

แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 55 12:41:34

แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 55 09:53:45

จากคุณ : ใยไหมกะใบม่อน
เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 09:51:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com