และเธอก็เห็นจริงตามนั้น ตัวเองว่าไปแล้วเวลานี้มีเพียงผ้าถุงและผ้าขนหนูผืนไม่ใหญ่นักปกปิดเรือนกายเท่านั้นเอง ความคุ้นเคยกับการอาศัยอยู่ในเรือนเล็กๆ หลังนี้เพียงคนเดียวมาหลายวันทำให้ลืมคิดไปว่าเวลานี้มีชายหนุ่มถึงสองคนมาอาศัยอยู่ด้วย
กริชคอยประเดี๋ยวนะ ฉันเพียงสวมเสื้อ ไม่นานหรอก
ครับคุณหญิง
เมื่อกลับออกมาอีกครั้งหลังแต่งตัวเรียบร้อยก็เห็นร่างสูงใหญ่ยืนหลังพิงราวระเบียงเรือน สองแขนไขว้กันบริเวณแผ่นอก ใบหน้าก้มต่ำ ตาจับจ้องอยู่ที่พื้นไม้ เขาเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าแม้เพียงแผ่วๆ
ร่างระหงในซิ่นผ้าฝ้ายสีอิฐและเสื้อคอกระเช้าขาวนวลเดินเนิบช้ามาหยุดยืนใกล้ๆ สายตาทอดมองออกไปทางลำคลองเมื่อสายลมบางเบาพัดพากลิ่นดอกราตรีมากระทบฆาณประสาท บรรยากาศรอบตัวเวลานี้สงบและสงัด มีก็เพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรกรีดปีกมาจากต้นกกข้างคลอง
เกิดอะไรขึ้นกันกริช
เธอถามนำขึ้นก่อนหลังยืนเคียงกันเงียบๆ อยู่นาน สายตาจับนิ่งอยู่เพียงต้นพุทธรักษาที่เห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ ตรงบริเวณซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศาลาหกเหลี่ยมที่คุณรามสร้างให้เธอ ศาลานั้นรื้อไปแล้วเมื่อสร้างบ้านขึ้นใหม่
คำตอบของเขาน่าฉงนยิ่งขึ้นไปอีก
ผมไม่ทราบครับคุณหญิง เสียงทุ้มลึกแผ่วเบา หากก็หนักแน่นจนเธอแน่ใจว่าเขาพูดจริง
ทำไมไม่ทราบล่ะกริช ทำอะไรไม่รู้ตัวหรอกหรือ นั่นไม่ใช่การปรักปรำ เธอคิดว่าไม่ใช่
ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ หลังจากที่คุณหญิงกลับพระนครได้สองวัน คุณฉวีขอให้ปลัดสิงห์พาไปหาหมอ ปลัดสิงห์ก็เลยพาไปโรงพยาบาล วันนั้นมีเรื่องมีราวกันที่เบิกไพร เกี่ยวกับรังวัดที่ดินสร้างอ่างเก็บน้ำครับ ผมต้องไปดูด้วยตัวเอง กลับมาถึงตัวอำเภอก็ค่ำแล้ว พอกลับมาถึงนั่นแหละครับถึงได้รู้ว่าคุณฉวีไปโรงพยาบาล ตอนแรกผมคิดว่าป่วยธรรมดา แต่พอผมจะตามไปดูที่โรงพยาบาล ปลัดสิงห์ห้ามไว้ ผมถึงได้รู้ขึ้นมาว่า
ไอรีนปรายตาไปที่ไหล่กว้างที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร มีคำถามมากมายอยู่ในใจ แต่เรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลยสักอย่าง
คุณฉวีเจ็บจริงอย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า นั่นอาจเป็นคำถามที่ฟังดูเข้าท่าที่สุด
ที่คุณหญิงได้ยินเขาว่าอย่างไรบ้างครับ
เธอตวัดสายตาขุ่นข้องขึ้นมองเขา สบนัยน์ตาอ่อนโยนหากแฝงร่องรอยกระวนกระวายที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว
หมายความว่าอย่างไรกันล่ะกริช
พูดกันไปหลายอย่างครับ ที่ปลัดสิงห์บอกผมก็อย่างหนึ่ง พอไพจิตรมาถึง ไปดูคุณฉวีที่โรงพยาบาล กลายเป็นอีกอย่าง
คราวนี้เธอพอเข้าใจบ้างแล้ว
ที่ได้ยินมาก็
เธอลำบากใจแม้แต่จะนำเอาคำพูดของเจ้าคุณพิชัยมาบอกซ้ำ
และเขาก็เข้าใจ
คุณหญิงเชื่อหรือเปล่าครับ สำหรับเขาแล้วเรื่องนั้นสำคัญกว่าอื่นใดหมด
คำถามนั้นของเขาสะท้อนคำพูดของเจ้าคุณสูงวัยชัดแจ้ง
พ่อกริชคงเสียใจถ้าคุณหญิงระแวง ลุงรู้ ว่าสำหรับพ่อกริช คุณหญิงเป็นคนสำคัญที่สุด
จนถึงขณะนี้ไอรีนก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเชื่อเรื่องนั้นมากน้อยแค่ไหน แต่ก็เลี่ยงที่จะตอบด้วยการย้อนกลับด้วยอีกคำถามแทน
ว่าแต่เธอไม่ได้ทำร้ายคุณฉวีจริงๆ อย่างที่เขาว่ากันใช่ไหม
คำตอบของเขากลับกลายเป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง เป็นเหมือนคำสารภาพแบบที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากผู้ชายในวัยฉกรรจ์อย่างนี้
คุณหญิงครับ ผมไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลยครับ สุ้มเสียงของเขาราบเรียบ นุ่มนวล หากก็หนักแน่น ไม่ว่าใครทั้งนั้นครับคุณหญิง ผมไม่เคยแม้แต่คิดจะ
ทำอะไร ไม่ว่าจะแบบไหน คุณหญิงคงเข้าใจ เพราะว่า
แทบจะต่อด้วยการสารภาพความรู้สึกส่วนลึกของตัวเองว่าเพราะเหตุใดจึงไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย ในเมื่อสำหรับเขาแล้วการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงอื่นคือการทรยศต่อความรู้สึกของตัวเองที่มีให้ผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นในชีวิต แต่กริชยั้งตัวเองไว้ได้เสียก่อน เธอจะรู้สึกอย่างไรถ้าเขาสารภาพเรื่องแบบนั้นในเวลาที่ไม่เหมาะสมอย่างนี้
ฉันเข้าใจล่ะกริช แต่คำถามก็ยังมีมากมาย
แล้วเรื่องนี้จะทำอย่างไรกัน กริชจะเดือดร้อนหรือเปล่า เธอถามคุณฉวีบ้างไหมว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่ เธอมีโอกาสได้ทำความเข้าใจกับคุณฉวีบ้างหรือเปล่า แล้วคุณไพจิตรว่าอย่างไรบ้าง
ไพจิตรกับคุณฉวีเลิกกันแล้วครับคุณหญิง
คราวนี้เธอตกใจอย่างแท้จริง
อะไรกัน
คุณฉวีกลับมากรุงเทพแล้วครับหลังจากเลิกกับไพจิตร
ถึงขนาดหย่ากันเลยหรือกริช
ไม่ได้จดทะเบียนแต่งงานกันครับ
เวรกรรม แล้วกริชเองล่ะ จะทำอย่างไรต่อไป เจ้าคุณพิชัยแนะนำว่าถ้าขอย้ายเข้ากรมได้ก็น่าจะลองดู
ผมคิดเรื่องนั้นอยู่เหมือนกันครับ แต่ก็อยากพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้เสียก่อน ผมไม่อยากไปจากจอมบึงในขณะที่หลายๆ คนยังเข้าใจว่าผมข่มขืนใจใคร
ไอรีนผงกศีรษะรับรู้ สำหรับเธอแล้วทางออกทางเดียวที่มองเห็นคือปล่อยให้เรื่องเงียบไปเอง อะไรลักษณะนี้จะพิสูจน์กันได้อย่างไร
แต่เรื่องก็ไม่เงียบไปได้ง่ายๆ เมื่อปัญหาของกริชกลับตามเธอมาถึงบ้าน เพียงเดือนกว่าๆ หลังจากงานเผาคุณรามเสร็จสิ้น และกริชกลับราชบุรีไปนานแล้ว เมื่อแท่นวิ่งมาบอกว่ามีผู้หญิงขอพบเธอและเวลานี้คอยอยู่หน้าบ้าน
เขาบอกว่าชื่อฉวีครับคุณ ลูกชายแม่นาบบอกเธอว่าอย่างนั้น
คุณฉวี เธอถึงกับอุทานอย่างคาดไม่ถึง ก่อนควบคุมสติได้อย่างรวดเร็ว
ให้เข้ามาเถอะจ๊ะแท่น
วางมือจากมะเขือที่กำลังหั่นเพื่อทำแกงไก่ แล้วลุกออกไปต้อนรับหญิงสาวซึ่งไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก เธอเดาไม่ออกเลยว่าหลังเลิกกับปลัดไพจิตรแล้วฉวีเป็นอย่างไรบ้าง ที่สำคัญคือมาหาเธอทำไม และหาบ้านพบได้อย่างไร
ฉวีอยู่ในชุดเสื้อกระโปรงติดกันสีสดใส ผมเกล้าไว้เป็นทรงสูงตามสมัยนิยม ใบหน้าตกแต่งไว้อย่างงดงามไม่มีที่ติ รองเท้าส้นสูงหัวแหลมส่งให้เรือนร่างซึ่งเพรียวระหงดูสูงขึ้นอีก หล่อนหิ้วกระเป๋าหนังใบใหญ่ และกระพุ่มมือไหว้ทันทีที่เห็นกัน พร้อมกับทักทายร่าเริง
คุณหญิงสบายดีหรือคะ
ไอรีนรับไหว้อย่างงุนงง
สบายดีค่ะ คุณฉวีล่ะคะ
หวีสบายดีค่ะคุณหญิง หล่อนเข้ามาจับมือจับแขนเธอราวสนิทสนมกันมานาน
และโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง หล่อนบอกถึงสาเหตุที่ได้ดั้นด้นมาหาถึงบ้านเลยในทันที
หวีมาบอกคุณหญิงค่ะว่าหวีกำลังท้อง หวีท้องกับคุณกริชค่ะ เพิ่งรู้นี่แหละค่ะ หวีไปให้หมอตรวจมาแล้ว
ไอรีนตะลึง ฝ่ายนั้นพูดอะไรอีกหลายประโยค แต่เธอจับใจความแทบไม่ได้เลย
ทั้งหมดหมายความว่าอย่างไรกัน หลังงานคุณรามกริชกลับราชบุรีทันที เขากลับไปจริงๆ หรือเปล่าเธอไม่อาจรู้ได้ หรือเขาไปพบฉวีแทน และหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น
ที่สำคัญทำไมประโยคที่ว่า หวีท้องกับคุณกริชค่ะ เพียงประโยคเดียวนั้นจึงทำเอาเธออ่อนยวบไปทั้งตัวและใจเต้นรุนแรงแบบนี้
แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 55 09:28:23