ศิราตามขึ้นมาส่งเธอจนถึงประตูห้อง แล้วก็ลากลับไปโดยไม่เซ้าซี้หรือแม้แต่จะหาเหตุขอเข้าไปในห้องพักเลยสักคำ แม้แต่อันดามันก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าผิดหวังหรือว่าโล่งใจกันแน่
ผิดหวัง...ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะหนุ่มน้อยใหญ่ที่เคยรู้จักมา ไม่เคยมีใครเฉยเมยกับเสน่ห์ของเธอได้มากเท่าที่ศิรากำลังกระทำอยู่นี่เลย
นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตของสาวสวยที่มั่นใจในความสมบูรณ์แบบของตัวเองก็ว่าได้ ที่อันดามันเกิดอาการไม่แน่ใจ และนึกสงสัยว่าในสายตาของศิรา ศิวกรณ์ เธออาจยังดีไม่พอสำหรับเขา!
ส่วนเหตุผลที่เธอโล่งใจนั้นก็ง่ายดายจนไม่แทบต้องคาดเดาเลย อันดามันรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้สมบูรณ์แบบขนาดไหน และการอยู่ใกล้คนแบบนี้ก็รังแต่จะเกิดเรื่องมากกว่า เห็นกันอยู่ว่าศิรานั้นเป็นผู้ชายที่ เหมาะ จะให้รักมากเพียงใด หญิงสาวเชื่อมั่นว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนแน่ๆ ที่อยู่ใกล้เขาแล้วจะอดใจไม่ประทับใจหรือถึงขั้นหลงรักเขาได้น่ะ!
แล้วเธอเองก็มีคนรักอยู่แล้ว จึงยิ่งเป็นการไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะไปใกล้ชิดศิราให้มากนัก เกิดพลาดพลั้งเผลอใจไปกับความสมบูรณ์แบบของเขา มีหวัง...
บุรัณรู้เข้าก็คงจะเสียใจผิดหวัง ส่วนปัณรสีน่ะคงจะตีปีกเลยมั้ง ที่จะได้เย้ยว่าสิ่งที่ท่านมองเธอไว้ไม่ผิดเลย! คราวนี้ไอ้ที่แม่ของบุรัณประณามเธอว่าหิวเงิน ตั้งท่าจับผู้ชายรวยๆ ไว้ปอกลอกคงจะถูกลากขึ้นมาฉายซ้ำเป็นร้อยเป็นพันครั้งแน่ๆ
หญิงสาวสลัดความคิดฟุ้งซ่านออก แข็งใจลุกขึ้นไปอาบน้ำผลัดเสื้อผ้าทั้งที่เหนื่อยและเพลียจนอยากจะหลับทั้งชุดที่ยังชื้นๆ อยู่นั่นด้วยซ้ำ
หลังชำระร่างกายจนสดชื่นขึ้นแล้วอันดามันจึงเปิดตู้เย็นหาอาหารกล่องแบบปรุงสำเร็จที่แช่แข็งออกมาใส่เตาไมโครเวฟอุ่นสำหรับมื้อรวบยอดทั้งกลางวันและเย็น ทว่าอุ่นอาหารกล่องเสร็จยังไม่ทันได้ลงมือรับประทาน เสียงกริ่งก็ดังขึ้น เจ้าของห้องชุดยู่หน้าหงุดหงิดแต่ก็ลุกไปที่ประตูส่องดูตรงช่องตาแมวแต่โดยดี มือที่แตะอยู่ตรงลูกบิดลังเลเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังบานประตู
เอ็ม เปิดประตูหน่อย ผมรู้นะว่าคุณอยู่ในห้องน่ะ ผมได้ยินเสียงแอร์
อันดามันยู่หน้า เชอะ! หมั่นไส้คนช่างสังเกตซะจริง! ถึงจะอยากพักผ่อนเพียงใด แต่หญิงสาวก็จำต้อง ปลดโซ่นิรภัยและปั้นยิ้มไว้รอรับอีกฝ่าย
ทำไมต้องลำบากมาหาเอ็มถึงนี่ล่ะคะ โทร.มาก็ได้นี่นา
ผมโทร.เข้ามือถือคุณเป็นสิบเป็นร้อยหนแล้วล่ะมั้ง แต่คุณก็ไม่รับสายเลย
คนฟังหน้าเหรอ ตายล่ะ เอ็มมัวแต่วุ่นๆ เรื่องอื่น ก็เลยลืมเช็คโทรศัพท์น่ะค่ะ พูดจบก็รีบเดินทะลุห้องรับแขกไปยังห้องนอนค้นโทรศัพท์จากกระเป๋าถือติดมือออกมาด้วย
จริงด้วยค่ะ คุณรัณโทร.มามีสายไม่ได้รับตั้งแปดสายแน่ะ ขอโทษทีนะคะ
โทรศัพท์มันร้องเพลงได้นะเอ็ม ผมไม่เข้าใจเลยว่าคุณจะตั้งปิดเสียง ใช้ระบบสั่นนี่ไปทำไม ไม่เห็นว่ามันจะดีตรงไหนเลย จะว่าไปแล้วมันน่าโมโหเสียด้วยซ้ำ บุรัณบ่น
ไม่เอาน่าคุณรัณ ปกติเอ็มก็รับทุกสายอยู่แล้ว เพิ่งจะมีวันนี้เองที่ไม่ได้รับสายคุณ อย่าเพิ่งอารมณ์เสียเลยนะคะ อันดามันประโลม ทั้งที่เริ่มไม่พอใจกรุ่นๆ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บุรัณตำหนิเรื่องที่เธอเลือกปิดระบบเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ แล้วใช้วิธีตั้งให้สั่นแทน เพราะเขาชอบกังวลแทนไปล่วงหน้า ว่าเธออาจจะพลาดการรับสายลูกค้าสำคัญเพียงเพราะว่าไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์!
อันดามันเองก็ใช่ว่าอยากทำเช่นนั้น เพียงแต่เธอเป็นคนชอบทำงานเงียบๆ หลายหนที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไม่ถูกเวล่ำเวลาทำเอาเธอสะดุ้งขวัญกระเจิง เรื่องที่กำลังขมวดตกตะกอนอยู่ในสมองก็ฟุ้งกระจายเผ่นหายไปหมด สุดท้ายเธอจึงใช้วิธีปิดเสียงมันเสีย อาศัยว่าต้องคอยวางโทรศัพท์ไว้ใกล้มือ หรือไม่ก็พกติดตัว เพื่อใช้แรงสั่นสะเทือนพวกนั้นให้กระทบกับโต๊ะบ้าง แตะโดนเนื้อตัวผ่านเสื้อผ้าบ้างเรียกให้เธอรับสาย ซึ่งที่ผ่านมาอันดามันก็ไม่เคยมีปัญหาพลาดโทรศัพท์สายสำคัญอย่างที่อีกฝ่ายกังวลเลยสักนิด แต่ก็นั่นแหละ...บุรัณดูจะอารมณ์เสียทุกคราวไป เวลาที่ยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน
ช่างมันเถอะ ว่าแต่วันนี้คุณหายไปไหนมาทั้งวัน ในตารางนัดก็ไม่ได้บอกไว้
อ๋อ...เอ็มเข้าไปพบท่านรัฐมนตรีคีรีมาน่ะค่ะ คุณบัณฑิตโทร.มานัดกะทันหันเมื่อวานตอนค่ำๆ เอ็มเลยไม่ทันได้ลงรายละเอียดในตารางนัด
แล้วท่านรัฐมนตรีว่ายังไงบ้าง มีอะไรคืบหน้าบ้างไหม
อันดามันกัดริมฝีปากอย่างใช้ความคิด บอกเขาไม่ได้เด็ดขาดเลยว่าวันนี้เธอเจออะไรมา เพราะถ้าบุรัณรู้เรื่องที่เกิดขึ้น เขาจะต้องสั่งให้เธอถอนตัวจากโครงการของคีรีแน่นอน เนื่องจากเขาเองก็ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้วที่เธอจะเอาตัวเองและบริษัทเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการคอรัปชั่นน่ะ!
ท่านไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ เอ็มเข้าไปรายงานความคืบหน้าการประกวดราคาให้ท่านทราบตามระยะเท่านั้นเอง เออนี่...คุณรัณคะ ยังไงเอ็มบอกล่วงหน้าไว้ก่อนนะคะ ว่าหลังเปิดซอง ตอนเข้าไปทำสัญญากับที่กระทรวงฯ เอ็มต้องให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกัน ให้ราวสี่ล้านเอาไปวางกับกระทรวงฯ ถ้ายังไงเอ็มจะให้พี่นงเดินเรื่องกับธนาคารไปพลางๆ เลย ยังไงฝากคุณเซ็นเอกสารไว้ให้ด้วยนะคะ อันดามันกะการณ์มั่นใจ จนไม่ทันสังเกตว่าสีหน้าคนฟังเจื่อนปร่าไปอย่างผิดปกติ
เอ้อ...เอ็มต้องใช้แบงก์ค้ำตั้งสี่ล้านเชียวหรือ บุรัณตะกุกตะกัก
ความจริง ๕ % ของ ๗๘ ล้าน มันตกราว ๓ ล้าน ๙ ค่ะ เอ็มขี้เกียจแจงรายละเอียดยิบๆ ก็เลยปัดให้มันฟังเข้าใจง่ายๆ เท่านั้นเอง ทำไมคุณรัณทำหน้าแปลกๆ อย่างนี้คะ หรือว่าเรามีเงินสดไม่พอ
เธอพูดเองเออเองเสร็จสรรพ แล้วนึกได้ แต่เอ๊ะ...เท่าที่เอ็มประมาณคร่าวๆ จากกำไร แล้วก็ผลประกอบการตั้งแต่ต้นปี ฟิวเจอร์เทคฯ น่าจะมีเงินพอให้เราหมุนตั้งเกือบสองเท่าของที่เอ็มจะใช้เสียด้วยซ้ำนี่คะ หรือว่าเอ็มคำนวณอะไรผิด? สีหน้าคนพูดมีแววลังเล
ไม่หรอก ไม่มีอะไร ผมก็แค่ถามเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฟังจำนวนเงินผิดเท่านั้นเอง
อันดามันขยับไปดึงมือเขาลากอีกฝ่ายไปนั่งที่โต๊ะอาหาร เอ็มหิวจัง ขอคุยกันไปกินกันไปก็แล้วกันนะคะ ว่าแต่คุณรัณหิวหรือเปล่า เอ็มมีอาหารกล่องในตู้นะ ทั้งข้าวแกง บะหมี่เป็ดย่าง ข้าวต้มก็มี คุณรัณกินอะไรดี เอ็มอุ่นให้ แป๊บเดียวก็กินได้แล้ว
บุรัณนั่งลงฝั่งตรงข้าม มองถ้วยพลาสติกสีดำที่หญิงสาวอุ่นเกี๊ยวกุ้งวางรอไว้จนเย็นชืดหมดแล้วด้วยสายตาราวกับเห็นมนุษย์ต่างดาว ทำไมไม่เทใส่ชามให้เป็นเรื่องเป็นราวล่ะเอ็ม
เททำไมให้ยุ่งยากคะ เดี๋ยวต้องล้างวุ่นวายแย่ กินในถ้วยนี่แหละ อิ่มแล้วก็ทิ้งได้เลย หญิงสาวลงมือรับประทานด้วยท่าทีเอร็ดอร่อย
ขณะคนมองถอนหายใจ แวบหนึ่งที่บุรัณกลับเผลอนึกไปถึงเพียงฤทัยโดยไม่ตั้งใจ และที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือเขานำผู้หญิงสองคนไปเปรียบเทียบกันเสียด้วย
คนหนึ่ง...เต็มไปด้วยระเบียบแบบแผนและพิธีการ อาหารทุกจานที่ผ่านมือเพียงฤทัยจะต้องประณีต งดงาม ใช่แต่รสชาติต้องอร่อยเท่านั้น ทว่าแม้แต่เครื่องมือเครื่องใช้ทุกชิ้นก็ยังต้องจัดวางให้ถูกต้องเหมาะสมอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตัวต้องบรรจงคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีมาประกอบอาหารเสมอ อย่าว่าแต่อาหารกล่องแช่แข็งอย่างนี้เลย ขนาดอาหารถุงจากร้านอาหาร เพียงฤทัยก็ไม่นิยม มีบ้างนานทีที่ผู้เป็นภรรยาจะออกไปรับประทานอาหารข้างนอกกับเขา และเพียงเขาชมอาหารจานใด เธอก็จะขวนขวายหาสูตรเด็ดไปหัดทำมาให้เขาชิมจนได้
ทว่าตรงหน้าเขานี้ผู้หญิงที่เขารักกลับเป็นทุกสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับเพียงฤทัยโดยสิ้นเชิง อันดามันไม่ทำกับข้าว ไม่เคยทำ และยืนกรานว่าไม่คิดจะหัดทำเสียด้วย เขาเคยถามหาเหตุผลเธอก็ตอบง่ายๆ
เราหาเงินมาลำบาก ก็ใช้มันให้คุ้มๆ กับที่เหนื่อยเพื่อมันสิคะ อยากกินอะไรก็ไปซื้อเอาดีกว่า เรื่องอะไรจะต้องมาลำบากลงมือทำเอง
ทัศนคติในการใช้ชีวิตที่สตรีทั้งสองมี ช่างต่างกันสิ้นเชิงราวหน้ามือกับหลังมือกระนั้น!
หลังจากรับประทานจนหมดชาม อันดามันก็วางช้อนลงบนโต๊ะ แล้วยกถ้วยพลาสติกขึ้นดื่มน้ำแกงที่เหลืออยู่จนเกลี้ยง
อร่อย! คนพูดทำหน้าทะเล้น ลุกขึ้นไปหย่อนชามพลาสติกลงถังขยะ แล้วถือช้อนไปที่อ่างล้างจาน ปากก็ชวนคุยในประเด็นที่อยากรู้ที่สุด แม่คุณรัณทราบไหมคะ ว่าคุณบอกคุณเพียงฤทัยเรื่องหย่าแล้วน่ะ
รู้สิ แล้วแม่ก็โกรธมากด้วย
จริงเหรอคะ หญิงสาวหันกลับมาทางต้นเรื่อง หยิบผ้าแห้งที่แขวนไว้ข้างๆ มาเช็ดมือ
หลังจากคุยกับฤทัยเรื่องหย่า ผมก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย ตอนสายๆ แม่ก็โทร.มาหา บอกว่าฤทัยกลับไปอยู่กับแม่ของเขาแล้ว แม่น่ะอาละวาดผมแล้วก็ขู่ด้วยว่าถ้าผมไม่ไปรับเพียงฤทัย วันนี้ก็ไม่ต้องกลับบ้าน
อันดามันสะใจที่ปัณรสีโดนเข้าซะบ้าง ถ้าแม่ไม่ให้กลับบ้าน แล้วคุณรัณจะทำยังไงคะ
ถ้าผมขอค้างที่นี่จะได้ไหมล่ะ บุรัณล้อเลียน
เจ้าของห้องหัวเราะชื่นมื่น ขืนเอ็มยอมให้คุณค้างที่นี่ แม่คุณต้องตามมาฉีกอกเอ็มแน่ เย้าเขาไปแล้วหญิงสาวก็ชะงัก ความคิดบางอย่างวาบขึ้นในใจ เป็นคล้ายเงาลางๆ ที่ปรากฎขึ้นในน้ำ คว้าไม่ได้ จับต้องไม่เจอ
คุณรัณคะ แม่คุณทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าคุณพูดเรื่องหย่ากับเพียงฤทัย เจ้าของห้องพักเรียบเรียงประโยคพยายามให้ตรงประเด็นที่ต้องการทราบให้มากที่สุด
ก็หลายวันแล้วล่ะ ตั้งแต่วันที่เอ็มไปภูเก็ตนั่นแหละ เอ็มอย่าถามนะว่าแม่มีปฏิกิริยายังไง ผมบอกได้เลยว่าคุณคาดไม่ผิดหรอก บุรัณพยายามให้ฟังสบายๆ แต่ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าไม่บอกเช่นนั้นเลยสักนิด
อันดามันขนลุกเกรียว แม้จะไม่ค่อยแน่ใจนักว่าสิ่งที่คิดจะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด แต่ใจหนึ่งก็อดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่าเหตุและผลบางเรื่องสนับสนุนกันลงตัวพอดี!
หรือว่า...น้ำกรดข่มขู่นั่นไม่ได้มาจากบุญธรรม ไม่ใช่ฝีมือของคีรี แต่บางทีคนบงการอาจเป็นปัณรสีก็ได้!
จริงอยู่ว่าออกจะเป็นการใส่ไคล้สุภาพสตรีสูงวัยที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ดูจากการที่ฝ่ายนั้นเคยแขวะเธอต่อหน้าพนักงานทั้งบริษัท เข่นเธอต่อหน้าภรรยาของบุรัณ มันก็มีเหตุสมควรน่าคิดมิใช่หรือ
แล้วนี่ลูกชายสุดรักของปัณรสีกำลังจะขอหย่ากับเพียงฤทัย นั่นอาจเป็นเหตุผลที่มากพอสำหรับให้คนแก่ที่ยังมัวเมาด้วยโมหะ และโทสะตัดสินใจทำอะไรน่ากลัวเกินคาดก็เป็นได้
อันดามันมีท่าทีหมกมุ่น ความกังวลที่เริ่มขุ่นข้นขึ้นในใจทำให้หญิงสาวตัดสินใจ
คุณรัณคะ เมื่อกี้ก่อนคุณมาเอ็มเพิ่งกินยาแก้หวัดเข้าไป ตอนนี้ชักเพลียๆ ง่วงๆ แล้วล่ะ ถ้ายังไงคุณกลับไปก่อนได้ไหมคะ เอ็มอยากจะนอนพักสักหน่อยน่ะค่ะ
ไม่พูดเปล่ามือบอบบางยังรั้งข้อมือชายหนุ่มดึงเขาลุกจากที่นั่ง แล้วรุนหลังไปที่ประตูห้องอีกด้วย
อะไรกัน เอ็มจะไล่ผมดื้อๆ อย่างนี้เลยเหรอ นี่ผมพูดอะไรผิดให้คุณโกรธหรือเปล่า
อันดามันส่ายหน้าทันควัน เปล่าค่ะ เอ็มไม่ได้โกรธอะไรเลยจริงๆ นะคะ เพียงแต่เอ็มง่วงมากเท่านั้นเอง คนพูดแกล้งยกมือปิดปากแล้วหาวเสียงดัง ถ้ามีอะไรเอาไว้เราคุยกันพรุ่งนี้ที่ออฟฟิซต่อก็แล้วกันนะคะ
เห็นท่าว่าบุรัณคงจะดันทุรังซักรายละเอียดต่ออีกนาน หญิงสาวจึงตัดสินใจยื่นหน้าไปปัดจมูกผ่านแก้มบุรัณฉาบฉวยแทนการตัดบท ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณรัณ ขับรถกลับบ้านดีๆ นะคะ
อันดามันโบกมือให้เขาแล้วคว้าประตูงับลงพยายามให้เบามือและดูเป็นปกติที่สุด เธอใส่โซ่นิรภัยและลงสลักกลอนทุกชิ้นรวดเร็ว จากนั้นรีบล้วงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าเสื้อคลุมขึ้นมากดเรียกไปยังเลขหมายหนึ่งด้วยหัวใจที่เต้นระรัว กรอกเสียงลงไปด้วยอาการเกือบจะเรียกว่าละล่ำละลักเลยก็ว่าได้
คุณศิราคะ เอ็มมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ
เจ้าของห้องกลับเข้าไปในห้องนอน เปิดระเบียงแล้วก้าวออกไปด้านนอก หญิงสาวหายใจลึกเพื่อรวบรวมสติก่อนจะเอ่ยต่อด้วยความไม่มั่นใจ คือ...เอ็มเพิ่งมานึกได้น่ะค่ะ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่กระทรวงฯวันนี้ บางทีอาจจะเกิดจากสาเหตุเรื่องชู้สาวก็เป็นได้!
อันดามันชั่งใจว่าควรจะเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด สุดท้ายจึงตัดสินใจเลือกเล่าเฉพาะส่วนที่พอจะเล่าได้ เอ็มเคยคบหากับผู้ชายคนหนึ่ง แต่แม่เขาไม่ชอบเอ็ม เมื่อเกือบหนึ่งปีที่แล้ว แม่ฝ่ายชายก็เลยบังคับให้แฟนเอ็มแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านเลือก ถึงเขาจะแต่งงานไปแล้ว แต่แม่เขาก็ยังคงกลัวว่าเอ็มจะไปแย่งลูกชายมาจากภรรยาเขาน่ะค่ะ หากบังเอิญเจอกันเมื่อไหร่ แม่เขาก็ยังคงตั้งป้อมเกลียดแล้วก็กระแนะกระแหนเอ็มตลอด เอ็มก็เลยคิดว่าเรื่องนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีคนขู่จะสาดน้ำกรดเอ็มก็เป็นได้
เท่าที่ฟังคุณเอ็มเล่า เหตุการณ์นี้มันก็เกิดขึ้นนานแล้วไม่ใช่หรือครับ ถ้าจะมีเรื่องก็น่าจะมีตั้งนานแล้ว ไม่น่าจะรอมาจนถึงป่านนี้
คือ...เอ็มเพิ่งทราบมาว่าผู้ชายคนนั้นเขากำลังจะหย่ากับภรรยาน่ะค่ะ เอ็มไม่แน่ใจว่าแม่เขาจะเหมาว่าเอ็มเป็นสาเหตุของการหย่านั่นหรือเปล่า เพราะตลอดเวลาที่ลูกชายเขาแต่งงานไป เอ็มก็ยังคงคบกับผู้ชายคนนี้อยู่ เอ้อ...เอ็มหมายถึงว่าคบแบบคนรู้จักกันน่ะค่ะ เธอรีบอธิบายความหมายของคำว่า คบ เสริมตอนท้าย เพราะเกรงว่าหากคนฟังรู้ว่าคนในเรื่องเป็นใคร ศิราคงจะประณามบุรัณว่าไม่ซื่อสัตย์กับภรรยา แถมยังจะกล่าวหาว่าเธอเป็นพวกผิดศีลข้อสามอีกด้วย!
เรื่องแค่นี้ไม่น่าจะถึงกับขู่กันรุนแรงมั้งครับ
อันดามันถอนหายใจจนได้ยินเสียงลอดเข้าไปในโทรศัพท์ ประเด็นก็คือ เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผู้ชายคนนี้เพิ่งบอกภรรยาว่าเขาต้องการหย่า แม่เขาก็รู้พร้อมๆ กัน แล้วพอมาวันนี้เอ็มก็เจอเรื่องอย่างนี้เลย คุณศิราไม่คิดว่ามันบังเอิญเกินไปหน่อยหรือคะ
ศิรานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนย้อนถามด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง ผมจะลองเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพ่อกับท่านนายพลกิตติอีกทีก็แล้วกัน เอ้อ...คือ...ผมรู้นะว่ามันออกจะเป็นการละลาบละล้วงกับเรื่องส่วนตัวของคุณไปหน่อย แต่ผมอยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นใช่คนที่ท่าทางเหมือนนักร้องเกาหลีนั่นหรือเปล่า
หญิงสาวขมวดคิ้ว นึกตามที่เขาว่าแล้วปฏิเสธ ไม่ใช่ค่ะ นั่นนาคร เขาเป็นลูกค้าของเอ็มต่างหากล่ะคะ
หากมิได้หูฝาด อันดามันคิดว่าเธอได้ยินเสียงเป่าปากด้วยความโล่งใจลอดมาจากโทรศัพท์เบาๆ เสียด้วย เธอเกือบจะแต้มยิ้มด้วยความเอ็นดูกึ่งๆ ขันอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะศิราจะโพล่งขึ้นต่อเนื่องทันควัน
ถ้าอย่างนั้น คุณเอ็มบอกผมได้ไหมว่าผู้ชายคนนั้น...เป็นใคร?
หญิงสาวชะงัก แล้วก็มาถึงคำถามที่เธอไม่อยากตอบที่สุดจนได้
ทั้งที่โกหกเพื่อถนอมความรู้สึกคนฟังมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่อันดามันไม่สบายใจและอึดอัดใจเช่นนี้ ถ้าทำได้เธออยากจะสารภาพความจริงทั้งหมดกับเขาเสียเลยด้วยซ้ำ แต่...
หญิงสาวถอนหายใจ แววตาประหลาดของศิราที่ทอดมาที่เธอยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำ เธอจะบอกความจริงเขาได้อย่างไร เธอคงทนให้เขามองด้วยสายตาเหยียดหยามดูถูกไม่ได้แน่ๆ
ท้ายที่สุดอันดามันหายใจเข้าลึก ใคร่ครวญทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองด้วยความรอบคอบแล้วจึงเอ่ยอย่างคนที่ตัดสินใจแล้ว...
ผู้ชายคนนั้นคือคุณบุรัณ...เจ้านายของเอ็มเองค่ะ!
จากคุณ |
:
สิริณ (แม่มณี)
|
เขียนเมื่อ |
:
วันจักรี 55 03:09:16
|
|
|
|