เมื่อชีวิตถูกกำหนดมาว่าต้องเกิด เมื่อชีวิตถูกกำหนดมาว่าต้องเรียนหนังสือ เมื่อชีวิตถูกกำหนดมาว่าต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ให้ได้ แล้วชีวิตฉันจะกำหนดหนทางฝั่งฝันของฉันไม่ได้เลยหรือ
***** มันแปลกมากไหมที่เด็กหนุ่มอายุ 22 ปี พึ่งเรียนจบ ป.ตรีมามาดๆ จะรู้สึกอิ่มตัวกับชีวิต กับงาน กับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ลักษณะจะประมาณ วัยทอง ก็ว่าได้ สิ่งใดที่ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้รู้สึกอย่างนั้นละ คงต้องเอ่ยถึงอดีตของเขากันหน่อยแล้วละ
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใจกลางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทย ลาว กัมพูชา มีครอบครัวชาวนา ที่สืบทอดเจตนารมณ์ จากบรรพบุรุษมุ่งมั่นทำนามาช้านาน เด็กหนุ่มคือหนึ่งในนั่น เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว อันประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ตา และพี่สาว เด็กหนุ่มถูกเลี้ยงดูด้วยระบอบ แม่ปกครองลูก น่าจะเกิดหลังระบอบ พ่อปกครองลูกนะ อันปกครองด้วย คุณหญิงแม่นั้นเอง ช่างกล้าใช้คำนี้กับตระกลูชาวนาอย่างเราๆเนอะ (อุ๋ย เราๆ โอเค เด็กหนุ่มคนนั้นคือฉันเอง) คุณหญิงแม่ปกครองฉันด้วยประโยคเพียงประโยคเดียวที่ว่า "ไผบ่เชื่อควมพ่อควมแม่ผีสิแกลงหม้อนารก" เอิ่มแปลเป็นภาษาไทยกลางว่้้า "ใครที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ผีจะลากลงนรก" ประมาณนี้ ด้วยสติปัญญาความสามารถของเด็กน้อยหอยสังข์ ตาดำๆหน้าตาดีๆคนหนึ่ง ก็คงจะต้องเออออห่อหมกไปกับคุณหญิงแม่ เมื่อฉันเริ่มโตขึ้น เป็นธรรมดาของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ที่จะต้องหาคลอสเรียนเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกรัก คุณหญิงก็คือหนึ่งในนั้น หลักสูตรแรกในการเรียนรู้ของฉันคือ ชาวนาศาสตร์ ศาสตร์ที่ว่าด้วยการทำนา ตั้งแต่ ไถ่นา จนกระทั่งถึง เก็บเกี่ยว ตามหลักแล้วมันก้น่าจะไม่เกิน 200 ชั่วโมงนะ แต่หลักสูตรนี้ชั่งยาวนานสะเหลือเกิน ตั้งแต่วัยเด็กน้อย ป.2 จน กระทั่งถึงวัยกะเตาะ ม. 6 จนฉันจบหลักสูตร ชาวนาดุษฎีบัณฑิต ขึ้นแท่น ชาวนาชำนาญการพิเศษ นั้นคือจุดเริ่มต้น ฉันเริ่มเอ่ยถามตัวเองว่า แกจะเป็นชาวนาตลอดชาติเลยหรือ ไม่ ไม่ ฉันจะไม่ยอม ม่ายยยยย แอบดรามาเล็กน้อย ( อุ่ยเจ้านายมา ทำงานก่อน ช่วยแนะนำกันหน่อยนะครับ เด๊่ยวมาต่อให้ "เลวมาก แอบเล่นในเวลางาน )
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 55 09:32:25
จากคุณ |
:
PAT (hi_per_hi)
|
เขียนเมื่อ |
:
วันจักรี 55 09:29:38
|
|
|
|