Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Nativity in black ........3 ติดต่อทีมงาน

ตอนที่แล้ว
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11889550/W11889550.html


*********
ความเดิม


จะไปหรือไม่ไป” เธอยื่นคำขาด

“ไม่..”

ปีศาจตัวจิ๋วทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง ลอยวนไปมาสองสามรอบแล้วบอกว่า

“ตามใจท่านก็แล้วกัน แล้วอย่ามาง้อนะ”

พูดจบก็สลายกลับกลายเป็นอากาศธาตุ ข้าถอนใจอย่างโล่งอก แต่รู้สึกใจหายเล็กๆกับคำพูดของภูติตัวน้อย

************

===============
Nativity in black ........3
===============



วีวี่ร์ภูติตัวจิ๋วหายไปแล้ว มองออกไปด้านนอกอาคารเห็นเปลวแดดเริ่มจัดจ้าขึ้นทุกที พวกมนุษย์บางคนซึ่งดูแล้วน่าจะอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับพวกที่จับข้ามาเมื่อคืนเหมือนจะพยายามหาอะไรบางอย่างมาให้กินแต่ข้าปฏิเสธเพราะเพราะไม่ได้รู้สึกหิวอะไร แต่ข้าเองยังอยากสัมผัสบรรยากาศในกรงขังต่อไป ในสถานที่แห่งนี้มีร่องรอยกลิ่นไอชั่วช้าเลวทรามองพวกฆาตกร ความหยาบคายการทำลาย และยังมีกลิ่นไอของความโศกเศร้าเสียใจสำนึกผิดแฝงอยู่แม้จะไม่มากมายก็ตาม

ยังมีคนที่สำนึกผิดเข้ามาอยู่ในกรงขังนี้ แม้จะไม่มากมายเท่าพวกแรกก็ตาม
ข้ายืนจ้องมองไปด้านนอกอย่างสงบนิ่งพักใหญ่ ก็เห็นมนุษย์ผู้หนึ่งถูกควบคุมตัวขึ้นมา สีหน้าท่าทางสายตาขุ่นขวางสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายชนิดหนึ่งแผ่ซ่านปกคลุมร่างเอาไว้เหมือนกลุ่มหมอกซึ่งสายตาพวกมนุษย์มองไม่เห็น นี่ไง ...คนที่อยากศึกษา  พวกมนุษย์ตัวอย่างซึ่งมีคุณค่าในการเก็บข้อมูล

“เข้าไประงับสติอารมณ์อยู่ในนั้น”

มนุษย์ที่จัดเป็นพวกตำรวจเปิดกรงขังแล้วผลักร่างของมนุษย์ท่าทางชั่วและบ้าเข้าใสในกรงเดียวกับข้า ดีแล้ว ..จะได้ศึกษามันเหมือนศึกษาวิญญาณชั่วในห้องปฏิบัติการในสมัยข้ายังเป็นปีศาจฝึกหัดระดับต้นๆ

มนุษย์ตนนั้นแผดเสียงร้องดัง ทั้งด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายระดับศูนย์ (เป็นระดับการด่าที่ถือว่าสกปรกและหยาบคายที่พวกมนุษย์จะสามัญสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยภาษาของพวกเขา) ข้าชักจะเริ่มพอใจหมอนี้เสียแล้วสิ ไม่แน่ว่าเอาไปพัฒนาอีกสักระยะอาจลงไปเกิดเป็นสัตว์ปีศาจเฝ้านรกได้

สักพักหนึ่ง มนุษย์ตนนี้คงเหนื่อยและอ่อนล้า มันหลุดส่งเสียงและเริ่มหันมองไปมา แน่นอนว่ามันไม่ได้เกรงกลัวข้าเลยสักนิด เพราะจิตใจอันมืดดำที่ปกคลุมจนไม่รู้ว่าดีหรือชั่วผิดหรือถูก

“มะอึงมองอะไรกะรูฟะ.....”  

ขนาดพูดยังพูดไม่ชัด คงเป็นเพราะความเมามากกว่าอย่างอื่น  แต่แล้วมันก็ทำสีหน้าแปลกใจกับตัวเอง

“ทำไมกะรูพูดไม่ชัดว่า ทะลึ่งไม่ชัดอยู่สองคำ คำอื่นชัดหมด นี่มันอะไรกันฟะ”

เจ้าคนนี้ท่าทางมันจะอาการหนัก ข้ารู้ว่ามันสาเหตุเพราะอะไรที่มันพูดไม่ชัด แต่ไม่อยากอธิบาย เพราะถึงพูดไปมันก็ไม่รู้เรื่อง แต่สิ่งที่อยากรู้คือความชั่วที่มันทำเป็นชนิดใดกันแน่

“มะ อึง.....กะ รู........”  

มันพยายามลองพูดคำหยาบคายที่ไม่สามารถพูดชัดนั้นออกมาสุดชีวิต แต่ปราศจากผล ฟังดุยังเพี้ยนเหมือนเดิมท่าทางของมันมีปัญหากับการพูดเหลือเกิน “อะไรกัน..อยู่ข้างนอกยังพูดได้ชัด ทำไมตอนนี้พูดไม่ชัดฟะ”

“เจ้าไปทำอะไรมา”

ข้ายอดกอดอกถามมันเสียงเรียบๆ มันมองแล้วเบิกตากว้างย้อนถามว่า

“แล้วทำไมพูดภาษาลิเกฟะ อ๋อ สงสัยเป็นพระเอกยี่เกตกยาก ปลอมตัวมาหารักแท้ แล้วก็ตามมานางเอกบ้านนอกมีปานรูปหัวใจอยู่แก้มก้นซ้าย....ตอนจบกลายเป็นทายาทเศรษฐี”

“ไอ้บ้า....”

ข้าแยกเขี้ยวใส่ทำเอามันสะดุ้งสีหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงจะมีรังสีชั่วและเมาปานใดอย่างน้อยมันก็เริ่มพอจะรู้สึกแล้วว่า คนอยู่เบื้องหน้าไม่ธรรมดา

“กะรู..แน่ะ ไม่ชัดอีกแล้ว เอาใหม่ก็ได้  บอกให้ก็ได้ ข้าไปจับตัวประกันมาว่ะ อ้าว เอ้ย...คำนี้กลับพูดแล้วชัดโว้ย ข้าๆๆๆๆ.......โห ชัดแจ๋ว! งั้นข้าพูดคำนี้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องลำบาก”

ท่าทางของมนุษย์ตนนี้เหมือนคนสติเสีย แต่ยังพูดจาพอรู้เรื่อง “ ข้าก็เมายา รู้จักไหมเมายา ยาบ้าน่ะ แหม หาซื้อง่ายจะตายทุกวันนี้ เมายาแล้วมันก็ต้องหาเรื่องให้คนอื่นสนใจสิตามหลักสากลธรรมเนียมของการเมายา ข้าเลยจับเมียตัวเองเป็นประกันซะเลย ง่ายๆ  ไม่ต้องไปลำบากเดินหาที่ไหนให้เหนื่อย แล้วแกรู้ไหม...” มันเอียงหน้ามากระซิบกระซาบจนได้กลิ่นเหม็นนรกแตก ลดเสียงลงเหมือนกำลังจะพูดเรื่องสำคัญ

“แกรู้ไหมว่า ข้าทำเท่ยืนเอามีดจ่อคอตัวประกันตั้งหลายชั่วโมง ไม่มีใครกล้าทำอะไร ดังระดับขั้นเทพปานดารา  มีพวกนายตำรวจยศใหญ่โตให้เกียรติมาสัมภาษณ์ด้วยเฟ้ย แหม...ทำไปได้ ออกทีวีด้วยวุ้ย.. เอาคนดีๆมาพูดกับคนบ้า โอย...ขำอุจจาระแตกอุจจาระแตน  เห็นว่าจะเอาหลวงพ่อมาหาข้าด้วย เอาคนดีๆมาพูดกับคนบ้ายังไม่พอ ยังจะเอาพระมาคุยกับคนบ้า คิดได้ไงพวกนี้ ไม่งั้นพวกคนโรคประสาทแด๊กทั้งหลายก็เอาเข้าวัดไปเลย เอาไปเข้าโรงพยาบาลบ้าทำไม”


พูดจบมันก็หัวเราะจนตัวงอ ข้าฟังแล้วคิดตามคำพูดของเจ้าหมอนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่าสังคมพวกมนุษย์นี่มันช่างพิลึกดีแท้ ความคิดความอ่านคนเมายามันก็น่าสนใจดีเหมือนกัน

“รู้ไหม...สุดท้ายเป็นไง”

หลังจากหัวเราะจนพอใจมันก็เงยหน้าขึ้นมาถามและเล่าต่อโดยไม่สนใจคำตอบ

“เผลอกดมีดแรงไปหน่อย เมียข้าทะลึ่งตาย ข้าเลยโดนจับได้ พอไม่มีตัวประกันแล้วทำเป็นเก่งพวกนี้ ตัวประกันตายคามือถึงยอมเก่ง แหม กำลังมันส์อยู่เชียว ตอนนี้ข้าอยากทำอะไรที่หนักกว่านี้ กำลังจะคิดลงไปแถวภาคใต้แล้วหาคาร์บอมบ์สักคัน...แล้ว..”

พูดยังไม่ทันขาดคำต้นคอของมันก็สะบัดอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงดังกร๊อบ ร่างทรุดลงพิงผนังห้องแน่นิ่งไปทันที

เปล่า....ข้าไม่ได้ทำอะไรมัน ข้าให้รางวัลมันต่างหาก พวกมนุษย์ไม่เข้าใจรางวัลของชาวเบื้องล่างกันหรอก สำหรับรางวัลของหมอนี่ที่ได้รับจากข้าคือการเป็นอัมพาตไปครึ่งซีกตลอดชีวิตที่เหลือ ความจริงก็นึกเสียดายในแง่ที่ว่าวิญญาณชั่วๆถูกใจแบบนี้น่าจะลากลงไปนรกมากกว่า แต่จนใจที่ว่าข้าเองก็กลัวว่าพวกเบื้องบนจะสแกนเจอข้าเหมือนกัน ดังนั้นการกระทำหรือเคลื่อนไหวต่างๆ ต้องแนบเนียนที่สุด

เจ้ามนุษย์ตนนี้หมดความสำคัญไปแล้ว เหมือนเศษขยะที่นรกไม่ต้องการ  และได้รางวัลไปแล้ว


มีเสียงดังเหมือนแมลงอยู่ข้างหู ภูตน้อยตัวจิ๋วบินกลับมาอีกครั้งด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม

“ในที่สุดท่านก็เริ่มโหดเป็นแล้ว”

“โหดอะไร..”
ข้ามองหน้าวีวรี่ไม่ถนัดนักเพราะเธอบินวัดเฉวียนไปมาไม่รู้นิ่ง

“ก็ท่านเริ่มทำร้ายคนเป็นแล้ว”

“เจ้าตัวนี้ไม่ใช่คน หรืออย่างน้อยก็มีความเป็นคนสมบูรณ์พอ”

“ท่านเลยจัดการมันแบบนั้น”

ภูตสาวหันไปพยักหน้าให้มนุษย์ผู้ได้รับรางวัลครึ่งซีกซึ่งยังพิงผนังตัวแข็งทื่อเหมือนหุ่นเชิดไร้สายควบคุม  “แบบนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีว่าต่อไปท่านต้องฆ่าคนกินเลือดได้”

แล้วกลับมาทำไม” ข้าเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากพูดถึงการกินมนุษย์

“ก็มาดูท่านว่าอยู่เป็นปกติสุขดีไหม”

“ไม่ต้องลำบากมากขนาดนั้นก็ได้ ว่าแต่เห็นบอกว่าเจ้าเคยไปแอบนอนคลับมาในบาร์ในผับมา กลายเป็นปีศาจใจแตกแล้วหรือไง”

“บ้า.”

ปีศาจสาวร้องเสียงสูง “ข้าไปศึกษางานต่างหาก พวกเราไม่รู้ว่าบนพื้นโลกนี้จะมีวิญญาณชั่วระเหยขึ้นมาบนโลกได้แค่ไหน มีพวกเบื้องบนแอบลงมาสังเกตการณ์เท่าไร ข้าเองก็ต้องซอกซอนไปทุกที่ รู้หรือยังว่างานข้ามันเหนื่อยแค่ไหน”

ไม่รู้”

วีวี่แสยะหน้าเป็นการล้อเลียนอย่างกวนประสาทแล้วรีบบินห่างออกไปให้พ้นรัศมีฝ่ามือเพื่อความปลอดภัยทั้งที่ข้าเองก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรแบบนั้น  จะว่าไปแล้วภูตน้อยตัวนี้ก็น่ารักดีถ้าไม่นึกถึงการชอบพูดจากวนประสาท ร่างจริงของเธอก็น่ารักไม่ใช่น้อย แต่ดูเหมือนเธอจะชอบอยู่ในร่างภูตตัวจิ๋วจนเคยชินไปแล้ว

“คืนนี้ข้าว่าจะพาท่านไปดูงานด้วย” แล้วเธอก็เข้ามาทาบทามแบบมีเลศนัย “ว่าแต่ท่านกล้าไปไหมล่ะ”

“ไปไหน”

“อืมม์....เป็นแหล่งที่พวกมนุษย์เรียกว่า โรงนวดแผนโบราณ หรือ อบอาบนวด”

“ข้าพยายามคิดว่าที่สถานที่ว่ามานี้เป็นอย่างไร ก็เสียดายว่าคู่มือเล่มหนาหายไปแล้วระหว่างการเดินทาง เลยนึกไม่ออก ปีศาจอย่างข้าถึงจะเรียนจบมาด้วยความยากลำบากเพียงไม่กี่ตัวในรุ่น ก็ใช่ว่าจะรู้อะไรมากมายบนโลกมนุษย์ เพราะพวกมนุษย์เปลี่ยนแปลงสังคมได้รวดเร็วมากเมื่อเทียบกับพวกเบื้องล่าง

“อบอาบ นวด ร้านทำอาหารใช่ไหม”

 ข้าถามแบบไม่แน่ใจ วีวี่ร์เป็นมือปิดปากหัวเราะคิก

“ทำไมท่านคิดแบบนั้น”

“ก็เห็นมีทั้งวิธีการอบ อบนี่น่าจะหมายถึงการอบด้วยความร้อนจนได้ที่ แล้วนวดก็น่าจะเป็นการนวดอาหารชนิดหนึ่งที่เรียกว่าแป้ง แต่ข้าไม่เข้าใจว่า อาบ นี้ มันอาบอะไร ขั้นตอนไหนของกระบวนการ ทำไมไม่เรียกว่า ล้าง แบบล้างถ้วยชาม เป็น อบ ล้าง นวด”

คราวนี้ภูตตัวจิ๋วหัวเราะจนตัวงอทำเอาบินเฉไปเฉมา

“ไม่ตอบดีกว่า ไวให้ท่านไปศึกษาดูงานเอง”

ขณะพูดเธอยังไม่หยดหัวเราะ “เรื่องบางอย่างอธิบายไม่ออก บอกไม่ถูก ว่าแต่ท่านตกลงใจจะไปไหม ถ้าตกลงเย็นๆ ข้าจะมารับ”

“ไปก็ได้”

ข้าพยักหน้ารับปาก อยากรู้เหมือนกันว่าสถานที่ว่านี้มันคืออะไร โบราณขนาดไหน เป็นสถานที่ทำอาหารแบบใดกัน และหวังว่าถึงจะเป็นสถานที่อันไม่คาดคิด มันคงไม่ใช่สถานที่ฝึกจิตภาวนาอะไรแบบนี้ เพราะเรื่องแบบนี้ข้าฝึกมาจนคิดว่าน่าจะเพียงพอแล้ว

“ท่านรับปากข้าแล้วนะ”

“ก็ใช่สิ”

“งั้นเจอกันคืนนี้ ว่าแต่ตอนนี้มีคนมาหาท่านแล้ว ข้าไปก่อนล่ะ”


ว่าพลางภูตตัวจิ๋วก็ยิ้มกริ่มพลางขยับปีกน้อยๆของเธอจนหายลับไปกับอากาศ




*****************

จากคุณ : GTW
เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 11:08:07




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com