ตอนที่ 5
เฮ้อ ญิณราถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ หน้าตาบ่งบอกได้ว่ากำลังคิดมาก จนทำให้ปติกรณ์ที่กำลังพิจารณาเอกสารต้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย
เป็นอะไรคุณหยิน กลุ้มใจอะไรหรือเปล่า
เอ่อ...คือ...เอ่อ...คือว่า...คือ ญิณราอ้ำอึ้ง เธอไม่รู้ว่าเรื่องที่เธอกำลังคิดมากอยู่นี้สมควรจะบอกให้เจ้านายของเธอรู้ดีหรือไม่ เธอกลัวว่าถ้าเจ้านายรู้แล้วจะโกรธที่เธอยังคงคิดมากอยู่อีก
คือ...คืออะไรล่ะคุณหยิน มีอะไรก็บอกผมได้ ผมไม่ว่าอะไรคุณหรอก ปติกรณ์พูดพลางปิดแฟ้มเอกสารวางลงบนโต๊ะ ส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับหญิงสาว
เขากับญิณรารู้จักและทำงานมาด้วยกันสองปี ความรู้สึกของเขาต่อหญิงสาวคือเห็นหญิงสาวเหมือนเป็นพี่สาวแท้ๆคนหนึ่ง เมื่อมีอะไรไม่สบายใจก็อยากจะรับฟังและช่วยเหลือ
คือ..ดิฉันรู้สึกกลุ้มใจกับ...เรื่องเมื่อวานนะคะ ที่โกหกคุณหญิงไปแบบนั้น ญิณราตอบพลางทำสีหน้าเป็นกังวล
เมื่อคืนคุณหญิงพิสมัยดันไปเห็นฉากที่เธอและรองประธานหนุ่ม คุณพัฒนา หลานชายสุดที่รักกำลังนั่งกอดกับเธออยู่กลางห้องรับแขกที่บ้านของชายหนุ่ม และดันเกิดไปเข้าใจผิดว่าทั้งเธอและเขาเป็นแฟนกันโดยที่เธอไม่ทันได้อธิบายความจริง
หลังจากนั้นเธอจึงมีความคิดจะไปขอโทษและอธิบายความจริงแกคุณหญิงพิสมัย แต่ว่าทั้งปติกรณ์ พัฒนา และมินตรา แฟนสาวของปติกรณ์ ต่างก็ห้ามเธอไว้ในขณะที่กำลังนั่งรถของปติกรณ์กลับไปยังห้องพักของเธอ
โดยที่ทั้งสามคนให้เหตุผลว่าคุณหญิงพิสมัยเป็นคนที่หัวโบราณมาก ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจหรือเข้าใจผิด คุณหญิงพิสมัยก็เห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควร ยกเว้นเสียแต่จะรักกันชอบกัน เหมือนอย่างที่ปติกรณ์และมินตรารักกัน
ปติกรณ์ถอนหายใจเบาๆ ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม ก่อนจะหันไปพูดกับหญิงสาว
ก็อย่างที่พวกเราบอกไปเมื่อคืน ถ้าคุณยังไม่อยากโดนมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี ก็อย่าทำให้ท่านสงสัยก็แล้วกัน
แต่ท่านประธานคะ ดิฉันจะทำยังไงไม่ให้ท่านสงสัยได้หล่ะคะ ญิณราแย้ง เพราะอันที่จิรงดิฉันกับท่ารอง เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนะคะ
นั่นซิ เธอกับรองประธานหนุ่มไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆสักหน่อย ถ้าเกิดวันหนึ่งเมื่อเขามีคนรักจริงๆคุณหญิงพิสมัยก็ต้องรู้ว่าทั้งหมดนี่เป็นเรื่องโกหก
และอาจจะโกรธเธอไปมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เมื่อนึกขึ้นได้อย่างนั้น จู่ๆหัวใจหญิงสาวก็เต้นแรงผิดปกติ รู้สึกอึดอัดอยู่ในอกเหมือนมีใครนำอะไรมาทับไว้
นี่เรากำลังเป็นอะไรนะ
ก็....
ก็ทำเนียนต่อไปซิคะ ยังไม่ทันที่ปติกรณ์จะเอ่ยตอบ ทันใดนั้นเองเสียงหวานใสของเด็กสาวก็ดังขึ้น ญิณราหันหน้ากลับไปมองยังต้นเสียง ก่อนจะเห็นมินตรา แฟนสาวของประธานหนุ่มกำลังยืนยิ้มส่งมาให้พวกเขาอยู่
อ้าวมิ้นท์ มาได้ยังไงเนี่ย ปติกรณ์เอ่ยถามขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นและเดินตรงไปหาแฟนสาวพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ปิดบังว่าดีใจขนาดไหน
มิ้นท์ก็นั่งรถมาซิ เดินมาคงจะไหวอยู่หรอก พี่ตี้ถามอะไรแปลกๆ มินตราตอบพลางทำหน้าตาเง้างอนใส่แฟนหนุ่ม ปติกรณ์ยกมือขึ้นเขกหัวเด็กสาวเบาๆ
นี่แนะ เอาดีๆซิ อย่ามาเล่นน่า
โอ้ย โหดร้าย แฟนใครเนี่ย โหดร้ายที่สุด คอยดูนะถ้ามาเป็นแฟนเค้าจะบอกเลิกทันทีเลย มินตราแกล้งทำเป็นเจ็บพลางยกมือขึ้นลูบหัว ก่อนจะแลบลิ้นใส่ชายหนุ่ม ปติกรณ์อมยิ้มกับอาการขี้งอนและแกล้งประชดของคนตรงหน้า ให้ตายซิ น่ารักจริงๆเลย
จ้าๆ ถ้ามิ้นท์กล้าบอกเลิกพี่นะ พี่จะ.... ปติกรณ์หยุดคำพูดไว้แค่นั้น ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ใส่มินตรา เด็กสาวเองก็ไม่ยอมแพ้ ทำหน้าตาหาเรื่องชายหนุ่มด้วยท่าทีกวนประสาท แต่มันกลับดูน่ารักในสายตาปติกรณ์ และทั้งญิณราที่กำลังมองอยู่ด้วย
จะ จะอะไร
ก็จะจับมาหอมแก้มซะให้เข็ดยังไงหล่ะ ปติกรณ์ตอบ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมินตราในขณะที่เด็กสาวไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งสองแกล้งกันอย่างกระหนุงกระหนิงไปมา ราวกับว่าทั้งโลกนั้นมีเพียงแค่สองเรา
ญิณรามองทั้งสองคนหยอกล้อไปมา ก่อนจะเสหน้าหันไปมองทางหน้าต่างด้วยความเขินอาย สงสัยทั้งสองคนจะลืมไปแล้วว่าในห้องนี้ก็มีเธออยู่ด้วย หยอกล้อกันซะทำให้เธอเขินอายแทนเลยจริงๆ คนมีความรักนี่ดีจังเลยน้า
แหมๆๆๆ สวีทกันจังเลยน้า มดจะขึ้นเต็มบริษัทอยู่แล้ว เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น ญิณรารีบหันกลับไปมองยังประตูเพราะมันเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี แถมยังเป็นคนที่ทำให้เรื่องวุ่นวายเมื่อวานทั้งหมดทั้งปวงเกิดขึ้นด้วย คุณพัฒนา
แต่ด้วยความบังเอิญหรืออย่างไร ทันทีที่ญิณราหันไปมองชายหนุ่ม ก็เป็นจังหวะเดียวกันที่พัฒนาหันมามองเธอเช่นกัน สายตาของทั้งสองคนประสานกันอยู่สักพัก ก่อนที่ญิณราจะหลบสายตาก้มลงไปมองพื้น หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ
อันที่จริงอาการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานตอนนั่งรถกลับไปยังห้องพักของเธอแล้ว ทันทีที่พัฒนาหันมามองหน้าเธอ มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ
อ้าว ไอ้พัต นึกว่าใครที่ไหน ก็คนเค้ารักกัน เลยจะสวีทกันไม่ได้เหรอไงห๊ะ ปติกรณ์ตอกกลับ พัฒนาทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะส่งยิ้มให้กับหญิงสาวที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาก่อนจะหลุบลงไปอีก
ก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย พัฒนาตอบ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง ยืนข้างๆหญิงสาว ญิณราเงยหน้ามองชายหนุ่มอย่าไงไม่ไว้วางใจ จะทำอะไรอีกรึเปล่าเนี่ย
อิจฉาเราสองคนใช่มั้ยคะพี่พัต ตัวเองก็อยากหวานบ้างใช่ป่ะ ฮิฮิ มินตราเอ่ยทีเล่นทีจริง หัวเราะน้อยๆอย่างน่าเอ็นดู ปติกรณ์ที่รู้ความนัยที่แฟนสาวเอ่ยแซวลูกพี่ลูกน้องของตนยิ้มขำ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ทั้งสองคนสลับไปมาอย่างมีเลศนัย
อ้อ ที่แท้ก็...อื้ม...แบบนี้นี่เอง
โธ่ ท่านประธานคะ คุณมินตราคะ อย่าพูดแบบนี้ซิคะ มันไม่ดีนะคะ ดิฉันยิ่งกลุ้มใจเรื่องนี้อยู่ด้วย ญิณราเอ่ยขึ้น เธอก็ไม่ได้ฉลาดน้อยพอที่จะไม่รู้ความหมายที่ทั้งสองคนพูดอยู่ แต่เธอรู้มันดีเลยหล่ะ เธอเองก็เคยมีความรัก มีคนรักมาก่อน ทำไมเธอจะไม่รู้...
อ้าว มันไม่ดียังไงครับคุณหยิน พัฒนาเอ่ยถาม ญิณราหันมามองพัฒนา ก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่ ให้ตายซิ ไม่เป็นเดือดเป็นร้องมั่งหรืออย่างไรนะ
อ้าว ก็มันไม่ดีตรงที่ หนึ่ง เราโกหกคุณหญิงพิสมัย ถ้าเกิดท่านรู้ความจริงเข้า ท่านจะต้องโกรธดิฉันมากแน่ๆ สอง ถ้าเกิดพนักงานคนอื่นรู้เข้า พวกเขาจะเอาไปพูดกันเสียๆหายๆได้นะซิคะ ญิณราอธิบาย
อันที่จริงนั้นยังมีข้อสามอีก ก็คือ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ ความรู้สึกอะไรบางอย่างแปลกไป มันคล้ายจะไม่เหมือนเดิม แต่เธอเองก็ยังไม่รู้
ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลยนี่ครับคุณหยิน ผมไม่เห็นจะกลัวอะไรเลย พัฒนาเอ่ยตอบ พลางหยักคิ้วหลิ่วตาให้หญิงสาว ถึงแม้เรื่องที่เกิดขึ้นมันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะแก้ไขหรือแก้ข่าวแต่อย่างใด ให้มันเป็นไปแบบนี้หล่ะดีแล้ว
ท่านรองคะ ท่านไม่กลัว แต่ดิฉันกลัวนี่คะ
กลัวทำไมครับ เป็นแฟนผมนี่ไม่ดีตรงไหนเหรอ
โธ่ ท่านรองคะ ท่านรองเข้าใจอะไรบ้างไหมคะ
เข้าใจอะไรครับ ผมก็เป็นคนเข้าใจง่ายนะครับ แต่เข้าใจอะไรที่คุณหยินหมายถึง คือเข้าใจอะไรเหรอครับ
โธ่ ท่านรอง ญิณราพูด เธอรู้สึกยิ่งพูดเหมือนยิ่งทำให้ทั้งเธอและชายหนุ่มต่างคนต่างไม่เข้าใจกันมากขึ้น เธอมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะก้มหน้าหันไปมองอีกด้านของห้อง โอ๊ย กลุ้ม พูดกับคนไม่รู้เรื่อง จะทำยังไงดีเนี่ย
โธ่อะไรครับคุณหยิน พัฒนายังคงกวนญิณราไม่เลิก การได้เห็นหน้าตาของหญิงสาวกำลังเคืองหรือไม่สบอารมณ์เพราะเขา มันเหมือนเป็นความสุขเล็กๆ เขาไม่ใช่คนซาดิสท์ เพียงแต่ว่าการที่หญิงสาวที่ทั้งเรียบร้อยและดูสุขุม เดือดได้เพราะเขา นั่นก็แปลว่าเขาเองก็มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยทีเดียว
...ครืด...ครืด...ครืด...
เสียงโทรศัพท์มือถือสั่นดังขึ้น มินตราล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เผยยิ้มเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าปลายสายที่โทรเข้ามานั่นคือใคร ก่อนจะกดรับ กรอกเสียงหวานใสทักทายอีกฝั่งผ่านลงไปในโทรศัพท์
สวัสดีคะคุณป้าพิสมัย ทันทีเด็กสาวเอ่ยชื่อของอีกฝั่งขึ้น ทุกคนในห้องต่างหันมามองเธอกันเป็นตาเดียว โดยเฉพาะญิณรา ที่กำลังเป็นกังวลที่สุดอยู่ ณ ตอนนี้ เธอกลัวสารพัดสารเพ โดยเฉพาะกลัวจะโดนคุณหญิงพิสมัยจับได้ว่าโกหก
อะไรนะคะคุณป้า...เย็นนี้เหรอคะ...ได้ซิคะ มิ้นท์ว่างอยู่แล้วค่ะ...อ้อ...ใช่ค่ะ...ตอนนี้มิ้นท์มาหาพี่ตี้ที่บริษัทน่ะค่ะ...คะ...ใช่ค่ะ...คุณญิณราเองก็อยู่ด้วยค่ะ...อ้อค่ะ...ค่ะ..ได้ค่ะ...แน่นอนค่ะ มิ้นท์รับรองเลยค่ะ..ได้ค่ะ...ค่ะ..เจอกันเย็นนี้ค่ะ สวัสดีค่ะ
มินตราสนทนากับปลายสายไม่ถึงสามนาทีก่อนที่อีกสายจะวางสายไป ทันทีที่การสนทนาเสร็จสิ้น ญิณราแทบจะถลาเข้าไปหาเด็กสาวด้วยความกังวล เพราะในบทสนทนานั้นเธอได้ยินเด็กสาวพูดชื่อของเธอขึ้นมาด้วย เธออยากจะรู้ว่าคุณหญิงพิสมัยคุยเรื่องอะไรเกี่ยวกับเธอ แต่ด้วยความที่เธอโตแล้วและรู้จักหักห้ามความคิดที่ดูไม่ดีไม่สุภาพ จึงไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป ได้แต่เพียงยืนทำหน้ากังวลอยู่อย่างนั้นที่เดิม
คุณแม่ท่านว่าอะไรมั้งเหรอมิ้นท์ ปติกรณ์เอ่ยถาม เมื่อวานที่เขาได้ขับรถพาคุณแม่และมินตรากลับมากรุงเทพฯพร้อมกัน ทั้งสองคนต่างพูดคุยสนทนากันอย่างสนิทสนม ถึงแม้จะเป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน และยังได้แลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ของกันและกันอีกด้วย การรอคอยของเขาและเด็กสาว ต่างบรรลุผลเป็นผลรักที่ดีและสวยงาม เป็นผลที่คุ้มค่ามากมายมหาศาลยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
ท่านบอกว่า....เอ่อ...ท่านบอกว่า... มินตราพูดอย่างอ้ำอึ้งๆ ก่อนจะมองไปยังทุกคนด้วยสายตาเป็นกังวล ญิณราหน้าซีดเมื่อเห็นท่าทางของเด็กสาว หมายความว่า...
อะไรหล่ะมิ้นท์ พัฒนาเร่ง เขาไม่ได้กลัว แต่เพียงแค่อยากรู้
โอเคๆ ได้ๆ คือ...คุณป้าบอกว่า...
ว่า!/ว่า!. พัฒนาและปติกรณ์ประสานเสียงกัน โดนที่ญิณรายังคงยืนเงียบ
ว่า...เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันนะ มินตราเอ่ยออกมาในที่สุด ปติกรณ์ยิ้มขำในความขี้เล่นของแฟนสาว ส่วนพัฒนาทำหน้าเบื่อด้วยความเซ็ง ก่อนจะเอ่ยถามอีกรอบ
แล้ว...คุณป้าว่ามาแค่นี้เหรอ
เปล่าคะ คุณป้าท่านว่า ให้ชวนคุณญิณราไปด้วยคะ เมื่อเด็กสาวพูดจบ ญิณราทำหน้าตกใจ ก่อนจะยกนิ้วชี้หน้าตัวเองอย่างงงๆ ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์
ดิฉันเหรอคะ คุณหญิงพิสมัยชวนดิฉัน ทำไมหล่ะคะ
อ้าว ก็คุณหยินเป็นแฟนกับไอ้พัตนะซิครับ ปติกรณ์ตอบ ญิณราแดงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าแฟน ก่อนจะสะบัดหน้าเล็กน้อยเป็นการเตือนสติ
แต่ว่าฉันกับท่านรองไม่ได้...
ก็แกล้งๆทำให้สมจริงไงคะ มินตราเอ่ย หันไปสบตากับปติกรณ์แฟมหนุ่มของตน ปติกรณ์เองก็ยิ้มกับคำแนะนำของแฟนสาวของตน
ใช่ครับคุณหยิน เนียนๆไปแหละครับ อย่างที่ผมบอกไป คุณแม่ของผมท่านค่อนข้างจะซีเรียสกับเรื่องพวกนั้น ถ้าท่านรู้ว่าคุณกับไอ้พัตไม่ได้เป็นอะไรกัน คงจะไม่ดีแน่ๆ ปติกรณ์เสริม
พัฒนายิ้มร่ากับคำพูดของลูกพี่ลูกน้องคนสนิท ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ของแท้ต้องเขากับปติกรณ์ของแท้เลย
แต่ว่า... ญิณราอึกอัก โกหกแล้วยังต้องมาโกหกอีก ความรู้สึกตอนนี้ของคนที่ไม่ชอบการดกหกของเธอ มันรู้สึกแย่เหลือเกิน
ถ้าไม่เก่งไม่กล้าพอก็ไม่เป็นไรนะครับคุณหยิน เดี๋ยวผมจะไปบอกคุณป้าท่านเองว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องโกหก พัฒนาพูดพลางแกล้งทำหน้าตาดูถูกหญิงสาว เขารู้ว่าเธอไม่ชอบการพ่ายแพ้ รับปากสิ่งใดแล้วก็ต้องทำให้ได้ เมื่อลงแข่งแล้วก็ต้องสู้จนชนะ ถ้าเขาคาดการณ์ไม่ผิด หญิงสาวคงจะไม่ชอบให้เขามาดูถูกเธอ ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้านายของเธอก็ตาม
ไม่เก่งไม่กล้าพอยังไงคะท่านรอง กรุณาอธิบาย ญิณราเริ่มมีน้ำเสียงโมโห อย่าถือตัวว่าเป็นเจ้านายหรือใครทั้งนั้นแล้วจะมาดูถูกเธอ มนุษย์เกิดมามีความเป็นมนุษย์เท่ากัน การดูถูกเหยียดหยามเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบมากที่สุด
ก็ไม่เก่งพอที่จะแสดงให้สมบทบาทว่าเป็นแฟนกับผมยังไงหล่ะครับ พัฒนายังคงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงดูถูก เขาไม่ได้ดูถูก แต่กำลังกระตุ้นหญิงสาวต่างหาก
แล้วถ้าดิฉันทำได้ ท่านรองจะว่ายังไงคะ
ก็ไม่ว่าอะไร แต่ว่าคุณคงทำไม่ได้
ทำไมดิฉันจะทำไม่ได้คะ
ก็คุณไม่กล้าที่จะทำ
งั้นดิฉันจะทำ ดิฉันจะแกล้งเป็นแฟนคุณให้สมจริงที่สุด คอยดูซิ! สิ้นคำพูดของญิณรา พัฒนาหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่หญิงสาวเมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ก็ยกมือข้างซ้ายขึ้นมาตบหน้าผากเบาๆอย่างโมโหตัวเอง นิสัยไม่ยอมให้ใครมาเหยียดหยาม ไม่ยอมให้ใครมาดูถูก จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี และดูเหมือนว่าคราวนี้นิสัยนี้จะเป็นนิสัยที่ยอดแย่ที่สุดของเธอ
เฮ้อ ญิณราถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหันไปมองรองประธานหนุ่มที่หันมาหยักคิ้วหลิ่วตาให้เธออีกรอบ หึ ชอบแกล้งกันมากนักใช่มั้ย คอยดูเถอะ จะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู
ปติกรณ์และมินตรายืนมองดูพัฒนาและญิณราสนทนาด้วยความขำ ก่อนที่เด็กสาวจะกระซิบข้างหูของแฟนหนุ่มเบาๆเพื่อไม่ให้ทั้งสองคนได้ยิน
คุณญิณราแกเป็นคนเก่งจริงๆนะคะ แต่ว่ายังแพ้ทางของพี่พัตอยู่อีกเยอะเลย
ฮ่าๆๆ มิ้นท์เองก็คิดยังงั้นเหรอ
จริงๆนะ เมื่อวานมิ้นท์มองคุณญิณราแกปร๊าดเดียว มิ้นท์ก็รู้แล้วว่าแกเป็นคนเก่ง แต่ไม่ยักรู้ว่าพี่พัตจะเก่งกว่าอีก
ไอ้พัตมันไม่ได้เก่งกว่าหรอก แต่มันเจ้าเล่ห์กว่าก็เท่านั้นเอง ปติกรณ์เอ่ยตอบ มินตราหัวเราะเบาๆก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
เค้าว่ากันว่า คนเก่ง...เก่ง...แต่ยังเก่งไม่ทันเท่าคนเจ้าเล่ห์
เพราะคนเจ้าเล่ห์...นอกจากจะแผนการเยอะแล้ว
เล่ห์รัก..ยังเยอะอีกด้วย
ติดตามตอนต่อไปคะ
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 12:56:49
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 11:14:18
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 02:00:23
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 01:47:53
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 01:45:11
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 01:44:00