Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นักรบจันทรา ตอนที่ 16 นามแห่งความแค้น ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 16 นามแห่งความแค้น


ในขณะที่การ์เดินทางอยู่ในโลกของสัตว์ปีศาจ พวกไบรอันมานั่งรวมตัวหน้าร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง สายหมอกมนตราบนท้องฟ้าส่องประกายระยับเหมือนแสงดาว หลังพระอาทิตย์ตกได้ไม่นานนักมารีน่าหรือนางผู้หยั่งรู้บอกเขาว่าประเดี๋ยวพวกการ์สามคนจะกลับมา ลำบากเจ้าของร้านน้ำชาที่ต้องให้ยืมเก้าอี้ม้านั่งและชุดน้ำชามาให้ดื่มแก้เบื่อ

“มารีน่า ข้าถามอะไรบางอย่างได้หรือไม่” ไบรอันพยายามข่มอารมณ์เต็มที่ เพราะนางผู้หยั่งรู้และหญิงจากอนาคตต่างหัวเราะคิกคักกันสองคนบ้าง หันไปขอความเห็นจากอลันบ้าง ราวกับเขาไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย “เหตุใดอนาคตที่ข้าเห็นจึงไม่ถูกต้อง”

“จะบอกแบบไหนดีลิเซียน้อย จะบอกแบบเล่นๆหรือจะให้บอกตามตรงดี” นางผู้หยั่งรู้ทำตัวเหมือนเป็นพี่สาวฝาแฝดของหญิงจากอนาคต ทั้งสีตาสีผมที่เหมือนกันราวกับลอกแบบ รวมไปถึงนิสัยกับความสามารถที่น่าหวาดหวั่น สองคนนี้คงมีความคิดแบบเดียวกัน พวกนางต้องการให้เขาสงสัยจนหัวระเบิดตาย

อลิเซียจากอนาคตขอร้องให้นางตอบตามตรง นางผู้หยั่งรู้จึงตีมาดขรึมอีกครั้ง “เพราะเราคือคนเดียวกันอย่างไรละไบรอัน ท่านจึงได้รับพลังในการเปิดห้วงเวลาจากข้าไปด้วย โดยเนื้อแท้แล้วนั่นคือความสามารถของข้าที่ฝังอยู่ในวิญญาณ ข้าจึงบังคับควบคุมสิ่งที่ท่านเห็นได้ ที่ท่านเห็นคือโลกคู่ขนานที่ถูกบิดเบือน ส่วนที่ท่านมองไม่เห็นก็เพราะข้าไม่อยากให้ท่านเห็น ไม่มีอะไรซับซ้อน จริงไหมลิเซียน้อย”

“แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่เปิดให้ข้าเห็นเล่า” ไบรอันถามต่อ ภาวนาให้นางยอมเปิดปากมากกว่านี้ ใจหนึ่งก็หวังไม่ให้นางบี้เขาติดพื้นอย่างที่เวเบอร์โดน

“หึงเจ้าค่ะท่านผู้กล้าแสงตะวัน” อลิเซียพูดไม่ทันจบก็โดนตีมือเสียก่อน มารีน่าแก้ว่าไม่อยากให้เขาพยายามฝืนเปลี่ยนอนาคตเพราะไม่มีทางเป็นไปได้ เขาเชื่อที่ทั้งสองบอก ทำให้คำถามในหัวเพิ่มมากขึ้นว่าทำไมนางผู้หยั่งรู้จึงหึงหวง และหึงหวงใครกัน

“ข้าคิดว่าเราควรกลับไพน์ ท่านหญิงเอเลน่าทรงรวบรวมข่าวสารได้มากมายเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเหล่าปีศาจ จะต้องรู้ข้อมูลให้ชัดแล้วจึงเคลื่อนไหว” ไบรอันแกล้งลืมเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนที่มารีน่าบอกว่าพวกเขาจะเดินทางไปเมเทอาร์ บางทีนางอาจโกหกให้เวเบอร์เขวเขาจะต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลและพลังของนางให้เต็มที่

“ท่านมีข้าเป็นแหล่งข้อมูลแล้วอย่างไรละ” มารีน่ายิ้มแป้น นางกอดคออลันราวกับเป็นของเล่นชิ้นใหม่ระหว่างที่การ์ไม่อยู่ “แล้วไบรอันจะไปปรากฏตัวที่เมเทอาร์ ไม่ไปรอการมาของเขาจะดีหรือไบรอัน ไม่สิเฮลิคา นางมังกรครึ่งมนุษย์คงไม่รู้เหตุผลจึงเรียกท่านว่าจูเนียร์ นางรักท่านจากใจจริงเลยละ”

มีเพียงประโยคแรกเท่านั้นที่เข้าสู่สมองของเขา แค่ได้ยินว่าคนๆนั้นจะปรากฏตัวความโกรธแค้นเก่าแก่ก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นกว่าครั้งที่หญิงสาวทั้งสองถูกสังหารเสียอีก มันคือความแค้นที่สั่งสมมาตั้งแต่รุ่นพ่อจนมาตกที่เขา ถึงชื่อนี้จะเป็นเครื่องหมายแสดงความเคารพระหว่างแม่ของเขากับพ่อเลี้ยง หากแต่มันเป็นนามที่ตอกย้ำความเค้นลงในวิญญาณของเขาเช่นกัน เขาจะไม่มีวันลืมบุญคุณของแม่และพ่อเลี้ยงเหมือนกับที่ไม่มีวันลืมความแค้นต่อชายผู้นั้น คำสาปที่เคยสลักลงบนร่างกายของเขาเป็นฝีมือชายผู้นั้นเช่นกัน ตอนนี้อายุของเขาก็ผ่านเลยยี่สิบปีมาแล้ว คงใกล้เวลาที่หมอนั่นจะลงมาเอาร่างของเขาไปใช้ หากยังมีข้อกังขาว่าเหตุใดอยู่ๆจึงโผล่ไปเมเทอาร์เหมือนจุดหมายต่อไปของเวเบอร์ บางทีนี่อาจเป็นโอกาสให้เขาแก้แค้น

“อย่าไปกวนมากอลัน พ่อนี่เวลาเลือดขึ้นหน้ามักจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ข้าอยู่ในร่างหมอนี่มาร่วมยี่สิบปีรู้หมดทุกเรื่องละ เลิกฉี่รดที่นอนตอนอายุกี่ขวบ จีบสาวพลาดมากี่ราย จนกระทั่งความรู้สึกตลอดจนความทรงจำความนึกคิดทุกสิ่งทุกอย่าง ในหัวตานี่มีแต่เรื่องไลล่ากับการแก้แค้นเท่านั้น ไม่ได้อยากเป็นผู้กล้าอะไรนี่หรอก”

“ท่านมารีน่าเจ้าคะ ขอข้าถามเขาได้หรือไม่เจ้าคะ นะเจ้าคะ” หญิงจากอนาคตอ้อนนางผู้หยั่งรู้เหมือนเด็กตัวน้อย ไบรอันรู้สึกเหมือนกำลังดูเสือร้ายแสดงละครเป็นลูกแมวน้อยแสนเชื่อง เชื่อว่าหากนางทั้งสองร่วมมือกัน ต่อให้เป็นเมืองใหญ่คงต้านกำลังไม่ได้แน่ มารีน่าพยักหน้าด้วยความเอ็นดู อลิเซียหันมาถามเขาทันทีด้วยสายตาคาดหวัง “ท่านผู้กล้าแสงตะวันเจ้าคะ ท่านคิดอย่างไรกับคนที่อยู่ในโลกอื่นเจ้าคะ คิดว่าเขาเป็นคนดีแค่ไหน”

“ไม่รู้จนกว่าจะได้พูดคุยด้วย ข้าไม่ชอบตัดสินคนโดยที่ยังไม่พบหน้า” ไบรอันเปลี่ยนอารมณ์ทันควัน หากไลล่ารู้ว่าเขาหมกมุ่นกับการแก้แค้นมากเกินไปนางจะคิดอย่างไรกัน เขามองมารีน่าลูบหัวหญิงสาวคิดว่าจะถามดีไหมว่าพ่อแม่นางคือใคร เหตุใดนางจึงทำให้เขารู้สึกเอ็นดูรักใคร่ได้ขนาดนี้ แต่คงไม่ได้รับคำตอบแน่จึงไม่เอ่ยปาก

ในที่สุดมติของคณะเดินทางของผู้กล้าแสงตะวันก็ออกมาอย่างไม่เป็นทางการ ว่าจุดหมายในการเดินทางต่อคือเมืองเมเทอาร์ตามที่มารีน่าบอกเวเบอร์ทุกประการ ฉากหน้าคือขัดขวางการชิงดาบจอมกษัตริย์ของเวเบอร์ ความจริงแล้วเขาต้องการดักรอการปรากฏตัวของศัตรูคู่อาฆาต พอคิดได้มโนภาพแห่งการแก้แค้นก็ผุดออกมาราวภาพหลอน

“น้อยๆหน่อยไบรอัน หยุดแสยะยิ้มได้แล้ว ลิเซียน้อยกลัวแล้วเห็นไหม” มารีน่าทักให้รู้ตัวนางกำลังโอบกอดหญิงจากอนาคตอยู่ อลันก็บอกว่าเมื่อกี้เขายิ้มเหมือนฆาตกรโรคจิตจริงๆ “อย่าคิดมากไบรอัน ท่านยังไม่ได้สู้กับเขาหรอก” นางพูดแล้วหันไปปลอบหญิงจากอนาคตที่อายุมากกว่าราวกับเป็นน้องสาว ดูอย่างไรก็คิดว่าทั้งคู่เล่นละครตลกกันสองคน

“ลิเซียน้อย ในเมื่อเจ้าได้คำตอบแล้วข้าจะลงโทษเจ้าล่ะ รู้ใช่หรือไม่ว่าลงโทษเรื่องอะไร” มารีน่าขยี้หัวหญิงสาวด้วยความรักใคร่ ไบรอันท่องคำว่าห้ามถามยี่สิบครั้งเนื่องจากรู้ว่าไม่มีวันได้คำตอบ “เจ้าต้องอยู่ที่เมืองแก้วผลึกแล้วทำหน้าที่แทนข้า อัตราค่าดูเหมือนกันกับยุคของเจ้า ข้าจะเปิดให้เจ้ามองเห็นได้ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตจนกว่างานโค่นล้มจอมอสูรจะเสร็จสิ้น ตอนนั้นทางเชื่อมมิติคงเข้าสู่สภาวะเสถียรแล้ว”

“แล้วหลังจากนี้สักระยะข้าจะต้องไปช่วยพวกท่านใช่ไหมเจ้าคะ” หญิงจากอนาคตทำให้มารีน่าตีมือนางเป็นครั้งที่สอง “เจ้านี่พูดมากไม่เหมือนพ่อหรือแม่เลยนะ ติดนิสัยแบบนี้มาจากใครกัน การ์ หรือพ่อทูนหัวเจ้า” นางจากอนาคตบอกว่าติดมาจากตัวมารีน่าในอนาคตทำให้อลันสำลักน้ำชาไบรอันก็พลอยยิ้มไปด้วย มารีน่าค้อนใส่เขาทั้งคู่แล้วหันไปดุเด็กโข่งใต้บังคับบัญชาอีกครั้ง

“ข้าไม่โกรธเจ้าที่บอกว่าตัวเองคือหลานของการ์หรอกนะลิเซียน้อย ข้าโกรธที่เจ้าไปเผยความลับในอนาคตให้คนปากมากนี่รู้ต่างหาก” นางผู้หยั่งรู้ทำให้เขาแทบคลั่งอีกครั้ง อลิเซียเคยบอกเรื่องของเขาในอนาคตรู้เมื่อไรกัน “เมื่อเจ้าออกโรงคราวหน้าพวกเขาก็รู้กันหมดว่าน้องสาวอีกคนของการ์คือใคร พอรู้ว่าแม่เป็นใครก็หาตัวพ่อได้ไม่ยากนักหรอก”

มารีน่ากับหญิงจากอนาคตทำให้เขากับอลันหัวเราะได้พักใหญ่ๆอากาศรอบด้านก็กระเพื่อมสั่นไหว กลางถนนหินเกิดกลุ่มก้อนอากาศสีดำสนิทวนเป็นรูปก้นหอย คณะเดินทางย่อยที่ไปช่วยริเรียกลับมาโดยสวัสดิภาพ การ์ก้าวออกมาจากกลุ่มก้อนอากาศอย่างละล้าละลัง ตามมาด้วยริเรียและไลล่า ไบรอันรีบคว้าคอเสื้อของมารีน่าไว้เสียก่อน ถึงเวลาทำให้ท่านหญิงปากหนักเปิดปากสักที เสียงบ่นของมารีน่าดังขึ้นแทนก้อนอากาศสีดำที่กำลังหายไป นางอยากไปหยอกของเล่นเดิมเป็นการรับขวัญ

“พูดสิริเรีย ข้าจับมารีน่าเอาไว้ให้แล้ว ถ้าเจ้าไม่พูดข้าจะปล่อยเดี๋ยวนี้ละ” ไบรอันไม่มองแววตาออดอ้อนของมารีน่า หญิงสาวผมทองเสมองไปรอบๆจนต้องกระตุ้นซ้ำว่าจะปล่อยมารีน่าให้ไปเกาะติดการ์เหมือนเดิม “ปล่อยนะไบรอัน ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างข้าไม่มีสิทธิ์เข้าใกล้นักรบจันทราแล้วกระนั้นหรือ” ในหัวของไบรอันเต็มไปด้วยคำว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ หากมารีน่าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆเขาคงเป็นแค่แมลงตัวจ้อยใต้ส้นเท้านาง

ท่านหญิงจอมเผด็จการลังเลอยู่อึดใจหนึ่งกว่าจะยอมเปิดปากอย่างเสียไม่ได้ “ขอบคุณมากการ์ ขอบคุณที่ไปช่วยข้า” ริเรียพูดแค่นี้แล้วหลบตาการ์ตามเคย ไบรอันปล่อยตัวมารีน่าให้ไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับนักรบจันทราของเล่นชิ้นโปรด

“ในเมื่อมากันพร้อมหน้าข้าก็ขอลาละ” ไบรอันคิดว่านางผู้หยั่งรู้สนุกที่ได้เห็นการ์ทำท่าเขินอายไม่รู้สึกถึงคลื่นความอิจฉาจากดวงตาสีฟ้าใสของริเรีย “ข้าต้องไปรอพบองค์จอมเทพสูงสุด พรุ่งนี้เช้าจะมาสรุปเรื่องให้ทั้งหมดพร้อมกับใช้มนตร์เคลื่อนย้ายพาทุกคนไปเมเทอาร์ ไบรอันเคยไปมาแล้วจึงพาทุกคนไปด้วยกันได้ ประหยัดเวลา”

การ์รีบเดินไปหานางผู้หยั่งรู้ก่อนจะปลีกตัว หมอนั่นรีบร้อนคุยเรื่องสำคัญบางอย่างที่ไม่อยากให้คนอื่นโดยเฉพาะเขาได้ยิน มารีน่าหัวเราะเบาๆ นางบอกบางอย่างแล้วใช้มนตร์เคลื่อนย้ายเปลี่ยนร่างกายเป็นแสงสีเหลืองทองพุ่งไปยังปราการแก้วผลึกบนท้องฟ้าพร้อมกับอลิเซีย โชคดีที่นางจากอนาคตบอกเขาเสียก่อนว่ามีมนตร์เคลื่อนย้ายบางอย่างสามารถฝ่าหมอกมนตราได้ ไม่อย่างนั้นคำถามที่คาดว่าไม่มีคำตอบคงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง

“คุยอะไรกับมารีน่าหรือการ์” เขาอยากเดินไปดูไลล่าก่อน แต่ด้วยความอยากรู้ทำให้หันไปคุยกับการ์ เจ้าการ์ทำท่าคิดสักครู่แล้วบอกปัดอย่างไม่แนบเนียน “แล้วผู้ช่วยเหลือที่มารีน่าพูดถึงเป็นใครหรือ” ราวกับมีตัวหนังสือเขียนอยู่บนหน้าผากของเจ้าการ์ว่ามีสิ่งที่เจ้าไม่รู้ด้วยหรือ เจ้าหมอนี่กำลังยกย่องหรือประชดเขากันแน่

“เป็นเด็กน้อยจากโลกอื่น” การ์พยักหน้ากับไลล่า “สักสิบห้าปีได้กระมัง เด็กคนนั้นขวางไม่ให้เวเบอร์ลงมือได้สะดวกนัก” นักรบจันทราตัดบททันควันรีบเดินกลับที่พักกับอลันและริเรียพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่พบเจอให้ฟัง ไบรอันสาบานได้ว่าการ์จงใจทิ้งเขาให้อยู่กับไลล่าตามลำพัง

“เป็นอะไรหรือเปล่าไลล่า” ไบรอันรีบพาหญิงสาวเดินตามกลุ่มให้ทัน นางดูเหนื่อยล้าราวกับเพิ่งผ่านการเดินทางอันยาวนาน “เดี๋ยวก่อนการ์”

เขาเรียกให้การ์เดินรอด้วย นักรบจันทรากลับหันมาบอกให้ฟังจากไลล่าเอง ดวงตาสีพระจันทร์ไม่มีแววเหยียดหยามหากแต่รอยยิ้มแปลกๆต่างหากที่ชวนสงสัย สุดท้ายทั้งคณะก็เดินไปโรงนอนพร้อมกัน และมีคนเล่าเหตุการณ์แบบเดียวกันถึงสองคน

“อย่าไปห้ามเลยริเรีย ชื่อผู้กล้าแสงตะวันมัวหมองมานานแล้ว แปดเปื้อนอีกสักนิดจะเป็นไรไป” การ์เป็นคนเดียวที่สนุกกับเหตุการณ์นี้ เพราะเขายืนกรานโดยบริสุทธิ์ใจว่าต้องการนอนห้องเดียวกับไลล่า ทำให้ริเรียผู้คอยพิทักษ์ชื่อเสียงของคณะเดินทางคัดค้านเสียงลั่น อลันเอาแต่พูดว่าชายหนุ่มกับหญิงสาวไม่สมควรนอนห้องเดียวกัน

“เราสองคนบริสุทธิ์ใจจริง ข้าขอเอาศักดิ์ศรีเป็นเดิมพันว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนรักกันนอนกอดกันผิดตรงไหน” ไบรอันประท้วง

ความรักของเขากับไลล่าเป็นความรักที่ใสสะอาดไม่มีสิ่งอื่นเคลือบแฝงทั้งเปลือกนอกและเนื้อใน ตราบใดที่ยังไม่ได้แก้แค้นก็ยังไม่รู้แน่ หลังจากนี้เขาอาจไม่มีวันได้กอดนางผู้เป็นที่รักอีกเป็นครั้งที่สอง ที่สำคัญ เขาไม่ยอมให้ลูกและภรรยาต้องประสบชะตากรรมแบบเดียวกับเขาและแม่โดยเด็ดขาด “ยิ้มอะไรหรือการ์” เป็นครั้งที่สองแล้วที่การ์ทำให้เขาปวดหัว ยังมีเรื่องอะไรมากกว่าที่ไลล่าเล่าอีกหรือ

“ยอมเขาเถอะอลัน ริเรีย ข้าเอาชื่อนักรบจันทราเป็นเดิมพันเช่นกัน ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ไบรอันอ้าปากค้าง สิ่งใดทำให้การ์ยอมเอาชื่อตัวมาประกันให้เขาง่ายๆ “ข้าอยากรู้ว่ารักสามเส้านี้จะเป็นอย่างไรต่อ” การ์ผลักอลันเข้าห้องพัก ปากกระซิบบอกว่าจะเล่าอะไรสนุกๆให้ฟัง ริเรียมองเขาด้วยแววตาคมกริบก่อนปิดประตูห้องดังปังในที่สุดนางก็ยอมถอยทัพ เขาจะได้ใช้ชีวิตที่ไม่แน่นอนนี้กับผู้ที่เป็นยอดดวงใจ หากตระกูลบรู๊คจะจบสิ้นก็ขอให้มันจบสิ้นแค่รุ่นเขาก็พอ...


รุ่งเช้าเขาถูกริเรียและอลันจับตามองอย่างไม่ไว้วางใจ สายตาสองคู่สงบลงเมื่อไลล่าย้ำเป็นครั้งที่หกว่าพวกเขาไม่มีอะไรกันจริงๆ การ์นั่งยิ้มเผล่อย่างสบายอารมณ์ไม่รู้ว่าไปรู้เรื่องอะไรมา อาหารเช้าถูกยกมาไว้ตรงหน้าระหว่างที่การ์เล่าเรื่องเกี่ยวกับเมืองเมเทอาร์ให้ฟัง เรื่องส่วนใหญ่เป็นมุมมองของนักท่องเที่ยว หาดทรายใสสะอาด ชายฝั่งตื้นเกินกว่าจะทำท่าเรือเดินสมุทร สิ่งส่งออกสำคัญคือเกลือทะเล มะพร้าว และปลาหมักเกลือ

“บ้านพักชายทะเลราคาแพงระยับ แถมมีกฎหมายห้ามตั้งที่พักนอนเองอีก ข้ากับพ่อบุญธรรมเลยไปขออาศัยนอนในโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ เจ้าของตัวใหญ่อย่างกับยักษ์แต่ใจดีมากเลยละ” การ์ทำให้เขาคิดถึงเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นลูกชายอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้มือเปล่าในเมเทอาร์ “ลานประลองกลางทะเลใหญ่โตดี เสียแค่ตอนนั้นพวกเราไปทำงานหาเงินในโรงหมักปลาจึงไม่ได้ไปดูการประลองประจำฤดู”

“ข้าเคยได้ยินนักเล่าตำนานเล่าตอนเดินทางมาเมืองแก้วผลึก” อลันพูดบ้าง ผมสีน้ำตาลปาดเรียบกริบอย่างเป็นระเบียบ สิ่งที่การ์บอกเป็นความจริง ผู้กล้าอลันเอาผู้กล้าจอมปลอมอย่างเขาเป็นแบบอย่าง “ผู้กล้าแสงตะวันช่างเลิศล้ำ ขย้ำภูตแห่งเมเทอาร์ได้ในพริบตา จริงหรือเปล่าขอรับท่านผู้กล้าแสงตะวัน”

“เล่าเกินไปนิด สามปีก่อนข้าเดินทางผ่านไปเมเทอาร์จริง” ไบรอันสูดกลิ่นเครื่องเทศในผัดหญ้าตำรับพิเศษของร้าน “ตอนนั้นมีพวกพรายบิน วิญญาณชั่วร้ายออกอาละวาดในคราบนกปีศาจ ข้าต้องการหาเงินด้วยการวางเดิมพันแต่การประลองต้องงดไป จึงใช้เวทมนตร์เรียกพายุสายฟ้ามาจัดการฐานขัดลาภ ไม่ได้ใช้เวลาแค่พริบตาสักหน่อย”

“พายุสายฟ้าแบบที่ริเรียจัดการกองทัพมังกรหรือ” การ์เริ่มกินก่อนเป็นคนแรก “ข้าไม่รู้หรอกว่าทำได้อย่างไร แอ่...แต่ดูแล้วยอดเยี่ยมจริงๆ”

“ตอนนั้นยังมีสำนึกของผู้กล้าอยู่สินะ” แววตาของริเรียแทบทำให้เขาแข็งเป็นหิน

ด้วยวาจาเสียดแทงของริเรียทำให้เขารีบลงมือทานอาหารเช้า การ์ชมไม่หยุดปากว่าอร่อยกว่าร้านที่ไปทานเมื่อวานนี้ ริเรียเห็นนักรบจันทราชมไม่หยุดจึงสั่งผักสมุนไพรสูตรเผ็ดร้อนพร้อมขนมปังแบบการ์มากินเป็นจานที่สอง เขาอยากถามใจแทบขาดว่ารู้เรื่องอะไรมา แม้การ์จะซื่อแต่ช่วงนี้หมอนี่เริ่มมีเล่ห์เหลี่ยมบ้างแล้ว ถามไปคงไม่ได้คำตอบเป็นแน่

“สุดที่รักใจร้าย อย่างน้อยน่าจะรอข้ามาทานอาหารเช้าด้วยสิ” มารีน่าใช้มนตร์เคลื่อนย้ายมาหาพวกเขาตอนบริกรกำลังคิดเงินนางเข้าไปกอดคอการ์อย่างถึงเนื้อถึงตัว ไบรอันเหลือบตามองริเรียพร้อมส่งกระแสจิตไปบอกว่า ทีอย่างนี้ทำไมไม่ห้าม “ข้าให้เวลาจัดของชั่วน้ำร้อนเดือด ประเดี๋ยวข้าจะสรุปเหตุการณ์ให้ก่อนออกเดินทางต่อ แต่ถ้าสุดที่รักจะพักต่ออีกสักครึ่งวันก็ได้นะ” นางทำให้คนในร้านหันมามองเป็นตาเดียว

“พอเห็นท่านมารีน่าข้าจึงนึกออก เคยได้ยินนักเล่าตำนานเล่าเรื่องเกี่ยวกับตระกูลบรู๊คและโอ๊คแลนด์ด้วย” อลันทำให้การ์ถามว่าเคยเจอใครบ้างนอกจากนักเล่าตำนาน

“หยุดก่อนอลัน” ความทรงจำที่ไม่พึงประสงค์พลันโผล่งขึ้นทันควัน “หากมีใครพูดถึงโอ๊คแลนด์อีกคำเดียว ข้ารับรองได้ว่าเมืองนั้นจะหายไปจากโลกนี้ เมืองส่งออกเพชรพลอยอันดับหนึ่งจะกลายเป็นเก็มแทน” ด้วยรังสีอมหิตของเขาทำให้การ์กับอลันรีบไปเก็บข้าวของทันที ริเรียชายตามองนักรบจันทราแล้วคว้ามือไลล่าให้ไปด้วยกันโดยไม่รอเขา

คำอธิบายของมารีน่าห้วนสั้นได้ใจความ ทุกสิ่งเป็นไปตามภาพในอดีตที่พวกเขาเห็น จอมเทพแห่งดินแดนอื่นวางเดิมพันการต่อสู้ระหว่างเวเบอร์กับไลล่าเอาไว้ หากเวเบอร์แพ้ เขาจะถูกประหาร หากไลล่าแพ้ เวเบอร์จะรอดพ้นความผิดที่ถูกเทพีองค์นั้นคาดโทษไว้ จะตัดสินกันได้เมื่อหนึ่งในสองคนนี้ถูกสังหารในการประลองตัวต่อตัว ดังนั้นไลล่าจึงเป็นมิตรกับพวกเขาโดยปริยาย

“ใช่แล้ว ไม่ข้าก็เวเบอร์ คนหนึ่งต้องตายเพื่ออีกฝ่ายคงอยู่” ไลล่าพูดเบาๆ ไม่ยุติธรรมแม้แต่นิดที่ให้ผู้หญิงอ่อนแอสู้กับยอดฝีมือแบบนั้น “เพราะเวเบอร์เป็นอัจฉริยะ ข้าจึงได้รับดาบสลายเวทและสัตว์ปีศาจระดับจักรพรรดิอีกตัวเป็นข้ารับใช้โดยตรง แถมใช้วิชาเรียกสัตว์ปีศาจได้เหมือนเวเบอร์อีก”

“แล้วข้าไม่ได้เป็นคนรักกับฟลอร่า เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้วริเรีย” ไบรอันต้องเน้นย้ำอีกหนว่าเขากับนางมังกรครึ่งมนุษย์เป็นเหมือนกับพี่น้อง ไม่ใช่คนรักอย่างที่คนอื่นเข้าใจ “เราเหมาะสมกันดี คืนชีพจากความตายครั้งหนึ่ง ชีวิตข้างหน้าไม่รู้ว่าจะถูกคู่อริฆ่าหรือจะเป็นฝ่ายฆ่าคู่อริ ไม่กล้าคิดฝันถึงวันข้างหน้าหลังการต่อสู้ จริงไหมไลล่า”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกสุดที่รัก” มารีน่าเริ่มเรียกการ์ว่าสุดที่รักเมื่อไรไม่รู้ได้ “พ่อนี่ทำบุญคุณไว้กับชาวเมือง มีที่พักชมหาดทรายสวยๆแน่นอน” มารีน่ากอดแขนการ์ระหว่างคืนกุญแจห้องพัก นางผู้หยั่งรู้และเมืองแก้วผลึกกลายเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินแก่คณะเดินทางอย่างเป็นทางการ

“ข้าอาศัยร่างท่านอยู่ร่วมยี่สิบปี ไม่แทนคุณตอนนี้จะให้แทนคุณตอนไหนกัน” มารีน่ากอดแขนการ์แน่นขึ้นไปอีก แสงสีเหลืองทองล้อมรอบคณะเดินทางด้วยมนตร์เคลื่อนย้ายของมารีน่า เขาเห็นการ์เม้มปากแน่นด้วยแรงอัดกระชากจากการเคลื่อนย้าย...


แสงสีเหลืองทองจากมนตร์เคลื่อนย้ายหายไปปล่อยให้แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาแทนที่ คณะเดินทางยืนโซเซหลังผ่านการเคลื่อนย้ายด้วยเวทมนตร์ กลิ่นทะเลแทบทำให้สำลัก การ์รีบแกะแขนของนางผู้หยั่งรู้ออกให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้มองรอบๆให้ชัดเจน ไบรอันมองทะเลผ่านดงต้นมะพร้าวบอกไม่ถูกว่าเขาคิดถึงที่นี่หรือไม่ เพื่อนรู้ใจคนหนึ่งอาศัยอยู่ที่นี่หากยังมีสตรีอีกนางหนึ่งที่ทำให้เขาปวดหัวตุบๆยามนึกถึง ไลล่าเพิ่งเคยเห็นทะเลครั้งแรกก็ตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ

“ท่านไบรอันใช่ไหมขอรับ” เสียงต่ำแหบคุ้นหูเรียกความสนใจของคณะเดินทาง ผู้พูดเป็นชายหนุ่มผอมบางผิวคล้ำแดด เขาเพิ่งใช้กุญแจลั่นดานประตูบ้านพักสองชั้นอย่างรีบร้อน ไบรอันรีบแนะนำคณะเดินทางให้เด็กหนุ่มรู้จัก กุญแจบ้านพักถูกแจกจ่ายทันทีโดยไม่อิดออดหรือเรียกร้องเงิน “นายหญิงบอกเอาไว้ ว่าหากท่านไบรอันมาให้พักฟรี” ไบรอันจะห้ามไม่ให้ไปบอกนายหญิงที่ว่าแต่ชายหนุ่มเดินหายไปกับผู้คนรอบด้านเสียแล้ว

“ได้พักฟรีก็ดีแล้ว จะอะไรกันนักหนา” การ์รีบเปิดประตูบ้านพักเข้าไปก่อนเป็นคนแรก “หรือมีอะไรที่ไม่อยากให้ไลล่ารู้” นักรบจันทราหัวเราะกับมารีน่า ทั้งสองรีบขึ้นไปเลือกห้องพักก่อน

บ้านสองชั้นหลังนี้เล็กกว่าบ้านของนางอัศวินมังกรผู้วายชนม์ เจ้าของบ้านหลังนี้เป็นหญิงสาวน่าสงสารที่ไบรอันเคยช่วยเหลือตอนมาพักที่นี่ นางคือเหตุผลที่เขาไม่อยากมาที่นี่ ในเมื่อมาถึงแล้วจำต้องแนะนำนางให้ไลล่ารู้จักด้วย ไม่อย่างนั้นเขาอาจโดนไลล่าและริเรียรุมเหยียบถึงตาย

“ประเดี๋ยวข้าจะไปจ่ายตลาดให้” ไบรอันถอนหายใจ เขาเสียดายที่แย่งห้องติดทะเลให้ไลล่าไม่ได้ อย่างน้อยห้องที่เขากับไลล่านอนก็มีระเบียงที่มองเห็นทะเลได้ “จะไปหาเพื่อนเก่าด้วย”

“ท่านต้องอยู่ที่นี่ขอรับท่านไลล่า” เจ้านกเพลิงปากมากของการ์โผล่มาโดยไม่บอกล่วงหน้า ปีกทั้งคู่ของคนครึ่งนกกินเนื้อที่เกือบครึ่งของห้องรับรอง “ข้าน้อยจะสอนพื้นฐานวิชาเรียกสัตว์ปีศาจให้” ไลล่าอยากไปเที่ยวในเมืองกับเขาขอผลัดไปเรียนตอนบ่ายแทน

“ตอนเข้าไปในโลกของสัตว์ปีศาจท่านคงเห็นแล้วว่าข้าน้อยยุ่งขนาดไหน” การ์ลูสพูดต่อ “เห็นว่าท่านเรียนการเขียนจนคล่องแล้วจึงขอลาพักออกมาเพื่อการนี้ ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่มีสิทธิ์ชนะเวเบอร์ได้”

สุดท้ายคนครึ่งนกก็อนุญาตให้ไลล่าไปเดินที่ชายหาดได้พักหนึ่งก่อนเริ่มการเรียนการสอน ไบรอันสัญญากับนางว่าพรุ่งนี้จะพาไปเดินตลาดสดในเมือง ริเรียกับอลันถูกมารีน่าเรียกให้อยู่ที่บ้านพักก่อนเพื่อคุยเรื่องสำคัญ เขาจึงมีโอกาสเดินไปในเมืองคนเดียว เสียแค่เจ้าการ์คอยเดินตามเขาตลอดตั้งแต่ออกจากเขตชายหาดจนเข้าเขตเมือง

“ตลาดอยู่ทางโน้นการ์” ไบรอันชี้ไปทางทิศตะวันออก “ข้าจะไปหาเพื่อนในเมือง”

“ไม่ได้เจาะจงตามเจ้าสักหน่อย ข้าจะไปหาโรงเรียนที่เคยมาขออาศัยต่างหาก ผ่านไปหกปีแต่ไหนๆก็มาแล้ว คิดว่าจะไปทักทายสักหน่อย” การ์แย้งเสียงแข็ง นับวันหมอนี่ยิ่งทำตัวสมเป็นผู้กล้ามากขึ้น

จนพวกเขามาหยุดที่รั้วไม้ยกสูง ข้างประตูไม้แผ่นใหญ่เขียนไว้ว่า โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้มือเปล่าแบร์เรลล์ การ์รีบบอกทันทีว่าจุดหมายของเขาคือที่นี่ ไบรอันถือวิสาสะเปิดประตูไม้เข้าไปข้างในเป็นอาคารไม้แยกอาคารเรียนเป็นสัดส่วน เสียงร้องของเหล่านักเรียนดังออกมาอย่างไม่พร้อมเพรียง เขามองหาใครสักคนเพื่อไปตามเจ้าของโรงเรียนนี้

“หกปีก่อน คงเป็นพ่อของบิชอป” ไบรอันเชื่อว่าคนที่การ์พูดถึงคือพ่อของเพื่อนเขาที่ตายเมื่อสามปีก่อน “บิชอปเป็นเจ้าของโรงเรียนนี้ต่อจากพ่อของเขา หมอนั่นกล้ามเป็นมัดเห็นแล้วจะตะลึง”

ไบรอันพาการ์เดินผ่านอาคารชั้นเดียวไปห้องของอาจารย์ใหญ่ซึ่งเป็นตัวเจ้าของโรงเรียนนี้ การ์บอกกับเขาว่าเคยมาพักนอนในห้องเก็บของเก่าๆใกล้สวนหย่อมแถมยังได้รับความกรุณาเป็นฟูกและผ้าห่ม จนกระทั่งพบกับลานตากผ้าหญิงสาวผมสั้นผิวสีน้ำผึ้งเพ่งมองมาทางพวกเขา ผ้าในมือถูกเขวี้ยงลงตะกร้าเนื่องจากเจ้าตัวรีบวิ่งมาทางพวกเขาแล้วสวมกอดผู้กล้าแสงตะวันอย่างแนบแน่น

“ข้าสัญญาว่าจะไม่เอาไปบอกไลล่า” การ์ทำให้เขาสบายใจขึ้นเล็กน้อย ความคิดถึงพรั่งพรูออกมาจากปากสาวผมดำ นางคงไม่สังเกตว่ามีคนเดินมากับเขาด้วย

“ลูอิส นี่การ์ จัสตินสหายข้า เขาคือนักรบจันทราที่เคยเล่าให้ฟัง” ไบรอันเข้าใจความรู้สึกของการ์ที่โดนมารีน่าเกาะแบบติดหนึบแล้ว เขาใช้เวลาหลายอึดใจกว่าจะดันร่างบอบบางของหญิงสาวให้ถอยออกไปได้ “บิชอปอยู่ไหม”

“ข้าลูอิส ซีนนิว ยินดีที่รู้จัก” ในที่สุดนางก็มองเห็นหัวเจ้าการ์สักที “บิชอปไปสัมมนาเรื่องโรงเรียนในฝันหนึ่งอาทิตย์ ท่านน่าจะบอกข้าสักคำว่าจะมา”

หญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งบอกว่าอาจารย์ใหญ่เข้าไปทำธุระกับทางการจะกลับมาอาทิตย์หน้า ไบรอันต้องเล่าอย่างเสียไม่ได้ว่านางเคยถูกเอาเปรียบถึงขั้นกลายเป็นโสเภณี โชคดีที่เขาเป็นลูกค้ารายแรกจึงช่วยเอาไว้และฝากให้ทำงานกับเพื่อนที่นี่ เขาต้องเล่าอย่างละเอียดแม่นยำเผื่อไลล่าแอบไปถามการ์จะได้บอกตรงกัน หญิงสาวรีบส่งต่องานตากผ้าให้เด็กรับใช้อีกคนเพื่อจะได้เดินกลับบ้านพักกับเขา

“งานที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง แล้วพวกนั้นกลับมาอีกไหม” ระหว่างเดินกลับบ้านพักเขาถามด้วยความเป็นห่วง แขนขวาของเขาสะบัดหลบแขนของหญิงสาวได้หวุดหวิด เสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากการ์เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้านี่ไปรู้เรื่องอะไรเข้า บางทีอาจเป็นเรื่องที่โอ๊คแลนด์ก็ได้ “ข้าขอใช้บ้านเจ้าสักพัก มีธุระต้องสะสางที่เมืองนี้”

“ไม่ต้องห่วงไบรอัน ข้าไม่รู้เรื่องอะไรหรอก” การ์พูด บางทีเขาอาจเผลอแสดงความสงสัยออกมาทางดวงตาให้หมอนี่เห็น “ข้าแค่ทำตามที่มารีน่าบอก สนุกกับเรื่องรักสามเส้าของท่านให้ถึงที่สุด น่าสนใจกว่านิยายประโลมโลกย์เยอะ ตอนนี้เพิ่มเป็นสี่เส้าแล้วนี่” การ์ทำให้หญิงสาวสงสัยว่าพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่

“ข้ามีคนรักแล้ว ประเดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จัก” ไบรอันตัดบท ในที่สุดก็รู้ว่าการ์สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆของเขาและไลล่า หากแต่มองไม่เห็นความซับซ้อนสักแห่ง เขากับไลล่ารักกันเวเบอร์รักไลล่าด้วยอีกคนก็เท่านั้น

เดินตัดทางลัดไม่นานก็มองเห็นบ้านพัก การ์เรียกให้ดูเงามังกรดำตัวใหญ่ค่อยๆหายไปในอากาศ เขาคิดว่าลูอิสอาจเข้ากับไลล่าได้เพราะนิสัยคล้ายกัน พอนึกอีกทีเขามัวกังวลเรื่องตัวเองจนลืมไปแล้วว่ามาที่นี่เพื่อรอพบชายผู้นั้นและขัดขวางการชิงดาบจอมกษัตริย์ของเวเบอร์

“ลูอิส การประลองประจำฤดูร้อนจะจัดขึ้นเมื่อไร” ไบรอันพาทั้งสองเดินอ้อมตัวบ้าน เขาเห็นส่วนหัวของมังกรเกล็ดเงินสูงพ้นดงมะพร้าวขึ้นมาพลางคิดว่าช่วงนี้เขาพูดมากเกินปกติ “และของรางวัลครั้งนี้คืออะไร”

“อีกสามวันจะให้ลงชื่อและคัดตัว” หญิงสาวยังมองไม่เห็นนักรบจันทราที่เดินตามมาเงียบๆ ไบรอันเริ่มคิดว่ามารีน่าแอบสับเปลี่ยนนิสัยเขากับการ์หรือเปล่า ปกติการ์เรียกเขาว่าเจ้าปากหนักด้วยซ้ำ “ของรางวัลครั้งนี้คือดาบวิเศษ หากประกาศตนว่าจะเป็นผู้กล้าช่วยผู้คนจากปีศาจ ก็จะได้อภิเษกกับเจ้าหญิงมิเนอร์ว่าธิดาองค์กลางด้วย”

ไบรอันเดินพ้นมุมบ้านเพียงนิดเดียวก็ถอยผลักอีกสองคนให้ล้มไปข้างหลัง กระสุนน้ำวาววับพุ่งผ่านหน้าไปกระแทกต้นมะพร้าวใหญ่หักคาที่ เสียงไม้ล้มเรียกคนข้างทางให้มามุงดู เขาค่อยๆยื่นหน้าไปดูทางที่กระสุนน้ำพุ่งมา ไลล่ายืนหอบข้างมังกรเกล็ดเงินที่กำลังหายไป นี่คือพลังของสัตว์ปีศาจอย่างนั้นหรือ สามารถโค่นค้นมะพร้าวใหญ่ได้ในครั้งเดียว

“ขอโทษที ไบรอัน ข้าไม่ทันเห็นท่าน” แม้จะหอบเหนื่อยไลล่าก็ยังเดินมาขอโทษ เขาพบว่าใบหน้ายามเหนื่อยล้าของนางงดงามไม่ด้อยกว่าตอนปกติ อาจเป็นเพราะเลือดของเทพีผู้นั้นก็ได้ เจ้านกปากมากร้องบอกว่าพอแค่นี้แล้วหายไปในอากาศ การ์บ่นเกี่ยวกับนิสัยของการ์ลูสพลางปัดทรายออกจากกางเกง “นางคือใครหรือ” ไลล่าทำให้เขาได้ยินเสียงหัวเราะจากการ์อีกครั้งหนึ่ง...

จากคุณ : Lazy return
เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 09:13:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com