6/1
หญิงสาวโหย่งฝีเท้าลัดเลาะไปตามกระโจมซึ่งตั้งเรียงรายราวดอกเห็ดสีขาว ดังว่าหากเธอเคลื่อนไหวรวดเร็วหรือเสียงดังเกินไปอาจปลุกครอบครัวชาวทิชกูตื่นได้
ก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งควบม้ากลับมาแข่งกับชายหนุ่มหลังดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า เหงื่อกาฬชื้นกายช่วยให้สดชื่นรับยามเช้า หนุ่มสาวลอบยิ้มให้แก่กันก่อนแยกย้าย รอยยิ้มแห่งความสุข ตื่นเต้นที่ได้ทำอะไรคึกคะนองตามวัยโดยไม่มีผู้ใหญ่รู้เห็น
ลลิลดาโล่งใจเมื่อมาหยุดยืนหน้ากระโจมของครอบครัวซึ่งเธอพักอาศัยด้วยในที่สุด ไร้เงาผู้คนตื่นมาพบเห็น เธอค่อยแง้มประตูเปิดแผ่วเบา แต่แล้วก็ต้องถอยหลังตกใจเมื่อติลมาโผล่หน้ามาต้อนรับพอดี
ติลมา ฉันตกใจหมดเลย
มิสไปไหนมาคะ หนูตื่นมาไม่เจอ แต่อัมมาบอกว่าเดี๋ยวมิสก็มา
ฉันออกไปเดินเล่นน่ะจ้ะ เธอปดพลางคล้องแขนเด็กสาวกลับเข้ากระโจม
สายตาแม่เฒ่ามองมาไม่สู้ดี แกนึกรู้ทันทีว่านักท่องเที่ยวสาวหายไปไหน หลังตื่นมาไม่พบร่างระหงบนที่นอน สุดจะรั้งความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวก็จำต้องปล่อยวาง ให้เป็นบทเรียนแก่พวกเขาเอง แกลอบถอนใจแล้วก้มหน้าก้มตาคนอาหารในหม้อต่อไป
เป็นอะไรฮึ ติลมา นั่งมองหน้าฉันอยู่ได้ ลลิลดาถามอย่างเห็นขัน ขณะเริ่มลงมือจัดกระเป๋า
หนูไม่อยากให้มิสไปเลย
โธ่ ติลมา... มือบางเอื้อมตบหลังมืออีกฝ่ายแผ่วเบา ฉันสัญญาจ้ะว่าจะกลับมาที่นี่อีกในวันใดวันหนึ่ง เธออย่าเพิ่งลืมฉันแล้วกันนะ
หญิงสาวหยิบกระป๋องแป้งซึ่งวางอยู่ในหีบ เธอคว้ามือติลมาแบออก ก่อนเทแป้งเด็กลงไป
ลองดมแล้วทาดูซี ชอบไหม ฉันให้เธอ
ผู้รับเบิกตาโตอย่างตื่นเต้น ลืมความเศร้าไปชั่วขณะ เธอลองทาบนใบหน้าและแขน แล้วจึงพบว่าตนมีกลิ่นตัวหอมเหมือนมิสทีเดียว
เด็กสาวเดินไปยื่นแขนอวดความหอมกับอัมมา พร้อมกับที่ประตูกระโจมเปิดออกอีกครั้ง คาชาลเดินเข้ามาด้วยท่าทางระโหย หากแววตากลับทอแสงเปล่งประกายแจ่มใส เขาแลเลยมาทางเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะกุมจมูกโอดครวญเมื่อน้องสาวยื่นแขนให้ดมใกล้ไป
ลลิลดาหลุดหัวเราะกิ๊กอย่างสุดกลั้น ใบหน้าคมสันขึ้นสีเรื่อ หากเจ้าตัวยังแสร้งปั้นหน้าเคร่ง
เล่นอะไรน่ะ ติลมา ทำไมไม่ช่วยอัมมาทำอาหาร เขาเอ็ด
ข้าเพิ่งช่วยมิสจัดกระเป๋านี่ แล้วมิสก็ให้แป้งกับข้าด้วย พี่ลองดมซี หอมเหมือนมิสไหม
คำถามสุดท้ายส่งผลให้เขาสูดหายใจเข้าลึกเป็นพิเศษ ดวงตาคมกล้าบอกความหมายลึกล้ำขณะจ้องมองร่างบางซึ่งนั่งพับขาอยู่บนเตียง
หอม
ลลิลดาฟังคำตอบในภาษาพื้นเมืองของเขาไม่ออก หากบางสิ่งในน้ำเสียงและแววตาชายหนุ่ม ทำให้คนกล้าอย่างเธอตกประหม่าจนต้องเสหลบตา
เออหนอ หรือนี่คือความรู้สึกที่เขาเคยบอกเธอ ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดระหว่างหนุ่มสาวชาวทิชกู แค่เพียงมองตาก็สามารถสื่อความในใจถึงกัน มันช่างพาให้ใจหวามไหวและโบยบินหาทางออกจากทรวงไปหาเขาทีเดียว
..................
คาชาล พี่ พี่...
เสียงเรียกของน้องสาวดึงสติเขากลับมา ฮื้อ
ติลมาแลเลยตามสายตาหวานเชื่อมของพี่ชาย มิสยังคงพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ใดๆ เห็นแล้วก็ให้ใจหายนัก
มิสให้แป้งกับข้าเป็นที่ระลึก แต่ถ้าเลือกได้ข้าอยากให้มิสอยู่กับเราตลอดไปมากกว่า
แม่เฒ่านั่งฟังอย่างปลงใจ สุดจะห้ามปรามหลาน ลึกลงไปแล้วแกก็เอ็นดูนักท่องเที่ยวสาวผู้นี้ไม่น้อย
คาชาล วิคเตอร์บอกพี่หรือไม่ว่าจะมารับมิสกี่โมง
ผู้พี่พลันตีบตื้อในลำคอขึ้นมา เที่ยงนี้แล้วสินะที่วิคเตอร์จะมารับเจ้าหล่อนกลับไป อีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี กว่ามิตรจากแดนไกลจะหวนกลับมาที่นี่อีกครั้ง
แล้วหากเธอไม่มาเล่า... คาชาลได้คำตอบว่าเขาจะลักพาเธอมาให้จงได้ เมื่อใดที่เขาเป็นอิสระจากการถูกจับตามองของทางการ เมื่อนั้น ตราบแผ่นดินจรดผืนฟ้า ณ ดินแดนซึ่งถูกขนานนามว่า สวรรค์บนดิน เขาจะผูกเธอไว้กับม้า และพาเธอท่องไปจนสุดหล้าฟ้าเขียวทีเดียว
ขออย่างเดียว ขอเพียงเธอและเขามีเป้าหมายชีวิตเดียวกัน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ต่อให้มีอุปสรรคขัดขวาง ต่อให้เจอทางแยกทางเบี่ยงสักแค่ไหน ปลายทางของคนสองคนล้วนต้องมาบรรจบกันอยู่ดี
หรือหากไม่เป็นเช่นนั้น ก็ดีแล้วที่พวกเขาควรแยกจากกันเสียแต่ตอนนี้
เขารวบรวมเสียงตอบน้องสาว วันนี้ไม่มีทัวร์ คงจะมาตอนเที่ยงกระมัง
ติลมาหน้าละห้อยกับเวลาซึ่งกระชั้นเข้ามา สำหรับเด็กสาวผู้ล่องลอยอยู่ในความฝัน มิสก็เหมือนนางฟ้ามาโปรดชีวิตเธอให้มีสีสัน สีสันของคนเมืองที่เธอไม่เคยได้รู้ได้เห็นมาก่อนในชีวิต
ท่ามกลางสายตาชื่นชมนักท่องเที่ยวสาวของเพื่อนรุ่นเดียวกัน เด็กผู้หญิงธรรมดารู้สึกถึงความพิเศษของตัวเองยามได้ติดตามดูแลมิส ทว่าต่อแต่นี้ไป เธอก็คงกลับมาเป็นเด็กที่ไม่ประสาการงานสักอย่าง ไม่มีใครให้ความสนใจ ไม่มีใครเห็นความสำคัญเหมือนเดิม
เธอช่วยอัมมาจัดเตรียมอาหารเช้าอย่างกระเง้ากระงอด มื้อสุดท้ายของแขกพิเศษจากแดนไกล ต่างไม่มีใครเจริญอาหารเท่าที่ควร
สองหนุ่มสาวลอบสบตากันเป็นระยะ ความสุข ความชื่นมื่นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังคงอ้อยอิ่งในแววตา ประสาใจสองดวงซึ่งปรารถนาตรงกันว่าสักวันหนึ่ง พวกเขาจะหวนกลับมารำลึกถึงมิตรภาพนี้อย่างแน่นอน
..................
สตรีชาวทิชกูต่างวางมือจากงานที่ทำ บางคนกระเตงลูกเล็กไว้กับเอว ออกมายืนออกันยังลานโล่งเพื่อล่ำลานักท่องเที่ยวสาวด้วยความผูกพัน
ลลิลดาส่งกระเป๋าสะพายให้ไกด์หนุ่มซึ่งยื่นมือมารับ เธอหันมองทุกคนที่รอส่งตน แล้วกระบอกตาก็ผะผ่าวขึ้นมา
ตลอดสัปดาห์ที่อยู่ที่นี่เธอได้เรียนรู้อะไรมากมาย น้ำจิตน้ำใจของทุกคนช่วยให้คนต่างถิ่นมีความสุขกายสุขใจยามพำนักพักอยู่ที่นี่ น้อยครั้งนักที่เธอจะคิดถึงถิ่นที่จากมา
เธอสวมกอดทุกคนแนบแน่นอันแสดงถึงความรักตามประเพณีชาวทิชกู กระทั่งหยุดลงหน้าแม่เฒ่าซึ่งอยู่ปลายแถว เธอโน้มตัวสวมกอดหญิงชรา พร้อมกับรู้สึกถึงอ้อมกอดซึ่งกระชับแน่นทีเดียว
แกพึมพำบางสิ่งข้างหู คนฟังไม่เข้าใจ แต่ก็ตอบกลับไป...
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ อัมมา แล้วฉันจะกลับมาที่นี่อีกให้ได้
ติลมาเช็ดน้ำตาป้อย เด็กสาวตาแดงก่ำตั้งแต่ออกจากกระโจมพร้อมเธอ ก่อนน้ำตาจะหยาดหยดเมื่อได้ยินคำมั่นสัญญาต่ออัมมาจากเธอ
ลลิลดายิ้มเอ็นดู เธอกอดปลอบสาวน้อยอย่างเข้าใจถึงปมในใจ นักท่องเที่ยวสาวจงใจเอ่ยเสียงดังขึ้นนิดหนึ่งถึงความสำคัญของเจ้าหล่อนให้ทุกคนที่นั้นได้ยิน
อย่าร้องไห้เลย ติลมา ฉันอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขก็เพราะการดูแลเอาใจใส่จากเธอนะจ๊ะ เชื่อเถอะว่านอกจากฉันแล้ว ทุกคนที่มาที่นี่จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน
มิส...
เธอคลายอ้อมกอดและยิ้มให้อีกครั้ง อดกวาดตาหาสมาชิกครอบครัวอีกคนหนึ่งไม่ได้ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าชายชาวทิชกูไม่นิยมมาปะปนในกลุ่มผู้หญิง การล่ำลาระหว่างเธอกับเขาคงมีเพียงการสื่อสารผ่านทางสายตาเมื่อเช้านั่นเอง
หัวอกลลิลดาหวิวโหวงประหลาด มันสั่นคลอนไม่ต่างจากตัวเธอซึ่งนั่งอยู่บนรถตู้ผ่านถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ณ บัดนี้เลย
ดวงตาอิดโรยจากการอดนอนเหม่อมองผ่านกระจกไปไกล แต่แล้วจุดสีน้ำตาลเลือนรางไกลๆ ก็สะดุดตา สะดุดใจเธอ เธอรู้สึกเหมือนมันเคลื่อนที่คู่ขนานไปกับรถเธอ หญิงสาวบอกให้ไกด์หนุ่มหยุดรถ ยังไม่ทันจอดสนิท เธอก็เลื่อนประตูแล้วกระโดดผลุงลงไป
มือบางปรับกล้องเพื่อขยายภาพ เธอยกมันขึ้นทาบจุดสีน้ำตาลสุดเส้นขอบฟ้านั้น แล้วก็ได้เห็นภาพคนบนหลังม้าไกลๆ
ท่าทางสง่าผึ่งผายอย่างนั้นคุ้นตา คุ้นใจ มันซ้อนทับกับภาพชายปริศนาบนหลังอาชาตั้งแต่วันแรกที่รถตู้มาเกิดอุบัติเหตุ ณ ที่นี้ เออหนอ เธอน่าจะรู้ว่าเป็นเขา...คนคนเดียวกับบุรุษที่พาเธอขี่ม้าท่องทุ่งหญ้าไปไกล
คาชาล... ลลิลดาครางในอก
เธออยากกดชัตเตอร์ไม่ยั้ง หากนิ้วกลับค้างแข็งเหมือนกายของเธอนั่นเอง
ชายหนุ่มมิได้ชักม้าเข้ามา เขายังคงนั่งนิ่งและมองตรงมายังเธอ ราวกับจะประกาศให้รู้ว่า ณ สุดแผ่นดินจรดผืนฟ้านั้น เขาจะรอคอยเธอกลับมา!
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
10 เม.ย. 55 10:56:13
|
|
|
|