Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นักรบจันทรา ตอนที่ 17 ผู้เป็นอมตะ ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 17 เวเบอร์ผู้เป็นอมตะ

“ใจของหญิงสาวลึกล้ำประดุจห้วงสมุทรแปรปรวนยิ่งกว่าคลื่นลม ผู้ชายอย่างท่านไม่มีวันเข้าใจนางได้อย่างเที่ยงแท้หรอก แต่ท่านคลำมาถูกทางแล้ว เรามาดูละครรักสามเส้าของสามคนนั่นให้สนุกก็แล้วกัน”

มารีน่าพูดกับการ์อย่างนี้ก่อนกลับไปวิหารแก้วผลึกเมื่อคืน แล้วก็จริงเสียด้วยเป็นละครรักสามเส้ากลิ่นน้ำเน่าโชยฟุ้ง เจ้าปากหนักไบรอันรักชอบกับไลล่าเหมือนเวเบอร์ ส่วนไลล่ายังคงลังเลระหว่างสองคนนี้ แม้จะเดาตอนจบได้ก็ยังอยากดูต่อ แววตาสีอำพันขุ่นมัวของไลล่าฉายแววโกรธขึ้งเมื่อเห็นหญิงสาวเพื่อนของเจ้าปากหนัก ผู้กล้าแสงตะวันออกอาการวิตกจริตทันตาแนะนำหญิงสาวทั้งสองให้รู้จักกันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับออกตัวเสร็จสรรพว่าไลล่าคือคนรักของตน

“ลืมไปแล้วหรือไบรอัน เรื่องเมื่อตอนนั้น” หญิงผิวสีน้ำผึ้งเล่นละครโศกเรียกน้ำตาจนเขากลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ ตั้งแต่เคยคบกันมามีคราวนี้เองที่ผู้กล้าแสงตะวันจนแต้มเพราะสตรี “ท่านเห็นร่างเปลือยของข้าหมดแล้ว ชีวิตนี้ข้าคงแต่งงานกับใครอื่นไม่ได้นอกจากท่าน” แม่นางลูอิสทำให้ไบรอัน บรู๊คยิ้มแห้งอธิบายยกใหญ่ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด

“หอบเสื่อสานออกมาจะไปนั่งเล่นชายหาดหรือ ขอข้าไปด้วยคนได้ไหม” ความรู้สึกสนุกแกมสะใจของเขาแทบปะทุออกมาจึงหันไปยิ้มให้นางผู้หยั่งรู้กลบเกลื่อน

มารีน่าหอบเสื่อกับจานใส่ปลาหมึกย่างเสียบไม้ออกมาจากบ้านพัก นางคงอยากนั่งพักให้สบายใจกระมัง การ์วิ่งไปช่วยถือจานใส่ปลาหมึกปิ้งหอมฉุยไม่ฟังคำร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าปากหนัก หญิงสาวพาเขาเดินอ้อมไปสมทบกับชายนัยน์ตาสีพระจันทร์แดงที่สมควรเป็นศัตรู เวเบอร์ เฟียร์เลส

“ไม่ต้องทักทายด้วยการต่อสู้ก่อนหรือมารีน่า” การ์ถอยให้นางปูเสื่อ ลมทะเลเย็นสบายในอากาศร้อนอบอ้าว เมเทอาร์อยู่ทางใต้ไกลจากไพน์ลิบลับจึงเป็นฤดูร้อน มารีน่าบอกอย่างสบายอกสบายใจว่าคนที่ต้องต่อสู้ก่อนตามธรรมเนียมคือไลล่า ไม่ใช่นางหรือเขา “ตอนอยู่ในแดนสัตว์ปีศาจข้าหลงรอให้เขาเข้ามาเล่นงานก่อน”

“ตอนท่านออกไปข้างนอกข้าเจอเวเบอร์เข้าพอดีจึงฝากไปซื้ออาหารทะเลมาเยอะๆ จะได้มานั่งกินด้วยกันหลายๆคน” มารีน่านั่งพิงต้นมะพร้าว แววตาสีมรกตร่าเริงตลอดเวลาจนการ์อิจฉา จานปลาหมึกย่างและปลาตากแห้งถูกวางลงกลางวง “คราวนี้เวเบอร์ไม่ได้มาในนามของสาวกแห่งจอมปีศาจจึงนั่งคุยกันแบบนี้ได้ เสียแค่ริเรียกับอลันมีเรื่องต้องตรวจสอบจึงลงมาไม่ได้” นางละเพื่อนร่วมคณะเดินทางอีกสองคนโดยปริยาย คงเกิดศึกชิงนางอีกหนหากให้ไบรอันกับไลล่ามานั่งคุยตรงนี้ นางผู้หยั่งรู้เสริมว่าห้ามคุยเรื่องเครียดในเวลาพักผ่อนเด็ดขาด

“แม้จะไม่ค่อยถูกแต่ช่วยเรียกข้าว่าการ์ได้ไหมเวเบอร์ ข้าไม่ได้เกลียดชังชื่อที่ท่านเรียก แต่มันเป็นทางการเกินไป” การ์นั่งแหมะบนฝั่งตรงข้ามกับเวเบอร์ เขาอยากคุยกับลูกน้องคนสนิทของพ่อจริงๆมานานแล้ว “เล่าเรื่องของท่านพ่อให้ข้าฟังได้ไหม ท่านเป็นคนอย่างไร”

“ท่านรีอัส หรือรีซูร่า พรีซีดเอนเป็นคนที่น่าเคารพศรัทธา ท่านรวบรวมเหล่าปีศาจต่อสู้กับสองเมืองใหญ่เพื่อสร้างเมืองเก่าของท่านขึ้นมาอีกครั้ง” เวเบอร์รวบผมสีทองแต่ไม่ทำหางม้าให้เหมือนไบรอัน การ์ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมผู้ใช้เวทมนตร์จึงไว้ผมยาวกันนัก อย่างไรเขาก็ไม่เคยเข้าใจเรื่องเวทมนตร์อยู่แล้ว “ในอดีตเมืองของท่านล่มสลายด้วยฝีมือของสองเมืองใหญ่ ท่านจึงตั้งใจแก้แค้นให้ราชวงศ์และสถาปนาเมืองของท่านขึ้นอีกครั้ง ข้ารู้ตั้งแต่แรกพบว่าท่านผู้นั้นมีพลังฝ่ายมารครอบงำอยู่ แต่ด้วยบารมีและอุดมการณ์ทำให้ข้าเคารพท่านเสมือนเป็นพ่อบังเกิดเกล้า ท่านก็มอบความรักให้ข้าราวกับเป็นลูกชายแท้ๆเช่นกัน ข้ามารู้ตอนหลังว่าผู้ที่ครอบงำบงการนายของข้าอยู่คือจอมอสูร”

“ไม่ถามท่านหรอกว่าจะร่วมมือกับข้าไหม” การ์มุ่ยหน้าเพราะปลาหมึกเสียบไม้ตัวใหญ่ที่สุดถูกมารีน่าชิงหยิบไปกินก่อน “จะถามว่ารู้จักกับโฟเรียหรือเปล่าต่างหาก เห็นเจ้านกปากมากนั่นรู้เรื่องท่านเยอะเลย” เขาเห็นคู่สนทนาแสดงสีหน้าลำบากใจอย่างโจ่งแจ้ง

“ถ้าจะเข้ามาก็ต้องทักทายตามธรรมเนียมก่อน”

นางผู้หยั่งรู้เลิกคิ้วหันไปมองไลล่า นางกระทืบเท้ามาทางพวกเขาจนทรายปลิวฟุ้ง หญิงสาวดึงต้นหญ้าขึ้นมาขว้างใส่คู่อริอย่างเสียไม่ได้แล้วจงใจนั่งลงระหว่างมารีน่าและเวเบอร์ คงทะเลาะกับเจ้าปากหนักถึงขั้นงอนจนต้องประชด “เห็นไหมการ์ สนุกดีออก” มารีน่าหันมายิ้มให้เขาอย่างมีนัยสำคัญ ชายตาสีพระจันทร์แดงขมวดคิ้วพลางเคี้ยวปลาตากแห้ง เวเบอร์หันหน้ามาคุยกับเขาต่อไม่สนใจหญิงสาวที่กำลังงอนคนรักอยู่

“ตอนนั้นข้าอายุได้เจ็ดขวบกระมัง ภาพยังติดตาอยู่ด้วยซ้ำ เมืองที่ข้าอยู่ถูกแบ่งเป็นสามแคว้นสามตระกูล ตระกูลผู้ใช้เวท ตระกูลผู้เรียกสัตว์ปีศาจ และตระกูลผู้ใช้อาวุธอาคม คนที่สืบเชื้อสายของทั้งสามตระกูลจะต้องปวารณาตนต่อองค์จอมเทพสูงสุด ผู้ผ่านการปวารณาตนแล้วจะได้รับพลังความสามารถสายใดสายหนึ่งสืบทอดจากบิดาหรือมารดา เมื่อได้รับหนึ่งอย่างพลังอีกสองอย่างในร่างจะถดถอยและดับสูญ มีเพียงข้าที่ได้รับพลังทั้งสามอย่างอย่างเท่าเทียม หลังจากปวารณาตนข้าก็ออกเดินทางไปกับขบวนคาราวานของครอบครัวเพื่อค้าขายกับต่างเมืองและเรียนรู้วิชาจากพ่อและแม่ ระหว่างทางถูกกองโจรกลุ่มใหญ่เข้าปล้นสะดมกลางดึก แม่ของข้าตายเพื่อปกป้องข้า อันตรายเหล่านั้นคร่าชีวิตและทรัพย์สินของขบวนพ่อค้าไปเกือบหมดจนพ่อข้าต้องเรียกโฟเรียออกมาช่วย ตอนนั้นข้าเสียใจกับการตายของแม่จนเรียกพายุสายฟ้าลงมาโดยไม่รู้วิธีป้องกันหรือควบคุม ผลคือทั้งกองคาราวาน กองโจร และชีวิตอื่นๆแถบนั้นถูกสายฟ้าของข้าผลาญจนราบพนาสูร ท่ามกลางพายุสายฟ้าจักรพรรดินกเพลิงตัวนั้นใช้ร่างกายปกป้องข้ากับพ่อจนปีกขาดวิ่น พอพายุสงบพ่อข้าก็จากไปอีกคน คนครึ่งนกตัวนั้นหายไปในสภาพปางตาย นั่นเป็นครั้งเดียวที่ข้าพบกับจักรพรรดิวิหคเพลิงโฟเรีย เพราะอย่างนั้นท่านรีอัสที่ทำเพื่อครอบครัวจึงสั่นคลอนใจข้าได้”

การ์สงสารเวเบอร์ที่ต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อย เรื่องของเวเบอร์จะเป็นที่จดจำของเขาเหมือนกับเรื่องของซาราห์และฟลอร่า เขาจำเรื่องราวของคนอื่นได้ดีพอๆกับจำหน้าคน มารีน่าชี้ให้เขาดูว่าไลล่าจดจ่อมีอารมณ์ร่วมจนถึงกับน้ำตาคลอเบ้า

“ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามคุยเรื่องเครียด ตอนนี้คือเวลาพักผ่อนของข้า” มารีน่าบ่นอุบ แววตาสีมรกตกล้าแข็งตวัดไปหาเวเบอร์ นางล้วงย่ามในเสื้อคลุมหยิบเหรียญเงินออกมาให้กำมือหนึ่ง “เวเบอร์นี่คือการลงโทษ ไปแลกเงินแล้วซื้อปลาหมึกย่างมาอีก ข้ายังกินไม่หายอยาก” การ์โล่งใจนึกว่านางจะอาละวาดอีกครั้ง

“ก่อนไปท่านช่วยตอบข้าได้หรือไม่” เวเบอร์กอบเงินเตรียมไปซื้อของเพิ่มอย่างว่าง่าย “เกี่ยวกับคนที่สอง ท่านพี่หญิงของข้าอยากรู้ว่าคนที่สองจะเป็นคนแบบไหน และอยู่ใต้สังกัดของจอมเทพองค์ใด”

“จะตอบให้เอาบุญ” นางผู้หยั่งรู้เลิกคิ้ว “คนที่สองจะมีแผงปีกสีรุ้งเกราะเทพเป็นสีทองสุกปลั่ง เป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยพลังเวทมนตร์แข็งกล้ากว่าพี่หญิงเจ้าหลายเท่า เขาเกิดจากมนุษย์อีกหลายสิบหลายร้อยปีนับจากนี้ และจะได้เป็นศิษย์สายตรงในสังกัดขององค์จอมเทพสูงสุดเอริส รู้แล้วก็รีบไปซื้อมาเดี๋ยวนี้”  

“เรื่องอะไรหรือมารีน่า” การ์ถามมารีน่า ก่อนจะหันไปฝากซื้อกุ้งมาย่างกินด้วย หากมารีน่าไม่ว่าเขาอาจได้ทำอาหารกินกับคนที่เปรียบเสมือนพี่ชายครั้งแรกในชีวิต การ์พลันนึกถึงคำสั่งเสียของพ่อบุญธรรมที่ให้เขาตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง จุดหมายนั้นใกล้เข้ามาแล้ว

“เรื่องของโลกอื่น เป็นตำนานแปดเทพแห่งอิเดน หลายร้อยปีก่อนองค์จอมเทพสูงสุดเข้าสู่ผนึกพร้อมเทพปีศาจผู้อยู่เหนือปีศาจทั้งมวล จำต้องอาศัยพลังจากเทพอีกแปดองค์มาค้ำจุนเพื่อการต่อสู้ครั้งสุดท้าย” มารีน่าเสริมอีกว่าเล่าไปก็ไม่เป็นไร

“อิเดนจะประสบเภทภัยและหายนะน้อยใหญ่แปดครั้งเพื่อให้กำเนิดเทพแปดองค์ องค์แรกคือเทพีเฟเรซิสพี่สาวบุญธรรมของเวเบอร์ พระนางกับผู้กล้าพัวร์รีนเป็นคนเลี้ยงดูเวเบอร์ที่เป็นกำพร้าเหมือนน้องชาย ทั้งสองร่วมกันเลี้ยงดูประสิทธิประสาทวิชาการใช้เวทมนตร์ให้ หมอนั่นเป็นอัจฉริยะจึงเรียนรู้วิชาเวทจากผู้กล้าและองค์เทพีได้ในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังได้รับพรให้มีพลังอีกสองอย่างยิ่งเหมือนเสือติดปีก”

“รวดเร็วแค่ไหนหรือ” อยู่ๆไลล่าก็แสดงอาการอยากรู้อยากเห็นขึ้นเสียอย่างนั้น

“สิ่งที่คนปกติใช้เวลาเรียนสิบปี หมอนั่นใช้เวลาแค่สองปีเรียนรู้จนแตกฉาน” มารีน่าทำให้การ์ขอบคุณเวเบอร์ที่เป็นมิตรกับเขา “โชคดีที่ไลล่าได้รับดาบสลายเวทจากเทพีเฟรเซีย หากมีดาบเล่มนั้นอยู่ในมือ ต่อให้เป็นอาคมจากจอมเทพสูงสุดก็ถูกทำให้หายไปได้ เฉพาะเวทมนตร์ที่เกิดจากพลังของมนุษย์หรือเทพ จอมเทพสูงสุดจึงสร้างอาวุธอื่นที่สามารถปลดปล่อยเวทมนตร์ในรูปแบบต่างๆได้เพื่อต่อกรกับดาบเล่มนี้”

“แล้วเทพีเฟรเซียที่เจ้าพูดถึงไม่กลัวดาบถูกขโมยไปใช้หรือ นำมามอบให้ไลล่าใช้แบบนี้” หัวสมองของการ์ประมวลผลอย่างหนักหน่วงเหมือนพยายามดันรถม้าขึ้นเนิน อีกไม่นานคงระเบิดดังตูม

“ดาบเล่มนั้นเป็นสิ่งพิเศษ เหมือนซีซาร์สัตว์รับใช้ที่ไลล่าได้รับ ธนูที่ท่านเห็นในภาพอดีตก็ด้วย ทั้งหมดนั่นคือส่วนหนึ่งจากร่างของพระนาง ผู้สั่งการมันให้สำแดงฤทธิ์หรือเรียกกลับคืนสภาพเดิมได้มีเพียงพระนางเท่านั้น”

“ตกลงจะให้ข้าเล่าเรื่องเกี่ยวกับอิเดนให้ฟังใช่ไหม” มารีน่ารู้ตัวจนได้ว่าเผลอทำให้วงสนทนาเงียบกริบ “อย่างนั้นก็ไปเรียกอีกสามหน่อมา ประเดี๋ยวข้ากับเวเบอร์จะพูดหัวข้อประวัติศาสตร์ของอิเดน โลกต่างมิติที่ลึกลับ”

การ์ไม่เอาด้วยแต่ไลล่าอยากฟัง นางอยากรู้เรื่องของเวเบอร์ให้มากกว่านี้ มารีน่ามองการ์อย่างมีความหมายแล้วปฏิเสธว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น หลังการต่อสู้กับจอมอสูรพวกเขาจะได้พบกับทูตสันถวไมตรีจากอิเดน เนื่องจากเวเบอร์ทำให้ปิดเรื่องโลกต่างมิติไม่ได้แล้วจึงอยากติดต่อให้เป็นงานเป็นการ ว่ามีอีกโลกหนึ่งที่เชื่อมต่อกับโลกนี้ด้วยประตูมิติ

“ความจริงข้าอยากให้ท่านไปเอาเตาย่างในครัวมานะการ์ ตอนนี้มีแขกมาขัดจังหวะเสียได้” มารีน่ารับกระจาดใส่กุ้งทะเลตัวโตกับห่อปลาหมึกปิ้งจากเวเบอร์ พอดีกับชายในชุดเกราะแวววาวเดินมาทางพวกเขา งานประลองกลางทะเลจะจัดในไม่ช้าเป็นเรื่องปกติที่จะพบคนใส่เกราะสำหรับต่อสู้ “การ์ ไลล่าไม่ต้อง ข้าฝากจัดการด้วยเวเบอร์ อยู่ในร่างเจ้านั่นมีเรื่องไม่หยุดหย่อน ขอให้ได้พักบ้าง”

การ์จับตามองชายคนนั้นอีกครั้ง ดูอย่างไรก็เป็นมนุษย์ธรรมดา รูปร่างใหญ่โตกว่าเวเบอร์ โหนกแก้มเป็นสันเข้ากับผิวสีคล้ำแดด เกราะสีเงินวาววับบนหน้าอกสลักสัญลักษณ์ประหลาดคล้ายสัตว์ร้ายที่งดงามและน่ากลัว ชายที่มารีน่าบอกว่าไม่ใช่มนุษย์คุกเข่าต่อหน้าพวกเขา หันหน้าให้กับเวเบอร์

“ฝ่ายไหน” การ์จับดาบข้างตัวไม่สนคำพูดของนางผู้หยั่งรู้

“มือที่สาม” มารีน่าเลิกคิ้ว “ถ้าให้ถูกก็สี่ สาวกของเทพปีศาจแห่งอิเดน...เวเบอร์เป็นที่โจษจันในหมู่เทพและปีศาจ เจ้าจึงมาเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ ใช่ไหม”

“ถูกแค่ครึ่งเดียวพระนางผู้หยั่งรู้” เสียงแหบประสานกันหลุดออกจากปากของแขกยามสาย การ์ร้องในลำคอเบาๆอย่างนี้ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน “พวกเราคิดว่าท่านเวเบอร์คงเป็นพรรคพวกร่วมอุดมการณ์เดียวกันได้จึงมาชักชวน และนำตัวท่านไปด้วยเป็นของบรรณาการแด่ท่านเทพปีศาจ”

“เทพปีศาจนายเจ้าช่างตาต่ำแท้ ไร้พรสวรรค์ในการหาพันธมิตร” เวเบอร์ก้าวข้ามเสื่อพร้อมชักดาบจากซองข้างเอว ผมสีทองพลิ้วไหวหลุดจากเชือกพัน “ชื่อสกุลของข้าองค์เอริสเป็นผู้ประทานให้ ชีวิตครึ่งหนึ่งได้รับความเอ็นดูจากผู้กล้าอันดับหนึ่งของอิเดน ได้รับคำยกย่องจากเทพีเฟรเซียจนพระนางถึงกับลงมาไล่ล่าด้วยตนเอง ข้าไม่มีวันทรยศพวกท่านเหล่านั้นอีกเป็นครั้งที่สอง แถมตอนนี้เป็นเวลาพักผ่อนของพระนางผู้หยั่งรู้อีก เจ้าคงต้องกลับไปมือเปล่าไม่อย่างนั้นข้าคงต้องสังหารเจ้า”

“มิได้ หากท่านไม่ประสงค์จะตามกลับ พวกเราก็ยังมีรับสั่งให้นำศพท่านกลับไปอยู่ดี” การ์มองมารีน่าทางหางตา นางไม่ตระหนกกับคำขู่ หันไปเทปลาหมึกจากห่อใบตองลงจานเตรียมกินเป็นกับแกล้ม

“มารีน่า” การ์กระซิบถาม “ถ้าเทียบกับสาวกของจอมอสูรในภาพอดีต หมอนั่นอยู่ระดับใดหรือ”

“หากเจ้านี่คือราชสีห์ที่ย่างเข้าวัยรุ่น สาวกทั้งสามที่พวกท่านเห็นในภาพอดีตก็เป็นเพียงลูกอ่อนของราชสีห์เท่านั้น” นางผู้หยั่งรู้ทำให้การ์เสียวสันหลังวาบ “ไปสู้กันไกลๆหน่อยเวเบอร์ ใกล้ไปประเดี๋ยวสุดที่รักข้าโดนลูกหลง เล่นให้นานสักหน่อยก็ได้ เป็นกับแกล้มแก้เบื่อ” นางขยับที่นั่งให้มองดูทั้งคู่ชัดๆ

“มีอารมณ์ขันจริงๆ เจ้าคงอยากให้พระนางใช้เวลาพักผ่อนอย่างคุ้มค่า” เวเบอร์เหวี่ยงใบดาบพาดบ่าเหลือบตามองมารีน่า นางผู้หยั่งรู้เคี้ยวปลาหมึกตุ้ยๆราวกับกำลังดูละครเร่ “หากเจ้าทำการบ้านมามากพอคงรู้ว่าเหล่าจอมเทพประเมินข้าไว้สูงเพียงใด หากต้องการเก็บศพข้าควรนำพลพรรคมามากกว่านี้สักสิบเท่า” การ์เกือบสำลักปลาหมึก เวเบอร์บอกว่าสิบเท่าหรือ

คำสำทับของเวเบอร์ทำให้เหล่าปีศาจในคราบมนุษย์ลงมือ รยางค์นับสิบพุ่งขึ้นจากพื้นทรายใต้เท้าของชายหนุ่ม เขาตวัดดาบตัดในได้ในครั้งเดียว ร่างสันทัดของเวเบอร์หายไปจากคลองสายตาไปปรากฏอยู่ด้านหลังศัตรูแล้วกระชากแขนให้ถอยหลังไป การ์ยังจำได้ว่าเวเบอร์ใช้พลังเวทกับร่างกายทำให้มีพลังเหนือคนทั่วไป ศัตรูร่างใหญ่ถูกเหวี่ยงด้วยพลังมหาศาล ส่วนรยางค์สีเนื้อถูกถอนขึ้นจากพื้นทรายให้เห็นว่างอกจากด้านหลัง ร่างใหญ่โตถูกโยนไปไกลหลายสิบหลา มารีน่าร้องของคุณที่ไม่โยนไปไกลจนเกินไป ผู้คนรอบข้างเข้ามามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น คมดาบเทพวิหคประจำตัวของเวเบอร์เปลี่ยนเป็นน้ำแข็งใสกระจ่าง น้ำทะเลส่วนหนึ่งถาโถมขึ้นบนชายฝั่งแล้วแปรสภาพเป็นเข็มน้ำแข็งเข้าทิ่มแทงคู่ต่อสู้ ชายนัยน์ตาสีพระจันทร์แดงไปโผล่ด้านหน้าศัตรูแล้วใช้ใบดาบน้ำแข็งฟาดฟัน ร่างใหญ่โตขาดสองท่องรอยแผลถูกแช่แข็งให้ยึดติดกับพื้น ใบดาบเปลี่ยนสภาพเป็นดาบปกติก่อนเปล่งแสงสีแดง ร่างท่อนล่างระเบิดกระจุยในพริบตาเดียว

การ์คิดว่าเวเบอร์คงวางแผนทุกอย่างเอาไว้เสร็จสรรพ เจ้าตัวถอยหลังหลบระหว่างที่ลำตัวท่อนบนและรยางค์สีเนื้อแยกตัวออกเป็นปีศาจหลายสิบตัว เจ้าพวกนี้คงรวมร่างกันเป็นหนึ่งเดียว เหล่าปีศาจเข้าฟาดฟันเวเบอร์ด้วยกรงเล็บและเวทมนตร์ต่างๆทำให้เกิดแสงสีมากมาย ดาบสีเงินปลาบเข้าต่อกรกับเหล่าปีศาจจนเรียบวุธในชั่วปลาหมึกหนึ่งไม้ ชายนัยน์ตาสีพระจันทร์แดงผิวปากเบาๆ เศษชิ้นส่วนโชกเลือดสีดำขลับขยายใหญ่กลับมามีชีวิตอีกครั้งเป็นปีศาจร่างยักษ์หลายร้อยตัว เสียงหัวเราะระงมทำให้การ์กับมารีน่ากินปลาหมึกได้อย่างมีอรรถรส

เกิดจากความเบื่อหรืออะไรการ์ไม่รู้ได้ เวเบอร์ไปยืนลอยตัวอยู่กลางทะเลคมดาบเทพวิหคกลายเป็นสีดำสนิทราวความมืด สายลมและอากาศรอบตัวการ์สั่นไหวแบบแปลกๆ ทันใดนั้นน้ำทะเลใต้เท้าของเวเบอร์ก็ยุบตัวราวกับโดนค้อนยักษ์ทุบ เสียงหัวเราะกลายเป็นเสียงหวีดร้องเหล่าปีศาจต่างวิ่งหนีเวเบอร์ด้วยความเกรงกลัว บางตัวเกาะต้นมะพร้าวอย่างแน่นหนาจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ราวกับมีแรงดึงดูดที่มองไม่เห็นดึงเหล่าปีศาจเข้าไปหาเวเบอร์ที่ใจกลาง ปีศาจอัปลักษณ์ตนแล้วตนเล่าถูกดูดหายไปในดาบสีดำแม้กระทั่งน้ำทะเลใต้เท้าก็ถูกดูดเข้าไปด้วย  หาดทรายมีแต่รอยกรงเล็บครูดไถล ต้นมะพร้าวนับสิบหักโค่น ผู้คนพยายามหนีปีศาจให้ไกลที่สุดจนเหลือแค่พวกเขานั่งกินปลาหมึกดูการต่อสู้อย่างสงบเรียบร้อยพวกอลันและริเรียก็ลงมาดูเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น การ์ตั้งข้อสังเกตกับมารีน่าว่าแรงดึงดูดมีผลกับปีศาจเท่านั้น

“เป็นเวทสายความมืดหรือเวทธาตุจักรวาล” มารีน่าอธิบายหน้าตาเฉย “ดาบเล่มนั้นแสดงพลังได้เจ็ดรูปแบบ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ ทอง แสงสว่าง และจักรวาล” นางเรียกให้ริเรียกับอลันนั่งบนเสื่อด้วย

“ปีศาจจากดินแดนของเวเบอร์มากวนตอนกำลังกินกันอยู่” การ์เล่าให้อลันฟังคร่าวๆ ปลาหมึกย่างใกล้หมดอีกแล้ว

ทันทีที่ปีศาจตัวสุดท้ายถูกดูดหายเข้าไปในดาบเวเบอร์ก็หายไปจากคลองสายตาอีกครั้งก่อนเสียงระเบิดจะคำรามก้องจนแทบหูหนวก การ์เห็นเวเบอร์ยืนหันหลังให้พวกเขา ดาบเทพวิหคปักลงพื้นทรายสร้างกำแพงดินใหญ่โตทอดแนวยาวตลอดชายฝั่งสูงจนเลยยอดมะพร้าว น้ำกับเศษเนื้อกระเซ็นข้ามกำแพงใหญ่เรียกเสียงฮือฮาจากริเรียได้  

“ข้าต้องใช้กำแพงดินป้องกันการอัดกลับของแรงดึงดูด” เวเบอร์ถอนดาบขึ้นจากพื้น “ไม่อย่างนั้นชายหาดสวยๆนี่คงเต็มไปด้วยเศษเนื้อของพวกปีศาจเมือกี้”

ร่างก่อนต่อสู้เป็นอย่างไรหลังการต่อสู้ก็เป็นเยี่ยงนั้น สะอาดหมดจดไร้บาดแผล เลือดสักหยดก็ไม่มีติดบนเสื้อผ้า ไม่มีท่าทีกระ:-)กระสน แม้ความเหนื่อยล้าสักนิดก็มองไม่เห็น ความน่าเกรงขามของเวเบอร์ทำให้การ์สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ความเงียบเข้ามาปกคลุมกระทั่งมารีน่าตบมือให้อย่างร่าเริง นางบอกว่าเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก

“ข้าจะบอกวิธีใช้พลังแบบเทพให้ เป็นการตอบแทนที่ท่านทำให้ข้าเพลิดเพลินกับการต่อสู้” มารีน่าทำให้การ์และไลล่าประท้วง แค่นี้เวเบอร์ก็เก่งกว่าพวกเขาหลายขุมแล้ว เหตุใดจึงไปสอนวิชาให้เก่งขึ้นกว่านี้อีก

“พอได้แล้วมารีน่า จะไปสอนศัตรูทำไมกัน” ไบรอันคำรามเพราะเห็นการต่อสู้ของเวเบอร์โดยตลอด มีเพียงเขาคนนี้ที่นางผู้หยั่งรู้ไม่ฟังเสียง

“ยื่นมือขวาขึ้นทาบหน้าอกแล้วตั้งสมาธิ กลั่นกรองจิตและตัวตนของเจ้ามาเป็นพลังในมือข้างขวา ใช้พลังในสำนึกกอบและบีบอัดให้พลังอยู่ตัว” เวเบอร์ทำตามคำบอกของมารีน่า มือข้างขวาบนหน้าอกเปล่งแสงสีแสดราวเพลิงมังกร “เมื่อรู้สึกถึงก้อนพลังได้ก็ตวัดมือปล่อยมันออกไปยังเป้าหมาย ตัวตนแห่งวิญญาณของเจ้าจะปรากฏในภาพลักษณ์ของสัตว์ ของข้าคือนกนางแอ่นสีน้ำทะเล ของเทพีเฟรเซียเป็นจิ้งจอกเก้าหางสีเลือด ความบริสุทธิ์จากพลังในตัวจะสร้างขอบเขตของอำนาจขึ้น จุดสำคัญคือต้องมั่นใจ”

เวเบอร์ตวัดมือข้างขวาไปยังกำแพงดินหนา ก้อนพลังสีแสดก่อรูปเป็นงูตัวยาวเหยียดพุ่งไปยังเป้าหมายอย่างแม่นยำ กำแพงดินหนาที่สูงใหญ่แตกร้าวถล่มลงมาบนพื้นทรายทั้งแถบ การ์และอลันอ้าปากค้างอย่างไร้ทางควบคุม เพียงเวเบอร์ใช้พลังแค่ครั้งเดียวก็ทำลายกำแพงป้องกันแรงอัดอากาศได้ พวกเขาจะทำอย่างนี้ได้ไหมหนอ แม้แต่เจ้าตัวยังยื่นมือขวาค้างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“ท่านทำได้เพราะอยู่ใกล้เทพีเฟเรซิสจนมีกลิ่นไอเทพติดตัว คนอื่นทำไม่ได้หรอก” มารีน่าหยิบกระจาดกุ้งมาดูเป็นเป้าหมายต่อไป เวเบอร์ตวัดดาบทำให้กองดินบนชายหาดสลายไป แม้แต่ซากเนื้อบนท้องน้ำยังหายไปในอากาศด้วย

“กินกุ้งๆ สุดที่รักไปเอาขาตั้งกับตะแกรงย่างมาให้ข้าได้หรือไม่” มารีน่าหันไปสนใจกุ้งในกระจาดเหมือนเด็กเล็กๆ “ท่านก็มากินด้วยกันสิเวเบอร์ เรากินกันสามคนใครไม่อยากร่วมวงก็ปล่อยเขาไป”

“ข้ากินด้วยได้หรือไม่” ไลล่าลุกขึ้นช่วยการ์ขนของ มารีน่าร้องดีใจที่มีคนร่วมวงเพิ่มอีกสองคนคือไลล่ากับอลัน “ข้าไม่สนคนหลายใจหรอก” ไลล่าค้อนใส่คนรักแล้วเดินตามการ์อย่างรวดเร็ว

“ทะเลาะกันเรื่องอะไรหรือ” การ์ลังเล การยุ่งเรื่องของคนอื่นไม่ใช่นิสัยดั้งเดิมของเขา

“เมื่อก่อนตานั่นเคยมาที่นี่แล้วซื้อนางโสเภณีนั่นให้เป็นอิสระ” ไลล่ากระแทกเสียง “นางนั่นบอกว่าเคยเปลือยกายอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เปลือยกายด้วยนะ ถ้าไม่มีคำว่าเปลือยกายข้าก็อยากเชื่อว่าไม่มีอะไรจริง”

“ไม่มีอะไรจริงๆไลล่า” การ์เหลียวดูเจ้าปากหนักตามมาง้อ ผมหางม้าสั่นไหวเพราะวิ่งตามพวกเขารวดเดียว “ถามการ์ก็ได้ ตอนนั้นข้าโดนคำสาปทำให้ไม่มีอารมณ์เมื่ออยู่ใกล้สตรีเพศ ข้ากับลูอิสไม่มีอะไรกัน นางโดนข่มขู่ให้ขายตัวข้าจึงต้องช่วยอย่างเสียไม่ได้ ประเดี๋ยวเพื่อนข้ามาเมื่อไรไปถามได้เลย”

“ถ้าไม่โดนคำสาปบ้าๆนั่นคงมีอะไรกันไปแล้วใช่ไหม” ไลล่าตวัดสายตามอง นางค้นตามตู้ในครัวจนเจอขาตั้งและตะแกรงเหล็กสำหรับปิ้งย่าง “เขาที่ว่าเป็นเพื่อนท่านก็ต้องช่วยท่านอยู่แล้ว”

“เขาโดนคำสาปจริงๆไลล่า ถามการ์ลูสกับมารีน่าดูก็ได้ ข้าเป็นพยานได้” การ์รับขาตั้งเหล็กทรงพีระมิดมีช่องใส่ถ่านอยู่ส่วนบนของขาตั้ง

“ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้นการ์ สองคนนี้มาแบบเดียวกันไม่มีผิด ปากบอกว่ารักนักรักหนา รักแทบตายแทนได้ ความจริงก็แค่อยากหาหญิงคนใหม่ไว้เชยชม” นางทำให้การ์โคลงหัว โชคดีที่เขาไม่มีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามไม่อย่างนั้นคงปวดหัวไปจนตาย “ผู้ชายคงเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด”

“อย่างนั้นข้าเปิดอดีตให้ดูก็ได้ มารีน่าคงยอมให้ข้าเปิดให้เจ้าดูได้อย่างอิสระ หากไม่ยอมเชื่ออีกคราวนี้ไปขอกับตัวมารีน่าเลย ข้าเอาหัวเป็นประกันว่าไม่มีอะไรจริงๆ คนที่ข้ารักคือเจ้าคนเดียว” เจ้าปากหนักคว้ามือของหญิงสาวไว้ทัน

การ์รีบคว้าตะแกรงเหล็กมาจากมือของไลล่า หญิงสาวหยุดนิ่งครุ่นคิดชั่วอึดใจจึงยอมจำนนต่อคำพูดจากปากคนรัก เขาก้าวเดินไปหามารีน่าทันทีนางผู้หยั่งรู้คงตอบได้ว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร จริงอย่างที่มารีน่าพูดเอาไว้ ใจนารีแปรปรวนกว่าคลื่นลม เมื่อครู่ยังโกรธแทบฆ่ากันตายไปข้าง ตอนนี้กลับมาดีกันอีกครั้ง

“ตั้งตะแกรงเลยสุดที่รัก” มารีน่ายิ้มแฉ่ง นางบอกว่าเวเบอร์ไปซื้อกุ้งเพิ่มนางจะได้กินได้เต็มอิ่ม “อีกสามวันพวกเราไปลงชื่อและคัดตัวกัน คนที่จะร่วมประลองมีท่าน อลัน ริเรีย ไบรอัน ไลล่า ห้าคนไม่นับรวมเวเบอร์”

“จะมอบดาบจอมกษัตริย์ของจริงให้อลันอย่างนั้นหรือ” การ์กดขาตั้งให้จมลงไปในทรายอย่างมั่นคง “แล้วถ้าเจอเวเบอร์จะสู้อย่างไรล่ะ”

เขาวางตะแกรงเหล็กเหนือช่องใส่ถ่าน มารีน่าดีดนิ้วเกิดเปลวเพลิงสว่างวาบในช่องใส่ถ่าน กุ้งทะเลตัวใหญ่ถูกวางบนตะแกรงย่างอย่างเป็นระเบียบ เรื่องของสองคนนั้นจะเป็นอย่างไรเขาไม่สนใจแล้ว อีกสักพักเวเบอร์พี่ชายของเขาจะกลับมาทานอาหารร่วมกัน เป็นเวลาอันยาวนานที่เขาไม่ได้ทานอาหารกับคนที่เปรียบเสมือนครอบครัวอย่างนี้...

จากคุณ : Lazy return
เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 17:44:37




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com