Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นักรบจันทรา ตอนที่ 18 การประลองฆ่าเวลา ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 18 การประลองฆ่าเวลา


ช่วงเวลาสามวันรอการลงชื่อในการประลองประจำฤดูทำให้ไบรอัน บรู๊คต้องกุมขมับซ้ำแล้วซ้ำเล่า เวเบอร์คู่อริศัตรูหัวใจเช่าบ้านพักอยู่ข้างๆแถมระเบียงห้องยังมองเห็นห้องของเขากับไลล่าได้ แม่นางลูอิสที่เขาเคยช่วยให้รอดพ้นจากกลุ่มค้ามนุษย์ออกมาเต้นเหยงๆให้ไลล่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ยังไม่นับเรื่องที่เจ้าการ์ออกไปซื้อของทำอาหารกินกับเวเบอร์ราวกับเป็นพี่น้องอีก อย่างน้อยเจ้านั่นน่าจะมีสำนึกของผู้กล้าอยู่บ้าง

“เขานับถือพ่อข้าเหมือนพ่อแท้ๆก็เปรียบเสมือนพี่ชายข้าด้วยเช่นกัน” การ์พูดอย่างนี้กับเขาก่อนไปเดินเที่ยวริมทะเลกับเวเบอร์ “แล้วเวเบอร์ไม่ได้มาในฐานะสาวกของจอมปีศาจ ไม่ใช่ศัตรู” ต้องโทษมารีน่าคนเดียวที่คอยขวางไม่ให้เขากับเวเบอร์ต่อสู้กันอีกครั้ง

ส่วนแม่นางริเรียยังคงปากหนักชอบวางอำนาจเสมอต้นเสมอปลาย ยิ่งตอนนี้คนที่เข้ามาสุงสิงกับการ์มีทั้งเวเบอร์ทั้งมารีน่าแล้วก็อลันที่ไปไหนมาไหนด้วยกันอีก ทำให้นางไม่กล้าอยู่ใกล้นักรบจันทราผู้มีชะตาผูกพันกับนาง ไลล่าบอกกับเขาว่านางกำลังรอการ์ให้เป็นฝ่ายเข้ามาหาเอง  

“มารีน่าเรียกการ์ว่าสุดที่รักเพราะต้องการให้เจ้าหึงเขา” ไบรอันถือวิสาสะเข้าไปคุยตอนริเรียกำลังอ่านหนังสือบนชายหาด หญิงสาวชำเลืองหางตามองเขาอย่างไม่ใยดี “เจ้าการ์มันซื่อจนบื้อ ให้ตายอย่างไรก็ไม่รู้หรอกว่าเจ้ามีใจให้ หมอนั่นมุ่งมั่นทำตามคำสั่งเสียจนไม่สนอย่างอื่น แค่เวเบอร์บอกว่านับถือพ่อของเขาเหมือนเป็นพ่อตัวเองก็เทิดทูนเหมือนเป็นพี่ชายแท้ๆแล้ว”

“แล้วเรื่องของท่านล่ะไบรอัน” เจ้าหญิงตาสีฟ้าส่งแววตาเหยียดหยามมาให้เช่นเคย “เมื่อวานมารีน่าบอกว่าจะให้ไปฝึกฝีมือดาบกับการ์ แถมเวเบอร์ยังมาอยู่ใกล้ๆอีก ไม่กลัวใจนางเปลี่ยนหรือ”

ริเรียจี้จุดเจ็บของเขาอย่างไม่ใยดี วันแรกที่มาพักในบ้านของลูอิสมารีน่าก็แนะให้ไลล่าประดาบกับการ์เป็นการเรียกฝีมือคืนมา ส่วนการเรียกสัตว์ปีศาจนั้นนางเขียนโพยโคลงมนตราให้ท่องเสร็จสรรพ ตอนนี้สองคนนั้นต้องมาประดาบฝึกซ้อมกันสามเวลาก่อนอาหาร เขาไม่เชี่ยวชาญเรื่องการใช้อาวุธธรรมดาแต่พอประเมินฝีมือออก ความสามารถของเจ้าการ์เกือบเทียบเท่าองครักษ์ชั้นในของวังหลวง หญิงสาวตาสีอำพันก็เก่งขึ้นทุกครั้งที่กวัดแกว่งดาบราวกับความทรงจำของซาราห์ในตัวเริ่มตื่นขึ้น

“ถ้าไม่เก่งคงเดินทางเร่ร่อนไปทั่วไม่ได้ง่ายๆหรอก” การ์นั่งพักกินน้ำ อีกสักพักมารีน่าและลูอิสคงทำอาหารเย็นเสร็จ “เจ้าจะทำอย่างไรหากเจอกลุ่มโจรหรือสัตว์ร้ายกลางป่าเขา ยิ้มทักทายขอโทษขอโพยแล้วเดินออกมาง่ายๆอย่างนั้นหรือ แล้วเจ้าจะหาอาหารอย่างไร ขุดเผือกขุดมันกินตลอดเวลาคงไม่ได้จริงไหม”

“ข้ารู้การ์ ว่าเจ้าเก่ง” เขาผิดเองที่ไปทักว่าฝีมือดาบของการ์ยอดเยี่ยม “หากในการประลองเจ้าต้องสู้กับเวเบอร์จะทำอย่างไรหรือ”

“ยอมแพ้ มารีน่าบอกข้าแล้วว่าคนที่จะต้องประลองกับเวเบอร์คือท่านกับไลล่า ไม่ใช่ข้า” การ์วางแก้วน้ำไว้บนฝาเหยือก “นางไม่ได้บอกท่านหรือ” มารีน่าหรือนางผู้หยั่งรู้ทำหน้าที่หอกระจายข่าวได้แย่มาก นางเที่ยวบอกเรื่องต่างๆกับการ์ เวเบอร์ และอลันโดยไม่สนเขา

สิ่งสำคัญที่ทำให้เขาปวดหัวมากที่สุดคือการออกไปเดินในเขตตลาด เหตุการณ์ที่เขาเคยช่วยเมืองนี้ไว้กลายเป็นที่จดจำโดยไม่ตั้งใจ มันทำให้ชื่อผู้กล้าแสงตะวันขจรขจายจริง แต่เขาต้องการเดินตลาดคนเดียวเงียบๆให้สมองคิดเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ไม่ต้องการให้มีคนมากมายทักทายและชื่นชม ตัวเขาไม่มีอะไรน่าชื่นชมเลยสักนิด เห็นแก่ตัว ชื่อตัวถูกลบเป็นชื่อแห่งความแค้น ไม่เห็นอกเห็นใจใครถึงขั้นไร้น้ำใจ เสียดายที่บิชอปเพื่อนเขาต้องไปธุระต่างเมืองไม่อย่างนั้นคงได้นั่งดื่มกันอีกครั้ง

เวลาสามวันช่างยาวนานน่าเบื่อหน่ายยกเว้นเวลาที่เขาอยู่กับไลล่า เวลาว่างจากการฝึกมักขอให้เขาพาไปเดินริมชายหาดพลางฟังเขาอธิบายเรื่องต่างๆเกี่ยวกับทะเล เหตุใดจึงมีรสเค็ม ทะเลใหญ่แค่ไหน มีตัวอะไรอยู่ในทะเลบ้าง หญิงสาวทำตัวเหมือนเด็กเล็กๆแบบเดียวกับมารีน่าผิดกันแค่ไลล่าทำโดยบริสุทธิ์ใจเท่านั้น นั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขารักหญิงสาวคนนี้

“จะต้องคัดตัวกันอีกสองวันเต็ม ระวังตกน้ำนะไลล่า” พวกเขาไปลงชื่อเสร็จแล้วแต่ไลล่ากับเขายังเตร่อยู่บนสะพานเชื่อมฝั่งกับลานประลอง นางอยากรู้ว่าจะขึ้นไปเดินบนราวสะพานได้ไหม

ชายหาดของเมืองเมเทอาร์เป็นรูปจันทร์เสี้ยว ลานประลองกลางทะเลคือสิ่งปลูกสร้างที่ยื่นจากกึ่งกลางชายหาดไปกลางทะเล สะพานหินอ่อนสีเทามีราวเอาไว้กันคนตกน้ำ สถานที่ประลองสร้างจากหินแกร่งริมที่นั่งคนดูฝังอัญมณีป้องกันเอาไว้ไม่ให้คนดูโดนลูกหลง ที่นั่งคนดูเป็นชั้นหินอ่อนไล่สีจากอ่อนไปเข้ม ด้วยความใหญ่โตและสวยงามจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองนี้

สองวันกับการคัดตัวอย่างดุเดือด พวกเขาจะต้องสู้กับคนของทางการเพื่อจำกัดจำนวนคนเข้าร่วมให้เหลือแค่สิบหกคน ทั้งการ์ ไลล่า อลัน และริเรีย สามารถผ่านการคัดตัวมาได้อย่างง่ายดาย มีเพียงเขาเท่านั้นที่ไม่ต้องผ่านการคัดตัว เจ้าเวเบอร์เกือบฆ่าเจ้าหน้าที่คัดตัวแล้วถ้าไลล่าไม่ห้ามเสียก่อน

“อย่าฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องนะเวเบอร์ ไม่อย่างนั้นข้าจะแค้นท่านไปจนตาย” นางคำรามขณะที่ปลายดาบของเวเบอร์จ่อคอหอยของเจ้าหน้าที่ เขาคิดว่าได้ยินเสียงหัวเราะมาจากการ์และมารีน่าช่วงนี้ทั้งคู่เข้าขากันดีกว่าปกติ

“ไม่ไปดูป้ายผลการคัดตัวหน่อยหรือ แล้วจะรู้ว่าใครในหมู่พวกเราโชคร้ายที่สุด” ริเรียเลิกคิ้ว

ไบรอันเดินแทรกกลุ่มคนไปยังป้ายประกาศขนาดใหญ่ มีแผ่นหนังสัตว์เขียนรายชื่อผู้เข้าร่วมประลองสิบหกคนด้วยตัวบรรจงติดเอาไว้ การประลองแบ่งเป็นสองสาย สายแรกประลองตอนเช้า สายสองประลองตอนบ่าย เขาและไลล่าอยู่สายที่หนึ่ง ส่วนอีกสามคนอยู่สายที่สอง เขาอยู่สายเดียวกับไลล่าแสดงว่าอาจต้องสู้กัน การ์บรรจงชี้ให้ไบรอันดูว่าชื่อเขาและเวเบอร์อยู่ห่างกันแค่นิดเดียว หากเขาและเวเบอร์ชนะการประลองในรอบแรก รอบที่สองเขาทั้งคู่จะต้องสู้กันอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ข้าสาบานว่าจะไม่ฆ่าเจ้าเด็ดขาด เจ้าหัวเหลือง” เสียงคู่อริลอยเข้าหูเขา ผมสีทองไหววูบหายไปในกลุ่มคน เขาคิดว่าได้ยินเสียงหัวเราะของเวเบอร์ด้วย...


ในที่สุดวันประลองก็มาถึง ผู้เข้าประลองทั้งสิบหกคนต่างยืนกลางลานประลองหันหน้าไปทางปะรำพิธี พระราชากำลังกล่าวอวยพรแก่พวกเขา พระธิดาองค์กลางยืนถือดาบวิเศษเป็นของรางวัล พระนางมีผิวสีน้ำผึ้งเส้นผมดำขลับสวยงามพร้อมใบหน้าคมอ่อนเยาว์ เนื่องจากเจ้าหญิงคือของรางวัลชิ้นที่สองในการประลองคราวนี้จึงมีผู้ชายเข้าร่วมประลองมากกว่า เรื่องนี้ทำให้ไลล่างอนเขาไปครึ่งวัน นางหาว่าเขาร่วมประลองเพราะต้องการอภิเษกกับเจ้าหญิงมิเนอร์ว่า

“บอกไปหลายรอบแล้วอย่างไรละไลล่า พวกเราจะล้มมวยให้อลันชนะ” ไบรอันพูดกับคนรักขณะเดินไปนั่งข้างเวทีประลอง “พรุ่งนี้ข้าจะล้มเวเบอร์ให้ได้ คอยดูสิ”

เสียงประกาศเรียกคู่ประลองสองคนแรกดังขึ้นเรียกเสียงโห่ร้องจากผู้ชม อากาศร้อนระอุไม่ทำให้บรรยากาศในลานประลองลดความคึกคักลง การประลองระหว่างเวเบอร์กับชายร่างยักษ์จบลงในพริบตาด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เวเบอร์ใช้ความเร็วและพลังมหาศาลซัดคู่ต่อสู้ร่วงหล่นจากขอบเวทีในสภาพสลบเหมือด แม้จะไม่สลบแต่ถ้าตกเวทีนานกว่าสามสิบวินาทีก็ถือว่าแพ้อยู่ดี ชายนัยน์ตาสีพระจันทร์ยิ้มให้เขาก่อนเดินลงมาอย่างผู้ชนะ

“ที่ลงเดิมพันไปทางไหนมารีน่า ข้าอยากลงเดิมพันคู่ของริเรียกับอลัน และคู่ของไบรอันวันพรุ่งนี้ด้วย” เจ้าการ์เอ่ยถามมารีน่า ไบรอันอยากถามว่าจะลงเดิมพันข้างใครแต่กรรมการเรียกชื่อเขาให้ขึ้นเวทีต่อเป็นคู่ที่สอง

เสียงโห่ร้องดังเป็นเท่าตัวเมื่อเขาไปยืนให้เห็นชัดๆ คู่ต่อสู้ของเขาคือชายชุดดำทั่วตัวมีสายรัดเหน็บมีดสั้นเอาไว้เป็นแถบ ไบรอันคิดว่าจะต่อสู้แบบใดดี เวเบอร์เอาชนะได้ในพริบตา คงดีหากเขาจะทำให้การประลองจบอย่างรวดเร็วบ้าง ขลุ่ยเทพสายลมถูกหยิบออกจากกระเป๋าเสื้อคลุมแล้วเริ่มบรรเลงเพลงด้วยจังหวะช้าเนิบเปี่ยมไปด้วยลูกเล่นราวกับกระแสน้ำไหลวน ทั้งคนดูและผู้ร่วมประลองหยุดนิ่งไม่เข้าใจการกระทำของเขา ว่าเหตุใดจึงหยิบขลุ่ยผิวขึ้นมาเป่าอย่างสบายอกสบายใจ

ท้องทะเลส่งเสียงคำรามตอบรับเสียงเพลงของเขา กระแสน้ำพุ่งขึ้นเหนือลานประลองแล้วก่อตัวเป็นมังกรวารี ลำตัวยาวเหยียดมีหัวเหมือนปลาเข็มมีครีบและเหงือกอยู่ในตำแหน่งของคอ ลำตัวสีฟ้าใสครามครันเหมือนท้องทะเล หางเหมือนปลาแต่ไม่มีขา มันคือหนึ่งในมังกรห้าตัวที่ขลุ่ยเทพสายลมใช้บทเพลงเป็นสื่อให้มันแสดงตัวเป็นข้ารับใช้ มังกรวารีใช้ลำตัวที่ปกคลุมด้วยเกล็ดสีฟ้าปัดป้องเขาจากมีดสั้นสองเล่ม มังกรสีฟ้าคำรามกึกก้องเรียกเสียงฮือจากคนดูได้อีกครั้ง ชายชุดดำวิ่งหลบหลีกการพุ่งเข้าชนจนไม่มีเวลาพักหายใจ ลมปากที่มังกรพ่นมาเป็นไอเย็นที่สามารถแช่แข็งทะเลสาบใหญ่ได้ในพริบตาไม่ช้าชายชุดดำก็หมดแรงลง มีดสั้นที่ขว้างมาถูกปัดป้องได้ทั้งหมดกระทั่งมังกรน้ำแช่แข็งขาได้การประลองจึงยุติ การบรรเลงเพลงหยุดลงมังกรวารีก็หายไปในอากาศราวกับภาพหลอน ไบรอันใช้เวทมนตร์ละลายน้ำแข็งให้คู่ต่อสู้แล้วลงจากเวทีอย่างผู้ชนะเช่นกัน

“เก่งจังเลยไบรอัน เอาชนะได้ง่ายๆเลย” ไลล่าลุกขึ้นกอดเขาอย่างคนรัก ริมฝีปากนางสัมผัสแก้มเขาเบาๆแล้วหันไปมองทางอื่นแก้เก้อ ใบหน้านางแดงเหมือนผลมะเขือเทศ “มารีน่าเป็นคนบอกให้ทำอย่างนี้หากท่านชนะ เรียกว่าหอมแก้มใช่ไหม”

“เอ้าๆ เก็บอาการหน่อยไบรอัน ประเดี๋ยวคนอื่นรู้กันพอดีว่าท่านไม่เคยจีบสาวติดเลย” นางผู้หยั่งรู้ร้องทัก “พรุ่งนี้ถ้าท่านแพ้เวเบอร์ในพริบตาเดียว ข้าจะให้นางจูบปากเวเบอร์จริงๆด้วย” ไบรอันและไลล่าค่อยๆนั่งบนม้านั่ง ความแช่มชื่นในหัวใจถูกทำลายลงด้วยฝีมือของนางผู้หยั่งรู้

“หากอยากทำตัวเจ้ากี้เจ้าการ เหตุใดจึงไม่ไปสั่งรายนั้นบ้างล่ะ” เขาพยักพเยิดไปทางริเรียทันที “ข้าอยากรู้ว่าเจ้าการ์จะทำอย่างไรเมื่อถูกริเรียหอมแก้ม คงดีใจจนคลั่งเลยกระมัง”

“แกล้งคู่นั้นไม่สนุกเท่าแกล้งท่านนี่ไบรอัน” มารีน่าหันไปดูการ์เดินกลับเข้าลานประลอง นางกับเขาต้องเปลี่ยนเรื่องพูดเพราะไม่อยากให้ไก่ตื่นเสียก่อน ตอนนี้นักดาบหนุ่มกับนักเวทสาวขึ้นเวทีประลองแล้ว “คู่หน้าถ้าไลล่าชนะก็จูบปากกันสดๆเลยสิ เป็นของตอบแทนที่หอมแก้มเมื่อกี้ และถ้าพรุ่งนี้ท่านชนะเวเบอร์ได้ข้าจะบังคับให้ไลล่าเปลื้องผ้าต่อหน้าท่าน แต่คงไม่มีหวังหรอก”

“พูดเป็นเล่นไปได้มารีน่า ข้าไม่ยอมให้ความสัมพันธ์ของเราคืบหน้ามากกว่านี้อีกแล้ว” ไบรอันถอนหายใจเฮือก การ์ยื่นใบลงเดิมพันให้มารีน่ากับอลัน “อย่างน้อยก็จนกว่าจะล้างแค้นได้ หรือข้าต้องกลายเป็นคนอื่นไป”

“หมอนี่บอกว่าถ้าเขาล้างแค้นสำเร็จจะจับไลล่าเปลือยกายเป็นรางวัลชีวิต ไม่มีอะไรหรอกสุดที่รัก” มารีน่าปดสดๆร้อนๆแถมเอาเรื่องของเขามาพูดให้เสื่อมเสียอีก ถึงจะล้างแค้นสำเร็จจริงเขาก็ไม่มีวันข่มเหงหญิงสาวเด็ดขาด

“มารีน่า ตอนบ่ายเจ้าการ์จะชนะหรือเปล่า” ไบรอันดึงใบลงเดิมพันจากมารีน่า ข้างในเขียนอัตราต่อรองไว้เสร็จสรรพ “ท่าทางกระจอกแบบนี้ท่าอัตราต่อรองจะสูง น่าจะได้มากกว่าวางเดิมพันคู่ของริเรียกับอลัน”

พอพวกเขารู้ตัวอีกทีคู่ที่สามก็จบลงไปแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะเขากับเวเบอร์เอาชนะได้ด้วยเวลาอันน้อยนิดจึงอยากเลียนแบบบ้าง ผู้ใช้เวทสาววัยรุ่นเป็นฝ่ายชนะอย่างสะบักสะบอม ไลล่าพิจารณาคู่ต่อสู้ในรอบถัดไปก่อนก้าวขึ้นเวที คู่ประลองของนางเป็นนักดาบหนุ่มเจ้าสำอาง ผิวขาวหน้าตาดีเหมือนเจ้าชายในเทพนิยาย เจ้าบ้าคนนั้นทำท่าจะจีบไลล่าเสียด้วยซ้ำตอนนั่งรอเวลาประลอง น่าเสียดายที่เจ้าหน้าหล่อคนนี้เป็นเหยื่อของหญิงสาว ถ้าเป็นคู่ต่อสู้ของเขาหมอนั่นคงเสียโฉมก่อนได้ลงจากเวทีแน่

“พยายามเข้าไลล่า ถ้าเจ้าชนะไบรอันจะจุมพิตที่ปากเจ้าเป็นรางวัล” นางผู้หยั่งรู้ทำตัวคึกคะนองยิ่งกว่าคนดูเสียอีก “ถ้าท่านไม่ทำข้าจะให้เวเบอร์ทำแทน” มารีน่าหันมาส่งยิ้มกวนโทโสให้เขาเสียอีก เจ้าการ์ก็พลอยหัวเราะในลำคอไปด้วยเป็นลูกคู่

“คุ้นหน้านะ คล้ายเจ้าชายรัชทายาทของเมืองอะไรสักแห่ง” ริเรียเอ่ยปากเป็นครั้งแรกของวัน “ไม่ต้องมามองหน้า ข้าไม่ชอบทำอะไรประเจิดประเจ้อเหมือนท่านนี่ไบรอัน” หญิงสาวหันมาค้อนใส่เขาก่อนหันไปดูการประลองต่อ

ไลล่าเหวี่ยงดาบอย่างหนักแน่นและรุนแรง เจ้าชายหน้าสวยคงอ่านทางไม่ทันประกอบกับไม่อยากทำร้ายผู้หญิงจึงเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่ละดาบของไลล่าหมายปลิดชีพคู่ต่อสู้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเล็งที่ลำคอ หัว หน้าอก หรือท้อง ในขณะเดียวกันก็ใช้ด้ามดาบในการตั้งรับและหลบหลีก ไบรอันคิดว่าว่าเขามองเห็นแผ่นหลังของซาราห์ซ้อนทับร่างของนางอยู่ หากซาราห์ยังมีชีวิตอยู่คงสนุกกับการประลองครั้งนี่แน่ การต่อสู้จบลงเมื่อไลล่าถีบชายหนุ่มที่ยอดอกจนล้มกระแทกพื้น ดาบวิเศษลอยลงไปจ่อที่คอหอยจนกรรมการประกาศให้นางเป็นฝ่ายชนะ คนดูกว่าครึ่งโห่ร้องเรียกชื่อไลล่าสนั่นหวั่นไหว

“ยอดมากไลล่า ประเดี๋ยวไปหาอะไรกินก่อนค่อยมาดูประลองรอบบ่าย” ไบรอันรับหญิงสาวลงจากเวที บรรดาคนดูและผู้เข้าร่วมประลองต่างแยกย้ายออกไปและจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเมื่อถึงเวลา ไลล่าเสียบดาบเข้าซองแล้วกอดเขาอย่างแนบแน่น นางคงเสียขวัญเพราะเป็นการต่อสู้จริงๆครั้งแรก

“มีรางวัลจะให้ข้าด้วยไม่ใช่หรือ” ด้วยความที่นางเตี้ยกว่าเขาเล็กน้อยจึงไม่ลำบากในการกระซิบข้างหู เขาจำไม่ได้ว่าสัญญาไปเมื่อไร บางทีเขาอาจเผลอพูดไปว่าจะเลี้ยงปลาหมึกปิ้งหากนางชนะรอบแรก “ทำเป็นไม่รู้อีก ท่านฝากมารีน่ามาบอกข้าแล้วนี่ ถ้าท่านไม่ทำข้าลงมือเองนะ”

ไบรอันรู้ตัวทันควันว่าเป็นแผนของมารีน่า พอจะหันไปต่อว่าก็ถูกหญิงสาวชิงกระทำชำเราโดยไม่ยินยอมเสียก่อน ริมฝีปากของนางบดเข้ากับริมฝีปากของเขาอย่างดูดดื่ม ในหัวของเขาว่างเปล่าไม่รู้จะทำอย่างไร จะขัดขืนก็เกรงนางจะเข้าใจผิดว่ารังเกียจ จะตามน้ำเกียรติของเขาที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำอะไรนางมากกว่ากอดคงมัวหมอง เป็นครั้งที่สองที่ความบริสุทธิ์ของผู้กล้าแสงตะวันคนนี้ถูกทำลายจนพินาศย่อยยับ อย่างน้อยครั้งนี้ก็เป็นฝีมือของผู้หญิงที่เขารัก

“สองคน จะทำอะไรกันก็หัดหาห้องหับเสียก่อนสิ” นางผู้หยั่งรู้ตัวต้นเรื่องส่งเสียงเยาะเย้ยอย่างไม่ใยดี

พอสมใจหญิงสาวก็ถอนริมฝีปากออกอย่างแผ่วเบา เขาคงกลายเป็นดอกไม้ริมทางสำหรับนาง นึกจะดอมดมก็ทำอย่างไม่ปรานี ไบรอันถอนหายใจเบาๆกอดหญิงสาวไว้เต็มอ้อมแขน ไลล่าบอกขอบคุณเบาๆข้างหูพลางยิ้มอย่างใสซื่อ ไม่รู้แม้แต่น้อยว่ากำลังทำให้ชื่อผู้กล้าแสงตะวันมีรอยด่างพร้อยใหญ่หลวงต่อหน้าฝูงชน เขาคงโทษหญิงสาวไม่ได้เพราะเป็นนางในดวงใจและเป็นแผนการยุยงของมารีน่า

“ทำแล้วรู้สึกว่าเราใกล้ชิดกันมากขึ้นจริงๆ เหมือนที่ท่านฝากมารีน่ามาบอกเลย” ไลล่าดันตัวออกจากอ้อมแขนแล้วไปสมทบกับริเรีย มารีน่าชิงพาหญิงสาวอีกสองคนไปพ้นสายตาเสียก่อนไม่อย่างนั้นเขาคงเอ็ดนางจนสาแก่ใจ

“เป็นแผนของมารีน่า นางจงใจปั่นหัวข้า” ไบรอันบ่นให้การ์กับอลันฟัง เก็บความรู้สึกดีใจไว้ในซอกหลืบเล็กๆของหัวใจพร้อมนำออกมาชื่นชมภายหลัง “ข้าเดิมพันข้างเจ้าห้าเหรียญทองการ์ ต้องชนะให้ได้นะ” เขาเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปซุ้มรับใบเดิมพัน...


“เล่นงานข้าเสียแสบเลยนะมารีน่า หัดหาห้องหับอะไรกัน” อารมณ์มุ่งร้ายของไบรอันเข้าจู่โจมนางผู้หยั่งรู้ทันทีที่พบตัว นางกำลังทานปลาอบเกลือย่างกับสุดที่รักของนางอยู่ เจ้าการ์เสียอีกที่ไม่ตื่นเต้นกับการประลองเลย

“ข้าช่วยท่านต่างหาก” นางผู้หยั่งรู้บ่นอุบทำเป็นมีเจตนาดี “ลองจุมพิตกันต่อหน้าผู้คนคงไม่มีใครกล้าเข้าหาไลล่าหรอก เสียอย่างเดียวตรงที่เวเบอร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พรุ่งนี้ท่านเละแน่” หญิงสาวเรียกเขาให้นั่งข้างๆรอผู้ร่วมประลองคนอื่นๆ

“ถ้าสำนึกผิดจริงก็บอกมา คนๆนั้นจะปรากฏตัวเมื่อไร ข้าจะแก้แค้นสำเร็จหรือไม่” ไบรอันนั่งไขว่ห้างด้วยความหงุดหงิด ในหัวของเขายังคงมีภาพการจุมพิตจากไลล่าอยู่ ริมฝีปากยังรู้สึกได้ถึงความอวบอิ่มและรสหอมหวานของหญิงสาว คิดได้แค่นั้นเขาพลันขอตัวไปห้องน้ำก่อนคนอื่นๆจะมาถึง

“เป็นอะไรไปไบรอัน ปวดท้องหรือ”

ไลล่าสังเกตได้ก่อนริเรียว่ามือของเขาวางบนตักอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ความรู้สึกที่ถูกอัดอั้นมาร่วมยี่สิบปีไม่ใช่สิ่งที่ยอมสยบให้เขาง่ายๆ การ์กับอลันรู้เรื่องของผู้ชายด้วยกันดีพยายามกลั้นหัวเราะจนตัวงอ ส่วนริเรียกับมารีน่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นั่งกินของว่างหลังอาหารกลางวันไม่สนใจเขาสักนิด เขาต้องหนีหญิงสาวไปนั่งข้างอลันเอามือขวาหยิกมืออีกข้างให้ความเจ็บเจือจางความรู้สึกอื่นไป

“ท่านคงถูกสาปให้ไม่มีความรู้สึกจริงๆ เสียดายยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไม” การ์ลุกยืดเส้นยืดสาย หน้าตาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม “พยายามเข้า ตอนแรกๆก็เป็นอย่างนี้กันทุกคนนั่นละ คืนนี้เตรียมกางเกงเปลี่ยนด้วย” นักรบจันทราพูดอย่างผู้รู้

เสียงประกาศชื่อดังขึ้นเรียกการ์และนักรบในชุดเกราะเหล็กขึ้นไปยืนบนสังเวียน ดาบแสงตะวันวาดออกด้านข้างอย่างลังเล แม้เขาจะพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกแต่สังหรณ์บางอย่างบอกกับเขา เจ้าการ์ยังคิดไม่ตกว่าควรใช้พลังของดาบด้วยหรือไม่ มารีน่าทำตามความคิดของเขาทันที นางร้องบอกให้ใช้พลังทั้งหมดออกมา แสงสีแดงสว่างวาบบนใบดาบแสงตะวัน นักรบจันทรายามนี้ปราศจากความลังเลแล้ว

“การ์ลูส” แม้ตัวการ์จะพร้อมต่อสู้แต่ข้ารับใช้ยังคงเป็นม้าพยศไม่เปลี่ยนแปลง ถึงได้ยินเสียงเรียกชื่อก็ยังไม่ยอมออกมาช่วยเหลือ จนนักรบในชุดเกราะพุ่งเข้าหาพร้อมดาบเล่มใหญ่ยาวกว่าช่วงตัวคนนักรบจันทราจึงเลิกคำรามใส่แหวนของตน

การต่อสู้ระหว่างทั้งสองยืดเยื้อแต่ไม่น่าเบื่อ ไบรอันจับจ้องความเคลื่อนไหวของทั้งคู่ด้วยอุเบกขาจิตเยี่ยงผู้เชี่ยวชาญ ชายในเสื้อเกราะกวัดแกว่งดาบอันทรงพลังด้วยความว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนการ์ก็ควบคุมจังหวะคอยหลบหลีกหาช่องว่างแทงดาบใส่ข้อต่อของชุดเกราะ ดาบเล่มยักษ์ไม่เคยโดนตัวการ์เหมือนที่ดาบของการ์ไม่เคยระคายผิวเกราะเหล็ก

“ก็บอกแล้วว่าให้ใช้พลังได้เลย ไม่ต้องสงสาร” มารีน่าคำรามกลบเสียงโห่ร้องของคนดู

การ์หันมาพยักหน้าแล้วกระโจนออกมาตั้งหลัก เบื้องหน้าการ์เกิดกลุ่มก้อนความร้อนจนทำให้อากาศบิดเบี้ยว คลื่นความร้อนสูงเข้าปะทะดาบเล่มโตทำให้เสียจังหวะนักรบจันทราฉวยโอกาสแทงเข้าที่สีข้างราวงูฉก ด้วยความร้อนแรงจากดาบวิเศษหลอมละลายเกราะเหล็กจนแทงทะลุ ชายในเสื้อเกราะตกตะลึงตาค้างเปิดช่องว่างให้การ์โถมตัวเข้าใส่ด้วยแรงทั้งหมดที่มี เสียงโครมสนั่นทำให้เสียงคนดูเงียบสนิทนักรบจันทราใช้ใบดาบค้ำยันตัวเอาไว้ในขณะที่นักรบเกราะเหล็กกับดาบเล่มโตลงไปนอนกับพื้น เสียงประกาศชื่อผู้ชนะเรียกเสียงโห่ร้องจากคนดูได้อีกครั้ง

ผู้ชนะเดินโผเผลงมาจากเวที ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบได้ริเรียจึงวิ่งออกมาจากที่นั่งรอนางสวมกอดนักรบจันทราทันทีทำให้การ์เป็นฝ่ายนิ่งงันบ้าง หมอนั่นคงไม่เคยถูกหญิงสาวกอดมาก่อนจนบัดนี้ ใบหน้าของการ์แดงก่ำด้วยความเขินอายที่หญิงสาวแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ สุดท้ายมารีน่าก็ทำในสิ่งที่สมควรทำสักที คงไปกล่อมให้ริเรียลดทิฐิลงแล้วทำตามใจต้องการ

“อีกสักหน่อยก็ชินไปเอง นางหลงรักเจ้ามานานแล้ว” เขาพูดอย่างผู้รู้บ้าง “นางถือทิฐิจึงไม่อยากแสดงออกเท่าไรนัก” ไบรอันนิ่วหน้าเมื่อริเรียเดินมาลากตัวสุดเสน่หาของนางไปจากเขาและมารีน่า

“สิบเท่าของเงินเดิมพัน ของท่านห้าสิบเหรียญทอง ส่วนของข้าสิบเหรียญทองหกสิบเหรียญเงิน เจ้ามือร้องโอดโอยแน่” อลันช่วยคำนวณรายได้จากการเดิมพันให้เสร็จ “ข้าเอาไปแลกเงินให้ก็ได้ ท่านอยู่ในสภาพดูไม่ได้นี่” เป็นพระคุณอย่างยิ่งที่อลันยอมไปแลกเงินให้เขา

การต่อสู้ในคู่ถัดไปแทบไม่มีอะไรน่าสนใจในสายตาของไบรอัน นักรบง้าวเหล็กสู้กับผู้ใช้แส้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ริเรียล้มหญิงสาวผู้ใช้อาวุธลับเสียอ่วม อลันก็เอาชนะผู้ใช้ดาบเสี้ยวจันทร์ได้อย่างไม่กระ:-)กระสน โชคดีที่เขาไม่ลงเดิมพันของสองคนนี้เอาไว้เพราะอัตราต่อรองค่อนข้างต่ำเล่นไปเท่าไรก็ไม่คุ้ม ไม่รอให้กรรมการกล่าวยุติการประลองวันแรกเขาก็พาคณะเดินทางกลับที่พักด้วยมนตร์เคลื่อนย้าย

“อย่าเข้ามาใกล้ไลล่า ไม่ใช่ตอนนี้” ไบรอันเร่งมารีน่าให้ไขเปิดประตูบ้านพัก ไลล่ายังห่วงเขาด้วยความไม่รู้ ยิ่งเห็นหน้านางความรู้สึกที่สะกดกลั้นเอาไว้ยิ่งไหลทะลัก “ไม่ต้องตามมาไลล่า ข้าไม่เป็นอะไร อย่าตามมานะ” เขาแทรกตัวเข้าบ้านก่อนมารีน่า ปากหันไปเตือนคนรักไม่ให้ตามเขาเข้าไปในห้อง เกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอย่างที่อลันเตือน

“อย่าให้เหลือร่องรอยล่ะ” เสียงการ์ตะโกนไล่หลังฟังแล้วเจ็บเข้ากระดูกดำ เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เขายอมรับว่าไม่มีประสบการณ์ ผิดกับผู้ชายธรรมดาคนอื่นๆลิบลับ...


“สุดที่รักๆ ข้าขอขนปีกของการ์ลูสอีกสองเส้นได้ไหม”

มารีน่าขอร้องการ์ตอนอาหารเช้า นางกับริเรียนั่งขนาบข้างการ์จนเป็นจุดเด่น อลันบ่นเหมือนคนแก่ว่าในคณะเดินทางนี้มีแต่เรื่องเสื่อมเสีย ขนนกสีฟ้าใสในมือของนางผู้หยั่งรู้ถูกส่งให้เขาและริเรียเก็บไว้สำรอง ไลล่าทำทีจะบอกมารีน่าว่าเมื่อคืนเขาทำอะไรแปลกๆแต่ถูกหยุดเอาไว้ทัน เมือคืนเขาต้องลงมานอนในห้องรับรองด้วยความกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่งาม กลางดึกเขาต้องลุกมาหากางเกงเปลี่ยนทั้งชั้นนอกชั้นในตามที่เจ้าการ์พูดเอาไว้ไม่มีผิด

“เก็บเอาไว้ในที่หยิบสะดวกไบรอัน ถึงเวลาท่านจะได้ไม่ต้องกระชากคอเสื้อสุดที่รักข้าให้เสียเวลา” มารีน่ากระแอม ตอนนี้นางกลายเป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปเรียบร้อย “ก่อนไปประลองของให้ทุกคนจำให้ขึ้นใจ ข้ากับอลันจะอยู่ที่นี่สองคน และจะไปรอพวกท่านอยู่ที่ไพน์”

“จะเกิดอะไรขึ้นหรือมารีน่า” วันนี้เจ้าการ์เกร็งจนตัวสั่น ริเรียสั่งให้หันไปทางซ้ายเพื่อจะได้จิ้มเนื้อเข้าปากอย่างง่ายดาย

ผู้กล้าแสงตะวันยามนี้รู้สึกสังเวชกับคณะเดินทางจนบอกไม่ถูก ไปสุงสิงกับเวเบอร์ที่เป็นศัตรู เขากับการ์หลงติดกับมารีน่าจนเข้าตาจน ตัวเขาต้องปิดกั้นความรู้สึกด้วยความอับอาย ส่วนการ์ต้องกลายเป็นของเล่นของมารีน่าและริเรีย มารีน่ารีบปลอบเขาว่าหลังจากการประลองทุกอย่างจะกลับสู่สภาพปกติ

“ถึงเวลาท่านจะรู้เอง หันไปรับของขวัญทางโน้นสิสุดที่รัก ไหนๆเขาก็ยอมลดตัวลงมาแล้ว” มารีน่าทำหน้าขรึมชั่วขณะให้ไบรอันหลงดีใจ “อลิเซียคงดีใจที่ได้เจอพวกท่านในยุคสมัยนี้อีก เตือนนางด้วยว่าอย่ากร่างให้มากนัก”

อลิเซียคือหญิงสาวจากอนาคตที่พวกเขาเจอตอนอยู่เมืองแก้วผลึก นางเป็นหญิงสาวที่ร่าเริงสดใส ชาติกำเนิดนางยังเป็นปริศนาที่มารีน่าพยายามทำให้เป็นเรื่องลับ สิ่งสร้างข้อกังขาให้เขาคือสีผมและสีตาของนางเหมือนกับเขาราวกับลอกแบบ สิ่งเดียวที่พวกเขารู้เกี่ยวกับอลิเซียคือนางเป็นหลานสาวของการ์ และแม่ของนางเป็นเจ้าหญิงองค์หนึ่งของไพน์ ตาสีมรกตของเขาจะมีเฉพาะคนที่สืบสายเลือดตระกูลบรู๊คเท่านั้น แต่คนสามัญอย่างเขาจะได้เษกสมรสกับองค์หญิงแห่งไพน์ได้อย่างไร...


การประลองวันที่สองคนดูยังคับคั่งเหมือนวันวาน แดดยามสายร้อนแสบทรวงจนไบรอันต้องเอาน้ำกินมาราดหัวดับร้อน กรรมการประกาศชื่อคู่ประลองแรกของวันนี้ เขากับเวเบอร์จะต้องพบกันอีกครั้ง คราวนี้อาจไม่จบง่ายๆเหมือนคราวก่อนก็ได้ เหตุการณ์เมื่อวันก่อนที่เวเบอร์แสดงพลังมหาศาลให้เห็นยังเป็นที่จดจำ เขาไม่คิดว่าจะชนะอสุรกายอย่างนั้นได้แต่ไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆเช่นกัน

“เราสองคนจะสู้กันอย่างไรดี ตัดสินต่อจากคราวก่อนดีไหม” ไบรอันทักทายเพื่อนร่วมเวที ขลุ่ยเทพสายลมถูกหยิบขึ้นมาเตรียมไว้ล่วงหน้า ครั้งที่แล้วเวเบอร์ล่าถอยไปด้วยสิ่งนี้

“เรียกดาบเพลิงของเจ้าออกมาแล้วตัดสินกันอย่างลูกผู้ชาย” ชายนัยน์ตาสีพระจันทร์แดงตวัดดาบเทพ ใบดาบสีเงินปลาบกลายเป็นสีแดงกระเพื่อมไหวราวกับก่อตัวด้วยเปลวไฟที่สัมผัสได้ “สู้กันด้วยดาบเพลิงอย่างเดียว ไม่ต้องมีเวทมนตร์หรืออย่างอื่นมายุ่งยาก รวดเดียวจบ”

ขลุ่ยผิวสีเงินของไบรอันกลายสภาพเป็นดาบที่มีใบดาบสีแดงสด ดาบอัคคีเป็นหนึ่งในรูปแบบอาวุธที่ขลุ่ยเลานี้สามารถเปลี่ยนสภาพได้ ดาบสีแดงปะทะกันอย่างถึงเลือดถึงเนื้อ เสียงคมดามดังกึกก้องทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้ ดาบเปลวเพลิงของเวเบอร์ให้ความรู้สึกเหมือนดาบธรรมดา ทั้งความรู้สึกหนักหน่วงและเสียงยามดาบกระทบกัน ความร้อนที่แผ่ออกมาจากใบดาบทั้งสองเล่มเรียกเหงื่อของเขาออกมาอีกระลอก อากาศร้อนแบบนี้เหตุใดเจ้าเวเบอร์จึงเสนอให้ใช้ดาบไฟสู้กันอีก คำถามนี้ผุดขึ้นมา

คำตอบของคำถามนั้นเสนอหน้าออกมาทันที ความร้อนจากดาบของเวเบอร์กำลังแผดเผาเขาราวกับไฟนรก เวเบอร์เป็นคนออกคำสั่งให้ใบดาบเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิง เหตุไฉนจะออกคำสั่งให้ใบดาบเพิ่มความร้อนออกมาเผาเขาและลดความร้อนที่ออกมาทางฝั่งตัวเองได้ ประดาบกันได้ไม่กี่ยกไบรอันก็เหนื่อยอ่อนจนดาบหลุดจากมือเปลี่ยนสภาพเป็นขลุ่ยผิวสีเงินอีกครั้ง เขารีบประกาศยอมแพ้เนื่องด้วยไม่รู้ใจอีกฝ่าย

“ข้าบอกแล้วสู้ด้วยดาบเพลิง ไม่ได้ใช้อย่างอื่นสักหน่อย” เวเบอร์หัวเราะสำทับ ระหว่างเดินไปเก็บขลุ่ยผิวเขาแอบนึกสะใจอยู่ เมื่อวานหมอนี่คงปวดใจมากจนหาเรื่องเล่นงาน “ไม่ต้องแก้แค้นให้ข้าไลล่า เจ้านั่นแข็งแกร่ง เจ้ายังมีเวลาคิดแผนจนถึงพรุ่งนี้” เขาเตือนไลล่าด้วยความระแวง

และความระแวงของเขาก็เป็นจริงเสียด้วย การต่อสู้ระหว่างนางกับนักเวทสาวผมน้ำตาลยังไม่ทันเริ่มไลล่าก็เรียกมังกรดำออกมาให้แสดงพลังด้วยการคำรามและพ่นไฟสีดำสนิทเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ตัดใจยอมแพ้ เมื่อประกาศชื่อผู้ชนะเสร็จนางก็ชี้ดาบมาทางเวเบอร์เรียกให้ขึ้นไปต่อสู้กับนางเดี๋ยวนี้ ไบรอันกุมขมับ ไลล่าใจร้อนบุ่มบ่ามเหมือนซาราห์ไม่มีผิด ฝีมือดาบของไลล่าในเวลานี้แม้แต่การ์นางยังสู้ไม่ได้อย่าว่าแต่เขาหรืออลันเลย กับเวเบอร์ยิ่งมองไม่เห็นทางชนะ ทางกรรมการและพระราชาหัวหมุนอยู่ครู่หนึ่งด้วยความใจร้อนของหญิงสาว เวเบอร์แสดงความเป็นลูกผู้ชายด้วยการเดินขึ้นไปสู้ซึ่งๆหน้า ประกาศว่าจะออมมือให้ด้วยการไม่ใช้พลังจากดาบเทพวิหค

“ท่านจะไม่ได้ใช้ดาบเล่มนั้นแน่ ท่านคงไม่อยากทำร้ายข้าใช่ไหม” ไลล่าจ้องคู่ต่อสู้ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ออกนอกเวทีเกินสามสิบวินาทีถือว่าแพ้ ถ้าอย่างนั้นเรามาแพ้ด้วยกันดีกว่า”

“เลื้อยแลบแปลบปลาบ พิษแผ่กำซาบ มนตร์สะกดผลาญราบ ข้าขอเอ่ยนาม ราชาอสรพิษไบคาร์ด”

กลุ่มก้อนอากาศสีดำด้านหลังไลล่าพองตัวขึ้นแล้วหายไปให้งูตัวสีน้ำมันดินปรากฏตัวขึ้น ร่างของงูตัวนั้นสูงเกือบสองเท่าของไลล่า ความยาวกินเนื้อที่เกือบเต็มลานประลอง ส่วนหัวแผ่แม่เบี้ยกร่าง เขี้ยวยาวโง้งกับลิ้นสีดำบอกยี่ห้อว่าเป็นงูพิษ ไบรอันคิดว่านางจะให้งูโจมตีแต่ไม่ใช่หญิงสาวพุ่งเข้าใส่เวเบอร์เพื่อประดาบ ลางสังหรณ์ของเวเบอร์คงไม่แม่นเท่าไรนัก ทันทีที่ดาบสองเล่มกระทบกันราชาอสรพิษก็ใช้ขนดหางกระแทกร่างของทั้งคู่ตกเวที ไลล่านอนทับเวเบอร์อยู่โดยมีร่างของงูยักษ์ทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เวเบอร์คงไม่ลงมือกับคนที่เขาหลงรักย่อมไม่มีทางหลุดพ้นจากน้ำหนักที่ถาโถมและต้องตกรอบไปพร้อมกับนาง

“อย่าท่องมนตร์เสียงดังสิไลล่า ถ้าเรียกซ้ำซ้อนสัตว์ปีศาจจะหายไปนะ” เวเบอร์เตือนแล้วใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายร่ายโคลงมนตราในใจ ในพริบตาที่งูยักษ์หายไปชายหนุ่มปัดร่างหญิงสาวเพื่อกลับขึ้นไปบนเวที ร่างที่สวยงามพลันแปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงพันธนาการร่างของเวเบอร์เอาไว้อีกครั้ง  

“เรื่องแค่นั้นข้ารู้อยู่แล้ว” ไบรอันเพิ่งมองเห็นว่ามีไลล่าอีกคนยืนอย่างเหนื่อยอ่อนบนเวที “ข้าจึงใช้ภาพลวงตาของซีซาร์ด้วยอย่างไรละ” แล้วร่างของนางก็ล้มฟุบไปพร้อมกับเวลาของฝ่ายตรงข้าม

กรรมการใช้เวลาชั่วครู่ประกาศให้แพ้ทั้งคู่ ไบรอันรีบกระโจนไปดูไลล่าทันทีการเรียกสัตว์ปีศาจออกมาจะต้องกินพลังกายของผู้เรียกเป็นการแลกเปลี่ยน เปลวเพลิงที่รัดพันเวเบอร์อยู่สลายตัวเมื่อนางหมดแรงคงสภาพ เขาใช้เวทมนตร์รักษาและฟื้นพลังกายให้หญิงสาวระหว่างที่เดินกลับที่นั่ง เขาดีใจที่นางยังมีสติและร่าเริงอยู่

“เยี่ยมมากไลล่า” เวเบอร์เดินเข้ามาไกล้ มือข้างหนึ่งเอื้อมไปทุบหลังด้วยความปวด “ต้องออกตัวเอาไว้ก่อน หลังจากนี้ไม่ใช่แผนของข้า ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย” แล้วชายผู้มีนัยน์ตาสีพระจันทร์แดงก็หอบร่างเหนื่อยอ่อนไปนั่งพักบนม้านั่งอีกฝั่งหนึ่ง

ชายวัยกลางคนที่ยืนรอเวเบอร์อยู่ทำให้เขารู้ว่าคู่อริพูดถึงเรื่องอะไร ชายคนนั้นมีดวงตาสีมรกตและผมสีเหลืองแบบเดียวกับไบรอันไม่มีผิด ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าเขาเคยใช้ชื่อสกุลบรู๊คและเคยเป็นลุงของเขา

“ข้าจะไปรอที่บ้านของเจ้า” ไบรอันอ่านปากได้อย่างนี้ ชายวัยกลางคนในชุดเสื้อคลุมสีม่วงครามยิ้มให้เขาอย่างเลือดเย็นแล้วหายตัวไปด้วยมนตร์เคลื่อนย้าย เวเบอร์หันกลับมาย้ำอีกครั้งว่าตัวเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

“อย่าตามข้ามานะ รออยู่ที่นี่” ไบรอันแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ชายคนนั้นคือศัตรูคู่แค้นของเขาที่ตามล่ามานาน เขาก้าวเดินทิ้งระยะห่างจากพวกการ์เพื่อไม่ให้ถูกเคลื่อนย้ายไปด้วย ขนปีกของการ์ลูสถูกโยนขึ้นไปในอากาศพร้อมกับคำระบุเป้าหมาย “ไบรอัน” ร่างของเขาปกคลุมด้วยมนตร์เคลื่อนย้ายสีฟ้าสดใส ในใจเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง...

จากคุณ : Lazy return
เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 19:28:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com