Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นักรบจันทรา ตอนที่ 21 หอคอยกษัตริย์ ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 21 หอคอยกษัตริย์


“เวเบอร์รู้เรื่องนี้แล้วหรือ” การ์อุทานด้วยความตกใจ

เย็นวันพิธีแต่งตั้งไลล่า พวกเขาขอใช้ห้องประชุมเล็กเพื่อคุยเรื่องจุดหมายต่อไป ริเรียอ่านเจอเรื่องเกี่ยวกับผลึกกาลเวลาที่ช่วยย้อนเวลาสิ่งของหรือคนได้ มารีน่าบอกว่าผลึกกาลเวลาจะรอพวกเขาบนเกาะแห่งหนึ่งทางตะวันออกของเมเทอาร์ในสถานที่ที่เรียกว่าหอคอยกษัตริย์ ปัญหาของเขาไม่ใช่สิ่งนี้ การ์กับริเรียสามารถผ่านข้อจำกัดของสถานที่ได้เพราะมีเลือดเนื้อของราชวงศ์ในร่างกาย สิ่งที่ทำให้เขากุมขมับคือแผ่นกระดาษสองแผ่นที่ถูกส่งมาที่ห้องของไลล่ากับไบรอัน ทั้งสองแผ่นลงชื่อเวเบอร์เป็นผู้ส่ง แผ่นกระดาษของไลล่าแสดงความดีใจที่ได้เป็นเจ้าหญิงและมีครอบครัว ส่วนแผ่นกระดาษของไบรอันเขียนบอกว่าศัตรูคู่อาฆาตของเขารออยู่บนเกาะพรีเซียส ซึ่งเป็นเกาะที่ผลึกกาลเวลาอยู่

“ข้าคิดว่าจะขอแรงกองทัพวิหคเพลิงของไพน์ด้วย หากเป็นกับดักอย่างคราวก่อนจะได้ไม่มีปัญหา” ไบรอันพูดเรียบๆตามแบบแผนดั้งเดิม ปกติเจ้าปากหนักไม่เคยคิดลากคนอื่นมาเอี่ยวด้วย นี่คงต้องการชดใช้ความผิดที่ลากพวกเขาไปเจอกับดักคราวก่อน

“แล้วถ้าไม่มีกับดักล่ะ คนที่ส่งมาคือเวเบอร์ คนที่วางแผนทั้งหมดย่อมเป็นเวเบอร์ รายนั้นไม่ยอมให้ข้ามีแผลแน่นอน” การ์แย้ง เวเบอร์ไม่ใช้กับดักหรือกลโกงตลบหลัง มันไม่ใช่ลักษณะของคนๆนั้น “ข้าจะให้การ์ลูสกับสัตว์ปีศาจของไลล่าพาพวกเราไปเกาะนั่น หากเกิดอะไรขึ้นจะได้หนีได้ทันที”

“ลืมไปแล้วสินะการ์ ตอนอยู่ที่บ้านของซาราห์หมอนั่นเกือบฆ่าข้ากับซาราห์ตายถ้าฟลอร่าไม่มาช่วย คนเดียวที่เจ้านั่นต้องการจับเป็นคือเจ้า การ์ ไม่ใช่พวกเรา” ไบรอันกอดอก ไม่ยอมรับความคิดของเขา “กระดาษสองแผ่นนั่นคือหลักฐานสำคัญ เวเบอร์จับตามองพวกเราตลอดเวลาจนรู้เป้าหมายทุกอย่าง ข้าไม่ยอมให้ไลล่าไปเสี่ยงอย่างคราวก่อนแน่นอน” เจ้าปากหนักทุบโต๊ะอย่างหนักแน่น

“คนที่รอเราอยู่คือศัตรูของเจ้า ไบรอัน” การ์ทุบโต๊ะบ้าง มือข้างขวาชาระริกแทบทนไม่ไหว “แต่คนที่วางแผนคือเวเบอร์ ข้าเชื่อว่าไม่มีกับดักหรอก”

“หยุดได้แล้วทั้งสองคน ข้าคิดว่าควรถามมารีน่าก่อน” ไลล่าพยายามหยุดพวกเขาอย่างละมุนละม่อม นิสัยนางอ่อนน้อมขึ้นทันตานับแต่ได้รับตำแหน่ง

“ท่านก็ห่วงแต่ไลล่า นางคือพันธมิตรที่แข็งแกร่งทัดเทียมกับเวเบอร์ น้องสาวข้าไม่ได้อ่อนแออย่างที่ท่านเห็น” การโต้แย้งระหว่างเขากับไบรอันไม่มีทางถูกหยุดแค่นี้แน่นอน “ท่านเป็นบ้าไปแล้วไบรอัน ท่านคือผู้กล้าแสงตะวันผู้นำแสงสว่างให้กับพวกเรา แล้วเหตุใดทำตัวขลาดเขลาเยี่ยงหมาขี้แพ้ไม่ต่างกับตอนที่ซาราห์เพิ่งตายเลยสักนิด”

การ์กับไบรอันทุ่มเถียงกันจนเสียงแหบยังหาข้อสรุปไม่ได้ มารีน่านิ่งเงียบจนผิดสังเกตไม่เสนอความเห็นเข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้น ริเรียกับไลล่าพยายามหยุดการตีกันจนเกือบเผาโต๊ะประชุมกลางห้องอย่างไม่ตั้งใจ สุดท้ายก็ย้ายสถานที่ไปลานซ้อมของทหาร ได้เวลาตัดสินด้วยกำลังตามประสาลูกผู้ชาย แสงสีฟ้าใสจากมนตร์เคลื่อนย้ายของการ์ลูสดับลงเพื่อต้องการเปลี่ยนสถานที่เจรจา ลานดินกว้างเป็นที่พักผ่อนของเหล่าทหาร ยามเย็นก่อนเวลาอาหารจึงไม่มีใครเตร่อยู่แถบนั้น

“เรามาตัดสินอย่างลูกผู้ชาย ไบรอัน บรู๊ค” การ์ชักดาบออกมา ดวงตะวันใกล้ตกดินแล้วหากปล่อยเวลาเนิ่นนานไปจะเป็นปัญหาภายหลัง “มาประดาบกันแบบรวดเดียวจบ หากท่านชนะพวกเราจะทำตามที่ท่านบอก หากท่านแพ้จงไปจากสายตาข้า ข้าไม่ต้องการให้ไลล่าสุงสิงกับคนขี้แพ้”

หญิงสาวสองคนและอลันเข้ามาขวางแต่การ์ใช้คลื่นความร้อนจากดาบแสงตะวันหยุดพวกเขาไว้ พลังเอ่อล้นขึ้นมาจนดวงตาเกือบเปล่งแสงได้ ผู้กล้าแสงตะวันยอมรับข้อเสนอ ขลุ่ยผิวในมือเปลี่ยนเป็นดาบสีแดงสดพร้อมประดาบกับเขาทันที ไลล่าเรียกมังกรออกมาขวางคราวนี้เจ้าการ์ลูสออกมากันเอาไว้โดยไม่รอคำสั่ง เป็นอีกครั้งที่การ์คิดว่าเจ้านกปากมากทำตัวดีเป็นพิเศษ ดาบวิเศษสองเล่มปะทะกันด้วยกำลังทั้งหมด การ์ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีจู่โจมและหลบหลีกดาบสีแดงอย่างกระ:-)กระสน เขาเพิ่งรู้วันนี้เองว่าผู้กล้าแสงตะวันไม่ได้มีดีแค่ชื่อ ด้วยความความคล่องแคล่วและแม่นยำเกือบทำให้การ์พลาดท่าหลายครั้ง เสื้อสีขาวหม่นฉีกขาดด้วยดาบของไบรอัน แต่เขาไม่ยอมน้อยหน้าใช้สมาธิทั้งหมดหลบหลีกแทงดาบด้วยความเร็วโดยไม่ต้องใช้ความคิด การดวลดาบครั้งนี้ทำให้นึกถึงตอนสู้กับการ์ลูสในความฝัน

“พอได้แล้ว ทั้งสองคนนั่นล่ะ” ไลล่าร้องเมื่อเขาเรียกเลือดจากแขนของสุดที่รักของนางได้ การ์ลูสในสภาพคนครึ่งนกยืนกันท่าเอาไว้ไม่ให้เข้ามาขวาง

ผ่านไปครู่หนึ่งการ์จึงมองเห็นโอกาสชนะ ไบรอันเริ่มเหนื่อยอ่อนจนพลาดท่าถูกเขาปัดดาบหลุดจากมือ เจ้าปากหนักโน้มตัวพุ่งเข้าหาขลุ่ยผิวเพื่อเปลี่ยนมันเป็นดาบอีกครั้งแต่การ์ไวกว่า เขาเตะขลุ่ยผิวสีเงินกระเด็นไปด้านหลังแล้วใช้ดาบสงตะวันจ่อคอหัวหน้าคณะเดินทางเอาไว้ การต่อสู้ยุติลงแล้วเจ้าการ์ลูสหายไปในอากาศเกือบทันที

“เอาขนปีกของการ์ลูสคืนมาแล้วไปให้พ้นหน้าข้า” การ์เชิดหน้าตั้งใจให้ดูเหนือกว่าอีกฝ่าย ไลล่ากรีดร้องไม่เป็นภาษาเมื่อคนรักของนางวางขนปีกสีฟ้าของการ์ลูสไว้กับพื้นแล้วเดินไปหยิบขลุ่ยผิว ผู้กล้าแสงตะวันเดินคอตกสบถสาบานในลำคอไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ “มารีน่า ริเรีย ช่วยทำให้ไลล่าหลับแล้วพาไปนอนในห้อง ส่วนอลันท่านมากับข้า เราจะวางแผนเดินทางต่อทันที”

การ์สั่งการราวกับเป็นหัวหน้าคณะเดินทาง มารีน่าอุ้มร่างที่หลับใหลของไลล่าเอาไว้เพื่อพากลับไปนอนในห้อง น้ำตาของหญิงสาวหลั่งรินเหตุเพราะพี่ชายและคนรักต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ความเหนื่อยล้าไม่ทำให้การ์หยุดครุ่นคิด แสงสีเหลืองทองจากมนตร์เคลื่อนย้ายของไบรอันทำให้เขารีบจนลนลาน...


การเดินทางของการ์ล่าช้าไปสองวันเพราะไลล่าล้มป่วย เป็นผลพวงจากการเดินทางเปลี่ยนภูมิประเทศกับสภาพอากาศอย่างฉับพลันและการจากไปของคนรัก หญิงสาวนอนซมบนเตียงด้วยพิษไข้ หมอหลวงบอกกับพวกเขาว่านางต้องการเวลาพักผ่อนและยาอีกเล็กน้อย

“ให้ใช้เฉพาะเวลาที่สมควรเท่านั้นนะขอรับ ไม่อนุญาตให้นำขวดมารองไปขายเด็ดขาด” การ์ลูสร่อนลงข้างใบหน้าของไลล่าแล้วหลั่งน้ำตาลงบนริมฝีปากของนาง เข้าเย็นวันที่สองเจ้านกเพลิงกลับมาจากธุระ มันยอมให้ใช้น้ำตาของมันเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายของไลล่าให้แข็งแรงดังเดิม นางจึงหายป่วยพร้อมเดินทางต่อด้วยความรู้สึกครึ่งๆกลางๆ การ์ไม่โทษนางที่ทำให้ไบรอันอ่อนแอจนต้องแยกจากคณะเดินทาง

“อีกสักสองวันฝ่าพระบาท” มารีน่ากล่าวกับเอเลน่าน้องสาวของเขา ทั้งคู่ร้ายพอกันจนเข้ากันได้ดี “พวกเราจะไปเอาผลึกกาลเวลาแล้วจะแยกเป็นสองทาง ทางหนึ่งปักหลักพร้อมกองทัพของไพน์ ทางหนึ่งเข้าต่อกรกับสาวกทั้งสามเพื่อทำลายสิ่งควบคุม”

“บอกได้ไหมมารีน่าว่าจะให้ใครจัดการคนไหน” การ์ตรวจสัมภาระอีกครั้งว่าไม่มีสิ่งใดตกหล่น

“คนที่อยู่รอพวกท่านในหุบเหวมีสามคน คนหนึ่งให้การ์ลูสจัดการ คนที่สองคู่หูผู้กล้า คนที่สามคือไลล่า” มารีน่ายิ้มด้วยมุมปาก นางรู้ความคิดของเขาทั้งหมดแล้ว “แม้จะเป็นเวลาสั้นๆแต่ไลล่าพร้อมต่อกรกับเวเบอร์แล้ว” นางผู้หยั่งรู้ให้กำลังใจ การ์เป็นคนซ้อมดาบกับนางตอนอยู่เมเทอาร์เห็นพ้องด้วยว่าฝีมือของไลล่าเก่งฉกาจขึ้นผิดหูผิดตา

“เมเทอาร์”

พวกการ์และมารีน่าใช้นกปีกของการ์ลูสเคลื่อนย้ายไปยังเมืองชายทะเลอีกครั้ง กลิ่นทะเลกับเปลวแดดปัดเป่าความหนาวเย็นออกจากผิวกาย คณะเดินทางห้าคนเดินไปริมชายหาดอลันออกความเห็นว่าน่าจะขี่การ์ลูสไป ดวงตาสีอำพันของไลล่าเศร้าหมองตลอดเวลานับตั้งแต่ไบรอันจากไป

“ไลล่า เรียกมังกรหรือสัตว์บินที่เร็วที่สุด ไม่เอานกเพลิง พวกมันไม่อยากบินข้ามทะเลเพราะกลิ่นไอของทะเลและน้ำเค็ม” การ์รีบพูดด่วนจี๋ สองวันมานี่ทำให้กำหนดการต้องเลื่อนออกไป เขาไม่มีเวลารออีกแล้ว

หญิงสาวเรียกมังกรบินระดับจักรพรรดิตัวที่เคยเรียกตอนอยู่ในมิติของสัตว์ปีศาจ มังกรเขาเดียวพาพวกเขาบินเหนือท้องน้ำผ่านหมู่เกาะต่างๆ ไลล่าคงคิดต่อต้านพี่ชายจึงไม่ยอมให้มังกรเร่งความเร็วเหมือนตอนนั้น เขาแทบคลั่งเมื่อมองเห็นนกฝูงหนึ่งบินแซงพวกเขาไปอย่างชาเย็น มังกรบ้าตัวนี้บินช้ากว่านกได้ด้วยหรือ กระทั่งการ์สั่งให้ร่อนลงบนเกาะๆหนึ่งมีหอคอยสีขาวสูงใหญ่เด่นกลางป่าเขา บนชายหาดเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น มังกรไฟตัวยาวเหยียดกำลังต่อกรกับฝูงปีศาจสีโคลนนับพัน ลูกไฟนับสิบล้อมรอบตัวคนเป่าขลุ่ยผิวเพื่อป้องกัน ไลล่าสั่งให้มังกรเร่งความเร็วแล้วพ่นไฟใส่เหล่าปีศาจสีโคลนทันทีเพราะชายที่เป่าขลุ่ยผิวของนางคือไบรอัน ผู้กล้าแสงตะวันคนนั้น

“ก็บอกแล้วว่าให้รีบ เพราะเจ้าด้วยซ้ำทำให้เจ้านั่นต้องติดอยู่ที่นี่ถึงสองวัน” การ์บ่นอุบ

แก้วหูลั่นดังเปรี๊ยะด้วยการเลี้ยวของมังกรเขาเดียว เปลวเพลิงพวยพุ่งออกจากปากแผดเผาปีศาจที่ล้อมกรอบไบรอันอยู่ มังกรบินพาพวกเขาร่อนลงแล้วหายไป พอดีกับผู้กล้าแสงตะวันหมดแรงคงสภาพมังกรและลูกไฟอีกต่อไปจนล้มลงบนพื้นทราย ไลล่ารีบวิ่งไปกอดยอดเสน่หาของนางโดยไม่ดูสถานการณ์ พวกเขาถูกปีศาจสีโคลนรูปร่างคล้ายมนุษย์ล้อมกรอบ พวกมันมีจำนวนมหาศาลเมื่อลงมายืนตรงหน้า โชคดีที่เขายังมีริเรียกับมารีน่าร่วมมือกันสร้างป่ารัดพันทำลายปีศาจเหล่านั้นจนร่างสีโคลนหลุดเป็นชิ้นๆ ริเรียร้องอี๋เมื่อเศษซากปีศาจกลับไปรวมร่างกันอีกครั้ง นางสาบานกับเขาว่ามองเห็นกระดูกของมนุษย์อยู่ในร่างของปีศาจด้วย ป่ากิ่งไม้ถูกเหยียบหักเปิดทางให้พวกที่อยู่ข้างหลังเดินหน้ามาหาพวกเขา

คราวนี้ถึงทีของเขากับอลันแล้ว ดาบวิเศษสองเล่มเข้าประหัตกับฝูงปีศาจนับร้อย แต่ละบาดแผลที่ดาบทั้งคู่สร้างเกิดเปลวไฟขึ้นเผาผลาญชิ้นส่วนจนมอดไหม้ เขาและอลันยิ้มกริ่มเมื่อจำนวนของศัตรูลดลงฮวบฮาบ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น ซากฝุ่นผงที่ถูกเพลิงจากดาบวิเศษเผาผลาญกลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง การ์กับอลันถอยร่นไปอยู่กับพวกผู้หญิงเพราะหมดปัญญาหาหนทางจัดการกองทัพอมตะนับร้อยที่ตีวงล้อมใกล้เข้ามา การ์นึกถึงอลิเซียทันที พลังสีขาวอาจช่วยพวกเขาได้

“จริงๆเลย ทีอย่างนี้กลับไม่เรียกข้าออกมา” เสียงกวนประสาทของการ์ลูสหันเหความสนใจของคณะเดินทาง คนครึ่งนกปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยปีกสีฟ้าสยายออกเล็กน้อยด้วยความลำพอง “เจ้าก็ด้วยเจ้าจิ้งจอกโรคจิต มีเพียงไฟของเราสองตนเท่านั้นที่เผาผลาญอาคมมืดที่ควบคุมปีศาจพวกนี้ได้” นกปากมากเรียกตัวอะไรสักอย่างให้ปรากฏตัว การ์คาดว่าจิ้งจอกโรคจิตที่ว่าจะเป็นจิ้งจอกแผงคอไฟที่ไลล่าเคยเรียกออกมาคราวก่อน แหวนของไลล่าสว่างวาบ ร่างหญิงสาวปรากฏขึ้นเบื้องหน้าไลล่า นางเหมือนกับการ์ลูส ดูเหมือนผู้หญิงธรรมดาแค่มีหูกับหางเหมือนสุนัขจิ้งจอกเท่านั้น

“ซีซาร์ใช่ไหม” การ์เอ่ยแทรก นางจิ้งจอกโน้มหัวตอบรับด้วยเสียงที่แยกไม่ออกว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ดูอย่างไรก็ไม่น่าเป็นพวกโรคจิตอย่างเจ้านกปากมากว่า

“อย่าไปหลงรูปนะขอรับ เจ้านี่เป็นตัวผู้” เจ้านกปากมากพูดเอื่อยๆไม่สนใจฝูงปีศาจรอบด้าน การ์ก็ยังคิดว่าร่างครึ่งมนุษย์ของซีซาร์คงหน้าเหมือนผู้หญิงเท่านั้น

“ร่างต้นของซีซาร์เป็นสตรีขอรับนายท่าน” เจ้านกปากมากเริ่มพูดพล่ามอีกครั้ง “แต่บังเอิญมันเป็นตัวผู้ ร่างครึ่งมนุษย์เลยตัวเป็นหญิงแต่ใจเป็นชาย เหมือนพวกโรคจิต”

“เจ้าก็ปากมากไม่เปลี่ยน อยู่กับเจ้านี่นานๆระวังหูเน่านะขอรับ” หญิงครึ่งจิ้งจอกตอบกลับอย่างเย็นชา “พนันกันด้วยอะไรดีคราวนี้ เลือดสามหยดจากเจ้านายก็แล้วกัน ใครจัดการได้มากว่าเป็นฝ่ายชนะ” เปลวไฟสีแดงเลือดพุ่งปกคลุมมือของซีซาร์ ทางการ์ลูสก็สยายปีกเตรียมพร้อมต่อกรกับปีศาจด้วย

การ์รู้สึกเหมือนอยู่ในเทศกาลบูชาเปลวเพลิงในเมืองทางใต้ เปลวไฟสีฟ้าสดใสและสีแดงเลือดปกคลุมเหล่าปีศาจอย่างทั่วถึงและรวดเร็วประหนึ่งลมกรด ไฟสองสีลุกลามทั่วชายหาดและส่วนหนึ่งของเกาะสร้างสีสันสดใสเกินบรรยาย ไฟของสัตว์ปีศาจทั้งสองทรงพลังและมีความร้อนแรงผิดกับไฟจากดาบวิเศษ เถ้าธุลีจากเพลิงกาฬสลายไปกับสายลมไม่กลับมารวมตัวดังเดิม เขาน่าจะเรียกการ์ลูสออกมาเสียแต่แรกให้สิ้นเรื่อง

“หนึ่งร้อยแปดสิบเก้า ทางเจ้าล่ะ จิ้งจอกโรคจิต” การ์ลูสเดินสบายใจเฉิบมาทางพวกเขา เปลวไฟสองสีใกล้มอดดับแสดงว่าเสร็จสิ้นงานของพวกมันเสียที

“หนึ่งร้อยเก้าสิบ ข้าชนะ เจ้าปากมาก” หญิงครึ่งจิ้งจอกพูดบ้าง

“คงนับตัวสุดท้ายด้วยล่ะสิ ตัวที่เราจัดการพร้อมกัน เฉพาะตัวนั้นที่ไม่นับ” คนครึ่งนกเชิดจมูก “เสมอก็แล้วกัน คราวหน้าค่อยเล่นกันอีก” แล้วสัตว์วิเศษทั้งสองก็หายไปในอากาศทิ้งไว้แค่ความโล่งใจที่ผ่านพ้นอุปสรรคได้เฉียดฉิว

คราวนี้ก็ถึงตาของไบรอันบ้าง เขาอยากขอโทษที่ทำให้แผนการล่าช้าไปถึงสองวัน อย่างน้อยเขาก็สั่งให้การ์ลูสมาช่วยแล้วเป็นการขอโทษ ไลล่านั่งกอดศีรษะของคนรักแนบอกคงไม่อยากจากกันอีกครั้ง ส่วนเจ้าปากหนักคงเหนื่อยมากจนสลบคาอกของหญิงสาว ความรู้สึกหมั่นไส้ระคนสำนึกผิดเข้าครอบงำจนการ์ต้องนั่งต่อหน้าทั้งคู่แล้วถอนหญ้าขึ้นจากพื้นด้วยไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เขามองเห็นมือของคนสลบขยับเพราะเศษดินกระเด็นไปโดน เจ้าหมอนี่ทำเป็นแกล้งสลบชัดๆ เขาดึงหางม้าของเจ้าปากหนักเบาๆเรียกให้ฟัง

“ขอโทษที่มาช้าไปสองวัน เพราะไลล่าป่วยหนักการเดินทางจึงต้องเลื่อน”

เพียงเท่านั้นเจ้าคนแอบสลบผุดลุกขึ้นแข็งแรงในพริบตา ไบรอันรีบตรวจดูคนรักของตนว่าเป็นอย่างไรบ้าง การ์ขอโทษขอโพยอีกครั้งบอกว่าต้องใช้น้ำตาของการ์ลูสช่วยฟื้นสภาพ ไม่อย่างนั้นคงเสียเวลาอีกหลายวัน

“โชคดีที่กำลังใจยังไม่หมด” ผู้กล้าแสงตะวันทรงตัวลุกขึ้นอย่างอ่อนล้า การพูดคุยระหว่างผู้กล้าแสงตะวันกับนักรบจันทราดึงดูดสายตาสามคู่โดยไม่ตั้งใจ มารีน่าเท่านั้นที่กลั้นหัวเราะจนตัวสั่น มีเพียงพวกเขาสามคนที่รู้แผนการนี้ เขาส่งไบรอันมาก่อนเป็นนกต่อ แสร้งทำเป็นแตกกลุ่มเพื่อไม่ให้เวเบอร์หรือผู้เฝ้ามองสงสัยเรื่องเหยื่อล่อ

“การเล่นละครที่ดีต้องหลอกได้ทั้งพวกเดียวกันและศัตรู” ไบรอันตอบอย่างผู้รู้ “ใช้เวลาเสียนานกว่าเจ้าการ์จะจำบทได้ทั้งหมด แผนนกต่อนี้อลิเซียเป็นคนบอกข้าเอง จะได้มีเวลาตั้งตัวหากมีกับดัก”

“ตอนนั้นก็ต้องใช้ฝีมือฟาดฟันกันจริงๆสิไลล่าจะได้สมบทบาท มีแค่ตอนตัดสินที่ไบรอันแกล้งแพ้ ถ้าหมอนี่แพ้ข้าง่ายๆคงเสียชื่อผู้กล้าแสงตะวันหมด” การ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นครั้งแรกที่เขาเล่นละครตบตาได้ดีขนาดนี้

ตอนที่ไบรอันเล่าเรื่องผลึกกาลเวลาและสถานที่ เจ้าปากหนักขอให้เขาช่วยเล่นละครสองคนเพื่อตรวจสอบ แล้วก็มีกับดักจริงๆ ฝูงปีศาจอมตะนับร้อยรอพวกเขาอยู่บนเกาะหากมาโดยไม่รู้ล่วงหน้าคงเข้าโจมตีตอนนอนหลับ ริเรียกับอลันคงไม่ปลื้มกับการเล่นละครของพวกเขาสองคน การลงโทษของริเรียนั้นแสนจะเรียบง่าย การ์ถูกดูดลงไปในพื้นทรายจนเหลือแค่หัว ต้องรอจนนางพอใจจึงมาปล่อยตัวให้เป็นอิสระ ไบรอันได้รับการอภัยโทษเนื่องจากทำงานหนักที่สุด

“ไม่ต้องห่วงสุดที่รัก พวกข้าสามคนตรวจดูบนเกาะเสร็จเมื่อไรจะมาปล่อยให้” มารีน่าส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง นางชักชวนริเรียและอลันไปตรวจสอบบนเกาะกันก่อนเพื่อให้ไบรอันพัก

“ของที่ข้าฝากการ์ลูสไปให้ไลล่าล่ะ เจ้าให้นางไปหรือยัง” ไบรอันถาม การ์อยากร้องขอให้ช่วยปล่อยตัวจากผืนทรายแต่ด้วยทิฐิจึงไม่ร้องให้ช่วย เขาบอกว่าสิ่งที่การ์ลูสนำมาฝากไว้อยู่ในซอกสัมภาระของเขา เก็บไว้ให้ไบรอันมอบด้วยตัวเอง

เจ้าปากหนักถือวิสาสะค้นสัมภาระของเขาจนพบกิ่งกุหลาบแก้ว เป็นกิ่งของกุหลาบที่ทุกส่วนโปร่งใสเหมือนทำจากแก้วตั้งแต่ดอก ใบ ลำต้น และราก กิ่งกุหลาบเล็กๆด้านหนึ่งถูกผูกติดกับถุงดินเล็กๆพอประทังให้กิ่งอ่อนอยู่รอดได้ เขารู้ว่ามันมีคุณค่าความสำคัญเพียงใดจึงอยากให้ไบรอันมอบให้ไลล่าด้วยตนเอง

“สวยไหมไลล่า นี่คือกิ่งกุหลาบแก้ว” ไบรอันนำขอสำคัญมอบให้สุดที่รัก ไม่สนใจสายตาอิจฉาแกมอาฆาตจากเขาเลยสักนิด

“กุหลาบแก้วเป็นต้นไม้วิเศษ ความใสของมันเกิดจากความบริสุทธิ์จากจิตใจของผู้ให้และผู้รับ ลูกให้บิดามารดาแสดงถึงความกตัญญู บ่าวให้นายแสดงความเคารพนับถือ เพื่อนให้กันแสดงถึงมิตรภาพที่ไม่มีวันพังทลาย และคนรักมอบให้กันแสดงถึงความรักที่ไม่เสื่อมคลาย หากการให้และการรับมีสิ่งอื่นเคลือบแฝงมันจะลดความใสลงจนกลายเป็นกุหลาบธรรมดา กิ่งนี้ข้าตัดจากต้นที่ข้าให้เจ้าบิชอปปลูก ต้นแม่เจริญงอกงามสดใสเหมือนแก้วจริงๆเลยละ”

การ์ทำได้แค่มองฉากพลอดรักระหว่างน้องสาวกับเพื่อน ไลล่ารับกุหลาบแก้วแล้วนำมาแนบอก ความใสของกิ่งเล็กๆไม่จางหายไปแม้เศษเสี้ยวแสดงให้เห็นว่าความรักของทั้งคู่ใสบริสุทธิ์และยั่งยืน เขาทำปากยื่นพยายามหันไปทางอื่นตอนทั้งคู่กอดกันอย่างแนบแน่น  

“เผลอนิดเดียวเป็นต้องพลอดรักกัน เห็นแล้วร้อนแทนจริงๆ” เสียงหวานๆของมารีน่าโผล่ออกมาก่อนเจ้าของ ทั้งสามกลับมาจากการเดินตรวจสักทีเขาเบื่อฉากหวานเลี่ยนตรงหน้าแล้ว การ์ถูกปล่อยตัวจากพันธนาการเกือบทันที แขนขาชาและปวดเมื่อยเนื่องจากถูกฝังอยู่ในพื้นทราย

“หมู่บ้านบนเกาะไม่มีใครอยู่ คงถูกทำให้กลายเป็นปีศาจกลุ่มนั้น” ริเรียช่วยการ์ปัดทรายออกจากเสื้อผ้า “หอคอยกษัตริย์อยู่ไม่ไกล ที่พักดีๆหาไม่ยาก ที่นี่ตอนนี้เลยเวลาน้ำชาแล้วอลันดูจากนาฬิกาแดดของหมู่บ้าน เราคงอยู่ห่างจากไพน์มากเวลาจึงต่างกันขนาดนี้” ริเรียแบกสัมภาระของนางขึ้นหลัง ช่วงหลังๆมานี่พวกเขาแทบกินอาหารและนอนไม่เป็นเวลา ต้องไปยังที่ห่างไกลกันมากๆจนเวลาต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่แปลกที่คนสุขภาพไม่คงที่อย่างไลล่าจะล้มป่วย...


หอคอยกษัตริย์เป็นหอคอยขนาดใหญ่ทำด้วยหินอ่อน มันอยู่บนเกาะนี้มานานจนไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างด้วยเหตุผลใด รอบทางขึ้นเป็นลานหินอ่อนขัดสีซีดสลับดำ ยกตัวเป็นเนินสูงจากพื้นอย่างโดดเด่น รอบด้านเป็นป่าทึบมีเพียงหมู่บ้านประมงขนาดกลางตั้งอยู่ ยิ่งไม่มีเหตุผลที่หอคอยสูงใหญ่ถูกสร้างในสถานที่ห่างไกลความเจริญอย่างนี้ ยอดหอคอยเรียวแหลมมีอัญมณีบางอย่างเปล่งแสงสีเทาอ่อนๆอยู่ใจกลาง มารีน่าบอกว่าชั้นบนสุดคือจุดที่ผลึกกาลเวลาจะปรากฏ

“อย่าเดินเข้ามาในเขตหินอ่อน” ริเรียร้องบอกพวกไบรอัน การ์เดินเข้ามาแล้วยังไม่พบสิ่งผิดปกติ “พื้นหินอ่อนรอบเขตหอคอยอาบด้วยมนตราพิเศษ หากไม่มีเลือดของกษัตริย์หรือราชวงศ์ชั้นสูงในร่างจะถูกดูดกลืนลงไป แม้แต่ไลล่าก็ไม่มีข้อยกเว้น”

ไม่ทันขาดคำแม่หญิงไลล่าก็สะดุดขาตัวเองจนล้มลงในเขตหินอ่อน แทนที่ร่างของนางจะกระแทกตรงๆกลับจมลงในพื้นราวกับเป็นทรายดูด การ์และริเรียรีบวิ่งไปหาทันทีแต่ไม่ทันไบรอัน หมอนั่นรีบเอื้อมมือดึงร่างหญิงสาวให้ออกมาพ้นเขตของราชา เขาโล่งอกเมื่อเห็นทั้งคู่ลงไปนอนกองอยู่นอกเขตหินอ่อนโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ริเรียหันมาถามว่าตอนไบรอันดึงตัวไลล่าขึ้นเห็นบางสิ่งเหมือนที่นางเห็นหรือไม่

“ตาฝาดน่า” การ์โคลงหัวเพราะริเรียบอกว่าเห็นไบรอันใช้เท้าเหยียบลงบนพื้นหินอ่อนเพื่อรับน้ำหนักแล้วดึงร่างไลล่าออกมาในพริบตา “ข้าก็เห็นแต่คิดว่าเป็นขอบของพื้นที่มากกว่า สามทหารเสือแห่งแผ่นดินใหญ่จะมีเชื้อสายของกษัตริย์ได้อย่างไรกัน”

ที่พักนอนถูกจัดวางอย่างลวกๆ ไบรอันรีบนอนพักเอาแรงเป็นคนแรก พวกการ์ที่ยังไม่ง่วงใช้หม้อเล็กเตรียมทำสตูจำนวนน้อย พวกเขาจะใช้ความต่างของช่วงเวลาเคี่ยวมันให้ข้นคลั่กกว่าจะหิวก็ได้ที่พอดี เขาไม่ได้กินสตูหรืออาหารที่ต้องใช้เวลาปรุงนานๆมาพักใหญ่ คราวนี้มารีน่าเป็นผู้ลงมือทำเองจึงเชื่อมือได้ว่าอร่อย

“ใครรอพวกเราอยู่ที่นี่มารีน่า” การ์ถามมารีน่า นางกำลังยกหม้อขึ้นตั้งบนกองไฟ “คนครอบครองแหล่งพลังเวทมีสี่คนแต่เจ้าบอกแค่สาม แสดงว่ามีอีกคนมารอเราบนเกาะนี้”

“สุดที่รักเก่งอีกแล้ว ใช่แล้วคนที่สี่มาดักรอพวกเราอยู่บนเกาะนี้ เขาเป็นคนที่ไบรอันตามล้างแค้น” หญิงสาวคลานมาหาเขาแต่ถูกริเรียขู่ฟ่อไม่ยอม “ริเรียน่ากลัวจังเลย ข้าแค่ใช้สุดที่รักระบายอารมณ์หน่อยเดียวเอง ไม่มีเจตนาแอบแฝงจริงๆนะ” นางผู้หยั่งรู้แสดงบทนางเอกได้อย่างไม่มีที่ติ

“เจ้ารู้เหตุผลที่หอคอยกษัตริย์ถูกสร้างหรือไม่มารีน่า” ริเรียยอมให้นางผู้หยั่งรู้เข้ามาลูบหัวการ์เล่นอีกครั้ง “ไม่สมเหตุสมผล หอยคอยใหญ่โตถูกสร้างในถิ่นทุรกันดานแบบนี้”

“จะบอกให้ก็ได้แต่ขอเอาตัวสุดที่รักไปนอนกอดสักสองคืนได้ไหม คืนเดียวก็ยังดี” มารีน่าร้องโอดโอยเหมือนเด็กๆ การ์กลัวว่าอีกหน่อยหญิงสองคนนี้คงเอาปลอกคอมาใส่ให้เขาเป็นสัตว์เลี้ยงร่วม “มันถูกสร้างมาสำหรับเก็บวัตถุทรงอำนาจมนตรา เพราะเต็มไปด้วยสิ่งที่ทรงอำนาจจึงอยู่ในเขตทุรกันดานไม่ขึ้นกับเมืองใดโดยเด่นชัด เพราะมีแต่ของสำคัญจึงต้องวางเขตแดนให้มีเฉพาะคนใหญ่โตเท่านั้นที่เข้าไปได้ ข้างในมีสิ่งของมากมายแต่จะสามารถนำออกมาได้เฉพาะสิ่งที่ต้องการแค่สิ่งเดียวเท่านั้น”

“มารีน่า พรุ่งนี้ตอนข้ากับริเรียขึ้นไปบนหอคอยกษัตริย์จะเกิดอะไรขึ้นไหม” ตอนนี้แขนนางโอบรอบคอเขาเหมือนหนวดปลาหมึก ไร้ประโยชน์ที่จะต่อต้านเพราะลองจนเบื่อแล้ว

“ไม่ต้องห่วงสุดที่รัก ในหอคอยกษัตริย์ไม่มีกลไกอะไรซ่อนอยู่หรอก กลไกป้องกันสองอย่างคือพื้นหินอ่อนที่ท่านเห็น แล้วก็ประตูที่ยอมให้นำสิ่งของออกไปแค่สิ่งเดียว” นางผู้หยั่งรู้ลูบหัวเขาเบาๆอย่างอ่อนโยน เขาอยากลองขัดขืนบ้างแต่กลัวนางทำกับเขาเหมือนที่ทำกับเวเบอร์ อัดแบนติดพื้นจนกระอักเลือด

“จริงสิมารีน่า เล่าเรื่องของเวเบอร์ให้ฟังต่อได้ไหม เจ้าบอกว่าผลึกกาลเวลาจะปรากฏในวันพรุ่งนี้นี่ เล่าให้ฟังฆ่าเวลา” พูดถึงเวเบอร์การ์ก็นึกขึ้นมาได้ เขาอยากรู้อดีตของเวเบอร์อีก “หลังจากเวเบอร์ร่ายพายุสายฟ้าใส่การ์ลูสแล้วเป็นอย่างไรต่อ”

“สุดที่รักทำเหมือนเรื่องคนอื่นเป็นของสนุกไปได้” มารีน่าทำปากยื่น นางผละร่างเขาออกมาเล่าเรื่องต่ออย่างเป็นงานเป็นการ ไลล่ากับอลันก็ล้อมวงเข้ามาฟังด้วย

“หลังจากการ์ลูสหายตัวไปเพราะพ่อของเวเบอร์ตายแล้วหมอนั่นก็ซัดเซพเนจรจนไปเจอขบวนค้าทาส เวเบอร์ต้องกลายเป็นทาสอยู่เกือบแปดปี กินนอนเหมือนสัตว์ ถูกกระทำต่ำกว่าสัตว์เลี้ยงตลอดเวลา ไม่เคยได้รับการปฏิบัติเยี่ยงมนุษย์ด้วยกันจนไม่ไว้ใจใคร จนกระทั่ง” มารีน่าเว้นจังหวะไปดูสตูบนกองไฟ

“จนกระทั่งขบวนเดินทางที่เจ้านั่นรับใช้ถูกกลุ่มโจรโจมตีอีกครั้ง โชคดีที่ผู้กล้าพัวร์รีนและเทพีเฟเรซิสกลับมาจากโค่นล้มจอมมารจึงช่วยไว้ได้ ผู้กล้าและเทพีสงสารเวเบอร์ที่ประสบชะตากรรมเลวร้ายจึงรับเลี้ยงเป็นน้องบุญธรรมตามที่ข้าเคยบอก ผ่านไปกระทั่งเวเบอร์อายุยี่สิบสองปี เต็มไปด้วยพละกำลังและความสามารถ อีกทั้งทะเยอทะยานอยากได้ตำแหน่งรองผู้นำเคียงข้างพี่ชายบุญธรรม แต่ต้องผิดหวังเพราะพี่ชายที่เทิดทูนยิ่งเลือกคนอื่นมารับตำแหน่งนั้นแทน ความศรัทธาและไว้ใจของเวเบอร์แตกกระจายจึงหนีออกจากบ้านทันที ผ่านไปสามปีจึงพบกับทางเชื่อมระหว่างอิเดนบ้านเกิดกับดินแดนนี้ เขาจึงข้ามมาฝั่งนี้และได้พบกับจอมปีศาจรีอัสในที่สุด”

“แล้วเหตุใดเขาจึงถูกตามล่าล่ะ” ไลล่าโผล่งขึ้น มารีน่ากับการ์ยิ้มให้กันอย่างรู้ความหมาย

“มันมีสาเหตุที่ผู้กล้าพัวร์รีนไม่แต่งตั้งเวเบอร์เป็นรอง เขารู้ว่าอีกสองวันจะมีราชโองการจากองค์เทพีเฟรเซีย เป็นประกาศแต่งตั้งเวเบอร์ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยราชมัลที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาจากองค์เทพีโดยตรง เป็นตำแหน่งที่มีทั้งคนอยากเป็นและไม่อยากเป็น พี่บุญธรรมของเวเบอร์จึงไม่ให้ตำแหน่งตัดหน้าคิดให้น้องชายรับราชโองการแต่งตั้งด้วยความประหลาดใจ ไม่ทันคิดว่าจะหนีออกจากบ้านเพราะเรื่องแค่นี้ เมื่อตัวเวเบอร์ไม่อยู่รับราชโองการก็เท่ากับเป็นกบฏต่อองค์เทพี มันร้ายแรงเสียกว่าเป็นกบฏกับทรราชหรือกษัตริย์องค์ใดๆ อีกฝ่ายคือหนึ่งในสี่จอมเทพเสาหลักแห่งอิเดนผู้เป็นตำนาน ผู้คิดเป็นอริกับพระนางมีโทษสถานเดียวคือตาย คราวนี้เป็นเรื่องใหญ่โตเมื่อหน่วยราชมัลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพระนางถูกเวเบอร์สังหารสิ้น พระนางทรงโปรดการไล่ล่าอยู่แล้วจึงลงมาตามล่าเวเบอร์ด้วยตนเอง”

“มารีน่า หน่วยราชมัลที่ว่าเก่งขนาดไหนหรือ” การ์พอจับประเด็นได้ว่าเวเบอร์ไปขัดโองการเทพโดยไม่ตั้งใจ

“หน่วยราชมัลคือหน่วยล่าสังหารที่พระนางตั้งขึ้นเพื่อกำจัดกบฏและอำนาจฝ่ายมืด มีด้วยกันแปดหน่วยดูแลแปดพื้นที่ หน่วยที่ฝีมืออ่อนที่สุดยังมีความสามารถสูสีกับสามทหารเสือแห่งแผ่นดินใหญ่ในแดนนี้ ถ้าให้เปรียบสามทหารเสือทางนี้กับหน่วยราชมัลที่เก่งที่สุด คงประมาณตะขาบตัวเล็กๆกับมังกรยักษ์กระมัง” มารีน่าเปรียบเทียบจนการ์เห็นภาพ เวเบอร์ไม่ใช่คนแต่เป็นอสุรกายมารร้ายที่มีพลังไร้ที่สิ้นสุด “คราวนี้เกี่ยวกับเจ้าแล้วไลล่า” มารีน่าหันไปดูสตูอีกครั้งว่าเคี่ยวได้ที่หรือยัง

“พวกท่านคงได้เห็นในอดีตแล้ว องค์จอมเทพสูงสุดผู้มีผมสีทองดวงตาสีฟ้า พระองค์จำศีลพร้อมเทพปีศาจแต่สามารถสร้างร่างแยกด้วยพลังบางส่วนได้ องค์เอริสเสียดายฝีมือของเวเบอร์และพระองค์ก็กำลังหลบหนีองค์เทพีด้วย ประกอบกับทั้งคู่เป็นพี่น้องกันองค์เอริสจึงใช้นิสัยเทพีผู้พี่ให้เป็นประโยชน์ จัดการประลองเดิมพันด้วยชีวิตของเวเบอร์ ข้าไม่ได้ว่าเจ้านะไลล่า เจ้าคือนักสู้ที่องค์เทพีสร้างขึ้นเพื่อเป็นคู่ต่อสู้กับเวเบอร์โดยเฉพาะไม่มีเหตุผลอื่น ที่ความทรงจำเกี่ยวกับฝีมือดาบกลับมาอย่างรวดเร็วและทวีความร้ายกาจขึ้นเป็นกลโกงส่วนหนึ่งของพระนาง แต่ถ้าไม่ทำอย่างนั้นคงไม่อาจต่อสู้กับผู้เหนือมนุษย์อย่างเวเบอร์ได้”

“ข้าเกิดขึ้นเพื่อการต่อสู้อย่างเดียวหรือ โหดร้ายจริงๆ” ไลล่าน้ำตาคลอเบ้า มารีน่าลูบหัวปลอบ

“พระนางไร้เมตตาจึงเป็นผู้ตรากฎและควบคุมความตายของสรรพสัตว์ได้” มารีน่าให้ไลล่าร้องไห้บนบ่าของนาง เป็นความจริงที่โหดร้ายที่คนๆหนึ่งถูกทำให้เกิดมาเพื่อจุดประสงค์เดียวคือทำลาย “แต่ด้วยความเมตตาขององค์เอริสทำให้เจ้าเกิดมาเป็นหญิงธรรมดา ไม่ใช่เครื่องจักรสังหารเหมือนพระนาง มีความรัก มีความเกลียด สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ท่านต้องการให้เป็นแบบนี้จึงฝากเจ้าไว้กับคณะเดินทางของพวกเรา เพื่อจะได้มีกำลังและความเชื่อมั่นในฐานะมนุษย์ธรรมดา”

“ใช่แล้วไลล่า ตอนนี้เจ้าก็กำลังมีความรักอยู่ด้วย เจ้ามีคนรักมีครอบครัว มีเพียงตัวเจ้าที่กำหนดอนาคตของตัวเองได้ ตอนนี้เจ้าเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมไปแล้ว” การ์หาทางปลอบหญิงสาว พลางคิดไปว่าคนที่ช่วยปลอบนางให้หายเศร้าได้มีแค่สองคน ไบรอันกับเวเบอร์

วงสนทนาเงียบกริบทันที มารีน่าพ่นลมออกจากจมูกเพราะเผลอพูดเรื่องเครียดออกมา การ์มองหน้าอลันพยายามหาเรื่องสนุกๆมาคุยแต่คิดไม่ออกสักเรื่อง ไลล่าหยุดร้องไห้เรียบร้อยคงทำใจได้แล้ว ริเรียปลอบหญิงสาวว่าพวกนางมีจุดหมายเดียวกันคือช่วยพ่อของการ์จากจอมอสูร มารีน่าช่วยเสริมว่ามนุษย์ทุกคนย่อมเคยลังเลไม่มีจุดหมายในชีวิต ไลล่ายังดีกว่ามนุษย์ธรรมดาบางคนที่หาเป้าหมายของชีวิตไม่เจอ

“มารีน่า อลิเซียคือลูกของไลล่าใช่ไหม” การ์ชิงถามตรงๆ ตอนนี้นางผู้หยั่งรู้คงปากเบากว่าปกติ

“ถึงตอบไปจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแต่ข้าไม่ตอบ” มารีน่าเลิกคิ้ว นางเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ปากหนักเหมือนไบรอันไม่มีผิด “รอลุ้นให้ถึงช่วงเวลาของนางเร็วๆก็แล้วกัน” มารีน่าประกาศยุติการเล่าเรื่องเครียดไว้แค่นี้ เพราะพระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้วพวกเขาจะต้องขยายกองไฟครอบคลุมที่พักนอนให้ทั่วถึง...

จากคุณ : Lazy return
เขียนเมื่อ : วันเนา 55 07:13:04




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com