Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สงกรานต์รัก........ที่ผ่านพ้น ติดต่อทีมงาน

===============
สงกรานต์รัก.....ที่ผ่านพ้น
===============




หญิงสาวหยดน้ำหอมลงในขันซึ่งมีน้ำอยู่เกือบเต็มขันด้วยประกายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง วันนี้วันสงกรานต์ เธอจะไปสรงน้ำพระที่วัดแห่งหนึ่ง

เหมือนทุก ๆ ปี

แสงแดดยามเช้าส่องสอดผ่านกระจกหน้าต่างห้องนั่งเล่นชั้นล่างของบ้านเข้ามา  เข้านี้อากาศสดใส มองเห็นปุยเมฆเบาบางเลือนรางไกล เสียงนกร้องเป็นระยะอยู่ใกล้ๆหน้าต่าง พวกมันพากันเกาะเป็นคู่ๆ อยู่ตามสายไฟฟ้าและหลังคาบ้านใกล้เคียง พวกมันไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันสงกรานต์หรือวันไม่สงกรานต์ คงรู้เพียงว่าวันนี้จะหาอาหารได้อย่างไร แต่เธอก็คิดว่า นกกาก็คงมีความสุขทุกข์ตามประสานกกา เหมือนหมาแมวทั่ว ๆไปก็คงมีสุขทุกข์ตามประสาหมาแมว  คนเราเองก็คงเช่นกัน...ต่างชนิดเผ่าพันธุ์ก็มีวิถีทางของใครของมัน คงไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกันได้ว่าชีวิตของใครดีกว่าใคร



แต่เธอก็เคยสงสัยว่าบรรดาสัตว์พวกนี้ มันจะเหงาบ้างไหมนะ เพราะบางทีท่าทางเซื่องซึมหงอยๆ ของพวกมันก็บอกไม่ได้ว่าหมายถึงอะไร อาจจะไม่สบายก็เป็นได้ นกกาหมาแมวไม่ว่าพวกมันจะเหงาหรือไม่เหงาคงยากจะดูออก

วันนี้เธอรู้สึกเหงา ทั้งที่กำลังจะไปงานสงกรานต์ ไปกับคนรัก เขาและเธอเคยไปงานสงกรานต์ ไปสรงน้ำพระด้วยกัน เป็นวันที่ดี เธออาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้า ไปทำบุญที่วัดในชุดสดใสสักครั้งในวันพิเศษเช่นนี้คงไม่เป็นไร ภาพสองคนเคียงคู่กันขณะสรงน้ำองค์พระใหญ่น้อยเรียงรายเป็นเงาความทรงจำที่แสนดี ไม่ว่าดึงออกมาคิดถึงครั้งใดก็ประทับใจ

คุณจะมาหรือยังนะ ฉันรอคุณอยู่....

เธอกระซิบถามไปกับท้องฟ้า คำตอบคือเสียงนกกาที่ฟังไม่เป็นภาษาคน พวกมันพยายามตอบเธออยู่ใช่ไหม...มันต้องใช่แน่ๆ เธอคิดอย่างมั่นใจ ตอบว่า เดี๋ยวเขาก็จะมา..ขับรถมาจากบ้าน พร้อมรอยยิ้ม จะเป็นวันแห่งความสุขแสนประทับใจอีกวันหนึ่ง สำหรับการเดินทางไปตามวัดต่างๆ เพื่อสรงน้ำองค์พระด้วยน้ำฉ่ำเย็นส่งกลิ่นหอมโรยกลีบดอกไม้ รายรอบด้วยผู้คนซึ่งมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมากมาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สุขสันต์กันในวันสงกรานต์

แต่ว่าสายมากแล้ว ทำไมเขายังไม่มา

บางทีรถคงติด หรือมีธุระสักอย่างกระมัง

คุณแม่ชะโงกออกมามองจากประตูห้องครัว ท่านไม่พูดอะไร แต่ประกายตาผ่านโลกและชีวิตยาวนานมีประกายแห่งความห่วงไยและให้กำลังใจในขณะเดียวกัน  เธอยิ้มให้กับคุณแม่เหมือนจะบอกว่า ไม่ต้องห่วงกังวล  สงกรานต์ปีนี้จะเหมือนทุกครั้ง ไม่มีอะไรผิดพลาด ทำไมเธอจะไม่รู้นิสัยใจคอของคนรัก ไม่มีทางที่เขาจะลืมวันเวลาที่นัดหมายกันเอาไว้

เสียงโทรศัพท์มือถือ ดังขึ้น หญิงสาวรีบคว้าขึ้นมาหลังจากมองดูเบอร์โทรเข้าก็ยิ้มออกมาได้ เป็นเบอร์โทรของเขาอย่างที่แอบคาดหมายเอาไว้

“คุณอยู่ไหนคะ”  

เธอรีบถามโดยไม่ต้องเสียเวลาทักทาย

“ผมกำลังมาหาคุณ รอผมสักนิดนะครับ”

เสียงตอบนั่นก็เป็นเสียงของคนรักอย่างไม่ต้องสงสัย หญิงสาวยิ้มออกมาได้ ในที่สุดเธอก็มั่นใจแล้วว่าการรอคอยของเธอไม่ไร้อนาคต เขากำลังเดินทางมาหาเธออย่างเช่นทุกปี เพื่อจะได้ไปทำบุญกันในวันสงกรานต์

“ฉันรอคุณอยู่นะคะ”  เธอกำชับอีกครั้ง

“แน่นอนครับ ผมอยากจะเจอหน้าคุณใจจะขาดอยู่แล้ว”

คำพูดนั้นทำให้เธอยิ้มออกมาได้ก่อนวางสาย

กลิ่นอาหารจางๆ ลอยมาจากห้องครัว เป็นอาหารที่เธอชอบ คุณแม่ท่านรู้ใจลูกสาวคนนี้ดี กับวันพิเศษเช่นนี้ท่านจะทำอาหารของโปรดเธอเสมอ ความรักของท่านกับความรักของคนรัก ถึงจะเป็นความรักความเป็นห่วงเหมือนกันแต่แยกย่อยแล้วคนละอย่างกัน แต่ถ้าเป็นความรักไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน มันก็จะมีเนื้อแท้เหมือนกัน เธอคิดแบบนี้ และไม่พยายามเอามาปนกัน หากพยายามจัดสัดส่วนให้ต่างฝ่ายต่างอยู่เป็นที่เป็นทาง แม้ว่าบางครั้งจะมีอะไรมารบกวนจนอยากให้นำมาผสมปนเปกันก็ตาม ความรักเป็นเรื่องอยู่เหนือเหตุผลและตรรกศาสตร์ เธอคิดว่า ถ้าความรักประพฤติตัวตามหลักเหตุผลและตรรกศาสตร์ คนเราคงไม่ต่างจากหุ่นยนต์ที่เพียบพร้อมในทางเหตุและผล แต่อาจเป็นเพียงส่วนประกอบอันไร้ความเพริดแพร้วพิสดารของอารมณ์

สงกรานต์ปีที่แล้ว...เธอพยายามคิดทบทวนความทรงจำ ความทรงจำบางทีก็เหมือนแผ่นฟิล์มภาพยนตร์ตอกประทับแนบแน่นในชีวิตจิตใจ ความทรงจำบางเรื่องโดดเด่นชัดเจน บางเรื่องเลือนราง บางเรื่องอยากจะแกะออกแล้วขว้างทิ้งไปในไกล ม้วนฟิล์มของความทรงจำนั้นยังมาเกี่ยวพันคอพันมือเอาไว้ไม่ขาดหายหลุดลอยไป บางเรื่องก็ทั้งเลือนรางและชัดเจน ใช่แล้ว เธอเริ่มจำได้ทีละน้อย

ทำบุญสรงน้ำพระเจ็ดวัด  ..นั่นคือเป้าหมายของวันสงกรานต์ทุกปี ไม่รู้ว่าใครเป็นคนต้นคิดเป็นคนแรก แต่มันอยากเป็นอะไรที่เธออยากทำแบบนั้นบ้าง ทั้งที่ไม่รู้ว่าการเดินทางไปทำบุญเจ็ดวัดแบบนั้นมันได้บุญอะไรขึ้นมาเป็นพิเศษ รู้แต่ว่ามันสบายใจเหมือนบรรลุเป้าหมายอะไรสักอย่างในชีวิตเท่านั้น

“มันต่างจากวัดเดียวตรงไหน”

คนรักของเธอเคยถามแบบนี้ทุกปี แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธกับการพาเธอตระเวนไปตามวัดต่างๆ ให้ครบเจ็ดวันในหนึ่งวัน เธอรู้ว่าเขาไม่เคยชื่นชมเห็นด้วยกับการทำบุญแบบมีเงื่อนไขอย่างนี้ แต่ก็ไม่เคยขัดใจเธอ

“ได้บุญเยอะนะคะ”

เธอมักจะตอบแบบนี้ทุกครั้งด้วยความมั่นใจด้วยความศรัทธ่อันแก่กล้าในการทำบุญทำทาน

“ยิ่งวัดทั้งเจ็ดอยู่ห่างกันมากขึ้นแค่ไหน ยิ่งได้บุญมากแค่นั้น”

“ทำไมไม่ขึ้นเครื่องบินไปทำบุญสรงน้ำพระให้ครบเจ็ดประเทศเลยล่ะครับ”

สีหน้าของเขาเรียบเฉยสุภาพขณะพูดแบบนั้น ทำให้จับไม่ได้ว่าพูดจากใจหรือประชดกันแน่ แต่ไม่เป็นปัญหา อย่างไรเขาก็ต้องตามใจเธออยู่แล้ว

“แค่เจ็ดจังหวัดก็พอแล้วค่ะ”

หญิงสาวหมายความตามนั้นจริงๆ ซึ่งการเดินทางสรงน้ำพระทำบุญให้ครบเจ็ดวัดเจ็ดจังหวัด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะในเวลาที่ถนนมักมียวดยานซึ่งมีคนเมาทั้งเป็นคนขับและคนไม่ขับเพ่นพ่านตามถนน เป็นวันปลดปล่อยอะไรบางอย่างของสังคมและสัญชาตญาณ รถปิคอัพหลายคันมีถังน้ำขนาดใหญ่บนรถซึ่งมีผู้คนนับสิบอัดกันเล่นสาดน้ำกันตามถนนอย่างสนุกสนาน บางคันท้ายรถมีสาววัยรุ่นในชุดเสื้อยืดกางเกงขาแสนสั้นเต้นอยู่กับถังเก็บน้ำด้วยลีลามืออาชีพยังอาย

เที่ยงแล้ว ยังเหลือเป้าหมายอีกสี่จังหวัด เธอและคนรักผ่านภารกิจสำคัญไปแล้วสามจังหวัด แต่เป้าหมายที่เหลือนับแต่จะห่างไกลออกไปเรื่อยๆเพราะพอห่างกรุงเทพพื้นที่แต่ละตังหวัดก็เริ่มกว้างใหญ่ขึ้น สระบุรี โคราช ขอนแก่น อุดร เส้นทางบุญยิ่งยาวไกล

เธอสงสารคนขับ แต่ก็ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะต้องทำให้ได้

“น่า ทำเพื่อฉันสักครั้งนะคะ”

เธอลงทุนอ้อนวอนเสียงหวาน เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางเริ่มเหน็ดเหนื่อยของคนรัก ซึ่งมือจับพวงมาลัยรถเขม้นมองไปเบื้องหน้าแทบตลอดเวลา

“ครับ...”

เขาตอบสั้นๆ อย่างที่เธอคิดว่าเขาจะตอบแบบนี้ และเขาก็ตอบอย่างที่เธอแอบทายในใจ ก็เพราะเธอรู้ใจเขามากกว่าใครอยู่แล้ว  และอีกหน่อยเขาก็จะถามขึ้นว่า คุณหิวข้าวหรือยัง เราแวะทานข้าวกันก่อนไหมครับ

“คุณหิวข้าวหรือยัง เราแวะทานข้าวกันก่อนไหมครับ”

นั่นไง..เป็นอย่างที่คาดเอาไว้จริงๆ  หิวก็หิวแต่อยากทำบุญให้จบๆไปดีกว่า

“ยังไม่หิวค่ะ”

หญิงสาวผิดศีลข้อโกหก ความจริงเธอเริ่มหิวแล้ว แต่เมื่อคำนวณจำนวนวัดและระยะทาง ทำให้รู้สึกว่ากินอะไรไม่ลง

“คุณหิวข้าวหรือคะ ฉันมีขนมติดมาด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวค่อยทาน”

เขาตอบอย่างที่คาดคิดไว้อีกแล้ว  และตอนนี้เธอยังเดาได้ว่าวิ่งไปอีกสามสี่กิโลเมตรก็จะเจอรถสิบล้อพลิกคว่ำอยู่อยู่ริมถนนด้านซ้ายมือ

แล้วพอวิ่งไปก็พบว่ามีรถสิบล้อพลิกคว่ำอยู่ริมทางจริงๆ  แล้วเขาก็จะพูดว่า ผมว่าเราพักกันสักนิดนะครับ

“ผมว่าเราพักกันสักนิดนะครับ”

ใช่อย่างที่คิด เขาพูดอย่างนี้จริงๆ ทำไมจะไม่พูดแบบนี้ล่ะ เพราะเธอรู้อนาคตล่วงหน้าเดาใจชายคนรักถูกใช่ไหม

ไม่ใช่แบบนั้น ความทรงจำของหญิงสาวเริ่มวิ่งเร็วขึ้นทุกทีเหมือนการดูภาพยนตร์ถูกเร่งความเร็วขึ้นหลายเท่ามากขึ้นเรื่อยๆ หากชัดเจนเหลือเกินไม่ว่าจะเร็วปานใด เธอจับความทรงจำนั้นได้

เธอไม่ได้เดาเก่ง หรือรู้อนาคตอะไร หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วต่างหาก ไม่ใช่เพราะการคาดเดารู้ล่วงหน้าอะไรเลย

เหตุการณ์ต่อไปเธอก็รู้แล้วว่า..

รถปิคอัฟคันวิ่งนำหน้าสาดน้ำโครมเข้ามาเต็มกระจกรถ มองไม่เห็นอะไรไปชั่วขณะ และนั่นเป็นทางโค้งหักศอกพอดี เสียงโลหะประทะกันกึกก้องโลกพลิกหมุนวนถล่มทลายโครมคราม ความทรงจำดับวูบลง



*******


บทส่งท้าย


หญิงสาวหลั่งหยาดน้ำตาลงในขันซึ่งมีน้ำอยู่เกือบเต็มขันด้วยประกายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวัง วันนี้วันสงกรานต์ เธอไม่สามารถไปสรงน้ำพระที่วัดใดได้อีกแล้ว อย่าว่าแต่เจ็ดวัดเลย

น้ำตาไหลผ่านแก้ม มีสีแดงเข้มมากขึ้นทุกขณะ จนหยดลงไปในขันน้ำกลายเป็นสีแดง น้ำตากลายเป็นสีเลือดซึ่งบีบเค้นคั้นออกมาจากเจ็บเจ็บปวดส่วนลึกของจิตใจ สีแดงซึ่งแผ่ขยายออกไปมากขึ้นทุกที  

คนรักก็คงกำลังพยายามตามหาเธออยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง สถานที่แห่งนั้นจะเยือกเย็นอ้างว้างแค่ไหนนะ ป่านนี้เขาจะซานซมเจ็บปวดกล้ำกลืนทรมานมากขนาดไหนนะเมื่อตามหาเธอไม่เจอ เขาจะตามหา..มองหา...อยู่ในเส้นทางมืดดำอย่างไร้ความหวังนานเท่านาน

ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวดขมขื่น เสียงสะอื้นขาดหาย ความเจ็บลึกที่สามารถกระทั่งทำให้ดวงจิตแยกแตกสลาย ความทรงจำจางหาย ในห้องรับแขก เหลือเพียงความว่างเปล่า อันหดหู่เศร้าหมอง

ในห้องครัว หญิงชรายังคงทำอาหารต่อไป ทำอาหารทั้งที่น้ำตายังไหลเป็นทาง มันเป็นอาหารที่ลูกสาวโปรดปราน ทำอาหารต่อไปทั้งที่รู้ว่าลูกสาวไม่มีทางจะได้กิน เหมือนที่ผ่าผ่านมาทุกๆ ปี  ความเป็นแม่ทำให้ต้องทำแบบนี้ทุกที

“ลูกเรารู้ตัว .....ไปแล้วใช่ไหมแม่”

เสียงสั่นเครือมาจากลูกมือคนทำครัว สามีคู่ทุกข์คู่ยากของหญิงชราซึ่งกำลังหั่นผักล้างผักด้านข้างถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเก็บความเศร้าไม่ได้มิดชิด

“เธอไปแล้วค่ะพ่อ...ปีนี้เธอก็ไม่ได้ไปงานสงกรานต์ เจ็ดปีแล้วสินะ ที่เธอจะกลับมาในวันสงกรานต์ทุกปี”

“หวังว่าปีหน้าเธอคงมีโอกาสได้ไปจริงๆเสียทีนะ” ชายชราถอนใจ

“หวังว่าเป็นเช่นนั้นนะพ่อ.....ถึงเราจะดีใจที่เห็นหน้าลูกอีกครั้ง แต่ก็คงทนไม่ได้ที่จะเห็นลูกจากไปในสภาพเศร้าเสียใจแบบนี้ สู้ไม่เห็นดีกว่านะคะพ่อ.....ปีหน้าพวกเขาคงตามหากันจนเจอ แล้วไปสู่สุคติเสียที”


เหมือนจะได้ยินเสียงสะอื้นดังมาแผ่วๆแล้วจางหาย ทั้งสองมองหน้ากัน ไม่พูดอะไรอีก เก็บข้าวของในห้องครัวอย่างเงียบงันในวันสงกรานต์อันแสนเศร้าหม่นมัว  อาหารที่ทำคงจะนำไปทำบุญกรวดน้ำที่วัด


แน่นอน วัดเดียวก็พอแล้ว...












จบแล้วครับ

จากคุณ : GTW
เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 08:58:56




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com