Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นักรบจันทรา ตอนที่ 22 นางฟ้าสีเลือด ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 22 นางฟ้าสีเลือด


“รออยู่ที่ที่พักนี่ล่ะดีแล้ว ข้ากับริเรียจะรีบขึ้นไปเอาผลึกกาลเวลาลงมา” รุ่งเช้าในเวลาท้องถิ่น เจ้าการ์อวดเบ่งพูดจาเหมือนหัวหน้าคณะเดินทาง

เมื่อวานมารีน่าคงเล่าอะไรให้เจ้าพวกนี้ฟังจึงดูสนิทสนมกับไลล่ามากขึ้น ริเรียย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้ดูแลไลล่าให้ดี การ์กับริเรียคงไม่รู้เรื่องแผนการของเขาแต่มารีน่ารู้แน่ๆ นางเร่งไลล่าและอลันให้ทานอาหารให้เสร็จพร้อมกับการ์ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ยอมให้คนอื่นเข้ามาขวางการต่อสู้ของเขาเด็ดขาด

“การ์ ไลล่าด้วย หากกลับมาแล้วพบว่าข้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นให้ใช้พลังทั้งหมดของพวกเจ้าสังหารข้าให้ได้ อาจเป็นงานหนักแต่อย่างไลล่าทำได้แน่” ไบรอันบอกการ์เอาไว้กันเหนียว หากพลาดขึ้นมานักรบจันทราคนสำคัญอาจพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย “ถ้าข้าไม่กลับมาหรือมีเหตุให้เจ้าต้องสังหารข้า ฝากไลล่ด้วยนะการ์”

เจ้าการ์มุ่ยหน้าด้วยความไม่เข้าใจแล้วเดินไปหอคอยกษัตริย์กับริเรียสองคนเพื่อนำผลึกกาลเวลาออกมา พอสองคนเดินเข้าไปในตัวหอคอยไบรอันก็เดินเลี่ยงทางกลับที่พัก ศัตรูของเขาซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านอลิเซียหญิงจากอนาคตบอกเขาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เขารำคาญเสียงเดินข้างหลังจึงบอกให้ออกมาจากที่ซ่อน พวกมารีน่าสามคนตามเขามาทั้งคณะ นางผู้หยั่งรู้ส่งข้อความทางนัยน์ตาว่าถ้าห้ามได้ก็ลองดู ไบรอันจึงยอมให้พวกนางเดินตามมาด้วย

“ห้ามขวางก็แล้วกัน นี่เป็นเรื่องของข้า” ไบรอันตอบห้วนๆ ตราบใดที่ไลล่ายังถือดาบสลายเวทอยู่ก็ไม่ต้องกลัวโดนลูกหลง มารีน่าคงคุ้มครองตัวเองกับอลันได้ การ์ที่เป็นหัวใจของคณะเดินทางปลอดภัยอยู่ในหอคอยกษัตริย์ เขาจะต้องชนะเท่านั้น

“ไบรอัน เจ้าแก่นั่นเป็นหนึ่งในสี่สาวกไม่ใช่เรื่องของท่านคนเดียว” มารีน่าเตือนด้วยน้ำเสียงราบเรียบผิดสังเกต

พอเห็นเขตหมู่บ้านมารีน่าก็บอกให้อีกสองคนหลบอยู่ในแนวป่า ดาบสลายเวทของไลล่าถูกดึงออกจากฝักเพื่อกันลูกหลง ไบรอันเดินเข้าไปในหมู่บ้านอย่างอาจหาญ สัมผัสทางมนตราของเขาบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ มองเห็นเงาคนอยู่ในกระท่อมหลังหนึ่งแต่เขาไม่อยากสรุปลงไปมีแต่ต้องเรียกมังกรออกมาอาละวาดแผดเผาหมู่บ้านร้างแห่งนี้ หากไม่อยู่ที่นี่ก็เสมอตัวหากอยู่เขาก็มีโอกาสลงมือก่อน

เสียงขลุ่ยรวดเร็วดุจปลายแส้ จังหวะดนตรีสนุกสนานดำเนินต่อได้ไม่ถึงอึดใจรากไม้ก็ผุดขึ้นจากเท้ารัดพันตัวเขาให้ลอยกลางอากาศโดยไร้ทางต่อต้าน เขาใจเร็วด่วนได้จนลืมว่าต้องทำการคุ้มกันหากต้องใช้เวลาจึงถูกจับง่ายๆ ชายวัยกลางผู้เคยเป็นลุงของเขาปรากฏตัวอย่างโจ่งแจ้งพร้อมเสียงหัวเราะด้วยความคึกคะนอง ไบรอันต้องการบอกให้ไลล่าหนีไปแต่ไม่ทันเสียแล้ว มีบางอย่างยึดร่างกายไม่ให้พูดหรือขยับแขนขาในวงรัด เขามองเห็นมารีน่าทรุดฮวบลงกับพื้นเหมือนหุ่นไร้สายชัก เมฆฝนจากที่ใดไม่รู้ลอยมารวมตัวกันเหนือหัวของเขาเหมือนจงใจ กลุ่มเมฆดำทมิฬก่อตัวเป็นรูปอสุรกายสองเขา ปากแสยะอ้ามือข้างหนึ่งแยกออกประหนึ่งจะยื่นลงมาสู่พื้นดิน ความรู้สึกของไบรอันเหมือนมีอะไรสักอย่างถูกดึงออกจากร่างคล้ายกับตอนถ่ายวิญญาณให้มารีน่า สติที่ถูกลับจนคมกริบใกล้ดับวูบ

“ท่านเทพเจ้าแห่งปีศาจ ข้าขอบูชายัญวิญญาณบริสุทธิ์ดวงนี้แลกกับร่างและพลัง วิญญาณพิสุทธิ์เป็นของท่าน ได้โปรดส่งร่างและพลังของเขาเป็นทานแก่ข้า” เหมือนบทสวดถ่ายวิญญาณที่เขาเห็นตอนเปิดอดีตไม่มีผิด เขาทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงจนประสบชะตากรรมแบบลุงของเขา ไบรอันภาวนาให้ไลล่ากับการ์ฆ่าตัวเขาให้ได้ก่อนสติจะดับวูบ บางสิ่งที่เหมือนตัวตนของเขาถูกดึงสูงขึ้นไปๆ

ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงบังเกิดขึ้นอย่างไม่นึกฝัน สติของไบรอันกลับคืนมาอีกครั้ง ท้องฟ้าที่มืดครึ้มเริ่มเห็นแสงส่องลงมายังพื้นพิภพ เหตุใดเขายังไม่ถูกดูดกินวิญญาณเหมือนลุงของเขา เขาเป็นเหยื่อบูชายัญให้ตาแก่ลัทธิบูชาปีศาจไม่ใช่หรือ อริของเขาคนนี้ต้องการร่างที่หนุ่มแน่นและทรงพลังของคนตระกูลบรู๊คจึงออกตามล่าตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน ผู้ชายตระกูลบรู๊คหลายสิบคนต้องกลายเป็นเหยื่อส่งมอบร่างทรงพลังให้คนผู้นี้ หัวของไบรอันหมุนติ้วเหมือนกังหันต้องลม มีอะไรที่เขาพลาดไป เหตุใดพิธีนี้จึงไม่สมบูรณ์ มารีน่าคำรามอย่างบ้าคลั่ง นางสะบัดมือตัดพันธนาการที่รัดตัวเขาอยู่ พอหล่นลงสู่พื้นดินก็มีกรงเหล็กหนาที่ทำลายไม่ได้ปรากฏขึ้นล้อมเขาเอาไว้ ภายใต้กรงเหล็กนี้เขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์ใดๆได้ ขลุ่ยผิวก็ไม่สำแดงฤทธิ์ มารีน่าก้าวออกมายืนต่อหน้าตาตาแก่ลัทธิมืด ปากสั่งให้อลันกับไลล่าช่วยคุ้มครองเขาเอาไว้

“คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้าคนนี้ ขออธิบายก่อนว่าเหตุใดพิธีบูชายัญไม่ได้ผล ประเดี๋ยวแพ้แล้วจะบอกได้ว่าไม่มีสมาธิสู้” มารีน่าหันหลังให้เขา นางกำลังทำอะไรกัน

“มารีน่าสั่งเอาไว้ไบรอัน นางจะระงับการใช้พลังของท่านชั่วคราวแล้วกักตัวเอาไว้ ให้พวกข้าคุ้มครองท่านจนกว่านางจะต่อสู้เสร็จ” ไลล่าตอบคำถามของเขาด้วยความกระอักกระอ่วนใจ

“ไม่ต้องคิดมากตาแก่ สาเหตุเดียวที่เทพปีศาจของเจ้าไม่รับเครื่องสังเวยคือวิญญาณไม่บริสุทธิ์ วิญญาณตานี่ถูกแบ่งเป็นสองส่วน ของเขากับของข้า” มารีน่าอธิบายใหญ่โตไม่เกรงกลัวอันตราย “คำสาปที่ท่านตอกตราเขาไว้ถูกปลดออกนานแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นข้าบังเอิญเจอคนถูกใจเข้าก็เลย ทำอย่างว่าแบบชายหญิง แค่นั้นเอง”

“แล้วคำสาปไม่มีผลหรือ”

ชายวัยกลางคนสับสนแต่ไบรอันเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว เหตุผลที่เขาถูกร่ายคำสาปไม่ให้เกิดความรู้สึกเยี่ยงชายชาตรี และเหตุผลที่มารีน่าร่วมหลับนอนกับองค์ฟิลลิป นางรู้ว่าเขาคงไม่มีทางข่มเหงไลล่าก่อนถึงวันแต่งงานจึงชิงหลับนอนกับผู้ชายเพื่อให้ดวงวิญญาณของเขาแปดเปื้อนจนใช้บูชายัญไม่ได้ ด้วยเหตุผลเดียวกันจึงได้คำตอบว่าทำไมพ่อเขาจึงถูกฆ่าแต่ไม่ถูกชิงร่างไปใช้

“ก็บอกแล้วว่าวิญญาณของตานี่ถูกแบ่งเป็นสองส่วน คำสาปเกาะอยู่กับวิญญาณครึ่งเดียว แต่มลทินที่ข้าสร้างมันเปรอะเปื้อนทั่วถึงทั้งสองด้าน พูดง่ายๆ ข้ากับเขาเคยอยู่ในร่างเดียวกันมาก่อน เรามีเหตุให้สลับภาคชายหญิงทำให้แกนวิญญาณสลับกัน คำสาปของท่านติดอยู่กับวิญญาณฟากที่เป็นไบรอันไม่ใช่ข้า เมื่อแกนวิญญาณของข้าถูกพลิกเป็นหน้าฉากคำสาปย่อมไม่ส่งผล ข้าจึงอาศัยโอกาสนั้นสร้างรอยมลทินให้ดวงวิญญาณ เจ้าจะได้นำวิญญาณของเราสองคนไปบูชายัญไม่ได้อย่างไรละ ขอแนะนำว่าอย่าลงมือฆ่าเขาเพื่อให้วิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ เขาเคยตายมาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนั้นข้าแยกวิญญาณส่วนของข้าออกมาทำให้วิญญาณครึ่งที่ถูกสร้างใหม่แปดเปื้อนอีกครั้ง เขาไม่สามารถคืนชีพได้แต่ข้ายังคืนชีพได้อีก หากอยากได้ร่างนี้ก็มาฆ่าข้าให้ได้สิ”

การต่อสู้ระหว่างชายวัยกลางคนและหญิงสาวเริ่มขึ้นอย่างร้อนแรง พื้นพสุธาระหว่างทั้งสองร่ำร้องแล้วระเบิดออกมา มารีน่าใช้เวทมนตร์สร้างพายุหมุนผลักก้อนดินลุ่นๆใส่อีกฝ่าย ทั้งคู่ต่างเหินบินขึ้นท้องฟ้าอย่างชำนิชำนาญกรงเล็บน้ำแข็งของมารีน่าพุ่งตามร่างอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ไม้เท้าหัวลูกแก้วกลายเป็นดาบเรียวยาวปัดกรงเล็บน้ำแข็งได้แต่มารีน่าไว้กว่า นางบินไปอยู่เหนือหัวแล้วปักดาบน้ำแข็งลงเบื้องล่างเฉียดไหล่อีกฝ่ายแค่ชั่วนิ้วมือ น้ำจากใต้ดินพวยพุ่งออกมาจากช่องว่างเป็นพายุน้ำวนคมกริบกลืนร่างของมารีน่าเข้าไปนับหนึ่งไม่ถึงสิบนางก็เปลี่ยนน้ำวนให้เป็นน้ำแข็ง แท่งน้ำแข็งแตกกระจายพุ่งเข้าจู่โจมลุงของไบรอันเป็นจุดเดียว ระหว่างที่นางควบคุมเศษน้ำแข็งจำนวนมหาศาลก็เกิดระเบิดขึ้นที่ด้านหลังเรียกเลือดจากไหล่ซ้ายของนางออกมา หญิงสาวสบถเศษน้ำแข็งจำนวนมหาศาลระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กๆเป็นพายุเข็มพุ่งเข้าเชือดเฉือนร่างฝ่ายตรงข้ามจนเลือดไหลซิบ ไบรอันขบฟันกรอดรู้สึกเสียหน้าที่ต้องให้ผู้หญิงเข้าปกป้อง

จอมเวทสองคนผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่พักใหญ่ เวทมนตร์ที่ใช้ออกมาเริ่มทรงอำนาจมากขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าจะระเบิดซ้ำซ้อนหรือควบคุมการโจมตีของอีกฝ่ายให้ย้อนกลับไปหาเจ้าของ กระทั่งหินหลอมเหลวใต้พิภพก็ถูกดึงขึ้นมาใช้ในการต่อสู้ ในพื้นที่นั้นมีเพียงส่วนเล็กๆที่ไม่ได้รับผลกระทบเพราะมีดาบวิเศษสองเล่มคอยปกป้องอยู่ ดาบน้ำแข็งของมารีน่าปะทะกับดาบเรียวยาวครั้งหนึ่งก่อนนางจะใช้ช่องว่างชั่วพริบตาส่งร่างคู่อริลงสู่พื้นดินด้วยแรงโน้มถ่วงมหาศาล ลูกแก้วปลายด้ามดาบเปล่งแสงสีม่วงครามออกมาบังเกิดเขตอาคมขึ้นบนพื้นดินอัญเชิญปีศาจรูปร่างคล้ายมนุษย์ยักษ์แต่มีเขาและปีก มารีน่าหัวเราะบินเข้าไปสัมผัสเบาๆร่างของปีศาจก็มลายหายไปในอากาศอย่างง่ายดาย

“วิญญาณของข้าเป็นวิญญาณของเทพ มีพลังเทียบเท่ากับพลังสีขาวที่เจ้าพบเมื่อคราวก่อน พลังสีดำใช้กับข้าไม่ได้หรอก”

ชายวัยกลางคนใช้โอกาสชั่วครู่ขยับนิ้ว ก้อนน้ำแข็งใหญ่มโหฬารบีบรัดมารีน่าเอาไว้แล้วระเบิดตัวเอง จนร่างของหญิงสาวเต็มไปด้วยบาดแผลจากแรงระเบิด รอบร่างอ่อนระโหยบนพื้นดินเกิดทะเลเพลิงขึ้นในพริบตา ชายคนนั้นรีบหนีขึ้นไปบนฟ้าหลบหลีกลูกไฟที่มารีน่าสร้างขึ้นจากทะเลเพลิง กิ่งแขนงไม้จากรอบด้านกลายเป็นหอกหลาวนับสิบพุ่งเข้าหามารีน่า นางเรียกลูกไฟออกมาแผดเผายังไม่วายโดยใบมีดจากสายลมกรีดลงบนแขนขาด้วยความประมาท นางผู้หยั่งรู้ออกคำสั่งเบาๆทะเลเพลิงบนพื้นเปลี่ยนรูปเป็นมังกรร่างยาวอ้าปากขย้ำร่างคู่ต่อสู้ในบัดดล ร่างไหม้เกรียมแต่ยังไม่สิ้นพลังเรียกเมฆฝนให้มารวมตัวกันอีกครั้งพร้อมกับเข้าประจัญบานกับมารีน่าในระยะใกล้ หญิงสาวอ่านการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ออกจึงดึงเมฆฝนบนท้องฟ้าลงมาเป็นฝนน้ำแข็งพุ่งลงมาด้วยความแรงดั่งพายุคลั่ง บ้านเรือนพังทลายต้นไม้รอบด้านหักโค่น ดาบสลายเวทของไลล่าที่เปลี่ยนฝนน้ำแข็งให้กลายเป็นน้ำแล้วใช้ดาบของอลันเปลี่ยนน้ำเป็นโล่ป้องกันอีกชั้นหนึ่งเพื่อลดแรงปะทะไม่ให้พวกเขาโดนพายุลูกเห็บทุบหัว

ลูกเห็บหนามของมารีน่าหยุดลงเมื่อคู่ต่อสู้เปลี่ยนเมฆฝนทั้งหมดให้เป็นหอกน้ำเหมือนหลังเม่นพุ่งเข้าหาหญิงสาวที่ไร้ทางหลบหลีก มารีน่าสร้างก้อนพลังประหลาดสีน้ำทะเลขึ้นสองก้อน ก้อนพลังรูปร่างคล้ายนกนางแอ่นลูกแรกบินขึ้นไปป่นหนามน้ำจนกระจาย อีกลูกบินตรงดิ่งไปยังคู่ต่อสู้ ด้วยความเร็วดุจนกนางแอ่นจริงๆทำให้คู่ต่อสู้มิอาจหลบหลีก แสงและเสียงจากการระเบิดทำให้ไบรอันสะอึก เขาไม่คิดว่าตาแก่จะมีฝีมือสูสีกับมารีน่าจนสามารถสู้ได้อย่างทัดเทียม ก้อนน้ำที่กระจายตัวลงมากลายเป็นมังกรน้ำพุ่งเข้ากอดรัดร่างสะบักสะบอมของชายกลางคน

ลำแสงร้อนแรงพุ่งทะลุน้ำที่ปกคลุมร่างกายเข้าหามารีน่า นางสร้างกระจกน้ำแข็งสะท้อนแสงกลับไปจนน้ำลูกใหญ่กลางอากาศเดือดพล่าน ไบรอันลองเดาจากการโจมตีตั้งรับที่แข็งแกร่งของทั้งคู่ ต่อให้มีพลังเวทมากมายแค่ไหนการต่อสู้ยืดเยื้อแบบนี้ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดพลังก่อนแน่ ร่างภายใต้น้ำเดือดปุดๆหลุดจากพันธนาการด้วยตนเอง ไอน้ำจากน้ำเดือดกลายเป็นกระสุนน้ำพุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้าม หญิงสาวระเหยมันได้ในพริบตาแล้วส่งร่างชายกลางคนลงไปยังพื้นดินด้วยการควบคุมแรงโน้มถ่วงอีกครั้ง คราวนี้หอกดินนับสิบพุ่งขึ้นมาเสียบร่างที่ไร้ทางป้องกัน มารีน่าเองก็มัวแต่ควบคุมพื้นดินไม่ทันเห็นมีดเล่มยาวที่พุ่งเข้าเสียบสีข้างจนเลือดไหลทะลัก หญิงสาวหักใบมีดเปลี่ยนเลือดตนเป็นน้ำแข็งอุดปากแผล นางใช้พลังเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าหาร่างศัตรูแล้วระเบิดร่างคู่อริเป็นผุยผงพร้อมดินแหลมคมที่ถูกสร้างขึ้น ฝุ่นจากการระเบิดบดบังร่างของทั้งคู่เอาไว้ ไบรอันภาวนาให้นางปลอดภัยและรีบกลับมา เขาคงช่วยรักษาบาดแผลให้นางได้ทันก่อนเสียเลือดจนตาย

“ข้ากลับมาแล้วไบรอัน มีของขวัญมาให้ด้วย” มารีน่าเดินเขยกมาหาพวกเขาพร้อมหัวของคู่ต่อสู้ กรงเหล็กพังทลายลงในทันใด เขารีบปัดหัวในมือนางทิ้งด้วยกลัวว่าศัตรูจะคืนชีพ “ไม่ต้องห่วง หมอนี่โดนเวเบอร์ฆ่ามาหนหนึ่งแล้ว จึงต้องการร่างท่านอย่างไรละ”

ร่างโชกเลือดของมารีน่าทรุดลงในอ้อมแขน สุดท้ายเขาก็ไม่ได้แก้แค้นด้วยตนเอง เป็นแค่คนขลาดเขลาที่ให้ผู้หญิงคอยปกป้องตลอดเวลา ไบรอันดึงดาบที่ปักคาออกแล้วเริ่มการรักษาทันที เขาทรุดตัวนั่งเพื่อให้มารีน่านอนราบกับพื้น แสงสีทองบนมือทั้งสองอาบไล้แผลฉกรรจ์บนสีข้าง หญิงสาวยิ้มให้เขาทั้งที่น่าจะเจ็บปางตาย บาดแผลใหญ่ที่สุดของนางเริ่มการรักษาตัวเองแล้ว

“พอเถอะไบรอัน” มารีน่าพูดเสียงแหบด้วยความเหนื่อยอ่อน หญิงสาวในตอนนี้เหมือนกับผ้าขี้ริ้วขาดรุ่งริ่งเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด “ถ้าท่านมีข้อเสียมากกว่านี้อีกสักนิด ข้าคงไม่ลำบากรักท่านอย่างนี้หรอก”

“รอให้รักษาเสร็จค่อยพูดมารีน่า เลือดไหลออกมาอีกแล้ว” ไบรอันพยายามรักษาอย่างเต็มที่ ร่างกายนางมีบาดแผลมากเสียจนพลังของเขารักษาได้ไม่ทั่วถึง ลิ่มเลือดทะลักออกมาจากบาดแผลอีกครั้ง

“อย่าโทษตัวเองไบรอัน” มารีน่าไอโขลก ไฟแห่งชีวิตของนางคงริบหรี่เต็มที “ข้ากับฟลอร่าทำเพื่อท่าน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” นางทำให้น้ำตาของเขาไหล เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องที่สุดต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้หญิงตลอดเวลา แม้แต่ศัตรูสำคัญยังถูกหญิงครึ่งหนึ่งของเขาชิงลงมือฆ่าเสียก่อน ไลล่าวางมือบนไหล่ของเขาด้วยความเห็นใจ

“ช่วยตอบตามความจริงได้ไหม” เสียงของมารีน่าแหบพร่า ไบรอันเร่งมือรักษาสุดชีวิตแทบวางมือของเขาบนแผลของนางเพื่อเร่งการรักษา “ในสายตาของท่านเป็นผู้หญิงที่ดีหรือไม่ และท่านมีใจให้ข้าสักนิดหรือเปล่า”

“ดีสิมารีน่า เจ้าเป็นผู้หญิงที่ดี อีกเดี๋ยวก็รักษาหายแล้ว” มือทั้งสองของเขาเลอะเลือดของหญิงสาวจนแทบมองไม่เห็นแสงสีเหลือง เขายกร่างหญิงสาวขึ้นมากอดแนบอกเผื่อจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น “ขอโทษด้วย ข้ารักแต่ไลล่าเท่านั้น”

“ท่านต้องหัดทำร้ายจิตใจคนเสียบ้าง” แววตาสีมรกตของหญิงสาวขุ่นมัว เลือดจากสีข้างไหลไม่ยอมหยุด “จะได้ไม่มีใครรักท่านมากไปกว่านี้อีก” นางยิ้มอย่างอ่อนโยน ไลล่าหันหลังให้พวกเขาบอกว่ายอมให้ชั่วคราว

ปาฏิหาริย์บินผ่านแมกไม้ดุดลมกรดสีฟ้า นกเพลิงประจำตัวการ์ร่อนลงเกาะบนแขนของเขาแล้วหลั่งน้ำตาลงบนบาดแผลของมารีน่าทีละหยด แสงสว่างราวไข่มุกปกคลุมจุดที่น้ำตาหยดใส่แล้วหายวูบ เจ้านกเพลิงบีบน้ำตาได้เจ็ดหยดก็เลิก มันโผบินกลับไปเกาะแขนเจ้านายที่ยืนหอบซี่โครงบาน การ์คงวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น หากโชคดีน้ำตาของการ์ลูสคงช่วยชีวิตมารีน่าเอาไว้ได้

“ถึงบอกให้หยุดอย่างไรละไบรอัน” มารีน่าตอบ ดวงตาสีมรกตของนางกลับส่องประกายดังเดิม น้ำตาของการ์ลูสช่วยชีวิตนางไว้ได้ทัน แม้แต่บาดแผลใหญ่ก็สมานตัวดีขึ้นจนเลือดหยุดไหล “ปล่อยได้แล้ว ข้าพอเดินไหว”

“อุ้มนางไปให้ถึงที่พัก” ไลล่าออกคำสั่งอย่างเรียบง่าย นางเดินไปเก็บขลุ่ยผิวให้เขา “ก็บอกว่ายอมให้ชั่วคราวอย่างไรละตาบื้อ”

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่ อยู่ๆการ์ลูสก็ออกจากแหวนแล้วบินมาทางนี้ ทำไมหมู่บ้านและป่าแถบนี้จึงพังราบราวกับโดนพายุถล่ม” เจ้าการ์ร่ายคำถามยาวยืด นกเพลิงประจำตัวหายตัวไปในอากาศ

ไลล่าหันมาย้ำกับเขาว่าต้องอุ้มมารีน่าไปจนถึงที่พักก่อนจะเล่าการต่อสู้ระหว่างมารีน่ากับศัตรูของเขาให้การ์ฟัง อลันก็ทำเมินเข้าไปผสมโรงเล่าด้วย สามคนนั้นเดินกลับที่พักไม่สนเขาเลยสักคน สุดท้ายก็ต้องใช้มนตร์เคลื่อนย้ายพาเขาและมารีน่ากลับที่พักกันแค่สองคน หญิงสาวรีบดันตัวออกห่างราวกับรังเกียจ ริเรียจ้องเขาด้วยแววตาแบบเดียวกับมองของน่ารังเกียจก่อนหันไปสนใจร่างโชกเลือดของมารีน่า

“ข้าไปต่อสู้กับหนึ่งในสาวกของจอมปีศาจมา ชนะแบบโชกเลือดของแท้” มารีน่าเสริมด้วยรอยยิ้มตามแบบของตัวเอง “ให้ไบรอันสู้ไม่ได้เพราะข้าอยากสู้เอง ไม่ใช่ความผิดเขาหรอก”

“เอานางไปรักษาตัวที่ไพน์เลยก็ได้” ริเรียเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มารีน่าเสร็จก็โยนเสื้อคลุมเก่าโชกเลือดลงในกองไฟที่ก่อเพื่อต้มน้ำ “บาดแผลนางยังไม่หายดีทั้งหมด กระดูกขาอาจร้าวด้วยมนตร์รักษาของท่านจึงรักษาได้ไม่เต็มที่”

มารีน่าดื่มน้ำต้มสุกอย่างลำบากลำบนเนื่องจากต้องเอาสัมภาระมารองหลังเอาไว้ แสงสีฟ้าสว่างแล้วดับวูบ ในที่สุดเจ้าการ์ก็นึกออกว่าสมควรให้เขาใช้มนตร์เคลื่อนย้ายพามาที่นี่ทันที ไม่ต้องหลงทางจนต้องใช้ขนปีกของการ์ลูส ไลล่าและอลันหันไปสนใจมารีน่า ส่วนเจ้าการ์กระทืบเท้ามาทางเขาด้วยความโกรธเคือง

“ทำไมไม่บอกก่อนว่ามีตัวศัตรูอยู่บนเกาะด้วย” เจ้าการ์คำรามใส่หน้าเขาจนน้ำลายกระเด็นมาโดน “อย่างน้อยถ้ามีข้ากับริเรียคอยช่วยอยู่ข้างๆมารีน่าคงไม่อยู่ในสภาพนี้ ไลล่าเล่าให้ฟังแล้วว่ามารีน่าขังท่านไว้แล้วออกไปสู้ด้วยความตั้งใจของตัวเอง”

“อย่าไปว่าเขาเลยสุดที่รัก” มารีน่าส่งแก้วน้ำคืนให้ริเรีย สีเลือดฝาดกลับมาบนผิวกายนางอีกครั้ง “ตางั่งเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว แบกรับภาระความรับผิดชอบเอาไว้เพียงผู้เดียวพยายามทำให้คนรอบข้างปลอดภัยที่สุด จึงไม่บอกเรื่องนี้รอให้ท่านปลอดภัยอยู่ในหอคอยกษัตริย์เสียก่อนจึงเคลื่อนไหว”

“สุดที่รักอะไรมารีน่า ไลล่าบอกข้าด้วยว่าท่านหลงรักไบรอัน ถึงกับยอมนอนกับผู้ชายเพื่อไม่ให้เขาถูกบูชายัญ” เจ้าการ์นั่งลงข้างมารีน่าด้วยใบหน้าเหนื่อยหน่าย

“ไบรอันเจิดจ้าเกินไปสำหรับข้า แม้มีความแค้นฝังอยู่ในอกแต่ความคิดกับการกระทำไม่ได้ขุ่นมัวด้วยความแค้น เขาพยายามแก้ปัญหาทุกอย่างของคณะเดินทางด้วยตัวคนเดียว ทำหน้าที่หนุนหลังท่านอย่างสุดฝีมือ ข้าเคยบอกแล้วว่านางผู้หยั่งรู้ต้องรักทุกคนโดยเท่าเทียม แค่หลงรักผู้ชายที่ตัวเองเป็นกาฝากก็เกินพอ”

คณะเดินทางเงียบกริบโดยไม่ตั้งใจ ไบรอันไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อดี เหตุใดหญิงสาวที่หลงรักเขาจึงต้องประสบชะตากรรมแบบนี้ เขามีอะไรทำให้พวกนางหลงรักกัน ที่ยอมเป็นผู้กล้าแสงตะวันก็เพราะรู้ว่าต้องได้แก้แค้นไม่ได้อยากลำบากลำบนแบบนี้ ไลล่าเอ่ยถามนางผู้หยั่งรู้เบาๆว่าบาดแผลเป็นอย่างไรบ้าง ริเรียเปิดห่อห้าให้มารีน่าและอลันดูผลึกกาลเวลา มันเป็นก้อนผลึกแบ่งตัวเป็นชั้นหลากสีสวยงาม พอเปลี่ยนมุมสีสันเลื่อมพรายก็เปลี่ยนตามไปด้วย

“เยี่ยมเลยสุดที่รัก” มารีน่ายันตัวนั่งท่าปกติ ใบหน้านางบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด “กลับไปสมทบกับกองทัพวิหคเพลิงได้แล้ว พวกคริสทาร่าได้รับคำสั่งให้นำกองทัพไปรอกองทัพเสริมจากเมืองต่างๆใกล้หุบเหวที่เวเบอร์อยู่ ข้าขอเวลาพักหนึ่งวัน พวกท่านต้องยื้อการต่อสู้กับจอมปีศาจให้ได้ก่อนพระอาทิตย์ตรงหัว แสงสว่างช่วงแรกของวันเป็นสิ่งช่วยทำให้พิธีแต่งตั้งง่ายขึ้น”

“ไม่เป็นอะไรแน่หรือมารีน่า” ไลล่าคงทำปฏิบัติตัวไม่ถูกเข้าหน้ามารีน่าไม่ติด

“เรื่องไหน ถ้าเป็นเรื่องนั้นข้ามีตัวช่วยระบายความเครียดอยู่แล้ว ส่วนร่างกายของข้าพลังเวทกลับคืนมาเหมือนเดิมเมื่อไรก็รักษาตัวเองได้ แต่ต้องใช้เวลาน้อยสุดหนึ่งวัน” มารีน่าพยายามลากร่างบอบบางดุจกระดาษไปหาการ์ของเล่นสุดที่รัก “รีบเก็บของให้เร็วที่สุด เราจะเคลื่อนย้ายไปสมทบกับคริสทาร่าทันที เวลาของสถานที่รวมพลต่างกับที่นี่ร่วมสี่ชั่วโมง เวลาพระอาทิตย์ขึ้นของที่นั่นพวกท่านจะลงไปต่อกรกับสาวกด้วยพลังเต็มเปี่ยม”

ริเรียกับอลันช่วยกันเก็บกวาดทันที อาหารแห้งถูกยัดใส่กระเป๋าสัมภาระ กองไฟถูกดับด้วยน้ำต้มกินเหลือ ไม่กี่อึดใจพวกเขาก็พร้อมเคลื่อนย้ายไปสมทบกับคริสทาร่า นางผู้หยั่งรู้ทำให้ไบรอันอยากตบหน้านางแรงๆสักครั้ง หญิงสาวบอกว่าพลังของเขาถูกปิดผนึกเอาไว้จึงรักษานางได้แค่ครึ่งๆกลางๆ หากนางยอมให้เขาใช้พลังทั้งหมดรักษาร่าง บาดแผลบนตัวนางคงหายการ์ลูสมาถึง

“ตอนนั้นข้าจึงบอกท่านอย่างไรละ ว่าไม่ต้อง” มารีน่าเถียงคอเป็นเอ็น นางนอนหนุนตักเจ้าการ์ด้วยความร่าเริง “ท่านกับอลันต้องต่อสู้กับสาวกที่แข็งแกร่งมาก จะให้พลังของท่านสูญเปล่าไม่ได้”...


คณะเดินทางทั้งหกถูกแสงสีฟ้าปกคลุมอีกครั้ง แรงฉุดกระชากทำให้มารีน่าต้องกำมือของการ์ด้วยความเจ็บปวด ไบรอันเป็นห่วงนางจนอดรนทนไม่ได้ ในเมื่อนางบอกว่าจัดการตัวเองได้ในเวลาหนึ่งวันเขาจะซื้อเวลารอนางสำหรับการแต่งตั้งนักรบจันทรา ทันทีที่แสงสีฟ้าสลายตัวความหนาวเย็นของขุนเขาก็เข้าปะทะอย่างไม่รีรอ กระโจมของกองทัพถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ที่นี่ยังเป็นเวลาก่อนรุ่งสางแสงสีม่วงใสกระจ่างเริ่มปรากฏบนฟากฟ้าด้านตะวันออก ทหารยามเรียกคริสทาร่าให้ออกมาต้อนรับพวกเขาทันที

“คริสทาร่า เราต้องการเตียงพยาบาล” ไบรอันตะโกนบอกนักรบวิหคเพลิงผู้มีผมสีเงินยวงทรงอำนาจ ผู้บัญชาการกองทัพวิหคเพลิงสั่งลูกน้องอีกต่อหนึ่งให้เอาเครื่องมือมาพาตัวคนเจ็บไปนอนพักที่ส่วนพยาบาล มารีน่าให้กำลังใจกับพวกเขาก่อนถูกพาตัวไปให้แพทย์ประจำกองทัพจัดการต่อ

“นี่เป็นกองทัพวิหคเพลิงชุดแรก กองทัพหลักจะมาถึงตอนพระอาทิตย์ตรงหัว” คริสทาร่าแสดงความหงุดหงิดออกมาอย่างเปิดเผย กองกำลังชุดแรกของนางเป็นเป้าหมายหลักยกมาเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีกับดัก แล้วกองทัพหลักจึงยกตามมาเป็นระยะ

“คราวนี้คงเป็นศึกตัดสินระหว่างเจ้ากับเวเบอร์” ไบรอันกุมมือของไลล่าเอาไว้ เขาไม่ได้แก้แค้นด้วยตัวเองแต่มีชีวิตรอดมาได้ นางก็ต้องรอดจากการต่อสู้กับเวเบอร์เช่นกัน “ข้าจะรอเจ้ากลับมา เราจะได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวจริงๆ”

“เจ้าต้องอยู่ที่นี่การ์ ริเรียด้วย” ไบรอันมองนกเพลิงของการ์ขยายร่างพร้อมเป็นพาหนะให้พวกเขา “เจ้าต้องคอยจับตาดูทางนี้เผื่อกองทัพปีศาจบุกโจมตีจะได้มีผู้ช่วยเหลือ คนที่จะไปลุยข้างล่างมีแต่สามคนกับหนึ่งตัวก็พอแล้ว”  

นกเพลิงสีฟ้าตัวยักษ์โน้มตัวให้พวกเขาปีนปีกขึ้นไปนั่งบนหลัง การ์ลูสกระโดดทดสอบน้ำหนักบอกว่าไม่ต้องกลัวหล่นลงไป ไบรอัน ไลล่าและอลันหมอบตัวราบติดหลังตามที่เจ้านกเพลิงบอก ปีกสีฟ้าใสกระพือขึ้นลงเป็นจังหวะแล้วออกตัวบิน สายลมแผ่วเบาผ่านตัวพวกเขาไปตามที่ได้ฟังมาการ์ลูสมีวิธีป้องกันไม่ให้คนนั่งร่วงลงพื้นดิน พระอาทิตย์เริ่มทอแสงอ่อนๆกลุ่มปีศาจสีดำทมิฬบินขึ้นจากหุบเหวข้างหน้า กองพันสัตว์ประหลาดผ่านพวกเขาไปอย่างไม่ใส่ใจ ไบรอันสบถสาบานเพราะเวเบอร์อาศัยโอกาสนี้ส่งพวกปีศาจเข้าโจมตีจริงๆ การสังหารหนึ่งในสี่สาวกทำให้หมอนั่นรู้ว่าจะพวกเขาวางแผนตัดไฟแต่ต้นลมจึงชิงออกคำสั่งบุกเสียก่อน หากพวกเขาจัดการสาวกไม่ได้กองกำลังของคริสทาร่าคงถูกทำลายราบไปพร้อมนักรบจันทราแน่

กองทัพนับแสนบินผ่านตัวนกยักษ์ราวสายน้ำเชี่ยวกราก ไบรอันมองเห็นปีศาจบินตัวสุดท้ายเมื่อการ์ลูสดิ่งตัวลงหุบเหว ข้างใต้มีซากเมืองโบราณตั้งอยู่อย่างโดดเด่น เขาเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเมืองที่อยู่ใต้หุบเหวไม่เคยคิดว่าเป็นความจริง แล้วสาวกที่พวกเขาต้องจัดการอยู่แห่งใดกัน

“ตนแรกเป็นของข้าขอรับ” เจ้านกเพลิงกระพือปีกลดความเร็ว “ประเดี๋ยวจะให้ขนปีกข้าไปส่งให้จนถึงตนที่สอง”

ไม่ทันขาดคำร่างหนักแน่นใต้ตัวพวกเขากลับกลายเป็นผืนขนนกสีฟ้ารวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ไบรอันหันไปดูการ์ลูสในร่างคนครึ่งนกกระพือปีกอยู่กลางอากาศรอสาวกตนแรกปรากฏตัว สายลมหวีดหวิวเมื่อก้อนขนนกพากพวกเขาบินอ้อมเขตเมือง ไบรอันรู้สึกถึงอะไรสักอย่างที่ไม่ดีจึงชิงฉุดร่างเพื่อนร่วมคณะอีกสองคนให้หล่นจากก้อนขนนก งูยักษ์ตัวยาวเหยียดจากพื้นดินอ้าปากกลืนก้อนขนของการ์ลูสเข้าไปในคำเดียว ร่างดำสนิทของมันพุ่งขึ้นไปบนฟ้ายาวเหยียดราวไร้ที่สิ้นสุด ไลล่าตั้งสติเรียกมิราจออกมารับพวกเขาเอาไว้ก่อนถึงพื้นดิน ร่างใหญ่โตราวขุนเขาของสาวกตนที่สองหล่นกระแทกพื้นจนหุบเหวสะเทือน ขนาดของมันไม่ได้ด้อยไปกว่ามังกรที่เคยเห็นในภาพอดีต

“ท่านหญิงไลล่าเชิญด้านหลัง เวเบอร์รอประดาบกับท่านอยู่”

สาวกตนนี้ไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่ชัด ลำตัวใหญ่กว่าหอคอยกษัตริย์ยาวเหยียดจนรัดพันภูเขาสักลูกได้ เกล็ดสีดำดุจน้ำมันดินสะท้อนแสงสลัวใต้หุบเหวชวนขนลุก ส่วนลำคอแผ่แม่เบี้ยมีรยางค์จากหัวและใต้คอจนดูเหมือนมังกร ปากของมันอ้ากว้างแทบกลืนปราสาทใหญ่โตได้ทั้งหลัง สาวกตนนี้คือคู่ต่อสู้ของเขากับอลัน ไลล่าพูดกับพวกเขาสองคนว่าต้องรอด ก่อนนางจะขี่มังกรหายไปด้านหลังปีศาจงู จนมังกรเขียวหายไปพ้นสายตาลิ้นสีม่วงดำก็ตวัดออกจากปากส่งเสียงท้าทายอีกครั้ง

“พวกเจ้าสองคนคือคู่ต่อสู้ของข้า” เสียงขู่ฟ่อคงทำให้คนธรรมดาหวาดกลัวจนตัวสั่น แต่พวกเขาคือผู้กล้าแสงตะวันและผู้กล้าอลัน จะไม่ยอมแพ้ความหวาดกลัวเด็ดขาด...

จากคุณ : Lazy return
เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 09:18:43




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com