Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นักรบจันทรา ตอนที่ 22 ศัตรูที่รัก ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 23 ศัตรูที่รัก


ไลล่าขี่มังกรสามเขามาทางทิศที่หางงูยักษ์ชี้นำ ต้องอ้อมซากปรักหักพังมาไกลโขกว่าจะพบคู่ต่อสู้หนึ่งเดียว ชายตาสีพระจันทร์แดงยืนรอนางอย่างเยือกเย็นกลางลานดินกว้างใหญ่ หน้าผาสูงชันขนาบสองข้างกว้างพอให้เป็นเวทีประลองสุดท้ายได้ อีกฝ่ายคงเห็นนางแล้วเช่นกัน มังกรแดงตัวหนึ่งถูกเรียกออกมายืนข้างกายปล่อยลูกไฟสีแดงเจิดจ้าออกมาต้อนรับ มิราจของนางบินหลบหลีกร่อนลงจอดให้หญิงสาวกระโดดลงก่อนเข้าไปต่อกรกับมังกรแดงจนหายไปทั้งคู่ เสียงปฐพีลั่นดังแว่วมา ทางไบรอันคงเริ่มการต่อสู้แล้ว

“ตะวันสิ้นแสง จันทราสิ้นสูญ ความมืดแอบแฝงกายาอสูร ข้าขอเอ่ยนาม ราชามังกรดำฟานุต”

มังกรเกล็ดดำปรากฏขึ้นแทนที่กลุ่มก้อนอากาศสีดำ ไลล่าสั่งให้มันพ่นไฟใส่คู่ต่อสู้ทันที เวเบอร์เรียกไฮดร้าออกมาเพื่อใช้ลำคอเรียวยาวทั้งห้าป้องกันไฟมังกร มังกรดำของไลล่าพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายด้วยคำสั่งของหญิงสาว ชายหนุ่มหลบฉากให้สัตว์วิเศษทั้งสองปะทะกันเอง ดาบเทพวิหคเหวี่ยงปัดดาบของไลล่าได้ในพริบตา

“ท่านเป็นคนน่าสงสาร” ไลล่าใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดตัดความลังเลใจให้ขาดสะบั้น “แต่ข้าต้องชนะท่านให้ได้”

ดาบสองเล่มปะทะกันอย่างดุเดือดนางต้องการบั่นทอนกำลังของเวเบอร์ให้ได้มากที่สุด ความรู้สึกบางอย่างกำลังบอกนางอยู่ ดาบของเวเบอร์มีความลังเลอยู่เต็มเปี่ยมจึงขาดความเฉียบขาด แค่ไม่กี่กระบวนนางก็สร้างรอยแผลเล็กๆบนใบหน้าของอีกฝ่ายได้ ตอนนี้นางแสดงพัฒนาการด้านวิชาดาบให้เห็นแล้วต่อไปจะเป็นการต่อสู้แบบผสมผสาน สัตว์วิเศษทั้งสองหายไปในอากาศพร้อมกัน เสียงคำรามดังมาตามสายลมอีกครั้งทำให้นางเผลอหันไปมองทางทิศที่สองผู้กล้าอยู่

“ข้าขอเอ่ยนาม ราชาแมลงดินสคารับ” เวเบอร์ร้องเรียกสัตว์ปีศาจแต่นางมองไม่เห็นกลุ่มก้อนอากาศสีดำ เขาเรียกตัวอะไรออกมา

ในชั่วขณะรยางค์สีดำสนิทพลันพุ่งจากพื้นดินรัดพันร่างนางเอาไว้อย่างแน่นหนา เวเบอร์เงื้อดาบพุ่งเข้าใส่หมายจัดการเสียแต่เนิ่นๆ ร่างที่อยู่ในวงรัดหนวดแมลงดินกลับเป็นเปลวไฟพุ่งเข้าปะทะเผาผลาญ ดาบของเวเบอร์กลายสภาพเป็นสายน้ำดับไฟทั้งหมดราวกับรู้ล่วงหน้า ชายนัยน์ตาสีพระจันทร์แดงหันหลังขวับยกใบดาบสีเงินรับดาบของไลล่าที่พุ่งเข้าหา ทว่าคมดาบของจริงฟาดฟันลงมาจากอีกทางบั่นขาขวาของชายหนุ่มออกมาอย่างเฉียบคม ระหว่างชายหนุ่มแผดเสียงร้องสั้นๆภาพลวงตาของไลล่ากลายเป็นเปลวไฟพุ่งไปยังรอยขาดแต่เวเบอร์ไวกว่า เขาใช้ดาบเฉือนส่วนที่สัมผัสดาบสลายเวทออกแล้วรักษาให้เลือดหยุดไหล เวลานี้เวเบอร์จำเป็นต้องใช้เวทลมทรงตัวต่อสู้ นั่นคือสิ่งที่นางต้องการ

“เอาจริงสิเวเบอร์ ข้าจะต่อสู้โดยทิ้งความลังเลไป เหตุใดท่านยังมีความลังเลอยู่อีก” ไลล่าร้อง นางจ้องคู่ต่อสู้ด้วยความกังวล นางน่าจะเชื่อมารีน่า การได้ฟังเรื่องราวของเวเบอร์ทำให้รู้สึกสงสารจนลงมือไม่ได้

“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องใดอยู่ไลล่า” เวเบอร์ตวัดดาบ ขาที่ถูกตัดทิ้งถูกแช่แข็งรักษาสภาพ “เจ้าสงสารข้าเรื่องใดหรือ”

“ข้าฟังอดีตของท่านจากมารีน่าแล้ว” ความรู้สึกที่อัดแน่นเริ่มไหลปรี่ไร้ทางควบคุม “ท่านเจอกับสิ่งเลวร้ายมาทั้งชีวิต ครอบครัวสงบสุขถูกทำลาย ถูกกระทำราวไม่ใช่คน แค่นี้ก็น่าสงสารมากพอแล้ว ตอนนี้ยังต้องมาต่อสู้กับข้าเพื่อตัดสินชะตาตัวเองอีก”

“อดีตก็เป็นแค่อดีต ข้าแค่เชื่อใจพี่ชายน้อยไปนิดเท่านั้น” เวเบอร์วาดดาบพร้อมปะทะกันอีกครั้ง “เจ้าต่างหากที่ขาดความเด็ดขาด ไม่น่าเชื่อว่านี่คือนักรบของเทพีเฟรเซีย”

“ซีซาร์” ไลล่าควบคุมจังหวะการหายใจให้สม่ำเสมอ ตั้งสมาธิวางแผนการในหัว “ด้วยพันธะสัญญาพิเศษจากองค์เทพีเฟรเซีย ขอซีซาร์จงกลายเป็นอสุรเทวภัณฑ์แห่งข้า”

เปลวเพลิงสีเลือดลามเลียทั่วลำตัวของหญิงสาวแปรเปลี่ยนเป็นเสื้อเกราะสีส้มแสดดังเปลวเพลิง อัญมณีกลางหน้าอกเปล่งประกายประหลาดราวมีชีวิต เป็นความสามารถในการเปลี่ยนสภาพของสัตว์ปีศาจระดับจักรพรรดิ ดาบสองเล่มปะทะกันอีกครั้ง ไลล่าได้เปรียบกว่าตรงที่อีกฝ่ายต้องทรงตัวด้วยสายลมจึงใช้เรี่ยวแรงที่มีลงดาบอย่างไม่เกรงกลัว กำลังของอีกฝ่ายมากขึ้นกว่าตอนปะทะกันครั้งแรกอย่างเทียบไม่ติด ดาบสีเงินตวัดรวดเร็วราวลิ้นงูข่วนแขนขานางเป็นรอยเต็มไปหมด บางทีเขาอาจใช้ดาบสายลมสร้างบาดแผลเหล่านี้

“เพกาซัส” ไลล่าเรียกม้ามีปีกมาเป็นพาหนะ นางรีบกระโดดขึ้นไปบนหลังม้าสีขาวก่อนร่ายโคลงต่อ “ด้วยฤทธาแห่งผืนดิน กายาแกร่งกว่าผาหิน ประกาศิตสิ้นพื้นพสุธา ข้าขอเอ่ยนามให้สำแดงฤทธิ์ ราชาภูตปฐพี เคลอี”

หญิงสาวเตะสีข้างให้ม้าบินขึ้นไปไกลจากเวเบอร์ ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีรีบบินตามทว่าสายเกินไป พื้นดินและหน้าผาสองข้างส่งเสียงร้อง แท่งดินจำนวนมากมายผุดขึ้นมาจากพื้นดินรอบด้าน ไลล่ารีบบินขึ้นให้เร็วที่สุดก่อนแท่นดินเหล่านั้นจะแตกตัวกลายเป็นกระสุนดินนับร้อยพุ่งเข้าหาเวเบอร์เป็นเป้าหมายหลัก ด้วยจำนวนและทิศทางที่พุ่งเข้าใส่ทำให้ชายหนุ่มจมอยู่ใต้กองดินสูงท่วมหัวเสียงร้องของเขาปนเปกับเสียงดินร่วงหล่นจนแยกไม่ออก ฝุ่นคลุ้งตลบอบอวลเมื่อกระสุนดินที่กองอยู่พุ่งไปหาไลล่าบนท้องฟ้าม้าบินพานางบินหลบกระสุนอย่างชำนิชำนาญ เปลวไฟจากเกราะอสูรแลบเลียเผาผลาญดินรอบตัวให้แห้งกรอบเป็นฝุ่นผงจนไร้พิษสง ดาบของเวเบอร์พุ่งเสียบคอม้าบินจนมันหายไปปลายดาบของเขาอยู่ห่างจากลำคอนางเพียงชั่วฝ่ามือเท่านั้น

ร่างของเวเบอร์บอบช้ำจากกระสุนดินแต่ไม่อ่อนแรง ดาบของเขายังสร้างความเสียวไส้ทุกครั้งที่ตวัดผ่านร่าง ไลล่ารู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางหลบพ้นจึงใช้ดาบป้องหาโอกาสโต้กลับ ดาบของนางเหวี่ยงลงช่วงขาให้เวทมนตร์ค้ำจุนร่างสลาย ด้วยอารามตกใจเวเบอร์จึงคลายความระวังตัวเปิดโอกาสให้ไลล่าตัดแขนซ้ายออกจากร่าง ขณะเดียวกันนางก็โดนดาบของเวเบอร์กรีดหัวไหล่ซ้ายเสียงแผดร้องของทั้งสองดังขึ้นแทบพร้อมกัน ความเจ็บปวดทำให้นางเริ่มลังเลใจอีกครั้งหญิงสาวถอยหลบรีบกดห้ามเลือดสะกดกลั้นอาการบาดเจ็บ ขนาดแผลเล็กๆยังเจ็บขนาดนี้เวเบอร์โดนตัดแขนตัดขาคงเจ็บปวดมากกว่าหลายเท่า

“ข้าเป็นคนต่ำช้าเสียแล้วเวเบอร์” น้ำตาเริ่มเอ่อท่วมออกจากดวงตาของนางเมื่อไรไม่รู้ ความรู้สึกอัดขึ้นมาที่หน้าอกจนแทบระเบิด “ข้ารักไบรอันแต่ก็รักท่านด้วย ท่านพบเจอสิ่งโหดร้ายตั้งแต่เด็ก แถมโดนความผิดโดยไม่ตั้งใจ สงสารมากจนมันแปรเปลี่ยนเป็นความรัก ข้าอยากให้ท่านพบความสุขสมหวัง อยากมอบความอบอุ่นอ่อนโยนให้ท่านเหมือนที่มอบให้ไบรอัน” ปากกับลำคอทรยศความยับยั้งชั่งเสียสิ้น จนต้องเปิดเผยความรู้สึกออกมาซึ่งๆหน้า  

“เทพีไวน์องค์ที่มอบเลือดให้เจ้ามากเกินไปนั้นเป็นเทพีแห่งความรัก ความเมตตา และกิเลสตัณหา ไม่แปลกที่เจ้ามีความเมตตามากจนล้นเหลือ” เวเบอร์ทรงตัวกลางอากาศอย่างเรียบง่าย “อย่าบอกข้า ว่าเจ้าจงใจตัดแขนขาเพราะความเมตตา ไม่ใช่ความอาฆาต”

“ข้าตัดใจปักดาบลงหัวใจท่านไม่ลง แต่เลือดและชะตากรรมบีบคั้นให้ลงดาบ” ไลล่าเช็ดน้ำตา ชะตากรรมของนางคือต่อสู้ตัดสินกับชายผู้นี้ จะเผลอเปิดใจรับเขามากกว่านี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนางจะเป็นฝ่ายแพ้

“ข้าก็รักเจ้าไลล่า แต่นี่คือชะตาชีวิตของเราสองคน” เวเบอร์พูดเรียบๆเสมองกลุ่มฝุ่นผงรอบกาย

“เรื่องนั้นข้ารู้อยู่แก่ใจ”

“ตอนนี้คงต้องเอาจริงสักที ไม่อย่างนั้นการต่อสู้ครั้งนี้คงไม่เป็นที่ยอมรับขององค์เอริส ข้าจะใช้พลังของดาบเล่มนี้ให้เจ้าเห็น สาบานว่าจะไม่แค้นหากเจ้าบั่นคอข้าได้ และเจ้าจะอยู่ในความทรงจำของข้าหากผลเป็นตรงข้าม”

ดาบวิเศษของเวเบอร์ปักลงบนพื้นดิน ไอน้ำและคลื่นความเย็นถาโถมออกจากใบดาบ เกราะอสูรที่นางสวมใส่อยู่ช่วยป้องกันความหนาวเย็นได้ ปัญหาตอนนี้คือหมอกสีขาวบริสุทธิ์ที่กระจายสู่ทุกทิศทางบดบังทัศนวิสัยของนางจนไม่อาจทำอะไรผลีผลาม ไลล่ายืนนิ่งรอดูว่าคู่ต่อสู้จะงัดวิชาอะไรออกมาต่อกรกับนาง ความร้ายกาจของเวเบอร์ตราตรึงอยู่ในใจจนมิอาจลบเลือน คำของมารีน่าดังก้องสะท้อนไปมาในหัวว่าเวเบอร์เรียนรู้วิชาต่างๆได้เร็วกว่าคนปกติห้าเท่า เขาเป็นอัจฉริยะ

“นี่คือพลังมนตราขั้นกลางของดาบเล่มนี้” เสียงของเวเบอร์สะท้อนก้องทั้งที่อยู่ในที่โล่ง

ไม่กี่อึดใจหมอกควันก็จางลงเผยให้เห็นป่าเสาน้ำแข็งล้อมรอบ เสาแต่ละต้นเป็นผลึกน้ำแข็งแท่งหนาค้ำยันสิ่งคล้ายภาชนะใส่น้ำเหนือหัวนาง ไลล่าคิดว่าปริมาณน้ำข้างบนคงไม่ใช่แค่ถังสองถัง แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาเป็นพรายเลื่อมล้อไอน้ำแข็งสวยงาม หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆทั้งสี่ด้านมีกำแพงน้ำแข็งตั้งอยู่ นางถูกกักอยู่ในกล่องน้ำแข็งที่พร้อมปล่อยน้ำลงมาใส่หัวนางได้ทุกเมื่อ เวเบอร์คงไม่คิดแค่ให้นางจมน้ำตายแน่นอน นางเห็นเงาไหววูบในป่าน้ำแข็งตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้างเหมือนภาพลวงตา

“รักษาเสาน้ำแข็งพวกนี้ให้ดีไลล่า” เสียงของเวเบอร์ดังมาจากทุกทิศทาง นางบอกไม่ได้ว่าตัวจริงอยู่ทางใดกันแน่ “หักแค่ต้นสองต้นไม่เป็นไร แต่ถ้าเสาค้ำหักมากจนเกินไปเวลาของเจ้าจะหมด น้ำปริมาณมากพอจะใส่ลงในทะเลสาบร้างรักจนเต็มได้จะทะลักลงมาในพริบตา”

ไลล่าขมวดคิ้วครุ่นคิด เวเบอร์ต้องการให้นางจมน้ำตายจริงหรือ บางทีอาจมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อเสาน้ำแข็งหักโค่น เงาของเวเบอร์ผลุบโผล่ๆจนมองไม่ทัน หญิงสาวหันไปด้านหลังเงื้อดาบรับการโจมตีแต่มันเป็นเพียงภาพหลอนจากไอน้ำ เสียงบางอย่างหักดังสนั่นเนื่องจากเสาน้ำแข็งต้นหนึ่งหักโค่น เศษน้ำแข็งที่เคยก่อตัวเป็นเสาหันส่วนปลายแหลมคมพุ่งมาหานางจากด้านข้าง หญิงสาวก้าวหลบแต่น้ำแข็งเหล่านั้นเบนทิศทางได้อีกจนต้องใช้ดาบทำลายลง

“ออกมาสู้กันต่อสิเวเบอร์” ไลล่ารู้โดยสัญชาตญาณ หากปล่อยให้เวเบอร์ทำลายเสาพวกนี้ต่อไปนางต้องแพ้แน่ แพ้เพราะมัวแต่ตั้งรับจนปล่อยให้ศัตรูเข้าประชิดตัวได้

“ก็กำลังสู้อยู่นี่อย่างไรละ”

เสียงแสดงความรำคาญดังไม่ทันจบเวเบอร์สองคนก็ปรากฏตัวเงื้อดาบมาหานางจากสองด้าน นางก้าวหลบเพราะคิดว่าเป็นภาพลวงตาหากแต่หนึ่งในเงานั้นเบนทิศทาง ใบดาบสีเงินของจริงกรีดต้นขานางเป็นแผลเหวอะเรียกเสียงโอดโอยจากนางได้อีกครั้งความเย็นยิ่งทำให้บาดแผลทวีความเจ็บปวดมากขึ้น ไลล่ายอมโดยดุษณีว่าเขากำลังสู้กับนางอยู่ หากแต่สู้โดยใช้สมองไม่ได้ใช้แค่กำลังห้ำหั่นอย่างสัตว์ป่า เสาน้ำแข็งอีกสองต้นถูกโค่นด้วยฝีมือเวเบอร์อีกแล้ว ห่าฝนน้ำแข็งพุ่งมาทางนาง ส่วนหนึ่งที่นางใช้ดาบฟาดฟันเป็นภาพลวง อีกส่วนที่นางไม่สนใจกลับเป็นของจริงมันสร้างความบอบช้ำให้หลังและแขนจนแทบกรีดร้อง ไลล่าเคลื่อนที่ตลอดเวลาในขณะที่ทำได้ นางต้องหาเวเบอร์ตัวจริงให้เจอแล้วจัดการเสีย กำแพงที่ดาบเทพสร้างขึ้นคงไม่ใช่สิ่งที่จะทำลายกันได้ง่ายๆ

ผ่านไปไม่นานนางก็แยกแยะภาพลวงกับของจริงไม่ออกเสียแล้ว แผ่นหลังที่บินหนีนางเป็นของจริงขณะที่ใบดาบจากข้างหน้าเป็นภาพลวง เสาน้ำแข็งบางต้นเป็นแค่ภาพลวงตาด้วยซ้ำนางเกือบล้มคว่ำหลายหนเนื่องจากเอามือเท้าลงบนอากาศว่างเปล่าแทนที่จะเป็นน้ำแข็ง ความหนาวเย็นและภาพลวงตาบั่นทอนทั้งพลังกายและพลังใจ คำว่าเอาจริงของเวเบอร์หมายความตามนั้น เขาปั่นหัวนางหมายสังหารจริงๆ

“เปลวเพลิงสุริยา คมเขี้ยวมนตรา ราชสีห์สังหารา ข้าขอเอ่ยนาม ราชาเสือเพลิง โฮโลคอร์ส” เสือร่างสีแดงสดด้วยเปลวเพลิงที่แผงคอและอุ้งเท้าโผล่ออกมาให้นางขึ้นขี่หลัง “ซีซาร์ โฮโลคอร์ส ใช้พลังทั้งหมดเผาน้ำแข็งระเหยน้ำเหนือหัว เดี๋ยวนี้!”

ไลล่าหลับตาปี๋บนหลังเสือเพลิง ความร้อนจากเพลิงกาฬสองแหล่งพวยพุ่งออกมาล้อมรอบปล่อยความร้อนสูงมากกว่าหินหลอมเหลวที่มารีน่าเรียกเอามาสู้เมื่อตอนเช้าเสียอีก ผิวหนังแสบจนแทนทนไม่ไหว ตอนนี้นางอยู่ในทะเลเพลิงของจริงไม่ใช่ภาพลวงตา หูของนางได้ยินเสียงกรีดร้องของตนระคนกับเสียงแตกเปรี๊ยะดังอย่างไม่เป็นจังหวะของเสาน้ำแข็ง หากความร้อนสูงพออาจเผาทำลายกำแพงได้ด้วย นรกร้อนแรงยาวนานแผดเผาพลังกายและความอดทนของหญิงสาวยิ่งกว่าภาพลวงตาของเวเบอร์ ไลล่าจำครั้งแรกที่ไบรอันจุดไฟกลางที่พักนอนได้ นางลองยื่นมือไปใกล้ๆพบว่ามันร้อนจนต้องชักมือกลับ ความร้อนในตอนนั้นเทียบกับตอนนี้ไม่ได้แม้กระผีกริ้น นางภาวนาให้สัตว์ปีศาจทั้งสองเผาป่าน้ำแข็งระเหยน้ำเหนือหัวไปให้หมดก่อน หากหมดแรงคงสภาพเสือเพลิงก่อนน้ำเหนือหัวระเหยหมดคงแย่แน่ หญิงสาวรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อเสือเพลิงหายไปให้นางทรงตัวด้วยขาของตัวเอง นรกร้อนระอุยังไม่คลายความร้อนหากแต่นางอยากเห็นว่ารอบด้านเป็นอย่างไรบ้าง เปลวเพลิงสีเลือดของซีซาร์กับหมอกควันสีขาวของไอน้ำปนเปจนแยกไม่ออก ป่าน้ำแข็งรอบด้านหายไปหมดแล้ว ไม่ถึงอึดใจไฟของซีซาร์ก็ดับลงเหลือเพียงไอน้ำและความร้อนบนผิวกาย หญิงสาวแทบหมดแรงต้องใช้ดาบพยุงร่างพยายามเพ่งสายตาหาตัวคู่ต่อสู้ เปลวไฟแค่นี้ไม่มีทางทำอะไรเวเบอร์ได้อยู่แล้ว

“เข้ามาสิเวเบอร์ ข้ารู้ว่าท่านยังไม่ล้มหรอก”

นางยกดาบขึ้นด้วยแรงที่ยังเหลืออยู่ หมอกควันไอน้ำเริ่มหายไปทีละน้อยๆ ประสาทสัมผัสของนางคมกริบดุจมีดโกนเวเบอร์คงเข้ามาจัดการนางแบบครั้งเดียวจบ หญิงสาวพาลหมกมุ่นกับการตั้งรับ หากเขาใช้สัตว์ปีศาจจะทำอย่างไร หากเป็นภาพมายาจะทำอย่างไร เสียงฝีเท้าหรือก้อนหินกระเด็นทำให้นางสะดุ้งหันไปยังทิศที่เกิดเสียง

“ออกมาเร็วๆสิ อย่ามัวแต่เล่นสงครามประสาท” ไลล่าคำราม นางลืมสิ่งที่โฟเรียและการ์ย้ำเตือน จะต้องมีสติตลอดเวลาหากมองไม่เห็นคู่ต่อสู้ เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาหาในรูปแบบใด

และเวเบอร์ก็ปรากฏตัวขึ้นจริงๆ เวเบอร์หกคนจากหกทางเงื้อดาบพุ่งเข้าหานางพร้อมเสียงกู่ร้อง ดาบห้าเล่มเป็นน้ำแข็งส่วนอีกเล่มเป็นของจริง ดาบทั้งหมดฟาดลงบนเกราะเหล็กด้วยความแรงดุจพายุคลั่ง ไลล่าตกใจเพราะเสียงร้องยิ่งทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนโจมตีจากทุกด้านพร้อมกัน หญิงสาวยืนโซซัดโซเซพยายามใช้ดาบประคองร่างให้ทรงตัวอยู่ได้ มาถึงตอนนี้จะร้องก็ร้องไม่ออกเสียแล้ว

“คิดว่าเป็นภาพลวงตาอีกล่ะสิ” ร่างน้ำแข็งของเวเบอร์หายไปเหลือตัวจริงเป็นเงามลังเมลืองเบื้องหน้าความจริงหญิงสาวตกใจจนไม่ทันตั้งรับต่างหาก เกราะเหล็กที่เคยเป็นอสุรเทวภัณฑ์แตกร้าวร่วงหล่นไม่เหลือชิ้นดี

ไลล่ากุมดาบด้วยแรงที่เหลือทั้งหมดแล้วเหวี่ยงมันอย่างความบ้าคลั่งโดยความกลัวตาย เป็นโชคหรือเคราะห์ก็ไม่อาจรู้ได้ดาบของนางตัดแขนขาที่เหลือของเวเบอร์อย่างแม่นยำราวจับวาง ดาบวิเศษของนางกระเด็นหลุดมือจึงเห็นว่าคู่ต่อสู้ร่วงลงไปกองกับพื้นในสภาพไร้แขนขา ศัตรูคู่ฟ้าของนางร้องคำรามจนเสียงแหบแห้งไม่อาจฟื้นสภาพหรือสู้ต่อได้

“ปักดาบลงบนหัวใจข้าสิ” ร่างไร้แขนขากองกันพื้นราวไร้วิญญาณ “ให้จบไปแบบนี้ดีที่สุดแล้ว”

หญิงสาวโขยกเขยกไปหยิบดาบ นางถูกความไม่แน่ใจเกาะกุมหัวใจอย่างเหนียวแน่น เหลือแค่ปักดาบลงหัวใจของอีกฝ่ายให้สิ้นชีพชัยชนะก็เป็นของนาง ความเศร้าโศกประดังเข้าหาแทนที่ความดีใจ เวเบอร์พบกับเรื่องเศร้านานแสนนานสุดท้ายคนที่ปลิดชีพเขาคือคนที่เขารัก ไลล่าลากดาบเข้าหาร่างของชายหนุ่มคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไรต่อ เอาชีวิตนางแลกกับความสุขในการคงอยู่ของเวเบอร์ หรือช่วงชิงชีวิตที่หลงรักนาง หากเขาเอาจริงการต่อสู้คงจบในดาบแรก

“เร็วหน่อยไลล่า อย่าปล่อยให้ข้าทรมานนานนัก” ชายหนุ่มประท้วงให้นางรีบตัดสินใจ “เกมของเราต้องมีผู้แพ้ความรู้สึกผิดบาปเกาะกุมเจ้าได้ไม่นานนักหรอก หากไม่อยากให้มือเปื้อนเลือดใช้สัตว์ปีศาจแทนก็ได้”

ราวกับเวลาผันผ่านจนไร้ที่สิ้นสุด ดาบในมือนางถูกเงื้ออย่างแช่มช้า การต่อสู้ที่ดุเดือดผลาญพละกำลังจนไม่เหลือหลอ หัวสมองปั่นป่วนเรื่องราวหลากหลายประดังเข้ามาไม่รู้จบ เวเบอร์ทำดีกับนางตลอดมา เขาเป็นคนที่น่าสงสารทำผิดแค่ครั้งเดียวถึงกับต้องสิ้นชีพ แทบไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม เป็นการประชดที่สาหัสจริงๆ สังหารผู้ให้กำเนิดตนด้วยความไร้ฝีมือ หลีกหนีพี่ชายที่นับถือยิ่งด้วยความไม่เชื่อใจ คราวนี้ยังต้องตายด้วยมือของหญิงที่ตนรักเสียอีก

“จะให้ข้ารอไปถึงเมื่อใดไลล่า หากข้าลงมือด้วยตัวเองจะถือเป็นโมฆะ เราจะต้องมาสู้กันอีกครั้ง” เวเบอร์หลับตารอโทษประหารจากนางด้วยความสงบ ไลล่าร้องไห้อีกครั้ง ความกดดันแทบทำให้นางไม่มีทางเลือกอื่น

พูดถึงทางเลือกนางยังจำเหตุการณ์ตอนเพิ่งกำเนิดใหม่ๆกับภาพอดีตได้ หญิงสาวกับเวเบอร์ต้องต่อสู้กันด้วยความต้องการของเทพเจ้าสององค์ หนึ่งในคนที่มอบเลือดเพื่อให้กำเนิดนางคือเวเบอร์ เขาคือเป้าหมายในการดำรงอยู่ ความมีเหตุมีผลกำลับขับเคี่ยวกับความรู้สึกอย่างทารุน ไลล่าต้องสังหารเวเบอร์ที่นางรักเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป นางไม่อาจแน่ใจว่าจะแบกรับความรู้สึกผิดได้หรือไม่ แต่ภาพอดีตทำให้นางนึกเงื่อนไขการต่อสู้ออก มีทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ไม่สูญเสียเลือดเนื้อมากกว่านี้ เวเบอร์บอกว่าการต่อสู้คราวนี้ได้รับการยอมรับจากเทพสององค์นั้นเรียบร้อย

“ข้าแต่องค์จอมเทพเอริสและเทพีเฟรเซีย” ไลล่าพยายามออกเสียงให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ข้าไลล่า แลนเซลท์ขอยอมแพ้ ผู้ชนะคือเวเบอร์ หากการยอมแพ้ของข้าเป็นที่ยอมรับโปรดส่งสายอสุนีบาตเพื่อให้ข้าและเวเบอร์รับรู้ด้วย”

หญิงสาวทำให้เวเบอร์เปิดตาด้วยความประหลาดใจ ไลล่านึกขึ้นมาได้ว่าเงื่อนไขการต่อสู้นอกจากสังหารอีกฝ่ายแล้วยังเหลือวิธีประกาศยอมแพ้ด้วย นางพ่ายแพ้เวเบอร์อย่างราบคาบ นางทำให้เขาหลงรักจนไม่เอาจริง แม้จะตัดแขนขาได้ก็ยังตัดใจสังหารไม่ลงอีก เสียงคำรามดังกึกก้องจากสายฟ้าสองสายพุ่งตรงลงมายังซากเมืองเก่าให้นางและเวเบอร์เหลียวไปดู ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะจุดนั้นไม่ใช่สถานที่ต่อสู้ของไบรอัน กระทั่งเวเบอร์ยังตกใจที่ผลการต่อสู้จบลงแบบนี้ เสียงกระซิบตามสายลมราววิญญาณทั้งหลายคร่ำครวญให้นางฟัง การต่อสู้ระหว่างหญิงสาวกับชายหนุ่มจบลงแล้ว เวเบอร์เป็นฝ่ายชนะ

“ข้าขอโทษเวเบอร์” ไลล่าทิ้งดาบทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของนางบอบช้ำรุ่งริ่งเหมือนมารีน่าก่อนหน้านี้ ร่างของเวเบอร์ก็ไม่ต่างกัน “ข้ารักท่าน เวเบอร์ ข้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ”

ไลล่าก้มลงจุมพิตริมฝีปากของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี นางต้องการส่งถ่ายความรักและเมตตาให้โดยวิธีที่เรียบง่ายที่สุดไม่สนว่าใครจะด่าว่านางเป็นหญิงสองใจ นางรักไบรอันแต่ก็ยินยอมมอบความรักเมตตาให้กับชายผู้น่าสงสารคนนี้ด้วย เวเบอร์พูดอะไรไม่ออกหลังนางถอนริมฝีปาก

“ข้าจะไปตามไบรอันกับโฟเรียมาให้” ไลล่าปาดน้ำตา ไม่ขัดเขินที่จุมพิตชายคนอื่นนอกจากไบรอัน “สองคนนั้นต้องช่วยท่านได้แน่ รอตรงนี้นะ”

ไลล่าเรียกมิราจออกมาจากแหวนแล้วขี่ย้อนกลับไปทางเก่าท่ามกลางหมอกไอน้ำที่หลงเหลือ นางรู้สึกดีที่ไม่ต้องเข่นฆ่ากันโดยไร้ประโยชน์ มังกรสามเขาพาร่างบอบบางใกล้หมดแรงไปยังสถานที่ต่อสู้ของไบรอัน หญิงสาวเร่งมังกรให้รีบไปด้วยความเร็วสูงสุด...

จากคุณ : Lazy return
เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 08:34:03




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com