ตลอดหลายวันหลังจากนั้นอันดามันพยายามหลบหน้าบุรัณเพราะยังไม่พร้อมเผชิญหน้ากันหลังเหตุการณ์ชวนให้อิหลักอิเหลื่อใจที่โรงแรมม่านรูด ขณะเดียวกันศิราก็ปวารณาตนเป็นสารถีจำเป็นและคนคุ้มกันที่ดี ทำหน้าที่รับ-ส่งโดยไม่เคยเถลไถลไปนอกเส้นทางอย่างใครบางคนเลยสักครั้ง
วันนี้เป็นวันครบรอบสัปดาห์พอดี หลังจากศิรารับเธอจากคอนโดมาส่งถึงยังสำนักงาน เขาก็แยกไปที่โรงแรมตามปกติ หญิงสาวก็ใช้เวลาตลอดช่วงเช้าเรียกทีมงานเข้ามาประชุมในห้องส่วนตัว เพื่อสั่งการและแบ่งงานในโครงการต่างๆ ให้พนักงานอย่างเท่าเทียม
หลังประชุมเลิกและพนักงานทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้ว เกวลินก็เคาะประตูแล้วเข้ามายืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่หน้าโต๊ะทำงาน เธอจึงละสายตาจากคอมพิวเตอร์หันขึ้นมาให้ความสนใจกับผู้ช่วยส่วนตัว
ว่ายังไงจ๊ะ มีอะไรหรือเปล่า มายืนทำหน้าทำตาพิกลจริงเชียว
อยากรู้จังว่าชาติก่อนพี่เอ็มทำบุญด้วยอะไร ชาตินี้ถึงได้ทั้งสวย เก่ง แถมยังเสน่ห์แรงอีกด้วย เกวลินกลั้นยิ้มเต็มที่ ท่าทางมีเลศนัยสุดๆ
ยายบ๊อง เดี๋ยวนี้นี่ชักจะเยอะใหญ่แล้วนะเรา มีอะไรกันแน่ บอกมาเลยดีกว่า อันดามันเอ็ด
ต้องมีสิคะ ไม่งั้นเก๋ไม่เข้ามารบกวนเวลางานของพี่เอ็มหรอกค่ะ
ผู้อำนวยการสาวส่ายหน้าระอาโดยไม่เอ่ยอะไร หากแล้วสีหน้าก็แปรไปเป็นแปลกใจ ดวงตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นเกวลินประคองวัตถุทรงสี่เหลี่ยมห่อด้วยผ้าไหมสีน้ำเงินสดผูกเป็นหูกระต่ายด้านบนเหมือนห่อผ้าในภาพยนตร์จีนออกมาจากด้านหลัง แล้ววางไว้ให้บนโต๊ะอย่างทนุถนอม
คนมาส่งไม่ได้พูดหรือฝากข้อความอะไรไว้เลยค่ะ มาถึงฝากไว้ที่ประชาสัมพันธ์ แจ้งชื่อพี่เอ็ม แล้วก็หนีกลับไปเลย หญิงสาวรายงาน
ขอบใจ เก๋มีอะไรก็ไปทำเถอะ อันดามันคอยจนอยู่ตามลำพังในห้องแล้ว จึงเลื่อนห่อผ้ามาตรงหน้า แก้ปมที่มัดไขว้กันออก เมื่อปลดผ้าไหมผืนนั้นลง เผยให้เห็นว่าภายในเป็นกล่องพลาสติกใสตรงฐานเป็นไม้ขัดเคลือบงดงาม บนฐานนั้นเองเป็นรถแอสตันมาร์ตินแบบจำลอง ทรง รุ่น และสีเดียวกับที่ศิราขับเปี๊ยบ!
หญิงสาวอดไม่ได้ต้องหลุดเสียงหัวเราะออกมา รู้ทันที่ว่าใครเป็นคนส่งของชิ้นนี้มาให้ อันดามันรีบหยิบโทรศัพท์มากดเรียกไปยังเลขหมายของศิราทันควัน
ปลายสายมิได้ทักทายเหมือนใครอื่นเขา แต่กลับเอ่ย ผมกำลังคอยอยู่เลย ว่าเมื่อไหร่คุณเอ็มจะโทร.มาสักที
รู้ทั้งรู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร แต่อันดามันกลับนึกอยากแหย่เขามากกว่า เธอจึงแสร้งทำเสียงจริงจัง คุณศิราเดาเก่งจัง มีเรื่องผิดปกติจริงๆ แหละค่ะ
มีอะไรครับ ศิราตื่นตระหนกย้อนถามทันที
ความฉับไวในอารมณ์ทำให้อันดามันนึกเสียใจว่าไม่น่าแกล้งเขาเลย เพราะท่าทางเขาจะกังวลเป็นห่วงจริงจังกว่าที่คิด
มีคนส่งกล่องของปริศนามาให้ค่ะ เอ็มชักหวั่นกลัวๆ อยู่ว่ามันอาจจะเป็นระเบิด ยิ่งพอเปิดออกมาเห็นเป็นรถหน้าตาคล้ายรถคุณศิราด้วย เลยยิ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นการวางกับดักหรือเปล่า คุณศิราคิดว่ายังไงคะ
โอย...คุณเอ็มพูดซะผมตกใจหมดเลย เขาทำเสียงงอแงบ่นแกมหยอก
ขอโทษค่า เอ็มแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง เอ่ยปนหัวเราะ
ชอบไหมครับ ผมสั่งจากอังกฤษ เพิ่งมาถึงกรุงเทพฯเมื่อเช้านี้เอง เขาเล่าแล้วตั้งคำถามเข้าประเด็น
ชอบมากค่ะ รู้สึกยืด เท่ และเก๋กู๊ดมากเลยล่ะค่ะ ที่ได้เป็นเจ้าของแอสตันมาร์ติน ดีบีเอส วีสิบสองกับเขาสักคันอย่างนี้
คราวนี้เราก็มี ของเล่น เหมือนกันแล้วเนอะ ไว้ว่างๆ เอาของเล่นมาวิ่งแข่งกันบ้างนะคู้ณ... เขาทำเสียงลากยาวล้อเลียน
หญิงสาวหัวเราะร่วน เอาเล้ย นัดเวลามาเลยค่ะ รับรองว่าคราวนี้ล่ะ คุณศิราต้องแพ้แน่ๆ เอ่ยพลางมือเรียวก็เปิดครอบพลาสติกออก ดึงรถจำลองมาวางบนโต๊ะไถไปมาเล่นๆ ฆ่าเวลาระหว่างตอบโต้กับคนที่ปลายสาย ไม่ยอมแพ้ให้แก่กันสักน้อย
นาน...กว่าศิราจะขอตัวไปรับประทานอาหารกลางวันกับคู่ค้าชาวต่างชาติของคีรีธารากรุ๊ป อันดามันจึงนึกได้บ้างว่าเธอเองก็ยังไม่ได้รับประทานอาหารกลางวันเช่นกัน
ทว่าเมื่อวางสาย และหันไปทางประตูห้องทำงาน จึงเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นชัดตา เมื่อเลื่อนสายตาไปเห็นสีหน้าของบุรัณ อันดามันก็รู้ได้ทันที ว่าคนรักของเธอกำลังโกรธ...มากเสียด้วย!
คุณรัณมีอะไรหรือเปล่าคะ คนพูดทำเสียงเรียบใจดีสู้เสือ
คุณคุยโทรศัพท์กับใคร หน้าบึ้งยังดูดีหน่อย แต่น้ำเสียงนั้นสิเข็มงวดชัดเจนทีเดียว
ลูกค้าค่ะ
ใคร?
เอ็มไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนี้หรอกค่ะ
บุรัณเข้ามาในห้อง งับประตูเข้าด้วยกัน และฉวยโอกาสที่อันดามันยืนคุมเชิงอยู่นั้น ผวาเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะไปกดเปิดไล่รายชื่อสายที่พูดคุยล่าสุดอย่างถือวิสาสะ
คุณรัณ! คืนโทรศัพท์เอ็มมาเดี๋ยวนี้นะคะ นี่มันจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลกันเกินไปแล้วนะ อันดามันเอื้อมไปจะยื้อโทรศัพท์คืนมา
สีหน้าชายหนุ่มโกรธเกรี้ยว เขาหันหน้าจอโทรศัพท์มาทางเจ้าของห้อง เค้นเสียงถามด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ถ้าผมไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของคุณ จะได้รู้หรือว่าเวลาเอ็มคุยกับไอ้ไก่อ่อนนั่น คุณระริกระรี้น่าเกลียดขนาดไหน ทีอย่างนี้ล่ะเสียงอ่อนเสียงหวาน ทีกับผมน่ะคุยกันสองคำก็เสียงแข็ง กระชากเสียง ไม่พอใจอะไรสักอย่าง คุณจะเลือกทางไหนยังไงกันแน่ บอกมาเลยดีกว่า
พาลใหญ่แล้วนะคุณรัณ เอ็มกับคุณศิราไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น
อ้อ...เพื่อนงั้นเหรอ! มันส่งดอกไม้ ส่งของขวัญมาให้คุณบ่อยๆ โทร.หากันตอนดึกๆ ดื่นๆ นี่เหรอเพื่อน!
เอ็มไม่ได้คิดอะไรกับคุณศิรา คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ
ใช่สิ! คุณไม่คิด แล้วถามมันหรือยังว่ามันคิดหรือเปล่า ผู้ชายนะเอ็ม ถ้ามันไม่คิดอะไร มันไม่เพียรทำคะแนน ไม่หาเรื่องมาวุ่นวายก้อร่อก้อติกกับคุณอย่างนี้หรอก
เหรอคะ อันดามันย้อน แปลกดีเหมือนกัน ผู้ชายบางคนที่ควรจะก้อร้อก่อติกกับเอ็ม ก็กลับไม่ยักจะทำแบบนั้น ดูท่าเขาคงมัวแต่วุ่นอยู่กับการปลอบประโลมเมียตามทะเบียนสมรสของเขาอยู่มั้ง ถึงได้ไม่มีเวลามาใส่ใจทำคะแนนอะไรกับเอ็มเลย สงสัยคงจะเห็นว่าเอ็มเป็นของตายล่ะมั้ง
อย่ามาประชดผมนะเอ็ม ใครว่าผมไม่มีเวลาให้คุณ อาทิตย์ก่อนเราก็เพิ่งไปดินเนอร์ด้วยกันมาแท้ๆ
ค่ะ...คุณชวนเอ็มไปทานอาหารด้วยกันตามลำพังหลังจาก... เธอหันไปหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะขึ้นมา แสร้งพลิกย้อนหลังไปหลายเดือน ใช้เวลาพิจารณาช้าๆ เพื่อจุดอารมณ์อีกฝ่าย แล้วหันไปสบตาท้าทายบุรัณ
สิบเดือนผ่านไป นับตั้งแต่วันที่คุณแต่งงานไปกับผู้หญิงคนอื่น แค่ชั่วหายใจเองเนอะ แถมหลังอาหารยังจะพาเอ็มเข้าม่านรูดอีก เป็นการให้เกียรติกันอย่างน่าปลื้มมาก... อันดามันลากเสียงยาวแขวะ ขณะใบหน้าไม่ได้บอกความรื่นรมย์ดังวาจาเลยสักนิด
อันดามัน!
เถียงไม่ออกเหรอคะ หญิงสาวยิ้มหยัน
ชายหนุ่มจ้องตาเธอราวจะกินเลือดกินเนื้อ และเจ้าของห้องทำงานก็มิได้หลบสายตา ดวงตาสองคู่จ้องกันเขม็ง ท้ายที่สุดบุรัณทอยโทรศัพท์มือถือคืนไว้บนโต๊ะ แล้วผลุนผลันผลักประตูเดินลงส้นปึงปังออกจากสำนักงานไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมาเลย
อันดามันทิ้งตัวลงบนที่นั่งและพิงพนักอย่างอ่อนล้า นงลักษณ์ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาสำรวจลาดเลาก่อนจะโผล่เข้ามาเต็มตัว ก้าวไปจับจองที่นั่งฝั่งตรงข้ามหญิงสาวไปเป็นกรรมสิทธิ์โดยมิต้องฟังคำเชิญ
วันนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ เสียงงี้ดังลั่นๆ ไปถึงข้างนอกเชียว
ดังขนาดนั้นเชียวหรือคะ อันดามันหน้าตื่น
เด็กๆ มันลงไปกินข้าวกันหมดแล้วล่ะ ไม่มีใครได้ยินหรอก
ผู้อำนวยการสาวถอนหายใจ ค่อยยังชั่วหน่อย
นงลักษณ์ชี้กล่องสี่เหลี่ยมที่ยังคงวางอยู่บนผืนผ้าไหมแล้วถาม นี่เหรอ...ต้นเหตุ
ส่วนหนึ่งค่ะ น้ำเสียงบอกความเหนื่อยหน่ายไม่แพ้ดวงหน้าล้าแรง เขาคงโกรธค้างมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว เอ็มยังไม่ได้เล่าให้พี่นงฟังเลย แล้วเธอก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้อีกฝ่ายฟังอย่างละเอียด
มิน่า พี่ถึงรู้สึกว่าพักนี้เอ็มหลบหน้าคุณรัณชอบกล ที่แท้ก็เป็นเพราะอย่างนี้นี่เอง
ถามจริงๆ นะพี่นง ว่าเอ็มไม่มีสิทธิ์โกรธเหรอ
ถ้าถามพี่ พี่ว่าเอ็มโกรธได้เต็มที่เลยด้วยซ้ำ คุณรัณทำน่าเกลียดเกินไป แบบนี้มันไม่ให้เกียรติกันเลยนี่นา นงลักษณ์ออกความเห็น เธอน่ะทำให้คุณรัณเขาเสียนิสัย ตามใจเขา ยอมเขามาตลอด พอตอนนี้เอ็มลุกขึ้นมาแข็งเมืองบ้าง เขาเลยอารมณ์เสีย จะว่าไปแล้วมีเรื่องคุณศิราเข้ามาก็ดีเหมือนกันนะ จะได้วัดกันไปเลยว่าคุณรัณน่ะเขายังรักเอ็มเหมือนที่เคยรักหรือเปล่า เราจะได้รู้กันเสียทีว่าเขาคิดจะหย่ากับยายคุณนายที่บ้านนั่นจริงๆ ไหม หรือแค่หลอกให้เอ็มรอไปวันๆ เท่านั้น
บางทีเอ็มก็กลัวนะพี่นง ในที่สุดหญิงสาวก็เปรยความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ลึกที่สุดในหัวใจออกมา
กลัวอะไร
กลัวไปหมดแหละ กลัวจะต้องรู้ว่าคุณรัณอาจไม่ได้รักเอ็มเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เอ็มคงจะโกรธตัวเองมากเลยที่เสียเวลาคอยเขามาเป็นปีโดยที่ไม่ได้อะไรเลย
ถ้าพี่เป็นเอ็ม พี่จะไม่กลัวเรื่องนี้เลย ถ้าเขาเปลี่ยนไปจริงๆ เอ็มควรจะต้องดีใจเสียด้วยซ้ำที่ไม่ได้แต่งงานกับเขาไปตั้งแต่แรก ลงว่าคุณรัณเขาเป็นผู้ชายโลเลเปลี่ยนใจไปรักใครก็ได้ที่อยู่ใกล้ง่ายๆ อย่างนั้น จะเอาผู้ชายแบบนั้นมาทำสามีทำไม้ ถ้า...นะ พี่ย้ำอีกครั้งว่าถ้ามันเป็นอย่างนั้น เอ็มควรจะดีใจ
พูดง่ายแต่ทำยากนี่คะ
ระหว่างนี้เธอก็อ่อยคุณศิราไปพลางๆ แหละดี แหย่ให้คุณรัณหึงให้ตาตั้งไปเลย เขาจะได้รีบๆ จัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยเสียที นี่มันก็ใกล้จะครบสัญญาที่เขาบอกเธอไว้แล้วไม่ใช่เหรอ
อย่าดีกว่าพี่นง เอ็มไม่อยากดึงคุณศิราเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้
คนฟังขมวดคิ้ว ต๊าย! นึกยังไงขึ้นมายะ อยู่ๆ ถึงได้เกิดมีมโนธรรมในใจอย่างนี้น่ะ ทีลูกค้าหรือหนุ่มรายอื่นๆ พี่ไม่เห็นเอ็มจะแคร์เลยว่าใครจะรู้สึกยังไง
ที่เอ็มไม่อยากให้เขาต้องมารับรู้เรื่องรกหัวใจพวกนี้ ก็เพราะคุณศิราเขาเป็นเพื่อนที่ดีของเอ็มไงคะ ตั้งแต่รู้จักกันมา เขาหวังดี แล้วก็ดีกับเอ็มตลอดเลย ดูจากของพวกนี้ก็รู้ เธอชี้ตะกร้าดอกไม้ที่ยังไม่โรยราและกล่องรถจำลอง แล้วที่สำคัญก็คือเขาไม่เคยดูถูกเอ็ม หรือจ้องจะฟันเอ็มเหมือนผู้ชายคนอื่น เอ็มก็เลยไม่อยากทำให้เขาเสียใจ
นงลักษณ์ยื่นตัวเอื้อมมาใช้มือจิ้มหน้าผากคนอายุน้อยกว่าอย่างล้อเลียน โอเค๊! พี่ยอมรับนะว่าเอ็มน่ะสวย เก่ง แล้วก็สมบูรณ์แบบชนิดที่ผู้หญิงอีกเพียบต้องมองตามด้วยความอิจฉา แต่บอกได้เลยนะว่าผู้ชายเพอร์เฟคชนิดหาไม่ได้ในสามโลกแล้วอย่างคุณศิรานั่นต่างหาก ที่มีแนวโน้มว่าจะทำให้เธอเสียใจ ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก ห่วงตัวเองดีกว่า
ทำไมต้องห่วงคะ
เพราะในชีวิตคนอย่างคุณศิรา เขาคงมีผู้หญิงสมบูรณ์แบบเข้าแถวไปให้เลือกตลอดเวลา เขาก็ยังไม่เห็นจะเลือกลงเอยกับใครสักที กับอีแค่ได้เจอผู้หญิงแบบนั้นเพิ่มขึ้นอีกสักหนึ่งคน มันคงไม่ทำให้เขาเกิดมีดวงตาเห็นธรรมนึกอยากจะหยุดชีวิตโสดอยู่ที่เอ็มได้หรอก
แล้วด่านที่สำคัญที่สุดที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือแม่ของเขา เอาง่ายๆ นะเอ็ม ขนาดแม่คุณรัณไม่ได้เป็นไฮซงไฮโซมาจากไหนเลย ก็แค่เศรษฐีใหม่คนหนึ่ง นับไปอยู่หางๆ แถวของพวกเศรษฐีใหม่ด้วยซ้ำ เขายังดูถูกเหยียดเอ็มซะขนาดนั้น แล้วดูแม่คุณศิราสิ นั่นน่ะคุณหญิงธาราริน ศิวกรณ์ คุณหญิงท่านรัฐมนตรีเชียวนะ เลิกหวังว่าเขาจะยอมรับเธอได้เลย แค่คิดก็ผิดแล้ว!
แหม...พี่นงพูดซะเอ็มรู้สึกตัวเองต่ำต้อยน่ารังเกียจสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย
อยากได้ยินคำพูดหวานๆ ก็ไปคุยกับคนอื่น พี่น่ะมันพูดเป็นแค่ความจริงทื่อๆ นี่ล่ะ ถ้าไม่รักไม่ห่วงกันจริง จ้างให้พี่ก็ไม่พูดหรอกนะ
เอ็มทราบค่ะว่าพี่นงห่วงเอ็มจริงๆ อันดามันเอื้อมไปคว้ามือสาวใหญ่มาบีบไว้
เพราะฉะนั้นก็อย่างที่พี่บอกนั่นแหละ เอ็มไม่ต้องแคร์หรอกว่าคุณศิราจะเจ็บเจิบอะไรไร้สาระนั่น ใช้ความสมบูรณ์แบบของเขายั่วให้คุณรัณหึงดีกว่า พอแผนเราสำเร็จ ก็โบกมือลาทางใครทางมัน คุณศิราอาจยังไม่ทันรู้ตัวเลยก็ได้ว่าเอ็มใช้เขาเป็นเครื่องมือแหย่ให้แฟนหึงน่ะ
คนฟังตริตรองตามคำพูดของอีกฝ่ายอยู่นาน ท้ายที่สุดจึงถอนหายใจ
เอ็มเหนื่อยกับเรื่องนี้จัง ทำไมความรักมันถึงยากเย็นอย่างนี้ก็ไม่รู้นะพี่นง เธอยกมือซ้ายที่สวมแหวนแทนใจของบุรัณไว้ขึ้นมาพิจารณา พลางหมุนแหวนเล่นอย่างใจลอย ชั่วขณะหนึ่งที่อยากปลดเปลื้องพันธนาการนี้เหลือเกิน บางที...ถ้าไม่มีแหวนวงนี้ อะไรๆ ในชีวิตเธออาจจะง่ายกว่านี้ก็เป็นได้
อย่างมากหลังจากบุรัณแต่งงานเธอก็คงแค่อกหักอยู่พักใหญ่ แต่หลังจากนั้นไม่นาน คนสวยและเก่งอย่างเธอก็จะต้องตั้งสติได้และเดินหน้าต่อไป หาผู้ชายคนใหม่ที่ดีกว่าบุรัณมาควงได้ไม่ยาก
ทว่าเพราะแหวนวงนี้...แหวนทิฟฟานี่วงหรูที่เคยใฝ่ฝันอยากได้ มันทำให้อะไรๆ เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
การโยกย้ายบ้านบ่อยครั้งทำให้เธอและแม่แทบไม่มีเงินเหลือเก็บ อันดามันเติบโตมาอย่างเด็กหญิงที่ขาดไร้ไปเสียทุกสิ่งอัน ยิ่งเมื่อบากบั่นสอบเข้าศึกษาต่อด้วยทุนเล่าเรียนหลวงในโรงเรียนชั้นสูงที่คหบดีผู้มีอันจะกินมักส่งลูกเข้ารับการศึกษา อันดามันจึงยิ่งรู้สึกเหมือนตนเองด้อยกว่าเพื่อนอยู่เสมอ ลึกๆ แล้วหญิงสาวจึงไขว่คว้าอยากเป็นและอยากมีในสิ่งที่เธอขาด แหวนเพชรของทิฟฟานี่ไม่ใช่แค่เครื่องประดับที่ไกลเกินเอื้อมเท่านั้น สำหรับหญิงสาวแล้วมันเป็นเหมือนความฝันที่ไม่มีวันจะเป็นจริงของชีวิตเลยก็ว่าได้
การที่บุรัณเลือกเติมเต็มความพร่องให้กับปมด้อยของเธอด้วยแหวนวงที่ไม่เคยคาดฝัน มันจึงเป็นเหมือนใยรักที่เหนียวแน่นยิ่งกว่าโซ่ตรวนใดๆ ทั้งโลกจะสามารถพันธนาการเธอไว้ได้เสียอีก
ไม่ว่าลึกที่สุดในใจเธออยากถอดมันส่งคืนเจ้าของเพียงไร แต่อันดามันก็ตัดใจทำไม่ลงโดยง่าย เพราะนอกจากความรักที่มีต่อบุรัณจะยื้อยุดไว้แล้ว เธอยังไม่มีวันยอมเสียแหวนทิฟฟานี่วงนี้ไปได้โดยเด็ดขาด
เอ็มเอ๊ย! รักแท้ก็อย่างนี้แหละ ต้องมีอุปสรรคให้ฝ่าฟันกันบ้างสิ นงลักษณ์ประโลม
ถ้าฝ่าฟันแล้วมันเป็นรักแท้จริงๆ ก็คงจะดีนะพี่นง เอ็มกลัวก็แต่ว่าสู้อดทนกับอะไรต่อมิอะไรแทบตาย แต่สุดท้ายกลับพบว่ามันไม่ใช่รักแท้น่ะสิ
อย่างนั้นก็คงต้องทำใจแล้วล่ะ ว่าเอ็มกับคุณรัณทำบุญด้วยกันแค่นี้
อันดามันถอนหายใจ เสมองออกไปนอกกระจกอาคาร ชั่วขณะหนึ่งที่นึกสงสัย
จริงหรือว่าคนที่มาพบเจอกัน รักกัน เกิดจากการทำบุญร่วมกันมาแต่ปางบรรพ์
บางที...สิ่งที่เธอกับบุรัณกำลังฝ่าฟันกันอยู่ อาจเกิดจากกรรมแต่หนหลังก็เป็นได้ กรรมที่เธออาจเคยผูกพันติดค้างเขาไว้ ชาตินี้จึงต้องมาชดใช้ให้กัน ให้เธอรักเขาเรื่อยไป โดยไม่ได้รับความรักตอบแทนกลับมาเท่าเทียมกันเลย!
หากเป็นบุญที่ชักนำให้มาพบเจอกันจริง ก็ขอให้กุศลกรรมที่กระทำนั้นมากพอที่จะพาเธอและเขาไปถึงฟากฝันฝั่งความสุขด้วยกัน
แต่หากเป็นกรรมที่ตามมาชดใช้ อันดามันก็ได้แต่หวัง...ว่าเธอจะใช้คืนให้เขาหมดสิ้นในเร็ววันนี้เสียที!
จากคุณ |
:
สิริณ (แม่มณี)
|
เขียนเมื่อ |
:
17 เม.ย. 55 01:18:54
|
|
|
|