คุณก็เลยต้องสร้างศัตรูเพราะฉันแท้ๆ
หลังจากที่พ้นออกจากร้านมา หญิงสาวก็รีบกล่าวขึ้นทันที ใบหน้าของผู้ที่เดินอยู่ข้างๆยังคงยิ้ม... ยิ้มทุกสถานการณ์
นี่เขามีอยู่หน้าเดียวหรืออย่างไรกัน
แต่ในใจก็อดคิดขอบคุณเขาไม่ได้ ถ้าหากไม่มีภาคภูมิแล้ว ป่านนี้เธอคงยังต้องหาทางหว่านล้อมให้พ้นเงื้อมมือไอ้บ้านั่นต่อไป
ผมแค่พูดไปตามเนื้อผ้าน่ะครับ
คำตอบรับกับน้ำเสียงที่ดูถ่อมตัวนั้นยิ่งทำให้อาจารย์หนุ่มใส่แว่นผู้นี้ดูหงิมเข้าไปใหญ่...
แต่แปลก ทั้งๆที่ดูหงิมขนาดนี้ แต่พอต้องขึ้นสังเวียนปะทะคารม อาจารย์หนุ่มกลับเป็นฝ่ายคว้าชัยอย่างไร้ข้อกังหา คำพูดคำจาแต่ละคำนั้นเหมือนถูกส่งมากระตุ้นจุดเดือดโดยเฉพาะทั้งๆที่คนพูดก็พูดด้วยหน้ายิ้มๆนั่น
หน้ายิ้มที่ไม่รู้ว่ายิ้มเพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ หรือยิ้มเพื่อซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงภายใน
แล้วทำไมคุณไปโผล่ตรงนั้นได้คะ
ความสงสัยที่จู่ๆก็ผุดขึ้นมาทำให้ดุจฝันรีบถามขึ้น
เพราะพอคุณลุกไปปุ๊บ ผมเห็นคุณภาวิตลุกตามไปทันที ผมก็เลยตามไปด้วย ผมอยากรู้อยากเห็นน่ะครับ
คำพูดทีเล่นทีจริงของภาคภูมิเรียกรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าดุจฝัน
แล้วเขานั่งอยู่ตรงไหน ทำไมฉันไม่เห็นล่ะคะ
เยื้องๆด้านหลังคุณน่ะ ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นเขา ผมเห็นเขามองคุณอยู่เป็นระยะๆ แต่เขาก็มากับผู้หญิงนะ
คำบอกเล่าที่ทำเอาดุจฝันนึกประณามภาวิตอยู่ในใจ มากับสาวแล้วจะมาคว้าอีกสาว... ชักจะมากไปแล้วไอ้บ้านี่
แต่คุณก็ดูเหมือนจะมีข้อมูลเขาเยอะนะ
ลงทุนเล่นหุ้นกับบริษัทไหนต้องศึกษาให้ดีน่ะครับ ตั้งแต่ประวัติองค์กร การดำเนินการ ตัวคู่ค้า หรือแม้แต่พนักงานและผู้บริหาร เพราะทุกอย่างคือความเสี่ยง
สมกับที่เป็นอาจารย์ ดาราสาวอดชมไม่ได้ แล้วถ้าคนที่ลุกตามมาไม่ใช่ภาวิต?
คำถามปลายเปิดที่เรียกรอยยิ้มกว้างให้กลับมาอีกครั้ง
ไม่ว่าใครผมก็ต้องตามไปดูทั้งนั้นล่ะ ไม่ว่าจะมีข้อมูลไม่มีข้อมูล ผมบอกแล้วผมมันพวกชอบอยากรู้อยากเห็น
ภาคภูมิกล่าวออกมาโดยที่ดุจฝันแปลได้ว่าไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องตามมาช่วยเธอ
เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินมาถึงรถของตน ดุจฝันผงกหัวเป็นเชิงขอบคุณผู้ที่เดินมาส่ง
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับทุกเรื่องวันนี้
ผมยินดีครับ แล้วคุณขับรถกลับได้ใช่ไหม
ขับมาก็ต้องขับกลับได้สิคะ
ภาคภูมิหัวเราะเบาๆ
เล่ห์ร้ายละลายรัก -บทที่ 3-
