Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
PSYCHO HELL (จอมใจอเวจี 21).......ความทรงจำที่กลับมา ติดต่อทีมงาน


======================
จอมใจอเวจี
GTW / Psycho Man
บทที่ 10 ... ความทรงจำที่กลับมา
======================



ทบทวนความหลัง

เฟรี่ กับคนรักของเธอ ออกมาจากโลกแห่งเบื้องบนเพื่อแข่งกีฬาความเร็วระหว่างดวงดาว และได้เกิดอุบัติเหตุยานอวกาศชนเข้ากับอุกกาบาตขณะกำลังเร่งความเร็วสุดท้าย ทำให้ทั้งคู่ถูกยิงออกจากยานฉุกเฉินคนละทิศคนละทาง

เฟรี่หล่นลงมา ยังบริเวณที่เรียกว่าขอบอเวจี และได้พบกับไนท์ นักรบปีศาจผู้สวมหน้ากากโลหะสีขาวเย็นชาตลอดเวลา ซึ่งกำลังออกตามจัดการกับเหล่าภูตนรกซึ่งหลุดออกมาจากรอยรั่วของมิติโลก เบื้องล่าง

เฟรี่ได้ขอร้องให้ไนท์พาเธอออกมาจากดินแดนขอบอเวจีอัน น่ากลัว ระหว่างทางได้พบกับผู้คนแปลกประหลาดหลายคน เช่น มาร์ลาสเทวบุตรมาร คู่ปรับคนสำคัญของไนท์(แต่ยามจำเป็นคับขันกลับช่วยเหลือกัน)  ปีศาจขาวผู้ครอบครองดินแดนอันน่าพิศวงอยู่ริมแม่น้ำมรณะ  เชร่าสาวใช้ผู้ไม่ธรรมดาผู้ฉลาดหลักแหลมไร้เทียมทานที่สุดในสามภพ เทพธิดาบอดผู้ลึกลับเชี่ยวชาญทางยารักษาโรคซึ่งอาศัยอยู่อีกมุมหนึ่งของแม่ น้ำมรณะ  ชายชราแจวเรือผู้รับส่งผู้คนข้ามฟากซึ่งเหมือนจะกุมความลับและชะตา กรรมของหลายๆคน

เฟรี่เกิดเจ็บป่วยกะทันหันและความจำเสื่อม ในขณะที่ไนท์กำลังจะพาเธอไปยังยอดเขาสื่อสารเพื่อหาทางติดต่อกับคู่หมั้นของ เธอ ทำให้การเดินทางล่าช้าลง ด้วยความช่วยเหลือจากปีศาจขาวและเทพธิดาบอด ทำให้ได้ยามารักษาอาการของเฟรี่

เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร


***************


นิทานสยองเริ่มเล่าไปไม่นาน นัยน์ตาของเฟรี่ก็ปิดสนิท ลมหายใจสม่ำเสมอ เข้าสู่ห้วงนิทรารมย์โดยมีนิทานอันไม่เข้าท่าพิลึกพิลั่นนำทาง

ไน ท์ ถอนใจโล่งอก มองดู “คนดื้อ” ซึ่งหลับไปเรียบร้อยแล้ว ก็เหลือเพียงแค่ว่า รอดูผลพรุ่งนี้ ว่าจะออกมาแบบไหน ความทรงจำจะครบถ้วนกระบวนความหรือไม่


ชะตากรรมต้องดำเนินต่อไป


“ท่านก็เล่านิทานเป็นเหมือนกันนี่นา..”

เช ร่าสาวใช้คนเก่งกระซิบกับนักรบปีศาจ เธอด้อมๆมองๆ เข้ามาดูอาการของสาวน้อยตกสวรรค์  บางทีอาจยืนอมยิ้มฟังนิทานหลุดนรกอยู่หน้าห้องก็เป็นได้ ไนท์ทำเฉไฉพยักหน้าไปทางเตียงเล็กๆ อีกตัวหนึ่งซึ่งวางอยู่ชิดผนังด้านตรงกันข้ามกับเตียงนอนของเฟรี่

“มาก็ดีแล้ว เจ้านอนเป็นเพื่อนเฟรี่ที่นี่”

“ข้าก็ตั้งใจแบบนี้อยู่แล้ว”

คนใช้สาวยิ้มกริ่ม และยังไม่ยอมวางมือเรื่องนิทานง่ายๆ ถามขึ้นอีกว่า

“ท่านเล่านิทานเรื่องอะไรให้ฟัง”

“แล้วมันสำคัญตรงไหนกัน”

น้ำ เสียงของนักรบปีศาจมีแววหงุดหงิด แต่ไม่กล้าจะทำเสียง “ดุดัง” อย่างที่เคยเป็นเพราะกลัวว่าคนสำคัญจอมยุ่งจะตื่นขึ้นมาขอให้เล่านิทานให้ ฟังต่อ

“สำคัญสิ”

เชร่าเน้นเสียงเบาๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง
“ท่าน รู้ไหมว่านิทานมันเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างสะอาดเมื่อเทียบกับเรื่องทั่วๆไป เพราะคนฟังนิทานส่วนมากก็มักจะเป็นเด็กๆวัยใสบริสุทธิ์ และนิทานส่วนมากก็จะเป็นเรื่องดีๆ ถึงจะเป็นนิทานปีศาจก็ตาม”

“นิทานปีศาจ..แล้วไงล่ะ”

“แบบ ว่ามันมีผลทางจิตวิทยา ข้าเคยไปทำงานอยู่กับพวกมนุษย์มาก่อน เคยศึกษาหาความรู้มาบ้าง ถ้าท่านเล่านิทานไม่ดี เฟรี่อาจฝันร้ายแล้วไม่ยอมหายง่ายๆ”

“บ้าน่า..อย่ามาหลอกข้าเลย”

“ก็จริงนี่นา แล้วท่านเล่านิทานอะไรไปล่ะ”

“ยุ่งน่า.....”

นักรบปีศาจตัดบทก่อนกำชับว่า “เจ้านอนเฝ้าดูแลให้ดี ถ้านางตื่นขึ้นมาเจ้าก็เล่านิทานให้ฟังต่อก็แล้วกัน ข้าไปล่ะ”

ว่าแล้วก็รีบก้าวเท้ายาวๆ ออกจากห้องไปเพราะไม่อยากเป็นจำเลยถูกชักไซ้ไล่เลียงอยู่ต่อหน้าศาล เชร่ามองตามแล้วอมยิ้ม  

ไนท์ เดินออกมาจากห้องนอนของเฟรี่ ความจริงตั้งใจว่าจะกลับไปพักผ่อนในถ้ำบริเวณเชิงเขาด้านหลังซึ่งเป็นที่พัก ทุกครั้งเมื่อแวะมาที่นี่ แต่วันนี้รู้สึกว้าวุ่นจิตใจจนยังไม่อยากกลับที่พัก เลยออกมานอกตึกพอดี เห็นแสงสว่างมาจากด้านหน้าตึก จึงลองเลียบๆเคียงๆ เดินไปดูอย่างเงียบๆ

ท้อง ฟ้าขอบอเวจีมืดดำปราศจากดวงดาว บรรยากาศสงบเยือกเย็น บางครั้งมีเสียงร้องโหยหวนมาแต่ไกลจากภูตผีปีศาจนานาชนิด มีแสงไฟวับแวมบริเวณหน้าคฤหาสถ์หลังใหญ่นี้

ลานหินอ่อนหน้าตึก มีโต๊ะเก้าอี้หินอ่อนชุดหนึ่งตั้งอยู่ เงาร่างคนสองคนนั่งเก้าอี้ตรงกันข้าม ก้มหน้าเข้ามากัน ไม่พูดไม่จา อาศัยแสงสว่างจากแก้วผลึกซึ่งลอยอยู่เหนือศีรษะ คนทั้งสองกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ


คนแรกเป็นสตรีในชุดดำทั้งชุด ใบหน้าสีขาวตัดกับชุดสวมใส่ นัยน์ตาบอดสนิททั้งสองข้าง บุคลิกภาพแบบนี้เป็นเทพธิดาบอดนั่นเอง

คู่ ต่อสู้เชิงหมากรุกของเทพธิดาบอดจะเป็นใครไม่ได้ นอกจากปีศาจขาว  ผู้นิยมชมชอบสีขาว สองลักษณะสองคนตัดกันอย่างรุนแรง แต่ในความตัดกันนั้นกลับดูเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ปีศาจหนุ่มอด แปลกใจไม่ได้  เพราะรู้ว่าปกติแล้ว เทพธิดาบอดจะไม่เดินทางออกมาจากอาณาเขตของตัวเองง่ายๆ นึกไม่ถึงว่าคืนนี้จะเดินทางมาถึงที่นี่ได้

ทั้งสองคนดูเหมือนว่า ตั้งอกตั้งใจเล่นเป็นพิเศษ ไม่สนใจว่าจะมีใครมายืนดูอยู่ห่างๆ สมาธิจดจ่ออยู่กับกระดานหมากรุก แบบตาแทบไม่กระพริบ  

หมากรุก ตานี้คงเป็นหมากรุกตายาวนานเป็นพิเศษ และคงยากล้ำลึกเป็นพิเศษ เพราะเป็นเวลานานกว่าปีศาจขาวจะหยิบหมากตัวหนึ่งเคลื่อนออกจากที่ แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“ไม่แน่ว่าท่านจะเป็นฝ่ายแพ้..”

เทพธิดาบอดจ้องมองกระดานหมากรุกเนิ่นนาน จึงเอ่ยปากด้วยเสียงราบเรียบว่า

““ไม่แน่ว่าท่านจะเป็นฝ่ายแพ้..”

ไนท์ รู้สึกปวดหัวกับพฤติกรรมของคนทั้งสองซึ่งพิสดารล้ำลึกคาดเดาได้ยากยิ่ง ทั้งสองคนบางครั้งดูเหมือนเป็นศัตรูคู่อาฆาต เห็นหน้ากันก็ต้องถาโถมเข้าประหัตประหารกันอย่างเอาเป็นเอาตาย บางครั้งกับสนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นพิเศษ  เหมือนมีความสัมพันธ์พิเศษพิสดารอะไรบางอย่างอยู่ระหว่างทั้งสอง กว่าจะขยับหมากแต่ละตาก็เชื่องช้ายาวนานจนน่าเบื่อหน่าย

ขณะจะถอยหลังออกมา ปีศาจขาวก็พูดลอยๆขึ้นว่า

“ใครบางคน ไม่ได้เล่นหมากรุก ไม่ได้ตั้งใจมาดูการเล่นหมากรุก แต่คนผู้นั้นกลับไม่ยอมไปหลับไปนอน”

เทพธิดาบอดขมวดคิ้วให้กับกระดานหมากรุก เหมือนครุ่นคิดจนหมกมุ่นแล้วถามขึ้นว่า

“ท่าทางมันผู้นั้นไม่มีอารมณ์นอนหรืออย่างไร”

“ถูกต้อง ท่าทางมันเจ็บป่วยขนาดหนักจนไม่มีอารมณ์นอน”

“การนอนต้องมีอารมณ์นอนด้วย” เสียงของแขกผู้มาเยือนถามอีก

“ถูกต้อง ไม่อย่างนั้น มันจะนอนไม่หลับ ตาจะสว่างโพลงเป็นแมวหง่าวทั้งคืนนอนพลิกไปพลิกมาไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยครั้ง”

เทพธิดาบอดหัวเราะออกมาเป็นครั้งแรกก่อนบอกว่า

“คน ไม่ยอมนอน แล้วมันจะออกเดินทางได้อย่างไร เห็นว่าบางคนต้องรับภาระหนักพาใครบางคนไปยังภายนอกเพื่อจบปัญหาในใจของมัน เอง แล้วยังไม่ยอมหลับยอมนอนแบบนี้ คาดว่าถ้าออกเดินทางพรุ่งนี้มันต้องคลานไปแล้ว”

ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองไม่ได้หันมามองรอบข้างเลยแม้แต่น้อย สายตายังจับจ้องมองกระดานหมากรุกเหมือนเดิม เหมือนไม่ได้เอ่ยถึงคนอื่น ปีศาจหนุ่มล่าถอยออกมาไม่อยากเข้าไปต่อปากต่อคำกับสองสตรีพิศสารคู่นี้ ทั้งที่อยากจะเถียงว่าปีศาจสามารถอดหลับอดนอนได้ ไม่อย่างนั้นจะเป็นปีศาจมือพิฆาตได้อย่างไร


แค่เห็นสองคนนี้มา นั่งเล่นหมากรุกกันกลางคืนแบบนี้ ก็ประหลาดมากแล้ว ไม่อยากเห็นอะไรประหลาดพิสดารมากกว่านี้อีก  ไนท์ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังถ้ำประจำตัวบริเวณเชิงผาด้านหลัง

เช ร่าสาวใช้คนเก่งนอนเฝ้าเฟรี่ตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วมานั่งอยู่ข้างเตียง รอดูอาการของคนความจำเสื่อม ซึ่งกว่าจะฟื้นตื่นขึ้นมาได้ก็รุ่งสางสว่างจ้าแล้ว


เฟรี่ยันตัว ขึ้นมาพร้อมกับเอามือกุมศีรษะด้วยท่าทางมึนงง ความทรงจำและความคิดวิ่งสวนกันไปมาจนยากจะจำแนกแยกแยะ เชร่าคอยมองอยู่แล้วรีบปราดเข้ามาประคอง เขย่าแขนร้องถาม

“คุณเฟรี่ เป็นอย่างไรบ้าง”

หญิงสาวตกสวรรค์ยังคงกุมศีรษะส่ายหน้าไปมา หลับตาอยู่สักครู่จึงบอกว่า

“ข้าปวดหัวจัง”

สาวใช้ผละออกไปหาผ้าผืนเล็ก ชุบน้ำบิดพอหมาดๆ มาเช็ดหน้าเช็ดตาให้อย่างเป็นห่วง ท่าทางของคนเพิ่งฟื้นตื่นนอนดูไม่ค่อยดีนัก

เสียง เคาะประตูเบาๆสองสามครั้ง ปีศาจขาวกับเทพธิดาบอดพากันเดินเข้ามาในห้อง ท่าทางสดชื่นแจ่มใสทั้งสองคนอย่างไม่น่าเชื่อว่าพากันเล่นหมากรุกกันทั้งคืน

“นึกอยู่แล้ว”

เทพธิดาบอดพูดขึ้นดังๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามบุคลิกภาพส่วนตัว “บางทียาอย่างเดียวรักษาไม่พอหรอก เอ้า...นอนลงไปก่อน”

ประโยค หลังหันไปสั่งหญิงสาวซึ่งยังนั่งงงอยู่ พลางเอามือแตะไหล่ให้นอนลงไป เฟรี่ทำตามอย่างว่าง่าย เพราะยังจับต้นชนปลายไม่ถูก เชร่าคอยประคองอย่างระมัดระวัง

“ท่าทางต้องใช้วิชาการแพทย์ของท่าน” ปิศาจขาวเอ่ยเสริมขึ้นขณะพิจารณาดูอาการของเฟรี่อยู่ห่างๆ ไม่ได้มีสีน่าท่าทางกังวลอะไร เพราะหมอที่เก่งที่สุดในขอบนรกอยู่ในห้องนี้แล้ว

“มันเป็นอาการข้างเคียงของยาเท่านั้น แต่ถ้าไม่รักษาดูแลให้ถูกต้องก็จะแย่....”

เทพธิดาบอดใช้มือจับข้อมือขวาของเฟรี่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนแตะดูหน้าผาก หน้าอก ลำคอ แล้วพยักหน้าช้าๆ บอกว่า

“มีโรคประจำตัวอยู่นี่นา มิน่าล่ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าจัดการให้”

ว่า พลางใช้นิ้วชี้จี้ปราดไปตามจุดต่าง ๆ ตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้าของหญิงสาวตกสวรรค์ด้วยความรวดเร็ว อันบ่งบอกถึงความชำนาญอย่างยอดเยี่ยม ด้วยท่วงท่าปลอดโปร่ง แต่ปีศาจขาวมองออกว่านั่นต้องใช้ความชำนาญและพลังในการรักษาไม่น้อยเลยที เดียว เพราะพอหยุดการจี้สกัดจุด ก็สังเกตเห็นบริเวณหน้าผากและข้างแก้มของเทพธิดาบอดเริ่มมีเหงื่อซึมออกมา

“เรียบร้อย”

เจ้าของบ้านผู้ชมชอบสีขาวผมมือฉาด “แบบนี้ก็ไปเล่นหมากรุกต่อได้แล้ว เสียดายโดนขัดจังหวะ ไม่งั้นข้ากินเบี้ยแสนอร่อยของท่านไปสักตัวสองตัวแล้ว”

“ไม่มีทาง”

เทพธิดาบอดสวนกลับทันที “ ท่านต่างหากจะโดนข้ากินเบี้ยแสนนุ่มหวานชุ่มคอตัวนั้น ท่านมองไม่ดียังคิดว่าจะกินข้าได้อีก ฝันไปเถอะ ..คราวหน้าคราวหลังหัดดูดีๆก่อนพูดคุยโอ่”

“ใครคุยโอ่กันแน่ ท่านต่างหากดูไม่ดี  ข้าอุตส่าห์สงสารเมตตาปรานีปล่อยให้เบี้ยตัวนั้นลอยหน้าลอยตาอยู่ใน กระดานมานานโขแล้ว ไม่งาบกินอย่างแสนอร่อยใจก็บาปแล้ว ยังไม่สำนึกบุญคุณบาปคุณอีก”

“ไม่ต้องพูดมาก แน่จริงมาไปเล่นต่อกันให้รู้เรื่อง ไม่จบกระดานนี้ไม่ต้องไปไหนกัน”

ว่า แล้วก็คว้าแขนปีศาจขาวออกจากห้องไปทันที สาวใช้คนเก่งมองตามแล้วอดยิ้มไม่ได้ สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งอเวจีความจริงก็ตั้งใจมาดูแลมารักษาคนไข้ โดยเฉพาะเทพธิดาบอดผู้ลงทุนออกมาจากอาณาเขตเร้นลับของตัวเอง ซึ่งน้อยครั้งจะทำเช่นนี้ นับว่าเป็นความเมตตาต่อสาวน้อยตกสวรรค์อย่างมากมาย

เฟรี่ยังคงนอน นิ่ง มองเพดาน กระพริบตาถี่ๆไปมาครู่หนึ่ง ประกายตาอันเวิ้งว้างเหม่อลอยเริ่มหล่อหลอมรวมตัวเป็นประกายสดใส ขยับตัวทำท่าจะลุกขึ้นนั่ง เชร่ารีบปราดเข้าประคอง

“เป็นอย่างไรบ้าง”

เฟรี่ ไม่ตอบในทันที นั่งทำหน้าหมกมุ่นครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วเริ่มหันหน้าไปมองสาวใช้คนเก่ง จ้องหน้าเขม็ง ทำเอาสาวใช้ชักใจคอไม่สู้ดี แต่ก็พยายามยิ้มเข้าไว้

“เชร่า......” เน้นเสียงถาม นัยน์ตาเริ่มเป็นประกายคมกริบ

“คะ....”

“เจ้า......”

สาวใช้ยิ้มเจื่อนๆ ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน”

“คะ..”

“พวกเจ้าหลอกข้า.....”

“คะ...”

“ไม่ต้องมาคะ.......พวกเจ้าหลอกข้าว่า ข้าเป็นคนใช้ รวมหัวกันใช้งานข้า กลั้นแกล้งข้าสารพัด ข้าจำได้นึกออกหมดแล้ว”

ว่าพลางขยับตัวค่อยลุกขึ้นจากเตียง ตาคมวาวจับจ้องดูเชร่าอย่างเอาเรื่อง คนใช้สาวโบกไม้โบกมือร้องบอกเสียงหลงว่า

“คะ.... เอ่อ....เป็นความคิดของคุณไนท์ต่างหากล่ะคะ เชร่าจำเป็นต้องทำตามไม่งั้นก็โดนเล่นงานสิคะคุณเฟรี่...เชร่าไม่ได้ตั้งใจ สักหน่อย อย่าทำอะไรเชร่าเลยนะเจ้าคะ”

เฟรี่ยิ้มที่มุมปากก้าวเข้าหาอีกฝ่ายอย่างช้าๆ เฟรี่คนก่อนคนเก่ากลับมาแล้วอย่างสมบูรณ์แบบไม่ตกหล่น

“มันสนุกมากใช่ไหมที่ได้แกล้งคนอื่น.....อย่างนี้ต้องสั่งสอนกันบ้างล่ะ”
“เชร่ามีงานต้องทำ ขอตัวก่อนนะคะคุณเฟรี่”

มีหรือคนอย่างสาวใช้คนเก่งจะยอมโดนขย้ำคอ เธอรีบบอกลาแล้วเผ่นออกจากห้องสุดชีวิต

เฟรี่ มองตามด้วยสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง ยืนโคลงหัวไปมาอยู่คนเดียว ตอนนี้ความทรงจำทั้งหมดทั้งมวลกลับมาหมดสิ้นแล้ว ทั้งความทรงจำก่อนความจำเสื่อม และความทรงจำขณะความจำเสื่อม  ราวกับว่าเป็นบุคลิกภาพของคนสองคนสองจิตวิญญาณมาหล่อหลอมเข้าด้วยกัน

แล้วนี่จะจัดการคิดบัญชีกับตัวการหัวโจกในการกลั่นแกล้งคนได้อย่างไร
นายหน้ากากปีศาจนั่นสมควรจะจัดการอย่างไร ถึงจะสาสม แล้วนี่หายหน้าหายตาไปไหน ไม่ยอมมาดูมาแลเลย

หญิง สาวคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำอย่างหงุดหงิดรำคาญใจและยุ่งยากใจ ใช่แล้ว ยังมีภารกิจสำคัญต้องกระทำ คือการเดินทางไปยังยอดเขาสื่อสาร เพื่อหาทางให้คู่หมั้นหนุ่มรู้พิกัดเพื่อกำหนดจุดนัดหมายได้ถูกต้อง จะได้หนีจากดินแดนบ้าบอนี้เสียที



คนแรกที่เชร่าตามหาก็คือ นักรบปีศาจ ผู้เช้านี้ยังไม่ยอมย่างกรายเข้ามาในเขตย่านคฤหาสน์ของปีศาจขาว เขายืนเอามือไผล่หลังมองดูแนวทิวเขาไกลออกไปนิ่งอยู่เช่นนั้น

“คุณไนท์คะ คุณเฟรี่ฟื้นความจำแล้วคะ”

นั่น เป็นข่าวที่น่าฟังน่ายินดี แต่ในความยินดีนั้นมีความรู้สึกเจ็บๆปนอยู่เล็กน้อย เฟรี่ตอนความจำเสื่อมดูน่ารักพูดง่ายกว่าเฟรี่ตอนปกติเป็นไหนๆ

“แล้วเป็นไงบ้าง”

ถามเหมือนไม่ค่อยใส่ใจ สาวใช้คนเก่งยิ้มเจื่อนๆ ตอบแบบกึ่งรายงานกึ่งฟ้องว่า

“มี เทพธิดาบอดมาช่วยดูแล พอฟื้นตื่นขึ้นมาก็จะเล่นงานเชร่าเลยล่ะคะ  เธอรู้ว่าพวกเราแกล้ง คุณไนท์ก็ต้องระวังตัวเอาไว้นะคะ ท่าทางเธออารมณ์ไม่ดีด้วย”

“ไม่เห็นต้องกลัวเลย..”

“ใครบอกล่ะคะ..นั่นล่ะที่ยิ่งต้องกลัว คุณไนท์ก็รู้ฤทธิ์คุณเฟรี่ดีอยู่แล้วนี่คะ”

“ไม่ต้องมากังวลน่า ตัวแค่นั้นจะทำอะไรข้าได้ ทำให้ข้ารำคาญมากนักข้าก็จะจับหักคอกินเป็นอาหารเช้าเสียเลย”

“คุณไนท์ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ”

สาวใช้คนเก่งให้ความเห็นอย่างยิ้มแย้ม บางทีคนซึ่งสามารถมองผ่านทะลุหน้ากากสีขาวเย็นชาไร้อารมณ์ทะลุเข้าไปลึกได้ มากที่สุดก็คงเป็นเชร่านี่เอง เพราะรู้จักกันมาเนิ่นนาน

“เพราะคุณไนท์เป็นคนใจดีเกินไปกว่าจะทำแบบนั้นได้”

“พูดมากน่า”

นักรบปีศาจโบกมือเป็นสัญญาณให้กลับไปตึกใหญ่
“ขอบใจมากที่มาบอก ข้าจะระวังตัวก็แล้วกันไม่ต้องกังวล เดี๋ยวก็ส่งกลับบ้านไปแล้ว ทุกอย่างก็จะเป็นปกติอย่างเก่า”

เชร่าถอยออกไป แต่ยังมีการย้ำหัวตะปูแถมท้ายว่า

“ยังไงก็ไม่เหมือนเดิมหรอกค่ะ อะไรที่เปลี่ยนไปแล้วยังไงมันก็ไม่มีทางเหมือนเดิม”

พวก ผู้หญิงเป็นแบบนี้กันหมดหรืออย่างไร...ไนท์คิดในใจอย่างรำคาญ พูดมากเสียจนบางครั้งน่าเบื่อ แต่จะว่าไปแล้ววันไหนไม่ได้ยินเสียงมากวนประสาทก็รู้สึกเหงาเหมือนกัน

ลอง ไปดูทีท่าอาการแม่สาวจอมยุ่งคนนั้นก่อนดีกว่า คิดพลางไนท์ก็ก้าวเท้าตามหลังเชร่าไปอย่างไม่รีบร้อน ไปดูสิว่าความทรงจำกลับมาแล้ว จะออกฤทธิ์ออกเดชอะไรอีก



ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากนัก ข้างแปลงดอกไม้ยาวเหยียดเป็นแถวเป็นแนว เฟรี่ยืนกอดอกจ้องมองมวลหมู่บุปผาอย่างเงียบงัน

ปีศาจมือสังหาร เดินไปยืนอยู่ข้างๆ อย่างเงียบงัน ต่างคนต่างเฉยไปพักใหญ่ คล้ายมีช่องว่างมองไม่เห็นชนิดหนึ่งมาขวางกางกั้นเอาไว้

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

คนที่อดรนทนไม่ได้เป็นไนท์ เอ่ยปากถามขึ้นก่อน

“ข้าสบายดีแล้ว”

หญิงสาวแดนสรวงตอบเสียงเรียบๆ แล้วนิ่งไปอีกหลายอึดใจ

“ความทรงจำเจ้ากลับมาแล้ว”  ปีศาจหนุ่มเอ่ยปากถามอีก

“ใช่ และข้าจำได้ด้วยว่าใครแกล้งข้าอย่างไร”

“แล้วไงล่ะ..”

“ก็ ไม่แล้วไงหรอก แต่ข้าอยากจะบอกว่าไม่ว่าอะไรที่ข้าทำข้าพูดในระหว่างความจำเสื่อม เป็นเรื่องโฆฆะหมด เพราะนั่นไม่ใช่ตัวตนแท้จริงของข้า ถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน”

“ข้าก็คิดแบบนั้น..”

ไนท์ลากเสียงตอบช้าๆ

“ข้า ก็ไม่เคยคิดหรอกว่า การกระทำและคำพูดของเจ้าทุกสิ่งทุกอย่างในระหว่างความจำเสื่อมนั่น มันเป็นเพียงภาพลวงตาซึ่งมาจากคนไม่ปกติคนหนึ่งเท่านั้น ข้าไม่ถือสาหาความหรอก”

“ข้าสิต้องเป็นฝ่ายพูดแบบนั้น เจ้าแกล้งข้า หาว่าข้าเป็นคนรับใช้ ควรจะถือสาหาความหรือไม่ล่ะ ลองคิดดู”

“อ้าว...ก็เจ้าความจำเสื่อม ข้าจะให้เจ้าเป็นอะไรก็ได้นี่ แล้วเป็นคนรับใช้ไม่ดีตรงไหน”

เฟรี่ อึกอักกับการย้อนถามแบบนั้น....เป็นคนรับใช้ไม่ดีตรงไหนกัน มันแย่มากขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร เชร่าก็เป็นคนรับใช้และเธอก็มีความสุขดีเสมอมา

“ถ้าไม่เป็นคนรับใช้แล้วจะเป็นอะไร อยากเป็นอะไรล่ะ ราชินีของที่นี่หรือไง”

โดน ไม้นี้หญิงสาวตาเขียวปัด สะบัดหน้าหันไปมองอย่างเอาเรื่อง เห็นคู่กรณียืนกอดอกเฉยอยู่ เสียดายว่าเจ้าหน้ากากบ้านั้นปกปิดใบหน้าอยู่ เลยไม่สามารถรู้ว้าขาคนนี้มีสีหน้าแววตาอย่างไรในตอนนี้

“ดุ เจ้าอารมณ์แบบนี้แสดงว่าเฟรี่คนเดิมกลับมาแล้วสิ” เสียงของไนท์หัวเราะในลำคอ

“พาข้าไปเขาสื่อสารเดี๋ยวนี่เลย..เดี่ยวนี้”  เฟรี่เค้นเสียงจนสั่นเครือด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน “ข้าอยากหนีจากที่นี่เต็มทีแล้ว”

“ได้เลย...ข้าจะไปรอท่าเรือข้ามฟาก เจ้ารีบๆตามมาก็แล้วกัน”


กล่าว จบปีศาจหนุ่มก็ก้าวเท้ายาวๆ ออกไปโดยไม่ยอมหันมามอง เฟรี่มองตามแล้วพลันรู้สึกนัยน์ตารื้นไปด้วยน้ำใสๆเอ่อคลอขึ้นมาโดยไม่ทราบ สาเหตุ..คนบ้า..ปีศาจบ้า....อยากจะตบๆๆทุบๆๆข่วนๆๆ แทงๆๆฆ่าๆๆๆ..ให้ตายไปเลย





จบบทที่ 21

แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 55 11:19:47

แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 55 07:54:55

แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 22:14:43

แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 18:46:09

 
 

จากคุณ : GTW
เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 18:41:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com