 |
กลับมาที่สำันักสงฆ์สัจจธรรมบ้านในไร่ นั่งปรึกษากับพระมหาจรูญ คิดไม่ออก วิตกกันว่า จะทำอย่างไรกับเงินที่เหลือ มหาก็หวังว่า เทพเทวดาจะมาช่วยเหลืออย่างเดียว ตามคติ สร้างวัด สร้างโบสถ์ มักมีเทพเทวดาอุปถัมภ์ นั่งคุยกับมหา จนกระทั่งมหาฉันเพลเสร็จ ก็เลยขอตัวกลับบ้านก่อน
ถึงบ้านแล้วก็นั่งคิดนอนคิด เิดินไปหาเพื่อนสนินหลายคน ถามเืพื่อนว่าจะช่วยกันอย่างไรบ้าง ก็คิดกันไม่ออก บอกไม่ถูกเหมือนกัน ต่างคนต่างเซ็งจิตในเรื่องนี้เช่นกัน
กลับบ้านก่อนนอน ไปหยิบหนังสือธรรมะของวัดธรรมกายมาอ่านเล่น เห็นหลากหลายเรื่อง และโฆษณาชวนทำบุณย์แบบผ่อนส่ง มานังคิดนอนคิดเล่น ๆ ธุรกิจถ้าแบ่งงานกันทำก็จะเร็วขึ้นสะดวกขึ้น ขายที่ดินยังแบ่่งกันเป็นไร่ เป็นงาน เป็นวา ซื้อขายกันแบบผ่อนส่งก็ยังมี อย่างโฆษณาหนังสือพิมพ์สมัยก่อน ที่ขายผ่อนส่งเดือนละพันสองพัน พาไปดูที่ดินก่อนแล้วค่อยตกลงซื้อขายกันผ่อนเงินกัน ทำไมจะซื้อที่ดินวัดแบบผ่อนส่ง หรือซื้อกันเป็นตารางวาหรือตารางเมตรไม่ได้บ้าง
แต่เรื่องที่ดินของคนภาคใต้มีวัฒนธรรมที่แปลกอย่าง คือต้องซื้อขายกันเป็นห้องก่อน หน้ากว้างสมัยก่อนห้าเมตร ปัจจุบันสี่เมตร ยาวเท่าไรก็ได้ น่าจะมาจากวัฒนธรรมการซื้อขายที่ดิน แบบตึกแถวของคนจีนสมัยก่อน
เคยเจอที่ตลาดย่านยาว จังหวัดพังงา ตอนตรวจนิติกรรมสัญญา ที่ดินที่จดทะเบียนจำนองเป็นประกัน แผนที่สังเขป หน้าที่ดินกว้างห้าเมตร ลึกร้อยกว่าเมตร สอบถามสาขาก็ยืนยันว่าจริง พอไปดูสถานที่จริง/ตรวจเยี่ยมสาขากับหัวหน้าเลยทราบที่มาว่า ตอนเหมืองแร่บูมมากสมัยก่อน ชาวบ้านแถวนี้ตัดที่ดินสวนยางพาราเิดิมมาแบ่งขายกันเป็นห้อง ๆ เลยถามว่า "แล้วสร้างบ้านเต็มเนื้อที่ไหม" ชาวบ้านตอบกลับว่า "สร้างเฉพาะที่ใช้งาน ส่วนทีเหลือข้างหลังก็ปลูกหญ้า ปลูกผัก เลี้ยงหมู เห็ด เป็ด ไก่ ไปตามเรื่อง"
ขอวกกลับมาที่ดินวัดเนื้อที่สี่ไร่ ที่ดินหนึ่งไร่มีเนื้อที่สี่ร้อยตารางวา ร้อยตารางวา เป็นหนึ่งงาน สี่งานเป็นหนึ่งไร่
หนึ่งวา ความยาวเท่ากับสองเมตร หนึงตารางวา พื้นที่เท่ากับสองคูณสองเมตร หรือเท่ากับสี่ตารางเมตร การแบ่งแยกที่ดินตามเสป็คคนใต้สมัยก่อนคือ ที่ดินหนึ่งไร่จะแบ่งได้สิบหกห้องแถว คือ หน้ากว้างห้าเมตร ได้สิบหกห้องจะเท่ากับยาว 80 เมตร ส่วนด้านหลังต้องลึกอย่างน้อยยี่สิบเมตร พื้นที่รวมเท่ากับ กว้าง*ยาว รวมแล้ว 1,600.ตารางเมตร หารด้วย 4 ตารา่งเมตรเท่ากับ 1 ตารางวา ได้ 400 ตารางวา หรือ หนึ่งไร่ (หนึ่งตารางกิโลเมตร จะเป็นพื้นที่เท่ากับ หกร้อยยี่สิบห้าไร่)
เลยได้แนวคิดนี้ขึ้นมา เช้าตรู่รีบขับรถจักรยานยนต์ไปปรึกษามหาจรูญ นั่งคิดนั่งเขียนตัวเลขกัน เลยได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า น่าจะจัดโปรโมชั่นเสนอช่วยซื้อที่ดินสร้างวัด เลียนแบบการตลาดแบบวัดธรรมกาย ผนวกกับการซื้อขายที่ดินผ่อนส่งของกทม. ที่โฆษณาขายกันตามหนัาหนังสือพิมพ์
โดยเอาสี่แสนบาทต่อไร่ ที่จัดว่าราคาแพงในละแวกนั้น/สมัยนั้น และความรู้สึกชาวบ้านกับคนทั่วไป เมื่อหารต่อไร่แล้วจะตกตารางวาละหนึ่งพันบาท คนจะทำบุญจะคิดหรือจินตนาการ เป็นรูปธรรมได้ว่า จะช่วยวัดได้เนื้อที่เท่าไร ในการบริจาคเงินแต่ละครั้ง มีความรู้สึกว่าไม่มากหรือไม่น้อยเกินไป
ยัง เท่านั้น ยังไม่พอ ยังจัดให้อีกแบบคือ หารตารางวาออกเป็นตารางเมตร เหมือนการขายกระเบื้องแผ่นเรียบ ตกตารางเมตรละสองร้อยห้าสิบบาท หรือตารางวาละหนึ่งพันบาท
จากนั้นมหาเริ่มส่งเสริมการทำบุญ ด้วยการเขียนแบบง่าย ๆ ว่า ช่วยวัดซื้อที่ดินตารางเมตรละสองร้อยห้าสิบบาท หรือตารางวาละหนึ่งพันบาท (ผมขอเงินจากแม่ไปช่วยวัดซื้อห้าพันบาท)
มหาจึงเริ่มเขียนตัวเลขจากว่า เงินมัดจำค่าซื้อที่ดินสร้างวัด ยังขาดเงินอยู่เพียงแค่ หนึ่งล้านหกแสนบาท หารด้วยจำนวนไร่ ๆ ละ สี่แสนบาท หารด้วยจำนวนงาน ๆ ละ หนึ่งแสนบาท หารด้วยจำนวนตารางวา ๆ ละ หนึ่งพันบาท หารด้วยจำนวนตารางเมตร ๆ ละ สองร้อยห้าสิบบาท
ชาวบ้านมาเห็นป้ายกระดานที่เขียนไว้ที่วัด มักจะถามว่า " เขียนอะไร มหาบอกหวยหรือไง " มหาบอกว่า " ช่วยซื้อที่ดินวัดในราคาเท่านี้ หรือตามจิตศรัทธาของแต่ละคน "
ผลปรากฏว่า ไม่ถึงสองเดือนวัดได้เงินค่าที่ดินครบ แถมยังมีเงินเหลืออีกจำนวนหนึ่ง เพราะชาวบ้านในพื้นที่กับคนหาดใหญ่ที่มาทำบุญ เข้าใจและถือว่ามีส่วนร่วมในพื้นที่ที่ดินวัดตามจินตนาการ ขออนุโมทธนาบุญนี้แด่ทุกท่านที่มีส่วนร่วมซื้อที่ดินให้วัด และเทพเทวดา ตลอดจนสิ่งทีมาอำนวยให้คิดเช่นนี้ได้
เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนสภาพที่ดินวัดในปัจจุบัน
หมายเหตุ ไว้จะเขียนอีกตอนถึงกลโกงการซื้อขายที่ดินที่พบเจอ ไม่เกียวกับเรื่องวัดนะครับ
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 16:57:34
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
20 เม.ย. 55 14:43:57
|
|
|
|
 |