มองท้องฟ้า กอดผืนทราย ใจอยู่ที่เธอ (5) ปราชัยรัก SP
|
 |
ช่วงนี้ติดหนังติดละครอย่างหนัก
มาอีกแล้วอาการนี้ ฮ่าๆๆ
พร้อมกับชอบฟังเพลงเก่าๆ
จริงๆก็ไม่เก่าหรอกค่ะ แต่ว่ามันไม่ได้ฮิตอะไรขนาดนั้นแล้ว
โรคหัวใจกำเริบเลิฟ ละ ละ เลิฟ เลิฟ ฮ่าๆๆๆ
โฟร์มด เลิฟ เลิฟ ตอนนี้กลับมาชอบอีกครั้ง อิอิ
มองท้องฟ้า กอดผืนทราย ใจอยู่ที่เธอ (5)
เขาไม่ใช่พระเอกนิยาย เขาไม่เคยจริงจังหรือต้องคิดมากเรื่องผู้หญิงคนไหนมาก่อน เขาไม่เคยต้องทำตัวลึกลับเวลาสนใจผู้หญิงคนไหน ไม่เคยต้องใส่ใจให้วุ่นวายหัวใจมากมาย
แต่จะพูดว่าเขาสนใจผู้หญิงก็คงไม่ใช่ เพราะผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยคบมา ก็ล้วนแต่สนใจในตัวเขาก่อนทั้งสิ้น
แต่ทว่า...ตอนนี้เขากำลังจะเป็นบ้าเพราะผู้หญิงเพียงหนึ่งคน
ผู้หญิงคนที่เขาไม่รู้จักชื่อ...ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเธอเป็นใครมาจากไหน
ผู้หญิงคนที่ไม่เคยสังเกตเขาอยู่ในสายตา...ในทุกๆวัน ถึงแม้จะอยู่ใกล้กัน
แต่เป็นผู้หญิงที่ทำให้หัวใจของเขาหยุดนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด ตั้งแต่แรกเจอ
เขาคนนั้น คงจะเป็นไอ้บ้า...บ้ารัก เข้าขั้นเลยล่ะ
และไอ้บ้านั่น...เขาคนนั้น...คือผมเอง...
ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ผมยังไม่นอนเลยสักนาทีเดียว ได้แต่นั่งคิดนอนคิดกระทั่งยันคิด...คิดถึงแต่เรื่องของเธอ
อืม จะพูดว่าคิดถึงแต่เรื่องของเธอคงจะไม่ถูก ต้องพูดใหม่ว่า คิดถึงแต่เธอ เพราะเราไม่เคยมีเรื่องกัน ถึงแม้ใจของผมอยากจะมีมากก็ตาม
ตอนตีห้า ก่อนฟ้าจะถึงรุ่งสาง ผมก็ยังคงข่มตาหลับไม่ลง ถึงแม้ดวงตาของผมมันจะหนักอึ้ง ดูอ่อนล้า และเริ่มคล้ำแล้วก็ตาม แต่สมองของผมไม่อาจจะหยุดคิดได้ มันได้แต่คิด...คิด...และคิด...คิดถึงแต่เธอ
คิดถึงเธอ...คิดถึงใบหน้าที่เศร้าสร้อยยามจ้องมองท้องฟ้ายามราตรี คิดถึงหยดน้ำตาและเสียงสะอื้นที่แผ่วเบา
ยิ่งผมคิด...ผมยิ่งเจ็บปวดใจ...
แปดโมงเช้า ผมก็ยังไม่สามารถหลับลงได้ แต่ในขณะที่ผมกำลังนอนหลับตาก่ายหน้าผาก คิ้วขมวดตามสัญชาตญาณความเครียดที่เริ่มสะสม พยายามนับแกะกระโดดข้ามรั้วให้ครบหนึ่งพันตัว เพราะผมอาจจะหลับไปในทันทีที่ไม่รู้ตัว ผมได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังเดินอยู่ในห้องข้างๆ ผมรู้ได้ทันทีว่าเป็นเธอ เธอคงจะตื่นแล้ว
แม้ผมไม่ได้หลับ...แต่ผมก็ลุกขึ้นจากเตียง ตื่นตามเธอ...
ผมได้ยินเสียงปิดประตูครั้งหนึ่ง ก่อนเสียงฝีเท้าเดินจะเงียบลงเช่นกัน เธอคงจะเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา แปดโมงเช้าของฮาวายนั้นเป็นช่วงเวลาที่ท้องฟ้าสว่างสดใส
ฮาวายไม่มีหิมะ อากาศอบอุ่นเกือบตลอดปี ถึงแม้จะหน้าหนาวแต่ก็ไม่หนาวมากเท่าเมืองอื่นๆ สมกับฉายาเกาะสวาทหาดสวรรค์
และเป็นสถานที่ที่เหมาะจะพบรักมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกนี้
ผมนึกถึงเมื่อคืนที่เธอร้องไห้ หยดน้ำตาของเธอทำให้หัวใจผมเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจเหลือเกิน ถึงแม้น้ำตานั้นจะไม่ใช่ของผม แต่ผมกลับรู้สึกเจ็บ เจ็บที่ตัวเอง และโกธรแค้นใครคนนั้นที่ทำให้เธอมีน้ำตา
ผมเปิดลิ้นชัก หยิบผ้าเช็ดหน้าสีเทาที่ผมรักที่สุดออกมา มันเป็นผ้าเช็ดหน้าของยี่ห้อ Hermes ด้านข้างถูกปักเอาไว้ว่า J อักษรอัลฟาเบทเจเป็นอักษรย่อจากชื่อภาษาอังกฤษของผมเอง เพื่อนๆที่ฮาวายมักจะเรียกผมว่า Jason เพราะผมดันไปหน้าตาคล้ายนักแสดงชาวเอเชียที่ชื่อว่าเจสันซึ่งดังในขณะนั้น ดังนั้นชื่อนี้จึงกลายเป็นชื่ออีกชื่นนึงของผมไปโดยปริยาย
ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ ขอให้เอาไว้ซับน้ำตาของคุณ
ข้อความความเป็นห่วงเป็นใยถูกเขียนลงบนกระดาษโน้ตสีขาวด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ อาจจะเป็นข้อความสั้นๆง่ายๆ แต่ว่าทุกตัวอักษรนั้นมีความจริงใจจากหัวใจของผม
ผมพยายามเปิดประตูห้องของตัวเองให้เบาที่สุด เพื่อว่าเธอจะได้ไม่สงสัย รีบนำถุงพลาสติกที่ผมนำมาใส่ผ้าเช็ดหน้าและเสียบกระดาษโน้ตไว้ที่ผ้าเช็ดหน้าแขวนไว้ตรงลูกบิดประตู เคาะประตูรัวเร็ว ก่อนจะวิ่งหลบเข้าห้องด้วยความเขิน ปิดประตูให้เบาที่สุด ผมเอาหูตัวเองแนบกำแพงฝั่งห้องของเธอ ไม่นานก็ได้ยินเสียงเธอเปิดประตู และเสียงถุงก๊อบแก๊บ คงจะเป็นเสียงถุงพลาสติกของผมเอง เธอคงจะเห็นแล้ว เธอจะอ่านข้อความหรือยัง และเธอจะใช้ผ้าเช็ดหน้าของผมหรือเปล่า
ผมหันหลังยืนพิงกำแพงและยิ้มด้วยความดีใจ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แต่แค่นี้ผมก็รู้สึกมีความสุขมาก เหมือนเธอนั้นรับรักผมแล้ว
แหวะ นี่ผมกลายเป็นพวกพระเอกนิยายรักน้ำเน่าไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ชักจะเพ้อแล้วเรา
ผมเดินไปนั่งลงบนโซฟาห้องรับแขก หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ดูข่าวคราวบ้านเมืองบ้าง แต่ไม่นานก็ผล็อยหลับไปอย่างไม่ทันรู้ตัว ทั้งๆที่ผมเพิ่งจะรู้สึกว่านอนยังไงก็นอนไม่หลับ แต่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนผมกลับรู้สึกโล่งสบาย จนทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งคืนหายไป และที่แปลกไปมากกว่านั้นคือ...ผมฝัน...ฝันว่า...
เธอส่งยิ้มมาให้ผม...
ตอนหน้าตอนสุดท้ายหล่ะคะ(มั้ง)
แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 55 15:55:46
จากคุณ |
:
mollaly
|
เขียนเมื่อ |
:
21 เม.ย. 55 01:19:59
|
|
|
|