ความคิดเห็นที่ 1 แผดระอุเร่าร้อน ............... ดวงอินทร์ ผะผ่าวเผาใบตฤณ ............ หมกไหม้ คอยจดจ่อชุ่มดิน .............. ฝนฉ่ำ หน่อยแน ชะก่ำไทรลูบไล้ ................ ชุ่มต้นชื้นราก แผดจ้าแรงฤทธิ์อาทิตย์ส่อง ขัดข้องแปลงผิวเป็นริ้วหนาม ประทินประจำทำสงคราม พยายามดิ้นรนพ้นผิวเกรียม อาบน้ำแร่แช่น้ำนมเพิ่ม แต่งเติมเสริมทรวดทรงคงเหนียม โขนงวงโค้งวาดตระเตรียม เฉิดไฉไลอ่องเอี่ยมเรี่ยมเร้เรไร.............สวัสดีครับคุณพลอยธนา จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 09:36:18

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ได้เจอกันนานเลยค่ะ คิดถึงนะคะ จากคุณ : Setakan เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:18:22

ความคิดเห็นที่ 3 ๐   จันทร์เอย จันทร์แจ่มแย้ม.......................นวลละออ พรายผ่อง พลอยประคองหนอ......................ใฝ่เฝ้า เคียงสัมผัส เคลียคลอ................................เกิดก่อ รักเฮย จันทร์แจ่ม แรม...ค่ำ~เย้า...........................หยอกล้อ จรุงใจ..... มาบังอาจร่วมเสนอหน้าอันเยาว์ยิ่ง สำหรับอาศรมชาวโคลงค่ะ พี่พลอย คิดถึงพี่พลอยค่ะ โคลงกระทู้นี้ สุดยอดเลยค่ะพี่พลอย จากคุณ : พลอยแข เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 13:12:06

ความคิดเห็นที่ 4 ส่งใจไปขอบฟ้า...................หาดาว เพื่อสบนัยตาสาว.................พักตร์พริ้ง เดือนมืดค่ำนี้ราว.................ฟ้าสว่าง หากสบตาใครทิ้ง..............สาดเยิ้มฉ่ำหวาน ..... ละออแสงนวลชวนชื่นมื่น ในค่ำคืนยืนมองท้องฟ้าสวย ตามองฝ่าแสนไกลใจระทวย หวีดหวิวด้วยดนตรีหริ่งเรไร ลิบลิ่วลอยฝอยปลิวน้ำค้างปราย โปรยเป็นสายเย็นชื้นยืนหวั่นไหว ดาวกระพริบพราวพร่างเหมือนพรางใจ ป่านฉะนี้คนไกล...อยู่ไหนเอย แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 13:46:34 จากคุณ : ลำน้ำ C เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 13:45:43

ความคิดเห็นที่ 5 ...         ๏  เมื่อ               อาทิตย์ลับฟ้า         ลาวัน         จันทร์                ย่อมสลับกัน           เปลี่ยนหน้า         เจ้า                   ของโลกแบ่งปัน       ของโลก         ยิ้ม                   เถิดระบายฟ้า           จูบฟ้าฝากดินฯ สวัสดี ขอรับ คุณ ploythana สวัสดี เพื่อนพ้องน้องพี่ ชาวอาศรมฯ ทุกท่าน แหะ แหะ แวะมาแปะโคลง(เคลง) ตามธรรมเนียม ขอรับ แหะ แหะ มาแหล้ว ไปแหล้ว สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:38:32

ความคิดเห็นที่ 6 ยามแก้มยุ้ย...ยังแฝงยิ้ม แสนเอิบอิ่ม...ยิ่งสดใส ยิ้มหวานหวาน...ซาบซ่านใจ จากหนึ่งใคร...ที่ไกลกัน แก้มยุ้ยยุ้ย...อยากให้ยิ้ม ใบหน้าพริ้ม...พราวผ่องพรรณ ยิ้มของใคร...ให้เพ้อฝัน วอนคนนั้น...ยิ้มให้ที จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (ฮกกงจื้อ) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 18:38:17

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้มาด้วยอาการตื้อ ๆ มึน ๆ นะคะ  ^________^   คห.1 สวัสดีค่ะ คุณลุงชิกง มักจะมาเป็นคนแรก ๆ เสมอเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^_^ เหยียบย่างทางทอดเวิ้ง.....หาหน มองฝ่าความมืดมน..........ซึ่งหน้า หลงเย็นเยียบเสียดจน......ไหวหวั่น หนักหน่วงวิเวกล้า...........ลึกเร้นเป็นไฉน . .. คห.2 คุณ มน Setakan  มาตามความคิดถึงค่ะ .. . คห.3 สวัสดีค่ะ น้องพลอยแข  ยินดีมากเลยที่แวะมาวางโคลงและทักทาย พี่พลอยก็เขียนไปเรื่อยเปื่อยล่ะนะ อย่าชมนัก ลอยก็ไม่ค่อยจะขึ้นกับใครเขาซะด้วยสิ ครวญคืนนอนตากฟ้า.......ตากดาว หวังสบนัยน์ตาพราว........ผ่องพริ้ม สุดเอื้อมอาจคืบสาว.........เดือนส่อง กล้องจับจันทร์เจ้ายิ้ม.......หยอดไว้ในเฟรม . .. คห.4 สวัสดีค่ะ ท่าน ลำน้ำ C   มาช่วยตามหาคนไกลด้วยคนนะคะ ชมดาวพราวพร่างพร้อย....ลอยไกล นับหนึ่งสองสามไป..........ไม่ถ้วน ขอเคียงคู่ขวัญใจ............ไม่เจ็บ ทุกตุ่มรอยริ้วล้วน...........จากน้ำลายยุง .......... .. คห.5 สวัสดีค่ะ ท่าน นายทิวา ๏  เมื่อ  แสงสุดท้ายลับ...ลาวัน จันทร์  ย่อมมาเปลี่ยนผัน.ส่องหล้า เจ้า   มิต่างสีสัน.............ใสสว่าง ยิ้ม   เบิกบานม่านฟ้า......จวบแจ้งแห่งหน .......... .. คห.6 สวัสดีค่ะ  หนุ่มน้อย ฮกกงจื้อ ... เรียงคำสวยอวยพรด้วยกลอนสด แทนถ้อยพจน์,ของขวัญอันล้ำค่า ขอให้เธอคนดีแสนปรีดา ปรารถนาสิ่งใดให้สมปอง ... .......... ราตรีสวัสดิ์นะคะทุกท่าน # ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต # แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 00:20:27 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 00:19:00

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีครับ ๏ เมื่อ ทิวาเยี่ยมเวิ้ง                 ตะวันฉาย จันทร์ อาจหลบเร้นหาย           ห่างบ้าง เจ้า จักจ่มเสียดาย                    ใดเล่า ยิ้ม สิยิ้มกว้างกว้าง                   ปลุกแกล้วทุกกาล ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 05:47:29

ความคิดเห็นที่ 9 น้องพลอยแข คุณพลอย สบายดีนะคะ ไม่ค่อยได้เจอกันแต่ยังคิดถึงเหมือนเดิม กลับมาย้ำความคิดถึง อิๆ จากคุณ : มนต้นไม้ (Setakan) เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:15:11

ความคิดเห็นที่ 10 ๏ ยามมองจันทร์วาดยิ้ม..............เหนือหาว ครวญใคร่คิดถึงสาว...................ต่างบ้าน ร้อยคำส่งผ่านดาว.....................ไปบอก ว่ารักอยู่ไม่คร้าน.......................ห่อนสิ้น จากใจ ๚ะ๛ แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 17:00:04 จากคุณ : comicclubs เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 16:44:42

ความคิดเห็นที่ 11 บุหลันบนฟากฟ้า                  ราตรี ผุดผ่องมอบสิ่งดี                  แจ่มจ้า จันทร์ฉายผ่านวิถี                 เงามืด เสี้ยวเศษบ่เหนื่อยล้า            พร่างพร้อมประกาย แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 21:56:36 แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 09:44:48 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 00:14:34

ความคิดเห็นที่ 12 ... สวัสดีวันร้อน ๆ อีกวันหนึ่งนะคะ ขอให้เย็นกายสบายใจกันทุก ๆ ท่านค่ะ ... คห.8 สวัสดีค่ะ พี่ศาลายา เริ่มวันกับแดดเช้า.........ชาชิน โดนแดดผิวพองภินท์....แสบไหม้ รับ “ดี” วิตามิน............แทรกสู่ กายเฮย กันแดดทาพอกไว้........แค่คล้ำยังเยาว์ .......... ... คห.9 สวัสดีค่ะ คุณ  มนต้นไม้ (Setakan) มาย้ำความคิดถึงให้พี่พลอย และน้องพลอย ต้องยิ้มแก้มปริ ^^ .......... ... คห.10 สวัสดีค่ะ คุณ comicclubs ยามมองจันทร์เสี้ยวลิบ..ลอยไกล เงากระต่ายวิ่งวนใน.......ที่นั้น คิดถึงหนึ่งคนไข...........นัยสื่อ ระยะห่างฤากั้น.............ส่งให้ใจถึง .......... ... คห.11 สวัสดีค่ะ คุณ แฟนนายแบบ เมื่อ   ฝันอยากหม่ำรุ้ง....หลากสี จันทร์ กลิ่นน้ำหวานมี......ครอบคุ้น เจ้า    เก่าแม่พิมพ์ดี........คงรูป ยิ้ม    ปรี่เลือกรสวุ้น.......แม่ค้าชวนชิม .......... # ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ # *** แก้ไขคำผิดค่ะ *** แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 09:55:44 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 09:34:05 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 09:32:48

ความคิดเห็นที่ 13 รูป   ลักษณ์ประกอบด้วย......เบญจขันธ์ นาม  ยิ่งมัดเกี่ยวกัน............ครบถ้วน รูป    คงมิกระพัน...............หยุดอยู่ นาม  ลื่นไหลหลากล้วน.......รับรู้อารมณ์ ทั้งรูปนามทั่วถ้วน                 อจีรัง แยกรูปแยกนามยัง                ยากด้วย มายาคติขัง                         ขัดอยู่ เพียรพากจนมอดม้วย            สลัดสิ้นรูปนาม --------------------------- รูป คือธรรมชาติที่รู้อารมณ์ไม่ได้  ...นาม คือธรรมชาติที่รู้อารมณ์ http://my.abhidhamonline.org/modules.php?op=modload&name=News&file=article&sid=4 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 21:36:32 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 17:53:47

ความคิดเห็นที่ 14 จันทร์คืนแรมปวดร้าว               คมเคียว ทนอยู่ทุกข์นางเดียว                ค่ำนี้ เว้าแหว่งใช่กลมเกลียว             กาลก่อน อุปสรรคจ่อจี้                          กรีดโค้งคมจันทร์ จันทร์ดวงเดียวพิศพร้อม            อารมณ์ คนสุขไร้ระทม                        แช่มชื้น ผู้โศกวิโยคตรม                      แสนขื่น ปรุงแต่งน้ำตารื้น                     สุดท้ายภาพลวง -------------------------------- แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 21:59:33 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 21:56:04 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 21:54:56

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้ามีโอกาสขอเชิญชวนให้ทุกท่านไปสักการะค่ะ   วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว  เพชรบูรณ์..มีเพื่อนแนะนำมาทางเน็ต  ถ้ามีโอกาส  เราอยากไปสักการะ เราประทับใจชื่อมาก....ซ่อนแก้ว    ดูเป็นปริศนาธรรม   มนุษย์ทุกคนมีดวงแก้ว...เเต่มีอวิชชาครอบงำไว้...เหมือนดวงแก้ว ที่ถูกซ่อนไว้ในหุบผา http://www.phasornkaew.org/ --------ผาซ่อนแก้ว--------- เมื่อดวงแก้วถูกซ่อนไว้ในหุบผา มวลมนุษย์แสวงหาการตื่นรู้ เพราะศรัทธาจึงดั้นด้นติดตามดู อยากเคียงคู่พุทธธรรมนำกายใจ แก้วสว่าง ดวงงาม..ยังงามอยู่ ดวงจิตเจ้าผู้เฝ้าดูงามอยู่ไหม??? กิเลสข้านั้นมอมเมาให้เศร้าใจ ขอตั้งจิตละเศร้าใสใฝ่นิพพาน การไปเที่ยว  เปลี่ยนภาพถ่าย  เพื่อเฟซบุ๊ค เพื่อสนุกเปลี่ยนที่ชิม ลิ้มอาหาร ไปหยอดตู้เเบงค์หนึ่งใบ  ให้เป็นทาน หมอบกราบกราน  เพียรออดอ้อน  ขอพรชัย นั่นคือทางดับทุกข์  แล้วจริงหรือ??? ถึงกรุงเทพข้ารับมือกับทุกข์ใหม่ ผาซ่อนแก้ว  ซ่อนธรรม ความเข้าใจ เราทุกคนซ่อนโศกไซร้  ใช้ปัญญา ------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 55 13:52:21 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 13:47:19

ความคิดเห็นที่ 16 หลงพะวงจันทร์เจ้า .................... เงาสูญ รุกไล่ตราบอาดูร ....................... ป่ายสิ้น เรืองสว่างฐากูร ........................ ปมเด่น ขันแข่งระหว่างดิ้น .................... ปักริ้วต่างกรรม ทิพากรเจิดจ้า .......................... แสงฝาก นับหนึ่งจึงบ่ยาก ....................... สอดคล้อง หยินหยางสื่อยุคลพราก ............. แยกคู่ ยู่ยี่ยับเยินร้อง ......................... ขุ่นข้องหมองทรวง ทุกข์สุขฤาเพียงชื่อท่านถืออยู่ สุขทุกข์รุกพันตูคู่ปัญหา วารถือทุกข์ปลุกเร้าเขลาปัญญา บัดเติมค่าผาสุขมุกมณี .............. จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 14:56:52

ความคิดเห็นที่ 17 เงาโลกบังบดเจ้า               บริวาร ดาวเคราะห์ประจักษ์ขาน     แค่เสี้ยว จันทรคติกาล                   กำเนิด วัฏฏะให้หมุนเลี้ยว             เยี่ยงนั้นมานาน วันใดหากดับสิ้น               ดาวจันทร์ มนุษย์ทุกข์มหันต์             แน่แท้ วารีมิเปลี่ยนผัน                ดังเก่า พิบัติไร้ข้อแม้                  ภพนี้สมดุล แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 55 20:45:02 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 20:43:34

ความคิดเห็นที่ 18  สวัสดีสำหรับวันอาทิตย์ร้อน ๆ ใจเย็น ๆ อีกวันนะคะ คห.13,14,15,17 สวัสดีค่ะ คุณ แฟนนายแบบ มีเรื่องราวหลากหลายมาถ่ายทอดเล่าสู่กันเสมอเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ๏ ดิน ฐานเรือนแหล่งเหย้า..ยืนยง น้ำ จิตมิตรใจจง...............สืบสร้าง ลม หอบฝุ่นควันปลง.........เปลืองปล่อย ไฟ ช่วงเรืองวันร้าง...........หล่มเร้นเห็นหน ๏ คน วางบทบาทสร้าง......ศีลเสริม ไทย ศาสตร์วิจิตรเหิม.......แต่งห้วง ทุกข์ สุขมุ่งตวงเติม..........เต็มต่อ โศก คิดตริตรองท้วง........ถ่องแท้รังสรรค์ ๏ โลก ผันแปรเปลี่ยนฟ้อง..ภัยพาล ร้อน เสื่อมโทรมศึกผลาญ...พร่องแพ้ รุม รุกไล่เกินกาล..............ปรามหลีก ไฟ จุดติดเพียงแม้............เศษไม้ซีกซาง ๏ โลก รักษ์เราร่วมร้อย....แรงรัก ใส สื่อวางใจพัก..............ตื่นพร้อม ใบ บังเพิ่มพูนจัก.............ปรกร่ม-เงาเฮย สวย จิตปราศลวงย้อม......โลกร้อนยังเย็น .......... คห.16 สวัสดีค่ะ คุณลุงชิกง  ตอบต่อจากโคลงของคุณลุง "ขุ่นข้องหมองทรวง" นะคะ ขุ่น   ตะกอนตอนตกแล้ว....ใสใส ข้อง กักน้ำขุ่นใน..............นิ่งรู้ หมอง  หมางหยิบขันใบ.....จ้วงตัก ทรวง ชื่นเย็นกายกู้...........แกว่งร้อนคลอนคลาย .......... # ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ # แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 12:15:46 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 12:15:13

ความคิดเห็นที่ 19 เคยสงสัยไหมคะ....ถ้าเราได้มีโอกาสไปนั่งบนดวงจันทร์ เราจะเห็นโลกใบสีฟ้าของเราแบบไหน??? http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X12022276/X12022276.html --------------------------------- กระต่ายน้อยนั่งเฝ้า             โลกา คืนหนึ่งบนนภา                   แห่งนั้น กระจ่างสว่างตา                  กลมแหว่ง ครบรอบเดือนแสนสั้น          ค่ำนี้บนดาว ขาวครามยามแบ่งเสี้ยว          ชวนมอง กระต่ายน้อยใฝ่ปอง              โลกเว้า อยากจับอยากครอบครอง       ปุยเมฆ กระต่ายได้แค่เฝ้า                 จดจ้องภาวนา ------------------------------------------- คิดแทนกระต่ายน้อยบนนั้น เราว่ากระต่ายก็เฝ้าฝันเหลือเกินว่าวันหนึ่ง ... มันจะได้เห็นสีน้ำเงินบนโลก อยากกระโดดบนริ้วขาว ๆ บางเบาเหมือนสายไหม และอยากรู้ว่า  ดวงไฟเป็นจุด ๆ กลมสว่างในเงามืดบนโลก  คืออะไร???? แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 13:09:20 แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 13:07:06 แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 12:55:53 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 12:54:56

ความคิดเห็นที่ 20 แกว่งไกวด้วยแรงกริ้ว .................. ฉิวเครียด ร้อน รุ่มทุกกระเบียด .................... คั่วแห้ง คลอนพลุกพล่านเสนียด ............... ฟูฟ่อง กลิ่นแฮ คลายปล่องอำนาจแท้ง ................. แน่แท้จนมุม แกว่งปากเชียรหาเสี้ยนเพียรกวักแกว่ง ร้อนตำแหน่ง......ตบแต่งเงาเผาให้ร้อน คลอนสะเทือน ๙๑ เลขสั่นคลอน คลายคลี่ก่อนนอนสดุ้งฟุ้งคลี่คลาย จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:08:29

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีค่ะ บรรยากาศตอนนี้นอกจากจะร้อนแล้ว ยังก่อเกิดพายุฤดูร้อน ถี่ขึ้นนะคะ สมัยก่อน ถ้าจะชมภาพข่าว ก็จะชมว่าเกิดที่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันนี้ เกิดขึ้น ในบ้านเราเป็นรายวันเลยค่ะ และรุนแรงมากขึ้นด้วย ขอให้มีชีวิตอยู่บนความไม่ประมาทนะคะ  ^_^ .. คห.19 สวัสดีค่ะ คุณแฟนนายแบบ รักแท้ของกระจ่ายในเงาจันทร์ ....................................... ณ ราตรีเงียบงันจันทร์กระจ่าง กระต่ายน้อยตากน้ำค้างอยู่อย่างนั้น ทำกรุ้มกริ่มยิ้มพรายร่ายจำนรรจ์ ว่าใฝ่ฝันร่วมเคียงเพียงสองเรา ... ...ณ ที่เดิมที่นี่มีใจรัก ผู้ต่ำศักดิ์งอนง้อรอที่เก่า ที่แม้นจันทร์จะมิแลแม้แต่เงา ขอเพียงเจ้าชมจันทร์ได้ชัดเจน ... ... จวบข้ามคืนสู่วันแสงวาดเรื้อง ตะวันเยื้องตอกย้ำความจริงเช่น- รักของจันทร์-ตะวันครองสองจิตเจน รักหนึ่งเด่น ... อีกรักพ่าย-กระต่ายตรม ... ... แพ้ฐานะแตกต่างอย่างดินฟ้า แพ้คุณค่าโฉมตรูควรคู่สม ถึงพร่ำเพ้อผรุสวาจาท้าเทพพรหม หากชวดชม “ข้าพร้อมตรอมใจตาย ...” ... เพียงตะวันได้สดับกับโสตเสียง ย้อนสำเนียงยั่วเย้าเงากระต่าย พึงสงบเสงี่ยมเจียมใจกาย อย่าคิดหมายฝันใฝ่ให้เกินตัว ... กระต่ายช้ำใจกายพ่ายรักแท้ สายเกินแก้กลั้นใจตายในคืนสลัว ดวงชีพเจ้าสูญสลายกลายมืดมัว เทพไท้ทั่วทิพสถานพานเห็นใจ ... ... ด้วยเทพรู้พลังรักแสนศักดิ์สิทธิ์ จึงอุทิศการระลึกผนึกให้ สลักรัก-จิตวิญญาณสานอุ่นไอ แนบอยู่ในกลางจันทร์นิรันดร์กาล ... ... คืนพระจันทร์เต็มดวงโชติช่วงรัก จึงประจักษ์เงาจำแลงแฝงจันทร์ฉาน เปรียบรักแท้ของกระต่ายในตำนาน ปาฏิหาริย์คู่ฟ้าราตรีเอย ... .......... .. คห.20 สวัสดีค่ะ คุณลุงชิกง ขอให้มีสักมุมเป็นมุมที่ได้ผ่อนคลายความร้อนรอบ ๆตัว บ้างก็จะดีนะคะ เมื่อ     อุณหภูมิเพิ่มร้อน.....องศา จันทร์  จรดอาทิตย์สา-.......หัสข้อง เจ้า     ปรับเร่งแอร์มา.......แรงสุด ยิ้ม     ถูกใจนิ่มน้อง........ยื่นแป้งตรางู .......... # ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ # # แก้ไขคำผิด 1 ตำแหน่งค่ะ # แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 55 22:47:41 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 21:41:51

ความคิดเห็นที่ 22 พายุฤดูร้อน ... .................... ... ฟ้าตั้งเค้าบรรเลงอีกเพลงฝน เมฆครึ้มหนเยือกเย็นเป็นฉากหลัง ดินจักพลิกผิวผากฟื้นภาคพัง ช่อความหวังจะชัดเห็นเป็นดอกงาน ... ... กี่ดวงดอกจะงอกเสริมเติมลานโลก ใบแผ่โพกต้นยืนหยัดผืนกร้าน และต้นน้อยจะเร่งฝันทันเบ่งบาน เมื่อมวลธาตุหยาดสะอ้านเริ่มซ่านริน ... ... รินมอบความชื้นฉ่ำอันล้ำลึก   ร่วมผนึกทัดทานกาลโหดหิน   เปลี่ยนกล้าพันธุ์ยึดหน่วงถมช่วงดิน เป็นแร่สินทรัพย์ทวีต่อชีวิต ... ... ถึงชีวิต-กลายหวังที่ตั้งไว้ ลมแกว่งไกวกระโชกซ้ำกระชากสิทธิ์ แรงกระหน่ำทำลายล้างรอบทางทิศ อิทธิฤทธิ์แห่งพายุฤดูร้อน ! ... ฟ้าสนั่นลั่นคะนองราวกลองศึก กระแสความอึกทึกผนึกก้อน   กลายลูกเห็บร่วงเห็นกระเด็นกระดอน   เมื่อเย็น-ร้อนมาปะทะอย่างรุนแรง ... ... ฟ้าผกผันบรรเลงอีกเพลงฝน   เสียงทุกข์ทนคนยากวิบากแกล้ง เหลือฤดูแปรปรวน โลกเปลี่ยนแปลง   กับใจแกร่งเรียนรู้ให้อยู่ยง ... .......... ข่าวประกอบกลอน (ที่มา - ข่าวสด) http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek5qQTBOVE14TUE9PQ==&subcatid= พายุถล่มทั่ว-อุตุชี้หลัง5พ.ค.อากาศเย็นลง วันที่ 3 พ.ค. นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากอากาศที่ร้อนมาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ยังมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนขึ้นอยู่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ลักษณะมีลมกระโชกแรง ฝนฟ้าคะนอง แต่จะเกิดขึ้นในพื้นที่แคบๆ กระจายไปในวงกว้าง และจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ใดเป็นพิเศษและรุนแรงขนาดไหน และขอให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องพายุฤดูร้อนในช่วง 1-2 วันนี้ แต่หากถึงวันที่ 4 และ 5 พ.ค. ความร้อนจะลดลงและพายุฤดูร้อนก็จะหมดไป โดยเฉพาะตั้งเเต่วันที่ 5 พ.ค.เป็นต้นไป นครราชสีมารายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มพื้นที่ 16 หมู่บ้านของตำบลเสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านกว่า 200 หลัง วัด 2 แห่ง และโรงเรียน 2 โรง ถูกพายุพัดพังได้รับความเสียหาย มีประชาชนบาดเจ็บจากเหตุพายุพัดถล่ม 10 คน ในจำนวนนี้เจ็บสาหัส 2 คน เนื่องจากถูกคานเสาบ้านล้มลงมาทับ ทราบชื่อนายบรรยง แดงสูงเนิน อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.2 ต.เสมา ขาขวาหัก และนายประทีป เหาะสูงเนิน อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 ม.3 ต.เสมา ศีรษะแตก สมองกระทบกระเทือนทั้งสองรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา  นายสมัย บุศบก กำนัน ต.โนนปาซาง อ.ผาขาว จ.เลย พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน 3 หมู่บ้าน มีบ้านโนนป่าซาง บ้านสันติภาพพัฒนา และบ้านป่าซาง พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จากอำเภอผาขาว ออกสำรวจบ้านเรือนราษฎรที่ถูกพายุฤดูร้อนถล่มเมื่อคืนนี้ เสียหายประมาณ 80 หลังคาเรือน ทำให้หลังคาบ้านเรือนราษฎรถูกลมพัดปลิวว่อน บางหลังหลุดไปทั้งแถบ ปลิวไปใกล้ร่วม 40 เมตร ต้นไม้หักระเนระนาด จากนั้นฝนก็ตกลงมาซ้ำต่อ เมื่อค่ำวานนี้ ที่จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดอย่างแรงรวมทั้งมีฝนตกอย่างหนัก ส่งผลให้บ้านเรือนในพื้นที่ ม.1 ถึง ม.5 ต.กระแชง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พังไปกว่า 50 หลัง พื้นที่ ม.8 ต.บ้านกลึง อ.บางไทร กว่า 10 หลัง สภาพบ้านเรือนถูกลมพายุพัดหลังคากระเบื้องและสังกะสีถูกลมพายุพัดปลิวว่อนจนหลังคาเปิด และบ้านยังถูกต้นไม้โค่นล้มทับพัง เสาไฟฟ้าที่เข้าหมู่บ้านหักโค่น ทำให้ไฟฟ้าดับนานกว่า 15 ช.ม. ประชาชนได้รับความลำบาก นางถวิล ศรีจันทร์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.4 ต.กระแชง กล่าวว่า บ้านถูกต้นก้ามปูขนาดใหญ่ล้มทับหลังคาจนบ้านพังเสียหายทั้งหลัง ช่วงหัวค่ำขณะนั่งห่อข้าวต้มอยู่ในบ้านหลานๆ และสามีเห็นลมพายุพัดกระโชกมาอย่างแรงเป็นลูกจนต้นไม้ที่ติดอยู่ข้างบ้านหมุนแล้วหักโค่นลงมาทับหลังคาจนเสียหาย พยายามวิ่งหลบปรากฏว่ามีไม้จากหลังคาบ้านถูกศีรษะจนบวม เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 5 นาทีเร็วมากไม่เคยพบเคยเห็น ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเสียหายทั้งหมด สภ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 63/3 ม.10 ต.บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุเป็นบ้านใต้ถุนสูงบริเวณโต๊ะแคร่ขนาดใหญ่ พบศพ นางเสนาะ น้ำค้าง อายุ 52 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงบริเวณใต้ถุนบ้าน ตรวจตามร่างกายไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง สาเหตุจากหัวใจล้มเหลว สอบสวนนางพร้อม คำเจริญ อายุ 86 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ทราบว่านางเสนาะบ่นว่าอากาศร้อนมาก และมีอาการหงุดหงิด ตนจึงเข้านอนก่อนกระทั่งเช้าพบนางเสนาะเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานอากาศคงร้อนจัดหัวใจล้มเหลว ญาติไม่ติดใจจึงมอบศพไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป # ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ # จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 21:59:49

ความคิดเห็นที่ 23 ""                                                                              "" ๐ ยิ้ม ภาษาสื่อแย้ม                          ไมตรี ยิ้ม เอ่อล้นถ้อยวจี                            เลิศไว้ ยิ้ม ด้วยรักถักฤดี                              ยิ้มต่อ  กันนา ยิ้ม ส่งมิตรชิดใกล้                            ลักยิ้มรักเธอ ฯ     ................................................... จากคุณ : moonpeace เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 02:20:31

ความคิดเห็นที่ 24 คิดถึงดาวเกลื่อนฟ้า           ราตรี เคยพร่างพราวพรรณี          ใหญ่น้อย เรืองแสงแข่งรัศมี               จันทร์ส่อง เรียงรุ่งรายเรืองคล้อย          เคลื่อนย้ายขจายงาม ฯ มวลดาวพราวพร่างแพร้ว       เพรงกาล ไยห่างหายนภาพาน             หม่นแท้ เคยงามเมื่อคืนวาน               ฉไนเสื่อม  แสงเฮย ฤาเร่แรมราแล้                    จึ่งคล้อยคราไคล ฯ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (ฮกกงจื้อ) เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 23:36:06

ความคิดเห็นที่ 25 ท่ามกลางดาวพราวพิไลที่ไกลเกลื่อน แม้นลอยเลื่อนเคลื่อนไคลไปถิ่นต่าง ถึงเคว้งคล้อยพลอยคลาดพลาดเส้นทาง แล้วทิ้งร่างร่วงดินถิ่นโลกา ครั้นชาวดินถิ่นใดใคร่ครองเจ้า ต่างใฝ่เฝ้าเจียรไนยให้สูงค่า ตกแต่งเหลี่ยมเซี่ยมทรงคงต้องตา แล้วนำมาประดับแหวนแทนหัวใจ คอยนิ้วหนึ่งซึ่งงามเมื่อยามสวม แทนใจร่วมครองจิตพิศมัย ดาวที่งามแจ่มกระจ่างพร่างพิไล คงสวยใสพริบพราวคราวครอบครอง ขอบคุณ  ภาพที่แสนสวยงาม  จากฝีมือการถ่ายภาพที่เยี่ยม  www.jakawin.com ที่สำคัญ  ภาพที่เจ้าของนิ้วเรียวงามที่แสนงดงาม  คุณแอ๊พ ทักษอร ฝันดีครับ จากคุณ : ฮกกงจื้อ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 00:44:02

ความคิดเห็นที่ 26 ------นัตถิ  ปัญญา  สมา  อาภา---- สิ่งนำทาง ยามมืดมิด คืออะไร จะยึดเหนี่ยว  แสงใด  บนโลกนี้ คืนเดือนดับ  ไร้ระยับ  ยามราตรี ฤาสิ้นแล้ว  แสงริบหรี่  ได้เยือนยล จะเหลียวหา  เศษแสงใด  ในโลกเล่า สิ้นสิ่งเร้า  ไฟมอดเถ้า  เจ้าล่องหน จักมีเพียง   โอภาสหนึ่ง  จิตบันดล เราทุกคน   มีปัญญา   พาก้าวเดิน ---------แสงสว่างใด   เสมอด้วยปัญญา   ไม่มี---------------------------------- แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 55 16:01:55 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 15:48:32

ความคิดเห็นที่ 27 ... คห.24 – 25 ... สวัสดีค่ะ หนุ่มน้อย ฮกกงจื้อ ดาว   เรือนยามร่วงคล้อง......คืนฉาย ดาว   สาดสะเก็ดพราย.........เพรียกพร้อม ดาว   โรยร่ำคำหมาย...........เทียมมั่น วจีแล ดาว   วาดเวหาสล้อม...........เถื่อนด้าวแดนดิน ดาว   กรายเกลื่อนฟากพริ้ว...ฝอยฝน ดาว   แจ่มจรัสหน...............วาบใกล้ ดาว   ปรากฏการณ์ดล.........กะรัตเพชร - สกาวเฮย ดาว   เด่นประจักษ์ให้..........คืบคว้ามาครอง .......... # ขอขอบคุณภาพจากเว็บของคุณ จักวินทร์ ค่ะ # จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 16:23:30

ความคิดเห็นที่ 28 ... คห.23 ... สวัสดีค่ะ คุณ moonpeace ยิ้ม   แรกเผยลักยิ้ม.........แรกสบ ยิ้ม   หนึ่งเขินอายหลบ.....หนึ่งจ้อง   ยิ้ม   ยั่วอีกคำรบ.............อีกเรื่อง ใหญ่นา ยิ้ม   มิสบอารมณ์น้อง......หยั่งหน้ายักษ์นาง .......... ... คห.26 ... สวัสดีค่ะ คุณแฟนนายแบบ ต้น   พันธุ์ยันหยัดต้น.......ดำรง เหตุ   แห่งวัฏจักรคง.........เหตุให้ ของ   แน่บ่แน่ปลง...........เปลืองเปล่า ทุกข์   ซ่อนวิบากไซร้......สุขบ้างวางวัน ......... # ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ # จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 16:26:57

ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อจันทร์ดวงเด่นฟ้า......กลมกูน ใสปลั่งทวีคูณ..............เคลื่อนใกล้ ลางเหตุ “ซุปเปอร์มูน”....หายนะ-โลกฤา “ห้า” เลขบังเอิญให้.......ฤกษ์ำล้ำยามดี (05/05/55) .......... ข่าว - ที่มา "มติชน" http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1336109825&grpid=&catid=19&subcatid=1903 รอดู"ซูเปอร์มูน"-ดวงจันทร์ยักษ์ 6 พ.ค. ที่จะถึง!! เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม นายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 พฤษภาคม เวลาประมาณ 10.34 น. ดวงจันทร์จะโคจรมาเข้าใกล้โลกที่สุดในรอบปี โดยในต่างประเทศเรียกปรากฏการณ์ดวงจันทร์โคจรใกล้โลกว่า ซุปเปอร์มูน (Supermoon) ที่ระยะห่าง 356,953 กิโลเมตร และเนื่องจากเป็นวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงพอดี ผู้คนบนโลกจึงสามารถมองเห็นดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติประมาณ 2-3% ทั้งนี้ ตามปกติแล้วดวงจันทร์จะโคจรรอบโลกเป็นรูปวงรีจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก 1 รอบ ใช้ระยะเวลา 1 เดือน ดังนั้น ในทุกๆ เดือนจะมีทั้งวันที่ดวงจันทร์ไกลโลกและดวงจันทร์ใกล้โลก ช่วงของวงโคจรที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด เรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะห่างประมาณ 356,000 กิโลเมตร ส่วนช่วงของวงโคจรที่ห่างจากโลกมากที่สุด เรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะห่างประมาณ 407,000 กิโลเมตร นายศรัณย์กล่าวด้วยว่า การที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลก และโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ทิศทางของแรงกระทำต่อโลกมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้น น้ำลง ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ดังนั้นการที่ผู้คนบนโลกสามารถมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงในคืนที่มีวงโคจรมา ใกล้โลกนับว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งปรากฏการณ์ดวงจันทร์ใกล้โลกในคืนวันเพ็ญลักษณะเช่นนี้ เกิดครั้งล่าสุดในวันที่ 20 มีนาคม 2554 ที่ระยะห่าง 356,577 กิโลเมตร # ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ # จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 22:03:41

ความคิดเห็นที่ 30 ----------คำอธิษฐานด้วยน้ำตา----- อธิษฐานเรียกร้อง              รำพัน สรรพสัตว์จาบัลย์               ร่ำไห้ ถ้อยคำล่องลอยผัน            ถึงเทพ ทางหนึ่งที่ช่วยได้               มรรคนั้นนิพพาน คำอธิษฐาน  ของคนเรา  มีหลายแบบ ขึ้นกับสิ่ง   ซ่อนแอบ   ปรารถนา คำวิงวอน   ปลิวผ่าน   กาลเวลา ภาวนา   เพื่อได้มา  แลครอบครอง อธิษฐาน  ต่อทวยเทพ   อย่างตั้งจิต เฝ้าวอนขอ  พรหมลิขิต   ผ่านภัยผอง สวดคาถา   ใช้มนตรา   ตามครรลอง บวงสรวงก้อง  กู่ดินฟ้า  มาเยือนยิน อธิษฐาน   ต่อจันทรา  คราค่ำนี้ โปรดประทาน  สิ่งแสนดี  สุดถวิล ตั้งดวงจิต  ในศีลธรรม  ไร้มลทิน น้ำตาริน  อาบแก้ม  แย้มความใน.. อธิษฐาน   เบื้องหน้า  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ โปรดบันดาล  ภาพนิมิต  ดวงจิตใส กลิ่นควันธูป   กำยานฟุ้ง  จรุงใจ เพียงพุท-โธ   กำหนดไว้   เท่านั้นเอง   ... สรรพสัตว์  ร่ำไห้   ทุกภูมิภพ นับบรรจบ  มวลน้ำตา  ข้าโหวงเหวง ทุกสมุทร  บนโลกนี้  น้อยนิดเอง แสนหวั่นเกรง   การเวียนว่าย  ตายเกิดตรม คำอธิษฐาน   ผ่านชั้นฟ้า   พรหมโลก มนุษย์โศก  เทพวิโยค  ใช่สุขสม การพลัดพราก  ความสูญเสีย  ทุกข์ระทม ความขื่นขม  นั้นหลุดได้   ด้วยนิพพาน.. -------------------------- ขอขอบคุณเพลงประกอบ   --คำอธิษฐานด้วยน้ำตา---โดม  the star 8--- แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 55 02:22:23 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 55 02:20:58 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 55 02:12:03 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 02:09:42

ความคิดเห็นที่ 31 อัศวินจากเหย้า              แดนจันทร์ จุติสู่โลกฝัน                  ฟากนี้ นางมาเพื่อลงทัณฑ์        ศาสตร์มืด กำจัดให้หลีกลี้               ฤทธิ์สิ้นจิตมาร เซลเล่อร์มูนเพื่อนพ้อง     มัธยม วัยรุ่นผู้เหมาะสม             ต่อสู้ ภารกิจชื่นชม                 เป็นแบบ ญี่ปุ่นสอนเด็กรู้              เรื่องนี้อุบาย --------------------------- "ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ จะลงทัณฑ์แกเอง" คำกล่าวที่เซลเล่อร์มูนพูดทุกครั้ง  ก่อนจะใช้วงแหวนจันทรากำจัดศัตรูร้าย  กลุ่มปีศาจที่จะนำพาโลกนี้ไปสู่ความมืดมิดตลอดกาล จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 02:42:03

ความคิดเห็นที่ 32 ... คห.30 – 31 สวัสดีค่ะ คุณแฟนนายแบบ คำอธิษฐาน  แต่เบื้อง.......บรรพกาล ด้วย  มุ่งจิตบนบาน..........บากหน้า น้ำ  เครื่องเซ่นประมาณ....มนต์เสก ตา  ภูติปลายป่าช้า..........วาบเวิ้งประกายหวัง เรื่อง ไม่เป็นเรื่องร้อย.......ลวงพราย นี้    จับความสาธยาย.......ยกย้ำ อุ   โมงค์บากดินราย........หลุมหล่น “บาย- กะซาย”ซาวน้ำ......ก่อนเข้าเตาหุง ** เพิ่งทราบจากพจนานุกรมว่า บายกะซาย แปลว่า ข้าวเจ้า ค่ะ ^_^ http://guru.sanook.com/search/knowledge_search.php?qID=&wi=&hnl=&ob=&asc=&q=%BA%D2%C2%A1%D0%AB%D2%C2&select=1 พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร บายกะซาย  คำแปล  (ขม.) น. ข้าวเจ้า.** ........... # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ # จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 11:35:20

ความคิดเห็นที่ 33 จันทร์จรมาแจ่มฟ้า..........คืนเพ็ญ โสมส่องแสงเยือนเย็น......สู่หล้า แขเคียงคู่ดาวเห็น............ฤๅห่าง  รัตติกาล ลอยเลื่อนไกลเกินคว้า......สุดเอื้อมโอบดวง แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 55 00:12:01 จากคุณ : นักรบสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 00:01:22

ความคิดเห็นที่ 34 ขอขอบคุณกระทู้                จันทร ความคิดเห็นโคลงกลอน       แจ่มจ้า ได้สดับอักษร                    แสนสุข เต็มเปี่ยมหายเมื่อยล้า          โลกนี้งดงาม อาศรมผุดผาดแจ้ง                รัศมี สาดส่องผ่องพิธี                   กล่าวอ้าง "พลอย"เพชรเม็ดมณี             จำรัส "ธน"งามสล้าง                      เพริศแพร้วคำโคลง ----------------------------- แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 55 11:25:11 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 55 11:23:44 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 55 11:12:53 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 55 11:11:58 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 11:10:40

ความคิดเห็นที่ 35 ... คห.33 สวัสดีค่ะ คุณ นักรบสายรุ้ง ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาวางโคลง สุด      ทรวงถึงฝั่งฟ้า...........เรืองสี เอื้อม    กวักโค้งเคียววิถี.......ถักร้อย โอบ      ปลายจรดปฐพี.........เพียงรอบ ดวง       ปทีปทอสานสร้อย....เรี่ยมรุ้งตระกองกาล .......... ... คห.34 สวัสดีค่ะ คุณแฟนนายแบบ   ขอบคุณสำหรับคำโคลงเปี่ยมมิตรไมตรีด้วยค่ะ เพริศ  พราวภาพฉาบห้วง.......จินตนา แพร้ว  ผลึกใสจรรยา............จิตต้อง คำ      สารสื่อเจรจา.............มิ่งมิตร โคลง   หน่อยประคองคล้อง....เคี่ยวข้นกระแสความ .......... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 16:12:48

ความคิดเห็นที่ 36 Nothing's gonna change my love for you ( Glenn Medeiros ) หามีสิ่งหลากล้วน             อันใด สามารถมาเปลี่ยนใจ        หนึ่งนี้ จนยังรักคลาไคล             เป็นจืด  จางแฮ คงผูกพันกันที่                 แน่นเท่าวันตาย ฯ จรรยามารยาททั้ง           อัตตา  แม่เฮย หาใช่ใครควรมา             เปลี่ยนได้ เป็นอยู่อย่างใด ครา       คราวก่อน  นาแม่ คงจริตตามเดิมไว้          เช่นนี้จึงควร ฯ ผูกพันกันด้วยโซ่           ตรึงตรวน คราล่วงกาลเป็นรวน       ขาดสะบั้น มนต์เสกเลขยันต์มวล      หมายเสื่อม  ทรามแฮ หาเทียบใจหนึ่งนั้น         บ่สิ้นไมตรี ฯ จัดให้ตามคำขอจากการ request มาจากหลัง main   เฮ๊ย หลังไมค์ ครับ   สำหรับเพลง Nothing's gonna change my love for you ซึ่ง  เป็นเพลงที่ค่อนข้างเก่า ( มั๊ก มาก ) สรุปสั้น ๆ พอได้ความนะครับ  แปลงเป็นโคลง หากแปลทั้งเพลง  ต้องมีทริ๊ป แต่เดิม  เพลงเพราะอยู่แล้ว แต่เมื่อผ่านการบรรเลงจากนิ้วที่เรียวงามพลิ้วไหว  และ สำคัญจากสุภาพสตรีน้อย ๆ ที่สวยงามด้วยแล้ว  เพลงยิ่งไพเราะมาก  จนมากยิ่งขึ้น จากสาวอัศจรรย์พันมือ  " กิ๊ฟจัง " ( ชื่อเสียงเรียงนามจริง ๆ ไม่รู้  ต้องไปสืบก่อน  อิอิ ) ปล.  เปล่าหลอก  ว่ามาแก้คำผิดครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 55 19:06:43 จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (ฮกกงจื้อ) เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 18:53:16

ความคิดเห็นที่ 37 ... คห.36 สวัสดีค่ะ หนุ่มน้อย ฮกกงจื้อ มาพร้อมกับบทเพลงจากนางฟ้าตัวน้อย และคำโคลงแสนไพเราะนะคะ เขื่อแน่ว่า ไม่ว่าใครผ่านมาอ่านพบ ก็ต้องยิ้มกว้างทุกคนค่ะ ... เมื่อ    แว่วเพลงแผ่วพริ้ว.....ฝากฝัน จันทร์  ตอบคำขอวัน..........อ่อนล้า เจ้า     สรรอีกสารพัน.........มิหวังสิ่ง-ใดเอย ยิ้ม     ที่งามเจิดจ้า............จึ่งแย้มถึงจันทร์ .......... ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 22:46:33

ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ    วันเก่าผ่านพ้น..........พันวาร จันทร์  ศาสตร์แต่โบราณ.....อ่านใบ้ เจ้า     กรมส่งคำขาน..........เตือนบอก ยิ้ม     รับปรับใจให้............ข่าวแจ้งภัยฝน จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 13:10:37

ความคิดเห็นที่ 39 ๏ เมื่อ รักเยือนแห่งห้อง         ฤดีใด จันทร์ ย่อมผ่องอำไพ            ผาดหน้า เจ้า เนื้อนิ่มแก้มใส                 ประกายสุข ยิ้ม นุชแต้มเต็มฟ้า                 กี่ฟ้าใสเสมอ ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 17:02:31

ความคิดเห็นที่ 40 ... คห.39 ขอบคุณค่ะ คุณพี่ ^_^ กี่ฟ้าใสเสมอ กี่     ฟ้าต่อกี่ฟ้า.............เพียงผืน ฟ้า  เปี่ยมเดือนดาวคืน.....พร่างแพร้ว ใส  ไออุ่นแสงกลืน.........วันใหม่ เสมอ กี่ทรวงหลับแล้ว.....ตื่นรู้คืนวัน จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 18:04:44

ความคิดเห็นที่ 41 แรงลมชากรากไทรล้มไม้ต้น ตฤณเหนือบนผิวดินลู่ศิลป์สอน ปรัชญา"เหลาจื๊อ"สื่อสังวร ละแข็งก่อนอ่อนดามตามวิธี อณูน้ำเหลวห่มรับกลมเหลี่ยม สูงต่ำเตรียมพร้อมสรรพปรับวิถี เฉกจอมทัพล้อมทุ่งอ้อมคีรี ปรัชญา..ชี้อ่อนแข็งนัยแข็งจริง... จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 12:02:27

ความคิดเห็นที่ 42 20.57 น. ๏ เมื่อพิศ มิตรเพื่อสร้าง ... ไมตรี   จันทร์แหว่ง แจงหวั่นซี ..... วุ่นว้า เจ้าปรับ จับเป้ามี ............. ยิ้มพลาด ไหมเวย ยิ้มที่ ยี้ทิ่มหน้า ............... ย่อมไร้เพื่อนแล ๚ะ๛ 21.21 น. --------------------------------------------------------------- จาก My Blog ๏ พลาดนิ > < พินาศ ๏ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noggoge&month=04-2012&group=1&date=23&gblog=60 --------------------------------------------------------------- วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 15     20.02 น. (ผวนโคลงสู้-ผู้โคลงสวน) ๏ พลาดคริ พิฆาต-ครื้น ..... เครง-ขัด เคืองฮา คริพลาด คาด-ภิบัติ .......... เกิดได้ ก็-ยิ้มกริ่ม-เยาะ หมัด......... เขาอัด เอานา ไยเครียด เหยียดใคร ให้ ... ขุ่นข้องเคืองกัน ๏ พลาดขัน พลันขาดยิ้ม ... พิมใจ ยิ้มนะ ยะนิ่มใน ............... นอกแย้ม พลันเกลื่อน เพื่อนกันภัย ... ไปทั่ว โลกแล ผวนคิด ผิดควรแต้ม ......... แต่งยิ้มเต็มสยาม ๚ะ๛ (คริคริ) 20.23 น. โดย: นกโก๊ก  วันที่: 15 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:24:29 น. --------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 55 21:29:17 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 21:27:39

ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ.....วานนั่งเฝ้าคิด          คำนึืง ถึงนา จันทร์...ก่อนยังรำพึง          พร่ำเพ้อ เจ้า......จากภาพตราตรึง     ดวงจิต ยิ้ม......ร่าบ่ยิ้มเก้อ             เมื่อเจ้าคืนตังค์ (สักที) จากคุณ : แกงน้อย ณ อาศรมฯ (Little Red) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 08:24:49

ความคิดเห็นที่ 44 ... คห.41 สวัสดีค่ะ คุณลุงชิกง   เมื่อจันทร์เจ้ายิ้ม เมื่อ        การเมืองรอบร้อน.........รายวัน จันทร์      ยุติช่วงประชัน.............ลากไส้ เจ้า         หน้าที่หาวกัน...............ยันเลิก ยิ้ม         ขณะประธานให้............เสร็จสิ้นการประชุม .......... .. คห.42 สวัสดีค่ะ พี่นกโก๊ก ย่อมไร้เพื่อนแล ย่อม     ย่อมขนาดนั้น................เหมาะดี ไร้        ร่วงหล่นทัพพี................ตักเงื้อ เพื่อน    บ้านหยิบฝาชี................ครอบปิด แล       ว่าแกงอร่อยเนื้อ............แน่นข้นล้นชาม .......... .. คห.43 สวัสดีค่ะ ท่าน แดงน้อย ณ อาศรม (Little Red) เมื่อเจ้าคืนตังค์ (สักที) เมื่อ       เยาว์วัยแกล้งเพื่อน.......ขำขำ เจ้า        เด็กน้อยจดจำ..............บัดนี้ คืน        ดีเมื่อรับคำ...................รับปาก ตังค์       ผ่อนไม่หนีหนี้..............อีกแล้วเพื่อนเอย .......... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 14:11:01

ความคิดเห็นที่ 45 อีก.......แก้วรินยกให้             เกลอขวัญ แล้ว......ตักกับแกล้มอัน         อร่อยลิ้น เพื่อน....รักมักแบ่งปัน            แบ่งสุข เอย......อิ่มเกินเพื่อนดิ่น         เร่งเข้าโรง'บาล จากคุณ : แกงน้อย ณ อาศรมฯ (Little Red) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 16:54:46

ความคิดเห็นที่ 46 19.27 น. ๏ ยิ้มพลาด ญาติ พริ้มหลับ ... ฤๅสน ยิ้มเพื่อ เหยื่อพริ้ม คน .......... ชั่วร้าย นั่งยิ้ม นิ่มยั้ง ทน ................. ทานอยู่ ยิ้มท่า อย่าทิ่ม อ้าย ............. ฝึกยิ้มทุกวัน ๚ะ๛ (อิอิ) 13.31 น. ------------------------------------------------------------------------ แง่มแง่ม ... พลาดจนได้ ... แก้ไขเวลาจบโคลง เป็น 19.31 น. นิ ... งิงิ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 55 19:58:58 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 19:35:43

ความคิดเห็นที่ 47 ... คห.45  สวัสดีค่ะ ท่าน  แกงน้อย ณ อาศรมฯ (Little Red) ขออนุญาตปาดเหงื่อไปด้วย ต่อโคลงไปด้วยนะคะท่าน  ^_^ เร่ง    เหยียบคันเร่งร้อน......ทะลุไมล์ เข้า   จับความเร็วไว...........ส่องกล้อง โรง    พักอยู่ไม่ไกล..........ทางด่วน ’บาล กฏเหล็กปกป้อง........ซิ่งสะท้านจงระวัง .......... ... คห.46 สวัสดีค่ะ พี่นกโก๊ก ฝึก    คนฝนคึกด้วย...........การเขียน ยิ้ม   เก่าเยาว์กริ่มเรียน.......เล่นบ้าง ทุก   คาบทาบขลุกเพียร......พินิจท่อง วัน   ผ่านวารผันสร้าง..........ศิษย์รู้คุณครู .......... ราตรีสวัสดิ์ค่ะทุกท่าน จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 00:00:35

ความคิดเห็นที่ 48 ศิษย์  ศากยะเจ้า           พุทธา รู้  เหตุดับทุกขา            หมดสิ้น คุณ ท่านมอบปัญญา      สัตว์โลก ครู บอกเกิดแดดิ้น         เนื่องด้วยปัจจัย ขอตั้งจิตแผ่แล้ว           กุศล ภพชาติภูมิเวหน            ทั่วถ้วน สัพเพสัตตายล             ธรรมะ อวิืชชาหลากล้วน          ลึกล้นทำลาย จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 01:55:35

ความคิดเห็นที่ 49 พราวพราวพรรณเพริศแพร้ว          ผองดา  ริกาเฮย ผ่องผ่องแวววรรณวิภา                 พรั่งพร้อม พรายพรายแจ่มจันทรา                เทียมจรัศ  ใจแฮ           พร่างพร่างเรียงรายล้อม               หลากล้วนเรืองพิไล ฯ ดาวใดไหนที่เจ้า                         เคยมอง หรือหนึ่งดาวเรืองรอง                   ฟากโพ้น ดวงดาวกลุ่มงามผอง                    เรียงระดับ  นั่นฤา ไหนนั่นฤาดาวโน้น                       นั่นนี้ดวงใด ฯ เดือนดาวอันแต่งแต้ม                   ราตรี ยามมิ่งขวัญชม มี                        มากน้อย จงร่วงสู่ธรณี                               ดังจิต  ปองแฮ                 เราจักเรียงสายสร้อย                    มอบน้องพรพรรณ ฯ เป็นสายรายรอบด้วย                    จันทรา เรียงระดับดวงดาริกา                    พร่างแพร้ว คงงามดั่งใจ พา                           อนงค์ชื่น  ชมเฮย ถึงแม่เห็นสร้อยแล้ว                      จักทิ้งคงยอม ฯ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (ฮกกงจื้อ) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 19:41:35

ความคิดเห็นที่ 50 ... คห.48 สวัสดีค่ะคุณแฟนนายแบบ ลึก    เกินใจหยั่งรู้่...........เลวดี ล้น    เรื่องล้นราวมี..........มากน้อย ทำ    อยู่คิดอยู่ชี-............วิตล่วง เลยแฮ ลาย   เด่นรอยด่างพร้อย....ฉาบแต้มตัวตน .......... ... คห.49 สวัสดีค่ะ หนุ่มน้อย ฮกกงจื้อ ไม่ใกล้ไม่ไกล หากรู้หัวใจ...............ส่องไฟแห่งฝัน ณ ราตรีกาล.............เบิกม่านวารวัน เส้นแสงเฉิดฉัน.........ช่วงชั้นทางดาว ดาวเยือนเรือนตา เด่นเหนือนครา.........คล้อยหล้าคราคราว พริบพริบลิบลับ........ประดับห้วงหาว เรียงร้อยเรื่องราว......บอกเล่าความนัย มิสิ้นยินยล จินตกานต์ดล.........ต้องมนต์อำไพ ถ้อยท่วงลำนำ........ดาวย้ำคำใคร ไม่ใกล้ไม่ไกล.......เกินไขว่คว้าครอง นับเนื่องเรืองราม สัมผัสพิศความ........นิยามครรลอง แม้นบางเงามืด........พาดพืดโลกผอง ดาวไหนใฝ่ปอง.......มอบคล้องใจกัน เบื้องหน้าฟ้างาม ทั่วทุกเขตคาม........ไร้ความเงียบงัน เส้นทางทอดยาว.....ตราบดาวพราวฝัน ตอบถ้อยจำนรรจ์....คู่ขวัญฝากดาว ..... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 22:40:17

ความคิดเห็นที่ 51 สุริยุปราคา ............... สุริ  ยายังเบิกฟ้า............เบิกฝัน ยุ- (ป)ฏิกิริยาอัน............ตื่นเต้น รา  คาบ่งแต่วัน..............หุ้นเปิด คา  กระดานปั่นเหล้น......ปิดลุ้นกำไร .......... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1337509669&grpid=03&catid&subcatid ที่มาข่าว - ประชาชาติออนไลน์ ตื่นให้เช้า(มืด)รอชมสุริยุปราคาวงแหวน หรือดวงอาทิตย์แหว่ง เช้าวันจันทร์ 21 พ.ค.นี้ นายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.50 น. ถึงเวลาประมาณ 06.06 น. จะเกิดปรากฏการณ์ สุริยุปราคาวงแหวน ชุดซารอสที่ 128 โดยปรากฏการณ์สุริยุปราคาครั้งนี้ เป็นสุริยุปราคาแบบวงแหวน ซึ่งแนวการบังจะเริ่มทางตอนใต้ของจีนเคลื่อนไปทางตะวันออกผ่าน มหาสมุทรแปซิฟิก และทวีปอเมริกา รวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย ยกเว้นทางภาคใต้     สำหรับประเทศไทยสามารถชมปรากฏการณ์ครั้งนี้ในรูปแบบสุริยุปราคาบางส่วน โดยสังเกตเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วนในหลายพื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ยกเว้นภาคใต้ โดยเกิดสุริยุปราคาขณะดวงอาทิตย์ขึ้น ซึ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากที่สุด และนานกว่าภาคอื่นๆ     ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันที่เกิดปรากฏการณ์ เนื่องจากดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ขอบฟ้า อาจมีเมฆบังทำให้มองไม่เห็นดวงอาทิตย์ขณะเกิดปรากฏการณ์ จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 18:41:33

ความคิดเห็นที่ 52 มืด. มนจนเสื่อมสิ้น. สุริยัน ฟ้า. เขมือบมวลดาวจันทร์. ดับด้วย มัว. ภพหม่นภาคยัน. ไตรโลก ดิน  แตกดอนแยกม้วย. หมดผู้นรชน จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (ฮกกงจื้อ) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 17:07:21

ความคิดเห็นที่ 53 ... คห.52 ขอบคุณค่ะ หนุ่มน้ิอย ฮกกงจื้อ หมด ความหวานผ่องสิ้น..จันทรา ผู้  ใฝ่เฝ้าหมายตา........หลับแล้ว นร-ชาติพลิกผันรา-......ตรีล่วง     ชน อีกวันคลาดแคล้ว...ตื่นพ้นหลงใหล . เปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะคะ ^_^ ตื่น พ้น หลง ใหล จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 23:39:38

ความคิดเห็นที่ 54 ตื่น      ตอนเช้าเจ้ามุ่ง..........บินไกล พ้น      สู่พรมแดนใด...........เดี่ยวด้าว หลง     ไปกว่าสุดใจ.............กำหนด ไหล     ล่วงขอบฟ้าอะคร้าว....ฝ่าโพ้นคืนรัง . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 10:17:41

ความคิดเห็นที่ 55 ฝ่า..ฝันหวังพรุ่งพร้อม..........ดังหวัง โพ้น...ถิ่นรักชิงชัง..............ต่ำใต้ คืน...ครอบสู่กรงขัง.............ใจสู่ ใจเฮย รัง...นั่นหมายเคียงใกล้.........อยู่เหย้าภิรมย์สนอง สวัสดีหนูพลอยธนาคนเก่ง และ ทุกท่านในกระทู้ค่ะ จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 20:15:28

ความคิดเห็นที่ 56 อยู่  กับลมออก-เข้า      พุทโธ เหย้า เยี่ยมเปี่ยมสุโข     ร่างนี้ ภิรมย์  ทุกวาโย            นาสิก มุ่ง สนอง กระพี้           แก่นนั้นกายครอง ยิ้มรับผืนแผ่นฟ้า          จักรวาล ยิ้มรับด้วยสังขาร         โอบเอื้อ ยิ้มรับพลังงาน            ปิติ ยิ้มรับความเอื้อเฟื้อ      มอบไว้พุทธองค์ ภาพประกอบ:พระพุทธยิ้มรับฟ้า  องค์พระประธานวัดระฆังโฆษิตาราม ---------------------- แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 09:19:15 จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 09:13:55

ความคิดเห็นที่ 57 มอบ   สิทธิ์ลดหย่อนรู้.........ดำเนิน ไว้      เรื่องศรัทธาเดิน........เรื่องได้ พุทธ    และทุกศาสน์เชิญ....บริจาค องค์    ประกอบครบให้........ประหยัดบ้างภาษี . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 16:34:14

ความคิดเห็นที่ 58 ประหยัด เลือกบริโภคไร้......สารพิษ บ้าง  ผนวกหลักชีวจิต.........ซ่อมสร้าง ภา – วะพร่องชีวิต..............กลับชื่น       (ฤ)ษี เยี่ยงเราฝึกล้าง.........ระบบทั้งกายใจ . "...  ขออนุญาตทักทาย คุณแม่ใจดีด้วย นะคะ สวัสดีค่ะ คุณแม่ใจดี ขอบพระคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย และวางโคลงค่ะ " จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 11:22:38

ความคิดเห็นที่ 59 ระบบ  เตือนปรับตั้งค่า.........ฉุกเฉิน ทั้ง     เผื่อเหลือขาดเกิน......ซักซ้อม กาย   ที่แกร่งพร้อมเผชิญ....เหตุด่วน ใจ     นักดับเพลิงพร้อม......หยุดยั้งอัคคีภัย(เอย) . *** กลับมาแก้ไขค่ะ ตามหลักฉันทลักษณ์ของโคลง บาทที่ 4 วรรคที่ 2 ต้องมี 4 คำเสมอ เว้นไว้แต่ว่า 4 คำนั้นไม่อมความสมบูรณ์ ท่านผู้รู้จึงอนุโลม ให้เพิ่มเป็น 5 หรือ 6 คำได้ แต่ต้องเพิ่ม "สร้อยโคลง" ต่อท้ายเสมอ ดังนั้น พลอยจึงกลับมาเติม (เอย) ค่ะ ขอบคุณท่านผู้แนะนำหลังไมค์ค่ะ *** แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 55 22:52:35 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 12:15:37

ความคิดเห็นที่ 60 หยุด  ขัดขากลั่นแกล้ง .................... ปรองดอง ยั้ง     คิดพินิจมอง ......................... ถ่องแท้ อัคคี   เผาซากกอง ........................ ไผก่อ  แมลงเอย ภัย     ต่อแผ่นดินแก้ ...................... ต่างด้วยใครนอ ๐ ผ่านพระแก้วมรกต ..................... ใคร่สบถใครสั่งคร่า   เดรัจฉานชาติม้า ....................... ดำขาวซ่าขอแช่งมัน ๐ นอนหลับไม่สนิท  ....................... พ่อเป็นหิตลูกเป็นหมัน   ชาติชั่วสิ้นสูญพันธุ์ ...................... เป็นแม่นมั่นโอมเพี้ยงเพี้ยง จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 16:34:19

ความคิดเห็นที่ 61 เขียนโคลงเพียงบทนั้น         แสนเข็ญ เคยช่ำชองไยเป็น               ยากแท้ มึนหัวยิ่งไม่เห็น                  โทเอก เขียนผิดเขียนถูกแม้            นั่งจ้องมานาน ฯ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (ฮกกงจื้อ) เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 18:39:41

ความคิดเห็นที่ 62 ... คห . 60 คุณลุงชิกง สวัสดีค่ะ ต่าง     กอแตกเหล่าแล้ว...กลายพันธุ์ ด้วย    มุ่งหมายต่างกัน.....ต่างถ้อง ใคร    ผ่าเหล่าดึงดัน.......เผยธาตุ-แท้นา นอ    ผุดขุดเหง้าฟ้อง......แม่ไม้ชนิดใด .......... ... คห.61 สวัสดีค่ะ หนุ่มน้อย ฮกกงจื้อ แม่    เอ่ยคำออดอ้อน........เชิญชวน ไม้    กลัดใบตองมวน........ห่อพร้อม ชนิด  กาละแมกวน...........หลายหลาก ใด    ก็สี "ปี๊ป"ย้อม..........นั่งจ้องมานาน http://www.thaimuslim.com/overview.php?c=3&id=7956 รู้ไหมกว่าจะได้ขนมกาละแม ขนมกาละแมที่เราทั้งหลายเคยทานกันหรือบางท่านก็ไม่เคยทาน แต่รู้หรือไม่ว่ากว่าจะได้ขนมหวานที่เรียกกาละแมนั้นยากเย็นแค่ไหน ขนมกาละแมนั้น เป็นขนมประเภทกวนซึ่งใช้เวลานานมากในการที่จะทำมันให้สำเร็จ กาละแมนั้นมีเท่าที่เคยได้ทานมามีอยู่สองประเภท คือแบบที่ทำจากแป้งและแบบที่ทำจากข้าวเหนียว ซึ่งส่วนมากนั้นจะเป็นแบบที่ทำมาจากแป้ง กาละแมนั้นมีส่วนผสมอยู่ไม่มาก นั้นคือตัวแป้งหรือข้าวเหนียว น้ำตาลปีบ และกระทิ และที่บอกว่ากว่าจะได้มานั้นอยู่ที่กรรมวิธีการทำต่างหากที่ยากเย็นสุดๆ ซึ่งถ้าทำจากข้าวเหนียวแล้วยิ่งนานใหญ่ ซึ่งวิธีทำนั้นเขาจะตั้งกะทะใบใหญ่และใส่น้ำกระทิใส่แป้งหรือข้าวเหนียวกวนกันให้เข้าเป็นเนื้อเดียวยิ่งถ้าเป็นข้าวเหนียวแล้วด้วยยิ่งต้องกวนให้เป็นเนื้อเดียวกันกว่าจะเป็นได้ขนาดนั้นนานสุดๆขอบอก และถ้าเข้ากันเรียบร้อยแล้วให้ใส่น้ำตาลปีบลงไปแล้วกวนให้เข้ากันจนกว่าจะเป็นเนื้อเดียวตรงนี้ละที่เหหนื่อยสุดกว่าน้ำตาลจะแตก กว่าจะรวมตัวเป็นเนื้อเดียวและต้องคอยกวนอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้มันใหม้ติดกะทะ กว่าจะทำเสร็จสักหนึ่งกระทะก็ กินเวลาไปเกือบวันหนึ่งพอดี อันนี้ที่เล่าได้เพราะเเป้นประสบการณ์ตรงแต่สำหรับท่านอื่นที่เคยทำอาจจะไวกว่านี้หรืออย่างไรก็แล้วแต่ฝีมือ แต่ขอบอกว่าที่ราคาของขนมกาลาแมมันสูงนั้นเพราะมันยากเย็นแสนเข็นกว่าจะได้มา แต่ก็อร่อยดี . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 21:31:30

ความคิดเห็นที่ 63 นั่ง     เบียดใครไม่รู้-......จักกัน จ้อง   "กระเป๋า"เงียบงัน...ครุ่นคล้าย มา    อัดแน่นเต็มคัน......รถขาด-ระยะเวย นาน  กวาดคนทุกป้าย....กู่ก้องชิดใน . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 22:06:46

ความคิดเห็นที่ 64                ^_^ กู่     เสียงคอโก่งเค้น..........ไก่ขัน ก้อง  ปลุกคนช่างฝัน...........ตื่นเช้า ชิด    ขอบเขตประจัน.........จอมกร่าง ใน    แมตซ์ใหญ่นอกเล้า....แข่งลุ้นรอเชียร์ . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 10:52:08

ความคิดเห็นที่ 65 แข่ง   ขันกันยื้อแย่ง........มวลชน ลุ้น    หมดหน้าตักตน.......ทุ่มสร้าง รอ    ผลพลิกแพลงจน.....ไหวหวั่น เชียร์ แช่งแบ่งเป็นข้าง......ชนะแพ้นอกเกมส์ . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 08:49:19

ความคิดเห็นที่ 66 ชนะ...ใดไหนเท่าแท้         ชนะตน แพ้....กิเลสทุกข์ทน          เร่งเร้า นอก...ในต่างมืดมน          หดหู่ เกมส์...ละตัณหาเฝ้า         เพ่งด้วยอสุภะ จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:23:30

ความคิดเห็นที่ 67 เพ่ง    มองเมฆมืดฟ้า......คลุมสลัว ด้วย   ขลาดเขลาเมามัว...หลบลี้ อสุ-   นีบาตฟาดหัว-.......ใจแหลก ภ(ะ)วัง-คจิตยามนี้..........เกิดได้ฉันใด . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 23:33:34

ความคิดเห็นที่ 68 เกิดแล้วตายแล้วเกิด........ อสงไขย ได้นับกระทู้ถูกใจ............ไม่ถ้วน ฉันทลักษณ์กลับลืมไป......เกือบหมด ใดอนิจจังในโลกล้วน....... มั่วแม้นมึนหมอง แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 55 08:22:43 จากคุณ : KAVINT เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 08:21:53

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณค่ะ คุณ KAVINT (คห.68) มั่ว     งานรับฝากไว้.........วันวาน แม้น   เพื่อนจักลานาน......พักร้อน มึน     อยู่กับเอกสาร........กองเก่า หมอง สบตานายค้อน.......แค่ครั้งยังหนาว . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 14:29:31

ความคิดเห็นที่ 70 แค่  โคลงเพียงบาทเบื้อง             บรรพกาล ครั้ง   พากเพียรจดจาร                แจ่มแจ้ง ยัง   มืดหม่นอนธการ                  กลายเสื่อม หนาว  ล่วงร้อนเลย แกล้ง            เกริ่นอ้างคำกวี ฯ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (ฮกกงจื้อ) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 12:58:44

ความคิดเห็นที่ 71          *_______________* เกริ่น    หัวเรื่องว่าล้ม.......กระดาน อ้าง     อวดวิชามาร.........เร่งเร้า คำ      บัญญัติเฉพาะกาล..เปรยป่วน กวี      นี่สิแอบเศร้า..........บ่กล้าชี้นำ . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 13:30:14

ความคิดเห็นที่ 72 บ่(อ)  ลึกรังแต่ตื้น.........เห็นตม       กล้า   ขุดมิกล้างม..........ตักทิ้ง ชี้      ทางหลีกทับถม......แหล่งปฏิ-กูลเฮย นำ    ลอกบ่อลวงกลิ้ง.....ดิ่งก้นบาดาล . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 23:26:31

ความคิดเห็นที่ 73 ดิ่ง    ไปหานิ่มน้อง..........ตามนัด ก้น    ตรอกรถแออัด.......จอดกั้น บา(ก) บั่นมุ่งเลาะลัด.......ยามรีบ ดาล  เดือดข่มใจครั้น.......ผ่านเข้าผิดซอย . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 22:17:10

ความคิดเห็นที่ 75 ผ่าน   หนาวแล้วผ่านร้อน...ผ่านฝน เข้า   ออกแต่ตำบล..........หมู่บ้าน ผิด   หูผิดตายล..............สวยสะพรั่ง ซอย ร่มครึ้มรอบด้าน.......เปี่ยมต้นดอกใบ . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 22:21:14

ความคิดเห็นที่ 76 เปี่ยม   จินต์เหนือฟากฟ้า....ผาโตรก ต้น      เหตุทำนายโชค.......สุขเศร้า ดอก    ศุกร์ซุกอ้อมโลก......เรียงตะ-วันแฮ ใบ       แผ่เรืองแสงเหย้า....สุดห้วงพิศวง http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1338792942&grpid=03&catid=&subcatid= วันพุธที่ 6 มิถุนายน 2555 นี้ คนไทยทั้งประเทศจะได้ชมปรากฏการณ์ดาราศาสตร์แห่งศตวรรษ “ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์” (Venus Transit) หากพลาดหนนี้ต้องรออีก 105 ปี ดร. ศรัณย์  โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ นับเป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าติดตามที่สุดของ ปี 2555  โดยครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ดาวศุกร์เคลื่อนที่ผ่านแนวเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์ ดาวศุกร์ และโลก เรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกัน เมื่อสังเกตจากโลกจะเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นจุดกลมเล็ก ๆ เคลื่อนที่ผ่านดวงอาทิตย์ (ถ้าเปรียบเทียบขนาดของดวงอาทิตย์เท่ากับลูกบาสเกตบอล ขณะที่ดาวศุกร์ที่ปรากฏมีขนาดเท่ากับเม็ดถั่วเขียว) โดยดาวศุกร์จะเคลื่อนที่ตัดจากขอบด้านตะวันออกของดวงอาทิตย์ไปยังด้านตะวันตกใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 6 ชั่วโมง  สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ดวงอาทิตย์โผล่พ้นจากขอบฟ้าเวลา 05:49 จนถึงเวลาประมาณ 11:49 น. (ตามเวลาประเทศไทย  ณ กรุงเทพมหานคร) ของวันที่ 6 มิถุนายน 2555 และสามารถสังเกตเห็นได้ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ความน่าสนใจของการเกิดปรากฏการณ์นี้  ในอดีตการศึกษาปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ทำให้นักดาราศาสตร์สามารถคำนวณหาระยะทางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ได้ จึงนับเป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ทำให้มนุษย์ทราบขนาดของระบบสุริยะได้เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2312 ปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์นี้จะเกิดขึ้นสองครั้งในรอบกว่า 100 ปี แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 8 ปี นักดาราศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ปรากฏการณ์แห่งศตวรรษ” ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2547 แต่ถ้าพลาดในวันที่ 6 มิถุนายน 2555 นี้ไปแล้วจะต้องรออีก 105 ปี จึงจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.2660 ทั้งนี้การชมดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ห้ามมองด้วยตาเปล่า เพราะเป็นอันตรายต่อตาทำให้ตาบอดได้  อย่าบันทึกภาพดวงอาทิตย์ด้วยกล้องดิจิตัล หรือกล้องจากโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากเลนส์ของกล้องต่างๆ เหล่านี้มีคุณสมบัติในการรวมแสง การมองภาพที่ส่องจากเลนส์ไปยังดวงอาทิตย์โดยตรง และจะทำให้อุปกรณ์ถ่ายภาพของเสียหาย การชมดาวศุกร์ผ่านดวงอาทิตย์ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการชม ที่มีความปลอดภัยสูง เท่านั้น  เช่น กล้องโทรทรรศน์ที่ติดแผ่นกรองกรองแสง  แว่นดูดวงอาทิตย์ หรืออาจใช้อุปกรณ์สังเกตการณ์ทางอ้อม  เช่น  การฉายภาพดวงอาทิตย์บนฉากรับภาพจากกล้องโทรทรรศน์  เป็นต้น สำหรับการตั้งจุดสังเกตปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ในครั้งนี้ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) ร่วมกับเครือข่ายทางดาราศาสตร์กว่า 51 หน่วยงานในหลายจังหวัดตั้งจุดสังเกตปรากฏการณ์ดังกล่าว (รายชื่อหน่วยงานร่วมจัดกิจกรรมติดตามได้จากเว็บไซต์ www.narit.or.th) เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้สัมผัสปรากฎการณ์ดาราศาสตร์แห่งศตวรรษในครั้งนี้ไปพร้อมๆ กัน โดยกิจกรรมหลักจะเป็นการตั้งกล้องโทรทรรศน์และอุปกรณ์เพื่อสังเกตปรากฏการณ์ ในส่วนของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) ได้ร่วมกับอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตั้งจุดสังเกตการณ์และถ่ายทอดสดปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ณ บริเวณลานกิจกรรมหน้าอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมทางดาราศาสตร์สำหรับประชาชนมากมาย อาทิเช่น • ตั้งกล้องโทรทรรศน์จำนวนกว่า 20 ตัว พร้อมอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์ให้ประชาชนได้สัมผัสปรากฏการณ์ ดาราศาสตร์แห่งศตวรรษครั้งหนึ่งในชีวิต • ถ่ายทอดสดการเกิดปรากฏการณ์ผ่านจอภาพขนาดใหญ่ภายในบริเวณงานให้ชมกันอย่างเต็มตา • สังเกตดวงอาทิตย์ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ มากมาย อาทิ แว่นดูดวงอาทิตย์ Solarscope รวมทั้งการสังเกตดวงอาทิตย์ ทางอ้อมหลากหลายรูปแบบ โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นตั้งแต่เวลา 06.00-12.00 น. ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆหรือหากทางโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมเป็นหมู่คณะ สามารถแจ้งได้ที่ 053-225569 ต่อ 305 และ ประชาชนที่สนใจสามารถติดตามการถ่ายทอดสดเกาะติดการเกิดปรากฏการณ์ดาราศาสตร์แห่งศตวรรษ  ผ่านทางเว็บไซต์ของสถาบันฯ ที่  www.narit.or.th   ซึ่งถ่ายทอดจาก 3 จุด ได้แก่ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา จังหวัดสงขลา   หรือติดตามข้อมูลข่าวสารการเกิดปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ได้ที่  Facebook/ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ . เพิ่มเติม ข่าวจากมติชน แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 55 09:41:26 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 09:40:29

ความคิดเห็นที่ 77 สุด    เสียงกู่ก้องฟ้า...........ผึ่งผาย ห้วง   ทุกข์บ่ท้อหมาย.........อยู่ยั้ง พิศ    เพรงผ่านกาลกราย....หยัดแกร่ง วง     รอบชีวิตพลั้ง...........พลิกเพี้ยงพริบตา . (เพิ่มเติม) # ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ # แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 55 10:20:18 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 10:18:10