8
กว่าสองสัปดาห์ที่ข่าวคราวจากอีกซีกโลกหนึ่งเลือนหาย พร้อมกับภาระหน้าที่ที่แต่ละคนล้วนต้องรับผิดชอบแก่ตัว ความสนใจของลลิลดาเองก็ถูกงานดึงไปส่วนหนึ่งเหมือนกัน เมื่อบริษัทผลิตยาเสนอให้ทีมงานของเธอไปสัมมนาเปิดตลาดยังประเทศรัสเซียในฐานะนักวิจัยเดือนหน้านี้
แล้วต้องไปกี่วันล่ะลูก
อาทิตย์หนึ่งค่ะ
พักนี้ดวงลูกแม่เป็นอย่างไรนะ มีเรื่องให้ต้องเดินทางไกลเรื่อยเลย มารดาเปรยอย่างเห็นขัน
เธอสบายใจขึ้นบ้างหลังบุตรสาวไม่มีท่าทีสนอกสนใจข่าวความเป็นไปในประเทศคาซาเนียอีก อาการนิ่งงันของลูกวันนั้นพาให้เธอใจหาย แต่หลังจากนั้นเจ้าหล่อนก็กลับไปร่าเริงอย่างเก่า สมกับความตั้งใจที่ลลิลดาแสดงให้ทุกคนเห็นนั่นเอง
ไม่เหมือนกันสักหน่อย คราวนี้ลิลลี่ไปทำงานนะคะ
จ้า ไปเถอะ ถ้าอย่างไรก็ลองติดต่อเจคดูสิลูก เผื่อเขาว่างจะนั่งรถไฟมาเที่ยวมอสโคว์ ลิลลี่เคยบอกแม่ว่าจากคาซาเนียมีรถไฟวิ่งถึงกันใช่ไหม เรณูห่วงใยถึงลูกเลี้ยงอีกคน
หญิงสาวเห็นดีด้วยกับผู้เป็นแม่ รัสเซียกับคาซาเนียเป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน และกรุงมอสโคว์กับเมืองซุตซูก็ห่างกันไม่เท่าไรเลย หากพี่เดินทางมาหรือถ้าจะให้ดีเป็นเธอเดินทางไปก็ไม่ยากลำบากเกินไปนัก เธอไพล่นึกถึงตารางงานขึ้นมา แล้วให้ห่อเหี่ยวใจเมื่อตนคงไม่มีเวลาว่างมากพอ
แต่ทางเจคเล่า เธอไม่ได้รับข้อความใดๆ จากเขาเลยนับแต่เขาให้คำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะทางโทรศัพท์ แล้วก็เป็นเธอที่เลิกพยายามสอบถามข่าวคราวจากเขา ลลิลดาไม่ตองการไขว้เขวเพราะคำพูดจากคนที่ไม่รู้จักคาชาลอีกแล้ว ดังนั้น หากเธอจะติดต่อพี่ชาย ก็เพราะความคิดถึงฉันพี่น้องอย่างเดียว
....................
เฮ้ยๆ ลุกเว้ย ได้เวลาไปขึ้นศาลแล้วแก
เสียงกระบองเคาะกับลูกกรงเหล็กปลุกผู้ซึ่งนั่งจมจ่อมในภวังค์ให้ลุกยืนเชื่องช้า ห้องขังเดี่ยวที่เขาถูกจองจำมีขนาดใหญ่กว่าตู้เสื้อผ้าหรือปล่องไฟไม่กี่มากน้อย ไม่มีที่ให้ซุกหัวนอนสบาย แม้กระทั่งนั่งเหยียดขาก็สุดยังผนังอีกด้านหนึ่ง
ทันทีที่ประตูเหล็กเปิดออก ดวงตาซึ่งไม่คุ้นชินกับแสงมานานพลันหรี่ลง อากัปกิริยานั้นตรงข้ามกับผู้คุมซึ่งย่นจมูกหนีกลิ่นอับที่โชยออกมา เสียงสบถดังขรมเมื่อแมลงสาป แมงมุมพาเหรดตามมาเป็นพรวน
ขาแข้งซึ่งร้างราการใช้งานดูจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนัก เมื่อถูกถองด้วยกระบองจากด้านหลัง ร่างสูงโปร่งจึงเสียหลักไปข้างหน้าหลายก้าว ดีที่แรงหน่วงของโซ่ตรวนที่ข้อเท้าช่วยลงน้ำหนักเท้ามากกว่าเดิม เขาจึงไม่คะมำลงไป ชายหนุ่มรวบรวมลมหายใจลึก เขาจะเหยาะแหยะเช่นนี้ไม่ได้ มิเช่นนั้นการมุ่งใจจดจ่อรอคอยโอกาสนี้มาตลอดจะเสียผล
ภายในห้องมืดไร้แสงเดือนแสงตะวัน เขามีอาหารเพียงวันละมื้อประทังชีวิต ขนมปังขึ้นราเย็นชืดกับซุปข้นซึ่งใสราวน้ำเปล่า และได้พบทนายเพียงครั้งเดียวนับแต่ถูกจับกุม เขาปลงในชะตาชีวิตตัวเองเสียแล้ว ไม่มีทางล่ะที่เขาจะได้รับความยุติธรรม เพราะความยุติธรรมนั้นหมดสิ้นแล้วตั้งแต่เขาถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาลลักพาตัว!
เขาต้องหนี... ไปเสี่ยงตายเอาดาบหน้าดีกว่ารอวันที่โทษประหารมาถึงตน หรือไม่... เขาก็อาจตายด้วยโรคภัยอันเกิดจากสภาพความเป็นอยู่ในห้องขัง หากต้องพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาทั้งที เขาขอตายด้วยความพยายามต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอย่างถึงที่สุดแล้ว เมื่อนั้น เขาจะไม่เสียดายชีวิตเลย
เสียงโซ่ตรวนลากถูกับพื้นดังกังวาน เท้าทั้งสองลงน้ำหนักก้าวเดินเต็มฝ่าเท้า แต่ละก้าวบนพื้นเย็นเยียบสร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขนาบข้างด้วยผู้คุมร่างใหญ่สองนายซึ่งคอยใช้กระบองกระทุ้งให้เขาเดินไปตามทิศทางราวต้อนสัตว์ แทนที่จะล็อคแขนผู้ต้องขังไว้เพื่อความปลอดภัย กลิ่นเหม็นสาปจากเขาทำให้คนเหล่านั้นไม่อยากแตะต้องกาย
เถอะ ให้พวกมันรังเกียจเขาให้ตลอด คาชาลมองเห็นความหละหลวมอย่างคนที่คอยหาช่องทางให้ตัวเอง
ผู้คุมพานักโทษขึ้นรถขนผู้ต้องขังหลังเรือนจำ เขามองระยะทางจากจุดที่ยืนอยู่ไปถึงประตูเรือนจำซึ่งเปิดคอยท่า ไม่ต่ำกว่าร้อยเมตร และในสภาพร่างกายเช่นนี้...ยากนักที่จะทำความเร็วได้ระหว่างสิบวินาที อีกทั้งทางเบื้องหน้านั้นโล่ง ไร้ที่กำบัง ไม่มีทางที่เขาจะหลุดรอดจากลูกกระสุนของผู้คุมทั้งจากจุดนี้และบนหอคอย คนคิดหลบหนีจำต้องประวิงเวลาให้ตนเอง โอกาสมีครั้งเดียวเท่านั้น เขาต้องใจเย็นเพื่อรอคอยโอกาสอันมีความเสี่ยงน้อยที่สุด
รถขนผู้ต้องขังวิ่งไปบนถนนไม่ได้ลาดยาง ฝุ่นฟุ้งบดบังภาพท้องทุ่งซึ่งล้อมรอบเรือนจำนอกเมือง ก่อนความทุลักทุเลในการเดินทางจะบรรเทาเมื่อเข้าสู่ถนนสายหลักของเมืองหลวง คาชาลมองทิวทัศน์ตึกรามอันบ่งบอกว่าเข้าเขตเมืองเจริญผ่านหน้าต่างเล็กๆ ครู่หนึ่งรถขนผู้ต้องขังก็เลี้ยวเข้าเขตรั้วศาลอาญาและหยุดลงยังด้านหลังอันเป็นช่องทางสำหรับนักโทษโดยเฉพาะ
เอ้า ลงมาได้แล้ว ผู้คุมปลดล็อคประตูเหล็กพลางร้องเรียก
ชายหนุ่มปฏิบัติตามเชื่องช้าเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง แทนที่ฝ่ายตรงข้ามจะขึ้นมาลากเขาลงไป มันกลับเท้าเอวจับจ้องสารรูปเขาอย่างรังเกียจ คาชาลมองหาช่องทางหลบหนีตามสัญชาตญาณ สมองประเมินความเป็นไปได้รวดเร็ว
ร่างสูงโปร่งแสร้งเซเสียหลักขณะก้าวลงรถ ผู้คุมคนหนึ่งผงะถอยหลังเมื่อเขาซวนเซไปประชิดตัว นักโทษอาศัยความรวดเร็วฉวยเอาปืนสั้นซึ่งเหน็บเอวหนามาทันที เขาวิ่งทั้งโซ่ตรวนพันข้อเท้าหลบหนีลูกกระสุนที่ส่งออกมาจากปากกระบอกปืนของผู้คุมนายอื่น
คาชาลย่อตัวอาศัยรถยนต์ซึ่งจอดเรียงรายเป็นที่กำบัง หลบหลีก ขณะขาก็ก้าวเร็วไปยังประตูทางออกของศาลที่มียามสอดส่องปืนหาเขาอยู่ เขายิงโซ่ตรวนที่ข้อเท้าตนขาดสองท่อนเป็นอันดับแรก ก่อนเล็งยิงยามจากระยะไกล คนไม่เคยฝึกปรือด้านนี้มือไม่เที่ยงพอ กระสุนจึงเจาะเข้าหัวเข่าขวาของเป้าหมายอย่างเฉียดฉิว หากนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับล้มอีกฝ่ายลง
ชายหนุ่มวิ่งฝ่าการจราจรภายนอกอย่างไม่คิดชีวิตเมื่อถูกตามติดกระชั้น มีเสียงดังปังหลายนัดติดกัน ก่อนเขาจะเจ็บแปลบบริเวณต้นแขน เขาตัดสินใจจี้รถคันหนึ่งจากเกาะกลาง บังคับให้คนขับขับออกไปเร็วที่สุด
คนเจ็บก้มมองต้นแขนซึ่งชาหนึบ โลหิตยังคงไหลซึมออกมาเช่นเดียวกับเหงื่อกาฬผุดพรายทั่วดวงหน้า ต้องห้ามเลือด... ต้องห้ามเลือด... เขาย้ำกับตัวเองในใจพลางมองมือสองข้างที่ถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือ เขากดปากกระบอกปืนกับโซ่ข้อกลางแล้วลั่นไก
เปรี้ยง!
เสียงดังกังวานก้องในห้องโดยสารรถยนต์ คนขับตกใจถึงขั้นหักพวงมาลัยหนี ทำท่าจะกระโดดลงจากรถจริงๆ คาชาลคว้าคอเสื้อหมอนั่นไว้ ขู่กรรโชกให้ขับต่อไป
ก่อนอื่นเขาต้องหาที่หลบซ่อนตัวให้ได้เร็วที่สุด ป่านนี้ทางการคงทราบข่าวและหาตัวเขาให้ควั่ก รถซึ่งขับฉวัดเฉวียนไปทั่วเมืองนี้คงเรียกสายตาจากเจ้าหน้าที่ได้ดีทีเดียว
เอามือถือมา เขาสั่งปุบปับหลังแผนการหนึ่งแวบเข้ามา
อีกฝ่ายทำท่าจะกลั้นใจตายเสียให้ได้เมื่อรับฟังคำสั่งต่อไป
ถอดเสื้อผ้าออกมาเดี๋ยวนี้
....................
ข่าวการหลบหนีของนักโทษระหว่างพาไปขึ้นศาลเป็นข่าวเกรียวกราวขึ้นอีกครั้ง และคนอีกซีกโลกหนึ่งก็รับรู้ข่าวนี้ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ลลิลดาดีใจ ยินดีกับอิสรภาพของเขาในคราแรก ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นห่วงใย วิตกกังวลในสวัสดิภาพของเขา
ผู้ชายขี้อาย เคร่งครัดกับตัวเองกลับกล้าทำในสิ่งบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ เธอน่าจะรู้จักนิสัยข้อนี้ของเขาดีเมื่อเขาลอบเข้ามาปลุกเธอยามวิกาลและพาเธอหนีเที่ยวถึงสองครั้งสองครา คิดมาถึงตรงนี้หญิงสาวก็อดยิ้มออกมาทั้งๆ ทุกข์ใจไม่ได้
ยิ้มอะไรคนเดียวฮึ ลิลลี่ เรณูแลเลยผ่านประตูห้องนอนซึ่งเปิดค้างไว้ เห็นบุตรียังไม่นอนจึงเข้ามาพูดคุย ดูซี กระเป๋าเดินทางยังไม่จัดอีก โตเป็นสาวแล้วนะเรา ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเองสิลูก
ลลิลดาฉวยมือทั้งสองของมารดามากุมไว้ ห้ามไม่ให้ท่านช่วยจัดกระเป๋าเดินทางที่เปิดอ้าอยู่บนเตียง
แม่ไม่ต้องทำหรอกจ้ะ เดี๋ยวลิลลี่ทำเอง
นี่แม่ผัดน้ำพริกเผาเผื่อลิลลี่ติดตัวไปด้วย ลำบากนักก็ทากับขนมปังกินก็ได้
แบบนี้ยายข้างบ้านแกไม่ฉุนแย่หรือจ๊ะ ลิลลี่จำได้ ครั้งแม่ทำน้ำพริกหนุ่มสมัยเราย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ แกออกมายืนด่าเราหน้าบ้านทีเดียว
เรณูขำกับความช่างจดช่างจำของลูก ความทรงจำนับแต่ย้ายมาอยู่ต่างแดนมีแต่ความสุข แม้ขาดพ่อ ลลิลดาก็เติบโตมาอย่างสมบูรณ์พร้อมด้วยความรักความเอาใจใส่จากแม่ และเมื่อมีรักใหม่ เธอก็เลือกผู้ชายที่เข้ากับบุตรสาวตนได้ดีเช่นนายแพทย์ริชาร์ด
แม่เตรียมเสบียงเหมือนลิลลี่จะไปรบ หญิงสาวว่าอย่างเห็นขัน ทว่าคนฟังใจคอหวิวโหวงประหลาด
ร่างระหงผินกายจากตู้เสื้อผ้า หันมองมารดาที่พูดคุยกันอยู่ดีๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็เงียบไป
ลิลลี่ ลิลลี่อย่าพูดแบบนั้น ผู้เป็นแม่เอ็ดเสียงโหย
โธ่ ล้อเล่นหรอกค่ะ แม่เป็นอะไร
เรณูสั่นศีรษะ ฝืนยิ้มออกไปเล็กน้อยให้ลูกสบายใจ ลลิลดามองตามร่างเล็กของมารดาซึ่งลุกออกไป ก่อนกลับเข้ามาใหม่พร้อมด้วยนายแพทย์ริชาร์ดซึ่งถือผ้าห่มตามมา
แม่ไปบอกด็อกเตอร์ว่าคืนนี้จะนอนกับลูกจ้ะ
ลิลลี่ หนูต้องดูแลแม่ให้ดี เขาว่าคนเราเมื่อแก่จะกลับเป็นเด็ก ลุงเห็นด้วยที่สุดเลย
หญิงสาวหัวเราะกิ๊กกับมุกเย้าแหย่ภรรยาของคุณลุงหมอ มีเพียงเรณูเท่านั้นที่ตวัดค้อนคนนั้นทีคนนี้ที ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอีกคน
บ้านหลังเล็กอบอวลด้วยความรัก ความสุข ความปรารถนาดีที่สมาชิกครอบครัวมีให้แก่กัน ถ้าเป็นไปได้ลลิลดาอยากให้นี่เป็นการเดินทางเพียงลำพังครั้งสุดท้าย ใครจะว่าเธอเป็นลูกแหง่อย่างไรก็ยอม
....................
ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วหากคนนั่งเหม่อมองผ่านหน้าต่างห้องใต้หลังคายังคงไม่หลับไม่นอน เขาทอดอาลัยกับชีวิตตน นับแต่หนีออกมาจากคาซาเนียสำเร็จ ชีวิตของเขายังไม่มีสิ่งใดเป็นดังหวังเลย ความตื่นเต้น ท้าทายดูจะหมดไปตั้งแต่เขาจี้รถหนีไปกบดานอยู่กับวิคเตอร์สำเร็จ เพื่อนของพี่คนนี้อีกนั่นแหละที่พาเขาเดินทางข้ามพรมแดนโดยรถไฟอย่างสวัสดิภาพ ไม่มีใครสงสัยบุคคลผู้มีความประพฤติดีถึงขั้นได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลเช่นวิคเตอร์เลย
ทุกสิ่งอย่างช่างง่ายดายและไร้ค่า ใช่... คาชาลรู้สึกไร้ค่ายิ่งขึ้นไปอีกเมื่อพี่เก็บเขาไว้ยังห้องใต้หลังคา ขณะที่พี่ออกไปพบพรรคพวกข้างนอกทุกวัน เขากลับมีหน้าที่เช็คข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ภายในคาซาเนีย ข่าวร้ายรายวันว่าพวกมันจับชาวทิชกูไปสอบสวน อัมมาและติลมาต้องติดคุกด้วยโทษฐานเท็จที่พวกมันอ้างว่ายายและน้องสาวได้ให้ที่พักพิงแก่เขาระหว่างหลบหนี แต่เขากลับทำได้เพียงรายงานข่าวเหล่านั้นให้พี่ชายรับทราบอย่างคั่งแค้นใจ
เหงื่อกาฬผุดพรายทั่วทุกรูขุมขน อากาศหนาวเย็นในกรุงมอสโคว์หาได้ช่วยคลายความร้อนรุ่มในใจลงเลย แผลจากกระสุนปืนซึ่งเริ่มสมานดีแล้วกลับมาปวดหนึบ ชายหนุ่มกลืนยาแก้ปวดสองเม็ด เขาสูดหายใจลึกอย่างพยายามสงบสติอารมณ์
เสียงกุกกักจากข้างล่างบ่งบอกว่ามีคนเข้ามาในห้อง ผู้หลบซ่อนตัวคว้าปืนตามสัญชาตญาณ ก่อนเสียงเคาะเป็นจังหวะจะช่วยให้เขาผ่อนคลายลง พี่ปลดล็อคประตูห้องใต้หลังคาที่มองผ่านๆ ก็ไม่ต่างจากฝ้าเพดานทั่วไป เยี่ยมหน้ามาเรียกเขาลงไปรับประทานอาหารเย็น
ไม่มีการพูดคุยกันฉันพี่น้อง ความโกรธเกรี้ยวยามอยู่ลำพังมลายหายไป สำหรับคาชาลแล้ว พี่ชายของเขายิ่งใหญ่ดุจเจ้าชีวิตทีเดียว สิ่งใดที่พี่เห็นสมควรเขาก็พร้อมปฏิบัติตาม
วันนี้มีข่าวอะไร นิโก้ถามน้องชายพลางจิบวอดก้าไปพลาง
ยังจับชาวทิชกูไปสอบสวน ไม่มีข่าวว่าทางการสงสัยวิคเตอร์ คาดว่าข้ายังหลบหนีอยู่ในประเทศ พวกมันคงอายล่ะถ้าจะบอกใครๆ ว่าสะเพร่าอย่างไร
พี่ชายยกมือปราม ขอแต่เนื้อข่าว ความในใจแกน่ะเก็บไว้ในใจแกนั่นแหละ
ดวงตาคมกล้าของผู้รายงานข่าวหลุบลง หน้าม้านไปกับการเบรกอารมณ์ของพี่ชาย
เท่านี้เรอะ
พบแบคทีเรียในเนื้อสัตว์นำเข้า แล้วก็ข่าวสมาคมกีฬาตั้งความหวังเหรียญรางวัลในเอเชียน เกมส์ ถ้าพี่อยากได้ยินล่ะก็
แน่นอน ข้าต้องรู้ทุกความเคลื่อนไหว
นิโก้มองน้องชายอย่างตำหนิ ครั้นอีกฝ่ายหลบตาเขาจึงรู้สึกว่าตนเข้มงวดกับมันมากไป ความรักฉันพี่น้องยังคงมีอยู่ แต่ความปรารถนาดีนั้นถูกความเอาจริงเอาจังกับการงานปิดซ่อนไว้
เขารู้ว่าคาชาลกระหายจะช่วยงานมากเพียงใด ประสาคนหนุ่มไฟแรงที่ยังคึกคะนองกับความเสี่ยงตายซึ่งตนเพิ่งเผชิญมา ข่าวการหลบหนีของมันสร้างความภูมิใจแก่เขาและพรรคพวกไม่น้อย และด้วยสาเหตุเดียวกันนั้นเองที่เขาต้องลดความร้อนแรงของมันลงเสียบ้าง ก่อนที่มันจะพาพวกเขาไหม้เป็นจุณไปตามๆ กัน
ดูเถอะ สารรูปมันดูได้เสียที่ไหน ใบหน้าซูบตอบ ดวงตาลึกโหล ผอมบักโกรกออกอย่างนี้ ขืนให้มันออกไปเพ่นพ่านข้างนอกก็กลายเป็นเป้าสายตาเท่านั้นซี นิโก้ไพล่นึกถึงเรื่องที่เขาและเพื่อนเพิ่งหารือกันว่าจะชูคาชาลเป็นตัวแทนของความกล้าลุกขึ้นสู้รายล่าสุด แล้วก็ได้คำตอบว่าเห็นทีคงต้องผลัดออกไป
แผลที่แขนเป็นไงบ้าง
ค่อยยังชั่ว
เมื่อน้องชายยืนยันอย่างนั้นเขาจึงไม่ซักต่อ เอ่ยถึงหัวข้อสนทนาถัดไปราวสั่งงาน
เมื่อคืนก่อนมีคนบอกว่าเห็นเงาคนผ่านหน้าต่างห้องใต้หลังคา พรุ่งนี้เจ้าของแฟล็ตจะมาตรวจ เดี๋ยวเก็บข้าวของให้เรียบร้อยแล้วต่อไปแกลงมาอยู่ในห้องนี้ ห้ามออกไปไหน ใครมาเคาะประตูก็ห้ามเปิดเด็ดขาด
คาชาลผงกศีรษะ สีหน้าดีขึ้นบ้างหลังทราบว่าตนไม่ต้องกลับขึ้นไปอยู่ในห้องใต้หลังคานั่นอีก
แล้วเมื่อไรข้าจะได้ช่วยงานพี่
ทำหน้าที่ที่ข้ามอบหมายให้เจ้าให้ดีที่สุด นิโก้ทิ้งท้ายเพียงแค่นั้น ก่อนย้ายไปยังเก้าอี้ไกลสุดแล้วกระดกวอดก้าลงคอ จมดิ่งในโลกส่วนตัวลำพัง
ครั้นแน่ใจว่าพี่คงไม่มีเรื่องพูดกับตนอีก ชายหนุ่มจึงปีนขึ้นไปขนข้าวของส่วนตัวลงมาจากห้องใต้หลังคา อันได้แก่ผ้าผืนบางสำหรับปูนอน หนังสือพิมพ์หลายฉบับ และอาวุธปืนประจำกาย เขาจุดไฟเผาหนังสือพิมพ์ทั้งหมดในปี๊บสังกะสี แล้วนำเศษขี้เถ้าที่เหลือไปชักโครกทิ้ง เมื่อเสร็จกิจวัตรทั้งหมดนั้นจึงมานั่งคู้ตัวยังมุมห้อง รอคอยพี่ชายเข้านอนแล้วตนจึงค่อยเข้านอนตาม
....................
ลิลลี่ ฉันใช้ห้องน้ำเสร็จแล้วนะ เธอจะเข้าต่อเลยไหม
ยังหรอก มิเชล ยังพอมีเวลานี่นะ ขอฉันเช็คอีเมลแป๊บหนึ่ง
สาวผมทองในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำเดินกรุยกรายหยิบชุดเดรสสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ไปลองทาบกับตัวหน้ากระจก ขณะที่เพื่อนสาวยังคงสาละวนกับคอมพิวเตอร์พกพา ลลิลดาหันไปมองเพื่อนและตอบเป็นครั้งคราวเมื่อถูกถามความเห็นเรื่องเครื่องแต่งกาย
หน้าจอแสดงผลบอกว่ามีจดหมายเข้ามาหนึ่งฉบับ เธอรีบกดเข้าไปดูด้วยคิดว่าเป็นมารดา ทว่าชื่อของผู้ส่งอีกคนก็ทำให้หัวใจเธอโลดแรง
เจค! เขาใช้อีเมลที่สมัครไว้แรกเริ่มส่งถึงเธอ
'เดาว่าเธอคงตื่นเต้นน่าดูที่ได้รับจดหมายนี้ เอาล่ะ อย่าเพิ่งโกรธที่พี่เงียบหายไปนาน เพราะข่าวจากพี่ล้วนเป็นข่าวที่เชื่อถือได้ทั้งสิ้น
ตอนแรกพี่กะจะส่งข่าวถึงเธอหลังฟังคำพิพากษาชั้นต้น แต่ก็มาเกิดเรื่องใหญ่อย่างที่รู้ๆ กันเสียก่อน มีข่าวว่าเขายังหลบหนีอยู่ในประเทศ แต่ข่าวก็คือข่าวที่ทางการจะนำเสนออย่างไรก็ได้ เพราะคนในนี้บางคนยังยอมรับลับหลังว่าป่านนี้หมอนั่นคงหนีไปกบดานกับพรรคพวกที่รัสเซียได้แล้ว เห็นจะจริงอยู่เพราะกลุ่มคนทางนั้นเองก็มีความเคลื่อนไหว ทีนี้เธอคงสบายใจขึ้นบ้างกระมังว่าพ่อหนุ่มนั้นจะปลอดภัยอย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง
ลิลลี่ แต่เธอต้องไม่ลืมว่าเขาเลือกหลบหลีกมากกว่าการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล เท่านี้แหละที่พี่จะบอกเธอ
ฝากความคิดถึงถึงพ่อและอานตี้เรณูด้วย พี่และศัตรูของเธอ'
คราวนี้ลลิลดาไม่จำเป็นต้องอ่านทวนซ้ำ เธอรับรู้เต็มสมองทีเดียวว่าเพื่อนของเธอ นักโทษหลบหนีคดีคนนั้นกำลังกบดานในประเทศที่เธอเพิ่งเหยียบย่างมาไม่นาน อะไรจะบังเอิญขนาดนี้!
ความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากความดีใจ โล่งใจแล้ว เธอยังหวังจะพบเจอเขาอีกสักครา ให้ได้เห็นกับตาว่าเขาปลอดภัยดี ยิ่งทราบว่าเธอกับเขาอยู่ในประเทศเดียวกัน หรือไม่ก็อาจจะเมืองเดียวกันด้วยซ้ำ ความปรารถนานั้นก็พลุ่งพล่านแรง
เออหนอ กรุงมอสโคว์ออกกว้าง และเธอก็ไม่รู้จักถนนหนทางใดเลย การจะหาใครสักคนย่อมไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทร หญิงสาวกลับมาปลงตกอีกครั้ง หลังดึงความคิดตัวเองออกจากความเพ้อฝันได้สำเร็จ
ลลิลดาตอบกลับพี่ชายคร่าวๆ เธอไม่ทันได้บอกพี่ว่าตนอยู่ในรัสเซียเช่นกัน เสียงมิเชลเร่งเร้าให้เปลี่ยนชุดไปงานเลี้ยงต้อนรับของบริษัทตัวแทนนำเข้าเวชภัณฑ์มายิกๆ
งานเลี้ยงต้อนรับคืนนั้นเป็นไปด้วยความเรียบง่าย เป็นกันเอง ประธานบริษัทนำเข้าเวชภัณฑ์มีท่าทีเป็นมิตร ต่างจากภาพชาวรัสเซียที่พวกเธอเคยอคติไว้ เขาทักทายจับมือกับพนักงานทุกคน และเมื่อเธอได้สัมผัสฝ่ามือนั้นพร้อมกับพิจารณาเขาใกล้ๆ ลลิลดาพลันรู้สึกถึงแสงสว่างรอบกายทันที ความมืดมัวในใจอันเกิดจากปัญหามากดทับ ก็ถูกแทนที่ด้วยความกระจ่างขึ้นมา
เธอลืมวิคเตอร์ไปได้อย่างไร โธ่เอ๋ย เพราะท่านประธานแท้ๆ เทียวที่มีบุคลิกลักษณะคล้ายมัคคุเทศก์หนุ่มผู้นั้น เธอจึงนึกถึงชายผู้รอบรู้สมกับอาชีพเขาขึ้นมาได้ เขาต้องทราบสิว่าคาชาลอยู่ที่ไหน คิดมาถึงตรงนี้...เธอก็แทบจะเหาะกลับไปโรงแรมที่พักทีเดียว
....................
ทว่ากว่าลลิลดาจะได้รับคำตอบกลับมา เธอต้องนับวันรอด้วยใจกระชั้น เพราะใกล้ถึงกำหนดการเดินทางกลับเข้ามาทุกที
หญิงสาวเอาแต่เก็บตัวในห้องพักยามเย็นที่เพื่อนออกไปเดินเล่น แต่แล้วข่าวคราวที่เธอเฝ้ารอนั้นกลับกลายเป็นข่าวร้ายที่ตนคาดไม่ถึง สื่อหลายสำนักรายงานข่าวการฆ่าตัวตายของนักโทษหญิงสองคนในเรือนจำประเทศคาซาเนีย มันคงเป็นหัวข้อข่าวเล็กๆ หากสตรีทั้งสองจะไม่เกี่ยวข้องกับ คาชาล โยซี นูก้า ออย้าส นักโทษซึ่งหลบหนีไปอย่างอุกอาจ
ติลมา... อัมมา... ลลิลดาครางในใจ พร้อมกับต่อว่าโชคชะตาที่ช่างโหดร้ายกับพวกเธอนัก ผู้ใหญ่ใจดี แม้อายุมากแต่ก็ยังแข็งแรง กับเด็กสาวร่าเริง สดใส ต้องมาด่วนจากไปเพราะความโหดร้ายของชีวิตซึ่งถูกจองจำ
หัวตาหญิงสาวผะผ่าวขึ้นมา น้ำตาหยดหนึ่งทิ้งตัวลงตามร่องแก้ม เป็นน้ำตาหยดแรกนับแต่เกิดเรื่องทั้งหมด หากความรัก ความปรารถนาดีที่เธอมีต่อพวกเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งใดได้ เธอขอแลกมันกับแผ่นดินกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ณ ดินแดนแห่งนั้น...ชาวทิชกูทุกคนจะเป็นอิสระดังที่พวกเขาต้องการ
ความเศร้าเสียใจทำให้ลลิลดาเลิกคิดหวังในทางเกินจริง เธอตัดใจพับปิดคอมพิวเตอร์พกพา ผ่านไปอีกหนึ่งวันโดยไร้ข่าวดี ไม่มีข่าวดียังพอทำเนา แต่ข่าวร้ายกลับกล้ำกรายเข้ามาแทนเสียอีก ตอกย้ำถึงความไม่แน่นอนของชีวิตคน
ร่างบางทิ้งตัวลงกับเตียง สักพักมิเชลก็ถือถุงพะรุงพะรังกลับมาจากการชอปปิ้ง ครั้นเห็นเพื่อนยังไม่ได้นอน เจ้าหล่อนก็รีบอวดของที่เพิ่งซื้อมาทันที
ลิลลี่ ฉันมีอะไรจะอวด เธอต้องชอบแน่ แล้วอย่ากรี๊ดกร๊าดไปล่ะ
เพื่อนสาวยิ้มรับ ตอบในใจว่าอารมณ์ของเธอตอนนี้ห่างไกลจากคำนั้นทีเดียว
ตุ๊กตาแม่ลูกดก มาโตรชก้า ของที่ระลึกจากรัสเซียจ้ะ
ลลิลดารับตุ๊กตาไม้ รูปทรงเหมือนไข่แต่ฐานแบนเรียบ วาดรูปทาสีสวยงามมาพิจารณา เธอเปิดออกตรงกลางก็พบตุ๊กตาลักษณะคล้ายกัน แต่ขนาดเล็กกว่าอีกตัวหนึ่ง เป็นเช่นนี้อีกห้าตัวก็พบกับตุ๊กตาไม้ขนาดเล็กจิ๋วซึ่งภายในตันอยู่ชิ้นเดียว
น่ารักดีนะ เธอชมจากใจ
ว่าแล้วว่าเธอต้องชอบ เอาไปเถอะ ฉันซื้อมาฝาก แลกกับขอยืมโน้ตบุ้กเธอส่งอีเมลหาพ่อตัวดีของฉันหน่อยเถอะ หน็อย โทรไปไม่รับสาย
ได้เลย ตามสบาย
หญิงสาวยิ้มขัน เห็นทีพรุ่งนี้เธอต้องออกไปซื้อของฝากให้แม่และลุงริชาร์ดบ้างกระมัง ในเมื่อวันมะรืนก็ถึงกำหนดการเดินทางกลับแล้ว คิดพลางบรรจงเก็บตุ๊กตาแม่ลูกดกทีละตัวไปพลาง ก่อนถ้อยความจากเพื่อนซี้จะเปลี่ยนแผนการทั้งหมดของเธอ
ลิลลี่ ฉันเปิดมาแล้วโปรแกรมของเธอค้างอยู่ เธอมีอีเมลเข้ามาแน่ะ จะเช็คก่อนหรือเปล่า
จากใคร
บริษัท ทิชก้า ทราเวล
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
25 เม.ย. 55 10:59:02
|
|
|
|