Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คฤหาสน์สนธยา ตอนที่ 3 ติดต่อทีมงาน

ระยะห่าง ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนต้องการระยะห่าง ระหว่างทุกสิ่งล้วนต้องมีที่ว่าง ตั้งแต่อวกาศเวิ้งว้างที่คั่นอยู่ระหว่างดวงดาวซึ่งห่างไกลกัน จนถึงเนื้อในของวัตถุที่ดูเหมือนทึบตัน ภายในเนื้อหนังของมนุษย์ ในทุกชีวิต ในทุกสิ่ง ต่างเต็มไปด้วยช่องว่าง

ที่ว่างเล็กๆ ซึ่งไม่อาจมองเห็น ที่ว่างซึ่งคั่นอยู่ระหว่างองค์ประกอบของจักรวาล และแม้แต่ภายในองค์ประกอบเหล่านั้น ก็ยังเต็มไปด้วยที่ว่าง ความเป็นจริงซึ่งเต็มไปด้วยที่ว่าง ความเป็นจริงซึ่งยากแก่การเข้าใจ

จักรวาลที่เต็มไปด้วยความว่าง กับมนุษย์ที่เต็มไปด้วยรูพรุน นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ชีวิตของพวกเราเปลี่ยวเหงา เดียวดาย ไม่เคยรู้สึกเต็ม พวกเราจึงมีความต้องการอันไม่สิ้นสุด หรือมันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยก็เป็นได้

สิ่งทั้งหลายในโลกนี้ล้วนขึ้นอยู่กับจิตใจของผู้เฝ้ามอง ระยะทางจะใกล้ หรือไกล เวลาจะนาน หรือสั้น ล้วนขึ้นอยู่กับจิตใจที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น

ระยะทางหนึ่งร้อยเมตรสำหรับนักวิ่ง และผู้ชมนั้นไม่เท่ากัน ระหว่างผู้แข่งขัน และผู้ชมแต่ละคนก็ยังไม่เท่ากัน เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการแข่งขันก็เช่นกัน เหตุการณ์ที่ดูเหมือนเป็นหนึ่งเดียวนี้ จะเกิดขึ้นแตกต่างกันไปในจิตใจของแต่ละคน และทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเกือบจะในเวลาเดียวกัน อะไรหรือ คือความเป็นจริง

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ สถิติโลกที่น่าชื่นชม เสียงโห่ร้อง จะไม่มีผลอะไรเลยกับผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ระยะทาง และเวลาพวกนั้น ชื่อเสียง ความภาคภูมิใจ ล้วนไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมายเลยแม้แต่น้อยกับผู้ที่ไม่ใส่ใจ ไม่รับรู้

หากมีคนผู้หนึ่งมองเห็นระยะห่างระหว่างสถานที่สองแห่งหดสั้นลงอย่างทันทีทันใด อย่างที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ เขาจะอธิบายอย่างไร

จะบอกว่าคฤหาสน์ลึกลับหลังนั้นมีขา จึงสามารถเดินเข้ามาใกล้ที่พักริมทะเลแห่งนี้ได้เอง หรือจะบอกว่า คฤหาสน์ลึกลับหลังนั้นสามารถบิดเบือนโลกแห่งความเป็นจริง ทำให้ระยะห่างระหว่างสถานที่สองแห่งหดสั้นลง หรือจะเป็นเพราะว่า มีพลังงานมืดแห่งจักรวาลเข้ามาเกี่ยวข้อง

แต่เมื่อไม่มีคนคอยรับรู้ ระยะห่างที่ว่านั้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ย่อมไร้ความหมาย ไร้ความสำคัญ จักรวาลแห่งนี้จะเป็นเช่นไรคงไม่สำคัญ หากไร้มนุษย์คอยเฝ้ามอง แต่อย่าได้เข้าใจผิด มนุษย์เองก็ไม่ได้มีความสำคัญอันใดต่อจักรวาลแห่งนี้เช่นเดียวกัน

มีอีกสิ่งหนึ่งกำลังเกิดขึ้นเกือบจะในเวลาเดียวกัน สิ่งที่สามารถทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า ระยะห่างทางกายภาพระหว่าง ชาย หญิง คู่หนึ่งค่อยๆ หดสั้นลงเรื่อยๆ ในขณะที่ระยะห่างทางใจยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งสองเข้าสู่ระยะแห่งการสนทนา ระยะที่มีช่องว่างแห่งความเงียบคั่นอยู่ตรงกลาง แล้วในที่สุด ความเงียบก็เริ่มเต้นรำ

เส้นเสียงของชายผู้หนึ่งสร้างความสั่นสะเทือนให้กับอากาศ ผ่าน ลำคอ ลิ้น ฟัน และปาก ก่อกวนความเงียบที่สงบนิ่งให้ต้องเคลื่อนไหว ร่ายรำไปกับคำพูดของเขา

“...” (ขอโทษครับ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ)

“...” (ค่ะ...ขอบคุณค่ะ)

เคนจิทักทายรุริโกะด้วยภาษาญี่ปุ่นที่ชัดเจน

“ฉัน รุริโกะ...มิยาซาว่า รุริโกะ ค่ะ”

เธอโค้งอย่างสุภาพ

“ผม เคนจิ...มิยาซาว่า ครับ”

“เอ๋”

เธอร้องด้วยความประหลาดใจ ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ใครอาจจะมีนามสกุลเหมือนกัน โดยไม่มีความข้องเกี่ยวกันเลย แต่การได้พบกับใครคนนั้น ในประเทศที่ห่างไกลจากบ้านเกิด ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา มันต้องเป็นความประหลาดที่ไม่อาจปฏิเสธได้

แล้วเขาก็ได้ยินเสียงประหลาด เสียงท้องส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความหิวโหย เธอยิ้มเขินๆ ตั้งแต่บ่ายเธอยังไม่ได้กินอะไรเป็นเรื่องเป็นราวเลย ที่จริงเธอควรจะสั่งอาหารตั้งแต่กลับมาจากการเดินเล่นที่ชายหาดแล้ว แต่เธอก็ถูกจู่โจมด้วยความคิดเหล่านั้นเข้าเสียก่อน

พนักงานที่ยืนรออยู่ย่อมไม่เข้าใจ เขาส่งสายตามองมาอย่างรอคอย

“...เราจัดการธุระของคุณให้เรียบร้อยก่อน ดีไหมครับ”

“ค่ะ ค่ะ คือ...ฉันหิว อยากสั่งข้าวไข่ทอดค่ะ”

“...ข้าวไข่ทอด คุณหมายถึง...ข้าวห่อไข่หรือเปล่าครับ”

รุริโกะรีบส่ายหน้า หลายวันมานี้เธอได้เรียนรู้สิ่งหนึ่งจากการกินอาหารในสถานที่แห่งนี้ 'อย่าได้สั่งอาหารญี่ปุ่น' หรืออาหารชาติอื่นใดโดยเด็ดขาด เพราะสิ่งที่จะได้นั้น มันไม่เหมือนกับชื่อของมันเลย พวกเขาทำอาหารบางอย่างขึ้นมา แล้วใส่ชื่ออาหารต่างชาติเหล่านั้นลงไป พวกมันจึงเป็น ซูชิ ที่ไม่ใช่ ซูชิ ซาชิมิ ที่ไม่ใช่ ซาชิมิ ข้าวห่อไข่ ที่ไม่ใช่ ข้าวห่อไข่

เธอยังจำข้าวผัดเปียกๆ นั้นได้ดี ไข่ที่ห่อก็แตก และน้ำซอสที่ราดมาก็เป็นเพียงซอสมะเขือเทศธรรมดาเท่านั้น มันไม่ใช่ข้าวห่อไข่อย่างแน่นอน

แล้วเธอก็ได้พบกับอาหารชนิดหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ

“มันเป็น...ไข่ทอดแบบจีน ที่ใส่หมูสับ หอมใหญ่ กับมะเขือเทศซอย วางบนข้าวร้อนๆ น่ะค่ะ”

คำพูดอันเกิดจากความเข้าใจของผู้เป็นเจ้าของล่องลอยออกไปสู่ผู้รับ ประสบการณ์ของเขาเริ่มตีความแยกแยะสิ่งที่ได้ยิน ก่อนรวมมันเข้าเป็นความเข้าใจของตนเองในที่สุด เขายิ้ม เมื่อภาพของสิ่งที่เป็นคำตอบผุดขึ้นในใจ

“เธออยากได้ ข้าวไข่เจียวหมูสับ ใส่หอมใหญ่ กับมะเขือเทศ หนึ่งจาน”

คำพูดอันเกิดจากความเข้าใจของผู้เป็นเจ้าของล่องลอยออกไปสู่ผู้รับ พนักงานยิ้มอย่างยินดี ก่อนจดยุกยิกลงกระดาษในมือ

“ข้าวไข่เจียวหมูสับหนึ่งจานนะครับ จะให้ไปส่งที่ห้องใช่ไหมครับ”

เขาหันไปยิ้มกับเธอ

“จะไปนั่งทานอาหารกับพวกเราไหมครับ ผมจะได้แนะนำเพื่อนคนอื่นๆ ให้คุณรู้จัก”

เธอพยายามฝืนยิ้ม 'ทำอย่างไรดีล่ะ' ความจริงเธอไม่ควรปฏิเสธ แต่เรื่องหนึ่งที่เธอพึ่งเข้าใจ ทำให้สามารถทำใจในเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้น

“ขอโทษด้วยนะคะ แต่พอดีฉันมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องรีบทำ ไว้เป็นโอกาสหน้านะคะ”

“ครับ ไม่เป็นไรครับ”

เธอโค้งเล็กน้อยให้กับเขา หันมาทางโต๊ะ โค้งต่ำกว่าเดิมให้กับทุกคน ก่อนเดินย้อนกลับไปทางห้องของเธอ ระยะห่างทางกายภาพระหว่าง ชาย หญิง คู่หนึ่งค่อยๆ เพิ่มขึ้น ในขณะที่ระยะห่างทางใจนั้นเคลื่อนเข้าใกล้กันอีกนิด หรืออาจจะเป็นถอยห่างไปมากกว่าเดิม ระยะห่างทางใจเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากเสมอ

'เขาไม่ใช่คนญี่ปุ่น' นั่นเป็นความเข้าใจที่พึ่งเกิดขึ้น ในตอนก่อนที่จะได้พูดคุยกัน เธอมั่นใจว่าเขาต้องเป็นคนญี่ปุ่น แต่หลังจากที่ได้คุยแล้ว มันกลับกลายเป็นตรงกันข้าม

เขามีชื่อญี่ปุ่น เขาพูดภาษาญี่ปุ่น แต่เขาไม่ใช่คนญี่ปุ่น 'เหมือนกับอาหารพวกนั้น' อาหารที่มีชื่อเป็นญี่ปุ่น หน้าตาคล้ายกับของญี่ปุ่น แต่เนื้อใน เนื้อแท้ของมัน ไม่มีความเป็นญี่ปุ่นเลยแม้แต่น้อย

'นั่นอาจจะเป็นตัวละครที่น่าสนใจก็เป็นได้' ความคิดของเธอวนกลับมาหานิยายอีกครั้ง ไม่สิ ความจริงแล้ว ความคิดของเธอไม่เคยออกจากนิยายเลยต่างหาก ทั้งหมดในโลกนี้ ทั้งหมดที่เธอมี โลกของเธอคือนิยาย ทุกคนคือตัวละคร ทุกเหตุการณ์ ทุกบทบาท แม้แต่ตัวเธอเอง ก็ยังต้องเล่นไปตามบทเช่นกัน

ตัวละครที่มีนามว่า มิยาซาว่า รุริโกะ ได้พบกับตัวละครที่เรียกตัวเองว่า เคนจิ มิยาซาว่า ไม่ใช่ มิยาซาว่า เคนจิ อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งสองคนนี้จะมีความสัมพันธ์อันลี้ลับใดอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เธอเองก็ยังไม่อาจล่วงรู้ได้

“เรียบร้อยแล้วครับ”

เคนจิกลับมานั่งที่โต๊ะ ไหมทำหน้างอใส่

“คุยอะไรกันตั้งนาน”

“ไม่มีอะไรหรอก เธอแค่อยากกินข้าวไข่เจียวเท่านั้นเอง...”

ทุกคนทำตาโต แปลกใจ

“...แปลกดี เธอชอบอะไรเหมือนกับพี่จริงของเราเลย”

สองสาวหันมาหาคนที่ถูกพาดพิงพร้อมกัน มือที่ถือแก้วเครื่องดื่มนั้นหยุดนิ่งค้างอยู่ที่ริมฝีปาก

“จริงด้วย...”

ไหมทำตาโต ก่อนจะเริ่มขยายเรื่องราวนี้ต่อไป เธอสามารถทำมันได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการคิดแม้แต่น้อย มันเป็นความสามารถอย่างหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มีเหมือนๆ กัน

“...ได้มาพบเจอกัน เข้าใจกันโดยไม่ต้องใช้คำพูด แล้วยังชอบของกินเหมือนๆ กันด้วย หรือว่าจะเป็น...”

เธอรีบหันไปมองพี่สาว ซึ่งเริ่มตักอาหารต่ออย่างไม่ใส่ใจ และมันทำให้เธอรู้สึกหมดสนุก คำพูดที่ทุกคนต่างรับรู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องได้ยิน บุพเพสันนิวาส จึงไม่ถูกกล่าวออกมา

จริงได้แต่เอื้อมมือออกไปบีบคอสองหนุ่มสาว แน่นอน นั่นเป็นเพียงในความคิดของเขา เขาย่อมไม่อาจทำมันได้ในโลกของความเป็นจริง 'ทำไม่ได้จริงหรือ' เสียงเยียบเย็นลอยมาในความเงียบ กระซิบไร้เสียงจากเกลียวคลื่นที่มองไม่เห็น เขารีบกระดกแก้วให้เครื่องดื่มเย็นๆ ให้ไหลเข้าไปในกาย

“เธอชื่ออะไร แล้วทำไมเคนไม่ชวนมาแนะนำตัวให้รู้จักกันสักหน่อยล่ะ”

ปุ้ยถามอย่างไม่ใส่ใจ เหมือนกับเป็นเพียงเรื่องคุยผ่านๆ เรื่องหนึ่ง แต่หัวใจของจริงเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาพยายามฟังเพื่อจับใจความ ในสิ่งที่เธอไม่ได้พูดออกมา

“เธอชื่อรุริโกะ...ผมลองชวนแล้ว แต่เธอบอกว่ามีเรื่องสำคัญต้องรีบกลับไปทำ ดูเหมือนเธอจะเป็นพวกไม่ชอบสังคมน่ะครับ”

“นายไปทำอะไรแปลกๆ ก่อนหรือเปล่า เธอเลยรู้สึกไม่ไว้ใจ”

จริงแกล้งพูดแซวบ้าง เพื่อหาทางเบี่ยงเบนเป้าออกจากตัว ไหมหันขวับ งับเหยื่อทันที

“ใช่ ใช่ พี่เคนรีบสารภาพมาเลย ก่อนที่ไหมจะจับได้คาหนังคาเขา”

เธอพยายามทำหน้าดุ แต่ก็ไม่สำเร็จ หลุดส่งเสียงหัวเราะออกมาจนได้ แล้วสองหนุ่มสาวก็หัวเราะไปด้วยกัน จริงมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างอิจฉา มันไม่เคยเกิดขึ้นกับพวกเขาเลย เขารู้ว่าแต่ละคน แต่ละคู่นั้นแตกต่าง เขากับปุ้ยไม่เหมือนกับสองคนนี้ แต่บางที 'แค่บางที' เขาก็อยากให้มันมีเรื่องแบบนี้บ้าง

'หรือฉันคิดไปฝ่ายเดียว' เขารีบหยุดความสงสัยที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ไว้เพียงแค่นั้น ต่อให้มันเป็นฟางเส้นเดียว 'ฉันก็จะเกาะมันต่อไป' เพราะไม่อย่างนั้น เขาอาจจะต้องจมหาย จมหายไปในเกลียวคลื่น ในความมืดมิดเย็นเยียบขื่นเค็มของสายน้ำ

เขายังคงพยายามตะเกียกตะกายเพื่อไหลตัวเองต่อไปในกระแสแห่งชีวิต พยายามลืมเลือนความรู้สึกที่ตามหลอกหลอน ลึกลงไปเบื้องล่าง มือข้างนั้นที่รออยู่ รอที่จะจับ และดึงเขาลงสู่ความมืด

“กินเสร็จแล้วทำอะไรกันต่อดีล่ะ”

ปุ้ยถามเมื่อเห็นว่าการรับประทานอาหารใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

“คุยกันเรื่องพรุ่งนี้เลยไหม ว่าจะไปเที่ยวไหนดี เคน แถวนี้มีอะไรให้เที่ยวบ้าง”

จริงกระโดดเข้าร่วมวงสนทนาอย่างไม่รอช้า เคนยิ้มพร้อมกับยักไหล่ ส่ายหน้า

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“อ้าว”

อีกสามคนที่เหลือประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน ที่พักแห่งนี้เป็นเขาเสนอความคิดขึ้นมาเอง ทุกคนจึงคาดหวังว่า เขาน่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับบริเวณนี้ไม่มากก็น้อย เขาเริ่มแก้ตัว

“ผมไม่รู้จักแถวนี้หรอก มีคนที่รู้จักกันแนะนำมาอีกที ก็เห็นบอกว่าอยากพักผ่อนริมทะเลเงียบๆ เขาบอกว่าแถวนี้เงียบสงบมาก ก็น่าจะเหมาะแล้วนี่ครับ”

ทั้งสามคนมองหน้ากัน ไหมหัวเราะเหมือนเดิม

“พี่เคนก็พูดถูกนะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ก็นอนเล่นชายหาด เล่นน้ำกันทั้งวันเลยเป็นไง”

จริงประชด

“ก็ดีนะ”

ปุ้ยตอบเรียบๆ เขาอ้าปากค้าง แต่ในใจก็คิดไปถึงภาพที่อาจจะได้เห็นในวันพรุ่งนี้ หญิงสาวในชุดว่ายน้ำ 'ไม่' นั่นคงจะเป็นไหม ไม่ใช่ปุ้ยคนนี้ อย่างมากเธอก็คงใส่กางเกงขาสั้น กับเสื้อยืดลงเล่นน้ำ นั่นคงมากที่สุดแล้วสำหรับเธอ 'แต่ก็ไม่แน่' เขายังคงพยายามให้ความหวังกับตนเอง

“...คิดอะไรอยู่”

ปุ้ยถามเรียบๆ ราวกับสามารถอ่านความคิดของเขาได้

“พี่จริงคงอยากเห็นพี่ปุ้ยใส่ชุดว่ายน้ำที่เตรียมมานั่นแหละค่ะ”

ไหมพูดความคิดของเขาออกมาด้วยเสียงดัง เขารู้สึกย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม แต่คำพูดของเธอก็จุดประกายความหวังให้กับเขา 'ชุดว่ายน้ำที่เตรียมมา' นั่นเป็นข้อเท็จจริงอันน่าตื่นเต้น จินตนาการของเขาเริ่มทำงานอีกครั้ง แต่ก็ต้องถูกหยุดลงด้วยสายตาของปุ้ยที่จ้องมองมา เขาหัวเราะกลบเกลื่อน ในขณะที่สองหนุ่มสาวหัวเราะด้วยความขบขัน

ไหมหันไปทำตาหวานใส่เคน

“กินข้าวเสร็จแล้ว เราสองคนไปเดินย่อยอาหารที่ชายหาดด้วยกันไหมคะ”

เคนยิ้มยังไม่ทันได้ตอบ ปุ้ยก็ชิงพูดขึ้นก่อน

“ก็ดี ไปกันทั้งหมดนี่แหละ”

“เอ่อ...แต่ว่า...”

ความหวาดกลัวของจริงเอ่อล้นขึ้น รวมถึงมือข้างนั้นที่จ้องจะจับขาเขาด้วย แต่ทั้งหมดกลับถูกหยุดไว้อย่างง่ายดายด้วยเพียงสายตาที่เหลือบมองมาของเธอ สายตาที่ไม่มีตัวเลือกอื่นใดเหลือให้กับเขา สายตาที่แม้แต่ความหวาดกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจยังต้องยอมพ่ายแพ้

“...ก็ดี...ไปเดินย่อยอาหารเสียหน่อยก็ดีเหมือนกัน จะได้ดูทะเลยามค่ำคืนด้วย”

เขาพูดสิ่งที่ตัวเองกลัวออกมา คิดว่ามันอาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่ไม่เลย มันยังคงน่ากลัวเช่นเดิม 'มันผ่านไปแล้ว ลืมมันซะ' เขาบอกกับตัวเอง และมันก็ไม่สำเร็จเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เขาคงไม่มีวันลืมมันได้

มุมปากของไหมสั่นกระตุกเล็กน้อย แต่รอยยิ้มหวานนั้นยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้สายตาคมวาวคู่นั้นจะสั่นไหววูบวาบ แต่เธอก็ยังคงเป็นเด็กน่ารักสดใสในสายตาของทุกคน เป็นอย่างที่ทุกคนคิดว่าเธอควรจะเป็น 'เป็นอย่างที่ทุกคนคิด' เธอคิดอย่างเจ็บปวด

“ไปกันหมดก็ดีเหมือนกันค่ะ”

ไหมตอบอย่างร่าเริง

#####

จานข้าวไข่เจียวที่กินไปเพียงครึ่งเดียวถูกวางทิ้งไว้อย่างไม่ใส่ใจ ไข่เจียวที่เย็นชืด ก่อให้เกิดคราบไขมันเหนียวเยิ้มจับอยู่บนทุกสิ่งที่สัมผัสกับมัน ไม่ว่าจะเป็น จาน ช้อน ส้อม ริมฝีปาก นิ้ว หรือแม้แต่หลอดเลือดภายในกาย ความน่ากินที่เคยมีมลายหายไปจนหมดสิ้น

แมลงวันสองสามตัวบินวนเวียน ก่อนร่อนลงเพื่อสำรอกน้ำย่อยออกมา กรดจะย่อยสลาย ละลายไข่เจียวให้กลายสภาพเป็นเมือกเหนียวข้น พวกมันพากันเต้นรำเหยียบย่ำไปบนเมือกเหล่านั้นด้วยขาที่เต็มไปด้วยขนยุบยับ ก่อนเริ่มดูดกินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย

ดินสอในมือของรุริโกะยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง 'บีเองก็ต้องมีความลับเช่นกัน' สองพี่น้องที่ไม่ใช่พี่น้อง กับคู่รักของพวกเธอ ผู้ที่มีชาติกำเนิดเป็นปริศนา พร้อมแผนบางอย่างซ่อนลึกอยู่ในใจ กับชายผู้มีอดีตแหวกว่ายติดตามไปทุกที่ อดีตอันไม่ปกติธรรมดา

ในท่ามกลางพายุคลั่งที่ถูกเรียกว่า ความรัก ทั้งหมดจะถูกพัดพาเข้าสู่คฤหาสน์ลึกลับหลังนั้น 'ยังต้องมีตัวละครอื่นอีก' ความคิดยังไม่ทันจบ ที่หนีบกระดาษก็หลุดกระเด็นหายไป สมุดเล่มหนึ่งกางเปิดออก

เธอไม่ตกใจอีกแล้ว เธอเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา แล้วเริ่มอ่านข้อความที่ถูกเขียนทิ้งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้

'ในคืนอันมืดบอด แพรดาว พราวพร่างฟ้า เฉิดฉายในความมืดมิด ความรักทั้งมวลจะถูกทายท้า จากเธอผู้ไร้ซึ่งความรัก ผู้สวมใส่ราตรีกาล ผู้มองผ่านดวงตะวัน'

เธอคิดว่านั่นคือทั้งหมด แต่ที่มุมหนึ่งของหน้ากระดาษยังมีตัวอักษรเล็กๆ ขีดเขียนอย่างบางเบากลุ่มหนึ่งซุกซ่อนอยู่

'ความรักของฉันก็เช่นกัน ที่ต้องเผชิญการทดสอบ'

จากคุณ : zoi
เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 09:00:43




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com