Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คฤหาสน์สนธยา ตอนที่ 4 ติดต่อทีมงาน

ซ้ายมือคือผืนน้ำ ขวามือเป็นความรกร้าง แสงดาว แสงจันทร์ แสงไฟ สะท้อนไหวในของเหลวมืดดำ ทะเลเคลื่อนตัวเข้าสู่หาดทรายชายฝั่ง พื้นผิวที่ลาดเอียงขึ้น ยกพวกมันให้สูงจนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าคลื่น ก่อนตกกระแทกแตกสลายหายไปเมื่อถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทาง

การเดินทางที่จุดจบกลายเป็นจุดเริ่มต้น และจุดเริ่มต้นกลายเป็นจุดจบ เมื่อคลื่นแตกสลาย มันเป็นทั้งจุดจบ และการเริ่มต้น เหมือนกับทุกสิ่ง นี่คือความเป็นจริง

สิ่งที่ ปุยฝ้าย มองเห็นคือความมืดดำ ความโกรธเกรี้ยวของสายน้ำ พวกมันต่างไม่พอใจในสิ่งที่ได้รับ พวกมันกระแทกกระทั้น ดิ้นรน ส่งเสียงก่นด่าโวยวายไม่เคยหยุด ทั้งคืน ทั้งวัน

ถึงแม้ชายฝั่งทะเลจะหยุดพวกมันเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจทำให้สงบลงได้ พวกมันสะสมกำลัง รอคอยเวลาที่จะกลายเป็นคลื่นสูง เพื่อกลืนกินทุกสิ่ง จมทุกอย่างไว้ภายใต้ความแค้น ทำลายทุกอย่างด้วยเรี่ยวแรงอันเกิดจากความกดดันของตัวมันเอง นี่คือความเป็นจริง

สิ่งที่ เคนจิ มองเห็นคือความเป็นไปได้ ชายหาดแห่งนี้ยังมีศักยภาพในการพัฒนาแฝงอยู่ หากมีการปรับโครงสร้าง พัฒนาอย่างเหมาะสม พื้นที่นี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ 'ต้องสร้างจุดขาย' และที่สำคัญ 'ต้องมีการโฆษณา' เพราะหากไม่เป็นที่รู้จัก ก็ไม่อาจเป็นอะไรได้ทั้งนั้น

ที่นี่คือสถานที่อันเต็มไปด้วยโอกาส แต่ปัญหาสำคัญยังคงเป็นเรื่องเดิม เงินทุน 'ต้องมีเงินสักก้อน' เงินจำนวนมาก เขากำมือแน่น นึกถึงความเป็นไปได้บางอย่างที่อยู่ไม่ไกลแล้ว นี่คือความเป็นจริง

สิ่งที่ เหมือนไหม มองเห็นคืออิสระ ทะเลอันกว้างไกลไร้ที่สุด ไม่อาจถูกกักขังเอาไว้ด้วยสิ่งใด มันคือสิ่งเดียวที่เธอโหยหามาตลอด การที่ไม่ต้อง 'เป็นอย่างที่ใครคิด' อีกต่อไป การได้เป็นอย่างที่ตัวเองอยากเป็น 'ฉันอยาก...' เธอหยุดความคิดเอาไว้เพียงแค่นั้น ก่อนกอดกระชับแขนของผู้ชายที่เดินเคียงข้าง

บางทีอาจจะเป็นแขนข้างนี้ก็ได้ ที่จะสามารถฉุดเธอออกจากกรงขัง ฉุดเธอออกจากกรอบที่คุ้นชิน ออกจากสายตาเหล่านั้น เพราะถึงแม้ว่าพวกมันจะอบอุ่น ปลอดภัย แต่เธอคิดเสมอ ว่ามันน่าเบื่อเกินไป นี่คือความเป็นจริง

สิ่งที่ จริงใจ มองเห็นคือสิ่งที่ไม่ใช่ทะเล เขาไม่มองทะเล ไม่คิดถึงทะเล 'ตรงนี้ไม่มีทะเล' เขาได้ยินเสียงคลื่น เขาได้กลิ่นไอเค็มที่คุ้นเคย เขารู้สึกถึงเม็ดทรายเหล่านั้น พวกมันคือสิ่งที่เขารัก 'ตรงนี้ไม่มีทะเล' เขาย้ำกับตัวเองอย่างหนักแน่น นี่คือความเป็นจริง หรืออย่างน้อยเขาก็พยายามจะเชื่ออย่างนั้น

'คิดถึงอย่างอื่น คิดถึงเรื่องอื่น' เขาเหลือบมองเสี้ยวหนึ่งของใบหน้าหญิงสาว 'คิดถึงปุ้ยที่กำลังเดินเคียงข้างอยู่ในตอนนี้สิ' ทั้งสองรู้จักกันมานานแล้ว มันเริ่มต้นจากความเป็นเพื่อน และกลายมาเป็นอะไรที่มากกว่า อย่างน้อยก็สำหรับตัวเขา ส่วนสำหรับเธอจะเป็นเช่นไรนั้น เขาไม่อาจคาดเดา หรือไม่อยากคาดเดา หรืออะไรก็ช่าง เขาบอกกับตัวเอง 'ฉันไม่สนใจ'

เขาไม่แน่ใจว่ามันคือ ความรัก เดียวกัน กับที่คนอื่นชอบพูดถึงหรือไม่ มันไม่ได้เริ่มจากอะไรที่น่าตื่นเต้น เขาไม่เคย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย เห็นแต่หน้าเธอทุกเวลาอะไรแบบนั้น เขาก็ยังคงเป็นปกติ เพียงแต่รู้สึกดี เวลาที่อยู่ใกล้ ได้เห็นหน้า ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันกับเธอ

ความรู้สึกนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ในแบบที่ หนัง ละคร หรือ เพลง พวกนั้นชอบพูดถึง มันยังคงเป็นเพียงความรู้สึกดีๆ ที่เรียบง่าย แต่สะสมจนมากมายอย่างคาดไม่ถึง

ความรักของเขาคล้ายกับคลื่นพวกนี้ 'ตรงนี้ไม่มีทะเล' คลื่นแห่งความรักที่ซัดสาดเข้าใส่ดวงใจของผู้เป็นที่รักอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้จักหยุดหย่อน ไม่รู้จักท้อแท้ และไม่อาจจะหยุดตัวเองได้เลย ถึงแม้ว่าชายหาดแห่งนั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมก็ตาม

เธอมีบางอย่างซุกซ่อนอยู่ในใจ เขาดูออก แต่ไม่เคยคิดจะเอ่ยถาม เขารู้ดี รู้ดียิ่งกว่าใคร เพราะเขาเองก็มีสิ่งซึ่งไม่อาจบอกเล่าให้ใครฟังได้เช่นกัน อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้ 'ฉันอยากเล่าให้เธอฟัง' เมื่อเวลานั้นมาถึง เวลาที่คนรักจะได้เปิดอก ตีแผ่ดวงใจให้แก่กัน 'ฉันจะเล่าเรื่องทะเลของฉันให้เธอฟัง'

ทะเลอยู่ตรงนี้แล้ว 'ตรงนี้ไม่มี...' เขาหันไปตามความรู้สึกซึ่งถูกเรียกโดยสิ่งที่ไร้เสียง มองเห็นคลื่นสูงมืดดำม้วนตัวเคลื่อนใกล้เข้ามา

มันหยุดลงที่เบื้องหน้า ทิ้งฟองคลื่นเป็นคราบสีแดงฉาน หยุดลงที่แทบเท้า จนรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้น กลืนกินข้อเท้า ด้วยสายน้ำที่เย็นเฉียบ ขึ้นถึงหัวเข่า โถมเข้าใส่เอว กระแทกใส่หน้าอก ท่วมถึงระดับคอ จนรู้สึกได้ถึงแรงฉุดกระชากจากมือนับไม่ถ้วน มันกลืนกินร่างของเขา ดึงเขาเข้าไปในร่างของเธอ

'ฉันกลับมาอีกแล้ว ทะเลของฉัน'

ใครๆ ก็บอกว่าเขาชอบทะเล ชอบมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ยังเดินไม่ค่อยคล่อง เขาไม่เคยกลัวคลื่น เขาคลานลงทะเลพร้อมกับรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ 'ลูกว่ายน้ำได้โดยธรรมชาติ' และเขาเชื่อว่ามันเป็นความจริง สายน้ำเป็นเหมือนดั่งบ้านเกิดของเขา

เขาไม่อาจต้านทานความรู้สึกของตนเองได้อีกต่อไป เขาคิดถึงทะเล และเธอก็คิดถึงเขา เธอเรียกหา เธอดึงดัน เธออยากจะพบกับเขา โอบกอดเขาด้วยมือนับไม่ถ้วน มือที่พร้อมจะดึงตัวเขาให้จมดิ่งหายไปในร่างของเธอ ตลอดกาล

“เป็นอะไรไป”

เสียงเรียกเบาๆ ดังขึ้นที่ข้างตัว ทะเลหดหายกลับคืนสู่สภาวะสามัญอย่างที่ควรจะเป็น พวกมันยังคงอยู่ห่างไกลจากเขาออกไปอีกหลายก้าว 'ตรงนี้ไม่มีทะเล' เขาพยายามฝืนยิ้ม รู้ว่าตัวเองกำลังหน้าซีด และอาจจะมือสั่นด้วย

“ผมใจลอยไปหน่อย”

“...คิดถึงใครหรือไง”

“เปล่า”

แล้วมือของทั้งสองก็แกว่งมาพบกันเข้าพอดี ในเวลาเดียวกัน สายตาของทั้งคู่ได้ประสานกันเป็นครั้งที่เท่าใดก็ไม่อาจนับได้ แต่ในครั้งนี้มันแตกต่าง ไม่รู้ว่าทำไมจึงแตกต่าง แต่เขาคิดว่ามันแตกต่าง

มือหยุดสั่น เขากลั้นใจจับมือข้างนั้นเอาไว้ ในเสี้ยววินาทีนั้น คล้ายกับจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น และโดยที่เขาไม่รู้ตัว ในเสี้ยววินาทีนั้น ทะเลของเขาได้หายไปอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก

“...จับมือกันแล้ว...”

ไหมหันไปกระซิบเบาๆ กับเคน แต่มันคงไม่ค่อยเบานัก เพราะสองคนที่เดินอยู่ข้างหน้าได้ยินอย่างชัดเจน เธอสะบัดมือ จนเขาต้องรีบปล่อย แล้ววินาทีนั้นก็สิ้นสุดลง

ปุ้ยเดินต่อไปอีกสองสามก้าวก่อนหยุดชะงัก ไม่ใช่เพราะเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ที่เธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไรดี แต่เป็นเพราะสิ่งที่เธอเห็นด้วยหางตา มีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในความมืดทางขวามือ ในความรกร้าง เธอรีบกวาดตามอง

“มี...”

เธอยกมือขึ้นห้าม ใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปาก เป็นเครื่องหมายว่าไม่ให้ใครส่งเสียง ทั้งหมดหยุดยืนนิ่ง พร้อมกับมองไปในทิศทางเดียวกับเธอ

ผ่านไปอีกครู่ใหญ่ ก่อนที่เคนจะคิดว่าตัวเองเห็นอะไรบางอย่างแล้วเช่นกัน 'ความมืดที่เคลื่อนไหวได้' แล้วไหมก็ค่อยๆ ย่องออกไปในทิศทางนั้น โดยไม่สนใจคนที่เหลือซึ่งพยายามจะคว้าแขนเธอ

“...ไหมรู้แล้วว่ามันเป็นตัวอะไร...”

เธอกระซิบตอบ ก่อนค่อยๆ ย่อตัว เดินย่องเข้าไปช้าๆ เธอหยุดเป็นจังหวะ ก่อนเปลี่ยนเป็นใช้วิธีคลานไปบนผืนทราย ตอนแรกสองหนุ่มเฝ้ามองด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อมองเห็นด้านหลังของกางเกงขาสั้นที่หญิงสาวสวมใส่ ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ความคิดก็เริ่มเตลิดเปิดไกลออกไป

จริงเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ความร้อนแปลกประหลาดค่อยๆ แผ่กระจายออกมาจากส่วนลึกในกาย ในจิตใจ มือของปุ้ยเอื้อมมาบีบแขนของเขาอย่างแรง เขาหันไปมองเธอด้วยความรู้สึกผิด

ความมืดนั้นซุกซ่อนตัวเองอยู่ในเงื้อมเงาของสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่ง เงาที่ทอดยาวอย่างแปลกประหลาด เงาที่ดูเหมือนจะไม่สนใจแสง อันควรจะเป็นต้นกำเนิดแห่งมัน เงาที่ไม่เหมือนกับเงาอื่นใด

โดยที่ไม่รู้ตัว เธอได้ก้าวผ่านจากความมืดธรรมดา เข้าสู่ความมืดที่ไม่ธรรมดา ความมืดเหนือธรรมชาติ เงามืดของคฤหาสน์สนธยา

เธอเอื้อมออกไปช้าๆ แบมือออก หงายมือขึ้น เพื่อให้เห็นว่าไม่ได้ซ่อนสิ่งใดเอาไว้ แบมือเพื่อแสดงความจริงใจกับฝ่ายตรงข้าม แต่เธอทำไปโดยไม่รู้ความในที่ซุกซ่อนอยู่เหล่านี้เลย ตาของเธอจ้องมองสิ่งนั้นไม่กระพริบ

“...แง้ว...”

ลูกไฟสีทองสองดวงเจิดจ้าเปล่งประกาย ในเสียงกรีดร้อง ประกายเล็บสีเงินส่องสว่างวาบก่อนหายวับราวกับเป็นฟ้าแลบ เขี้ยวขาว และเสียงขู่ ก่อนที่แมวซึ่งมีขนสีดำสนิท และดวงตาสีเหลืองตัวนั้นจะวิ่งหายไป

“โอ้ย”

เธอร้องด้วยความตกใจ ยกมือข้างนั้นขึ้นมาดู บนผิวเนื้อสาวที่ปลายนิ้วชี้ มีรอยขีดจางๆ สองสาย ก่อนที่ของเหลวสีแดงจะค่อยๆ ไหลซืมออกมา รวมตัวกันเป็นหยดไหลย้อยราวกับเม็ดไข่มุกสีแดงเลือด ไม่มีความเจ็บปวดแม้แต่น้อยในตอนแรก แต่เธอคิดว่ามันคงจะติดตามมาในไม่ช้า

“เป็นอะไรมากหรือเปล่า”

จริงถาม กำลังจะคว้าแขนของเธอมาดู แต่มีมืออีกข้างหนึ่งเอื้อมมาหยุดเขาเอาไว้ ปุ้ยไม่ได้พูดอะไร แต่เขาเข้าใจได้ในทันที มันไม่ใช่หน้าที่ของเขา เคนรีบเข้ามาทำหน้าที่นั้นแทน

“ไหมเป็นอะไรหรือเปล่า...”

“โดนมันข่วนเอา เลือดไหลเลย...”

เธอยกนิ้วให้เขาดู เสียงสะอื้น ทำท่าเหมือนจะร้องไห้

“...แต่ ไหมตกใจมากกว่า ฮือ”

เธอไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากนัก แต่รู้สึกเจ็บใจ เธอไม่ได้คิดร้ายอะไรกับแมวตัวนั้น เหตุใดมันจึงต้องทำกับเธอเช่นนี้ มันช่างไร้เหตุผลสิ้นดี

เธอไม่เคยทำร้ายใคร เหตุใดทุกคนต้องทำกับเธอแบบนี้เธอเพียงแค่คิด 'แค่คิดเท่านั้น' แล้วเก็บมันไว้ในใจ ไม่ให้มันออกไปทำร้ายใคร นอกจากตัวเธอเอง เธอคิด แล้ว เธอก็เจ็บปวด หยาดน้ำตาเม็ดกลม ไหลรินไปตามร่องแก้ม ทิ้งคราบของความเศร้าเอาไว้ตามทาง

จริงทบทวนสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อครู่นี้อีกครั้ง แมวดำตัวนั้น ตอนแรกมันหมอบนิ่งเก็บขาทั้งหมดเอาไว้ พอไหมเข้าไปใกล้ มันก็ไม่ได้เผยขาหน้าออกมาให้เห็นก่อน แม้แต่ดวงตาก็หรี่ปรือราวกับไม่ใส่ใจ แต่ในพริบตานั้น มันก็ตะปบมือของเธอ ก่อนวิ่งหายไป

มันไม่ใช่อย่างที่แมวควรจะเป็น เมื่อมีศัตรูเข้ามาใกล้ มันต้องจ้องมองด้วยดวงตาแวววาวไม่กระพริบก่อน เมื่อเข้าสู่ระยะอันตราย มันจะเผยขาหน้า แสดงท่าทางพร้อมที่จะเคลื่อนไหว เมื่อเข้าสู่ระยะจู่โจมมันจะส่งเสียงขู่ บางครั้งอาจจะพองหางให้ฟู และเมื่อจวนตัวเท่านั้น มันถึงจะจู่โจมใส่เพื่อให้ศัตรูชะงัก ก่อนหันหลังวิ่งหนีไป

'ดวงตาคู่นั้น' มันไม่ใช่แค่สีเหลือง แต่เป็นสีทอง ยังมีอีกอย่าง 'ตัวมันใหญ่เกินไป' เขาไม่คิดว่าเคยพบเห็นแมวที่ตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน

'มันเป็นผู้หญิงด้วย' เขาไม่ทันเอะใจว่าทำไมตัวเองจึงไม่คิดว่า 'มันเป็นตัวเมียด้วย' เขาดูจากรูปหน้าที่เรียวนั้น ตัวผู้จะมีใบหน้าที่อ้วนใหญ่กว่า มันไม่เสมอไป แต่เขามั่นใจว่ามันต้องเป็น ผู้หญิง อย่างไม่ต้องสงสัย

เคนมองดูบาดแผลที่ปลายนิ้วชี้นั้น ผิวสาวขาวอมชมพู สีเลือดที่แสนสวยสด ความรู้สึกบางอย่างเริ่มขยับตัว เขาเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ค่อยๆ ใช้ปากของตนปิดลงบนปากแผล ไหมรู้สึกได้ถึงแรงดูดเบาๆ ที่ปลายนิ้ว กับสัมผัสจากริมฝีปาก จากลิ้นของเขา มันไปกระตุ้นความรู้สึกที่ซ่อนลึกเร้นอยู่ภายในกายเธอเช่นกัน

“ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ดีกว่า ฉันยังไม่ได้ใช้เลย”

ปุ้ยรีบบอก แต่ทั้งสองกลับไม่สนใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เคนได้ลิ้มรสเลือด แต่เป็นครั้งแรก ที่มันไม่ใช่เลือดของเขาเอง ทุกคนคงเคยได้ลิ้มรสเลือดของตัวเองกันมาแล้ว เวลาที่เป็นแผล เวลาที่เลือดเปื้อนนิ้ว สิ่งที่หลายคนทำคือยกมันขึ้นใส่ปาก แล้วเลียกินจนสะอาด เลือดคือส่วนหนึ่งของร่างกาย เมื่อมันไหลออกมา การกินมันกลับเข้าไปคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

เลือดคือส่วนหนึ่งของร่างกาย หากเป็นของผู้อื่น การกินมัน ก็คือการกินส่วนหนึ่งของคนผู้นั้นเข้าไป มันคือการแลกเปลี่ยนรูปแบบหนึ่ง อย่างการกรีดเลือดร่วมสาบาน ก่อนแบ่งปันของเหลวที่ผสมเลือดของทุกคนเอาไว้ดื่มร่วมกัน เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียว หรือการถ่ายเลือดทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยรอดชีวิต มันดูแปลกแต่ก็ไม่มาก และเรามักไม่ค่อยใส่ใจ

แต่เมื่อเปลี่ยนมุมมองไปสู่รูปแบบอื่น ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ทั้ง จริง ไม่จริง ไม่มีใครรู้ หรือไม่มีใครกล้ายืนยัน อย่างเช่นการดูดกินเลือดของผีดูดเลือด การกินมนุษย์ของคนบางกลุ่ม ฆาตกรที่ถูกหาว่าจิตใจผิดปกติ จากการเสพติดเลือดเนื้อของเหยื่อ ซึ่งเราใส่ใจ

ความหนืด รสเค็ม และกลิ่นคาวของสนิมเหล็ก อันโดดเด่นเฉพาะตัว กระจายไปทั่วปาก พวกมันกระตุ้นตุ่มรับรสในจินตนาการที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจของเขาขึ้นมา

รสที่ไม่อาจมีสิ่งใดเทียบเทียม ไม่ว่าจะเป็น ตับห่านฟัวกราชิ้นโตเข้มมัน เห็ดทรูฟขาวกลิ่นแปลกหายาก หูฉลามขนาดใหญ่พิเศษตุ๋นทั้งชิ้น หอยเป๋าฮื้อตัวโตเนื้อหนึบ กุ้งแม่น้ำเผาหัวโตมันเยิ้ม ปูทะเลตัวอวบเนื้อแน่น สิ่งเหล่านั้นเพียงกระตุ้นต่อมรับรสที่อยู่บนลิ้น แต่ไม่อาจล่วงล้ำเข้าสู่ขอบเขตของจินตนาการดำมืดที่อยู่ลึกลงไป

ดวงตาของสองหนุ่มสาวฉายประกายประหลาดออกมาจากเบื้องลึกในจิตใจ ประกายที่ไม่ปกติ ประกายที่แปลกแยกผิดธรรมดา 'บางทีฉันอาจต้องเพิ่มเติมอะไรบางอย่างลงในแผน อะไรบางอย่างที่จะช่วยทำให้มัน อร่อย ยิ่งขึ้น' เขาคิด 'ฉันไม่อยากเป็นอย่างที่ใครคิด ฉันอยาก...' เธอคิด

“ทั้งสองคนพอได้แล้ว...”

ปุ้ยพูดด้วยเสียงเฉียบขาด เสียงที่มาจากส่วนลึกในจิตใจของเธอ เสียงที่ต้องการทำลายความสุขทุกสิ่งเบื้องหน้า เสียงที่ทำลายแม้แต่ความสุขของตัวเธอเอง

“...วิธีนี้มันไม่สะอาด แผลอาจติดเชื้อได้”

เธอรีบซ่อนน้ำเสียงตอนแรกนั้นเอาไว้ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูห่วงใยมากขึ้น 'มันอาจจะเป็นแมวป่า' นั่นเป็นความคิดสุดท้ายก่อนที่จริงจะกลับมาสู่สิ่งที่เกิดขึ้นนอกจิตใจของเขา

“เหรอคะ...”

ไหมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับไม่ใช่ตัวเธอ แต่เธอรู้ว่ามันเป็นน้ำเสียงของเธอ เธอเริ่มออกวิ่ง เธอต้องหนีออกจากสถานการณ์นี้ 'ก่อนที่...' เธอวิ่งไป

“เดี๋ยว”

จริงส่งเสียง เอื้อมมือออกไปคิดจะคว้าแขนเธอเอาไว้ แต่มือเขาแข็งค้าง ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย เขาหันหน้าออกสู่ทะเล สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือทะเล เสียงที่ได้ยินคือเสียงของทะเล ดวงตาที่มองจ้องมาที่เขา ก็เป็นดวงตาของทะเลเช่นกัน 'ทะเลของฉัน เธออยู่ที่นี่แล้ว'

“...ไหมจะลงไปล้างแผลด้วยน้ำทะเล มันจะได้สะอาด”

เสียงของเธอร่าเริงเหมือนกับตัวเธอ แต่เธอรู้ว่ามันไม่ใช่เสียงของเธอ

“มันอันตรายนะ ลงไปในทะเลตอนมืดๆ แบบนี้”

เสียงของปุ้ยฟังดูห่วงใย แต่ในเสียงนั้นมีรอยยิ้มซ่อนอยู่ 'มันอันตรายนะ' ถึงแม้คลื่นจะไม่แรง แต่มันก็มืด อะไร อะไร ก็เกิดขึ้นได้ในความมืด 'โดยเฉพาะอุบัติเหตุ' เธอวิ่งตามน้องสาวไป

จริงรู้ว่าเขาควรจะตามไป แต่เขาได้แต่ยืนนิ่ง ถ้าเขาลงไปในทะเล มือพวกนั้นจะไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งที่มีอยู่ในจินตนาการอีกต่อไป พวกมันจะคืบคลานออกมา ออกสู่โลกแห่งความเป็นจริง แล้วเขาจะไม่ได้กลับขึ้นมาอีก 'เธอจะไม่ยอมให้เขาได้กลับขึ้นมา' เขาจะต้องอยู่กับเธอไปตลอดกาล

เงาของคฤหาสน์ลึกลับทอดยาวบิดเบี้ยวจนไม่อาจคาดเดา มันเอื้อมคว้า กลืนกินหนุ่มสาวทั้งสองคู่เข้าสู่เงื้อมเงาแห่งมันด้วยความหื่นกระหาย ความเป็นจริงของพวกเขาทั้งหมดถูกตัดขาดจากความเป็นจริงของคนอื่นๆ ความเป็นจริงที่กำลังบิดตัวไปมาด้วยความรู้สึกรุนแรงที่ปะทะชนกัน

ความเป็นจริงที่ฉีกยิ้มกว้าง และแหกปากหัวเราะอย่างคุ้มคลั่ง

#####

รุริโกะเงยหน้าขึ้นจากโลกของตัวเอง ในหูคล้ายแว่วเสียงของอะไรบางอย่างกำลังเรียกหา เธอเพ่งมองออกไปในความมืดนอกหน้าต่าง นอกจากเงาของตัวเธอเองแล้ว ยังมีเงามืดดำของอะไรบางอย่างทาบทับตัดขอบฟ้า เงาของสิ่งก่อสร้างที่มียอดแหลมเอาไว้ทิ่มแทงทุกสิ่ง แม้แต่ตัวมันเอง

เงาของสิ่งก่อสร้างที่คุ้นตา เพราะได้เฝ้ามองทั้งในยามตื่น และยามหลับ สิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับงานเขียนของเธอ 'มันดูเหมือนอยู่ใกล้มาก' ใกล้กว่าที่เธอจำได้ 'ใกล้เกินไป' นอกจากนี้เธอยังรู้สึกอีกว่าภายในที่พักริมทะเลแห่งนี้ ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากตัวเธอ หรือไม่อย่างนั้น ที่พักที่เธอรับรู้อยู่ในตอนนี้ และตัวเธอ ก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นจริงสำหรับคนอื่นๆ อีกต่อไป

แต่ความคิด ความรู้สึก เป็นสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้ มันไม่เหมือนกับความเป็นจริง 'จริงหรือ' บางทีความเป็นจริงต่างหาก ที่ไม่อาจเชื่อถือได้ยิ่งกว่า ความเป็นจริงที่ถูกสร้างขึ้นจากความเข้าใจครึ่งๆ กลางๆ ความเป็นจริงที่ถูกสร้างขึ้นจากความไม่รู้ ความเป็นจริงซึ่งเปรียบเสมือนรากฐาน ที่พร้อมจะพังครืนลงมาได้ทุกเมื่อ และลากดึงทุกสิ่งไปพร้อมกับมัน

เธอไม่รู้ แต่ตอนนี้ เงาของคฤหาสน์สนธยาได้ย่องเข้ามาอย่างเงียบเชียบ มันทาบทับห้องพัก สมุด ดินสอ รวมถึงตัวเธอ ก่อนจะค่อยๆ กางอุ้งเล็บตะปบลงมา

เธอหันกลับช้าๆ คว้าดินสอขึ้น แล้วเริ่มลงมือเขียนต่อ เร็วขึ้น และเร็วขึ้น นิ้วของเธอปวด แขนของเธอล้า แต่เธอไม่อาจหยุด หน้ากระดาษขาวค่อยๆ กลายสภาพเป็นก้นทะเล ที่เหนือตัวเธอขึ้นไปคือผิวน้ำ ผิวน้ำอันสงบนิ่งก่อนเกิดพายุใหญ่

'มันกำลังบิดเบี้ยว' เธอหมายถึงเรื่องราวที่กำลังเขียนอยู่ เธอเป็นคนให้กำเนิด เธอดูแล หล่อเลี้ยงมันด้วยจินตนาการของตัวเอง แต่ตอนนี้มันกลับเป็นฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่า และกำลังค่อยๆ หลุดพ้นจากความควบคุมของเธอ มันมีเรื่องราวของตัวมันเอง มันมีชีวิต

'ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังรักมันอยู่ดี' เธอยิ้ม เป็นยิ้มของมารดายามมองดูบุตรแห่งตน ไม่ว่าบุตรผู้นั้นจะชั่ว หรือดีก็ตาม มันต้องเป็น 'ความรัก' อย่างไม่ต้องสงสัย

มีมือมากมายยื่นขึ้นมาจากหน้ากระดาษ พวกมันพยายามจะลากดึงตัวเธอให้จมหายไปในทะเลตัวอักษร ให้เขียนตอนต่อที่บิดเบี้ยวลงไปในนิยายไร้ชื่อของเธอ หรือจะไม่ใช่นิยายไร้ชื่อ 'ของเธอ' อีกต่อไปแล้วก็ตาม

จากคุณ : zoi
เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 09:43:21




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com