Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...Dragon Delivery...#19 (1/4) ติดต่อทีมงาน

http://writer.dek-d.com/lawit/writer/view.php?id=738340

###

The Last Case: Of Happiness

###

๑.

ที่ซีเลมีร้านมังกรสองร้าน  คนชอบเรียกว่าร้านมังกรเหนือกับร้านมังกรใต้ตามทิศที่มันตั้ง  แต่ที่จริงแล้ว ร้านมังกรเหนือนั้นชื่อร้านเฮเบล  ส่วนร้านมังกรใต้ชื่อร้านเอชาน

ขณะนี้ เจ้าของร้านเอชานกำลังมองออกนอกหน้าต่าง

เขาทอดไส้กรอกทิ้งไว้ในกระทะ  เสียงฉี่ฉ่าดังมาให้ได้ยินเป็นระยะชวนน้ำลายสอ  ทว่าเพราะภายนอกเติมไปด้วยกลิ่นอบอวลของฤดูใบไม้ผลิ  เต็มไปสีสันมากมาย  โซลโทที่เห็นฤดูหนาวมานานจนเกินพอก็เผลอลืมตัวมองออกไป  กว่าจะได้สติอีกที กลิ่นหอม ๆ ของไส้กรอกก็กลายเป็นกลิ่นเหม็นไหม้  ไส้กรอกอ้วน ๆ กลายเป็นสีดำไปซีกหนึ่ง  มีควันตุ ๆ ลอยขึ้นมา

ท่านเจ้าของร้านเร่งเทไส้กรอกลงจาน  ถอนหายใจเสียดายของ ก่อนจะตัดสินใจเฉือนที่ไหม้ทิ้งไป  แต่พอเฉือนแล้ว  เขาก็อดมองข้างนอกอีกไม่ได้  สำหรับโซลโทที่ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาสิบเก้าครั้งแล้ว  ครั้งที่ยี่สิบนี้กลับมาน่าอัศจรรย์กว่าครั้งไหน ๆ ทีเดียว

หลังจากเหตุการณ์ที่ทะเลสาบซีเล  หิมะก็ถูกขับสลายไป  กาลเวลาที่ถูกหยุดไว้จึงดำเนินต่ออย่างรวดเร็ว  ต้นไม้พากันแตกใบติดดอก  หญ้าแทงยอดขึ้นจากพื้นกลายเป็นสีเขียวสดใส  ท้องฟ้าสีเข้มขึ้นเล็กน้อย  มีปุยเมฆสีขาวราวดอกฝ้ายประปราย  จิตใจของทุกคนที่ผ่านอะไรมามากมายก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง  

"ไอ้ขอรับบบ" เสียงโหยหวนลอยมาจากช่องบันได

…ว่าไป ต่อให้จิตใจจะผ่อนคลายหรือไม่  กระเพาะของใครบางคนก็ยังถมไม่เต็มอยู่ตามเดิมละมัง



เทย์มองอาหารในจานอย่างไม่ไว้ใจ

เขาว่าเขาเห็นไส้กรอก...ใช่ไหม  นอกจากนั้นยังเห็นแฮมอีกด้วย  และเห็นไข่  ตะกร้าผักที่ปรกติต้องประดิษฐานอยู่กลางโต๊ะ บัดนี้ถูกท่านชายที่เอือมระอาผักเหมือนกันแอบเขี่ยไปไว้ตรงมุม ๆ จานกลางจึงมีแต่แผ่นแป้งเพิ่งปิ้งหอมกรุ่นกองใหญ่  เครื่องทาต่าง ๆ รวมทั้งน้ำผึ้งและน้ำเชื่อมยางไม้  นอกจากนั้นยังมีขนมอบตะกร้าใหญ่อีกด้วย

"เจ้าไม่ใช่ไอ้ขอรับใช่ไหม" พ่อมดชี้หน้าโซลโทที่ยกไส้กรอกออกมาเพิ่ม

"ไม่ใช่หรอก" ท่านเจ้าของร้านตอบโดยสงบ "ไส้กรอกก็ใส่ยาพิษด้วย"

คนกล่าวหาอ้าปาก  ก่อนจะหุบลงอย่างรวดเร็ว  เริ่มนึกขึ้นได้อีกรอบว่าหลังจากผ่านอะไรมากมาย  ไอ้ขอรับก็วิวัฒนาการเป็นจามีที่เขาโง้งขนยาวตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมแล้ว  และอาจจะกลั่นแกล้งไม่ได้ง่ายเท่าไร

"ไม่เป็นไร ข้ากินยาพิษได้" เอลาซที่นั่งกินอาหารอยู่อีกด้านว่า "ส่งมานี่สิ"

อย่างไรก็ตาม ขณะท่านชายกำลังเอื้อมมือไป  สิ่งมีชีวิตกินเนื้อดุร้ายที่อยู่ตรงกลางก็เร่งแย่งจานจากมือท่านเจ้าของร้าน  แยกเขี้ยวแฟ่หนหนึ่ง ก่อนจะเทไส้กรอกทั้งหมดใส่จานตน และเขมือบโดยไว   อีกสองคนที่เหลือเห็นพ่อมดถูกผีกิลช์เข้าสิงดื้อ ๆ อย่างนั้น ก็พร้อมกันถอนใจ

"ข้าจะไปทอดไส้กรอกมาเพิ่ม" โซลโทบอก

"กินข้าวก่อนเถอะ" เอลาซเรียกไว้ "เจ้าเองแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไร"

"ไม่เป็นไรขอรับ  เดี๋ยวข้าจะห่อข้าวเช้าไปกินกับเรนา"

พอเจ้าของร้านเข้าครัวไป  คนที่โต๊ะอาหารสองคนก็สบตากัน

โซลโทจริงจังขึ้นนิดหน่อย...พวกเขารู้สึกได้  ว่าไปความจริงจังก็ยังไม่เท่าไร  สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่า คือบางครั้งบางคราวเจ้าของร้านเอชานก็คล้ายเหม่อลอยไปไกล  เพื่อน ๆ ไม่ทราบว่าเขาคิดอะไร  ก็ไม่สบายใจอยู่บ้างเช่นกัน

"มันเป็นมาหลายวันแล้ว ใช่ไหม" เทย์ถาม ลดเสียงลงไม่ให้เล็ดรอดไปถึงในครัวได้

"ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา  แต่ก็สองสัปดาห์แล้ว" ท่านชายเองก็พูดเสียงเบาเช่นกัน "ใจไม่ค่อยอยู่กับตัวเท่าไร"

แน่นอน  ไม่ได้หมายความว่าโซลโทป่วยไข้เป็นอะไร  ที่จริงควรบอกว่า เขาฟื้นขึ้นมาในสภาพปรกติมาก  ปรกติจนทุกคนที่เฝ้ารอบเตียงด้วยความเครียดอยู่หลายชั่วโมงแทบอยากกระทืบ  ค่าที่เป็นห่วงแทบตาย กลับไม่เห็นจะมีอะไรบุบสลายเลยสักอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม เมื่อโซลโทไม่เป็นอะไร ทุกคนย่อมโล่งใจ  ชีวิตคืนกลับสู่สภาพปรกติอย่างรวดเร็ว  ท่านเจ้าของร้านก็กลับร้านตัวเองไป  และต้องยกมือกุมขมับเมื่อทราบว่าไม่มีใครมีเวลามาดูแลร้านเลย  โรงมังกรยังพอทนได้  แต่ในร้านส่วนที่ไม่มีใครใช้ล้วนฝุ่นจับหนา  ลูกค้าหนีหายไปหมดเพราะปิดร้านนานเกินไป  โซลโทเห็นอย่างนั้นแล้วจึงตั้งหน้าตั้งตาสังคายนา  ผ่านไปหลายวันทุกอย่างกลับเข้าที่เข้าทาง  เขาก็เปิดร้าน  เอา "แผ่นประชาสัมพันธ์" ของเทย์ไปแจกใหม่  ป่าวประกาศให้ทราบทั่วกันว่าร้านเปิดแล้ว  ใครอยากใช้บริการขอให้มาได้  แถมยังมีลดราคาฉลองเปิดใหม่อีกต่างหาก

เนื่องจากเมืองเพิ่งกลับสู่สภาพปรกติ  จึงมีการใช้งานบริการประเภทขนย้ายข้าวของที่เสียหายไปทิ้ง  ตลอดจนสั่งของใหม่ ๆ จากเมืองอื่น  และขนอุปกรณ์ก่อสร้างสำหรับซ่อมแซมตึกรามที่เสียหาย  งานค่อนข้างวุ่นวาย ใครต่อใครก็พากันถามโซลโทว่าหายหัวไปไหน  ท่านเจ้าของร้านได้แต่ลูบต้นคอ  บอกว่ามีเรื่องร้อนเกี่ยวกับครอบครัว  จึงต้องรีบกลับบ้านไป

"สรุปก็เป็นบุรุษปริศนาตัวจริงไปแล้วสินะ" พ่อมดว่า "วีรบุรุษปริศนาช่วยเมืองไว้ตอนไหนก็ไม่รู้  กับตาลุงอีกคน  พวกเจ้านี่มันน่าเอาไปใส่หน้ากากโฆษณาร้าน รับรองงานไหลมาเทมา"

แน่นอนว่า "ตัวแทนโฆษณา" ทั้งสองคนย่อมไม่เห็นด้วยกับแผนประชาสัมพันธ์พรรค์นั้น  โครงการของเทย์จึงมีอันพับไป

แต่ในที่สุดแล้ว ทุกคนที่สนิทกับโซลโทก็รู้สึกได้ ท่ามกลางชีวิตที่คล้ายคืนสู่สภาพเดิม  ชายหนุ่มกลับยังเหม่อลอย  ครั้งหนึ่งเขาเหม่อถึงขนาดขว้างแท่งเหล็กชุบทองของรัฟลงทะเลสาบไป  ทิ้งให้เจ้ามังกรเขียวอ้าปากค้าง  มองแท่งทอง ๆ ของรัฟจมป๋อมหายสาบสูญ  หลังจากนั้น ท่านเจ้าของร้านก็มีอันต้องรีบไปทำใหม่มาใช้คืนโดยเร็ว  รัฟจึงค่อยยอมเลิกงอนขดเป็นก้อนอยู่ตรงก้นโรงได้

"ข้าคิดว่าเราน่าจะปรึกษาท่านลุง" เอลาซเอ่ยต่อไป

ใกล้ได้เวลาที่เขาเองต้องกลับบ้านแล้ว  อย่าว่าแต่ยังมีคำสัญญาที่ให้ไว้กับเชลา  ท่านชายไม่ทราบว่าอนาคตของตนจะเป็นอย่างไร  ก็อยากวางใจเรื่องเพื่อนสักเรื่องหนึ่ง  ตัวเองจะได้จากไปได้อย่างสบายใจ

เทย์กวาดไส้กรอกชิ้นสุดท้าย  กลืนลงไปก่อนที่ใครจะมาแย่งได้

"เดี๋ยวตาลุงมากินข้าวน่าจะได้คุยกัน ไอ้ขอรับมันคงรีบไปหานานา"

แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 21:33:42

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 23:47:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com