'สวิง' รัก ... 'พัตต์' หัวใจ (บทที่ ๕)
|
 |
ขอเกริ่นสักนิด
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ชยพล ชายหนุ่มผู้ซึ่งโดนบิดาปรามาสว่าชาตินี้ไม่มีวันทำอะไรสำเร็จ เขาจึงตั้งใจจะเป็น 'โปรกอล์ฟ' เพื่อลบคำสบประมาทให้ได้ และการจะเป็น 'โปรกอล์ฟ' ให้สำเร็จโดยเร็วก็ต้องอาศัย ชาลิดา 'แคดดี้มือหนึ่ง' เป็นสำคัญ
ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกล... ถ้าทั้งคู่ไม่ตีกันตายเสียก่อน
นิยายเรื่องนี้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเล่นกอล์ฟครบทั้งบรรยากาศและเทคนิค หวังว่าผู้อ่านจะได้รับความบันเทิง และความรู้ในกีฬาชนิดนี้บ้างตามสมควร
ปกติผมจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับธรรมะและประวัติศาสตร์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างจริงจังพอสมควร เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่พยายามจะกุ๊กกิ๊กกับเขาบ้าง หากไม่หวานหรือกุ๊กกิ๊กเท่าไหร่ ก็ให้ถือว่าเป็นเพราะวัยที่ล่วงเลยวันหวานมานานเกินไปแล้วกันนะครับ ^_^
นิยายเรื่องนี้เขียนเกือบจบแล้ว (เหลือประมาณสองบทสุดท้าย) ตั้งใจจะลงเดือนละสองครั้งครับ คือ วันที่ ๑ กับ ๑๖ คาดว่ากว่าจะลงครบก็คงเขียนจบพอดี ดังนั้นเป็นอันรับประกันว่า ต้องลงให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันจนจบอย่างแน่นอน
บทที่ ๔ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12030314/W12030314.html
.........
บทที่ ๕
ชยพลจบวงสวิง โดยที่หัวไม้หนึ่งพาดค้างอยู่บนบ่า สายตาของเขาจ้องเขม็งไปยังลูกกอล์ฟสีขาว ที่กำลังทะยานแหวกอากาศไปเบื้องหน้า ครั้นเมื่อเห็นว่าลูกเริ่มบิดออกไปทางขวา เจ้าตัวก็เบือนหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์
เขาซ้อมไดร์ฟมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว แม้จังหวะการสวิงจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพราะสัดส่วนระหว่างลูกเสียกับลูกดี ยังแยกกันแทบไม่ออก
ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยมุ่งมั่นมาแต่ไหนแต่ไร บางเสี้ยวของอารมณ์จึงเริ่มท้อแท้
ยิ่งคิดทายาทเจ้าของธุรกิจสนามกอล์ฟก็ยิ่งแค้นใจตัวเอง ที่ดันเผลอหลุดปากไปกับบิดา โดยไม่ทันได้ยั้งคิด สู้ท้าทายว่าจะเรียนให้จบปริญญาโท ด้วยคะแนนเฉลี่ยเฉียดๆ สี่ ยังดูง่ายเสียกว่า
การเรียนหนังสือ เพียงขยันอ่าน ขยันเข้าห้องเรียน ก็คงจบได้ไม่ยากเย็น แต่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพ ใช่จะเรียนรู้แค่ทางทฤษฎีเท่านั้น ยังต้องฝึกปฏิบัติให้ได้อีกด้วย แถมในบางเรื่อง ทฤษฎีกับปฏิบัติ ยังแยกกันไปคนละทิศละทางด้วยซ้ำ
อย่างเช่น เรื่องวงสวิง นอกจากจะต้องศึกษาจากตำราอย่างวิเคราะห์เจาะลึกแล้ว ยังต้องนำมาทดลองใช้ และปรับให้เข้ากับสรีระอีกด้วย ขืนใครยึดตำราเพียงอย่างเดียว คงยากที่จะทำให้ได้ดี
หลายวันที่ผ่านมา ชยพลมาซ้อมตอนบ่าย ซ้อมไปก็พยายามมองหาผู้หญิงที่ตนทึกทักว่าเป็นครูไป เผื่อจะได้เทคนิคดีๆ จากเธอบ้าง แต่ก็ไม่เห็นแม้เพียงเงา
จนเมื่อวานเพิ่งได้ฉุกคิดว่า เจอกันคราวก่อน เป็นเวลาเย็น วันนี้เขาจึงลองมาซ้อมในเวลาแดดร่มลมตกดูบ้าง คิดในใจว่า เผื่อจะโชคดี
เจ้าตัวซ้อมไปก็ภาวนาไป ว่าขอให้ได้เจอเธออีกสักครั้ง และดูเหมือนคำอธิษฐานจะแรงพอ คนที่เฝ้ารออยู่หลายวัน แบกถุงกอล์ฟก้าวฉับๆ เข้ามา
เธอวางถุงถัดไปทางซ้ายของเขาสองเลน แล้วเดินก้มหน้างุดเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ เบิก จ่าย ลูกกอล์ฟ
ไม่กี่อึดใจจากนั้น เจ้าตัวยกลูกกอล์ฟออกมาสามถาด คว่ำหนึ่งถาดลงบนหญ้าเทียม แล้ววางอีกสองถาดไว้ข้างๆ
ทุกการกระทำของเธอ เหมือนวันแรกที่เห็นไม่ผิดเพี้ยน
เจ้าตัวหันรีหันขวาง จัดนั่นจัดนี่ แล้วหันไปชักหัวไม้หนึ่งออกมาสวิงลมเบาๆ
ชยพลอาศัยจังหวะนั้น กลับเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ประจำเลน ทำทีเป็นนั่งพัก แต่หางตาคอยชำเลืองอยู่ตลอด จังหวะหนึ่งเธอบังเอิญมองสวนมา เขาต้องรีบกลบเกลื่อนด้วยการแกล้งดัดนิ้ว สะบัดคอแก้เมื่อย
เจ้าตัวอดนึกประหลาดใจตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมยามที่สบตาเธอจึงรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง
ปกตินักกอล์ฟจะเริ่มซ้อมจากเหล็กก่อน บางคนเริ่มจากเหล็กสั้นแล้วไล่ระดับขึ้นไปเรื่อย บางคนก็อาจเริ่มจากเหล็กกลางแล้วค่อยไล่ระดับขึ้นไป แต่เธอกลับเริ่มด้วยหัวไม้หนึ่ง จึงสร้างความฉงนใจให้กับเขา
ทายาทนักธุรกิจสนามกอล์ฟพยายามนึก ว่าคราวที่แล้วลืมเธอเริ่มต้นด้วยอะไร แม้นึกไม่ออก แต่มั่นใจว่าต้องไม่ใช่หัวไม้อย่างแน่นอน
อุปสรรคในการลอบชำเลืองก็คือ แม้ตาจะมองเอียงอย่างไรก็ตาม แต่ใบหน้าต้องตั้งตรงเข้าไว้ ทำแบบนี้บ่อยๆ ตาจะเอียงหรือเปล่า ชยพลนึกถามตัวเองเล่นๆ
ขณะจรดหัวไม้ลงหลังลูก เธอเหลือบมองมาแวบหนึ่ง แล้วจึงสวิงออกไป ทำให้เขาเริ่มไม่มั่นใจ ว่าเจ้าตัวจะไม่รู้ ว่ากำลังถูกแอบมอง
แต่ชยพลก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มองตามลูกของเธอไป
จุดตกของลูกที่เธอไป เกือบถึงกรีนจำลองระยะ ๒๐๐ หลา เขาอดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า ลูกซ้อมยังไกลขนาดนี้ ถ้าลูกจริงจะไกลขนาดไหน
เธอซ้อมตีหัวไม้หนึ่งอยู่ประมาณสิบลูก เปลี่ยนเป้าหมายไปทางซ้ายบ้าง ทางขวาบ้าง ทำให้คนแอบมองได้รู้อีกอย่างหนึ่งว่า นอกจากระยะทางจะไกลสม่ำเสมอแล้ว ความแม่นยำของเธอก็สม่ำเสมอไม่แพ้กัน
เมื่อวางหัวไม้หนึ่งพิงไว้ข้างเสาแล้ว เธอชักเหล็ก ๗ ออกมาจากถุงกอล์ฟ ซ้อมสวิงลม ๔ ๕ เที่ยว แล้วจึงก้าวเข้าไปจรดใบเหล็กลงหลังลูก ก่อนตีออกไป
ผลงานของเธอยังน่าชื่นชมเช่นเคย
เธอซ้อมเหล็ก ๗ ประมาณสิบลูก น่าจะพอๆ กับหัวไม้หนึ่ง แล้วจึงชักเหล็กสั้นออกมาซ้อมชิพ ไปที่กรีนจำลองระยะ ๓๐ หลา
ชยพลจึงเพิ่งเข้าใจ ว่าทำไมเธอจึงเริ่มซ้อมจากหัวไม้หนึ่ง
เธอกำลังซ้อมโดยจำลองสถานการณ์จริง เริ่มช็อตแรกด้วยหัวไม้หนึ่ง ช็อตที่สองใช้เหล็กเจ็ดตีสบายๆ ไปที่ระยะ ๑๕๐ หลา และมาปิดท้ายด้วยการชิพ
เห็นเธอตีในแต่ละช็อตแล้วรู้สึกว่า การเล่นกอล์ฟช่างง่ายเหลือเกิน
ดูแล้วชักคันไม้คันมือ อยากซ้อมเลียนแบบเธอบ้าง แต่ ต่อมรักษาฟอร์ม กระซิบเตือนตัวเองว่า เพื่อความไม่ประมาท ควรใช้เหล็กสั้นลองชิพดูก่อน พลาดพลั้งอย่างไร จะได้ไม่เสียหน้ามากนัก
เขาจึงหยิบเหล็กสั้นออกมา ชิพ ชิมลางดูก่อน ปรากฏว่า ผลงานเป็นที่น่าพอใจ พอชิพไป ๔ ๕ ลูก ความมั่นใจก็เริ่มมา จึงหันไปชักหัวไม้หนึ่งออกจากถุง หวังจะโชว์ให้เลนข้างๆ ได้เห็นว่า พลังการตีของตนไม่น้อยหน้าไปกว่าเธอ
ช็อตแรก... ขาของเขาเคลื่อนเล็กน้อย เรียกว่าฐานไม่มั่นคง แต่ยังพอบังคับลูกให้ตรงได้ แม้ลูกจะสั้นกว่าของเธออย่างเห็นได้ชัดก็ตาม
ช็อตที่สอง... เขาเตือนตัวเองเรื่องความมั่นคงของช่วงล่าง ก่อนอัดแรงเพิ่มเข้าไป ปรากฏว่าลูกนี้น่าพอใจ ได้ระยะใกล้เคียงกับเธอแล้ว เจ้าตัวจึงนึกกระหยิ่มยิ้มย่อง ช็อตต่อไปได้เห็นดีกันแน่! เขาคำรามลั่นอยู่ในใจ
ช็อตที่สาม... เขามุ่งแต่จะอัดพลังให้เต็มที่ ลืมเตือนตัวเองเรื่องช่วงล่าง จังหวะที่หน้าไม้กำลังจะเข้าปะทะลูก ปลายเท้าจึงหลุดออกจากฐาน ร่างกายเหมือนโดนเหวี่ยงจนศีรษะแทบคะมำ
ลูกพุ่งพรวดออกไปด้านซ้ายทันที ลูกแบบนี้เรียกว่า รวบ คือตีรวบไปทางซ้าย
สวรรค์ไม่เป็นใจกันบ้างเลย! ทายาทประธานบริหารสนามกอล์ฟนึกโทษฟ้าดิน
เขาพยายามตั้งสติขึ้นอีกครั้ง หวังจะกู้หน้า พยายามลืมช็อตแย่ๆ ที่ผ่านมา แล้วบอกตัวเองให้ตีเบาลง แต่ดูเหมือนกับสถานการณ์จะกู่ไม่กลับ ลูกที่ออกจากหัวไม้กลายเป็นลูกสไลด์ พุ่งออกไปได้นิดเดียวก็เลี้ยวโค้งจากซ้ายไปขวา โค้งเสียจนเจ้าตัวนึกถึงกล้วยหอมขึ้นมาตงิดๆ
จากนั้นไม่ว่าจะปรับแก้วงสวิงอย่างไร วิถีลูกก็ไม่ดีขึ้นเลย จนรู้สึกหงุดหงิด จึงก้าวมานั่งพักที่เก้าอี้ประจำเลน
ผู้ที่ถูกทึกทักให้เป็นครู กำลังเก็บไม้กอล์ฟใส่ถุง เขาเสียดายที่มั่วแต่แก้วงสวิงของตน จนลืมเธอไปเสียสนิท เลยไม่ได้ดูว่า เจ้าตัวซ้อมลูกอะไรต่อ และยิ่งเสียดายเป็นทวี เมื่อฉุกคิดขึ้นว่า ไม่รู้จะได้เจอกันอีกหรือเปล่า
เธอคนนั้นค้อมตัวเล็กน้อยเมื่อเดินผ่านหน้าเขา
จับกริพแน่นไป!
ถ้าหูไม่เพี้ยน ชยพลได้ยินเธอพูดอย่างนั้นจริงๆ และด้วยความที่มัวตะลึง ครุ่นคิดอยู่กับคำพูดลอยๆ นั้น พอได้สติ เจ้าตัวก็เดินจากไปไกลเสียแล้ว
ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟไม่แน่ใจ ว่าเธอเจตนาบอกเขา หรือพึมพำกับตัวเองแน่ แต่นั่นทำให้ฉุกคิดถึงตำราการตีกอล์ฟขึ้นได้ว่า ให้จับ กริพ หรือ ด้ามของไม้กอล์ฟ ด้วยแรงเพียง ๖ ใน ๑๐ ส่วน เมื่อสักครู่เขาต้องการตีแรง เกรงว่าไม้จะหลุด จึงกำด้ามแน่น เกร็งไปหมด
เขาลองเดินเข้าไปจับกริพด้วยน้ำหนักที่นุ่มนวลขึ้น และลองตีอีกครั้ง
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ วงสวิงลื่นขึ้นอย่างชัดเจน แม้วิถีลูกจะยังโค้งอยู่ แต่น้อยลงกว่าเดิมมาก
แสดงว่าเธอคนนั้นดูเขาตีอยู่เหมือนกัน และคงอดรนทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยปาก
ชยพลซ้อมซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น จนมั่นใจว่าพร้อมแล้วสำหรับการออกรอบ จึงโทรไปชวนญาณกรให้ออกรอบในวันรุ่งขึ้น อีกฝ่ายรีบตกลงทันที ท่าทางกระตือรือร้นกว่าเขาด้วยซ้ำ
ทุกวันหยุดประจำสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ สนามกอล์ฟจะคึกคักเป็นพิเศษ บรรดานักหวดวงสวิงจะมากันแต่เช้าตรู่ พอมีแสงปุ๊บก็จะเริ่มเล่นกันปั๊บทีเดียว ชาลิดากับวิภาวีก็มานั่งคอยตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่เช่นกัน ทั้งคู่ตั้งเป้าไว้ว่า วันนี้ต้องได้อย่างน้อยสองรอบ
วิภาวีพ้นสภาพแคดดี้ฝึกหัดตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้จึงเป็นวันแรกที่เธอจะได้เริ่มงานจริงๆ เจ้าตัวตื่นเต้นเป็นพิเศษ ซักซ้อมกฎระเบียบ และวิธีปฏิบัติจากชาลินีอย่างจริงจัง
เจ้าประคู๊ณ... ขอให้ได้ออกรอบกับพี่ด้วงเถอะ... วิภาวียกมือบนบานท่วมหัว
จะบนบานก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน จะบนด้วยอะไรล่ะ ชาลิดาเอ่ยอย่างอารมณ์ดี เร็วๆ เข้า... เจ้าที่เขาคอยฟังอยู่
พี่ด้วงก็พูดไปเรื่อย วิภาวีพูดพลางค้อนปะหลับปะเหลือก ออกกับพี่ด้วง ติดขัดตรงไหนจะได้ถามถนัดปากหน่อย
ชาลิดายังไม่ทันตอบอะไร ก็พอดีรถยนต์ขนาดเล็ก แต่ราคาไม่เล็กตามขนาด เคลื่อนเอื่อยเข้ามาเทียบทางเข้าคลับเฮาส์ พนักงานต้อนรับหนุ่มกระวีกระวาดเข้าไปเปิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับ แล้วประคองถุงกอล์ฟออกมาอย่างระมัดระวัง
เมื่อคนขับก้าวลงมาจากรถ บรรดาแคดดี้ส่งเสียงฮือฮา สะกิดสะเกาชี้ชวนกันดูเป็นการใหญ่ ในขณะที่พนักงานต้อนรับหนุ่มรีบยกมือไหว้นอบน้อม
สวัสดีครับคุณพล
คนถูกทักยกมือรับไหว้ พยักพเยิดหน้า ยิ้มร่า
ไม่รู้มาก่อนเลยครับ ว่าคุณพลจะมาออกรอบ พนักงานต้อนรับหนุ่มเอ่ยอย่างพินอบพิเทา
ชยพลยิ้มหัว ผมไม่ให้บอกเองแหละ กลัวจะมีใครจัดวงมโหรีมาต้อนรับ
ทุกคนที่ได้ยินพากันหัวเราะร่วน
จังหวะเดียวกันนั้นเอง รถยนต์หรูคันใหญ่เคลื่อนเข้ามาจอดต่อท้าย พนักงานหนุ่มรีบขอตัวไปอำนวยความสะดวก ชยพลเพ่งมองผู้ชายในรถคันดังกล่าวชั่วอึดใจ แล้วเดินรี่เข้าไปหา ฝ่ายเจ้าของรถก็เปิดประตู แล้วเดินยิ้มร่าเข้ามาหาเช่นกัน
เป็นอย่างไรบ้างพล ไม่เจอกันตั้งนาน ชายคนนั้นทักพลางยื่นมือมาขอจับ
คนถูกทักยื่นมือออกไปจับตอบแน่น สบายดี แล้วกรล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง
ทั้งคู่ทักทายกันตามสมควรแล้ว ชยพลจึงหันไปทางพนักงานต้อนรับ คนไหนแคดดี้ของผม สายตาของเขามองเลยไปทางสองแคดดี้สาวที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่
ชาลิดารีบดันวิภาวีให้ก้าวไปข้างหน้า ทั้งคนถูกดันและพนักงานต้อนรับ เลยมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ชยพลมัวแต่ก้มดูนาฬิกาจึงไม่ทันเห็น จะหกโมงครึ่งแล้วนี่ ใกล้ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวไปเจอกันที่แท่นทีออฟเลยแล้วนะครับ เขายิ้มให้แคดดี้ทั้งคู่ ก่อนเดินกลับไปที่รถ แล้วขับออกไปช้าๆ
พอรถยนต์ทั้งสองคันเคลื่อนออกไป วิภาวีหันไปกระซิบกระซาบกับชาลิดา
คิวพี่ด้วงต้องถือให้คุณพลไม่ใช่เหรอ
ก็วันก่อนเห็นว่าอยากถือให้คุณพลไม่ใช่รึ ชาลิดาพูดหน้าตาย พี่เลยช่วยสงเคราะห์ไง
โธ่... วิแค่พูดเล่น เธอส่ายหน้าระรัว พี่ด้วงถือให้คุณพลเถอะ... วิกลัว
ชาลิดาเห็นท่าทางขยาดของอีกฝ่ายแล้วอดขำไม่ได้ คุณพลท่าทางใจดีออก คงไม่ดุหรอก แต่เพื่อนเขาไม่แน่นะ อาจดุก็ได้ แคดดี้พี่เลี้ยงเอ่ยจริงจัง
จริงนะ อีกฝ่ายถาม พลางจ้องหน้าคาดคั้น
ชาลิดาพยักหน้าหนักแน่น
เชื่อก็ได้ วิภาวีพูดแล้วขมวดคิ้ว จ้องผ้าคลุมบังแดดของอีกฝ่ายด้วยความสงสัย แล้วพี่ด้วงจะรีบปิดหน้าทำไมเนี่ย แดดยังไม่ออกสักหน่อย
ชาลิดาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม และขี้เกียจหาคำอธิบายด้วย เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง ได้ออกด้วยกันจริงๆ แล้วนะ อย่าลืมไปแก้บนล่ะ เดี๋ยวเจ้าที่เขาจะเคือง เธอว่าแล้วลากถุงกอล์ฟหนีไปดื้อๆ
โดยปกติ ผู้จัดการสนามจะมาทำงานประมาณเก้าโมง แต่พอรู้ว่าทายาทเพียงคนเดียวของหุ้นส่วนใหญ่ จะมาออกรอบครั้งแรกในรอบหลายปี จึงมาคอยต้อนรับแต่เช้า
ฝ่ายชยพล เมื่อเห็นผู้จัดการสนาม หรืออีกนัยหนึ่งคือลูกน้องคนสนิทของบิดา เดินลิ่วเข้ามา ก็รีบไหว้ทักทาย แล้วเอ่ยแนะนำให้ญาณกรได้รู้จักด้วย
ทำไมคุณอามาทำงานเช้าจังครับ ชยพลถามขึ้น
ผู้ถูกทักยิ้มแกมหัวเราะ ปกติก็มาไม่เช้าขนาดนี้ครับ แต่บังเอิญได้ยินข่าวว่าคุณพลจะมาออกรอบ เลยว่าจะมายืนกดดันเสียหน่อย
โธ่... ไม่ต้องกดดันก็ออกทะเลอยู่แล้วครับ ชยพลโอดครวญ
ผู้จัดการสนามหัวเราะร่า
ไม่ได้กดดันให้ตีเสียครับ กดดันให้มาเล่นบ่อยๆ ต่างหาก ทักทายกันพอเป็นพิธีแล้ว ผู้จัดการจึงถามขึ้นเป็นการเป็นงาน ตอนนี้วงสวิงเป็นอย่างไรบ้างครับ
เหล็กสั้นพอไหวครับ แต่เหล็กยาวไม่เอาอ่าว สไลด์ตลอด ชยพลบ่นยิ้มๆ หัวไม้ยิ่งไปกันใหญ่ โค้งเป็นกล้วยหอมเชียว
ค่อยๆ ปรับไปครับ อีกสักพักคงดีขึ้น เพิ่งกลับมาซ้อมได้อาทิตย์กว่าเองไม่ใช่หรือครับ
เหม่... หูตาคุณอาเป็นสับปะรดเลยนะครับ ชยพลเย้า
เป็นหน้าที่ที่ผมต้องรู้ครับ เดี๋ยวคุณชาญถามแล้วตอบไม่ได้ จะโดนตำหนิเอา ผู้จัดการสนามเอ่ยอย่างจริงจัง แล้วทำทียื่นหน้าเข้ามากระซิบ ผมอายุมากแล้วครับ ขี้เกียจเดินหางานใหม่
ทั้งกลุ่มหัวเราะกันร่วน
วันนี้ผมคงต้องอาศัยแคดดี้นี่แหละครับ เป็นตัวช่วย ชยพลว่าพลางยิ้มให้กับสองแคดดี้ ที่ยืนตัวลีบอยู่ข้างวงสนทนา
วิภาวีรีบละล่ำละลักเอ่ย คุณพลคะ... คือ... เอ่อ... วิเพิ่งเป็นแคดดี้เต็มตัววันนี้เองค่ะ
เวรกรรม! ชยพลแสร้งทำทีตกอกตกใจ เอ่ยเสียงเครียด นายมือใหม่ แคดดี้ก็มือใหม่ จะไปกันไหวหรือนี่
วิภาวีหน้าซีด นัยน์ตาแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้ ชยพลเห็นดังนั้นหัวเราะชอบใจ
โธ่... ผมล้อเล่น เขาเอ่ยพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ว่าแต่แคดดี้ว่ายน้ำเป็นรึเปล่า ดำน้ำน่ะ... เป็นไหม
พ... พอได้ค่ะ วิภาวีตอบน้ำเสียงหวั่นๆ ทำไมเหรอคะ
เอ้า! เป็นแคดดี้ไม่รู้รึ? ท่าทางจริงจังของชยพลทำวิภาวีหน้าซีดเผือด เวลานายตีลูกตกน้ำเนี่ย แคดดี้ต้องดำลงไปหานะ
พอทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟเอ่ยจบ ทุกคนหัวเราะลั่น แม้แต่คนโดนแกล้งเอง พอรู้ตัวเข้าก็พลอยหัวเราะตามไปด้วย
หลุม ๑ พาร์ ๔ ระยะ ๔๐๐ หลา
ในฐานะเจ้าบ้าน ชยพลถูกเชื้อเชิญให้เป็นฝ่ายเริ่มเล่นก่อน ก่อนตีลูกแรกในรอบสามปี ภาพวงสวิงนุ่มนวลของผู้หญิงที่สนามไดร์ฟ แวบขึ้นในสมอง เหมือนเตือนให้เขาย้ำกับตัวเองว่า ต้องตีเบาๆ
เขาก้มลงปักทีในจุดที่เลือกสรรอย่างดี แล้วลุกขึ้นมา สวิงลม
เมื่อพร้อม เขาเดินไปเล็งมุมจากข้างหลังลูก จุดที่หมายตาคือด้านขวาของหลุมทราย หลังหาจุดนำสายตาได้แล้ว ก็เดินเข้าไปจรดลูก สูดลมหายใจเข้าลึก ผ่อนออกแผ่วเบา แล้วสวิงออกไปอย่างนุ่มนวล
ลูกพุ่งไปยังด้านขวาของหลุมทรายอย่างแม่นยำ
เยี่ยมมากครับ ผู้จัดการสนามเอ่ยชม
ญาณกรยิ้มร่า เข้าไปขอจับมือแสดงความยินดี
เมื่อถึงคิวของญาณกร เขาขึ้นไปยืนมองนิ่งอยู่บนแท่นทีออฟ แล้วกระซิบถามแคดดี้ของตน หลุมทรายระยะเท่าไหร่ครับ
ถ้าจะตีข้ามต้อง ๒๒๐ หลาค่ะ ชาลิดาบอก
เธอยังไม่รู้ว่านายของตนตีหัวไม้หนึ่งได้ไกลมากน้อยเพียงใด จึงบอกแต่เพียงข้อมูล ยังไม่ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติม
ญาณกรปักทีมุมซ้ายของแท่นทีออฟ ลูกกอล์ฟใหม่เอี่ยมวางเด่นอยู่บนทีนั้น เขาตั้งใจจะตีข้ามหลุมทราย โดยให้วิถีของลูกทแยงจากซ้ายไปขวา เพื่อหนีบ่อน้ำที่ขนาบตลอดแนวด้านซ้ายของแฟร์เวย์ เขาซ้อมสวิงลม ๒ ๓ ครั้ง แล้วเดินเข้าไปจรดลูก
ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่การเคลื่อนไหว ไม่มีแม้เสียงกระซิบกระซาบ
ช็อตแรกของญาณกร ไกลและมีวิถีสวยงาม ลูกโค้งจากขวาไปซ้ายเล็กน้อย ตกข้ามหลุมทรายแล้วกระเด้งต่อไปอีกไกลพอสมควร ทุกคนเอ่ยปากชื่นชม
ภาษากอล์ฟเรียกลูกลักษณะนี้ว่า ดรอว์ ซึ่งจะตรงกันข้ามกับ เฟด ที่โค้งจากซ้ายไปขวา
ชาลิดากระซิบถามนายของตนว่าต้องการให้กางร่มหรือเปล่า ญาณกรส่ายหน้า เธอจึงเดินนำลิ่วไปทันที ในขณะที่ผู้จัดการสนามขอตัวกลับเข้าไปในคลับเฮาส์
ช็อตที่สองของชยพล แคดดี้มือใหม่แนะนำให้วางตัวก่อนถึงหลุมทรายที่ดักอยู่หน้ากรีน เขาเชื่อตามคำแนะนำนั้น จึงหยิบเหล็ก ๙ มาตีเบาๆ ลูกพุ่งตรงออกไปอย่างสวยงาม แต่ก็มีอันต้องลุ้นตัวโก่ง เนื่องจากลูกตกแล้วกลิ้งขลุกขลิกไปจนเกือบถึงหลุมทราย
ทั้งกลุ่มพากันหัวเราะร่วน
ชาลิดาไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่มนั้น เพราะมายืนหลบวิถีการตีของชยพล อยู่ใกล้ๆ จุดที่ลูกของญาณกรนิ่งอยู่ เธอเดินเข้าไปที่ลูก หลังจากชยพลจบช็อตแล้ว และหยุดยืนห่างจากลูกประมาณ ๒ ๓ ก้าว
เจ้าตัวก้มลงหยิบเศษหญ้าแห้ง ชูขึ้นระดับสายตา แล้วปล่อยมือ เศษหญ้าแห้งปลิวไปตามแรงลม
ชยพลดูก็รู้ว่า เธอกำลังตรวจทิศทางลม เขานึกชื่นชมความละเอียดลออนั้นอยู่ในใจ
ลมพัดจากซ้ายไปขวานะคะ ชาลิดาบอกนายของตนเบาๆ ก่อนที่เขาจะตีช็อตที่สอง
ญาณกรพยักหน้า แต่ในใจนึกแย้งว่า ลมคงไม่แรงพอจะหอบลูกได้ เขาถามระยะที่แน่นอนจากแคดดี้ของตนอีกครั้ง
ประมาณ ๑๔๐ หลา แต่กรีนยกและธงหลัง ต้องตีประมาณ ๑๕๐ หลาค่ะ เธอตอบฉะฉาน
ญาณกรตรึกตรองในใจ ระยะ ๑๕๐ หลา สำหรับเขา ไม่ถือว่าไกลเกินควบคุม ดังนั้นแม้หลุมนี้จะปักธง (ธงสัญลักษณ์ที่สามารถเห็นได้แต่ไกล ว่าหลุมอยู่จุดใดของกรีน) เบียดไว้ด้านขวา เขาก็ไม่สนใจ ตั้งเป้าตีใส่ธงตรงๆ ไม่เผื่อลมตามคำแนะนำของแคดดี้
ลูกของเขาทะยานตรงเข้าหาธงอย่างแม่นยำ
ธงหักแหงๆ ชยพลเอ่ยขณะเงยหน้าลุ้น
คำพูดของเขา หมายถึง ลูกต้องตกใกล้หลุมมาก หรือไม่ก็อาจลงหลุมไปเลย
ดูด้วยสายตา เหมือนลูกจะพุ่งไปตรงๆ แต่พอลูกตก กลับพบว่าหลุดไปทางขวา กระเด้งหนึ่งครั้ง ก่อนผลุบหายไปในย่อมหญ้าข้างกรีน ภาษากอล์ฟเรียกบริเวณนี้ว่า รัฟ
ชาลิดาไม่พูดอะไร เธอรับเหล็กมาเช็ดทำความสะอาด เสียบกลับไว้ในถุง แล้วลากรถนำลิ่วไปเช่นเคย
สงสัยลมข้างบนจะแรง ชยพลเอ่ยขึ้น ไม่อย่างนั้นคงได้ลุ้นเบอร์ดี้แต่หัววันเชียว
ญาณกรหัวเราะกลบเกลือนความรู้สึกเสียดาย คิดในใจว่า หากเชื่อแคดดี้ ตีเผื่อไปทางซ้ายสักนิด ลูกคงตกและหยุดอยู่แถวปากหลุมอย่างแน่นอน
หลุมทรายที่ดักอยู่หน้ากรีน ทำให้ช็อตที่สามของชยพลกดดันเล็กน้อย แม้หลุมทรายนั้นจะไม่ได้ใหญ่โต แต่หากพลาดพลั้งตกลงไป ลำบากแน่
ระยะจากจุดที่ยืนไปถึงธง เห็นจะไม่เกิน ๒๐ หลา แต่เขาซ้อมสวิงลมอยู่หลายเที่ยว เพราะยังรู้สึกไม่มั่นใจ และเมื่อตีออกไป ก็เกิดผิดพลาดขึ้นจริงๆ
ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟ ตีท็อป ลูกไม่ได้ลอยขึ้นอย่างที่ใจคิด แต่ยังโชคดีที่ลอยสูงพอ จึงพุ่งไปกระแทกขอบหลุมทรายฝั่งตรงข้าม แล้วกระเด้งต่อเข้าไปในกรีน กลิ้งฉีกออกไปด้านขวาของธง และหยุดนิ่งห่างจากปากหลุมไปประมาณหนึ่งคันธง หรือ ราวเจ็ดฟุต
ทั้งหมดหัวเราะให้กับความโชคดีของชยพลอีกครั้ง มีเพียงชาลิดาที่ยืนมองนิ่ง
ช็อตที่สี่ของญาณกร แม้จะแก้ไขออกมาจากรัฟได้ แต่ลูกก็กลิ่งเลยหลุมไปไกลกว่าเจ็ดฟุต เลยลูกของชยพลไปอีก จึงกลายเป็นว่าทั้งสองนายได้พัตต์พาร์เหมือนกัน แต่ผู้มาเยือนต้องพัตต์ก่อน เพราะลูกอยู่ห่างหลุมมากกว่า
ญาณกรไม่ได้ปรึกษาชาลิดาเรื่องไลน์ เธอจึงไม่ได้บอกอะไร เพียงเตือนว่า พัตต์ขึ้นเนินเล็กน้อย นายของเธอพยักหน้ารับรู้ ทว่าเพราะมัวแต่สนใจเรื่องไลน์ ขณะพัตต์ จึงลืมเรื่องที่แคดดี้เตือนเสียสนิท
ดังนั้นแม้ลูกพัตต์ของเขาจะวิ่งเข้าไลน์ แต่กลับหยุดก่อนถึงปากหลุมเกือบหนึ่งฟุต
เป็นอีกครั้งที่ญาณกรรู้สึกเสียดาย เขาหลงลืมรายละเอียด ทั้งๆ ที่แคดดี้ได้เตือนไว้แล้ว เขาเดินเข้าไปจบทันที โดยใช้พัตเตอร์แตะเบาๆ ให้ลูกลงหลุมไป
เจ้าตัวรู้สึกเสียดายกับการพลาดในช็อตที่สองมาก เพราะทำให้โอกาสในการทำเบอร์ดี้เสียไป และยังส่งผลให้ออก โบกี้ ตีเกินจำนวนครั้งที่สนามกำหนดไว้หนึ่งช็อตอีกต่างหาก
ส่วนชยพลนั้น ครั้นได้เห็นลูกที่เพื่อนร่วมก๊วนพัตต์ ก็รู้ว่ามีไลน์ไม่มาก แถมยังขึ้นเนินอีกต่างหาก เขาจึงตั้งใจจะพัตต์แบบยัดเลย โดยไม่สนใจเรื่องไลน์ เน้นแค่ให้ตรงเท่านั้น ถึงแม้พลาดพลั้ง ลูกก็คงหลุดปากหลุมไม่มาก สามารถจบได้ในช็อตต่อไปไม่ยากเย็น
ลูกพัตต์ของเขาวิ่งลิ่วๆ และผลุบหายไปในหลุมอย่างรวดเร็ว
ถือเป็นพาร์แรกในรอบสามปี!
การได้พาร์ สำหรับนักกอล์ฟระดับนี้ถือว่าดีมาก สองนายกับหนึ่งแคดดี้ จึงดีใจออกนอกหน้า มีเพียงชาลิดาเท่านั้นที่นิ่งอยู่
ชยพลไม่ได้ขัดเคืองกับท่าทีเฉยชา แต่รู้สึกสะดุดกับดวงตาคมกริบคู่นั้นมากกว่า
ประสบการณ์จากหลุมแรก ทำให้ญาณกรเชื่อมั่นในแคดดี้ของตนมากขึ้น หลังจากนั้น ก่อนตีทุกช็อต เขาจะปรึกษากับเธออย่างจริงจัง แม้กระทั่งเรื่องการดูไลน์ ก็เชื่อสายตาของเธอมากกว่า
ปกติ ในหนึ่งหลุม ญาณกรจะพัตต์ประมาณสองครั้ง แต่วันนี้เขาพัตต์เดียวลงบ่อยๆ โดยเฉพาะระยะที่ไม่เกินหกฟุต
ขณะที่ญาณกรกำลังมีความสุขกับการเล่นของตัวเอง ชยพลกลับรู้สึกทะ:-)ในท่าทีของชาลิดา เขาเห็นว่าเธอเป็นแคดดี้ที่มีความสามารถ จึงอยากซักอยากถาม เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ ทว่าเธอกลับทำเฉยชา หรือบางทีก็เดินหนีไปเสียดื้อๆ
แม้ชยพลรู้สึกไม่พอใจชาลิดาอยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่เคยคิดถือสา กระทั่งเพื่อนของเขาเอ่ยปากขอเบอร์โทรศัพท์ เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้บริการครั้งหน้า เจ้าตัวกลับให้เบอร์โทรของสนาม แทนที่จะเป็นเบอร์มือถือของตัวเอง
จากที่ไม่เคยคิดถือสา ก็เริ่มอยากจะหาความขึ้นมาตงิดๆ และแผนการก็ได้ถูกกำหนดขึ้นแล้วในใจ
.........
(โปรดติดตามตอนต่อไป ๑ มิ.ย. ๕๕)
จากคุณ |
:
วรบรรณ
|
เขียนเมื่อ |
:
16 พ.ค. 55 10:54:08
|
|
|
|