 |
บทที่ 5(ต่อ)
ที่เขตกักบริเวณ มิลเลอร์ถูกกักตัวอยู่ในห้องหนึ่ง ภายในห้องตกแต่งด้วยเก้าอี้ชุดบุนวมสีแดงเลือดนกจำนวนสามตัวและโต๊ะกระจกใสสีดำที่ตั้งอยู่ตรงกลาง อีกฟากหนึ่งของห้องเป็นตู้หนังสือขนาดใหญ่ติดผนังจำนวนสองตู้ ภายในห้องไม่มีหน้าต่าง มีเพียงประตูบานใหญ่ที่เปิดค้างไว้ ฮัมเบิร์กและสแตนด์ยืนคุยกันที่ประตู มีเด็กมาหามิลเลอร์? ใคร? เสียงแหลมเล็กของฮัมเบิร์กดังขึ้น มิลเลอร์หันขวับ เขาแอบฟังการสนทนาของทั้งคู่ต่อไป จะให้ขึ้นมาไหม? สแตนด์ถามความเห็น เขาไม่อยากตัดสินใจโดยพลการ พาพวกเขาขึ้นมาข้างบน ฮัมเบิร์กสั่งสแตนด์และเดินเข้ามาในห้องพร้อมปิดประตู มีเด็กมาหาคุณ
รู้ไหมว่าใคร? ฮัมเบิร์กถามมิลเลอร์ตรงๆ มิลเลอร์เดาว่าคงเป็นโจอี้ แต่เขาคิดว่าไม่จำเป็นที่ฮัมเบิร์กจะต้องรู้ ผมจะไปรู้ได้ยังไง ผมยังไม่เห็นเด็กที่คุณพูดถึงเลย น้ำเสียงของมิลเลอร์ราบเรียบตามเคย แต่เด็กนั่นอาจจะเป็นนักเรียนของคุณ ซึ่งนักเรียนของคุณไม่ควรจะรู้จักที่นี่ ฮัมเบิร์กจ้องมิลเลอร์ตาไม่กะพริบ นอกจากเขาจะรู้ว่าคุณเป็นใคร ฮัมเบิร์กเน้นทีละคำ เขาเค้นคำตอบของเรื่องเมื่อคืนจากมิลเลอร์มาหลายชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่ได้อะไร สักครู่เสียงเคาะประตูดังขึ้น สแตนด์เปิดประตูเข้ามา มีอะไร? ฮัมเบิร์กถามเสียงเขียว เขาไม่ชอบถูกขัดจังหวะเวลาคุย เด็กสองคนนั้นหนีไปแล้ว สแตนด์ยืนมองฮัมเบิร์กที่ยืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนรูปปั้น เขาพอเดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ว่ายังไงนะ! เสียงของฮัมเบิร์กเกรี้ยวกราดกว่าเดิม เขาหันขวับมาที่มิลเลอร์ คุณคงต้องอยู่ที่นี่อีกยาวแล้วล่ะ..มิลเลอร์ ฮัมเบิร์กเดินมานั่งตรงข้าม เขาพยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะเริ่มต้นพูดกับมิลเลอร์ ชิ้นส่วนของศิลาหายไป นี่คือเรื่องใหญ่คุณก็รู้ เราต้องงดการเดินทางทุกประเภทเพราะอาจมีกระแสเวลาปั่นป่วน ถ้าเรายังตามหาชิ้นส่วนของศิลาทั้งหมดกลับมาไม่ครบ ทุกคนที่อยู่ระหว่างการเดินทางจะกลับมาไม่ได้ ผมหมายถึง...ทุกคน คุณเข้าใจใช่ไหม ฮัมเบิร์กลดเสียงลงในตอนท้าย สีหน้าของมิลเลอร์เคร่งเครียดขึ้น เขาได้แต่นั่งเงียบ สายตาเหม่อลอยไปไกลเหมือนกำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง มิลเลอร์ เสียงของฮัมเบิร์กดังแทรกเข้ามาเบาๆ นั่นเป็นน้ำเสียงที่เขาไม่ได้ยินมานาน ขอโทษนะฮัมเบิร์ก ผม..ไม่มีอะไรจะบอกคุณ คำพูดของมิลเลอร์สะดุดลงเล็กน้อย สิ่งที่อยากจะพูดถูกกลืนหายไป
หลังจากกลับถึงบ้าน แอนนาเข้าไปคุยกับโจอี้ในสวนของเขา ทั้งคู่นั่งลงใต้ต้นโอ๊กใหญ่และปรึกษาเรื่องของครูมิลเลอร์ เธอคิดว่าครูมิลเลอร์จะปลอดภัยไหม แอนนาถามขึ้นก่อน เธอกังวลไม่น้อย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขาไม่ใช่สัญญาณที่ดี ไม่รู้สิ แต่ถ้าต้องอยู่ในเขตกักบริเวณล่ะก็ ฉันคิดว่าไม่ สีหน้าของโจอี้กังวลไม่แพ้กัน ทำไมครูถึงต้องไปอยู่ในที่แบบนั้น แอนนาไม่เข้าใจ โจอี้จึงเล่าเรื่องของแผ่นศิลาให้แอนนาฟัง คงเป็นเพราะฉันทำแผ่นศิลาพัง ครูเลยต้องรับผิดชอบแทน โจอี้เศร้ากว่าเดิมที่คิดว่าเขาเป็นต้นเหตุ เขาล้วงนาฬิกาพกสีน้ำตาลที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายออกมา นาฬิกานี้เหมือนนาฬิกาที่ครูมิลเลอร์มี ฉันเห็นเขาหยิบมันออกมาก่อนที่เราจะแยกจากกันเมื่อเช้า เธอคิดว่ามันจะช่วยพาเราไปหาครูได้ไหม โจอี้ถาม แอนนาหยิบนาฬิกาไปจากมือของเขา เธอสำรวจมันและพลิกดูที่ด้านหลัง มีอะไรเขียนเอาไว้ด้วย แอนนาพบตัวอักษรถูกสลักไว้ที่ด้านหลังของนาฬิกา โจอี้ชะโงกหน้าเข้ามาดู หัวใจของเขาเหมือนจะหยุดเต้นไปชั่วขณะหนึ่ง เขาขยี้ตาและเพ่งมองตัวอักษรตรงหน้าให้แน่ใจ เจ. ฟรอส...ฟรอส? นั่นมันนามสกุลของเธอนี่ แอนนาหันไปหาโจอี้ที่กำลังมองดูตัวอักษรนั้นอย่างตื่นเต้น ใช่! เธอคิดว่า เจ นี่หมายถึงใคร เขาแอบหวังไว้นิดๆ เป็นไปได้ไหมที่จะหมายถึง...จอห์น ฟรอส โจอี้รู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่นไปหมด เขาไม่คิดว่าจะได้พบของล้ำค่าเช่นนี้ นั่นพ่อเธอนี่ เสียงของแอนนาดังจนโจอี้ต้องส่งสัญญาณให้เงียบ เขายังไม่อยากให้แม่รู้เรื่องนี้ โจอี้พยักหน้าแทนคำตอบ ทำไมนาฬิกาของพ่อเธอถึงไปอยู่ที่นั่น แอนนาพลิกนาฬิกากลับไปกลับมา โจอี้ก็จนปัญญาที่จะตอบ เขาไม่รู้ว่าพ่อเกี่ยวข้องกับที่นั่นยังไง ไม่แน่ว่า..พ่ออาจจะรู้จักกับครูมิลเลอร์ด้วย แต่ถ้านาฬิกานี้ทำให้เรากลับไปที่นั่นได้ เราก็น่าจะช่วยครูได้ แอนนาส่งนาฬิกาคืนให้โจอี้ เขาเห็นด้วย ทั้งสองคนนัดพบกันที่สวนข้างบ้านอีกครั้งคืนนี้ นาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มครึ่ง เด็กทั้งสองเตรียมตัวพร้อมแล้ว พวกเขาอยู่ใต้ต้นโอ๊กและพยายามทำตัวให้เงียบที่สุด โจอี้หยิบนาฬิกาพกสีน้ำตาลของพ่อออกมา เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจ ฉันจะกดปุ่มนี้แล้วนะ โจอี้จับมือของแอนนาไว้แน่น เธอพยักหน้าให้ ทั้งสองคนรีบหลับตา คลิก! เสียงนาฬิกาดังขึ้น โจอี้รู้สึกหวิวๆชอบกล มันเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศชั่วขณะหนึ่ง เขาลืมตาขึ้นและค่อยๆปรับสายตากับสิ่งรอบตัวก่อนสะกิดแอนนาเบาๆ พวกเรามาถึงแล้ว แอนนาลืมตาขึ้นช้าๆ ว้าว..เราหายตัวได้ เธอรู้สึกตื่นเต้น เธอหยิบไฟฉายอันจิ๋วในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาส่อง ที่นี่คือสำนักงานท่องเวลาที่พวกเขามาเมื่อตอนเย็น ไปกันเถอะ โจอี้เดินนำไปที่ลิฟต์ แต่แอนนาคว้าแขนของเขาไว้ก่อน เดี๋ยว เธอคิดว่าที่นี่ไม่มียามเฝ้าครูเลยหรือ แอนนาท้วง เราขึ้นไปที่ชั้นแปดก่อนดีไหมแล้วค่อยเดินขึ้นบันไดไปชั้นเก้า ใช้ลิฟต์มันสะดุดตาเกินไป โจอี้เห็นด้วย ทำแบบนี้น่าจะปลอดภัยกว่า
ทั้งสองคนกดลิฟต์ไปที่ชั้นแปด โจอี้มองหาแผ่นเรืองแสงเพื่อเปิดไฟ เขายกแผ่นกระจกเงาขึ้นส่องป้ายข้างบนซึ่งเขียนไว้ว่า กองค้นหาสิ่งมีชีวิตตกค้าง แล้วเดินตามแอนนาเข้าไป ที่บอร์ดด้านหน้ามีรูปของสิ่งมีชีวิตหลายประเภท ตั้งแต่แมว สุนัข กระต่าย หรือแม้แต่ลิง ใต้รูปมีวันที่เขียนไว้ คงเป็นวันที่สัตว์พวกนี้สูญหาย แมวเปอร์เซีย หนึ่งอาทิตย์ก่อน, ปลาทอง สองอาทิตย์ก่อน, ยี้..ดูนี่สิ กิ้งกือสีชมพู หกวันก่อน... โจอี้ยืนอ่านข้อความใต้รูปภาพ พวกเขาจะพกสัตว์เลี้ยงไปด้วยทำไมนะ แอนนาไม่ได้สนใจข้อความบนบอร์ดเหมือนโจอี้ เธอเดินเลยเข้าไปบิดลูกบิดประตูบานข้างๆ ประตูไม่ ได้ล็อกไว้ หน้าห้องมีเขียนป้ายไว้ว่า ห้องเก็บแฟ้มเก่า ในห้องรกไปด้วยกองแฟ้มจำนวนมาก มันเหมือนห้องเก็บของดีๆนี่เอง อากาศอับทึบคงเป็นเพราะไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้งาน ฝุ่นหนาปกคลุมไปทั่วห้อง ฝุ่นพวกนี้จะทำให้อาการภูมิแพ้ของเธอกำเริบได้ แอนนารีบหันหลังเดินกลับออกมา เพราะความรีบร้อนขาของเธอจึงเตะแฟ้มเล่มหนึ่งกระเด็นไปไกลถึงหน้าประตู เธอเดินไปเก็บมันขึ้นมา กระดาษแผ่นหนึ่งร่วงลงมาจากแฟ้มเล่มเก่าที่เธอถือ โจอี้ที่เดินมาถึงหน้าประตูพอดีจึงก้มลงเก็บให้ บนกระดาษเหลืองซีดเป็นรูปของชายคนหนึ่ง แต่ไม่ว่ามันจะเก่าแค่ไหน เขาก็ยังจำคนที่อยู่ในรูปนี้ได้ มือที่ถือรูปเริ่มสั่นเทิ้ม น้ำตาคลอเต็มสองเบ้าตา แอนนาสังเกตเห็นอาการผิดปกติของเพื่อนจึงรีบเดินเข้ามาดู นี่พ่อฉันเอง โจอี้พูดด้วยเสียงสั่นเครือ เขาเคยเห็นรูปนี้ในอัลบั้มเก่าที่อยู่ในห้องเก็บของ แม่เก็บรูปของพ่อไปหมดตั้งแต่วันที่แม่บอกว่าพ่อตาย เขาแอบหยิบรูปของพ่อมาหนึ่งใบ ปกติเขาจำหน้าพ่อไม่ค่อยได้เพราะพ่อไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แต่สามปีที่ผ่านมาเขาดูรูปนี้ทุกวันจนจำได้ดี ที่ด้านล่างของรูปภาพมีชื่อเขียนไว้ จอห์น ฟรอส และวันที่ของเมื่อสามปีก่อน แอนนามองเพื่อนของเธอด้วยความเห็นใจ แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ เธอชูแฟ้มสีน้ำตาลเล่มเก่าขึ้น รูปถ่ายหล่นมาจากแฟ้มเล่มนี้ ลองอ่านข้างในดูไหม เธอแกะเชือกเก่าที่มัดไว้อย่างหลวมๆออก แอนนาพลิกหน้ากระดาษผ่านไปเร็วๆพร้อมอ่านตัวหนังสือผ่านกระจกเงาที่โจอี้ส่งให้ เจอแล้ว! จอห์น ฟรอส แอนนาร้องบอก โจอี้รีบคว้าแฟ้มเก่ามาถือไว้ เขาไล่นิ้วลงบนตัวอักษรทีละบรรทัด จอห์น ฟรอส อายุ 30 ปี ตำแหน่ง: เจ้าหน้าที่หน่วยซ่อมแซมประวัติศาสตร์ สูญหาย: xx/xx/20xx สถานที่: เมมฟิส/อียิปต์ พิกัด: ไม่ทราบ สถานะปัจจุบัน: ยังไม่ปรากฏ สถานะการค้นหา: ล้มเลิก xx/xx/20xx
จากคุณ |
:
ojaru
|
เขียนเมื่อ |
:
19 พ.ค. 55 14:35:27
|
|
|
|
 |