Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โจอี้ ฟรอส กับการผจญภัยข้ามเวลา บทที่5 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 5

ด้านหน้าของทั้งสองคนเป็นประตูกระจกบานใหญ่ที่ถูกเปิดค้างไว้  ข้างบนมีป้ายเขียนไว้ว่า ‘ชั้นสี่หน่วยเก็บตกวัตถุแปลกปลอม’  โจอี้และแอนนาเดินเข้าไปเงียบๆ  จากประตูด้านหน้าเข้าไปจะมีห้องกระจกขนาดใหญ่อยู่ทั้งสองข้าง ห้องข้างซ้ายมีคนจำนวนมากอยู่ภายในห้อง ป้ายที่ติดด้านหน้าเขียนว่า ‘แจ้งของหาย’ ภายในห้องค่อนข้างวุ่นวายเพราะคนจำนวนมากกำลังเข้าแถวเพื่อแจ้งของหาย  ห้องข้างขวามีของวางเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด  มีป้ายติดด้านหน้าว่า ‘ห้องเก็บวัตถุแปลกปลอม’  โจอี้และแอนนาสนใจห้องนี้มากกว่า  เจ้าหน้าที่กำลังเก็บของเข้าลังกระดาษที่วางไว้รอบห้อง  โจอี้สะดุดตากับของชิ้นหนึ่ง
“ดูนั่นสิ!”  โจอี้เขย่าแขนแอนนาแรงๆ  “ที่สิบนาฬิกา...บนโต๊ะ”  โจอี้บอกตำแหน่งให้แอนนามองตาม
“อะไร?”  แอนนามองตามเข้าไป  “นั่นมัน..นาฬิกาที่เราเห็นในรูปภาพเมื่อคืนนี้ใช่ไหม”  แอนนากระซิบด้วยเสียงตื่นๆ  เธอจำสายลายการ์ตูนนั้นได้
“ใช่  เมื่อคืนฉันดูภาพนั้นอีกครั้ง…นาฬิกาหายไปแล้ว  ต้องเป็นเรือนเดียวกันแน่”  โจอี้มั่นใจ  สิ่งที่เขาพบมาตลอดสองวันนี้  ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาคิดถึงคำว่าเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว  นาฬิกาเรือนนั้นหายมาอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน

เจ้าหน้าที่เดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้สนใจเด็กทั้งสองคน  เมื่อเจ้าหน้าที่เดินหายเข้าไปในห้องหนึ่ง  โจอี้และแอนนารีบเดินเข้าไปในห้องกระจกทันที  โจอี้เดินเข้าไปดูนาฬิกาใกล้ๆ  ‘ใช่จริงๆ’  เขาคิด  เด็กชายเดินดูรอบๆอย่างระมัดระวัง  เขาเห็นกล่องใบเล็กตั้งอยู่มุมห้อง  ที่ข้างกล่องเขียนว่า ‘ยังไม่พบเจ้าของ’ โจอี้เปิดกล่องออกดู  ข้างในมีของไม่เกินยี่สิบชิ้น  เขาสะดุดตากับนาฬิกาพกสีน้ำตาลอันหนึ่ง  ตัวเรือนมีลวดลายคล้ายลายไม้  หน้าปัดสีขาวมีตัวเลขสวยงาม  เข็มนาฬิกาหยุดนิ่งอยู่กับที่  เขารู้สึกคุ้นตากับนาฬิกาลักษณะนี้  แล้วโจอี้ก็นึกออก  เขาเคยเห็นครูมิลเลอร์ถือนาฬิกาแบบนี้มาก่อน  เพียงแต่มันคนละสีเท่านั้นเอง  เสียงประตูเปิดเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว  โจอี้รีบยัดนาฬิกาใส่ลงในกระเป๋าสะพายเพื่อซ่อนมัน
“เฮ้  พวกเธอมาทำอะไรในนี้”  เจ้าหน้าที่คนเดิมเดินเข้ามาในห้อง   มือข้างหนึ่งถือแก้วกาแฟค้างไว้
“เราเข้ามาดูว่ามีของของเราอยู่ในนี้บ้างหรือเปล่า”  แอนนารีบพูดออกไปก่อนที่โจอี้จะทำให้เขาสงสัย  เขามักจะตื่นเต้นจนถูกจับได้
“พวกเธอแจ้งของหายแล้วหรือยัง  หายที่ช่วงเวลาไหนล่ะ”  เจ้าหน้าที่เดินไปวางแก้วกาแฟบนโต๊ะแล้วหันมาถาม
“ไว้วันหลังดีกว่าค่ะ  วันนี้คนเยอะมาก”  แอนนาลากโจอี้ออกจากห้องทันที  เจ้าหน้าที่มองตามด้วยความงุนงง   เขายกกาแฟขึ้นดื่มโดยไม่ได้สนใจอีก

เด็กทั้งสองคนเลือกกดลิฟต์ลง  ประตูลิฟต์เปิดออก  ผู้ชายตัวโตสองคนสวมชุดสูทสีดำยืนชิดอยู่ด้านในสุด  โจอี้และแอนนาก้าวเข้าไปข้างใน
“เบ็ตตี้บอกว่าเด็กคนนั้นขึ้นมาแล้ว  ทำไมยังไม่เห็น”  เสียงชายคนแรกดังขึ้นทำให้โจอี้และแอนนายืนตัวแข็ง  พวกเขาแอบสบตากันอย่างกังวล    
“ลงไปดูเดี๋ยวก็รู้  เด็กคนนั้นรู้จักมิลเลอร์และรู้จักที่นี่  คงจะได้เบาะแสเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนบ้าง”  เสียงชายอีกคนตอบ  โจอี้และแอนนหูผึ่งเมื่อได้ยินชื่อครูมิลเลอร์  ครูน่าจะอยู่ที่นี่จริงๆ
“ถ้ารู้อะไรเร็วหน่อยก็ดี  ฉันกลัวฮัมเบิร์กเป็นบ้า  หมอนั่นต้องลงที่พวกเราอีกแน่”  ชายคนแรกพูดต่อด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย  พวกเขารู้ดีว่าฮัมเบิร์กโมโหง่ายแค่ไหนถ้างานไม่คืบหน้า
โจอี้และแอนนารู้แล้วว่าชายสองคนนี้ลงมาตามหาพวกเขาอย่างแน่นอน  ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นหนึ่งเด็กทั้งสองรีบก้าวออกมาทันที  โจอี้รีบลากแอนนาเดินแยกไปอีกทางและเดินเลาะออกไปข้างๆ  เขาเหลียวกลับ ไปมองข้างหลัง  ชายชุดดำกำลังเดินไปคุยกับเบ็ตตี้  โจอี้ฉุดแอนนาให้เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น  
“เด็กนั่นอยู่ไหน  เรารอนานแล้ว”  น้ำเสียงบ่งบอกถึงอารมณ์หงุดหงิดเต็มที่
“ฉันส่งสองคนนั้นขึ้นไปนานแล้วนะคะ”  เบ็ตตี้ตอบกลับด้วยเสียงสั่นๆ  ไม่มีใครอยากมีปัญหากับหน่วยสืบสวนนักหรอก
“สองคน?”  ชายอีกคนพูด  เขานึกว่ามีเด็กเพียงคนเดียวเสียอีก
“ค่ะ  เด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชาย”  คำตอบของเบ็ตตี้ทำให้ชายชุดดำสองคนหันมามองหน้ากัน  “คนหนึ่งถักเปียและใส่แว่นตา  อีกคนหนึ่งหน้ากลมๆ  ผมสีน้ำตาลยุ่งๆ”  เบ็ตตี้บรรยายให้ฟัง  พวกเขารู้แล้ว  เด็กที่อยู่ในลิฟต์นั่นเอง!
“ต้องเป็นเด็กสองคนนั้นแน่”  ชายชุดดำสองคนรีบกวาดตามองหาทันที  “เพิ่งออกมาได้ไม่นาน  คงจะไปได้ไม่ไกล”
“นั่นไงคะ”  เบ็ตตี้ชี้มือไปยังโจอี้และแอนนาที่กำลังจะเดินออกจากประตูพอดี  ชายชุดดำรีบวิ่งมาทางเด็กทั้งสอง  เด็กๆเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น  และก่อนที่ชายชุดดำจะเข้าถึงตัวของพวกเขาโจอี้ก็ลากแอนนาออกมาจากประตูได้ทันพอดี  ทั้งคู่วิ่งต่อไปโดยไม่หันกลับมามอง  เมื่อวิ่งไปไกลจนแน่ใจว่าไม่มีคนตามมาแล้วทั้งคู่จึงหยุด
“หยุดก่อน..แอนนา..พวกเขาไม่ตามมาแล้ว”  โจอี้เรียกเพื่อนด้วยเสียงเหนื่อยหอบ  เขาวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว  แอนนาก็เช่นกัน  ทั้งสองคนทรุดตัวนั่งอยู่ริมถนน

จากคุณ : ojaru
เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 14:32:52




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com