Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บัลลังก์ดอกไม้ บทที่ ๓ แรงมาก็แรงไป!! ติดต่อทีมงาน

ช่วงแรกนี่อาจะอัพบ่อยนะคะเพราะอยากให้ทันกับที่ลงไว้ในเด็กดี วันอังคารนี่น่าจะลงตอนที่ ๕ พอดีกัน ต่อไปก็จะลงทุกวันอังคารและศุกร์ค่ะ ^^"

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและ คอมเมนต์นะคะ เป็นกำลังใจหายเหนื่อย หายเหงากันเลยทีเดียวค่ะ ^^

บทที่ 1 พินัยกรรม...กรรมจริงๆ
บทที่ ๒ เจ้าชายตกบัลลังก์

ขอบคุณ คุณ
ต.เตย อยากแจม ที่มาบอกเรื่องลิงก์นะคะ
ขอบคุณ คุณ
Psycho man (GTW)  ที่เข้ามาคอมเมนต์แบบยาวแต่มีสาระ ความคิดเห็นดีๆ แบ่งปันกันนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ สำหรับมือใหม่หัดลงแล้วรู้สึกเหมือนน้ำมาหล่อเลี้ยงหัวใจกันเลยทีเดียวค่ะ

////////////////////////////////////////////
บทที่ ๓  แรงมาก็แรงไป!!

 

                พุดชมพูรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นลูกไฟดวงใหญ่หลังจากเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่อย่างน้อยเธอก็จัดการสั่งสอนชายหนุ่มไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าเขาจะจดจำความรู้สึกเหล่านี้เอาไว้ รู้สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเสียบ้าง หญิงสาวหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นทำเอาจิระที่กำลังขับรถหันขวับมามองเพื่อนสาวทันที

                “บ้าแล้วเหรอวะ เมื่อกี้ยังทำหน้าเหมือนยักษ์ตอนนี้ดันจะหัวเราะหรือโดนไอ้หมอนั่นทำร้ายจนสติแตกไปแล้ว”

                “มันก็ยังโกรธอยู่แต่ที่หัวเราะนี่ หัวเราะเยาะนายนั่นต่างหาก สมน้ำหน้า ตอนนี้คงทำหน้าสลดอยู่ในฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว”

                “คิดว่าคนอย่างนั้นจะสลดได้กี่วันกันเชียว ฉันว่าระวังตัวไว้ก็ดีนะ ดูท่าทางจะแรงเอาการเหมือนกัน แล้วแกมั่นใจแล้วเหรอที่จะยอมรับข้อเสนอของปู่เล็ก ฉันเห็นอย่างนี้แล้วชักไม่มั่นใจแล้วละที่จะให้แกทำ”

                “ฉันออกจะมั่นใจว่าจะจัดการเขาให้ได้ ไม่ใช่เพื่อตัวเองนะโจ้ แต่เพื่อปู่เล็ก คนที่จะก้าวมาเป็นผู้นำคนอื่นไม่ใช่ศักดิ์แต่ว่าสืบเชื้อสายมาแต่มันต้องมาจากใจ มาจากพลังข้างในด้วย นายอนาวินทร์ไม่มีสิ่งนี้เลย เขามองคนอื่นต่ำกว่าตัวเอง คิดว่าตัวเองสูงส่งเสียเต็มประดา อยากรู้ว่าถ้าฉัน...คนที่เขามองว่าต่ำกว่า อยู่เหนือเขาบ้าง มันจะเป็นยังไง คงอกแตกตายแน่ๆ”

                “เฮ้ยๆ หลอนไปละ ฉันละกลัวแทนนายหน้าสำลีนั่นจริงๆ” จิระหัวเราะตบท้ายพาลนึกไม่ถึงผู้ชายที่เป็นต้นเหตุทั้งหมดซึ่งคงอยู่บนโรงพัก เหตุการณ์เมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขาเจอเพื่อนรักยืนจ้องหน้าผู้ชายคนหนึ่งที่ร่างเปียกโชกไปหมด สีหน้าของอนาวินทร์เหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อของพุดชมพูได้เลย เรื่องนี้ยังต้องดูกันต่อไป จิระอมยิ้มขันผู้ชายอย่างอนาวินทร์น่ะหรือจะมาทำไร่?

                พุดชมพูจัดการโทรศัพท์หาทนายทรงรบเมื่อนึกขึ้นได้ “สวัสดีค่ะคุณทรงรบ ฉันพุดไร่อุ่นรักนะคะ”

                ปลายสายเงียบไปเกือบนาทีก่อนจะเอ่ยตอบกลับมา “ครับ คุณพุดมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” ทนายหนุ่มตกใจไม่คิดว่าหญิงสาวจะโทรศัพท์มาหาเขาเอง

                “แหม...ไม่ต้องมารับใช้พุดหรอกค่ะ เรื่องข้อแม้ที่ว่า พุดตอบตกลงนะคะ”

                “จริงหรือครับ? อะไรทำให้คุณพุดเปลี่ยนใจได้ละครับ” คราวนี้ทรงรบตกใจรอบสอง

                “ก็...นิดหน่อยค่ะ ทีนี้พุดต้องทำยังไงบ้างคะ”

                “คุณพุดแค่เดินทางเข้ามาหาผมที่บ้านสัตยารักษ์ครับ เราคงต้องคุยกันในเรื่องของรายละเอียดอีกที เอ่อ...ยังไงผมก็ต้องขอบคุณ คุณพุดมาก ๆ นะครับ ขอบคุณแทนคุณท่านด้วย”

                “ไม่เป็นไรค่ะ พุดก็ทำเพื่อตัวเองด้วย...เพื่อความสะใจส่วนตัวล้วนๆเลยค่ะ”

                ทรงรบเลิกคิ้วมองโทรศัพท์ในมืออย่างงงๆ “สะใจ?”

                “ปะ...เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร ไว้อีกสองวันพุดจะเข้าไปที่บ้านสัตยารักษ์ค่ะ ไว้เจอกันนะคะ” พุดชมพูวางสายก่อนจะยิ้มกว้าง เพื่อนรักที่ขับรถอยู่เหลือบมองท่าทีนั้นด้วยความกังวลใจ...ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก?

 

                หลานชายคนเดียวของสัตยารักษ์นั่งกอดเข่าคุดคู้อยู่ในห้องขัง ดวงตาคมนั้นเข้มจัดด้วยแรงอาฆาต เขาไม่คิดว่าพุดชมพูจะจัดการส่งเขาเข้าคุกจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจนัก  แถมยังบอกว่าจะทำให้เขาแพ้ราบคาบ

                “นี่นาย ไปทำอะไรในนั้นงั้นเหรอวิน” เสียงการันต์ดังขึ้นพร้อมกับนายตำรวจเข้ามาไขประตูห้องขัง ชายหนุ่มมองเพื่อนรักกลั้นหัวเราะเอาไว้

                “อย่ามาเยาะเย้ย ตอนนี้ฉันโกรธมากจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว”

                “เปล่าเสียหน่อย ฉันละอยากเห็นหน้าคุณพุดชมพูเสียแล้วละ เป็นคนแรกที่ทำให้นาย...หมดสภาพขนาดนี้” การันต์กล่าวทั้งสายตาที่เหลือบมองดูอนาวินทร์ ใจนั้นนึกสมน้ำหน้าอยู่ครามครันแต่ถ้าพูดอะไรขัดหูไปมีหวังโดนอนาวินทร์ด่าเปิง

                “อย่าเจอเป็นดีที่สุด เพราะเจอแล้วจะซวยเหมือนอย่างฉันนี่”

                “ฉันว่าคงไม่ได้เกิดจากความซวยหรอก เกิดจากตัวนายเองมากกว่า”

ตาเข้ม ๆ ของอนาวินทร์ตวัดไปหาเพื่อนทันที “นี่ฉันพูดอะไรก็ไม่มีความหมายแล้วใช่ไหม”

                “ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อยนะวิน นายคิดมากไปแล้ว”

                “คิดมากงั้นเหรอ ที่ยายนั่นทำกับฉัน สาดน้ำสกปรกใส่ฉัน แล้วยังให้ตำรวจมาจับฉันเข้าคุกอีกนี่นะ เรียกว่าคิดมากใช่ไหม”

                “กลิ่นแกก็ไม่ได้เหม็นนะ คงไม่ใช่น้ำสกปรกหรอก แล้วที่เขาจับแกขังน่ะ ก็เพื่อสงบสติอารมณ์นะวิน ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไรเลยด้วยซ้ำ”

                “โอ้โห บ้านเมืองเป็นอะไรกันไปหมดแล้ว ผู้หญิงเถื่อนๆ อย่างยายพุดเน่านั่นสั่งให้ตำรวจขังคนบริสุทธิ์ได้”

                การันต์ถอนใจไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรให้อนาวินทร์เข้าใจดี ช่างมันเถอะนิสัยคุณชายขวางโลกอย่างเพื่อนเขาคงไม่มีทางแก้ไขเสียละ ถ้าพุดชมพูยินยอมที่จะรับข้อเสนอของนายอาทิตย์จริงๆ งานนี้ไม่ได้หมูแน่ๆ เขาอยากจะบอกเหลือเกิน เดือนเดียวก็ขอให้ได้เถอะกำหนดระยะเวลาตั้งหนึ่งปี ไม่มีทางเสียละที่จะสำเร็จนอกเสียจากเอาเงินซื้อข้อเสนอ แต่ก็เห็นๆกันอยู่ว่า...เธอปฏิเสธ

 

                ชวกรนอนแผ่อยู่ที่เตียงนอนสายตาจ้องมองไปที่โต๊ะเครื่องแป้งซึ่งมีร่างของทิพนาถนั่งแต่งตัวด้วยท่าทีสบาย ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและหญิงหม้ายเป็นอย่างนี้มาเกือบสองปีแล้ว ตามจริงเขาไม่ใช่คนที่จะอยู่กับใครนานๆขนาดนี้แต่เพราะอนาวินทร์ทำให้เขาอยากอยู่เป็นเสี้ยนหนามตำใจของคุณชายแห่งสัตยารักษ์ ผู้ชายคนนั้นคิดว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่นทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างที่มีและทำให้ชูคออยู่ได้ก็คือ เงิน เท่านั้นเอง

                “พี่ทิพจะกลับเลยงั้นหรือครับ”

                “กลับสิ วันนี้ตาวินอารมณ์ไม่ดี เห็นการันต์โทรศัพท์มาบอกว่าจะไปรับตัวมาจากโรงพักที่โคราช” เธอกล่าวทั้งจัดแต่งทรงผมให้ดูดี

                “คุยกันยังไงละครับถึงได้ต้องให้คุณการันต์ไปรับออกมาจากโรงพัก ผมว่าถ้าพูดดีๆแล้วไม่ได้เรื่องก็เล่นทางลัดเลยดีกว่า”

                “หมายความว่ายังไงกร” ทิพนาถหันขวับกลับมาถาม

                “พี่ทิพครับ ผู้หญิงน่ะแพ้ผู้ชายวันยังค่ำ ใช้เทคนิคนิดหน่อยขี้คร้านจะติดแจ”

                “ทำเป็นพูดดี แอบไปทำอย่างนี้กับใครบ้างหรือเปล่า”

                “โถ พี่ทิพผมน่ะติดพี่ทิพต่างหากไม่ใช่พี่ทิพติดผมนะ ไปไหนไม่รอดแล้วละ” ชวกรเข้ามากอดจากด้านหลังอย่างเอาใจ

                “ให้มันจริงเถอะ แต่จะให้ลูกชายพี่ทำอย่างกรบอกคงทำไม่ได้หรอก ด้วยนิสัยอย่างเขาไม่ใช่คนจะยอมไปเอาอกเอาใจใครได้หรอก”

                ชวกรก็เห็นด้วยว่า คนอย่างอนาวินทร์ไม่มีทางเสียละที่จะยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองไปเอาตัวเข้าแลกกับผู้หญิงที่...คนละชั้น แบบพุดชมพู

                “เรื่องเงินพี่ไม่ต้องห่วงนะครับผมจะหามาให้เพียงแต่พี่ต้องช่วยผมเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง เขานึกถึงหนี้สินกับบ่อนที่เขาและทิพนาถเพิ่งสร้างเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

                “ได้สิ แต่ทำให้เนียนล่ะ อย่าให้เรื่องมันสาวมาถึงเราได้”

                “ครับ ผมเคยทำให้พี่ผิดหวังหรือเปล่าละครับ”

                ชวกรยิ้มเยาะ ใครจะไปทำให้ตัวเองเดือดร้อนเล่า ยายแก่โง่ ในวันเปิดพินัยกรรมเขานึกอยากปรบมือให้กับนายอาทิตย์เหลือเกิน แถมยายบ้านนอกคนนั้นอีก ทำได้สะใจเสียจริง สมน้ำหน้า!! ขอให้มันทำไม่สำเร็จสักอย่างเถอะ

 

                หญิงสาวเจ้าของไร่อุ่นรักเก็บข้าวของลงกระเป๋าอย่างง่าย ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้อยู่นานเกินจำเป็น เสียงเคาะประตูก่อนที่ภัทราจะเปิดเข้ามา ผู้เป็นแม่ได้แต่มองด้วยความเป็นห่วงอยู่ลึก ๆ พุดชมพูเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน แม้จะดูเหมือนเธอรับกับทุกเรื่องได้ สู้กับมันแต่จริงๆ แล้วเธออ่อนไหวมากที่ผ่านมาภัทราคิดว่าเธอเป็นคนทำให้พุดชมพูต้องสู้กับหลาย ๆ หลังจากที่สามีเสียชีวิต เธอไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเป็นภาระที่เพิ่มขึ้น

                “พุดตัดสินใจแน่แล้วหรือลูก”

                “ค่ะแม่ พุดอยากช่วยปู่เล็กค่ะ ที่เหลือก็แล้วแต่ชะตากรรมไปละกันค่ะ”

                “พูดอย่างนั้นยิ่งทำให้แม่ห่วงนะลูก”

                “แหม...แม่ขาไม่ต้องห่วงพุดหรอก ห่วงนายอนาวินทร์ดีกว่าค่ะ” หญิงสาวกล่าวติดตลกแต่ผู้เป็นแม่ไม่ได้ตลกด้วย

                “พุดเล่นเอาเขาเข้าคุกอย่างนั้นมันก็จะแย่นะ สิ่งแรกที่เห็นเป็นเรื่องสำคัญระหว่างมิตรภาพ ในเมื่อเขามองเราในแง่ร้ายแล้ว เขาอาจจะคิดร้ายกับเราก็ได้นะพุด”

                “ไม่อาจจะหรอกแม่จ๋า คิดไปแล้วมั้ง คนอย่างนี้ต้องเจอพุดดัดนิสัย ดูสิว่าจะไปได้สักกี่น้ำ”

                “แม่อยากให้พุดมีสติเสมอนะลูก เราอาจจะโกรธที่เขามองเราในแง่ร้ายแต่คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน สภาพแวดล้อมแตกต่างกัน นิสัยก็ย่อมแตกต่างกันไปด้วย แม่อยากให้ลูกช่วยเขาด้วยใจจริง ไม่ใช่แค่แก้แค้นที่เขาพูดจาร้ายๆ กับเรานะลูกนะ”

                “พุดเข้าใจค่ะแม่ แม่เชื่อใจพุดเถอะค่ะ พุดจะไม่มีทางทำแค่เพื่อสนองความต้องการตัวเองอย่างเดียวหรอกค่ะ ปู่เล็กมีบุญคุณกับเรามาก พุดจะพยายามใจเย็น ทำให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปโดยเร็วที่สุดค่ะ ไอ้เรื่องสะใจมันเป็นผลพลอยได้” ต้นประโยคเหมือนจะคิดได้แต่ปลายประโยคก็ชักจะไม่ใช่เสียแล้ว

                “แม่เชื่อใจพุดนะลูก” ภัทรากล่าวพร้อมทั้งโอบกอดบุตรสาวไว้ พุดชมพูทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมตลอดมา เธอเป็นลูกที่ดี พี่สาวที่ยอดเยี่ยมสำหรับน้องๆ หวังว่าครั้งนี้พุดชมพูจะจัดการเรื่องได้อย่างดีอีกครั้ง

 

                ทรงรบยืนมองคนที่ดูวุ่นวายในสถานีรถไฟหัวลำโพงสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่ได้มาที่นี่นานแล้วตั้งแต่เลือกที่จะใช้บริการเครื่องบินมากกว่า ดวงตาคมหันไปเห็นหญิงสาวเจ้าของไร่อุ่นรักเดินสะพายเป้เข้ามาหา

                “คุณพุดน่าจะบอกผมก่อนว่าจะมาวันไหน ผมจะได้ไปรับ”

                “ไม่เป็นไรค่ะ พุดอยากนั่งรถไฟอยากคิดอะไรเรื่อยเปื่อย คิดถึงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยค่ะเลยอยากกลับไปเป็นเด็กสักหน่อย”

                “ผมแปลกใจนะครับ ที่คุณพุดยอมรับข้อเสนอทั้งๆทีแรกทีเดียวไม่ได้อยากรับสักเท่าไหร่”

                “ค่ะ พุดอยากลองดูเท่านั้นเอง ถ้าช่วยปู่เล็กได้ก็จะทำให้สุดความสามารถ แล้วนี่คุณทรงรบไม่น่าลำบากมารับเลยนะคะ พุดไปเองได้”

                “ไม่ได้หรอกครับแค่ให้คุณพุดมารถไฟผมก็รู้สึกผิดจะแย่แล้ว”

                “คุณทนายไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ ไม่ใช่หน้าที่ของคุณเลยที่จะต้องมารับมาส่งฉัน แล้วคนในบ้านสัตยารักษ์รู้หรือยังคะว่าฉันจะไปเป็นนายเขา” คำถามของหญิงสาวทำเอาทนายหนุ่มหน้าเจื่อน เพราะเรื่องนี้นั่นเองที่ทำให้เขาต้องมารับเธอด้วยตัวเอง บรรยากาศที่สัตยารักษ์อึมครึมคล้ายฝนจะตกอยู่รอมร่อ ยิ่งเจอพายุใหญ่อย่างอนาวินทร์เข้า พังระเนระนาดไม่เหลืออะไรสักอย่าง

                เมื่อมาถึงบ้านสัตยารักษ์ นางนุ่ม แม่บ้านเก่าแก่เข้ามาต้อนรับพร้อมกับจัดห้องหับไว้ให้อย่างเรียบร้อย พุดชมพูไหว้ขอบคุณอย่างไม่ถือตัวทำให้นางนุ่มออกจะตกใจกับสิ่งที่ได้รับ

                “โถ คุณคะ มาไหว้ป้าทำไม ป้าทำตามหน้าที่”

                “ทำไมจะไม่ได้ละคะ ป้าอายุมากกว่าแม่พุดด้วยซ้ำนะคะ อุตส่าห์มาจัดห้องให้ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ว่าแต่ที่นี่มีคนงานกี่คนกันคะ เมื่อวันประกาศพินัยกรรมพุดเห็นออกเยอะแต่วันนี้เห็นแค่ป้ากับสาวๆอีกสองคนเอง” พุดชมพูสงสัยจริง ๆ นึกแปลกใจว่าบรรยากาศมันดูประหลาด

                สีหน้าคนแก่เริ่มลำบากใจที่จะกล่าวอะไรออกมา “เขาไปทำงานของเขาน่ะค่ะ” เธอจะบอกได้อย่างไรว่า คุณนายทิพนาถบอกให้ทุกคนห้ามมารับพุดชมพูแถมยังบอกอีกว่าใครยอมรับใช้หญิงสาวจะโดนหักเงินเดือน

                ทรงรบหันมาวางเป้ของเธอลงที่เตียงนอน “คุณพุดเสร็จธุระส่วนตัวแล้วไปหาผมที่ห้องทำงานด้านฝั่งซ้ายมือนะครับ ผมอยากคุยด้วยเกี่ยวกับเรื่องของบ้านสัตยารักษ์แล้วก็บริษัทสัตยาครับ”

                “ได้ค่ะ ขอเวลาพุดสักสามสิบนาทีนะคะ”

                “ครับตามสบายเลยนะครับ” ทรงรบยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปหาป้านุ่มเป็นเชิงบอกให้ออกมาพร้อมกัน เขานึกสงสัยเรื่องเดียวกับที่พุดชมพูเสียแล้ว

จากคุณ : ดนตรีในสายลม
เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 15:23:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com