ตอนที่ 1,2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12056256/W12056256.html
ตอนที่ 3,4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12061529/W12061529.html
ตอนที่ 5,6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12069719/W12069719.html
ตอนที่ 7,8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12078815/W12078815.html
ตอนที่ 9,10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12089188/W12089188.html
ตอนที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12097245/W12097245.html
ตอนที่ 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12108934/W12108934.html
ตอนที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12120377/W12120377.html __________________________________________________________ ฉันเขวี้ยงโทรศัพท์ลงบนที่นอน ไม่รู้ว่าอีธานจะรับรู้บทสนทนานี้อย่างไร เมื่อไร เขาต้องรู้แน่ล่ะ โทรศัพท์เครื่องนี้มีไว้เพื่อการนั้นนี่นา แต่ฉันไม่สนแล้ว ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำ ค่อยๆจัดการเอาซาก ‘เจสซิเบล’ ออกจากร่างกาย ลิ่มเลือดที่เคยมีชีวิตและมันสมองที่เคยมีข้อมูลไหลลงพื้นห้องน้ำ ก่อนจะลงท่อไปรวมกับน้ำทิ้ง เจสซิเบลน้า... เพิ่งจะสนิทกันแท้ๆ.. ไปทำอีท่าไหนถึงโดนสั่งเก็บได้ล่ะเนี่ย
‘แม่ฉันติดหนี้พวกมัน.. พวกมันขู่ฆ่าด้วย’
เสียงในความทรงจำฉันดังขึ้นในหัวระหว่างที่ปล่อยให้น้ำสะอาดจากฝักบัวชะล้างเส้นผม แม่? จำได้ว่าเมื่อคืนก่อน เจสซิเบลนั้นหลีกเลี่ยงหัวข้อการสนทนาที่ว่าด้วยครอบครัวตัวเองขนาดไหน แต่ตอนนั้นเขาพูดถึงแม่ และ ‘พวกมันขู่ฆ่า’ ไม่ใช่เขา..ไม่ใช่มัน.. แต่เป็นพวกมัน.. มากกว่าหนึ่งงั้นหรือ? แก็งค์? มาเฟีย? เขาและแม่เอาตัวเองไปยุ่งกับอะไรกันแน่นะ
มาเฟียในโลกนี้มีมากยิ่งกว่าจอมปลวก บางพวกเกิดแล้วก็ดับไป บ้างก็เติบโตเป็นองค์กรณ์ ฉันไม่รู้จักพวกนั้นหรอก ไม่อยากยุ่งด้วย ถ้าจะให้ไล่ชื่อตอนนี้ก็คิดไม่ออกสักชื่อ แม่เจสซิเบลจะติดหนี้ใครนั้น ฉันคิดไม่ออกจริงๆ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องมาเฟียจริงๆ ฉันรู้ว่าใครน่าจะรู้
ชอนน่า...
เมื่อฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็จับเสื้อผ้าเปื้อนเลือดยัดใส่ถุง ใส่ชุดที่คุณเลขาเตรียมให้ มันเป็นชุดกระโปรง สีเหลือง บางๆเข้ารูป โดยเฉพาะช่วงบน บางแบบที่เรียกว่าหากใส่ไปบ้านใครต้องภาวนาไม่ให้ตกน้ำตกท่ากันเลยทีเดียว ลำพังฉันจะใส่แต่เจ้านี่ก็รู้สึกจะรับตัวเองไม่ได้ พอค้นๆตู้เจอแจกเก็ตยีนส์ตัวหนึ่งเลยเอามาคลุมๆซะ ปล่อยผมชื้นๆสยายอยู่กลางหลัง แล้วรีบออกมาจากห้อง
อีธานหายไปแล้ว วินเซนต์ก็หายไป ห้องรับแขกของเพนท์เฮ้าส์มีบุคคลเหลืออยู่แค่คนเดียว และฉันไม่รู้จัก
เขาเป็นชาย น่าจะอยู่ในวัยไล่เลี่ยกับเนท ผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกทว่าเป็นทรง ดวงตาสีเขียวจัด เขาสวมเสื้อยืดทับด้วยแจ็กเก็ตยีนส์ และกางเกงทรงสบายๆสีครีม ดูดี.. ไม่เนี้ยบจัดเหมือนเนท แต่ทั้งเสื้อผ้าท่าทางดูเข้าถึงง่ายและเป็นกันเอง เมื่อเขาหันมาเห็นฉันก็ทำหน้าตกใจ
“เธอเป็นใคร?” เขาชี้มือถามฉัน คิ้วทั้งคู่ขมวดเข้าใบหน้าฉายแววสงสัยไม่ปิดบัง
“ทุกคนหายไปไหนคะ?” ฉันถามกลับ พอเขาเริ่มเดินจากที่ ฉันก็เห็นรองเท้าผ้าใบราคาแพงโผล่ออกมาจากปลายขากางเกง จึงตั้งสมมติฐานกลับไป “คุณคือแบริงตันอะไรนั่นเหรอคะ?”
เขายิ้มกว้าง ท่าทางจะเส้นตื้น “ผมไม่ใช่แบริงตันอะไรนั่น แต่เป็นลูกชายของแบริงตันอะไรนั่นต่างหาก” เขาพูดกลั้วหัวเราะพลางยื่นมือมาข้างหน้าฉัน “ผมฌอน , ฌอน แบริงตัน”
“แวนดิแคมป์ค่ะ” ฉันแนะนำไปแต่นามสกุล ยังไม่กล้ายื่นมือไปจับ
เขาผงะเล็กน้อย คิ้วขมวดเข้าอีกครั้ง “ไม่มีทาง.. ผมรู้จักแวนดิแคมป์ทุกคน ผมไม่เคยเห็นหน้าคุณ”
“แอนนาเบลเป็นแวนดิแคมป์คนใหม่ล่าสุด” เสียงเนทแทรกขึ้นมาจากด้านหลัง ยังสวมเสื้อเชิ้ตเลอะเลือดตัวเดิม แต่เสื้อนอกของเขาถูกถอดออกแล้ว เขาพาดมันสบายๆไว้บนไหล่ แล้วก็ยิ้มอย่างน่าฉงนอย่างที่เคยยิ้มทุกครั้ง เขาเดินเข้ามาตบไหล่ฌอนอย่างสนิทสนม “ไง..เพื่อน ไม่ได้เจอกันนานนะ ” เขาทัก
ฌอนยิ้มกว้างให้เนท แล้วตบไหล่ทักทายกลับอย่างสนิทสนม เนทเดินอ้อมมาข้างหลังฉันแล้ววางมือลงบนไหล่ทั้งคู่ “ขอแนะนำให้รู้จัก แอนนาเบล แวนดิแคมป์ ลูกสาวคนใหม่ที่พ่อฉันเพิ่งรับมาเลี้ยง..” เขาเว้นช่วง ทำท่านึก “เดือนที่แล้ว..” แล้วเนทก็หันกลับมาหาฉันด้วยรอยยิ้มประหลาด “แอนนาเบล นี่ฌอน เพื่อนฉัน”
ฉันยิ้มให้ฌอนอย่างเป็นมิตร และเมื่อเขายื่นมือมาตรงหน้าอีกครั้ง ฉันก็จับมือเขย่าตอบไป
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ฌอนกล่าวอย่างเป็นมิตร ฉันพึมพำคำว่า ‘เช่นกันค่ะ’ กลับไปตามมารยาท ก่อนรีบหันกลับไปหาเนท พยายามจะพูดถึงอังเดร.. แต่ก่อนที่ฉันจะพูดอะไรเนทก็หรี่ตาส่งสัญญาณให้ฉันเงียบ แล้วเหลือบตาไปทางฌอน แปลสัญญาณโดยคร่าวๆได้ว่า ‘ตอนนี้มีคนอื่นอยู่ พูดไม่ได้’
ฉันรับทราบ จึงกลับมาเป็นแอนนาเบลอย่างว่าง่าย ฉันยิ้มให้ฌอนอีกครั้งก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างสงบเสงี่ยม
ฌอนนั่งทรุดตัวลงตรงข้ามฉัน “แหม.. เสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้เหมือนของผมเลย”
“เอ่อ.. หนูค้นเจอในตู้น่ะค่ะ.. ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ” ฌอนโบกไม้โบกมือ “มันเก่าแล้ว.. ไม่สิ.. ผมหมายถึง.. ไม่ได้ใช้แล้ว.. ไม่ได้ใช้แบบของใหม่.. คือซื้อมานาน แต่ไม่ค่อยได้ใส่.. มันเลยยัง.... เอาเป็นว่า ไม่เป็นไรละกันครับ ผมให้เลย”
“หนูซักคืนให้ได้นะคะ”
จากคุณ |
:
รถขนมปังกรอบ
|
เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ค. 55 22:38:07
|
|
|
|