ชายิกาของเจ้าชาย
บทนำ
หน้ากระจกกรอบทองบ้านโต ชายหนุ่มร่างสูงผมบลอนด์กำลังทอดสายตามองหญิงสาวที่ยืนหลับตาปี๋อยู่ข้างกายด้วยแววตาหวานเจือเศร้า เขาสามารถมองเธอด้วยสายตาแบบนี้ได้ก็แค่ชั่วขณะที่เธอเผลอเท่านั้น หากพ้นจากช่วงเวลานี้ไปแล้ว การแสดงออกเช่นนี้ถือว่าเป็นความผิดอย่างมหันต์ เพราะเธอไม่ควรจะรับรู้ความในใจที่แท้จริงของเขา
ลืมตาได้แล้วมารีน ไม่มีอะไรต้องกลัว ลอยด์เอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบโยน
แพรธาราทำตามคำสั่ง แต่แทนที่จะมองตรงไปยังกระจก หญิงสาวกลับผินหน้าไปทางชายหนุ่ม
ขอทำใจแป๊บนะคะบอส กลัวเห็นสารรูปตัวเองแล้วหมดความมั่นใจ
แทนที่จะหัวเราะกับคำพูดของหญิงสาว ลอยด์กลับทำหน้าจริงจัง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า
เธอสวยมากมารีน
สวยที่สุด ทุกคนต้องพากันมองจนเหลียวหลังแน่
ท่าทีของลอยด์บอกว่าการแปลงโฉมครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ แต่แพรธารากลับเชื่อคำพูดของเขาเพียงแค่เสี้ยวเดียว เธอไม่คาดหวังว่าเครื่องสำอางกับเครื่องแต่งกายหรูหราจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองได้ อย่างมากก็คงดูดีขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น ไม่มีวันสวยเด่นเทียบชั้นกับบรรดาหญิงสาวที่รายล้อมอยู่รอบกายคามินได้ แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ยังเลือกที่จะรักเธอ และขอร้องให้เป็นคู่ควงไปออกงานสำคัญ
เพื่อตอบแทนความรักที่เขามอบให้ แพรธาราเลยยอมแต่งตัวในแบบที่ไม่คุ้นชิน หัดเรียนมารยาทสังคม และฝืนทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าชาตินี้จะต้องทำ
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับกระจก เมื่อได้มองภาพสะท้อนของตัวเองแบบเต็มสายตา แพรธาราก็นิ่งงันไปราวกับต้องมนตร์ ถึงจะมองออกว่าเป็นเธอ แต่คนในกระจกช่างดูแตกต่างกับตัวตนเวลาปกติอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เธอสวมชุดราตรียาวสีครีม ผมที่เคยยาวรุงรังไม่เป็นทรงถูกเกล้าไว้อย่างวิจิตร อวดลำคอระหงกับช่วงไหล่กลมกลึง ใบหน้าก็ได้รับการแต่งแต้มอย่างงดงาม มองภาพรวมแล้วดูสวยสง่าอย่างไม่น่าเชื่อ
สวยจังเลย หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงลอยๆ เหมือนกำลังเพ้อ
ปกติลอยด์ต้องสัพยอกว่าชมตัวเองก็เป็นด้วย แต่หนนี้ชายหนุ่มกลับไม่พูดอะไรนอกจากอมยิ้ม
ขอบคุณนะคะบอส ขอบคุณมากเลย ถ้าไม่ได้บอสมาคงแย่
หญิงสาวดึงมือฝ่ายตรงข้ามขึ้นมากุมไว้ แล้วเขย่าไปมาเพื่อบอกว่ารู้สึกตื้นตันเพียงไหน ถ้าไม่ติดว่ากลัวชุดยับเธอคงจะโผเข้าไปกอดเขาแน่นๆ แล้ว
ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากมาเป็นเพื่อน ไปขอบคุณเจ้าชายของมารีนเถอะ
แค่มาเป็นเพื่อนก็ช่วยมาได้มากแล้วค่ะ บอสก็รู้ว่ามาไม่ถูกกับที่หรูๆ ไปงานก็คงมีแต่คนไม่รู้จัก มีบอสไปเป็นเพื่อนด้วยอุ่นใจเหมือนมีกองหนุนเป็นร้อย
สีหน้าของลอยด์เจื่อนลงเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ชายหนุ่มบีบมือบอบบางที่จับมือเขาเอาไว้ ก่อนจะบอกข่าวร้าย
ขอโทษนะ ผมไปด้วยไม่ได้แล้ว
อำ หรือเรื่องจริงคะบอส เล่นแบบนี้ไม่ขำนะ
ผมต้องไปแอลเอคืนนี้ บริษัทแม่เรียกตัวด่วน ลอยด์ปดออกไป
ความจริงบริษัทแม่ไม่ได้เรียกตัวเขากลับ เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายยื่นเรื่องขอย้ายเอง แม้เขาจะเป็นเพียงเพื่อนสำหรับเธอ แต่สายใยที่มีต่อกันมันก็มีมากมาย ถ้าแพรธารารู้ว่าเขาจะไปแล้วไม่กลับมาอีก คงจะเศร้ามาก และเขาก็รักหญิงสาวเกินกว่าจะทนเห็นน้ำตาของเธอได้ เลยเลือกที่จะจากไปอย่างเงียบๆ
บอสหมายความว่ามาต้องออกงานคนเดียวหรือคะ หญิงสาวถามอย่างตื่นตระหนก
ไม่ใช่คนเดียวสักหน่อย มารีนยังมีคามินอยู่ทั้งคน
ลอยด์พยายามจะช่วยปลอบใจ แม้คำพูดที่หลุดออกไปจะทำให้หัวใจเขาปวดหนึบ ชายหนุ่มหวังให้หญิงสาวสงบลง แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งร้อนรนไปกันใหญ่
คุณคมต้องช่วยคุณย่าต้อนรับแขก อยู่กับมาได้ไม่ตลอดเวลาหรอกค่ะ
คุณหญิงย่าของคามินบอกให้เขาพาเธอมาในงานวันนี้ ผิวเผินเหมือนกับว่าท่านยอมรับความสัมพันธ์ของเธอกับเขา แต่ความจริงแล้วเป็นการทดสอบเธอต่างหาก ว่าคนธรรมดาอย่างเธอจะปรับตัวเข้ากับสังคมชั้นสูงได้หรือไม่ แพรธาราไม่ถูกโรคกับความหรูหราอยู่แล้วก็เลยเริ่มเครียด หญิงสาวรู้สึกปวดมวนในท้อง เมื่อนึกภาพว่าจะต้องไปอยู่ในงานที่มีแต่คนแปลกหน้าตามลำพัง คนพวกนั้นไม่เพียงแต่เดินสวนไปมา แต่ยังกวาดตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูแคลน
มุมปากของลอยด์ยกขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าตัวเองมีความสำคัญ ชายหนุ่มวางไหล่บนมือหญิงสาว แล้วสบลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย
มารีนรักคามินไหม
ระ
เสียงของแพรธาราสะดุดไปไปราวกับมีก้อนอะไรมาจุกตรงลำคอ เธอเคยรักคามินได้เต็มปาก แต่พอถูกลอยด์จ้องกลับพูดไม่ออก ทำได้เพียงพยักหน้ารับเท่านั้น
อยู่กับคามินแล้วมีความสุขไหม
มี แต่
ไม่เอาแต่ บอกมาแค่มีหรือไม่มี
ถ้าเธอลังเลแม้แต่นิดเดียวเขาบอกเธอว่าไม่จำเป็นต้องฝืนทำสิ่งในที่ไม่อยากทำ และจะพาออกไปจากที่นี่ในทันที ทว่าสิ่งที่ได้ยินกลับเป็นคำตอบรับหนักแน่นว่ามีความสุข
คำพูดของหญิงสาวทำร้ายหัวใจคนแอบรักมากกว่าที่คิด ลอยด์รู้สึกว่าขอบตาตัวเองกำลังร้อนผ่าวคลายว่ากำลังจะร้องหาย ชายหนุ่มแอบเหลียวไปมองกระจก พอเห็นว่าตัวเองยังดูปกติ เขาก็ฝืนทำหน้าที่ของเพื่อนที่ดีต่อไป
เลิกคิดฟุ้งซ่านได้แล้ว คิดแค่ว่ามารีนรักเขา อยู่กับเขาแล้วมีความสุข เท่านั้นก็พอ ชายหนุ่มปลอบตัวน้ำเสียงอ่อนโยน
มาจะพยายามคิดแบบนั้นค่ะ
หญิงสาวท่องคำพูดของลอยด์ซ้ำๆ ในใจราวกับว่ามันเป็นคาถาเรียกขวัญ พอสงบใจได้สักระยะ พนักงานของซาลอนก็มาแจ้งว่าคามินมารอพบอยู่ด้านนอก
แพรธาราหยัดตัวลุกขึ้น แล้วส่องกระจกเพื่อสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมอีกครั้ง เธอเอามือประสานกันไว้แน่น เพื่อจะได้ไม่เผลอกัดเล็บเวลารู้สึกเครียด
หญิงสาวเดินตัวเกร็งได้สามก้าวก็สะดุ้งขาตัวเอง เห็นแล้วลอยด์ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ชายหนุ่มจึงเตือนให้ตั้งสติอีกครั้ง แล้วกุมมือเย็นเฉียบของหญิงสาวเอาไว้
หลับตาแล้วสูดหายใจลึกๆ
ไออุ่นจากมือใหญ่ทำให้รู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แพรธาราหลับตาลงแล้วทำตามที่เขาบอก
หญิงสาวหยุดประหม่าไม่ได้ ก็เลยสร้างทิฐิขึ้นมาในใจ เธอตั้งปณิธานเอาไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้ใครดูถูก แล้วก็จะต้องทำให้ได้ด้วย
เมื่อคิดได้แบบนี้ไหล่ที่ห่อก็เหยียดตรงขึ้นมาทันที ต่อให้ลอยด์ปล่อยมือเธอก็มั่นใจว่าจะยืนเองได้อย่างมั่นคง
ในขณะที่แพรธารากำลังได้ความมั่นใจคืนกลับมา สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ลอยด์โน้มตัวลงมาจุมพิตที่หน้าผากของหญิงสาว เขาประทับริมฝีปากไว้อย่างนั้นอยู่เนิ่นนานจนความร้อนจากสัมผัสแผ่กระจายไปทั่วทั้งใบหน้า
แพรธาราตกใจในทีแรก แต่เมื่อคิดได้ว่าในประเทศของเขา การจูบหน้าผากคือการให้กำลังใจ เธอจึงคลายความตระหนกและไม่ขัดขืน
หญิงสาวรู้สึกว่ามีบรรยากาศอบอุ่นอ่อนโยนกำลังห่อหุ้มตัวเธออยู่ ในหัวใจมันเหมือนมีกลิ่นอายความหวานกรุ่นฟุ้งกระจาย แต่ก่อนที่จะทันได้วิเคราะห์ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร ลอยด์ก็ถอนริมฝีปากออก แล้วค้อมกายให้เธอ
ไปกันเถอะ ไปหาเจ้าชายของมารีนกัน
แพรธาราควงแขนด้วยอย่างไม่มีอิดออด หญิงสาวไม่ได้ถามว่าจูบเมื่อครู่หมายความว่าอย่างไร ในขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ไม่ได้บอก ความหมายของจุมพิตนี้จึงเป็นปริศนาต่อไป มีเพียงลอยด์คนเดียวเท่านั้นที่รู้ และขณะนี้มันกำลังดังก้องอยู่ในใจเขา
ผมรักคุณ ลาก่อนที่รักของผม
=============================== เรื่องนี้ใช้นามปากกาว่า นปภาค่ะ ใครเห็นที่อื่นแล้วนามปากกาไม่เหมือนกันไม่ต้องงงนะคะ ^O^
จากคุณ |
:
ตารกา
|
เขียนเมื่อ |
:
23 พ.ค. 55 22:28:16
|
|
|
|