(ต่อ)
สตีเฟ่นพยักหน้าหงึกหงัก ปากยังหุบไม่ลง หลังจากนั้นเขายิ่งมองฉันผ่านกระจกมองหลังบ่อยกว่าเดิม และไม่พูดอะไรอีกเลยตลอดทาง
บ้านแวนดิแคมป์ไม่ได้ใหญ่โตเข้าขั้นคฤหาสน์ ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ที่สุดในย่านนั้น คุณอาจเคยเห็นบ้านดาราฮอลลิวู้ดจากนิตยสาร บ้านแวนดิแคมป์ไม่ได้มโหฬารขนาดนั้น แต่ถ้าคุณลองเอาขนาดบ้านหรูหราพวกนั้นมาตัดออกซะครึ่ง ลดเครื่องเคราที่ไม่จำเป็นลง ใส่เฟอร์นิเจอร์ที่ธรรมดากว่าเดิมหน่อย ใส่การออกแบบภายในภายนอกเรียบๆง่ายๆ คุณอาจได้บ้านที่ใกล้เคียงบ้านแวนดิแคมป์
แต่ถึงจะไม่ใหญ่โตหรูหราเป็นวัง มันก็เป็นบ้านสองชั้นที่ครบครันสำหรับทุกอย่าง โรงรถ สระน้ำ วิวบนเนินเตี้ยๆ สวนเล็กๆ และประตูเข้าออกเฝ้าโดยยามสูทดำ รอดไวเลอร์แบบที่เป็นหมาจริงๆสองตัว เท่าที่เห็นน่ะนะ สัญญาณกันขโมยบนพื้นหญ้าหน้าบ้าน หากมองจากข้างนอก คุณอาจคิดว่าบ้านนี้เป็นป้อมปราการของมาเฟียที่ไหนแทนที่จะเป็นบ้านนักธุรกิจการเงิน
หญิงละตินท่าทางใจดีออกมาเป็นคนแรก ฉันมารู้ทีหลังว่าเธอเป็นแม่บ้าน ชื่อมาเลน่า อีกครั้งที่ฉันถูกมองอย่างกังขาและตกใจปนกัน เธอเป็นหญิงรูปร่างอวบวัยกลางคน สวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงวอร์มง่ายๆ ผมสีดำดัดหยิกและใบหน้ากระจ่างด้วยยิ้มอยู่เกือบตลอดเวลา เป็นเหตุผลว่าเมื่อผ่านขั้นสงสัยและตกใจไปแล้ว เธอก็ยิ้มกว้างขวางรวบตัวฉันเข้าไปกอดทักทายตั้งแต่ยังไม่รู้ชื่อฉันด้วยซ้ำ
“ยินดีต้อนรับ..” เธอร้องเสียงดัง ฉวยกระเป๋าในมือฉันไปถือเองโดยไม่ฟังอะไรสักอย่าง ก่อนจะเดินดุ่มเข้าไปในบ้านในระดับความเร่งเกือบวิ่ง ปล่อยให้ฉันยืนลอยคว้างมือเปล่าอยู่ตรงนั้น
อีธานปล่อยให้เธอวิ่งวุ่นตามสบาย เขาเอามือวางบนไหล่ของฉันเงียบๆนำพาฉันเข้าไปในห้องรับแขก ซึ่งมันเป็นห้องที่กว้างที่สุดของบ้าน ชั้นบนของบ้านนี้จัดเป็นห้องๆตามระเบียงที่มองลงมาชั้นล่างได้
หญิงร่างเพรียวคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านในของบ้านที่น่าจะเป็นครัว ผมสีบลอนด์สว่าง เธอย้อม.. ฉันคิด สังเกตเห็นรากผมเป็นสีบรูเน็ทเข้มๆรำไร และจากชุดเข้ารูปงามๆ แหวนสวยๆสว่างที่นิ้ว และนัยน์ตาสีเทาสว่างใต้อายแชว์โดว์เป็นประกาย แม้รูปคางจะไม่หมือนอีธาน แต่เป็นเล็กซี่.. แน่นอน ฉันบอกตัวเอง เธอมองมาที่ฉัน ความตกใจวูบในแววตา ก่อนที่จะหันมายิ้มกว้างให้อีธาน เธอกางแขน กรี๊ดเบาๆจากลำคอ และแทบจะกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อเหมือนสาวน้อยในภาพยนตร์ที่ฉันเคยดู
“เล็กซี่.. สาวน้อยของพ่อ..” อีธานยิ้ม เป็นยิ้มจริงๆครั้งแรก ไม่เยียบเย็น ไม่ประชดประชัน มันอบอุ่น ห่วงใย ตาของเขาจับไปที่เล็กซี่ รอยตีนกาของอีธานลึกชัดจากรอยยิ้มกว้าง เขายกมือปัดผมเธอทัดหูให้ด้วยซ้ำ
พ่อลูกยังโอบเอวกันและกัน อีธานผายมือมาทางฉันครั้งแรก
“เล็กซี่.. นี่แอนนาเบล ที่พ่อเล่าให้ฟังทางโทรศัพท์” เขาแนะนำ “แอนนาเบล.. นี่เล็กซี่ ลูกสาวฉัน”
ฉันยิ้ม ยกมือทักทายอย่างเก้อเขิน ใบหน้าของเล็กซี่ฉาบด้วยความตื่นใจ เธอยื่นมือมาแตะแก้มของฉันเหมือนจะพิสูจน์ว่าฉันเป็นมนุษย์หรือหุ่นยาง แล้วอย่างคาดไม่ถึงที่สุด เธอยกข้อมือฉันข้างหนึ่งขึ้นบนศีรษะแล้วเหวี่ยงให้ฉันหมุนตัว
คราวนี้ฉันคอแข็งเลย กระโปรงลายดอกไม้อภินันทนาการจากมายาพลิ้วไปตามแรง ฉันหุบยิ้มฉับ รู้สึกคล้ายคลื่นไส้ทั้งๆที่หมุนไปแค่รอบเดียว.. รอบเดียวก็เกินพอ.. ฉันภาวนาอย่าให้เธอพาฉันไปร้องเพลงในสวนดอกไม้เหมือนกอน วิท เดอะวินก็เลยละกัน
เล็กซี่ยิ้มกว้างกว่าเก่า “เธอน่ารักจังค่ะ พ่อ” คำชมเหมือนฉันเป็นตุ๊กตาตัวใหม่หรืออะไรสักอย่าง “อายุเท่าไรจ๊ะ?” เธอถาม
“สิบหกค่ะ” ฉันตอบ เริ่มมองซ้ายมองขวาหาทางหนีออกจากตรงนี้ไปให้เร็วที่สุด
ตอนนั้นเอง เนทกับวินเซนต์ก็มาถึงพอดี เนทยิ้มอย่างรื่นเริงเมื่อเห็นฉันกับเล็กซี่กำลังเผชิญหน้ากัน และยิ่งยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนใจของฉัน วินเซนต์กับสตีเฟ่นกำลังช่วยมาเลน่าแจกจ่ายกระเป๋าไปตามห้องชั้นบน
ฉันส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังเนท แต่เขากลับทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา เอนหลังลงสนุกสนานกับเหตุการณ์ข้างหน้า
“หนูนึกว่าเธอสักสิบสี่แน่ะค่ะ พ่อ” เล็กซี่ว่า คิ้วคู่สวยขมวดเข้ากัน “ตางี้กลมเชียว..”
พอกันที.. ฉันนึก แล้วรีบพูด “เดี๋ยวหนูไปจัดของที่ห้องก่อนนะคะ อีธาน” ชั้นรีบชี้ ไม่รู้ว่าชี้ทางไหนเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าห้องของฉันควรจะอยู่ทิศไหน ก่อนจะเริ่มออกเดินเหมือนตุ๊กตาไขลาน แต่แล้วกลับกลายเป็นว่า..
“เดี๋ยวฉันไปช่วย..” เล็กซี่ส่งเสียง ผละจากอกอีธาน แล้วออกตัวคว้าข้อมือของฉันไปยังทิศทางที่ฉันไม่รู้จัก ได้ยินเสียงหัวเราะๆเบาของเนทอยู่ด้านหลัง
ห้องของฉันเดิมทีเป็นห้องนอนแขก คือห้องนอนจริงๆของสมาชิกแวนดิแคมป์จะอยู่บนชั้นสองลึกเข้าไป ด้านซ้ายและขวา ส่วนห้องนอนแขกจะอยู่หน้าระเบียง หนึ่งในนั้นเขาจัดให้เป็นห้องของฉัน มาเลน่ามารออยู่แล้ว พอฉันเข้าไปเขาก็กำลังพับๆเสื้อผ้าของฉันเข้าตู้ พอฉันร้องว่าไม่ต้องเธอก็ค้อนตาคว่ำ รัวภาษาละตินที่แปลไม่ออกใส่ฉันชุดใหญ่ เล็กซี่บอกว่ามาเลน่าเป็นคนที่เอาแต่ใจที่สุดในบ้าน หากจะอยู่อย่างสงบดีอย่าได้ขัดใจเธอ เธออยากทำอะไรก็ปล่อยไป
“เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วล่ะ” เล็กซี่บอก ฉันพยักหน้า อ้อ.. เลี้ยงกันมาแบบนี้.. ถึงออกมาแบบนั้นสินะ..
จากคุณ |
:
รถขนมปังกรอบ
|
เขียนเมื่อ |
:
26 พ.ค. 55 16:56:15
|
|
|
|