Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ช่วยลองตรวจสกู๊ปหนังที่ผมเขียนหน่อยซิครับ ว่าโอเคไหม ติดต่อทีมงาน

Abraham Lincoln: Vampire Hunter
ลินคอร์นล่าแวมไพร์

“ดูเหมือนผมจะเล่นบทประธานาธิบดีอเมริกันที่ตีความได้แปลกประหลาดดี” เบนจามิน วอล์คเกอร์ เมื่อพูดถึงบทบาทที่เขาได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของอเมริกา ใน Abraham Lincoln: Vampire Hunter แต่มีบทบาทไม่ใช่เป็นเพียงแค่ผู้นำประเทศเท่านั้น ยังเป็นนักล่า “แวมไพร์” ยิ่งทำให้ฟังดูน่าสนใจและแปลกประหลาดใจในคราเดียวกัน

ไม่ต้องแปลกใจเพราะนี่คือการนำหนังสือที่ชื่อ Abraham Lincoln: Vampire Hunter จากนวนิยายขายดีของ เซธ เกรแฮม สมิธ ดัดแปลงสู่ภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน โดยการผนึกกำลังระหว่าง ทิม เบอร์ตัน ที่งานนี้ขอเป็นผู้อำนวยการสร้างกับผู้กำกับทิเมอร์ เบคมัมเบตอฟ โดย 20th Century Fox Studio เป็นผู้จัดสร้างหนัง

โดยไอเดียสุดบรรเจิดของหนังเกิดจากการแหวกความคิดสุดเหนือธรรมชาติของประวัติศาสตร์และความน่ากลัวจากฝีมือของเกรแฮม สมิธ ผู้เขียนบทและเจ้าของหนังสือ ซึ่งถ้าย้อนกลับที่ช่วงในปี 2008 เมื่อเกรแฮม สมิธ อยู่ที่ Los Angeles ตัวเขาได้ส่งต้นฉบับหนังสือของเขาเรื่อง “Pride and Prejudice and Zombies” เขาเห็นบนชั้นหนังสือมีแต่เรื่อง “Twilight” จึงมีความคิดว่าถ้านำสองสิ่งมารวมกันมันน่าจะเป็นเรื่องที่ดี กระตุ้นให้เขาเขียนเรื่อง Abraham Lincoln: Vampire Hunter ออกมา โดยได้รับการตีพิมพ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

ตัวหนังสือจะเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ในช่วงชีวิต 45 ปีของลินคอล์น ในช่วง 1820 ถึง 1865 ติดตามวิวัฒนาการของเขาจากเด็กหนุ่มต่ำต้อย ผู้หมดหวังกับชีวิตหลังจากที่เขาได้สูญเสียแม่และปู่ไป ผ่านสิ่งที่น่าสนใจของเขาไม่ว่าจะเป็น  ด้านการเมือง ด้านการเป็นประธานาธิบดีและการโดนลอบสังหาร ด้วยน้ำมือของ จอห์น วิลเกส บู๊ธ

ขณะที่เรื่องเล่าที่มีรากฐานมาจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์  บวกกับจินตนาการอันน่ามหัศจรรย์ ผ่านสงครามล่าแวมไพร์ของลินคอล์นในความต้องการกำจัดปีศาจดูดเลือดให้สูญพันธ์ไปให้หมด เขาจึงต้องออกค้นหาเพื่อนร่วมทางที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงอย่าง เฮนรี่ สเตอร์เกส (รับบทโดย โดมินิค คูเปอร์) ที่ช่วยเขาจัดการศัตรูเหนือธรรมชาติ ลองจินตนาการว่า ลินคอล์น นี่แหละคือนักล่าแวมไพร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เปรียบเหมือนกับ Buffy the Vampire Slayer ในยุคทศวรรษที่ 19

จุดที่น่าสนใจของหนัง Abraham Lincoln: Vampire Hunter ที่ไม่เหมือนกับหนังสือเสียทีเดียวและไม่ใช่สร้างเพียงแค่หนังประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ที่เหนือกว่าเพราะเป็นเรื่องราวของการล่าแวมไพร์และประวัติศาสตร์ให้มาอยู่รวมกันได้

“บางสิ่งบางอย่างมันสะกิดใจผมและต้องการที่จะเห็นหนังเรื่องนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมโตมากับพวกหนังแปลกประหลาดแนวๆ นี้ และก็ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้ก็เป็นในแบบแนวของผม มันอยู่ภายใต้จิตใต้สำนึกผม ผมจำได้ว่าตอนผมไป Cornell Theater ใน Burbank ที่ซึ่งค่าตั๋วแค่ 50 เซ็นต์ ใน 3 เรื่อง เพราะฉะนั้นหนังประมาณนี้แหละที่มันเข้าเส้นผม” คำพูดของ ทิม เบอร์ตันที่กล่าวไว้กับ นิตยสาร Time เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ว่าเขาเกิดความคิดดีๆ ในการสร้างหนังเรื่องนี้

ทางฝั่งผู้กำกับอย่าง  เบคมัมเบตอฟ ที่เคยทำให้หนังแอ็คชั่นเรื่อง “Wanted” ประสบความสำเร็จมาแล้วในปี 2008 กล่าวอย่างตื่นเต้นกับหนังเรื่องนี้ว่า

“ผมมีโอกาสที่จะได้สร้างหนังที่เกี่ยวกับซุปเปอร์ฮีโร่โดยมาจากบุคคลในประวัติศาตร์จริงๆ” เบคมัมเบตอฟ เติบโตในประเทศสหภาพโซเวียต ซึ่งฐานการสร้างภาพยนตร์ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงมอสโคว์ ได้นำโปรเจ็คส์ที่เกี่ยวกับประธานาธิบดีอันเป็นที่รักของคนสหรัฐอเมริกา มาทำเป็นภาพยนตร์ โดยผู้กำกับคนเก่งพูดสั้นว่า “มันยังคงมีความร่วมสมัยอยู่เสมอ”

หลังจากที่ตัวนวนิยายเสร็จสมบูรณ์ เกรแฮม สมิธ  ได้พบกับ เบอร์ตัน เลมลี่ย์และทิเมอร์ เบคมัมเบตอฟ ในการพูดคุยถึงทิศทางสำหรับต้นฉบับซึ่งทั้งสี่คนเห็นร่วมกันว่า  ยังไม่มีสถานที่ที่จะดัดแปลงตัวหนังได้เลย ตลอดช่วงเวลา 18 เดือน  พวกเขานึกความคิดดีๆ ในการสร้างตัวร้ายที่สำคัญ คือ อดัม รับบทโดย รูฟัส เซเวลล์

“เราอยู่ในขั้นตอนช้ามาก เราจึงต้องตระหนักแล้วว่า ต้องการใครสักคนที่รับบทหนักนี้ได้ บางทีผมคิดว่าเรายึดติดกับตัวหนังสือมากเกินไป ทั้งหมดจึงมาถึงขั้นตอนการตระหนักรู้แล้วว่าในหนังมันควรจะบทคนเลวมั้ง มันก็เป็นสิ่งที่สามัญมากๆ แต่ถ้าคุณเริ่มต้นจากตัวหนังสือ คุณต้องพยายามรักษาสมดุลทั้งสิ่งความเชื่อถือและสิ่งที่น่าสนใจให้คงอยู่”

ช่างยากเย็นแสนเข็ญในการค้นหานักแสดงที่เหมาะสมเป็นตัวดำเนินเรื่องตามบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น อลัน ทูดิค ในบท สตีเฟ่น ดักกลาส และ แมรี่ อลิซาเบธ วินสตีด ในบท แมรี่ ท๊อด ลินคอล์น ทำให้ เลมลี่ย์ เอ่ยถึงความลำบากในการค้นหานักแสดง

“เป็นบทบาทที่ท้าทายอย่างไม่น่าเชื่อ” เลมลี่ย์ย้อนถึงช่วงค้นหานักแสดง “พวกเราได้รายชื่อมาแล้ว เขาจะเป็นนักแสดงที่ไม่มีชื่อเสียงไม่ใช่ปัญหา เอาใครก็ได้ที่อยู่ร่างของ อบราฮัม ลินคอล์น แล้วทำให้เราเชื่อได้ เมื่อคุณเริ่มค้นหารายชื่อ โห มันเป็นบัญชีรายชื่อที่หินสุด”

นอกจากการที่ต้องมีความสูง 6 ฟุต และร่างกายที่ดูได้สัดส่วนตามความต้องการจึงทำให้ “เบนจามิน วอล์คเกอร์” ได้รับบทบาทสำคัญนี้ เขาต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงกับช่างแต่งหน้า เกรก แคนนอน เพื่อให้ วอล์คเกอร์ ดูมีเคราและมีอายุที่ดูเท่ากับ ลินคอล์น “แค่ผมจินตนาการว่าเป็น ลินคอล์น มันก็ทำให้ผมรู้สึกประหม่า ณ ช่วงเวลานั้น” วอล์คเกอร์พูดถึงความรู้สึกของตัวเองที่ได้มารับบทสำคัญเช่นนี้

ถึงแม้ว่า เขาจะเพียงหน้าใหม่ในวงการนี้ แต่เขาก็มีประสบการณ์หลังจากการผ่านการโปรดักชันส์มาหลายเวที ซึ่งหนุ่มพื้นเมืองวัย 29 ปี จากจอร์เจียผู้นี้ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีจากการที่เขาแสดงละครบรอดเวย์ “Bloody Bloody Andrew Jackson” ตอนที่เขาได้รับบทนี้จึงมีคำถามกลับไปว่าใครคือผู้กำกับ จากนั้นก็มีใครบางคนพูดกลับมาว่า “ทิเมอร์คือผู้กำกับ” ทำให้ วอล์คเกอร์ รู้สึกคลายกังวลและรู้ว่าเขาจะทำมันได้ดี

การนำวอล์คเกอร์มาเล่นในบทแอ็คชั่น มันช่างไกลจากตอนที่เขาเล่นบนเวทีมากนัก แต่เขาก็คิดว่าการเปลี่ยนผ่านมันคงจะไม่ยากเกินไปนัก ต้องขอบคุณผูกำกับเป็นอย่างสูง “การทำงานของ ทิเมอร์ มันก็เหมือนตอนที่ผมเล่นละครบรอดเวย์ ขบวนการอาจแตกต่าง แต่ใช้กำลังของกล้ามเนื้อที่เหมือนกัน การสร้างมนุษย์อีกคนนึง มันก็เหมือนๆ กัน ไม่ว่าคุณจะถ่ายทำผ่านเลนส์หรือคุณกำลังแสดงสดบทเวทีต่อหน้าผู้คน ซึ่งแนวทางการทำงานของ ทิเมอร์ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับแสดงสดต่อหน้าผู้ชม ด้วยตัวหนังถ่ายทำในระบบ 3-D ความสมจริงเกิดขึ้นเหมือนคุณไปยืนในจุดที่ผมยืนอยู่อย่างไรอย่างนั้น”

ซึ่งก็นำคำถามมากมายสู่ วอล์คเกอร์  ยอมรับว่าแปลกใจอยู่เหมือนกันที่หนังสมัยนี้ไม่สามารถหาอะไรที่แตกต่างออกไป “คุณลองไปภาพยนตร์ทุกวันนี้ซิ คุณก็จะเห็นแต่หนังรีบู๊ท หนังภาคต่อ คอมิคส์ และของเล่น พูดอย่างเปิดเผยว่า หนังเรื่องนี้มันดูสดใหม่และก็ไกลเกินกว่าที่ผมคิด ช่างน่าประหลาดแท้”

นอกจากทีมงานนักแสดงเบื้องหน้าหลายคนแล้ว ยังมีทีมงานออกแบบเสื้อผ้า คาร์โล ป็อจจิโอลี่ และ วาร์วารา อัฟด์ยูชโก ที่เนรมิตทั้งชุดกาวน์ เสื้อผ้า ชุดสูท ถึง 8,000 ชุด สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ในการค้นหาข้อมูลอันแหลือคณานับ (ทาง Hollywood ตั้งงบประมาณอยู่ในระดับ 70 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ทาง เบคมัมเบเตอฟถ่ายทำอย่างรวดเร็ว ทำให้งบประมาณไม่บานปลายไปมากกว่านี้โดยการหาสถานที่จริงภายใน Louisiana) มีการรายงานว่าค่าใช้จ่ายโปรดักชันส์ถึง  65 ล้านเหรียญสหรัฐ

ด้าน ฟรองชัวร์ ออโดว์ ผู้ออกแบบโปรดักชันส์ คงไม่ได้เข้าถึงด้านประวัติศาสตร์มากนัก เขาจึงใช้ทั้งด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิกและสถานที่จริง ปั่นผสมรวมทั้งความจริงและเท่าที่เขาจะนึกจินตนาการได้  ทำให้ ออโดว์ ต้องประสานงานกับทางการในการขอแผนที่เกี่ยวกับ Civil War เพื่อเป็นการสร้างโปรดักชันส์ขึ้นมาใหม่ ได้รับการสนับสนุนจาก โธมัส เอฟ ชวาร์ต นักประวัติศาสตร์รัฐอิลลินอยส์

“พวกเรามีความสุขมากที่ได้ทำหน้าที่นี้” นายชวาร์ตผู้เคยช่วยโปรเจ็คส์หนังก่อนหน้านั้นมากมาย รวมถึง สตีเว่น สปีลเบิร์ก กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ทิเมอร์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสงครามการเมืองที่น่าสนใจว่า “ผมคิดว่า Civil War หรือสงครามกลางเมืองมันยังคงดำเนินต่อไป เป็นปัญหาที่พวกเขาพยามยามยึดโยงให้มันอยู่ต่อไป เบคมัมเบตอฟ กล่าว “บางทีหนึ่งของไอเดียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือทุกคนได้ป็นอิสระ แต่พวกเราคือทาส แต่สำหรับผม ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความเป็นทาส ไม่ได้เกี่ยวกับความไม่เท่ากันด้านเชื้อชาติ แต่เกี่ยวกับความอิสระ พวกเราไม่สามารถอิสระ เพราะพวกเราตกอยู่ในความกลัว”

แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 55 22:55:06

จากคุณ : Bierhoff
เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 22:53:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com