- บทนำ - หากลองถามสุ่มถามเด็กหญิงชายทั่ว ๆ ไปในดินแดนอื่นถึงความฝันในอนาคต...ถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร คำตอบที่ได้อาจเป็น
“อยากเป็นครู”
“อยากเป็นนักเวท”
“อยากเป็นหมอ”
สามอาชีพนี้อาจปรากฏขึ้นบ่อยครั้งเนื่องจากเป็นอาชีพที่นิยมโดยทั่วไป และหากเด็กที่ถามนั้นฉลาดแกมโกงสักนิด คำตอบที่ได้อาจเป็น
“อยากเป็นเศรษฐี”
และอีกสารพัดคำตอบที่อาจเป็นไปได้
แต่หากจำกัดขอบเขตของประชากรวัยเยาว์ลงมาเหลือเพียงในวินเดเมียร์แล้ว เชื่อแน่ว่าคำตอบของเด็ก ๆ ไม่ต่ำกว่าเก้าสิบห้าในร้อยต้องเป็น
“อยากเป็นผู้ทอแสง”
หากถามต่อว่าเพราะเหตุใดจึงอยากเป็น ‘ผู้ทอแสง’ คำตอบที่ได้รับอาจหลากหลาย...แปรผันไปตามความไร้เดียงสาของผู้ตอบคำถาม
“ผู้ทอแสงเท่ดี” แต่เชื่อเถิดว่าที่ว่าเท่นั้นเท่อย่างไรแน่ เจ้าตัวก็ไม่รู้เช่นกัน เพราะในจำนวนประชากรนับแสนของวินเดเมียร์ ผู้ที่เคยพบผู้ทอแสงจริง ๆ นั้นมีเพียงหยิบมือ และผู้ที่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของผู้ทอแสงอาจมีเพียงนักบวชแห่งหอแสง...ซึ่งก็เป็นกลุ่มคนที่ลึกลับพอ ๆ กับตัวผู้ทอแสงเอง
“เพราะจะได้มอบแสงสว่างให้ทุกคน” นั่นอาจเป็นคำตอบที่ได้รับบ่อยพอสมควร เพราะสิ่งที่ทุกคนรู้มาจากคำเล่ากันปากต่อปากคือผู้ทอแสงมีหน้าที่ตามชื่อ...ถักทอแสงสว่างเพื่อห่มคลุมท้องฟ้าในยามทิวา และปลดผืนแสงนั้นลงจากฟากฟ้าในยามราตรี ว่ากันว่าแสงสว่างของผู้ทอแสงนั้นมีอำนาจปัดเป่าภัยร้ายทั้งปวงอีกด้วย
“จะได้มีคนนับถือเยอะ ๆ” นั่นเป็นความจริง ด้วยเหตุที่ผู้ทอแสงคือผู้มอบแสงสว่างทั้งยังขจัดภัยร้าย จึงเป็นเสมือนบุคคลศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ของตนตลอดชั่วกลางวันอย่างอดทน ว่ากันว่าการทอแสงนั้นคล้ายการปั่นด้าย คือปั่นสายแสงออกมาจากแหล่งกำเนิดและถักทอขึ้นเป็นผืนผ้า หากความแตกต่างอยู่ตรงที่ใยแสงนั้นไม่ได้คงอยู่ตลอดเวลา เมื่อผ่านไประยะหนึ่งจะสลายไป การที่แสงสว่างจะสม่ำเสมอทั้งวัน ผู้ทอแสงต้องปั่นสายแสงออกมาตลอดเวลา เป็นงานที่หนักไม่น้อย จึงได้รับการนับถือในความเสียสละมากเป็นเงาตามตัว
“จะได้อยู่ในหอแสงบนต้นเทียนสวย ๆ สูง ๆ ที่วินด์สอาย” เด็กหญิงบางคนอาจตอบเช่นนี้
วินเดเมียร์แบ่งออกเป็นห้าเขตการปกครอง ภาคเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก และภาคกลาง อันมีชื่อที่ผู้คนเรียกขานกันติดปากว่า นอร์ธวินด์ เซาธ์วินด์ อีสต์วินด์ เวสต์วินด์ และวินด์สอายตามลำดับ และที่จุดศูนย์กลางของวินด์สอายซึ่งเป็นเสมือนเมืองหลวงคือที่ตั้งของสิ่งที่ผู้คนเรียกกันง่าย ๆ ว่า ‘ต้นเทียน’ ซึ่งสูงเทียมฟ้า
อันที่จริงต้นเทียนไม่ได้ชื่อต้นเทียน ชื่อจริงของมันยาวกว่านั้นมาก ทั้งยังยาวขึ้นเรื่อย ๆ กล่าวคือยาวขึ้นหนึ่งคำทุกครั้งที่มีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้ทอแสง เนื่องจากนามของต้นเทียนนั้น ได้รับขนานตามชื่อของผู้ทอแสงทุกรุ่น ไล่เรื่อยมาตั้งแต่รุ่นแรกนั่นเอง เมื่อผู้ทอแสงคนใหม่เข้ารับตำแหน่ง คนผู้นั้นจะสละนามเดิมที่ได้รับมาแต่กำเนิดและรับชื่อ ‘ลูมิน’ มาใช้เป็นชื่อตัว ชื่อเดิมของผู้ทอแสงคนนั้นจะถูกเติมเข้าที่ด้านท้ายของชื่อเดิมของต้นเทียน ตลอดพันปีที่ผ่านมา มีผู้ทอแสงมาแล้วราวยี่สิบคน ชื่อเต็มของต้นเทียนจึงยาวจนแทบไม่มีใครคิดจะจดจำ และแม้บางคนจะจำได้ ชื่อนั้นก็ยาวเกินกว่าจะมาใช้พูดคุยกันในชีวิตประจำวันอยู่ดี ทุกคนจึงสมัครใจจะเรียกมันตามลักษณะภายนอกที่เห็นได้ชัดแทน
ต้นเทียนนั้นว่าที่จริงก็เป็นต้นไม้ ทว่าแทนที่จะเป็นใบไม้ ตามกิ่งก้านสาขาของมันกลับเต็มไปด้วยเทียนน้อยใหญ่ สั้นบ้าง ยาวบ้าง อ้วนบ้าง ผอมบ้าง หากทุกเล่มล้วนติดไฟอยู่ตลอดเวลา บ้างลุกโชติช่วง บ้างอ่อนแรงริบหรี่แตกต่างกันไป ในยามกลางคืนจะเห็นแสงเทียนส่องประกายอยู่ในความมืดสวยงามมาก แต่ละกิ่งก้านของต้นเทียนเวียนอย่างเป็นระเบียบราวกับบันไดเวียนจากพื้นขึ้นไป กิ่งเหล่านั้นสามารถใช้แทนบันไดได้จริง ๆ
ว่ากันว่าหากตั้งใจและอดทนปีนบันไดกิ่งไม้ไปจนสุดทางที่ยอดไม้ซึ่งอยู่เหนือเมฆขึ้นไป จะได้เจอกับผู้ทอแสงซึ่งอาศัยอยู่ในหอแสงบนยอดไม้นั้น หากไม่มีใครเคยทำสำเร็จแม้แต่คนเดียว ต้นเทียนนั้นจึงมีหน้าที่เป็นเพียงเสมือนสิ่งสวยงามที่มีไว้ชื่นชมเท่านั้น
จากคุณ |
:
พลอยฟ้าปรายฝน
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ค. 55 15:45:09
|
|
|
|