Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
love in the dark... (เรื่องสั้น) ติดต่อทีมงาน

แสงแดด อ่อนๆ ทอดยาวผ่านหน้าต่างบานเล็ก  ทำให้ห้องทั้งห้องดูสว่างไสว

เมื่อกระทบกับ พื้นกระเบื้อง และฝาผนังสีขาวสะอาดตา



ผมเหม่อมองดู ผ้าม่านสีฟ้าอ่อน  ที่ไหวพริ้วอย่างเกียจคร้านยามเมื่อต้องแรงลม

อากาศยามเช้าที่สุดแสนจะเย็นสบาย   เสียงนกร้องขับขานให้รู้สึกสดชื่น

ผมถอนใจยาวอย่างเป็นสุข    



ก่อนจะเบนสายตามายังหญิงสาวในอ้อมกอดที่ใช้ไหล่ผมหนุนนอนต่างหมอนมาตลอดทั้งคืน  

ดวงตาคู่สวยที่ผมแสนรักนั้นปิดสนิท



ผมใช้นิ้วเกลี่ยไรผมออกจากดวงหน้าของเธอ  ก่อนจะสัมผัสเธอแผ่วเบาที่เรียวคิ้ว

ขนตายาวงอน เรื่อยลงมาถึง จมูกโด่ง.. แก้มใส... และริมฝีปากอิ่มสีชมพูของเธอ  



จูบเธอเบาๆ ที่หน้าผาก สูดดมกลิ่นหอมจากกายเธอเข้าไปจนสุดลมหายใจ ….  







“……..รักครีม นะครับ………”



ผมกระซิบบอกเธอเสียงแผ่ว  มองเห็นริมฝีปากสีชมพูของเธอแย้มขึ้นเล็กน้อย

เธอกอดผมแน่นขึ้น ก่อนจะลืมตาขึ้นมาช้าๆ



“ครีมก็รักคุณค่ะ”



เราประสานสายตากัน ยิ้มให้กัน แม้ได้เอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา  

หากแต่เราต่างก็เข้าใจได้ในความหมาย เมื่อเราปล่อยให้แววตาของเราพูดกัน





“ตึ๊ดดด………….”

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ดึงให้เราสองออกจากช่วงเวลาแห่งความสุข เธอเอื้อมมือรับโทรศัพท์





“ค่ะ พี่เอ็ม ครีมกำลังแต่งตัวค่ะ เดี๋ยวออกไปแล้ว ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ บายค่ะ”



“จะไปแล้วเหรอ คะ อยู่ต่ออีกนิดไม่ได้หรือไง”



ผมถาม พลางคว้าเอาเอวบางเข้ามากอด



“แหม ก็อยู่ด้วยกันมาทั้งคืนแล้วนี่คะ นี่ก็สายแล้วด้วย ครีมต้องรีบไปแล้วล่ะ”



เธอพูดพลางดึงตัวเองออกจากการอ้อมกอดของผม มือขาวๆคว้าเอาผ้าเช็ดตัวปิดกาย

ปล่อยให้ผมนอนมองตามเธอตาปริบๆ



“ยังรักกันดีอยู่เหรอ กับเค้าน่ะ”

ผมเอ่ยถามเธอลอยๆ  เธอชะงักเล็กน้อย



“ก็ดี ถามทำไมเหรอคะ ?”

“ปล่าว ก็ถามดู เผื่อว่าคุณจะอยากทิ้งเค้า แล้วมาคบกับผมอย่างจริงจังบ้าง”



เธอหัวเราะเบาๆ   ตะโกนเสียงก้องออกมาจากห้องน้ำ ผมได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวกระทบผิวเธอ



“ไม่ล่ะคะ ขี้เกียจ ตบตีกับสาวๆ  ของ เทน น่ะ”

“ผมพูดจริงนะ คุณก็รู้ว่าผมไม่เคยมีใคร นอกจากคุณ ……”



……. เงียบ ……..    ไม่มีเสียงตอบจากคนในห้องน้ำ ผมถอนหายใจเบาๆ

ก่อนจะซบหน้าลงกับหมอนด้วยความอ่อนแรง





ผมค่อนข้างสับสนกับเรื่องระหว่างเรา มันออกจะดูงง ๆ

เรารู้จักกันอย่างงงๆ คบกันอย่าง งงๆ แล้วก็มีทุกวันนี้กันอย่าง งงๆ      



เรื่องมันก็ไม่แปลกเท่าไร ผมพบกับเธอ ในระหว่างที่เธอมีปัญหากับแฟน

เรามีเซ็กส์กันครั้งแรก  เป็นเพราะความต้องการประชดประชันของเธอ

และความไม่คิดอะไรมากมายของผม  



เธอถามผมว่า เราสองคนจะทำอย่างไรต่อไป เราจะคบกันต่อไหม

หรือว่าเราจะทำเหมือน ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อนเลยดี



ผมคิดถึงจูบของเธอ กลิ่นหอมของเธอ อ้อมกอดของเธอ แล้วได้แต่ถอนใจเบาๆ      

‘ผมอยากพบเธออีก’







หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กลับไปคืนดีกับคนรักของเธอเหมือนเดิม คุณคงเดาเรื่องออก

ผมทนใจแข็ง ไม่ติดต่อเธอได้แค่ไม่กี่วัน  แล้วผมก็ต้องไปพบเธอในที่สุด ผมไปเพื่อบอกกับเธอว่า





“ผมยังไม่พร้อมที่จะเสียคุณไป ขอเวลาให้ผมหน่อยได้ไหม

ถ้าหากว่าความรู้สึกของเราสองคน เป็นเพียงแค่ความใคร่ จริงๆ สักวัน

ผมก็คงจะตัดใจจากเธอได้ แล้วเรา ก็จะได้จากกันด้วยดีไงล่ะ”





และถ้าหากว่าผมไม่ได้คิดไปข้างเดียวมากนัก  

จูบของเธอก็ทำให้ผมรู้สึกว่า เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากผมเลย



เรื่องของเรา ก็เริ่มง่ายๆ และก็ดำเนินต่อมาง่ายๆอย่างนี้แหละจากวันนั้น

มาจนถึงวันนี้ ก็ผ่านมากว่าปีแล้ว ดูเหมือนว่าความใคร่ของเราทั้งคู่ที่เธอว่า

ก็ยังคงไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย ผมเฝ้าคอยทวงถามคำว่ารักจากเธอ

แต่นอกจากคำรักที่เธอพร่ำบอกในเวลาที่เรามีความสุขด้วยแล้ว คำตอบที่ผมได้รับ

ก็คือความเงียบ มาตลอด







“จะไปกันกี่วันเหรอ ?”

ผมถามกับเธอ เมื่อเห็นเธอเตรียมตัว จัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว

ร่างบางอยู่ในชุดพร้อมเดินทาง เธอสวมเสื้อยืดแขนกุดสีชมพูพอดีตัว



กับกางเกงยีนส์รัดรูป ที่ทำให้สะโพกผายของเธอ ดูกลมกลึงเย้ายวนใจ

จนผมอดไม่ได้ที่จะรั้งร่างเธอเข้ามากอด เพื่อสูดกลิ่นหอมให้ชื่นใจ  





“ไม่เอาน่า  ครีมต้องรีบไปแล้วนะไว้เจอกัน สัปดาห์หน้าแล้วกันนะคะ”



เธอเบี่ยงตัวหลบ ก่อนจะ หยิบ นาฬิกาขึ้นมาสวม ผมมองตาม

เมื่อตามเธอเมื่อเห็นเธอบรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย



มันเป็นแหวนทองคำขาววงเล็กๆ ประดับด้วยเพชรขนาดพอดีกัน

น่ารัก  เหมาะกับเธอมาก ผมรู้ดีว่า เจ้าของแหวนวงนี้คือใคร





“ไปนะคะ แล้วจะซื้อของจากทะเลมาฝาก”

เธอพูด พลางจูบผมหนักๆ ที่แก้ม



“เที่ยวให้สนุกนะครับ”



ผมยิ้มให้เธอ ยิ้มในแบบที่เธอต้องการจะเห็น ยิ้มที่ไม่ว่าใคร ก็ไม่มีทางรู้ความในใจของผม





แล้วผมก็กลับมาแต่งตัว เตรียมไปทำงาน ส่องกระจก เสยผม ใจคิดไปถึงของในตู้เสื้อผ้า  

ผมนิ่งคิดอยู่อึดใจ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้ ค้นเอากล่องกำมะหยี่ เล็กๆสีแดงสด ขึ้นมาเปิดดู



ข้างในเป็นแหวนทองธรรมดา วงแหวนเกลี้ยงไร้ลวดลาย และเย็นเฉียบ  

คงเป็นเพราะมันไม่เคยได้รับการประดับประดา บนนิ้วของผู้ใด  



อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับแหวนทองคำขาวประดับด้วยเพชร

ที่ประดับอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของใครบางคน  



ผมบรรจงปิดฝากล่องกำมะหยี่  แล้วยัดเก็บไว้ในที่เดิมของมัน

ปล่อยให้มันซุกอยู่ในที่มืด เย็นเฉียบอยู่อย่างนั้นต่อไป







“ถูกปล่อยเกาะแล้วแหละ สวยมากๆเลย”



เสียงร่าเริงของเธอดังมาตามสายเหมือนเด็กๆ ผมหัวเราะเบาๆตามเธอ



“ครีม ไปกันเถอะ ต้องไปจุดชมวิวอีกนะครับ”

เสียงของใครบางคนแว่วมาตามสาย เธอกระซิบกับผมลนๆ



“ครีมต้องวางสายก่อนนะคะ แล้วจะโทรหาใหม่นะ บายค่ะ”



เธอพูดแล้วก็ตัดสายทันที  ผมยักคิ้วเซ็งๆ พยายามมองข้ามความรู้สึกวูบ ๆ ในอก

ก่อนจะยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋า





“คุยกับแฟนเหรอวะ ไอ้เทน”

ลุงแอ๊ด เจ้าของร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ที่ผมทำงานด้วยทักมายิ้มๆ  ผมยิ้มตอบ



“แฟนคนอื่นน่ะครับ ลุง ผมไปก่อนนะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน”

ผมตะโกนบอกแกก่อนจะฉวยกระเป๋าวิ่งออกจากมาจากร้าน





ผมเป็นแค่คนธรรมดา ที่การศึกษาไม่ได้สูงเท่าไรนัก หากทำงานที่เดียว

ก็คงจะไม่พอยาไส้ ผมจึงต้องทำงานสองที่ กลางวันทำร้านซ่อมเมอร์เตอร์ไซค์  



เป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ในผับ  ชีวิตผมมันก็เท่านี้  จะไปหวังให้ใครมาฝากชีวิตกับผมไว้ได้อย่างไร





แสงไฟสลัว กับท่วงทำนองซึ้งๆจากเครื่องเสียงชั้นดี  

ขับกล่อมให้บรรยากาศในผับค่ำคืนนี้แสนจะโรแมนติก



หญิงชายหลายคู่ที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก

พริ้วไหวไปกับเสียงดนตรี พวกเขาเกาะกุมมือกันไว้ สบตากัน พูดคุยกันทางสายตา



แววตาสื่อความหมาย  ที่มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่สามารถสัมผัสได้      



ผมมองดูคู่รักเหล่านั้นด้วยแววตาว่างเปล่า หลุมลึกในอกผมดูเหมือนจะลึกมากขึ้นทุกที  

ไม่ว่าผมจะพยายามจะหายใจเอาอากาศเข้าไปในปอดมากแค่ไหน

มันก็ไม่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงหัวใจของผมเลยแม้แต่น้อย





ป่านนี้ เธอจะเป็นอย่างไรบ้างนะ เธอกำลังทำอะไรอยู่

บรรยากาศชายทะเลคงจะโรแมนติกน่าดู



เธออาจจะกำลังเดินเล่นรับลมอยู่ที่ชายทะเลโดยมีเขาเดินกุมมืออยู่เคียงข้าง

อาจจะกำลังฟังเพลงสบายๆในผับ หรืออาจจะกำลัง ………………



ในอกผมร้อนรุ่มไปหมด  แค่คิดผมก็แทบจะคลั่ง ผมอยากจะโทรหาเธอนัก

แต่ก็ทำไม่ได้ มันเป็นข้อตกลงของเรา เราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องของกันและกัน



ผมจะไม่มีตัวตนในโลกของเธอ และเธอก็จะไม่มีตัวตนในโลกของผม ผมรับข้อตกลงนั้น

เพื่อให้ผมได้มีเธออีกครั้ง  ทั้งๆที่ผมไม่เคยทำได้เลย ผมมีเธออยู่ตลอดเวลาในหัวใจของผม



คำว่าคิดถึงเธอทุกลมหายใจอาจจะฟังดูงี่เง่า  แต่สำหรับผม มันหมายถึงอย่างนั้นจริงๆ  



………… … ผมจะผ่านค่ำคืนนี้ไปได้อย่างไรนะ



ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เข็มสั้นชี้เลยจากเลขสองมาเล็กน้อย ผมพึ่งจะเก็บกวาดร้านเสร็จ

เตรียมตัวจะกลับห้อง แต่ผมก็รู้อยู่แก่ใจว่า คืนนี้ผมคงจะข่มตาหลับลงไม่ไหว



หากไม่มีแอลกอฮอล์เข้ามาช่วยขับกล่อม  ผมกุมโทรศัพท์มือถืออยู่ในกระเป๋ากางเกง

แอบหวังเล็กๆ ว่ามันอาจจะมี ปฏิกิริยาอะไรขึ้นมาบ้าง  



แต่เท่าที่มันทำให้ผมได้ก็มีแค่นอนนิ่งๆอยู่ในอุ้งมือผมเท่านั้น  

ผมกลัวที่จะรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่ผมก็อยากได้ยินเสียงเธอเหลือเกินในค่ำคืนแบบนี้

ผมคิดถึงเธอแทบขาดใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรได้ นอกจากจ้องมองโทรศัพท์ในมือด้วยสายตาว่างเปล่า  



และแล้วก็เหมือนเธอจะได้ยินเสียงร้องเรียกของผม โทรศัพท์มือถือของผมสั่น

และมองเห็นชื่อเธออยู่บนหน้าจอ ผมกดรับทันที



“ครับ”

ผมกรอกเสียงไปตามสาย และหวังจะได้ยินเสียงใสๆของเธอตอบรับกลับมา



“ฮัลโหล”



ผมกรอกเสียงลงไปอีกครั้ง    ยังคงมีแต่ความเงียบ แต่ไม่ว่างเปล่า

ผมได้ยินเสียงบางอย่าง เหมือนว่าเธอจะไปโดนปุ่มโทรออกโดยไม่ตั้งใจ



และบังเอิญว่าผมอาจจะเป็นเบอร์สุดท้ายที่เธอพึ่งโทรหา เพราะฉะนั้น

โทรศัพท์ของเธอ จึงต่อสายหาผมโดยอัตโนมัติ



ผมกำลังจะกดวางสายเมื่อมั่นใจว่าเธอคงจะไม่ได้ตั้งใจโทรหาผมแน่  

แต่ผมก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวบางอย่าง มันคลับคล้ายคลับคลาอย่างน่ากลัว



ผมชะงักฟังอย่างตั้งใจ กลัวเหลือเกินกับลางสังหรณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในใจ

เสียงที่ส่งผ่านมายังเครื่องรับในมือผมนั้น ฟังคล้ายเสียงเสียดสีกันของผิวผ้า



ผมอยากฟังให้ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะเดินไปไหนสักแห่งอย่างเร่งรีบ  

แต่เธอจะไปไหนได้  ดึกดื่นป่านนี้   ผมได้ยินเสียงคนคุยกัน เป็นเสียงกระซิบเบาๆ



ที่ไม่สามารถจำแนกความหมายได้ ผมตั้งใจฟังมากขึ้น

เสียงเสียดสีของผิวผ้า เสียงสัมผัสของผิวเนื้อ   เร็วถี่ กระชั้นชิด  





ผมเริ่มมั่นใจพร้อมกับความเจ็บแปลบที่เล่นตรงเข้าสู่หัวใจ

ผมเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่าทำไมผมถึงไม่สามารถเข้าใจบทสนทนาของคนอีกฟากโน้นได้  



เพราะมันเป็นภาษาที่มีเพียงคนสองคนเท่านั้นที่จะเข้าใจความหมายได้

ภาษาที่พวกเขาจะเปล่งออกมา ยามที่ร่วมรักกันเท่านั้น



ใช่ ผู้หญิงที่ผมรักที่สุด กำลังจะถึงจุดสุดยอดพร้อมๆกับคนรักของเธอ

เสียงครวญครางด้วยความ หฤหรรษ์ของเธอ  



ผมมองเห็นภาพเธอในเวลานี้ ได้โดยไม่ต้องใช้พลังจินตนาการเลยสักนิด

ผมจำได้ดี ทุกท่วงท่า ทุกอาการของเธอ สัมผัสของเธอ รสจูบของเธอ



………. เสียงการเสียดสีของผิวผ้า จังหวะการร่วมรักที่รุ่มร้อน

และรุนแรงมากขึ้นตามจังหวะอารมณ์ ผมได้ยินเสียงเธอพร่ำบอกรักกับชายคนนั้น…………….



ผมทำอะไรไม่ถูก ไร้เรี่ยวแรงแทบจะประคองตัวเองเอาไว้ตรงนั้นไม่อยู่

ใจอยากจะปิดเสียงบาดหัวใจนั้นเสีย แต่ราวกับร่างกายผมกายเป็นอัมพาต



ขยับไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว เสียงพร่ำรักของคนสองคนยังคงแว่วมาตามสาย

และไม่มีวันที่จะเลือนหายไปจากโสตประสาทของผม



ผมทรุดกายลงนั่งอย่างเชื่องช้าไร้เรี่ยวแรง อยากจะกรีดร้องให้สากับความเจ็บปวดทรมาน ในใจ

แต่ผมก็รู้ว่าผมเองไม่สามารถทำได้ ลำคอของผมตีบตันไปหมด



สิ่งที่พอจะทำได้ตอนนี้ คงมีแค่การปล่อยให้หยดน้ำร้อนๆ หลั่งไหลลงมา ตามทางที่มันต้องการ



“ครีมเป็นของคุณนะ”



คำหวานของเธอแว่วผ่านเข้ามาในความรู้สึกผม



“เราเป็นของกันและกันนะคะ”

เสียงเธอ เบาหวิว ราวกับสายลม



“ไม่ใช่หรอก”



ผมพึมพำผ่านลำคอ ที่ไม่มีเสียงอะไรสามารถเล็ดลอดออกมาได้



“คุณเป็นของเค้า  เป็นของผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่ผม !!!”



ผมนั่งกองอย่างหมดสภาพอยู่ในตรอกที่มืดสนิท

หลังจากอาเจียนเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในท้องออกมาจนเกลี้ยงเกลา



ยกหลังมือสั่นๆด้วยพิษสุราขึ้นมาเช็ดคราบน้ำลาย

รวมถึงเศษอาหารที่ติดตามใบหน้าและเสื้อผ้าของผม  

แต่ดูเหมือนยิ่งเช็ด ผมก็ยิ่งดูสกปรกโสโครกมากขึ้นไปอีก





“โว๊ยยย !!!”



ผมคำรามอย่างอ่อนแรง พึ่งจะรู้ตัวว่านอกจากคราบสกปรกแล้ว  

ยังมีน้ำตาร้อนๆ ร่วงลงมาจากดวงตาของผมอีกด้วย



ผมทิ้งตัวลงนอนด้วยความเจ็บปวด และเหนื่อยใจ อยากจะตะโกนด่าฟ้า ด่าเธอ

ด่าผู้ชายคนนั้น ด่ากราดให้ทั่วไปหมด ผมอยากจะโกรธเธอ อยากจะเกลียดเธอ  



แต่ผมก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมไม่สามารถทำได้ นี่เป็นเส้นทางที่ผมเลือกแล้วที่จะเดินเข้ามา

เธอไม่ใช่คนผิด ผมเองเป็นคนอ้อนวอน ขอร้องเธอ ให้ผมสามารถมีเธอเหมือนอย่างในทุกวันนี้



เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายผม เธอก็แค่ดำเนินชีวิตไปตามปกติ ธรรมดาของเธอ

ใช่ มันก็สมควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะผมต่างหาก ที่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิตปกติของเธอ



ผมรู้ว่าตัวผมเองไม่มีสิทธิ์ในตัวเธอ  ผมไม่ได้เป็นเจ้าของเธอ

เธอไม่ใช่คนของผมเธอเป็นคนของเขา ของเขา



ผมไม่มีสิทธิ์ เค้าคือคนที่ถูกต้องที่จะสามารถดูแลเธอได้ เป็นที่พึ่งที่ดี

เป็นเพื่อน ………เป็นพี่ …..……...เป็นคนรัก..............



……………. ผมอยู่ตรงไหนในหัวใจของเธอนะ…………….

จากคุณ : HamTa
เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 16:58:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com