Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มนตราปาหนัน บทที่ ๘ : ความนัย ติดต่อทีมงาน

บทที่ ๘ : ความนัย


ทางเดินในโรงพยาบาลเหมือนทอดยาวออกไปไม่มีที่สิ้นสุด อติรุทธ์เดินแกมวิ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉินด้วยใจที่ร้อนรน พอเลี้ยวมุมตึก ก็เห็นสินธุเดินเกร่ไปมาอย่างกระวนกระวายอยู่หน้าห้อง ส่วนคุณนวลพรรณนั้นนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้วยท่าทีที่ค่อนข้างสงบกว่าลูกชายมาก พอสินธุเห็นเพื่อนก็รีบตรงเข้ามาหาทันที

“เป็นไงบ้างธุ”

“ยังไม่ออกมาเลย”

“ใจเย็นก่อน อีกสักพักคงออกมา”

เขาบอกพร้อมกับเดินเข้าไปนั่งข้างผู้อาวุโส คุณนวลพรรณรับไหว้ชายหนุ่มแล้วก็เหลือบไปทางลูกชาย      

“ธุ แม่วานไปซื้อน้ำให้หน่อยได้ไหม”

สินธุรับคำโดยไม่เฉลียวใจว่าแต่ไหนแต่ไรมา ผู้เป็นแม่ไม่เคยดื่มน้ำในขวดสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม คุณนวลพรรณมักจะมีกระติกน้ำติดตัวไปด้วยเสมอ พอคล้อยหลังสินธุแล้ว คุณนวลพรรณจึงขยับตัวหันมามองอติรุทธ์เต็มตา สายตานั้นทำให้ชายหนุ่มอึดอัดไม่น้อย

“รุทธ์ เมื่อวานรุทธ์มีอะไรจะบอกแม่หรือเปล่า”

อติรุทธ์ขมวดคิ้ว คำถามนี้ไม่เกี่ยวอะไรสักนิดกับอาการป่วยของมนชนก และไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เขาขยับจะถามกลับ หากฉุกคิดถึงบางอย่างขึ้นมาเสียก่อน ชายหนุ่มวาบไปทั้งตัว นี่หมายความว่าสิ่งที่เขาคิดเป็นเรื่องจริง เขาเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงแหบพร่า

“นายแม่”

“คิดว่าน่าจะเกี่ยวกันนะ”

คนถูกถามระบายลมหายใจยาว ความสงสัยที่เก็บเอาไว้แต่วันวาน และสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับปาหนันจึงได้รับการบอกเล่าสู่ผู้อาวุโสโดยไม่ปิดบัง คุณนวลพรรณฟังจบแล้วก็พยักหน้าช้าๆ

“อย่างนั้นก็คงไม่ผิด แล้วธุบอกรุทธ์ว่ายังไงล่ะ”

“บอกว่าพี่มนวูบตกบันได แล้วยังไงไม่รู้จู่ๆ ก็นอนดิ้นพราด ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นชักมากกว่า แล้วจากนั้นก็นอนนิ่งตัวแข็งไปเลยครับ”

 “ธุก็บอกไปตามที่เห็นนั่นแหละ แต่ความจริงก็คือ ก่อนจะเกิดเรื่องยายมนเข้ามาคุยกับแม่ว่าอยากเปิดโอกาสให้หนันกับรุทธ์ได้พบกันมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้รุทธ์มาที่บ้านทุกวัน ตอนนั้นหนันเองก็อยู่ด้วย แม่เห็นสีหน้าแกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แม่ว่าจะถามแต่ก็ลืมไปเสียเฉยๆ จนกระทั่งยายมนบอกจะลงไปเอานมร้อนมาให้แม่นั่นล่ะ ถึงเห็นใครอีกคนหนึ่งตามยายมนออกไปด้วย แม่เลยรีบให้หนันรีบพาแม่ออกไปเพื่อจะเตือน แต่ก็ไม่ทัน”

“ลำเจียกทำอะไรพี่มนครับ”

ชายหนุ่มตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ ราวกับว่าคนทำยืนอยู่ตรงหน้าด้วย

“ทีแรกแม่คิดว่าตัวเองตาฝาดเสียด้วยซ้ำไป ที่เห็นผู้หญิงหน้าตาเหมือนกับหนันราวกับฝาแฝดผลักยายมนตกบันได แล้วตามลงไปนั่งคร่อมตัวยายมนเค้นคอเหมือนจะฆ่าให้ตาย หนันรีบเข้าไปช่วยแต่ยายมนก็หมดสติไปแล้ว นอนตัวแข็งเหมือนตาย ตอนมาที่โรงพยาบาล หนันก็เอาแต่ร้องไห้”

อติรุทธ์ขบกรามแน่นกับสิ่งที่ได้รับรู้ ยังไม่ทันจะพูดว่าอย่างไร ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก ชายหนุ่มลุกพรวดเข้าไปหานายแพทย์เจ้าของไข้ทันที

“ญาติของคุณมนชนกใช่ไหมครับ”

“ครับ พี่สาวผมเป็นยังไงบ้างครับ”

“บาดแผลที่ศีรษะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วครับ แต่คนไข้ได้รับความกระทบกระเทือนที่ศีรษะและขาดออกซิเจนไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง คงต้องให้อยู่โรงพยาบาลต่อเพื่อดูอาการอีกสักสองสามวัน แต่อาการทั่วไปปลอดภัยแล้ว เรื่องนี้ต้องยกความดีให้ปาหนัน ถ้ามาช้าหรือปฐมพยาบาลไม่ถูกวิธี คนไข้อาจถึงแก่ชีวิตได้ครับ”

คนที่ได้รับการเอ่ยชื่อยืนหลบอยู่ทางด้านหลังของนายแพทย์ หล่อนส่งยิ้มจืดๆ

“อาจารย์พูดเกินไปแล้วล่ะค่ะ เป็นหน้าที่ของหนันอยู่แล้วนี่คะ”

ปาหนันบอกเสียงอ่อนอ่อย หล่อนสบตาคุณนวลพรรณด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ ที่ตนเองมีส่วนทำให้เกิดเรื่องคืนนี้ขึ้น ยิ่งเห็นนายจ้างยิ้มอ่อนอย่างไม่ถือโทษก็ยิ่งรู้สึกแย่ หญิงสาวเคลื่อนตัวเองหลบหลังอาจารย์หมอ หวังจะให้อีกฝ่ายเป็นกำแพงกั้นกลางระหว่างตนเองกับคนที่ยืนมองอยู่ตอนนี้ แต่โชคชะตาไม่เป็นใจ เพราะพอพูดจบ นายแพทย์เจ้าของไข้ก็ขอตัวแยกไปก่อนทำให้หล่อนต้องเผชิญหน้ากับอติรุทธ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


“ปาหนัน”

เสียงเรียกชื่อหล่อนยังทอดอ่อนโยนเหมือนที่เคยเป็น ปาหนันเงยหน้าขึ้นสบสายตาของอติรุทธ์แล้วก็หลบวูบลงอีกด้วยความละอายใจ ทำทีเป็นเบี่ยงตัวหลบให้บุรุษพยาบาลเข็นเตียงของมนชนกที่ตอนนี้หลับสนิทพาไปยังห้องพักแทน และทำท่าจะเข็นรถคุณนวลพรรณตามไปด้วยอีกคน หากคุณนวลพรรณกลับบอกให้หล่อนอยู่คุยกับอติรุทธ์ ก่อนจะขอให้พยาบาลอีกคนหนึ่งที่ตามออกมาช่วยเข็นรถพาไปยังห้องของบุตรสาวแทน

“หนันอยู่คุยกับรุทธ์ก่อนเถอะ ถ้านายธุมาก็ให้ตามไปที่ห้องเลยนะ”

“แต่ว่า...”

ปาหนันจะไม่ยอม รีบเดินตามคุณนวลพรรณไป แต่ชายหนุ่มรั้งแขนหล่อนเอาไว้เสียก่อน

“ปาหนัน มาคุยกันก่อนครับ”

“เอ้อ ดิฉันต้องตามไปดูห้องให้คุณมนชนกก่อนค่ะ”

“ผมเชื่อว่าคนอื่นทำแทนคุณได้”  

“แล้วคุณจะให้ดิฉันปฏิเสธความรับผิดชอบได้หรือคะ ที่คุณมนชนกเป็นอย่างนี้ก็เพราะดิฉัน”

หล่อนพูดอย่างอัดอั้น อติรุทธ์เห็นท่าทีของหญิงสาวแล้วก็พอเข้าใจ จึงจูงมือหล่อนมานั่งที่เก้าอี้ แล้วกุมมือนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย

“หนัน ผมขอเรียกคุณอย่างนี้นะ หนันฟังผมนะ คุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ กับเรื่องนี้ เพราะคนที่ทำไม่ใช่คุณ แต่เป็นลำเจียก”

“แต่..”

“ถ้าคุณยังยืนยันว่าตัวเองผิด ผมก็ผิดด้วยเหมือนกัน”

คราวนี้ปาหนันพูดไม่ออก เป็นทีให้อติรุทธ์พูดต่อไปว่า

“ผมฟังที่นายแม่เล่าเมื่อกี้ ท่านว่าเห็นลำเจียกผลักพี่มนตกบันไดแล้วตามไปบีบคอ นั่นยิ่งทำให้ผมมั่นใจ เขากับคุณเป็นคนละคนกัน”

“ถึงอย่างนั้นดิฉันก็วางเฉยไม่ได้อยู่ดี”

“ผมก็ไม่ได้บอกให้คุณเฉย ตรงข้าม ผมจะให้คุณตัดขาดจากลำเจียกด้วยซ้ำ”

อติรุทธ์บอกเสียงเข้ม คำบอกเล่าของคุณนวลพรรณทำให้เขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทีละน้อย ปาหนันเป็นเพียงเครื่องมือของลำเจียกเท่านั้น

'จงระวังตัวให้มั่น แรงอาฆาตเพราะรักของแม่ญิงนั้นรุนแรง.... ข้าเตือนเจ้าได้เพียงว่าอย่าให้พระอยู่ห่างตัว  ฝากความนี้ไปบอกกับนางในดวงใจของเจ้าผู้นั้นด้วย แลอย่าลืม ระวังตัวให้จงหนัก'

แว่วสุรเสียงเตือนของมหาราชเวียงพิงค์ในโสต ชายหนุ่มตวัดสายตามองที่ลำคอของปาหนันทันที แล้วผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เห็นสร้อยของตนยังอยู่ในตำแหน่งนั้น

“ขอบคุณที่คุณไม่ถอดสร้อยเส้นนี้ออก”

“ดิฉัน..”

“แทนตัวเองว่าหนันได้ไหม พูดดิฉันแล้วฟังเหมือนเราเป็นคนอื่นคนไกลกันเหลือเกิน”

“ดิฉัน เอ้อ หนันกำลังคิดว่าจะคืนสร้อยให้คุณ ที่ลำเจียกทำอย่างนี้อาจเป็นเพราะเขาโกรธที่เขาเข้าร่างหนันไม่ได้ แล้วก็...”

หล่อนละคำพูดไว้ในฐานที่เข้าใจ อติรุทธ์ส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย

“เปล่าเลย ถึงจะเข้าร่างคุณได้ เขาก็ยังทำร้ายพี่มนอยู่ดีนั่นแหละ ความจริงผมต้องบอกว่าลำเจียกพร้อมจะทำลายทุกคนที่...อยากให้เราคบกันด้วยซ้ำ นายแม่เล่าให้ผมฟังหมดแล้ว พี่มนไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้สักนิดเดียว ผมจะไม่ยอมให้ลำเจียกทำอะไรตามอำเภอใจอีกแล้ว” ชายหนุ่มบอกเสียงกร้าว “ผมขอร้องนะหนัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าถอดสร้อยเส้นนี้ออกเด็ดขาด ลำเจียกไม่ได้แค้นผมคนเดียว แต่มีคุณด้วย”

“หนันน่ะหรือคะ หนันไปทำอะไรให้เขา”

“เรื่องนั้นผมยังไม่แน่ใจนัก อย่างเดียวที่ผมรู้ตอนนี้คือ ลำเจียกมีแต่ความอาฆาต ตราบใดที่ยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เขาไม่มีทางยอมหยุดแค่นี้”

สองหนุ่มสาวหยุดการสนทนาลง เมื่อสินธุเดินถือขวดน้ำมาถึง อติรุทธ์ดึงมือปาหนันให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน แล้วบอกเพื่อนที่ยังยืนเก้กังว่า

“พี่มนปลอดภัยแล้ว ตอนนี้นายแม่ล่วงหน้าไปรออยู่ที่ห้องพัก พวกฉันรอจะไปพร้อมกับนายนี่ล่ะ ไปกันเถอะ”



*** มีต่อค่ะ

จากคุณ : อินทรายุธ
เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 20:03:34




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com