Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
๛ ภูษาโยง ๛ (บทที่ 4 : ลูกสาว) ติดต่อทีมงาน

ตอนก่อนหน้า (บทที่ 3) : ความจริง-ความฝัน



วินาทีที่ถอยหลังมาจนถึงปลายระเบียง นักนินเห็นภาคิมวิ่งถลาเข้ามาหา สายตาของชายหนุ่ม ณ ขณะนั้น ดูโกรธขึ้ง ละล้าละลัง และอ่อนแอถึงที่สุด ชั่ววินาทีที่นักนินลังเลว่าควรกลับไปหา สายลมวูบหนึ่งพัดกรูขึ้นมาจากหน้าผา เหมือนจะโชยพัดมาโอบกอดเธอไว้และส่งสัญญาณปลอบใจว่า เธอไม่อาจช่วยอะไรเขาได้มากกว่านี้ 


รอยยิ้มหนึ่งผุดขึ้นมาเมื่อตระหนักได้ว่าหนทางนี้ตนเองเป็นผู้เลือก หากมีใครถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาคิมอาจตอบได้ว่าเธอเป็นคนกระโดดลงจากหน้าผาเอง ประโยคนั้นเขาคงพูดออกมาโดยไม่รู้สึกผิดใดๆ นักนินยิ้มให้คนรักอย่างให้อภัยด้วยแววตาที่แสนเศร้า ก่อนจะทิ้งตัวลงกลางอากาศที่ว่างเปล่า


สายลมที่พัดกรูดึงร่างบางให้ลอยละลิ่วเหมือนถูกจับโยนลงไปเบื้องล่าง นักนินไม่อาจละสายตาจากแสงไฟตรงขอบระเบียงที่ค่อยๆ ริบหรี่และเล็กลงเมื่อเธอลอยคว้างห่างออกมา หลอดไฟเล็กๆหลอดนั้นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่เธอยึดเหนี่ยวไว้ก่อนสายใยทุกอย่างจะขาดผึง


โดยไม่ทันตั้งตัว เสียงตูมสนั่นดังกึกก้องในโสตประสาท สัมผัสที่กระทบผืนน้ำด้วยความแรงทำให้ปวดร้าวไปทั่วร่าง หลอดไฟตรงปลายระเบียงคล้ายถูกกระชากแล้วระเบิดเปรี๊ยะอยู่ภายในหัว ความมืดมิด ปวดร้าว และหนาวเย็นเข้ามาแทนที่ สัมผัสของมหาสมุทรที่โอบล้อมและกลืนเธอลงสู่ท้องทะเลกว้าง คล้ายจะดูดกลืนทั้งร่างลงสู่อุโมงค์มืดมิดไร้ขอบเขต มิหนำซ้ำ อุโมงค์นั้นยังอัดแน่นไปด้วยพลังงานมหาศาลผลักดันให้ร่างนั้นไหลไปตามกระแสคลื่นใต้น้ำที่เชี่ยวกราก รสของน้ำทะเลเค็มจัดเมื่อท่วมทะลักเข้ามาทางปากและจมูก สัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตผลักดันให้นักนินหาทางโผล่พ้นน้ำขึ้นมาหาอากาศหายใจ แต่แล้วก็ต้องจมลงไปอีกเมื่อถูกคลื่นซัดสาดโดยไร้ที่ยึดเกาะ 


ชุดนอนผืนบางทำให้ไม่ถูกถ่วงด้วยน้ำหนักมากนัก แต่ร่างกายก็อ่อนล้าจนแทบไร้แรงต้าน นักนินว่ายน้ำได้ แต่ก็ไม่เคยว่ายอยู่ในทะเลเป็นเวลานาน คลื่นที่ซัดระลอกแล้วระลอกเล่าพัดพาเอาร่างบางลอยไปปะทะกับวัตถุชิ้นหนึ่งที่ลอยอยู่บนผืนน้ำ มันคือกล่องโฟมขนาดกลางและเก่าคร่ำคร่าที่ลอยมาผิดที่ผิดทาง นักนินคว้ากล่องนั้นมากอดไว้ มันช่วยพยุงร่างกายส่วนบนให้โผล่พ้นผืนน้ำขึ้นมาได้โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก


อย่างน้อยก็ทำให้หายใจได้โล่งขึ้น และช่วงเวลาที่ได้โผล่มาหายใจนั้นทำให้รู้ว่า เบื้องบนฝนฟ้ากำลังคะนองและฝนเม็ดเล็กๆ ร่วงพราวสาดเทลงมาเป็นสาย


สายลมพัดโกรกทำให้ร่างกายสั่นสะท้านไปด้วยความหนาว นักนินยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบาๆ ก่อนจะโอบกอดกล่องโฟมชิ้นนั้นให้มั่นคงขึ้น คลื่นซัดพัดพาให้ร่างที่ลอยคออยู่กลางทะเลนั้นลอยคว้างไปเรื่อยๆ อย่างไร้ทิศทาง นอกจากร่างกายที่หนาวสั่น หญิงสาวยังรู้สึกง่วงงุนและอ่อนล้า ลำตัวท่อนล่างที่จมอยู่ใต้น้ำคล้ายกับไม่ใช่ร่างของเธออีกต่อไป มันแทบจะขยับเขยื้อนเองไม่ได้ นอกจากจะปล่อยให้คลื่นซัดและพัดพาไปอย่างไม่รู้จุดหมาย


คลื่นลมและฝนสาดจางลงผืนทะเลกว้างไหววูบด้วยท่วงทำนองที่แผ่วเบาลง เบื้องบนเป็นท้องฟ้าที่เริ่มมีดวงดาวโผล่มากระพริบพรายแสง หลังจากเมฆดำผ่านพ้นบนท้องฟ้าจึงเปลี่ยนมาดารดาษด้วยแสงดาวน้อยใหญ่ แสงดาวพราวพรายนั้นเหมือนแดนสวรรค์ที่โน้มต่ำลงมาอยู่ใกล้แค่เอื้อม


น้ำทะเลที่นักนินกลืนลงไปเป็นจำนวนมากกำลังทำปฏิกิริยาในร่างกาย รสเค็มเหล่านั้นประกอบไปด้วย โซเดียมคลอไรด์ แมกนีเซียมคลอไรด์ แคลเซียมคลอไรด์โพแทสเซียมคลอไรด์ และโซเดียมคาร์บอเนต ซึ่งล้วนเป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ตามสมดุลธรรมชาติ แต่หากร่างกายได้รับแร่ธาตุแต่ละชนิดมากเกินไป กลับจะทำให้เกิดผลเสียอย่างร้ายแรงตามมา


โซเดียมที่มากเกินไป จะทำให้ทำให้เกิดอาการทางระบบประสาท เห็นภาพหลอน แขนขาอ่อนแรง แมกนีเซียมที่มากเกินไป ทำให้หลอดเลือดขยายตัว การรู้สึกตัวลดลง หัวใจเต้นช้าและหายใจช้าลง แคลเซียมที่มากเกินไปจะดูดน้ำออกจากเนื้อเยื่ออ่อนๆ ทำให้คอแห้ง กลืนลำบาก ประจุของโพแทสเซียมและแคลเซียมจำนวนมาก จะทำให้กระบวนการแลกเปลี่ยนพลังงานภายในร่างกายเกิดความแปรปรวน ส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้ออ่อนแรงและเกิดอัมพาต คลอไรด์ที่มากเกินไปทำให้เกิดภาวะสูญเสียน้ำ และอาจช็อคได้ เมื่อร่างกายถึงขีดจำกัด


บางครั้งความตายอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกแต่ไม่อาจตาย 
บางครั้งไม่อยากตายแต่ร่างกายก็จนปัญญาจะต้านทานไหว


แสงดาวกระพริบพรายที่นักนินเห็นตั้งแต่โผล่ขึ้นมาพ้นน้ำดูเลือนรางลง ขณะเหลียวหน้ามองแสงสุดท้ายที่ปลายขอบฟ้า ในความพร่ามัวนั้นเธอเห็นแสงสว่างบางชนิดแทรกตัวผ่านความมืดผลุบขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้า แสงนั้นคงเป็นแสงอาทิตย์ยามเช้า แต่กลับถูกบดบังด้วยวัตถุรูปสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่ง หญิงสาวเขม้นมองวัตถุนั้นด้วยสายตาพร่าเลือน นักนินพยายามยกมือขึ้นเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือแต่ไม่สามารถแม้กระทั่งจะหายใจเข้าให้ยาวขึ้น ลมหายใจของเธอเริ่มขาดห้วง พร้อมสติที่ริบหรี่และค่อยๆดับวูบ


ช่วงเวลาที่หมดสติลงไปนั้นนักนินจึงไม่ได้ยินเสียงร้องวี้ดว้ายของเด็กหญิงตัวจ้อย กับสัมผัสของร่างกายกำยำที่กระโดดลงมาจากเรือลำหนึ่งแล้วว่ายลงมาฉุดเธอให้ขึ้นจากผืนน้ำได้ทันเวลา ก่อนความตายจะฉุดพรากไปอย่างเฉียดฉิว...


* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *


ภาคิมนั่งกอดเข่าอยู่ริมฝั่งจนเช้า เฝ้ารอการกลับมาแจ้งข่าวจากเรือกู้ชีพซึ่งลงไปค้นหากลางทะเลตั้งแต่ตีหนึ่งเป็นจำนวนสองลำ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าบริเวณนั้นมีคลื่นใต้น้ำไหลค่อนข้างแรงเรือไม่สามารถเข้าไปค้นหาได้ในระยะใกล้ แต่เมื่อรอน้ำลงและค้นหาโดยรอบแล้วก็ยังไม่พบอะไรจนรุ่งสาง

“พอใกล้รุ่งชาวประมงก็เริ่มกลับจากหาปลากันแล้วครับ ตอนรุ่งเช้ามีเรือไดหมึกผ่านเข้ามาในเส้นทาง ผมให้คนไปดักค้นตรงท่าเรือก็ไม่เจออะไรนอกจากกุ้งหอยปูปลา แต่ผมก็ลองส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปรอบๆ เผื่อใครเจออะไรแปลกๆ ลอยไปหาก็ให้รีบแจ้ง”


“แล้วมีตอบกลับมาไหมครับ”


“ไม่มีเลยครับ ช่วงกลางดึกมีฝนตกด้วย คลื่นลมแปรปรวนมาก ถ้ามีอะไรร่วงลงทะเลช่วงเวลานั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะลอยไปทางทิศไหน ตอนสายผมออกไปหาอีกรอบ ว่าจะลองใช้เรือเล็กเลาะไปดูตามหินโสโครก เผื่อว่าจะเอ่อ...”


“ครับ...ถึงเป็นศพไปแล้วก็ช่วยพากลับมาด้วยนะครับ”



คนตอบรับรายงานเป็นพัลลภ ซึ่งมาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วความช่ำชองของผู้เป็นอาช่วยจัดฉากในห้องภายในเวลาไม่นานให้ดูเรียบร้อยก่อนจะให้หน่วยรักษาความปลอดภัยเข้ามาตรวจดูสภาพ

ช่วงเวลาที่ดึกดื่นและฝนฟ้าอากาศที่ไม่เป็นใจ ทำให้การออกไปค้นหาร่างของหญิงสาวล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นและยังคว้าน้ำเหลว ผู้บริหารของโรงแรมรีบรุดมาคุมสถานการณ์ด้วยตนเองและมีท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจเป็นอันมาก เพราะไม่อยากให้เสียภาพลักษณ์ว่าระบบคุ้มครองความปลอดภัยในโรงแรมระดับห้าดาวของตนมีความบกพร่อง


“ทางโรงแรมป้องกันไว้ดีแล้วครับแต่... ก็อย่างว่าแหละครับ เด็กสาววัยรุ่น คงมีปัญหาทางจิตใจที่เรื้อรังมานาน ฟังว่าทุบกระจกแล้วกระโดดลงไปฆ่าตัวตายเอง ใจผมห่อเหี่ยวเลยครับ เสียใจแทนผู้ปกครองกับคู่หมั้นเธอที่เป็นหลานชายผมจริงๆ”


พัลลภเป็นผู้ตอบคำถามและกลับเป็นฝ่ายขอโทษขอโพยที่ทำให้ทางโรงแรมต้องเสียชื่อเสียง ทำให้ผู้บริหารของโรงแรมใจชื้นขึ้น ตำรวจมาไต่สวนเหตุการณ์คร่าวๆ แล้วรีบล่าถอยกลับไปตามคำสั่งของเบื้องบนที่ไล่หลังตามมาในเวลาไม่นาน มีเพียงข่าวจากพนักงานรักษาความปลอดภัยที่กระจายออกไปยังกระจอกข่าว ว่ามีชายหนุ่มหญิงสาวมาพักในโรงแรมแล้วทะเลาะกัน หญิงสาวกระโดดน้ำฆ่าตัวตายทิ้งให้แฟนหนุ่มมานั่งรอเรือกู้ชีพงมซากอยู่ริมฝั่ง แต่ก็ยังไร้วี่แววการค้นพบ


ภาคิมก้มหน้าและขบกรามแน่นจนเส้นเอ็นที่ขมับปูดโปนมือที่กอดเข่าไว้สั่นเทาขึ้นมาโดยที่เจ้าตัวไม่ได้สังเกต


“นิ่มจะตายไหมครับอา...”


เมื่ออยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ภาคิมหันมาถามด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยว พัลลภเหลือบตามองหลานชายด้วยความสมเพชก่อนจะปรับน้ำเสียงให้ราบเรียบ


“อืม ถ้านานขนาดนี้แล้วยังหาไม่เจอก็อาจจะ...”

พัลลภกระแอมในลำคอเบาๆ ก่อนจะหันมาตั้งคำถาม


“อยากให้ตายไหมล่ะ”


ภาคิมหลบตาและหันไปก้มหน้าทำอ้ำอึ้ง พัลลภเอื้อมมือไปโอบไหล่หลานชายแล้วบีบเบาๆ


“ตกลงกระโดดลงไปเองจริงๆใช่ไหม”


“ครับ...สงสัยว่าตอนที่ผมคุยโทรศัพท์กับอา คงจะแอบฟังอยู่ พอผมกลับไปเอาเชือกที่รถ กลับมาที่ห้องอีกทีก็เห็นโผล่ไปอยู่ตรงริมระเบียงแล้ว”


“นั่นไง ไม่ใช่ความผิดของหลานอาสักหน่อย”


“ครับ...”


“ถ้าเจอว่ายังไม่ตายพาขึ้นฝั่งก็หาทางกรอกยาเข้าไปใหม่ จะได้ไม่พูดมากแต่ถ้าเป็นศพไปเสียก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องทำอะไรให้วุ่นวาย จริงไหม”

ภาคิมสูดลมหายใจอย่างหนักหน่วงท้ายที่สุดก็พยักหน้า


“จริงครับอา”


เขาหันมองไปยังท้องทะเลเบื้องหน้า เริ่มเข้าใจวิถีทางความคิดแบบพัลลภและคล้อยตามแต่โดยดี


ตายไปเสียก็ดี...เรื่องจะได้จบๆ

...
...
...


เช้าวันเดียวกัน


นักนินถูกดึงขึ้นเรือผายปอด และสำรอกเอาน้ำทะเลออกมาหลายครั้ง หัวใจถูกกระตุ้นให้กลับมาทำงานแต่ร่างกายยังไม่อาจปรับสภาพแขนขาและลำตัวของหญิงสาวมีร่องรอยฟกช้ำจากแรงกระแทกริมฝีปากและใบหน้าซีดเผือดจากการแช่น้ำมาเป็นเวลานาน เมื่อเริ่มรู้สึกตัว ร่างบางสั่นเทาด้วยความหนาว เมื่อถูกเขย่าและฝืนลืมตาขึ้น นักนินเห็นเงาร่างหนึ่งปรากฏในสายตาที่พร่าเลือน ในความสับสนปนเปเงาร่างนั้นวูบไหวและปรากฏเป็นภาพของเตชิตกำลังก้มหน้ามองลงมาด้วยความเป็นห่วง เบื้องหลังของชายหนุ่มยังมีหญิงชายแปลกหน้าสองคนนอนเบียดกันอยู่ไม่ไกลนัก พอเหลือบตาไปมอง ทั้งสองคนก็ค่อยๆ ทรงตัวลุกขึ้นยืน เลือดที่ไหลลงมาจากศีรษะเปื้อนเสื้อผ้าของทั้งคู่ รอยเลือดไหลเป็นทางจนอาบเทพื้นที่เธอนอนอยู่

นักนินเบิ่งตาค้าง เงาร่างของเตชิตประคองเธอขึ้นมาจากพื้นแข็งกระด้าง หญิงสาวตะโกนร้องขอความช่วยเหลือผ่านลำคอที่แห้งผาก น้ำตาไหลออกมาจากตาที่บวมช้ำ


ช่วยด้วย...ช่วยให้ฉันตายเสียที


ประโยคนั้นไม่สามารถเปล่งออกมาเป็นคำพูด หญิงสาวสลบซบลงกับอกของชายแปลกหน้าอีกครั้งหนึ่ง

...
...
...

แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 10:33:28

จากคุณ : รุริกะ
เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 09:56:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com