โอก้าซัง... โอก้าซัง...
เสียงนั้นหวานใสและไพเราะปานระฆังแก้วดังแว่วมาจากที่ไกลแสนไกล แล้วขยับมาใกล้จนเหมือนแนบชิดอยู่ข้างหู นักนินหันศีรษะไปตามเสียงแล้วค่อยๆลืมตา
โอโต้ซัง! โอะคิเตะ คุดาไซ~*
เด็กหญิงหันไปเขย่าตัวชายผู้หนึ่งที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบตรงมุมห้อง ภาษาญี่ปุ่นพรั่งพรูเหมือนกระดิ่งส่ายดังกรุ๋งกริ๋งกังวานแจ่มใสอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ นักนินกระพริบตาปริบๆ และกวาดตามองไปรอบๆ
ภาพที่น่ากลัวปนสยดสยองหายไปแล้ว และเธอยังไม่ตาย...
ที่ที่ซุกตัวนอนอยู่น่าจะเป็นเตียงเล็กๆ ในห้องพักสักห้องหนึ่งในลำเรือ สังเกตได้จากช่องกระจกที่มองออกไปเห็นผืนน้ำสีครามอยู่ภายนอก ห้องนี้เล็กมากเฉพาะเตียงนอนที่เธอนอนอยู่เพียง 1 เตียงก็ใช้พื้นที่ไปแล้วค่อนห้อง
คุณแม่ฟื้นแล้ว...โอโตฮิเมะ*ปล่อยตัวคุณแม่มาจากวังมังกรแล้วใช่ไหมคะคุณพ่อ...
เด็กหญิงยิ้มร่า หันหน้าไปมาจนผมเส้นเล็กๆ สะบัดกระจาย เธอส่งเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่นที่นักนินจับใจความได้เพียงกระท่อนกระแท่น หญิงสาวพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง ในหัวมีคำถามมากมายแต่ตั้งต้นไม่ถูก ที่สำคัญลำคอก็ยังตีบตันและแห้งผากทั้งที่กระหายน้ำเหลือกำลัง
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงมุมห้องไหวตัวลุกขึ้น เขาหันไปรินน้ำจนเต็มแก้วแล้วนำมายื่นให้ ทีแรกหญิงสาวมีอาการตกใจเมื่อเห็นแก้วน้ำ ภาพซ้อนตอนที่ถูกภาคิมบีบแก้มเทน้ำกรอกปากยังตามมาหลอกหลอน นักนินขดตัวหนีไปจนชิดติดผนัง เธอยังไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าชายผู้นั้น
คุณพ่อนี่ทำคุณแม่ตกใจหมด มานี่มา นามิจัดการเอง
เด็กหญิงประคองแก้วน้ำจากมือพ่อส่งต่อมาให้หญิงสาว
คุณแม่ขาดื่มน้ำหน่อยนะคะ
ถึงจะฟังเสียงแล้วไม่เข้าใจในภาษา แต่แววตาใส่แจ๋วกับแก้มยุ้ยๆนั้นน่ารักน่าเอ็นดูเกินกว่าจะปฏิเสธ นักนินยื่นมือไปรับรับน้ำแก้วนั้นมาดื่มอึกๆ จนหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว หญิงสาวส่งแก้วคืนด้วยแววตาเสียดาย
เดี๋ยวนามิรินให้อีกค่ะ...คุณพ่อขา น้ำเปล่าในนี้หมดแล้ว
เอ่อ
นั่นสิ
ขณะที่หญิงสาวก้มหน้าหลบตา ชายหนุ่มตรงมุมห้องกลับลอบจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ด้วยสายตาละลาบละล้วงหรือประสงค์ร้าย แววตานั้นทอประกายอ่อนโยนและเป็นห่วงระคนเหงาเศร้าอย่างประหลาด
นั่นสิ...คุณพ่อคงอยากอยู่กับคุณแม่ตามลำพังสินะ ไม่ได้พบกันนานแล้วนี่นา
นามิพูดพลางค่อยๆถอยหลังออกไปทางประตูห้อง
นามิไปเอาน้ำเปล่าจากห้องเก็บของก่อนนะคะ
อะ... อื้อเดินระวังนะลูก
คุณพ่อยังหนุ่มพยักหน้า เมื่อลูกสาวประตูปิดดังปัง ชายหนุ่มจึงค่อยหันมาพูดกับหญิงสาวที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงด้วยภาษาไทยที่ค่อนข้างชัดและไม่ผิดเพี้ยนเท่าไรนัก
คุณเป็นคนไทยใช่ไหมครับ
นักนินพยักหน้า ยังคงหลบสายตาและดึงผ้าห่มมาห่อตัวไว้
ผมต้องขอโทษด้วยครับ... คุณเป็นคนผมยาว ผิวขาวๆ ตัวเล็กๆ เลยดูคล้ายกับคนญี่ปุ่น และดูคล้ายกับแม่ของนามิมาก
หญิงสาวค่อยๆ มองหน้าและสบตาผู้พูด รูปร่างหน้าตาของเขามีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับเตชิตอยู่มาก นั่นคือไม่ถึงกับสูงใหญ่แต่ก็มีร่างกายที่แข็งแรงสมส่วน ขัดกับใบหน้า แววตา และริมฝีปากที่อ่อนโยนเหมือนผู้หญิง ตัดผมสั้นคล้ายๆกัน แต่เมื่อพินิจมองดีๆ เขาก็ดูมีอายุมากกว่าเธออยู่หลายปี หากเป็นเตชิตก็คงเป็นเตชิตที่มีอายุยืนยาวไปอีกสิบปีข้างหน้า เขาอาจจะมีอายุสักสามสิบต้นๆ และ...คงมีครอบครัวแล้ว
ลูกสาวของคุณหรือคะ
นักนินถามถึงเด็กหญิงที่เพิ่งออกไปจากห้องชายหนุ่มเป็นฝ่ายพยักหน้าบ้าง
ครับ ผมพาเธอมาล่องเรือที่นี่ทุกปี ปีละหน เพื่อระลึกถึงการจากไปของภรรยา นามิยังเด็กมากเกินว่าจะรับรู้ความจริงข้อที่ว่า แม่ของเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ผมเคยโกหกเธอว่าแม่ของเธอเป็นนางเงือก และต้องกลับไปอยู่ในทะเล
อ้อ...
นักนินรำพึงเบาๆ การโกหกเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้ตลอดรอดฝั่ง อย่างที่เธอเคยประสบพบมา... ชายหนุ่มเป็นฝ่ายนึกแปลกใจที่เธอถามเรื่องของเขาแต่ไม่ถามถึงความปลอดภัยของตนเองเลย
ที่ผมยังไม่พาคุณขึ้นฝั่งตั้งแต่วันที่พบคุณลอยน้ำมา เพราะท่าทางคุณตื่นกลัวมาก กระทั่งตอนหลับก็ยังนอนร้องไห้แต่คงจะเจ็บคอมาก ผมเลยไม่ได้ยินว่าคุณละเมอหรือพูดอะไรออกมาพอมีคนส่งสัญญาณวิทยุมาถาม ผมเลยบอก ไม่รู้เรื่อง
ขอบคุณค่ะ
หญิงสาวพยักหน้าจู่ๆน้ำตาก็ไหลลงมาอีกดื้อๆ นักนินยกมือขึ้นปาดมันทิ้งในทันใด
เดี๋ยวเย็นวันนี้ผมจะเอาเรือกลับเทียบท่าคนของผมจะมารับ คุณจะให้ไปส่งที่ไหนดีครับ
หญิงสาวนิ่งอึ้ง เธอส่ายหน้าก่อนจะหันออกไปมองทางหน้าต่างของเรือ ผืนทะเลทอดยาวออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ความเงียบปกคลุมอยู่ครู่หนึ่ง นักนินค่อยๆหันกลับไปถาม
ลูกสาวคุณชื่ออะไรคะ
ชื่อนามิครับ แปลว่าทะเล
แล้ว แม่ของเธอล่ะคะ
นัตสึกิครับ เธอชื่อนัตสึกิ
นักนินกัดริมฝีปากและสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ ก่อนจะยื่นเงื่อนไข
ฉันพูดญี่ปุ่นไม่ได้แต่คุณสอนฉันพูดทีละคำ เริ่มจากความหมายของชื่อแต่ละชื่อก็ได้นะคะ ฉันจะพยายามเรียนรู้
ชายหนุ่มเลิกคิ้วเป็นคำถาม ทันใดนั้นประตูก็ถูกผลักเข้ามา
คุณพ่อขา คุณแม่ขา นามิเอาน้ำมาเติมให้คุณแม่แล้ว
เด็กหญิงป่าวประกาศเป็นภาษาบ้านเกิด ถึงจะฟังไม่รู้เรื่องแต่นักนินก็ยิ้มบางๆ แทนคำขอบคุณและรับน้ำแก้วใหม่มาดื่มจนหมด พอส่งคืนให้นามิก็รับไปเติมใหม่
ให้ฉันเป็นนัตสึกิอีกคนหนึ่งได้ไหมคะ
นักนินถามชายหนุ่มตรงหน้าเป็นภาษาไทย เขากระพริบตาถี่ๆ แล้วอ้าปากค้าง
คุณแม่พูดว่าอะไรคะคุณพ่อ
นามิหันมาถามเสียงเจื้อยแจ้วคุณพ่ออึกอักอยู่สักครู่หนึ่งแล้วหันไปตอบลูกสาว
แม่บอกว่าเพิ่งกลับมาจากวังมังกร ทำให้ลืมภาษาญี่ปุ่นไปจนหมด ลูกอาจจะต้องสอนคุณแม่พูดใหม่หรือไม่ก็ เรียนภาษาไทยที่หนูไม่อยากเรียนเสียทีน่ะสิ
อืออ....
นามิทำเสียงครางในลำคอ ประเดี๋ยวยิ้มประเดี๋ยวขมวดคิ้วมุ่นระหว่างฟังคุณพ่ออธิบาย นักนินจับภาษาท่าทางได้ว่าเด็กหญิงตัวจ้อยมีทั้งความยินดีและความลังเลใจเจืออยู่เล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมาแล้วชูสี่นิ้วตะโกนพูดอะไรยาวๆ ออกมาอีกประโยคหนึ่ง จากนั้นก็โผเข้ามากอดหญิงสาวแน่น
นักนินตอบรับอ้อมกอดนั้นด้วยการโอบกอดลูกสาว เบาๆเช่นกัน สามีโดยบังเอิญที่เธอยังไม่รู้จักกระทั่งชื่อทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งร้องไห้อยู่ตรงมุมห้องนักนินยิ้มให้เขาด้วยแววตาขอบคุณก่อนจะหันมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้งหนึ่ง
Thai-Nippon mirai shiruku Co., Ltd.
ขอบหน้าต่างมีชื่อบริษัททอผ้าไหมที่มีชื่อไทยผสมญี่ปุ่น นั่นเพราะผู้ร่วมลงทุนส่วนหนึ่งมาจากแดนอาทิตย์อุทัย ทั้งชื่อทั้งเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นเธอเคยเห็นมาก่อน เมื่อตอนอยู่ระหว่างทางก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ เธอจำได้ติดตาขณะนั่งรถผ่านโรงงานที่มีชื่อเดียวกันนี้...
โอก้าซัง...โอก้าซัง...
เสียงนั้นหวานใสและไพเราะปานระฆังแก้วดังแว่วอยู่ข้างหู ดึงเธอออกมาจากห้วงความคิดที่ว้าวุ่น อ้อมกอดเล็กๆ นี้อบอุ่น นุ่มนวล ทว่าก็แสนเศร้าสร้อยและหงอยเหงา หญิงสาวลูบหลังลูบไหล่เล็กๆในอ้อมกอดเบาๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพบว่าเด็กน้อยผล็อยหลับลงไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มตรงมุมห้องผุดรอยยิ้มเย็นอย่างเอ็นดูก่อนจะลุกมาอุ้มลูกสาวขึ้นพาดบ่า
รอให้คุณหายดีก่อนแล้วเรามาร่างสัญญากันนะครับ
ชายหนุ่มตรงหน้าเผยมาดนักธุรกิจเต็มตัว และพูดประโยคนี้เป็นภาษาไทยชัดราวกับเป็นเรื่องถนัดและพูดอยู่บ่อยๆ แต่คำต่อมาเหมือนจะขัดเขินปนเก้ๆ กังๆ
ที่รัก...
ชายหนุ่มอุ้มลูกสาวออกไปจากห้องแล้วปิดประตูดังปังแก้เขิน แล้วก็ต่างนึกขึ้นได้ ว่าต่างคนยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงของกันและกันเลยสินั่น
- โปรดติดตามตอนต่อไป
*โอโตฮิเมะ คือ เจ้าหญิงแห่งวังมังกร มีพระราชวังใหญ่อยู่ใต้บาดาล ชายชาวประมงคนหนึ่งได้ให้ความช่วยเหลือลูกเต่าตัวน้อยที่หนีออกไปเที่ยวเล่น พระองค์จึงให้เต่ายักษ์มาพาเขาไปเที่ยววังมังกรเป็นการตอบแทน แต่เวลาบนโลกกับใต้บาดาลต่างกันมาก กว่าชาวประมงจะกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์ ญาติมิตรและเพื่อนสนิทของเขาทุกคนก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว