(ต่อ)
หลังอาหารค่ำ มาเลน่ายกเสื้อเครื่องแบบนักเรียนมาให้ฉันที่ห้อง เธอรัวภาษาบ้านเกิดใส่ฉันพร้อมยิ้มแป้น มันเป็นเครื่องแบบคล้ายๆกับของร็อดนี่ย์และเมแกน เชิ้ตขาว ปักตราโรงเรียน ไทด์แดงคาดขาว กระโปรงสีเข้ม และ สูทแดงเข้ม ฉันแขวนมันไว้ตรงหน้าตู้เสื้อผ้า และจ้องมองมันเหมือนวัตถุแปลกปลอมจากต่างดาว สุดท้ายก็หลับไป
มาเลน่าปลุกฉันตื่นแต่เช้า สองพี่น้องนั้นออกไปโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว เหลือฉันที่บ้าน เนทยังไม่ตื่น หลังจากฉันแต่งตัวเสร็จก็ไปพบอีธาน รับเอกสารปลอมๆเพื่อยื่นให้ฝ่ายทะเบียนหนึ่งแฟ้ม
“เธอทำการสอบดีเกินคาดนะ” เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ใครเป็นคนสอนหนังสือเธอเหรอ?”
“ไม่มีหรอกค่ะ” ฉันพูดอย่างจริงใจ “พ่อหนูสอนอ่านเขียน แล้วก็ทิ้งหนูไว้กับหนังสือกองโต ก็แค่นั้น”
อีธานพยักหน้ารับง่ายๆ “เขาสอนเธอยิงปืนด้วยหรือเปล่า?”
“ยิงปืน ล่าสัตว์ ชกมวย ใช้มีด ทุกทักษะที่หนูมีไว้ล่าเนื้อ พ่อสอนทั้งนั้น”
“งั้นก็แปลก..” หัวคิ้วอีธานขมวดเข้าหากัน “แน่ใจนะว่าพ่อเธอเป็นนายพราน ไม่ใช่นาวิกฯ”
“แน่ใจสิคะ” ฉันหัวเราะใส่อีธาน แมกซ์น่ะล่าสัตว์มาตลอดตั้งแต่ฉันจำความได้ จะไปเป็นนาวิกฯได้เมื่อไรกัน
วินเซนต์อาสามาส่งฉันที่โรงเรียน มันมีชื่อหรูหราว่าลอโยล่าไฮสคูล ตามคำบอกเล่าของอีธานมันเป็นโรงเรียนเก่าแก่ ตั้งขึ้นศตวรรษที่ 18 โน่น ชื่อมีอยู่ในลิสต์ของโรงเรียนที่ตระกูลแวนดิแคมป์เข้าเรียนได้ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ตัวอาคารเก่าแก่ประกอบด้วยอิฐแดง มองดูจากข้างนอกคล้ายคฤหาสน์เก่าๆหลังใหญ่
ฉันเข้าไปคนเดียว วินเซนต์ไม่ได้เข้าไปด้วย ดูเหมือนโรงเรียนนี้จะเข้มงวดเรื่องการเข้านอกออกในพอควร แม้ว่าภายนอกอาคารจะดูเก่า แต่เมื่อเข้ามาในตัวอาคารจริงๆ ก็เห็นได้ชัดว่ามีการบูรณะซ่อมแซมเสริมโครงสร้างจนดูดีและทันสมัยพอควร
ตอนนั้นเป็นตอนสาย นักเรียนเข้าเรียนกันหมดแล้ว ฉันเดินดุ่มๆเข้าไปถามทางไปห้องทะเบียนคนเดียว เอกสารต่างๆผ่านได้ไม่ยากอย่างที่คิด นามสกุลแวนดิแคมป์ทำให้ครูเจ้าหน้าที่ฉีกยิ้มให้ฉันกว้างกว่าเดิม และเมื่อทุกอย่างถูกต้อง ฉันได้รับตารางเรียนของตัวเอง เธอก็ประคองฉันเดินไปยังห้องเรียนเหมือนกลัวฉันจะล้ม
มันเป็นวิชาวรรณคดี ครูผู้สอนเป็นชายในเสื้อเชิ้ตและเนคไทด์เก่าๆกับแว่นหนาเตอะ เขาขอให้ฉันไปยืนหน้าห้อง และแนะนำตัวสั้นๆ ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากแนะนำชื่อตัวเอง
“ฉัน แอนนาเบล แวนดิแคมป์” ฉันฉีกยิ้มโปรยทั่วห้อง ยกมือโบกน้อยๆด้วย “ยินดีที่ได้รู้จัก”
พอเอ่ยนามสกุลเข้าไปใบหน้าทุกคนก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เด็กสาวบางคนเบ้ปาก บางคนตาโตอ้าปากค้าง เด็กหนุ่มบางคนยกมุมปากขึ้นยิ้มแล้วเอียงตัวไปคุยกับเพื่อนข้างๆ กลุ่มเด็กสาวหลังห้องสองสามคนกระซิบกระซาบให้กัน แม้แต่อาจารย์ยังเลิกคิ้วน้อยๆ
พอฉันนั่งประจำที่ ก็หยิบสมุดปากกาออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างที่ทำจากหนัง มันเป็นสิ่งเดียวนอกจากแลปทอปที่ติดตัวฉันมาจากชีวิตหมาล่าเนื้อ บัดนี้มันไม่ได้เอาไว้ใส่ปืนพก หรือแฟ้มงานอีกแล้ว ในกระเป๋าใบนั้นมีแต่อุปกรณ์การเรียนและหนังสืออีกสองสามเล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ทะเบียนบอกฉันว่ามันจะได้ไปอยู่ในล็อกเกอร์ถ้าเขาจัดที่ให้ฉันได้แล้ว
ชั่วโมงเรียนผ่านไปอย่างอ้อยอิ่ง ฉันไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมสักเท่าไร เพราะหนังสือก็ไม่มี พวกวรรณคดีก็ไม่ค่อยได้อ่าน ได้แค่จดๆโน้ตลงในสมุดสั้นๆ เกี่ยวกับวาทะของพระสันตะปาปา และชื่อหนังสือที่เกี่ยวข้อง
พอเลิกคลาสก็เป็นเวลาพักกลางวันพอดี ไม่มีนักเรียนคนไหนมาแนะนำตัวกับฉันสักคน เรียกว่าไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ฉันเลยมากกว่า พวกเขาเดินหลีกห่างฉันเหมือนกลัวอะไรสักอย่างพลางซุบซิบๆกันเป็นกลุ่ม แม้มีนักเรียนชายบางคนยิ้มให้ฉันแต่ก็ไม่มีใครกล้ามากพอที่จะเข้ามาคุย ฉันได้แต่เดินไปที่ล็อกเกอร์อันใหม่ที่เขาเพิ่งจัดให้ ยัดหนังสือเข้าไปตั้งเรียงแล้วก็พาตัวเองไปที่โรงอาหารอย่าไม่มีไกด์สักคน
และสิ่งแรกที่ฉันเห็นเมื่อเดินเข้าไปในโรงอาหาร.. ร็อดนี่ย์ เขานั่งอยู่ตรงนั้น สวมเครื่องแบบอย่างไม่เรียบร้อย อ้าปากกัดเบอร์เกอร์คำโต นมกล่องน้อยกับสลัดง่ายๆอยู่บนถาดข้างหน้า เขานั่งคนเดียวบนโต๊ะที่ควรจะนั่งได้สักสี่ห้าคน
ฉันกวาดตามองโต๊ะอื่นๆ มันใหญ่บ้างเล็กบ้างคละเคล้า แต่ไม่มีโต๊ะไหนเลยที่จะมีคนนั่งคนเดียวอย่างโต๊ะร็อดนี่ ฉันมองอย่างประหลาดใจได้ไม่นาน คำตอบก็ชัดแจ้งตรงหน้า
ชายหนุ่มสามคนเข้ามารุมร็อดนี่ย์อย่างถือวิสาสะ ร็อดนี่ย์นั้นตัวเล็กกว่าเด็กวัยเดียวกันนิดหน่อย พวกเด็กโข่งกล้ามโตพวกนั้นจึงถือเป็นยักษ์ไปเลย มีคนหนึ่งในพวกมันหยิบกล่องนมของเขาปาลงพื้น คนหนึ่งแย่งเบอร์เกอร์ในมือเขาไปกิน อีกคนยกถาดอาหารของเขาเททิ้ง ไม่มีใครสักคนในโรงอาหารนั้นขยับตัวเข้าไปช่วย ทุกคนทำเหมือนไม่เห็น
ร็อดนี่ย์มองอาหารของตัวเองลอยจากไปด้วยแววตาเว้าวอน เขายื้อแขนเจ้ากล้ามคนหนึ่ง มันสะบัด แรงจนร็อดนี่ย์กระเด็นไปกระแทกขอบโต๊ะก่อนไปนอนแอ้งแม้งลงพื้น
ฉันสาวเท้าเกือบจะเป็นวิ่งไปตรงนั้น พอถึงตัวเขาได้ก็ดึงร็อดนี่ย์ขึ้นมาจากพื้น เพราะเจ้ากล้ามนั่นกำลังทำท่าเหมือนจะกระทืบซ้ำ
จากคุณ |
:
รถขนมปังกรอบ
|
เขียนเมื่อ |
:
2 มิ.ย. 55 23:26:17
|
|
|
|