Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บ่วงสาง บทที่ 2 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 2

ด้วยความที่เติบโตและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นมาตั้งแต่จำความได้ ทำให้ ฮันเตอร์ ไม่ค่อยชอบอากาศร้อนมากนัก โดยเฉพาะความร้อนแบบอบอ้าวของเมืองไทย แม้ว่าเครื่องปรับอากาศภายในรถตู้จะทำงานอย่างดีเยี่ยมจนทำให้ผู้ร่วมทางอีกสองคนบ่นอุบว่าหนาวก็ตาม

ซึ่งก็แปลกดีสำหรับชายคนหนึ่งที่บอกว่าเป็นคนไทยที่เติบโตอยู่ในประเทศหนึ่งทางยุโรป กับอีกคนที่เป็นลูกครึ่งไทย-เกาหลีผู้ร่ำรวยและชอบเดินทางไปพักผ่อนที่อเมริกาหรือไม่ก็ประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศหนาวเกือบตลอดทั้งปี ทั้งสองคนน่าจะเคยชินกับความหนาวเย็นพอๆ กันกับเขา แต่ทั้งคู่กลับพร้อมใจกันเอนหลัง คลุมตัวเองด้วยเสื้อแจ็กเกตเนื้อหนา แถมนายพัด พิง พาม... อะไรก็ช่างเถอะที่บอกว่าตนเติบโตในดินแดนยุโรปคนนั้น ยังมีอาการสั่นเล็กน้อย

ฮันเตอร์ได้แต่ยักไหล่ เขาอยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีชมพูอ่อนลายดอกไม้แต่เนื้อผ้าค่อนข้างบาง โดยจุดประสงค์หลักก็เพื่อป้องกันแสงแดดมากกว่าอุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศภายในรถซึ่งไม่ได้ช่วยทำให้เขาเย็นขึ้นสักนิด อันที่จริง ชายหนุ่มอยากจะถอดเสื้อแล้วโยนมันทิ้งไปเลยมากกว่า แต่เพราะเขายังต้องอาศัยผิวของตัวเองทำมาหากิน โดยเฉพาะในประเทศที่นิยมผู้ชายผิวขาว ผิวแบบแมนเต็มขั้นเช่นสีแทนหรือน้ำตาลทองในตอนนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องรอไปก่อน

แต่ความร้อนมันก็ทำให้เขาอึดอัดเป็นบ้า
อึดอัดจนชวนหงุดหงิด

ชายหนุ่มขยับแหวนตรงนิ้วกลางข้างซ้ายอย่างเผลอไผลเมื่อรู้สึกว่ามันหลวมเพราะความชื้นจากเหงื่อ แล้วเขาก็ก้มมองดูมันหลังจากที่พบว่ารูปแบบของมันแปลกจากแหวนวงอื่นของเขา เนื่องจากฮันเตอร์ชอบสวมใส่เครื่องประดับชนิดนี้จนติดเป็นนิสัย เขาจึงมีแหวนอยู่มากมายและแต่ละวงก็ล้วนแล้วแต่ราคาแพง หากยังไม่มีวงไหนเลยที่เหมือนวงนี้

แหวนทองคำขาวรูปหัวกะโหลกที่ใบหน้าเสี้ยวหนึ่งประดับด้วยเพชรจนดูเหมือนสวมหน้ากากวงนี้ถูกทำขึ้นมาพิเศษและมีเพียงสามวงในโลก โดยดวงตาข้างหนึ่งของหัวกะโหลกเป็นอัญมณีสามสิ่งที่แตกต่างกัน ของเขาเป็นทับทิม ขณะที่อีกสองวงเป็นหยกกับไพลิน ออกแบบและผลิตโดยเพื่อนรักคนหนึ่งของเขา เพื่อนที่มีส่วนทำให้เขาต้องมาติดแหงกอยู่ในประเทศที่มีอากาศร้อนอบอ้าว

แต่เขาไม่ได้โกรธเพื่อนคนนั้น ไม่มีวัน ฮันเตอร์รักเพื่อนเกินกว่าจะถือโทษกับเหตุสุดวิสัยเล็กๆ น้อยๆ

เขาเพียงแต่รอเวลาให้หมอนั่นกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม จากเหตุการณ์ทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างผองเพื่อนก็เท่านั้นเอง

ชายหนุ่มถอนหายใจแรงและตัดสินใจเก็บแหวนล้ำค่าใส่กระเป๋ากางเกง จากนั้นก็หยิบอีกวงที่เก็บไว้ในกระเป๋าเป้เก่าๆ ใบเล็กซึ่งใช้เป็นประจำขึ้นมาใส่ ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขานำแหวนวงนี้ติดตัวมาด้วย แต่เนื่องจากมันเป็นของที่เพื่อนรักมอบให้ เขาจึงต้องรักษามันไว้อย่างสุดชีวิตทีเดียว พอคิดแบบนั้น ฮันเตอร์ก็ถอดแหวนที่เพิ่งสวมออกและนำวงที่เพิ่งเก็บมาสวมคืนดังเดิม จะมีที่ไหนเก็บสิ่งของล้ำค่าไว้ได้ดีที่สุดเท่าร่างกายตัวเอง จริงไหม วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บแหวนวงนี้คือใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา ห้ามถอดอย่างเด็ดขาด

เมื่อสวมแหวนเรียบร้อยแล้ว เขาก็เคาะหน้าต่างกระจกบานเล็กๆ ที่กั้นส่วนระหว่างคนขับกับผู้โดยสารสองสามครั้งด้วยมือขวาเพื่อบอกในสิ่งที่ตนต้องการแต่แรก ไม่นาน ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ดูแลคณะนายแบบทั้งสามซึ่งนั่งอยู่ข้างคนขับรถก็เลื่อนหน้าต่างถาม

“ครับ คุณฮันเตอร์”

“ช่วยเพิ่มความเย็นอีกหน่อยได้ไหมครับ” คำพูดของฮันเตอร์ ทำให้ชายอีกสองคนที่อยู่ในส่วนของผู้โดยสารเช่นกันผงกศีรษะขึ้นมองด้วยสายตาไม่พอใจ

“จะฆ่ากันใช่ไหม แค่นี้ฉันก็หนาวจะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มหน้าตาคล้ายคนเกาหลีคนหนึ่งพูด ฮันเตอร์จำได้ลางๆ ว่าเขาถูกเรียกสั้นๆ ว่าปี ปา เปา อะไรสักอย่างนี่แหละ

“อยู่เมืองไทยก็หัดปรับตัวหน่อยเถอะ หรือคิดว่าตัวเองเป็นนายแบบระดับโลกก็เลยไม่เห็นหัวคนอื่น” อีกคนรีบเสริม ฮันเตอร์จึงมองทั้งคู่ด้วยสายตาเหมือนเกรงใจและขอลุแก่โทษ ก่อนหันไปบอกคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าว่า

“ขอแบบเย็นสุดๆ เลยครับ ผมร้อน”

ชายทั้งสองลุกขึ้นนั่งทันทีพร้อมกับถลึงตาใส่เหมือนต้องการจะถลามาหาเรื่องกัน แต่เพราะนายแบบทั้งสามนั่งอยู่คนละแถวที่นั่งและอีกสองคนก็สูงกว่าฮันเตอร์หลายเซนติเมตร อย่าว่าแต่จะลุกขึ้นยืนเลย แค่ขยับเขยื้อนตัวก็ค่อนข้างลำบากแล้ว ความตั้งใจที่จะต่อยหน้านายแบบระดับโลกจึงต้องพับเก็บไป กระนั้น ความสูงของร่างกายหรือความคับแคบของรถตู้ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการโจมตีด้วยฝีปาก

“กวนดีนักนะแก ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ”

ภาษาไทยสมัยโบราณชัดเปรี๊ยะ แบบที่ไม่น่าออกมาจากปากของนายแบบผู้เติบโตในแผ่นดินยุโรปได้เลยทำให้ฮันเตอร์เลิกคิ้วข้างหนึ่ง ไม่ใช่จะกวนอารมณ์ของอีกฝ่าย แต่คราวนี้เขาไม่เข้าใจจริงๆ

แม้ว่าหนึ่งในสัญชาติของฮันเตอร์จะเป็นไทย เพราะเขาถือกำเนิดในเมืองไทยและมีคุณย่าเป็นคนไทย การเคี่ยวกรำของคุณย่าทำให้ชายหนุ่มพูดและฟังภาษาไทยได้ในระดับที่ค่อนข้างดี แต่ไม่ดีพอจะเข้าใจคำศัพท์ประเภทคำหยาบคายหรือคำสรรพนามโบราณ คำประสมยากๆ อีกทั้งการเขียนและการอ่านภาษาไทยก็ไม่ใช่เรื่องที่เชี่ยวชาญด้วย ดังนั้น คำพูดที่นายพัด พาม... อะไรก็ช่างเถอะนั่นพูดกับเขา ทำให้เขาอยากรู้ว่าแปลว่าอะไร

แต่ยังไม่ทันจะสอบถาม ผู้ดูแลที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็พูดขึ้น “เอาละครับ อีกไม่นานก็จะถึงรีสอร์ตแล้ว ทนหนาวกันสักนิดนะครับ”

จากคุณ : g_maru
เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 20:51:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com