12/2
ลลิลดาขังตัวเองอยู่ในห้องทันทีที่กลับถึงบ้าน เธอปฏิเสธมื้อเย็นที่มารดาแบ่งเก็บไว้ ดวงตาระเรื่อของบุตรสาวสร้างความไม่สบายใจให้เรณูเสียเลย คืนนั้น หลังปิดบ้านเรียบร้อยแล้ว อดีตนางพยาบาลจึงเดินเข้าไปในห้องนอนลูกตน แทนที่จะเข้านอนร่วมห้องกับสามี
ร่างบางนอนตะแคงหันหลังให้ประตูทั้งชุดทำงานตัวเดิม ท่าทางไม่รับรู้ว่ามีใครเข้ามา กระทั่งผู้เป็นแม่นั่งลงบนเตียงด้านหนึ่ง แรงยวบของที่นอนปลุกเธอจากภวังค์ หากก็ไม่ทันซ่อนน้ำตาเสียแล้ว
เป็นอะไร ลิลลี่ บอกแม่ว่าจะไปส่งเพื่อนที่สนามบิน ไปส่งใครมาหรือลูก เสียงถามของแม่อ่อนโยนนักหนา
ลลิลดาโผเข้าซุกเอวแม่ ยอมจำนนต่อข้อสันนิษฐานของท่านในที แม่จ๋า
เรณูกอดปลอบร่างสั่นสะท้านโดยไม่เร่งรัดใดๆ อีก รอจนบุตรสาวถอนสะอื้นหลังร้องไห้จนพอใจ มือหยาบกร้านของแม่จึงช่วยซับน้ำตา
เล่าให้แม่ฟังได้ไหมว่าลิลลี่ไปส่งใครมา เสียใจมากหรือลูกที่เพื่อนคนนั้นจากไป
เธอแนบแก้มชื้นกับต้นแขนมารดา ขณะเล่าเรื่องราวตลอดสามวันที่ท่านไม่อยู่ให้ฟัง
คาชาลมาที่นี่ค่ะแม่ เขามาหาลูก มาบอกความรู้สึกของเขาให้ลูกฟัง และขอคำตอบจากลูก แต่เขาให้เวลาลิลลี่น้อยเหลือเกิน เขาไปแล้วค่ะ ไปโดยไม่บอกกล่าวแผนการในอนาคตให้ลูกรู้เลย
คาชาล... ชาวทิชกูคนนั้นน่ะหรือ มารดาทบทวนความจำอย่างไม่แน่ใจ
ชื่อนี้ผ่านหูเธอบ่อยเมื่อปีกลาย หลังลลิลดากลับจากไปเที่ยวยังคาซาเนียและบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆ ให้ฟัง แต่แล้วชื่อนี้อีกเช่นกันก็กลายเป็นที่โจษจัณฑ์กันทั้งเมือง เมื่อเขาถูกจับด้วยข้อหาร้ายแรงและหลบหนีอย่างอุกอาจ ทว่าหลังการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศคาซาเนียสำเร็จเสร็จสิ้นลง เรณูก็เกือบลืมชื่อนี้ไปแล้วเมื่อลูกสาวไม่ได้เอ่ยถึงบุรุษผู้นั้นอีกเลย เรื่องราวที่ได้รับรู้วันนี้จึงปุบปับเหลือเกิน
แม่อย่าคิดว่าลิลลี่แอบติดต่อเขานะคะ เราห่างกันไปตามหน้าที่การงาน ลิลลี่เพิ่งทราบจากปากเขาว่าเขาเข้าทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ เขาบอกว่าเขาก่อร่างสร้างตัวเพื่อลูก บทจะพร้อมเขาก็ขอให้ลูกเห็นใจ แต่ลิลลี่ไม่เคยคิดกับเขาในแง่นั้นมาก่อนเลย
จนกระทั่งวันนี้... อย่างนั้นหรือเปล่าลูก ลิลลี่ถึงได้เสียน้ำตาเพราะเขา
เธอลูบเรือนผมบุตรสาวอ่อนโยน หัวอกแม่หวิวโหวงเมื่อทราบคำตอบแล้วแก่ใจ
แม่ว่ามันเร็วไปไหมคะ เราพบกันแค่สามวันเท่านั้นเอง
จะว่าเร็วก็เร็ว เพราะสำหรับแม่... ไม่ว่าลิลลี่จะรู้จักเขานานเท่าไร แม่ก็ยังกลัวอยู่นั่นเองว่าเขาจะรักและดูแลลูกได้เท่าแม่หรือเปล่า แต่ความจริงแล้วก็ใช่ว่าลิลลี่จะเพิ่งรู้จักเขาสามวันนี้ ลูกรู้จักเขามาก่อนแล้วแม้เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่เขากลับปักใจกับลูกเรื่อยมา แม่ก็คิดว่าเขามั่นคงดี
คำตอบกลางๆ ของมารดาทำให้เธอได้คิด แม้ช่วงเวลาที่ต้องแยกจากกันจะยาวนานกว่าระยะเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน แต่พวกเธอก็ได้ผ่านเหตุการณ์ผกผันมาอย่างที่น้อยคนนักจะเคยเผชิญ และเมื่อต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตน เขากลับยังคงมุ่งมั่นลำพังที่จะทำให้ทางสองสายนั้นมาบรรจบกัน
ลิลลี่เคยเล่าให้แม่ฟังว่าหนุ่มสาวชาวทิชกูน่ะ ปุบปับเขาก็แต่งงานกันในคืนรอบกองไฟไม่ใช่หรือลูก ผู้ชายคนนั้นเขาคงใจเร็วตามประเพณีของเขา แม่ห่วงก็แต่ความแตกต่างตรงนี้แหละ หากสองคนไม่ปรับตัวเข้าหากัน ก็ยากที่จะประคองชีวิตคู่ไปได้ตลอดรอดฝั่ง
ร่างบางลดตัวนอนหนุนตักมารดา สายตาซึ่งมองผ่านกาลเวลาของท่านมองอะไรได้ลึกซึ้งเสมอ เธออยากให้คาชาลมาอยู่ตรงนี้ด้วยกันเหลือเกิน หากเขาเห็นสอดคล้องกับเธอด้วยแล้ว บางทีเธอคงกล้าตัดสินใจอนาคตของตน
มันสายไปแล้วล่ะค่ะ ลลิลดาบอกทั้งตัวเองและมารดา เขากลับไปโดยไม่บอกสักคำว่าจะติดต่อมาเมื่อไร เขาบอกว่ามีเวลาให้ลูกคิดทั้งชีวิตเขาเลย
ถ้าอย่างนั้นคิดได้เมื่อไรก็ติดต่อเขาไปซีลูก ผู้เป็นแม่ฝืนยิ้มแนะนำ
หญิงสาวมองสบดวงตาแดงระเรื่อของท่านแล้วก็สะท้อนใจ แม่ยอมสูญเสียลูกไปเพื่อความสุขของลูกเอง คิดแล้วน้ำตาก็รื้นขึ้นมา
แม่จ๋า ลิลลี่จะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีแม่
ฮื้อ ต้องอยู่ได้ซี ชีวิตของแม่น่ะมีแต่นับถอยหลังลงทุกวัน สวนทางกับลิลลี่ เพราะฉะนั้นถ้าแม่ได้เห็นว่าอนาคตข้างหน้าของลูกแม่มีเพื่อนร่วมทางที่ดีแล้ว แม่ก็จะสบายใจ
เรณูกล้ำกลืนน้ำตา หากลูกไม่เลือกบุรุษผู้นั้นก็ขอให้เกิดจากความรู้สึกนึกคิดของแก อย่าได้เป็นเพราะความรักความห่วงใยในตัวผู้เป็นแม่คอยฉุดรั้งไว้เลย เพียงได้เห็นลูกเติบโตมาจนทุกวันนี้ ได้มีแกในอ้อมกอดเช่นปัจจุบัน เธอก็คิดว่าคุ้มค่าแล้วกับความเหนื่อยยากที่ผ่านมา และเธอยินดีส่งมอบแก้วตาดวงนี้ให้กับคนที่เห็นคุณค่าของมัน
..............................
เมื่อมีเวลาไตร่ตรองความรู้สึกตัวเองลำพัง ปราศจากสิ่งเร้าอันได้แก่ความหวามไหวจากความใกล้ชิด ก็เหลือเพียงความปรารถนาดีที่เธอมีต่อเขาเสมอมาปรากฏชัดเจนแก่ใจ ความรู้สึกนี้มั่นคงมาตลอดนับแต่เธอได้รู้จักกับคาชาล เธอไม่รู้ว่านั่นคือความรักไหม แต่แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
ทว่าสิ่งหนึ่งซึ่งทรงอานุภาพรุนแรงขึ้นคือความคิดถึง ไม่ว่าจะเดินทางไปมุมไหนของเมืองก็มักซ้อนทับด้วยภาพความทรงจำระหว่างเธอกับเขา ช่วงเวลาสั้นๆ ในแต่ละวันที่แบ่งปันร่วมกัน กลายเป็นเหมือนดั่งเงาคอยติดตาม สะท้อนความรู้สึกจากก้นบึ้งจิตใจ แม้แต่ภายในบ้านของเธอเองยังปรากฏร่องรอยของเขา เก้าอี้ที่ชายหนุ่มเคยนั่ง อาหารที่เขาชอบกิน ลลิลดาจดจำรายละเอียดต่างๆ โดยไม่รู้ตัว
บ่อยครั้งที่หญิงสาวเผลอยิ้มกับตัวเอง แล้วก็ต้องถอนใจในนาทีต่อมา หากเขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอและยืนยันความรู้สึกทั้งหมดอีกครั้ง คำตอบของเธออาจเปลี่ยนไป แต่ความจริงคือคาชาลหายเข้ากลีบเมฆราวสายลมพัดผ่านกาย ไม่ทิ้งไว้แม้หมายเลขโทรศัพท์หรือนามบัตรสักใบ เธอต้องเป็นฝ่ายรอโดยไม่รู้อนาคตอีกเช่นเคย
โกรธก็แล้ว น้อยใจก็แล้ว นานวันเข้าเธอจึงค่อยปล่อยวาง คิดขำขันว่าคงเป็นกรรมที่เธอทำไว้กับแอนดี้ แสร้งไม่สนใจความรู้สึกเขาเสียที แล้วลลิลดาก็หันไปทุ่มเทกับการงานดังเดิม มันคงเป็นเช่นนี้ต่อไปจนกว่าคาชาลจะมาเอาคำตอบ ถ้าไม่มีข่าวอันน่าตกใจเกิดขึ้นเสียก่อน
คืนหนึ่งหลังการจากไปของชายหนุ่มกว่าสองเดือน ข่าวประธานาธิบดีของคาซาเนียถูกลอบสังหารเผยแพร่ผ่านสื่อทั่วโลก และผู้ซึ่งรับเคราะห์แทนคือ... นิโก้ โยซี!
ในกลุ่มประชาชนซึ่งชุลมุนวุ่นวายจากการลงพื้นที่ห่างไกลของประธานาธิบดี ได้มีชายคนหนึ่งจ่อปากกระบอกปืนไปยังดร. อูราล นิโก้ตาไวจึงพุ่งตัวหมายรวบผู้ปองร้าย หากอีกฝ่ายลั่นไกใส่แทน กระสุนแล่นตัดขั้วหัวใจทันที
เนื้อข่าวตรงหน้าค่อยๆ พร่าเลือนด้วยน้ำตาซึ่งเอ่อท้นขึ้นมา ลลิลดาหวนนึกถึงบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าของเขานิ่งเรียบราวหินผาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน ไม่อยากเชื่อเลยว่าชีวิตของเขาจะสิ้นสุดลงด้วยลูกตะกั่วนัดเดียว คงเหลือไว้แต่น้องชายของเขาต้องเผชิญโลกอันโหดร้ายใบนี้ต่อไปลำพัง
หญิงสาวกดพักหน้าจอก่อนลงไปหามารดาข้างล่าง เธอสวมกอดท่านจากด้านหลังพลางบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด และเอ่ยชวนแม่ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลด้วยกัน
.............................
ศิลปะการสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ของวัดไทยในต่างแดนให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปอยู่ในดินแดนอีกซีกโลกหนึ่ง ที่เหมือนกันกับทุกศาสนสถานอื่นอีกอย่างคือความร่มเย็นในจิตใจของผู้ศรัทธา
ลลิลดาเดินเคียงข้างผู้เป็นแม่ไปตามลานโล่งของวัด ในมือประคองถ้วยทองเหลืองสำหรับกรวดน้ำ ก่อนหยุดเทน้ำในถ้วยลงยังโคนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ด้วยหวังว่าบุญกุศลนั้นจะส่งถึงผู้ล่วงลับ ไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติใด นับถือศาสนาใดก็ตาม
ความเศร้าใจ ผิดหวังในความรักของเธอกลายเป็นเรื่องเล็กเหลือเกินเมื่อเทียบกับปัญหาความรุนแรงซึ่งผู้คนจำนวนหนึ่งในโลกต้องเผชิญ หนึ่งในนั้นคือชาวคาซาน ประเทศอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของคนที่เธอรักนั่นเอง
ที่เคยขุ่นเคือง น้อยใจพลันมลาย กลายเป็นความเข้าอกเข้าใจ เห็นใจในชะตากรรมของเขาที่ต้องสิ้นไร้สมาชิกครอบครัว วินาทีนั้น ความต้องการของหัวใจเธอเรียกร้องรุนแรง ลลิลดาปรารถนาจะอยู่เคียงข้างเขา ไม่ว่ากาลข้างหน้าจะร้ายหรือดีอย่างไร เธอจะกุมมือเขาไว้ นั่งพูดคุยเป็นเพื่อนเขาเช่นคืนวันอันหนาวเหน็บในรัสเซีย เธอไม่ควรลังเลในความรักของเขาเลย อ้อมกอดของคาชาลเมื่อเธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาวันนั้นบอกว่าเธอมีค่าต่อเขาเพียงใด
ความคิดของหญิงสาวนั้นบังเอิญสอดคล้องกับใครอีกคนหนึ่งพอดี เพราะเมื่อเธอเปิดคอมพิวเตอร์ในยามบ่ายของวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น ก็ปรากฏจดหมายจากคนไกล
'มิสครับ
ขอประทานโทษหากจดหมายฉบับนี้ของผมรบกวนเวลาของมิส แต่ผมมีเรื่องร้อนใจมากและมีเพียงมิสคนเดียวที่จะช่วยแก้ไข เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นในประเทศของเรา และน่าเศร้าอย่างยิ่งต่อผู้ชายคนหนึ่งซึ่งสูญเสียสมาชิกครอบครัวคนสุดท้าย มิสเคยมีเมตตาต่อผู้ทุกข์ยาก จะกรุณาเพื่อนผมคนนี้อีกสักครั้งได้ไหมครับ ผมได้แนบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ของเที่ยวบินตรงถึงกรุงซุตซูและหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวของผมมาด้วย ยินดีรับใช้มิสเสมอ
ด้วยความเคารพอย่างสูง วิคเตอร์ ชิปรุง
ปล. ครั้งหนึ่งผมเคยแนะนำกับนิโก้ว่ามิสเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้น้องชายของเขาเลิกจมจ่อมกับความทุกข์เพราะการจากไปของอัมมาและติลมา ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งผมจะต้องใช้วิธีเดียวกันนี้อีกครั้งหนึ่ง'
จิตใจซึ่งโอนเอนไปอยู่ข้างคาชาลด้วยความห่วงใยแต่แรกแล้วถูกเหนี่ยวรั้งมากขึ้นด้วยจดหมายสั้นๆ นี้ ลลิลดาไม่ยอมเสียเวลาตรึกตรองอีก เธอเคยหาญกล้าออกเที่ยวยามวิกาลกับเขาทั้งที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกัน แล้วยามนี้ที่เธอรู้จักเขาดีแล้ว ทำไมเธอจึงไม่ลองเสี่ยงอีกสักครา
หญิงสาวตัดสินใจร่างจดหมายลาออกเดี๋ยวนั้น เธอจะไปอยู่เคียงข้างเขาจนกว่าชายหนุ่มจะไม่ต้องการ เมื่อนั้นคงไม่สายเกินไปถ้าเธอจะกลับมาซบอกมารดา ดีกรีเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยระดับไอวีลีกคงไม่ทำให้เธอสิ้นไร้ไม้ตอกจนเกินไป
...................................
เรณูทำใจได้ยากเหลือเกินหลังบุตรสาวเอ่ยความตั้งใจของแกขึ้นมาปุบปับ แล้วภายในไม่กี่วันต่อจากนั้นก็จัดการเรื่องวีซ่าและเก็บกระเป๋าออกเดินทาง ผู้เป็นแม่ยอมรับว่าตนปากเก่งไปอย่างนั้นวันที่พูดจาปลอบโยนลูกให้หายเศร้า เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกจากแก้วตาดวงใจจริง เธอก็ร่ำไห้ด้วยความอาวรณ์
ลลิลดาสวมกอดมารดาแนบแน่น ดวงตาแดงช้ำมีน้ำขังคลอหน่วยตา แต่ก็ฝืนกล้ำกลืนเอาไว้ไม่ให้บรรยากาศเศร้าจนเกินไป
ลิลลี่ไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับมา แม่ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ เจคอยู่ทางนั้นทั้งคน
คนผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าไม่เชื่อเลยว่าบุรุษที่ลูกรักจะยอมปล่อยแกห่างตัวอีก แม้เจ้าหล่อนจะบอกว่าการเดินทางครั้งนี้เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเพื่อน หากเรณูตระหนักดีว่าลูกได้เลือกอนาคตของตัวเองแล้ว
แม่ฝากเจคไว้แล้ว ลิลลี่ต้องเชื่อพี่เขานะลูก แล้วอย่าพาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายที่เราไม่เกี่ยวข้อง เสียงมารดาเครือลงทุกขณะ จากเป็นอย่างนี้แม่ยังพอรับได้ แต่ถ้า...แต่ถ้า...
ดูเถอะ ยังไม่ทันไรแม่ก็แช่งลิลลี่เสียแล้ว เธอแกล้งค้อน
หญิงสูงวัยสูดหายใจลึกเรียกสติเมื่อความคิดเกินเลยไปไกล มือย่นยกผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาป้อยขณะมองบุตรสาวผละไปสวมกอดด็อกเตอร์ริชาร์ด
ฝากแม่ขี้แยของหนูด้วยนะคะ
ดูแลตัวเองเถอะ ลูกสาว
ลลิลดากะพริบตาถี่ขับไล่หยาดน้ำตา สองแม่ลูกมองสบตากันอย่างเข้าใจในเหตุผลของแต่ละคน ในที่สุดวันที่ลูกจะแยกจากไปมีชีวิตของตนก็มาถึงเหมือนกับทุกครอบครัว เธอยังโชคดีกว่าหลายๆ คนที่เวลานี้มาถึงช้าย่างเข้ายี่สิบเจ็ดปี เรณูพยายามคิดหาข้ออ้างต่างๆ นานามาปลุกปลอบใจ อย่างน้อยเธอยังมีอ้อมกอดของคู่ชีวิตเป็นที่พักพิงในวันที่ลูกร้างไกล
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
วันวิสาขบูชา 55 11:13:16
|
|
|
|