Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บันทึกความทรงจำบทที่ 9 น้ำตา ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12134405/W12134405.html

บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12137466/W12137466.html

บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12142609/W12142609.html

บทที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12155159/W12155159.html

บทที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12160123/W12160123.html

บทที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12165127/W12165127.html

บทที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12170398/W12170398.html

บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12175926/W12175926.html


มาถึงตอนนี้ ก็เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว อากาศที่นี่หนาวจริงๆ ครับ หนาวไปจนถึงกระดูก เท่าที่ผมเช็คจากพยากรณ์อากาศของเว็บบีบีซี บอกว่าอากาศหนาวจนเกือบติดลบ สำหรับคนไทยที่เคยชินกับอากาศร้อนย่อมไม่คุ้นเคยกับความหนาวขนาดนี้ ส่วนคนชาติอื่นออย่างเกาหลีที่อากาศหนาวพอกันก็เห็นเป็นเรื่องปกติ เราเพียงแค่นับวันรอหิมะตกเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าหิมะแรกของปีจะมาเมื่อไหร่ ส่วนเรื่องเรียนของผมตอนนี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว course work ของผมที่อุตส่าห์ทำมาอย่างยากลำบากก็เสร็จหมดแล้ว ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของผมเลยสบายๆ ไม่ต้องกังวลอะไร รอวันส่งอาจารย์เท่านั้น ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ต่างก็ขมักเขม้นอ่านหนังสือทำ course work ของตัวเอง บางคนก็ต้องเตรียมตัวสอบข้อเขียน สำหรับผมจะมีสอบข้อเขียนแค่ครั้งเดียวในเดือนพฤษภาคม ส่วนลี ยุน จี เธอทำเสร็จหมดแล้วเหมือนกัน ชีวิตเธอเลยชิวๆ เหมือนกับผม เราเลยชวนกันไปดูหนังในวันเสาร์ที่จะถึง ซึ่งผมเอง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมไปดูหนังกับผู้หญิงสองต่อสอง เพราะที่ผ่านมาเวลาดูหนังผมมักจะไปคนเดียว ไม่ค่อยมีผู้หญิงคนไหนไปกับผมหรอก T^T  เราจึงได้โอกาสเปิดเว็บของโรงหนังดูว่ามีเรื่องไหนน่าสนใจบ้าง สรุปว่าเราจะไปดูเรื่องแฮร์รี่ พ็อตเตอร์กันตอนเย็นวันเสาร์

ผมตื่นเต้นเหลือเกิน.......

พอถึงวันเสาร์ช่วงบ่ายๆ ขณะที่ผมกำลังล้างจานหลังทานข้าวกลางวันเสร็จ  ยูน จี ก็เดินเข้ามาในครัวเพื่อหาอะไรทาน ดูเธอรีบร้อนมาก สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก

“”มีอะไรรึเปล่า สีหน้าไม่ดีเลยนะ”” ผมถามเธอด้วยความเป็นห่วง

“”ปิง...ขอโทษด้วยนะ คือพอดีวันนี้ชั้นมีเรื่องด่วนต้องเข้าไปลอนดอน เย็นนี้คงไปดูหนังกับเธอไม่ได้””

“”มีปัญหาอะไรรึเปล่า เป็นอะไรมากมั้ย”” ผมถามเธออีกครั้ง เพราะสีหน้าเธอยังไม่ดีขึ้น คงมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเธอรีบหยิบแซนด์วิชที่อยู่ในตู้เย็นมาอุ่นในไมโครเวฟ ผมจึงรีบวิ่งออกจากห้องครัวเข้าไปในห้องของผม หยิบชุดใส่ไปข้างนอกแต่งแต่งตัวอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งเข้าไปหาเธอในครัว

“”อะไรกันเนี่ย ทำไมถึงแต่งตัวล่ะ””

“”ไปด้วยสิ เป็นห่วงเธอเหลือเกิน มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นใช่มั้ย””

“”........................””  เธอยังเงียบอยู่ แล้วรีบเดินออกไปจากห้องครัว มุ่งหน้าไปที่ป้ายรถเมล์ ผมเองก็ไม่รีรอ เดินตามเธอไป

ระหว่างที่อยู่บนรถเธอไม่พูดอะไรเลย ได้แต่นั่งเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่แม้แต่จะมองผมที่นั่งอยู่ข้างๆเธอเลยซักนิด ในที่สุดเราก็มาถึงสถานีรถไฟ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผมมาด้วย เธอรีบซื้อตั๋วรถไฟโดยไม่รอผมเลย มันผิดวิสัยของเธออย่างมาก เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ ผมได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง พอขึ้นรถไฟ เธอก็ได้แต่นิ่งเงียบ ผมจึงพูดทำลายความเงียบขึ้นมา

“”มีอะไรก็บอกได้นะ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไม่ใช่เหรอ”” เธอหันมามองผมแว่บนึง แล้วยิ้มนิดนึงที่มุมปาก นั่นเป็นเพียงรอยยิ้มแรกของเธอที่ผมเห็นในวันนี้ แล้วเธอก็ไม่พูดอะไรอีก

เราไปถึงลอนดอนในช่วงหัวค่ำของวันเสาร์ ทุกอย่างรอบๆตัวดูเชื่องช้าไปหมด ถนนหนทางก็ไม่ค่อยมีรถวิ่ง คนเดินถนนก็มีไม่มาก มีแต่แสงไฟสว่างไสว เราหยุดอยู่หน้าสถานีรถไฟที่ลิเวอร์พูล สตรีท ไม่นานนักเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทร เธอพูดเป็นภาษาเกาหลี น้ำเสียงสั่นเครือ เธอพูดกับใคร หรือเธอกำลังนัดใคร

เราจึงขึ้นรถไปแถวๆ ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ ผมชอบบรรยากาศริมแม่น้ำมาก มันดูสดชื่น แต่วันนี้อากาศหนาวมาก ยิ่งอยู่ใกล้แม่น้ำยิ่งหนาว เราเข้าไปนั่งในร้าน Starbuck รอใครคนนึงที่เธอนัดมาเจอ เธอขอให้ผมไปนั่งอีกโต๊ะนึง เพราะเธออยากจะคุยกับคนที่เธอนัดมาโดยที่ไม่ต้องมีใครมาขัดคอ ไม่นานนักก็มีผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีเดินเข้ามา ใบหน้านั้นเป็นใบหน้าที่ผมคุ้นเคย ดอง อุก แฟนของเธอนั่นเอง!!! แต่เขา ไม่ได้มาแค่คนเดียว มีผู้หญิงคนนึงมากับเขาด้วย ผู้หญิงคนนี้หน้าตาดี ซึ่งดูจากลักษณะ ผิวพรรณ หน้าตา คงจะเป็นคนเกาหลีเหมือนๆกัน ผมจึงพอจะเดาเรื่องออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมยุน จีถึงมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก....

ทั้งคู่นั่งลงตรงข้ามกับยุน จี แล้วก็เริ่มบทสนทนา ผมเองนั่งอยู่ตรงโต๊ะที่ค่อนข้างห่างจากพวกเขาพอสมควร ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ถึงจะได้ยิน ผมก็คงจะไม่รู้ว่าพูดอะไร เพราะผมฟังไม่รู้เรื่อง แต่ดูจากท่าทางที่ยุน จีแสดงออก ดูเธอไม่มีความสุขเลย ส่วนดอง อุก ดูเขาก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก แต่ไม่ทันไร เธอก็ลุกขึ้น ดึงแขนเขาออกไปข้างนอก ผู้หญิงคนนั้นก็รีบตามออกไป คนในร้านบางส่วนก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นผมก็ไม่รอช้าเดินตามออกไปเหมือนกัน พอออกไปข้างนอก เสียงของยุน จีเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ดอง อุก ก็เช่นกัน ทั้งสองคนไม่ยมอลดราวาศอกกัน ผมไม่เคยเห็นยุน จีเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเห็นเธอโกรธเกรี้ยวขนาดนี้ ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นกลับยืนอยู่ห่างๆ จากพวกเขาทั้งสองคน ส่วนผมเดินเข้าไปใกล้ๆ เพราะเป็นห่วงยุน จี แต่ทั้งคู่คงไม่ทันสังเกตเห็นผม เพราะต่างฝ่ายต่างทะเลาะกัน

ท่ามกลางสายลมในฤดูหนาวอันแสนเย็นยะเยือก เธอกับเขายังคงโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ผมไม่รู้เลยว่าทั้งคู่กำลังทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร เพราะผมไม่รู้ภาษาเกาหลีเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ผมต้องการในขณะนั้นคือให้ทั้งคู่หยุดทะเลาะกันแล้วหันมาพูดจากันดีๆ จึงเดินเข้าไปห้าม ทันใดนั้น ผมได้ยินเสียง...ปึ้ก รู้สึกเจ็บที่ท้องอย่างมาก แล้วก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้น เธอไม่น่าทำแบบนี้กับผมเลย.........................

หมัดของเธอหนักมาก ผมทรุดลงไปนอนกับพื้น ซึ่งคนที่เดินผ่านไปมารอบข้าง คงสงสัยกันว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อได้เห็นว่า มีคนสองคนยืนทะเลาะกัน คนนึงยืนดูอยู่ห่างๆ ส่วนอีกคนล้มลงไปนอนกองกับพื้น เป็นภาพที่ประหลาดดีพิลึก แต่ผู้หญิงคนที่มากับดอง อุก ก็เดินเข้ามาถามผมเป็นภาษาเกาหลีสองสามประโยค พอเธอแน่ใจว่าผมไม่ใช่คนเกาหลี เธอก็พูดภาษาอังกฤษ

“”เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ”” เธอถามขณะที่พยุงผมลุกขึ้น

“”ไม่เป็นไรมากครับ เพียงแต่จุกเท่านั้นเอง””

“”คุณเป็นแฟนใหม่ของเธอเหรอคะ”” เธอถาม ซึ่งคำถามนี้เล่นเอาผมอึ้งไปเหมือนกัน

“”เราเป็นเพื่อนกันครับ”” พอผมตอบแค่นั้นแล้วเธอก็เงียบไป

แต่จู่ๆ ดอง อุก ก็หันเข้ามาหาผม วิ่งเข้ามากระชากที่คอเสื้อ แล้วสบถด่าผมขึ้นมาดังๆว่า “ไอ้สารเลว!!”
แล้วยุน จีก็พูดขึ้นมาว่า “ใครกันแน่ที่เป็นคนสารเลว” พอได้ยินแค่นั้นดอง อุกก็ผลักผมออกไปแล้วจูงมือผู้หญิงคนนั้นหันหลังเดินจากไป

ผมเดินตามยุน จีมาถึงสถานีรถไฟ เธอไม่พูดอะไรเลยซักคำ แม้กระทั่งตอนนั่งบนรถไฟ ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง หน้าเธอซีดเผือด เหมือนคนซังกะตาย แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้ แม้จะไม่มีเสียงสะอื้น แต่น้ำตาของเธอใหลออกมาไม่หยุด ผมไม่รู้จะพูดว่าอะไร ได้แต่นั่งเงียบปล่อยให้เธอร้องไห้ออกมา เพื่อที่เธอจะได้สบายใจขึ้น อากาศตอนค่ำที่เย็นยะเยือกอยู่แล้วกลับเย็นมากขึ้นไปอีก แม้ว่าบนรถไฟจะมีเครื่องปรับอากาศแต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความหนาวเหน็บนี้เอาไว้ได้ แล้วยุน จี ก็ซบมาที่ไหล่ของผม

“”ชั้นเลิกกับเขาแล้ว...ชั้นควรจะทำยังไงดี”” เธอพูดซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง

“”ใจเย็นๆนะ อย่ากังวล อีกไม่นานอะไรๆคงจะดีขึ้น”” ผมปลอบเธอได้แค่นี้ แค่นี้จริงๆ แม้ว่าใจผมอยากจะกอดเธอเอาไว้ แต่ผมก็ทำไม่ได้

ไม่นานนักหิมะก็เริ่มโปรยปรายลงมา นี่เป็นหิมะแรกของฤดูหนาวที่ประเทศอังกฤษ คนบนรถไฟที่มีอยู่ไม่มากนัก ต่างก็เริ่มฮือฮา ดีใจที่ได้เห็นหิมะ เกล็ดสีขาวๆ เหมือนปุยนุ่นตกลงมาจากฟ้า สวยงาม แต่มีเพียงสองคนบนรถไฟสายนี้เท่านั้นที่ไม่ได้มีความสุขเหมือนคนอื่นๆ มีเพียงน้ำตาเท่านั้น

ยุน จีผล็อยหลับในขณะที่กำลังซบไหล่ของผม ซึ่งผมก็ปล่อยเอาไว้แบบนั้น ถึงแม้ว่าผมไม่ได้ช่วยแบกรับความทุกข์ของเธอ แต่อย่างน้อยได้เป็นที่พักพิงของเธอก็ยังดี ผมปลุกเธอตอนที่เรามาถึงสถานีรถไฟในเมืองของเรา ที่นี่ก็มีหิมะเหมือนกัน ผมรู้สึกกังวลและเป็นห่วงเธอมาก เพราะตอนนี้เธอดูอ่อนเพลีย ซีดเซียว ไม่มีเรี่ยวแรง เหมือนคนใกล้ตาย ผมจึงช่วยพยุงเธอขึ้นรถเมล์กลับหอพัก เมื่อเรามาถึงหอพัก ดูเหมือนว่าอากาศที่เย็น กับความเศร้า จะทำให้เธอมีไข้สูง ตัวเธอร้อนมาก พอเข้ามาที่หอพักแล้วผมก็หากุญแจห้องเธอแล้วเปิดประตู เธอยังคงไม่ได้สติ ผมจึงรีบถอดเสื้อกันหนาวของเธอออก ให้เธอนอน แล้วรีบเข้าไปหยิบยาแก้ไข้ที่ห้องมาให้
“”*^$(@&)_%&  _&_)”” เธอพูดออกมา ผมฟังไม่เข้าใจเพราะคงเป็นภาษาเกาหลี คงเพ้อเพราะพิษไข้ และพิษรักนั่นเอง ผมตัดสินใจจะเฝ้าไข้อยู่ที่ห้องของเธอ เลยจัดแจงเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้เธอ แล้ววางผ้าไว้ที่หน้าผากเพื่อช่วยระบายความร้อน ผมได้แต่นั่งตรงเก้าอี้มองเธอ แล้วคิดกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ ทำไมดอง อุกถึงเลิกกับผู้หญิงที่งดงามแบบนี้ ยุน จีเป็นผู้หญิงที่งดงามทั้งภายในและภายนอก ผมรู้สึกอิจฉาผู้ชายที่ได้เป็นคนรักของเธอเหลือเกิน แต่ทำไมผู้ชายที่หน้าอิจฉาคนนั้นถึงได้ปล่อยให้เธอหลุดมือไป ผมเองก็ไม่เข้าใจถึงความรู้สึกของความผิดหวังในความรักว่ามันทรมานแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาผมมีแต่ประสบการณ์รักข้างเดียว ความรักของผมมักเป็นแบบนี้ แต่พอเห็นอาการของยุน จี ผมก็พอเข้าใจแล้วว่ามันหักหนาสาหัสแค่ไหน  เวลาผ่านไปซักพักจนเกือบเที่ยงคืนไข้ของเธอเริ่มลดลง ผมจึงวางใจฟุบหลับบนโต๊ะเขียนหนังสือของเธอ......................

รู้สึกตัวอีกทีก็เป็นช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ยุน จียังคงหลับสนิทอยู่บนเตียง ตอนนี้เธอหายไข้แล้ว ผมเองก็รู้สึกดีขึ้นเช่นกันที่ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากของเมื่อคืนได้ ผมเปิดผ้าม่านแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นหิมะขาวโพลนปกคลุมพื้นดิน เกาะอยู่ตามต้นไม้ มีแสงแดดอ่อนๆ ส่องลงมา เป็นภาพที่สวยงามจริงๆ แต่ดูท่าว่าหิมะคงจะตกอีกแน่ เพราะบนท้องฟ้าเริ่มมีกลุ่มเมฆ ผมไม่รอช้าเดินไปจัดการธุระส่วนตัว อาบน้ำาแปรงฟัน เตรียมอาหารเช้าเผื่อเธอด้วย เช้านี้อาหารคงเป็นข้าวต้ม เพราะมันเหมาะกับคนเพิ่งฟื้นไข้ ตอนที่ผมยกเข้ามาที่ห้องของเธอ ผมเห็นเธอลุกขึ้นนั่งบนที่นอน สีหน้าดูดีกว่าเมื่อคืน แต่ยังมีอาการเศร้าให้เห็นอยู่บ้าง

“”อุตส่าห์ทำข้าวต้มเผื่อเหรอเนี่ย...ขอบคุณมากนะ”” น้ำเสียงของเธอเริ่มแจ่มใสขึ้น

“”รู้รึเปล่าว่าเมื่อคืน เธอเป็นไข้ตัวร้อนจี๋เลย นึกว่าจะแย่ซะแล้ว””

“”ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่ามันรู้สึกวูบๆ แล้วก็ไม่ได้สติ รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว เห็นเธอเอาข้าวต้มมาให้นี่แหละ””

“”ไปล้างหน้า แปรงฟันเถอะแล้วรีบมากินข้าวกัน””

ผมยกเอาส่วนของผมมากินที่ห้องเธอด้วย แต่ดูเหมือนเธอจะทานไม่ค่อยลงเท่าไหร่ ผมก็เข้าใจว่าคนเพิ่งเลิกกับแฟนคงจะกินไม่ได้ คงต้องใช้เวลานานพอดูกว่าเธอจะทำใจได้

“นี่ก็ใกล้ช่วง Christmas Break แล้วนะ ในที่สุดก็ปิดเทอมซะที” ผมชวนเธอคุย เพื่อให้เธอหันไปคิดเรื่องอื่นๆ แทนที่จะจมปลักกับเรื่องรักๆใคร่ๆ เธอมองผมแล้วยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร สังเกตได้จากแววตาว่า เธอรู้สึกเอ็นดูผมมากเลย เพราะมันเป็นแววตาเหมือนคนที่แก่ว่ามองเด็กๆ อย่างเอ็นดู

“”นั่นสินะ เพื่อนๆ ก็กลับบ้านกัน บางคนก็ไปเที่ยวกัน””

“”แล้วเธอไม่ไปไหนเหรอ”
“”คงจะไม่ล่ะ ตอนนี้ไม่อยากไปไหน อยู่ในเมืองนี่แหละ ถ้าจะเที่ยวคงต้องรอให้ถึงช่วงต้นซัมเมอร์หน้า อ้อ จริงสิ ลืมไปเลย เมื่อคืนเธอเป็นยังไงมั่ง เจ็บมากมั้ย ชั้นไม่น่าทำแบบนั้นเลย ขอโทษจริงๆนะ”” เธอเอื้อมมือมาจับที่ท้องของผม แล้วก้มหัวขอโทษ

“”ช่างมันเถอะ ชั้นผิดเองไม่น่าจะเข้าไปตอนเธอกำลังโมโหเลย””

“”ขอโทษจริงๆนะ เอาไว้ชั้นจะไปดูหนังด้วยเพื่อเป็นการไถ่โทษละกัน”” เธอพูด

ในที่สุดผมก็ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ไม่ดีมาได้ ส่วนยุน จี ก็ต้องใช้เวลาซักพักในการเยียวยาความเศร้า ซึ่งผมก็บอกกับตัวเองไว้แล้วว่าจะช่วยให้เธอผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้.............................

จากคุณ : Red Boomer
เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 06:52:18




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com