Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เล่ห์ร้ายละลายรัก -บทที่ 13- ติดต่อทีมงาน


ตอนที่ 8

ตอนที่ 9&10

ตอนที่่ 11

ตอนที่ 12

 

บทที่ 13

 

แม้ว่าแอร์คอนดิชั่นเนอร์ในห้องนอนจะถูกปรับให้เย็นถึงยี่สิบสามองศาก็ตามที แต่มันไม่ได้ทำให้ใจของคนที่นอนซมคลุมโปงใต้ผ้าห่มอยู่ในห้องเย็นขึ้นมาได้แม้แต่นิดเดียว ดุจฝันนอนกระสับกระส่ายเพราะพิษไข้มาพักใหญ่แล้ว ปวดหัวเมื่อยามนอนนั้นมีแต่จะเพิ่มความหนักหน่วง เธอภาวนาให้ตัวเองหลับลงโดยเร็วที่สุด พลางนึกถึงเมื่อครั้งยังเป็นนิสิตที่เธอถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะช็อกจากอาการไข้ คราวนั้นทรมานเพียงใดเธอจำมันได้เป็นอย่างดี

ภาคภูมิ… เพราะเขาคนเดียวแท้ๆที่ทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสภาพสมเพชเช่นนั้นอีกครั้งหนึ่งในชีวิต

ดุจฝันนอนกัดฟันกรอดพร้อมกับบอกตัวเองว่าถ้าหายดีเมื่อไร เธอจะหาบทแก้แค้นคืนเพื่อเป็นการตอบแทน แต่แล้วความคิดในหัวที่กำลังหมุนก็ต้องสะดุดลง เมื่อเธอตระหนักได้ถึงคำสำคัญที่อยู่ในความคิดเธอเมื่อครู่นี้

แก้แค้น…

เพราะคำนี้นี่เอง ที่ทำให้เขาก้าวเข้ามาในชีวิตเธอ

เพราะเธอไปทำลายชีวิตที่สงบสุขของน้องชายเขาไว้ ด้วยมารยาหญิงที่แสนจะมั่นใจ โดยไม่เคยรู้สึกผิดอะไรต่อการกระทำดังกล่าว แถมยังมองข้ามไม่ใส่ใจว่าใครจะเป็นอย่างไรเพราะตัวเธอเอง

ดุจฝันหลับตาลงช้าๆอย่างไม่อยากที่จะรับรู้ความเป็นจริงใดๆทั้งสิ้น ความปวดหัวยิ่งหนักหน่วงขึ้นแทบทนไม่ไหว จนทำได้แค่นอนนิ่งๆหลับตาอยู่บนเตียง พร้อมเริ่มยอมรับความจริงเรื่อยๆว่างานนี้โทษใครไม่ได้นอกจากที่จะต้องโทษตัวเอง...

เป็นครั้งแรกที่ดุจฝันเริ่มรู้สึกผิดจากข้างในจิตใจ เธอทำร้ายคนดีๆไปเท่าไรกัน ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่จนถึงปัจจุบัน เธอไม่เคยคิดจะมอบความรักให้ใครอย่างแท้จริงเนื่องด้วยบทเรียนจากชีวิตคู่อันล้มเหลวของพ่อแม่ สิ่งที่เธอต้องการคือแค่อยากที่จะแก้แค้นผู้ชาย เพื่อปลดล้างปมปัญหาอันเลวร้ายที่ฝังใจเธอมานานนับเป็นสิบปี

แก้แค้น...

ตอนนี้ เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดถึงคำว่าแก้แค้นอีกต่อไป ดุจฝันยังคงนอนนิ่งพร้อมกับสติที่เริ่มหายไปเป็นส่วนๆเพราะฤทธิ์ของยาแก้ปวด แต่ก็ยังพอที่จะคิดตัดสินใจกับตัวเองได้ว่าเธอเลือกที่จะไม่แก้แค้นภาคภูมิเพราะนี่ก็เป็นสิ่งที่เธอสมควรจะโดนอยู่แล้ว ถึงแม้เธอเลือกที่จะจบเกมแก้แค้นนี้แล้วเธอสัญญากับตัวเองจนขึ้นใจว่าจะไม่มีวันให้อภัยคนที่ทำร้ายเธอเป็นอันขาด

เสียงเคาะประตูกระจกที่ดังขึ้นเป็นจังหวะทำให้เธอเลื่อนผ้านวมหนาที่คลุมหน้าอยู่ออกมา เสียงเคาะนั้นดังเป็นจังหวะช้าๆแตกต่างไปจากสโรชาที่ไม่เคาะประตูก่อนเข้า

ใคร...?

คำถามผุดขึ้นมาก่อนที่คำตอบจะปรากฏอยู่ตรงข้างเตียงของเธอ

ดวงหน้าหล่อเหลาที่เธอคุ้นเคยเมื่อหลายเดือนก่อนกำลังแสดงออกซึ่งความกังวลอย่างเห็นได้ชัดเจน นัยน์ตาเรียวสองข้างฉายแววขอโทษออกมาจนเธอสัมผัสมันได้ ก่อนที่ริมฝีปากจะเริ่มเอื้อนเอ่ยอย่างอาทร

“ฝัน”

ดุจฝันนอนนิ่ง คอแห้งผาดจนแทบไม่มีแรงจะเรียกชื่อเขากลับ พิธกรจะมาได้อย่างไรก็ช่างเถอะ คงจะเป็นสโรชาที่โทรไปคุย เขามายืนอยู่ตรงนี้ก็ดีเพราะตอนนี้เธอรู้สึกอยากขอโทษผู้ชายคนนี้เหลือเกิน

“หิวน้ำใช่ไหม”

ชายหนุ่มรีบรินน้ำลงแก้วใบใสแล้วส่งให้เธออย่างรวดเร็ว ดุจฝันค่อยๆดันตัวขึ้นพร้อมกับผู้มาเยี่ยมที่ช่วยพยุงให้เธอเปลี่ยนท่าได้สะดวก ทันทีที่ดื่มน้ำจนหมด คนป่วยก็มองผู้มาเยี่ยมด้วยแววตาที่ต่างไปจากทุกครั้งก่อนหน้านี้แล้วเอ่ยเสียงเบา

“ขอบคุณนะคะ... พี่พีท”

พิธกรมองสภาพของหญิงสาวที่ท่าทางร่อแร่เต็มที วันนี้เธอพูดดีกับเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ฝันยังโอเคไหม”

เขาถามไปอย่างนั้นเองทั้งที่ภาพตรงหน้าก็แทนคำตอบได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว

“ไม่ค่อยดีเท่าไรค่ะ แล้วนี่?”

“พี่มาหาฝัน ขอโทษนะที่จู่ๆก็มา แต่พี่เป็นห่วงฝัน”

                ดุจฝันเงียบไปชั่วครู่ด้วยอาการมึนๆ เมื่อรับรู้ว่าชายหนุ่มขอโทษตัวเองอยู่ จึงรีบรวบรวมสติแล้วกล่าว

“ทำไมต้องขอโทษคะ ฝันต่างหากที่ต้องพูดคำนั้น”

คนป่วยอยู่สบตามองหน้าผู้ที่มาเยี่ยม ดวงตานั้นเบิกกว้างราวกับไม่คาดคิดว่าจะได้ยินในสิ่งที่เธอกำลังพยายามจะสื่ออยู่ เธอจึงย้ำอีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดที่ส่งตรงมาจากก้นบึ้งของใจ

“ฝันขอโทษ... สำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา”

พิธกรยอมรับกับตัวเองว่าเขารู้สึกดีที่ได้ยินดังนั้น แต่เพราะฤทธิ์ที่เธอเคยทำกับเขาไว้มันเจ็บแสบนัก ความรู้สึกดีนั้นจึงถูกบรรเทาไปพอสมควร เอาจริงๆแล้วเขายังกลัวกับการเริ่มต้นใหม่ในสถานะเดิมกับดุจฝัน แม้ว่าในวันนี้เธอกำลังจะพร่ำเอ่ยขอโทษเขาก็ตาม

“ฝัน... ไม่ต้องพูดก็ได้นะ”

“พี่พีทคงโกรธฝันมากจนไม่อยากได้ยินคำนั้น แต่ฝันขอโทษจริงๆ ฝันแค่อยากให้พี่พีทรับรู้มัน ตอนนี้ฝันรู้แล้วว่ามันเป็นเพราะตัวฝันเองที่เคยทำไม่ดีกับพี่พีทไว้เยอะ... สมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้”

ดุจฝันพูดเสียงอ่อนแรงจนพิธกรต้องเอี้ยวตัวเข้าไปใกล้ๆเพื่อให้ได้ยินมากขึ้น

 คำขอโทษจากปากเธอในยามนี้นั้นช่างแผ่วเบา... แต่ชัดเจน

ชายหนุ่มค่อยๆนั่งลงข้างเตียงแล้วมองหน้าซีดของคนป่วย ทางเขาเองก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอต้องกลายมาป่วยหนักขนาดนี้

ถ้าหากเขาไม่ฟูมฟาย แล้วพี่ชายไม่เห็นในวันนั้น...

“มันเป็นเพราะความรักที่พี่มีให้ฝัน... สุดท้ายแล้วมันก็ดันเป็นต้นเหตุให้เรื่องราวบานปลายแบบนี้ เป็นเพราะพี่ไม่ดีเองที่ไม่ได้ช่วยห้ามอะไรมาก พี่ขอโทษแทนพี่ไพรด์ด้วยนะ”

“หยุดโทษตัวเองแล้วก็ช่างมันเถอะค่ะ บอกแล้วไงว่าฝันสมควรโดน”

“มีอะไรที่พี่พอจะทำเพื่อไถ่โทษได้บ้าง”

“ไม่มีค่ะ เพราะพี่พีทไม่ผิดจริงๆ ฝันต่างหากล่ะที่ควรทำแบบนั้น”

เสียงของหญิงสาวเริ่มแหบลงจนพิธกรต้องรีบรินน้ำให้อีกรอบ หญิงสาวที่เขาเคยรัก... ไม่สิ ยังรักอยู่คนนี้กลายเป็นอีกคนที่ดีกว่าตอนที่เคยปั้นหน้าคบกับเขา เพียงเพราะบทเรียนราคาแพงจากญาติผู้พี่ที่เป็นอาจารย์ได้สั่งสอนเธอเข้าให้อย่างจัง พิธกรยอมรับกับตัวเองว่าตอนนี้เขายังคงรักเธออยู่เต็มหัวใจ และยิ่งรักมากขึ้นไปเมื่อเห็นตัวตนด้านนี้ของเธอ เพียงแต่ว่าจากนี้ไป เขาคงจะไม่คาดหวังที่อยากจะเป็นคนรักของเธอดั่งเช่นเคยเพราะรู้ดีว่าเคยเป็นอย่างไรตอนที่ต้องทนทรมานกับการหักหลังของดุจฝัน ในขณะที่เธอเองนั้นก็คงไม่อยากที่จะกลับมาเริ่มต้นกับเขาใหม่อีกครั้ง... ตอนนี้เขารู้แล้วว่าควรจะให้ความสัมพันธ์ของเขาและเธอไปในทิศทางใด

“ถ้าอย่างนั้น พี่ขอดูแลฝันไปแบบนี้ได้ไหม... แบบพี่น้องกันไปเรื่อยๆ เพราะพี่รู้ดีว่าฝันตอนนี้คงไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นอะไรกับใคร แต่พี่แค่ไม่อยากให้สถานะมาเป็นตัวจำกัดความเป็นห่วงกับความหวังดีของพี่ ให้โอกาสนั้นกับพี่ได้ไหม”

“ถ้าพี่พีทไม่นึกเกลียดฝันที่เคยแย่กับพี่พีทขนาดนั้น... ฝันขอบคุณนะคะ”

ดุจฝันน้ำตาซึมจากคำพูดของคนข้างเตียง เธอยิ้มให้เขาอย่างจริงใจแม้ใบหน้าของคนตรงหน้าจะรางเลือนเต็มทีก่อนที่สติสุดท้ายจะหลุดไป


นัยน์ตาคู่เรียวหลังแว่นสายตากรอบดำหรี่ลงช้าๆอย่างพร้อมยอมรับว่าตัวเองกำลังเจ็บปวดกับภาพที่กำลังเห็นอยู่ตรงหน้า ภาพที่ญาติคนสนิทกำลังยืนอยู่ข้างเตียงของอดีตคนรักของเขาเอง มันดูไม่น่าแปลกใจเท่าใดนักที่คนเคยรักกันจะมาเยี่ยมกัน... หากแต่พิธกรมาได้อย่างไร อาการดุจฝันเป็นอย่างไร แล้วทั้งคู่คุยอะไรกัน แม้ว่าจะมีคำถามมากมายขนาดนี้แต่ก็กลับนึกอะไรไม่ออกสักอย่างเดียว มีเพียงความรู้สึกหนักหน่วงเท่านั้นที่ตกค้างอยู่ในความคิด

เขาเลือกที่จะเดินขึ้นมาดูอาการของดุจฝันทันทีหลังจากที่จบบทสนทนากับสโรชา หมายมั่นว่าคราวนี้ต้องพูดขอโทษกับเธออย่างหนักแน่น และจะไม่มีการแก้แค้นระหว่างกันต่อไปอีกแล้ว เขารู้สึกผิดมามากพอกับการกระทำของตัวเองเมื่อท้ายสุดแล้วนั้นไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่จะรู้สึกสะใจ ทุกอย่างที่เขาทำต่อดุจฝันไปมันปราศจากการไตร่ตรองใดๆแบบที่คนมีเหตุผลเขาทำกัน จนรู้สึกแย่กับตัวเองที่ไม่คิดให้มากกว่านี้ ทุกย่างก้าวช้าๆบนทางเดินไม้ขัดในบ้านพักหลังนี้ที่รู้ว่าดุจฝันเป็นจุดหมายปลายทางทำให้หัวใจมันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆด้วยความหวาดหวั่นว่าเธอจะตอบรับคำขอโทษของเขาอย่างไร

แต่ทันทีที่ถึงหน้าห้องของหญิงสาว เขาก็ได้เพียงยืนอยู่หน้าประตูกระจกใสอยู่แค่นั้นเมื่อเห็นช่องว่างเล็กๆระหว่างผ้าม่านว่ามีคนมายืนก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว

พิธกรกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงดุจฝันแสดงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างเต็มที่ บรรยากาศในห้องดูเหมือนจะมีความเข้าใจและความอาทรของคนทั้งสอง ทิ้งให้คนนอกห้องยืนเดียวดายพร้อมกับคำขอโทษที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ย

                ภาคภูมิยืนมองภาพนั้นอยู่อีกพักใหญ่ มือยื่นไปหมายที่จะจับบานเลื่อน หากแต่หยุดชะงักอยู่กลางอากาศ ก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกมาด้วยท่าทางสิ้นหวังอย่างไม่สมกับชื่อเล่นและชื่อจริงของตนแม้แต่น้อย


        

จากคุณ : Chanuikarn
เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 20:55:06




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com