Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สาปรักอังกอร์ ๑๙ : บททดสอบใจ ติดต่อทีมงาน

แวะทักทายกันนิดหนึ่งค่ะ ช่วงนี้เข้าพันทิปห่างมาก เนื่องจากงานหลวงยุ่งเหยิง แต่จะพยายามมาลงให้ต่อเนื่องไปจนจบแน่นอนค่ะ
หากมีอะไรแนะนำให้ปรับปรุงแก้ไข เม้นท์ไว้ได้เลยค่ะ ขอบคุณทุกท่นที่แวะมาอ่านนะคะ

..........................


๑๙ : บททดสอบใจ





หลายวันหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นชโลทรพยายามที่จะหลบหน้าปราชญา นอกจากจะไม่โผล่หน้าไปที่แคมป์เหมือนเคยแล้ว แม้แต่บ้านของตัวเองก็ไม่ยอมกลับมาอีกด้วย หญิงสาวหอบเสื้อผ้าและของที่จำเป็นไปนอนบ้านเพื่อนสนิท อ้างว่าเหงาเวลาอยู่คนเดียว ซึ่งพิมลก็เต็มใจที่จะรับเธอเข้ามาอยู่ร่วมชายคา โดยที่ชโลทรไม่มีทางรู้เลยว่ากำลังเดินเข้าปากเสือเสียแล้ว


“เป็นอะไรหรือเปล่าชล หมู่นี้ดูเงียบไป”

“ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ทำไมหรือพิมล ฉันดูแย่มากเลยหรือ”

“อืม…ทะเลาะกับพี่ปราชญ์เหรอ คนเป็นแฟนกันก็ต้องมีขัดใจกันบ้างเป็นธรรมดา”

“ใครบอกเธอว่าพี่ปราชญ์เป็นแฟนฉัน บ้าน่า เป็นจริงก็ดีสิ” ชโลทรปฏิเสธเสียแข็ง ละท้ายประโยคไว้ในใจ แต่คนฟังที่มีอคติอยู่เต็มหัวใจมีหรือจะคล้อยตาม ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกหมั่นไส้ชิงชังมากขึ้นอีกด้วย แต่แสร้งตีหน้าเฉยส่งยิ้มเจื่อนให้เพื่อน กลบเกลื่อนความริษยาในใจจนมิดชิด อย่างที่ชโลทรไม่มีวันจะระแคะระคายได้เลยทีเดียว

“อ้าวเหรอ ก็เห็นว่านอกจากเธอแล้วพี่ปราชญ์ไม่เห็นสนใจใครเลยนี่”

“ไม่จริงหรอกพิมล บางทีสิ่งที่เห็นกับความจริงมันอาจจะคนละเรื่องกันเลยก็ได้นะ อย่าปักใจเชื่ออะไรง่ายๆ อย่างนั้นสิ”

“จ้า…แม่คนเหตุผลมาก ฉันไม่เคยปักใจเชื่ออะไรง่ายๆอยู่แล้วถ้าไม่ได้เห็นกับตาได้ยินกับหู” คำพูดเน้นหนักที่ออกจากปากของเพื่อนรักทำให้ชโลทรเชื่ออย่างสนิทใจว่าเข้าใจตรงกัน แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่คิดนั้นมันไม่ใช่เลย ในทางตรงกันข้ามคนพูดกลับคิดไปอีกทาง

“ไม่มีวันเสียล่ะที่จะหลงเชื่อคำพูดหลอกลวงของแกอีก ในเมื่อฉันเห็นมากับตาว่าแกใช้มารยา หลอกล่อพี่ปราชญ์ให้หลงแกจนโงหัวไม่ขึ้น นังชโลทรนังมารหัวใจ” พิมลนึกพลางจ้องเพื่อนรักนิ่ง ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น ดีที่ชโลทรนั่งหันหลังให้จึงไม่ทันเห็นสายตาโกรธขึ้งของคนตีสองหน้าที่จ้องมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“เที่ยวนี้อาจต้องอยู่นานหน่อยนะ คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม”

“ฉันจะไปว่าอะไรได้ ก็แล้วแต่เธอสิ แหม…ทำอย่างกับไม่เคย”

“นั่นสิ แต่ก็ขอบใจนะ”

“เออว่าแต่แผลที่ไหล่น่ะหายปวดหรือยัง…เดี๋ยวฉันไปหาอะไรให้ลองท้องก่อนดีกว่า เธอจะได้กินยา”

“ขอบใจจ๊ะ”


ปากปราศัยไปอย่างนั้นแต่จิตใจไม่ได้เป็นอย่างที่พูดเลยสักนิดเดียว ทั้งที่ก่อนหน้าจะเกิดเรื่องขึ้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอและชโลทรแนบแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ไม่คิดเลยว่าเพียงเพราะผู้ชายคนเดียวทำให้เพื่อนรักต้องมาแตกคอกัน พิมลเดินออกจากห้องมาใจยังนึกถึงคำพูดของชโลทรอยู่ตลอดเวลา ความจริงความสัมพันธ์ระหว่างเธอและชโลทรไม่น่าจะเป็นแบบนี้เลย และคงจะดีกว่านี้ถ้าปราชญาไม่เข้ามาในชีวิตของพวกเธอ แต่จะโทษชายหนุ่มคนเดียวก็ไม่ถูก ถ้าจะโทษก็ต้องโทษชโลทร ที่ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้ชอบเขา ไม่อย่างนั้นมีหรือเธอจะยอมปล่อยใจไปรักเขาจนหัวปักหัวปำอย่างนี้ได้ ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เคยสนใจหรือมีท่าทีอะไรให้เลยก็ตาม แต่กลับชโลทรทำไมถึงได้ให้ความสนิทสนมมากถึงขนาดนั้น

พอถามทีไรชโลทรมักจะบ่ายเบี่ยงบอกว่าเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันทุกที ทำให้ตนยิ่งมีความหวังใมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่อะไรๆ จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเธอพบว่าเพื่อนรักกับชายหนุ่มมีความสัมพันธ์เกินกว่าธรรมดา  ครานี้ไม่ว่าชโลทรจะอธิบายอย่างไร แต่ภาพที่เห็นมันไม่ใช่อย่างที่แก้ตัว ดูอย่างไรๆก็ไม่ได้เป็นอย่างที่พูดเลยสักนิดเดียว มันทำให้เธอเจ็บปวดแสนสาหัส เมื่อจับได้ว่าถูกเพื่อนรักหักหลังแย่งคนที่รักไปต่อหน้าต่อตา และยิ่งแค้นมากขึ้นเมื่อได้มาภาพบาดตาบาดใจที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อน หากวันนั้นเธอไม่ได้แวะไปหาปราชญาที่แค็มป์เข้าพอดี และแอบตามเขามาจนถึงบ้านชโลทร ป่านนี้เธอก็คงยังไม่รู้ว่าถูกเพื่อนรักทรยศเสียแล้ว ทำให้มิตรภาพที่เคยมีมาขาดสะบั้นลงจนไม่เหลือเยื่อใยของความเพื่อนอีกเลย และเมื่อเพื่อนรักกลายเป็นศัตรูหัวใจ สิ่งที่พิมลนึกได้ในเวลานี้คือ ต้องกำจัดเสี้ยนที่ยอกใจนั้นให้หมดไปโดยเร็วเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม แววตาวาววับวาบของหญิงสาวระริกเต้นวาบขึ้นวูบหนึ่งเมื่อตัดสินใจได้ว่าต้องทำอย่างไร เดินลงบันไดหายเข้าไปในครัว ชั่วครู่ใหญ่จึงถือแก้วนมกลับออกมา

“ยังไม่หลับใช่ไหมชล อ้าวนี่...ดื่มซะจะได้หลับสบายขึ้น”

“ขอบใจนะพิมล ขอบใจมาก”

“ไม่เป็นไร ฉันไปนอนก่อนนะ” ชโลทรรับมาวางพลางเปิดกระเป๋าสะพายควานหายาแก้ปวดใส่ปาก ดื่มนมตามลงไปจนหมด ก่อนจะหันมาหยิบหนังสือเล่มโปรดมานอนอ่าน ทว่าอ่านได้เพียงสองสามหน้าก็คอพับหลับไปด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ รุ่งเช้าของวันใหม่จึงได้ตื่นขึ้นมา และพบว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งรออยู่ข้างล่างนานแล้ว

“ชลตื่นหรือยัง พี่ปราชญ์มารอตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่เลยนะ รีบไปล้างหน้าล้างตาเร็วเข้ายายคนขี้เซา เร็วสิยัยชล”

“อะไรกันพิมล ยังเช้าอยู่เลย ห๊ะ…ว่าอะไรนะ เธอว่าใครมานั่งรอ”

“พี่ปราชญ์อย่างไรล่ะ เร็วสิรีบไปล้างหน้า”

“เธอยอมให้เขาเข้ามาในบ้านทำไมล่ะพิมล โธ่เอ้ย…”

“อ้าว…ก็เขามายืนเก้ๆ กังอยู่หน้าประตูรั้วแล้วจะให้ฉันทำอย่างไรล่ะ”

“ไม่ล่ะฉันปวดหัวอยากนอน”

“อย่าทำตัวเป็นเด็กสิชล ปล่อยให้คนอื่นรอมันไม่ดีนะ ตายแล้วฉันมีประชุมเสียด้วย ต้องรีบไปแล้วล่ะ อ้อ…อย่าลืมดื่มนมในแก้วด้วยล่ะ ฉันอุตส่าห์ทำให้”

“ไม่…พิมลอย่า…เพิ่งไปแล้วฉันจะทำอย่างไรล่ะทีนี้” ชโลทรผุดลุกขึ้นนั่งร้องเรียกเพื่อนรักเสียงหลง แต่เมื่อเห็นว่าเดินลงไปแล้วจึงได้แต่ถอนใจออกมา ตัดสินใจเดินลงบันไดมาเผชิญหน้ากับคนที่นั่งรออยู่แทน โดยไม่ทันเห็นสายตาอาฆาตของใครบางคนที่วาบขึ้นวูบหนึ่งที่จ้องมองมา ก่อนจะเคลื่อนรถทำทีว่าจะออกไปทำงาน

“ชล เป็นอะไรมากหรือเปล่า เห็นพิมลบอกว่าปวดหัว อาการดีขึ้นหรือยัง พี่พาไปหาหมอเอาไหม”

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงแต่ชลดูแลตัวเองได้”

“ทำไมถึงพูดอย่างนี้ล่ะ ยังไม่หายโกรธอีกหรือ พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษจริงๆ”

“ช่างเถอะค่ะ ชลลืมมันไปหมดแล้ว พี่มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีชลขอตัวก่อน”

“เดี๋ยวสิชล…พี่  พี่ เอ่อ…พี่อยากอธิบายอะไรบางอย่างให้ฟัง ช่วยฟังสักห้านาทีได้ไหมคนดี” เสียงชายหนุ่มอ้อนวอน ยืนทำตาละห้อยทำเอาหัวใจของชโลทรอ่อนยวบจนแทบจะกลั้นน้ำตาแห่งความน้อยใจเอาไว้ไม่อยู่ รู้ทั้งรู้ว่าคนตรงหน้าแสนจะสุภาพอ่อนโยนมากแค่ไหน แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าเขาคงทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน จึงพยายามทำใจเบือนหน้าไปมองทางอื่นแอบสูดหายใจลึก สะกดกลั้นน้ำตาที่คลอหางตาให้กลับลงไปในที่สุด

“ได้ค่ะ พี่มีเวลาห้านาที”

“ขอบใจนะจ๊ะคนดีของพี่ พี่แค่อยากจะบอกว่าสิ่งที่พี่ทำลงไป ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเผลอไผลแต่อย่างใด แต่มัน…เอ่อ…มัน มันเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจของพี่จริงๆ ”

“หมายความว่าอย่างไรคะชลไม่เข้าใจ ในเมื่อพี่มีคุณหญิงอยู่ในใจแล้วทั้งคน”

“คือพี่ พี่…เอ่อมันก็ใช่ เอ้ย...ไม่ใช่นะชล พี่หมายถึงไม่ใช่อย่างที่เราคิด พี่ยอมรับว่าเคยมีความรู้สึกดีมากๆ ให้คุณบุษ แต่ว่าตอนนี้มีคิดว่าพี่เจอคนที่พี่รักมากกว่าแล้ว”

“แล้วมาบอกชลทำไม แค่นี้ยังทำให้ชลเจ็บปวดไม่พออีกหรือ คนใจร้าย” ชโลทรโพล่งออกไปด้วยความน้อยใจ ไม่แม้แต่จะยอมรับฟังจนจบประโยคด้วยซ้ำไป ทำเอาชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปชั่วครู่ใหญ่พูดไม่ออกเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดีที่คนตรงหน้าแสดงอาการแบบนี้ออกมา จะว่าทำเป็นงอนเพื่อหวังให้เขาง้อก็ไม่น่าจะใช่ ด้วยนิสัยห้าวๆ จริงใจไม่มีจริตมายาของหญิงสาวที่รู้จักกันมาเป็นอย่างดี ทำให้ไม่คิดไปอย่างนั้นได้เลย


ปราชญายืนนิ่งใช้ความคิดอยู่พักใหญ่ สายตาวาวแววจ้องมองหน้าสวยคมขำไม่วางตา ก่อนจะเห็นความน้อยเนื้อต่ำใจฉายชัดในแววตาของคนตรงข้ามอย่างชัดเจน ราวกับจะตัดพ้อว่าทำไมช่างไม่เข้าใจผู้หญิงเอาเสียเลย ก่อนหน้าสวยจะเบือนหนีไปอีกทาง ทำให้ชายหนุ่มเข้าใจได้ในทันทีว่า แท้จริงคนตรงหน้าไม่ได้เป็นสาวห้าวก๋ากั่นเหมือนอย่างที่คิดมาโดยตลอด หนำซ้ำเวลาไม่พูดไม่จาทำเป็นงอนก็น่ารักไปอีกแบบ จนคนที่มีใจเอ็นดูให้เป็นทุนเดิมแทบอดใจที่จะเข้าไปหอมสักฟอดด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ถ้าขืนทำรุ่มร่ามตอนนี้คงมีเจ็บตัวกันบ้าง คิดพลางยิ้มออกมา ทำเอาคนที่เพิ่งจะหันหน้ากลับมามองถึงกับขมวดคิ้ว

“ยิ้มอะไร ไม่เห็นหรือว่าคนกำลังหัวเสียอยู่ พี่ปราชญ์กลับไปได้แล้วไม่ต้องมาเสียเวลากับชลอีกเลย กลับไปหาคนที่พี่รักจะดีกว่า ชลจะได้ขึ้นไปนอนพักเสียที ปวดหัวจะระเบิดอยู่แล้ว” ชโลทรพูดพลางเดินดุ่มตรงไปที่บันได แต่มีหรือชายหนุ่มที่ยืนมองอยู่จะยอมให้จากไปได้ง่ายๆ ในเมื่อยังคุยกันไม่รู้เรื่อง เข้าใจไปคนละอย่างอยู่แบบนี้ ทว่าแทนที่จะส่งเสียงห้าม กลับเดินตามไปคว้าข้อมือของคนอารมณ์ไม่ดี ที่ยังพาลพาโลพูดนั่นพูดนี่ด้วยความน้อยใจแทน อารามไม่ทันตั้งตัวทำให้หญิงสาวเซจนเกือบจะล้มลง ดีใมือเรียวใหญ่ดึงร่างบางมาแนบอกไว้เสียก่อน

“ว้ายพี่ปราชญ์ ทำไมถึงทำอย่างนี้ล่ะคะ อุ๊ย...ชลขอโทษค่ะ”

ชโลทรบ่นพลางผละถอยห่างออกจากอกของคนตัวโตกว่าในทันที หน้าสวยผ่าวร้อนจรดใบหู ใจเต้นโครมครามราวกับจะทะลุออกมา ได้แต่ยืนหน้าแดงก่ำหันหนีสายตาวาววับของใครบางคนที่จ้องมองมา ไม่ทันได้สังเกตเห็นสีหน้าของปราชญาที่แดงเรื่อขึ้นเช่นกัน และหากเฉลียวใจสักนิดจะรู้ได้ยินเสียงหัวใจของใครบางคนเต้นโครมครามราวกับจะอวดให้รู้ว่ารู้สึกอย่างไรกับหญิงสาวกันแน่อีกด้วย ไม่รวมถึงเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นจังหวะเดียวกันอย่างน่าประหลาด จนเจ้าของต่างต้องแปลกใจกันเลยทีเดียว ร่างบางหันขวับทำท่าจะรีบเดินขึ้นบันไดไป หากไม่ถูกทักเสียก่อน

“เดี๋ยวก่อนสิชล ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย”

ปราชญาโพล่งออกไปทันทีที่เห็นท่าทางเอาจริงของหญิงสาว แม้จะรู้ว่าชโลทรออกจะกระดากอายอยู่มากถึงได้รีบหนีหน้าไปอย่างนั้น แต่เขาก็อยากจะทำความเข้าใจกับเธออยู่ดี จึงได้ดื้อแพ่งที่จะรั้งเอาไว้ด้วยเหตุผลข้างๆ คูๆ ฟังไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ ทว่าเวลานี้ชายหนุ่มไม่มีหัวที่จะไปเฟ้นหาคำพูดหวานๆ มาพร่ำพรรณาให้หญิงสาวคล้อยตามอย่างคนอื่นเขา และไม่เคยคิดที่จะทำอย่างนั้นอีกด้วยเพราะมันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขานั่นเอง นึกๆ แล้วชายหนุ่มก็เสียดายที่ไม่ได้พกสาริกาลิ้นทองมาด้วย เผื่อจะช่วยให้อะไรๆ มันง่ายขึ้น ไม่ค้างๆ คาๆ อึดอัดหนักใจอยู่อย่างนี้


เสี้ยววินาทีที่ไพล่คิดไปอย่างนั้น จึงตัดสินใจที่จะสารภาพความในใจออกไป หากครั้งนี้คนฟังยังเมินเฉยไม่ใส่ใจ ก็คงต้องตัดใจจากไปเพื่อจบเรื่องนี้เอง ก่อนที่อะไรๆ มันจะแย่ไปมากกว่านี้ นานอยู่อึดใจใหญ่กว่าชโลทรจะขยับตัวก้าวเท้าเดินต่อไป ร่างบางยืนนิ่งคล้ายกำลังคิดบางสิ่งอยู่ที่เชิงบันได คิ้วโก่งขมวดมุ่นเข้าหากันเหมือนใครมาจับผูกเอาไว้ ทว่ากลับไม่ปริปากถามออกมาสักคำ ทำเอาคนยืนรอคำตอบอยู่ถึงกับหายใจหายคอไม่ทั่วท้อง เมื่อเห็นหน้าที่เคยสดใสมีแต่รอยยิ้มให้เฉยเมยราวเย็นชาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ราวกับมีเรื่องทุกข์ร้อนอยู่ในใจ ทำเอาชายหนุ่มแทบบ้าเสียให้ได้


“ถ้ารังเกียจพี่มากถึงขนาดนั้นก็จะไม่มากวนใจอีก แต่ขอให้รู้ไว้ว่าพี่เป็นห่วงมาก ขึ้นไปนอนพักเถอะพี่จะไปอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว”พูดจบปราชญาจึงหันหลังกลับเดินดุ่มไปที่ประตูในทันที สูดหายใจลึกเต็มปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดใจก้าวเท้าจากไปโดยไม่เหลียวมามองอีกเลย ปล่อยให้คนปากแข็งไม่ตรงกับใจที่ยืนนิ่งอยู่ตรงเชิงบันได มองผ่านม่านน้ำตาพร่างพรายตามไปจบลับตา

“ทำไมต้องมาทำดีกับชลด้วย ในเมื่อพี่มีคุณบุษอยู่ทั้งคน ทำไมถึงทำกับชลอย่างนี้ ฮือๆ ” หญิงสาวพร่ำถามตัวเองพลางระบายความคับข้องใจออกมา ทรุดตัวลงนั่งที่เชิงบันไดอย่างไร้เรี่ยวแรง  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพิษรักคุดที่แอบชอบเขาข้างเดียวจะรุนแรงถึงเพียงนี้ ร่างบางสะอื้นฮักร้องไห้ออกมาอย่างเหลืออด ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้






มีต่อค่ะ

จากคุณ : Setakan
เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 11:29:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com