...บันทึกลิ่วล้อยุทธจักร ตอน มรสุมโลหิตศึกชิงจ้าวยุทธภพ...
|
|
...........
๑.มรสุมโลหิตคล้ายก่อตัวขึ้นช้า ๆ ยามนี้ ยุทธภพปกคลุมด้วยความมืดดำ "นครหมั่งก๊ก" คับคั่งไปด้วยขุมกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่ต่างก็ซ่องสุมกำลัง
๒.ที่น่าแปลกใจ คือบรรดาซิงแซจากหลายสำนัก ณ เวลานี้ ต่างก็ถือคัมภีร์เสมือนอาวุธนอกสารบบ ออกมาเปิดฉากห้ำหั่นกลางฝูงชน
๓.อา... มรสุมโลหิตถูกก่อกวนขึ้นอีกครั้ง ผู้ใดทราบ นี่อาจบางทีเป็นชะตากรรม ที่ถูกชักใย ทั้งจาก "มือที่มองไม่เห็น" และ "มือที่มองเห็น"
๔.ประมุขบู้ลิ้ม ถูกเปลี่ยนมาแล้วหลายหน แต่ละหนล้วนแล้วแต่มีชะตากรรมบั้นปลายอนาถยิ่ง บุรุษไม่มีข้อยกเว้น หรือกระทั่งสตรีก็ด้วย?
๕.นี่เป็นผลจาก "ตะข่ายฟ้าไร้ตะเข็บ" เสื่อมประสิทธิภาพ ? หรือเป็นผลจาก "ฟ้าดินยังมีตา" ? หรือที่แท้ไม่ใช่ทั้งสิ้น นอกเสียจากน้ำมือมนุษย์
๖.ยุทธภพยามนี้ ปกคลุมไปด้วยเงาทะมึนดำของมรสุมที่ถูกก่อกวนขึ้น บรรดามือดีทุกสำนัก จากทุกค่ายพรรค รับคำสั่งพร้อมเผชิญหน้า
๗.ไม่มีค่ายพรรคธรรมะ ไม่มีค่ายพรรคอธรรม ทุกค่ายพรรค ทุกขุมกำลัง ล้วนใช้ทุกวิธีการโดยไม่เลือกเฟ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายแห่งชัยชนะ
๘.ลิ่วล้อยุทธจักรไร้ชื่อเช่นมัน อดถอนใจไม่ได้ เมื่อนึกย้อนความหลัง ก่อนศึกชิงจ้าวยุทธภพอุบัติขึ้น และกินเวลายาวนานกระทั่งยามนี้
๙.มันยังจำ อดีตก่าจู๊ ชนวนเหตุแห่งการล้มล้างประมุขบู้ลิ้มได้ เท่า ๆ กับที่มันจำรอยยิ้มอันลี้ลับของกงกงผู้เฒ่า ฉายานักฆ่าแห่งลุ่มน้ำได้
๑๐.มันยังจำได้ว่า ห้วงเวลานั้น คาวโลหิตระอุข้น หลั่งออกจากร่างจอมยุทธผู้กล้าไม่รู้สิ้น เช่นเดียวกับกองซากศพของจอมยุทธที่ทับถมก่ายกอง
๑๑.ภาพหฤโหดแห่งความหฤหรรษ์ที่ไม่ต่างจากการสังหารหมู่ ยังกระจ่างชัดในตามัน ผู้กล้าจากทุกค่ายพรรคร่วงลงดั่งใบไม้ร่วง เพื่อสังเวยเป้าหมายชัยชนะ
๑๒.อา... มรสุมโลหิตถูกก่อกวนขึ้นอีกครั้ง ผู้ใดทราบ ครานี้ จะมีจอมยุทธผู้กล้าอีกเท่าใด ที่จะถูกสังเวยให้แก่ชัยชนะที่ไม่ใช่ของตน ?
๑๓."นครหมั่งก๊ก" ยามนี้หมองหม่นนัก มันได้แต่หวังให้ผู้อื่นทราบ เพราะลิ่วล้อยุทธจักรไร้ชื่ออย่างมัน ย่อมไม่ทราบ และไม่อาจทราบเสมอมา...
..........
ด้วยจิตคารวะ
ลิ่วล้อยุทธจักรไร้ชื่อ พฤหัสบดี ๗ มิถุนายน ๒๕๕๕
จากคุณ |
:
นายทิวา
|
เขียนเมื่อ |
:
7 มิ.ย. 55 23:29:47
|
|
|
|