วรมณขับรถกลับพร้อมกับอาการคลื่นเหียนเวียนหัว ร่างบางโซเซเข้ามาในตัวบ้าน อ่อนระโหยโรยแรงจนเด็กรับใช้ต้องรีบวิ่งมาประคองให้นั่งลงบนโซฟารับแขก ถามไถ่ด้วยความห่วงใย คุณเหมียวไปทำงานมาหนักขนาดนี้เลยเหรอคะ
เปล่าหรอก แทบไม่ได้ทำอะไรเลย ขอน้ำแก้วนึงสิ
ค่ะๆ รอแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวหนูไปบอกป้าแก้วก่อน
เจ้าของบ้านสาวสวยเอนหลังพิงพนัก สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกสติ นึกทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดได้ทุกฉากทุกตอนเสมือนกับว่าต่อให้ใช้เวลาทุกนาทีชีวิต เธออาจจะไม่มีวันลืมลง!
เขาแค่สั่งให้เธอเก็บเตียงนอนก่อนออกจาก Penthouse ไปด้วยสีหน้าเย็นชาเหมือนรูปปั้น ไม่นานจึงมีโทรศัพท์จากพนักงานต้อนรับด้านล่างว่า ให้เธอหาซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดครบชุด แล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่ในอีกวันหนึ่ง
เธอจึงแวะซื้อทุกอย่างที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองซึ่งเป็นทางผ่านมาเก็บไว้ท้ายรถ ก่อนจะตรงดิ่งกลับบ้านเพราะสมองจวนเจียนจะระเบิดเต็มที
แม่บ้านวิ่งกุลีกุจอมาดูแลวรมณพร้อมกับยื่นยาดมให้ตรงปลายจมูก เด็กรับใช้ตามติดมาพร้อมน้ำเปล่าเย็นจัดในแก้ว หญิงสาวพึมพำขอบคุณและรับมาดื่มอย่างกระหาย
อากาศมันร้อนนะคะคุณเหมียว ร้อนๆ แบบนี้เวียนหัวง่าย
แกน่าจะไปตรวจร่างกายเหมือนฉันนะ กันยาวีร์เยี่ยมหน้าเข้ามาทักยิ้มๆ หอบถุงพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือ
กลับมาตั้งแต่ตอนไหนน่ะ ไม่เห็นได้ยินเสียงเปิดประตู เพื่อนสนิทถามพลางเอนหลังพิงหนักและปิดเปลือกตาลง แล้วซื้ออะไรมาเยอะแยะ ว่างงานปุ๊บ ช้อปปิ้งปั๊บเลยนะ
เมื่อเช้าคุณฮาร์ทมารับค่ะ เด็กรับใช้เล่าด้วยสุ้มเสียงกระตือรือร้นระคนตื่นเต้น ตัวจริงล้อหล่อค่ะคุณเหมียว หนูเพิ่งเคยเห็นวันนี้เองค่ะ หล่อกว่าในทีวีตั้งไม่รู้กี่เท่า
เจ้าของเครื่องหน้าหมวยหวานระบายยิ้มกว้าง เอ่ยเล่าท่าทางสดชื่นเบิกบาน วันนี้พี่ฮาร์ทไม่มีคิวถ่ายละคร แล้วพรุ่งนี้ช่วงเช้าเขาก็สัญญาว่าจะมารับฉันไปกินของเช้าอร่อยๆ ที่ร้านประจำของเขาด้วยนะ ฉันมีความสุขจังเลยเหมียว
ไม่ต้องใช้ฉันเป็นแม่สื่อแล้วใช่มั้ย
ไม่ต้องแล้วย่ะ กันยาวีร์ว่าพร้อมตวัดค้อนคนที่กำลังหลับตาอยู่ พี่ฮาร์ทเขาคงรู้ว่าฉันชอบเขามาก ก็เลยอยากลองเสี่ยงกับฉันดูมั้ง แกว่าหน้าตาอย่างฉันเนี่ย พอจะเป็นแฟนดาราได้มั้ย
มาถึงขนาดนี้แล้ว แกจะถามให้มันได้อะไรขึ้นมา
โธ่! เหมียวอ่ะ ก็แกเป็นเพื่อนฉัน เพื่อนสนิทคนเดียวในปฐพีโลกที่ฉันมีเลยนะ ไม่ถามแกแล้วจะไปถามใครล่ะ
พี่ฮาร์ทของแกเขาชวนแกไปเดททุกวันแบบนี้ ถึงแกจะสวยหรือไม่สวย ก็เป็นแฟนดาราได้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องสงสัยเลย
เพราะคนมีความรักมัวแต่อยู่ในภวังค์ลุ่มหลงเคลิ้มฝัน จึงไม่ทันเห็นเพื่อนสุดซี้ลอบถอนหายใจเบาๆ
หนึ่งเดียวในวงสนทนาซึ่งขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น คือแม่บ้านสูงวัย หวนนึกถึงคืนที่วรมณออกไปรับประทานอาหารเย็นนอกบ้านกับสิระ หากกลับเข้ามาพร้อมผู้ชายอีกคนหนึ่ง
ผู้อาวุโสหญิงมองสลับไปมาระหว่างวรมณกับกันยาวีร์ ครุ่นคิดในใจ
หรือว่านี่คือสาเหตุที่คุณเหมียวมีอาการแบบนี้ โถแม่คุณของป้า...
แต่งตัวสวยๆ แล้วออกมาพบผมที่บ้านตอนหกโมงเย็น คุณนายป้าจะมาทานข้าวด้วย
วรมณอ่านข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์เคลื่อนที่ซ้ำไปซ้ำมาราวกับจะตอกย้ำว่า หน้าที่การงานปัจจุบันยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยแม้เพียงนิด
เธอกำลังหวังว่าเขาจะเปลี่ยนหวานใจกำมะลอให้กลายเป็นกันยาวีร์ไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ในเมื่อต่างฝ่ายต่างชอบพอกันดี มันน่าจะง่ายกว่าหากเขากับกันยาวีร์จะเล่นละครให้พิศมัยชมพร้อมกับเริ่มคบหากันจริงจัง ความสัมพันธ์คงดำเนินได้สวยไม่น้อยทีเดียว
วันอาทิตย์นี่มันวันหยุดงานของฉันแท้ๆ ทำไมคุณนายป้าต้องไปหาเขาวันนี้ด้วยนะ
ใช้เวลาโอดครวญไม่นาน เธอจึงผลุบหายเข้าไปในห้องเสื้อผ้า จัดแจงแต่งตัวแต่งหน้า ขับรถไปยัง Penthouse เรียบหรูซึ่งเธอเริ่มคุ้นเคยกับสถานที่ทีละนิด
เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นกระเบื้องเรียกสายตาคมกริบจากพิศมัยให้ละวางนิตยสารในมือ สำรวจใบหน้าหวานอมเปรี้ยวตกแต่งงดงาม ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยยุ่งๆ ปล่อยบางส่วนระแก้มและลำคอ ต่างหูเพชรน้ำงามเม็ดเล็กเป็นประกายระยับยามต้องแสงไฟจากโคมระย้า
ผู้สูงวัยกว่าพินิจเรือนร่างบอบบางหากสมส่วนอย่างชื่นชม เธอสวมชุดกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีโอโรสอมชมพู ขับผิวนวลให้กระจ่างน่ามอง กระเป๋า Chanel ใบเล็กพอเหมาะสะพายอยู่บนบ่า เข้ากันกับรองเท้าส้นสูงเปลือยส้นเท้าชนิดที่พิศมัยต้องยอมรับว่าสวยสมบูรณ์แบบ
สวัสดีค่ะคุณนายป้า วรมณพนมมือไหว้ด้วยกิริยานอบน้อม
อาหารเพิ่งมาถึงเมื่อกี๊นี้เอง แฟนเราไปจัดใส่จานอยู่ในครัว
ถ้าอย่างนั้น เหมียวขออนุญาตไปช่วยจัดอาหารนะคะ เสร็จแล้วจะมาตามคุณนายป้าค่ะ
หญิงสาวบอกพลางปลดกระเป๋าวางลงบนชั้นเหนือตู้ใส่รองเท้าสำหรับรับแขก ถอดรองเท้าเก็บเรียบร้อยแล้วจึงหันมายิ้มบางๆ ให้พิศมัย ผลุบหายเข้าใปในห้องครัวซึ่งอยู่ระหว่างบันไดกับโต๊ะรับประทานอาหาร
ร่างสูงยืนมองผลงานตรงหน้า อาหารเย็นทุกจานพร้อมสรรพเมื่อวรมณปรากฏกาย เธอไม่ได้เอ่ยทักเขา เพียงแต่เข้าไปช่วยยกออกมาวางเรียงไว้บนโต๊ะด้านนอก ชายหนุ่มจึงเดินตามออกไปเงียบๆ โดยไม่ปริปากเอ่ยอะไรสักคำ
พิศมัยเดินมานั่งที่หัวโต๊ะพร้อมหลานชาย วรมณยิ้มนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าเขาขยับเลื่อนเก้าอี้ให้อีกฝ่าย ท่าทางสุภาพเรียบนิ่งบ่งชัดว่าเขาทำเป็นประจำ ไม่ได้ต้องการเอาอกเอาใจเป็นพิเศษแต่อย่างใด
เมื่อนั่งกันครบ พิศมัยจึงผายมือมาทางวรมณ ทานกันเลยๆ สเต็กร้านนี้อร่อยเชียว กว่าจะได้กิน โทรสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
จวบจนหญิงสาวเริ่มหยิบจับมีดและส้อม ชิ้นเนื้อคำแรกเข้าปาก พิศมัยซึ่งลอบสังเกตมาตลอดจึงพยักหน้าลงยิ้มๆ คล้ายพึงใจ ค่อยรับประทานของตนเองบ้าง พร้อมกับเริ่มสัมภาษณ์กลายๆ
ได้ข่าวว่าพี่ชายของเหมียว ดูแลกิจการให้คุณพ่ออยู่รึ
ค่ะคุณนายป้า พี่สิงโตช่วยคุณพ่อดูแลคอนโดฯค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่แล้วก็น้องชายของเหมียวอยู่อเมริกาค่ะ น้องชายยังเรียนไม่จบ
สิระเขาแต่งงานแล้วนี่ แล้วเหมียวอยู่กับใครล่ะ
เหมียวอยู่กับเพื่อนค่ะ ชื่อโยโย่ วรมณยิ้มบางๆ จิบน้ำอึกหนึ่งก่อนจะถามพิศมัย คุณนายป้ารู้จักพี่สิงด้วยเหรอคะ
ไม่ใช่รู้จักแค่สิระนะ ป้าน่ะรู้จักคุณพ่อของเราด้วย คนแก่เขาทำธุรกิจร่วมกันมานานแล้ว นี่แฟนเราเขาไม่เล่าเลยรึยังไง ว่าคอนโดฯ ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อของสิระ สั่งเฟอร์นิเจอร์จากบริษัทของป้า
วรมณตักสลัดพอดีคำด้วยส้อม เหลือบมองคนตรงข้ามซึ่งยังคงไม่แสดงอารมณ์ใดทางสีหน้า ได้ยินเขาเอ่ยเรียบๆ ยังไม่มีโอกาสได้เล่าครับคุณนายป้า
ไม่มีโอกาสเล่าหรือลืมจ๊ะ พิศมัยปรายตาตำหนิหลานชาย หันมาเล่าต่อกับวรมณ หลังๆ มานี่ป้าก็เที่ยวบ่อย กว่าครึ่งของโรงงาน ก็ได้พ่อหนุ่มคนนี้ล่ะคอยดูแล เขาถึงได้รู้จักกับสิระ นับถือกันเสมือนพี่น้อง ถ้าเหมียวแต่งงานเข้ามา จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะ
หากเธอกำลังดื่มน้ำ วรมณมั่นใจว่าคงจะสำลักแน่นอน แปลกใจที่พิศมัยไม่ระแคะระคายเลยว่าเธอกับชายหนุ่มอยู่ในระยะหมางเมิน ไม่คุยกันสักคำ!
เมื่อกี๊เหมียวบอกว่าอยู่กับเพื่อนชื่อโยโย่เหรอ
ค่ะคุณนายป้า
แล้วทำไมมาอยู่บ้านเดียวกันได้ล่ะ พ่อแม่ของโยโย่ไปไหน
คุณพ่อกับคุณแม่ของโยอยู่นิวซีแลนด์ค่ะ ย้ายไปตั้งแต่ตอนโยเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย กลับมาเมืองไทยก็อยู่กรุงเทพนับวันได้เลยค่ะ ออกต่างจังหวัดไปดูที่ดินตลอด
แล้วกัน อย่างนี้ใครดูแลโยโย่ล่ะ
ตอนแรกมีปัญหากันแทบแย่ค่ะ โยไม่ยอมไปนิวซีแลนด์ ยังไงก็ยืนยันจะเรียนที่เมืองไทยให้ได้ ครอบครัวเหมียวกับโยสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อกับคุณแม่ของเหมียวก็เลยขอให้โยมาอยู่กับเหมียวที่บ้าน ช่วงนั้นพี่สิงยังไม่ได้แต่งงานค่ะ พอพี่สิงแต่งงาน ก็ซื้อบ้านใหม่ เหมียวเลยอยู่กับโยแค่สองคนค่ะ
แปลกจังนะ ลูกสาวคนเดียวอยู่เมืองไทยแท้ๆ ทำไมถึงไม่อยู่ด้วยกันที่นี่ล่ะ
คุณแม่ของโยเคยประสบอุบัติเหตุ รักษาจนเหมือนจะหายดีค่ะ แต่หลังจากนั้นก็มีอาการปวดศีรษะบ่อย บางทีปวดเป็นวันๆ จนไข้ขึ้น คุณหมอที่รู้จักกันเขาแนะนำให้ไปรักษากับแพทย์ท่านนึงซึ่งอยู่ประเทศนิวซีแลนด์ ไปๆ กลับๆ กว่าครึ่งปีได้ค่ะ คุณพ่อของโยเลยตัดสินใจซื้อที่ดิน ปลูกบ้านที่นั่น แล้วก็พาคุณแม่ของโยไปรักษายาวเลยค่ะ โยก็ไปนิวซีแลนด์ทุกๆ ปิดเทอมตั้งแต่นั้นมา
สิ้นสุดอาหารเลิศรสสำหรับมื้อเย็น พิศมัยจึงขอตัวกลับ เรียกวรมณมาโอบเบาๆ ก่อนจะเข้าไปในลิฟต์ สร้างความประหลาดใจให้กับทั้งคนถูกกอดรวมถึงชายหนุ่มซึ่งยืนอยู่ไม่ห่าง
คล้อยหลังคุณนายป้าของเจ้านาย วรมณค่อยเดินหายเข้าห้องครัวอย่างรู้หน้าที่ จานทุกใบบนโต๊ะอาหารถูกเรียงซ้อนกันอยู่ข้างอ่างบนเค้าท์เตอร์สำหรับล้างจานชามและแก้วน้ำ มือเรียวเล็กบรรจงหยิบมาจัดการทีละใบจนเสร็จพร้อมใช้ผ้าสะอาดเช็ดแห้ง คว่ำไว้ในลิ้นชักเรียบร้อย
เหลือช้อนส้อมและมีดวางนอนอยู่ แม่บ้านซึ่งควบตำแหน่งลูกหนี้จึงถอนหายใจเบาๆ ไม่วายบ่น อยู่บ้านตัวเองไม่เห็นต้องล้างเลย
เธอหยิบมีดหั่นเนื้อมาล้างด้วยน้ำยาล้างจาน เพราะมัวแต่นึกโทษชะตาฟ้าดินที่ส่งความโชคร้ายยัดเยียดมาให้กลายเป็นคนทำงานบ้านคนอื่น วรมณจึงไม่ทันสังเกตว่าใครอีกคนยืนอยู่ด้านหลัง รู้ตัวอีกที เมื่อเสียงทุ้มต่ำลอยมากระทบโสตประสาทคล้ายจะเยาะ
งั้นคุณก็ควรจะรีบๆ ล้าง แล้วก็รีบๆ กลับบ้าน
ฉันรู้แล้วล่ะค่ะ ว่าไม่ควรจะอยู่แถวนี้นานๆ หญิงสาวกัดฟันต่อปากต่อคำ พร้อมกับล้างอุปกรณ์รับประทานอาหารอย่างกระแทกกระทั้นราวกับจงใจให้เขารู้ว่าเธอหงุดหงิด
ทว่ามีดเล่มบางยังคงอยู่ในมือเล็กๆ และเธอลืมไปสนิทว่ามันคมไม่ใช่เล่น!
เสียงใสร้องครางในลำคอ ก้มหน้าลงมองปลายนิ้วชี้กับนิ้วกลางด้านขวาซึ่งถูกบาดเป็นรอยขวาง เลือดหยดแล้วหยดเล่าไหลร่วงลงไปในอ่าง ผสมปนเปกับฟองของน้ำยาล้างจานและน้ำจากก๊อกที่เธอเปิดทิ้งไว้ วรมณกัดริมฝีปากเพื่อข่มความเจ็บแปลบบริเวณบาดแผล เหมือนเขาจะยังไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ และแน่นอนว่าเธอจะไม่มีทางร้องขอความช่วยเหลือจากมนุษย์เย็นชาไร้น้ำใจเด็ดขาด...
ช้อนส้อมและมีดถูกเช็ดให้แห้งรวดเร็ว ก่อนที่วรมณจะคว้าผ้าสะอาดผื่นใหม่มาหุ้มปลายนิ้วเพื่อซับเลือด ร่างบางเดินลิ่วผ่านชายหนุ่มไปเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุไม่มีตัวตน
เพราะมือขวาใช้งานไม่ได้ เธอจึงต้องใช้มือซ้ายช่วยสวมรองเท้าอย่างทุลักทุเล นึกโทษตนเองที่เลือกรองเท้าซึ่งใส่ค่อนข้างยาก กว่าจะเสร็จเล่นเอาเกือบเหงื่อตก
แม่บ้านสาวสวยเดินมาหยุดรอลิฟต์ หันไปสำรวจรอบ Penthouse ไม่พบแม้แต่เงาของเจ้าหนี้ เธอจึงไหวไหล่ราวกับไม่ใคร่สนใจหรือรู้สึกอะไร ก่อนก้าวเข้าลิฟต์ทันทีเมื่อประตูเปิดออก ร่างบางระหงกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับไปยังรถยนต์ ประจำที่คนขับได้ค่อยนำผ้าพันแผลชั่วคราวออก พบว่าเลือดยังคงไหลโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด บาดแผลลึกลงไปพอสมควร หนำซ้ำยังโดนบาดทั้งนิ้วชี้และนิ้วกลาง
ไปโรงพยาบาลก็แล้วกัน!
จากคุณ |
:
zjoyz
|
เขียนเมื่อ |
:
9 มิ.ย. 55 13:37:59
|
|
|
|