13/1
ท่าอากาศยานแห่งชาติในกรุงซุตซูมีผู้คนบางตาจากเหตุความไม่สงบภายในประเทศ เจคมองหาร่างระหงของน้องสาวเจอโดยง่าย เจ้าหล่อนสวมกางเกงผ้าทะมัดทะแมงและสวมเสื้อคลุมซาฟารีทับเสื้อกล้ามตัวใน กำลังก้าวย่างอย่างแข็งขันมาทางเขาเช่นกัน
ไม่มีการสวมกอดต้อนรับนอกจากกำปั้นสวนไปเขกศีรษะทุยของคนที่รบกวนเวลาของเขาแต่เช้าหนึ่งที พร้อมกับแข้งขาเรียวของอีกฝ่ายเตะหน้าแข้งเขากลับมา
ทำอย่างนี้กับผู้มีพระคุณเรอะ เขาโวย
ลลิลดาฉีกยิ้มหน้าเป็น คล้องแขนประจบพี่ชายในที เท่านี้คนพี่ก็มันเขี้ยวเสียจนต้องโอบไหล่หญิงสาวแรงๆ ขณะพาเดินไปด้วยกัน
กระเป๋าใบเท่านี้จะพออยู่ที่นี่ถาวรหรือ เขาถามพลางบุ้ยใบ้ไปยังกระเป๋าล้อลากเพียงใบเดียวของอีกฝ่าย
ใครว่าฉันจะมาอยู่ที่นี่ตลอดไปล่ะ
อย่าเลย ลงว่าเธอลาออกจากงานเพื่อมาหาเขาล่ะก็ เธอรู้แก่ใจดีว่าเลือกอนาคตตัวเองอย่างไร ชายหนุ่มเอ่ยจริงจังขึ้นมา รักเขามากหรือ
ห่วง ลลิลดาตอบกลับทันควัน ก่อนเสริมเสียงอ่อย แล้วก็คงจะรัก ถ้าเขาทำให้รัก
เจคโคลงศีรษะน้องสาว ขนาดคาชาลคนตัวเปล่าเล่าเปลือยยังสร้างความประทับใจแก่ลลิลดาได้ แล้วบุรุษคนเดิมที่ตอนนี้เพียบพร้อมทุกอย่าง มีหรือเขาจะไม่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ความรักจากเธอ คำตอบของอนาคตเป็นอย่างไร ทุกคนต่างทราบดี
เรานี่แปลกคน น่าจะตกลงกันให้เรียบร้อยตั้งแต่เขาไปหาเธอถึงที่ ทำแบบนี้เหมือนหนีตามผู้ชาย
ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ต้องให้มีการสูญเสียก่อนหรือถึงคิดได้
ฉันเสียใจ ฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองต้องการอยู่เคียงข้างเขา จนกระทั่งวันที่เขาไม่เหลือใคร น้องสาวย่นจมูกกับคำตำหนิแรงๆ ของพี่ แต่แล้วก็นึกได้ เอ๊ะ พี่รู้ได้ไงว่าคาชาลไปหาฉัน
เขาเล่าเรื่องที่วิคเตอร์มาตีสนิทเพื่อสอบถามความเป็นไปของเธอ ทีแรกเขาขุ่นเคืองอยู่หรอก แต่นานเข้าก็คุยกันถูกคอและกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด เว้นแต่คนรักของน้องที่เขาไม่สนิทใจเสียทีเดียว
เขาเป็นคนอ่านยาก เจคเอ่ยปิดท้าย
ทว่าลลิลดากลับเห็นตรงกันข้ามและยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ คิดเข้าข้างตัวเองว่าคาชาลคงเต็มใจเปิดเผยความรู้สึกต่างๆ เฉพาะกับเธอ
ตกลงให้ไปส่งโรงแรมใช่ไหม จองไว้กี่คืนล่ะเรา
สองค่ะ วิคเตอร์จองไว้
แล้วหลังจากนั้นล่ะ
เขาคงให้ฉันไปอยู่กับพี่นั่นแหละ ใครจะมาหมดเปลืองเพราะคนอื่นเล่า
ไม่จริงกระมัง เขาว่ายิ้มๆ
อีกฝ่ายไม่ทันสนใจด้วยมัวแต่ยกกระเป๋าไว้เบาะหลัง การตัดสินอนาคตขึ้นกับหญิงสาวคนเดียว เขาเห็นใจในความสูญเสียของคาชาลไม่น้อยในฐานะเพื่อนมนุษย์ เมื่ออดีตมัคคุเทศก์ปรึกษาเชิงขออนุญาตติดต่อลลิลดา เขาจึงนิ่งเสียและปล่อยให้วิคเตอร์ดำเนินการไป แล้วเขาก็เดาใจเจ้าหล่อนไม่ผิดเสียด้วยซี
ห่วงก็แต่อนาคตชีวิตคู่บนเส้นทางการเมืองซึ่งไม่แน่นอน เจคนึกถึงจิตใจตนเอง แล้วก็ได้คำตอบว่าเวลาเช่นนี้เขาย่อมต้องการจะอยู่เคียงข้างคนรักมากที่สุด ลลิลดาก็เช่นกัน
................................
หญิงสาวในเครื่องแต่งกายทะมัดทะแมงทิ้งกระเป๋าเดินทางไปทาง ถอดเสื้อนอกโยนไปอีกทาง ทันทีที่มาถึงห้องพักสุดหรูในโรงแรม ก่อนร่างบางจะทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียง การเดินทางไกลหลายชั่วโมง ซ้ำยังต้องแวะพักต่อเครื่องนั้นสาหัสสากรรจ์ไม่น้อย ร่างกายจึงอ่อนล้าเต็มที
แต่แล้วเธอก็ต้องเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง คำสอนของแม่เรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อยดังก้องในโสตประสาทขณะกำลังเคลิ้มหลับ จนต้องรีบเก็บข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง แล้วต่อสายถึงท่านด้วยความคิดถึงจับใจ
ลลิลดาใช้เวลาช่วงเช้าไปกับการพักผ่อน วันนี้เป็นวันทำการราชการ เธอจึงรีรอที่จะติดต่อวิคเตอร์กลับไป ทว่าเพียงเที่ยงวันพนักงานโรงแรมก็ได้โอนสายจากภายนอกเข้ามายังห้องพักเธอ
อดีตมัคคุเทศก์กล่าวขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาทำให้เธอนึกถึงชายผู้นอบน้อมคนเดิม ผิดกับภาพลักษณ์ของคาชาลซึ่งเปลี่ยนแปลงไป วิคเตอร์ทราบว่าเธอเดินทางมาถึงเพราะตรวจสอบกับสายการบินที่เขาส่งตั๋วไปให้ และโรงแรมซึ่งเขาจองไว้นั่นเอง
เย็นนี้หลังเลิกงานผมจะไปรับมิสที่ล็อบบี้โรงแรมนะครับ แล้วผมจะโทรขึ้นไปอีกที
หัวใจคนฟังตีลังกาเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยถึงกำหนดการที่จะพบคาชาลเป็นครั้งแรก
มิสแต่งตัวสวยๆ นะครับ ให้มันตะลึงว่านางฟ้ามาโปรดทีเดียว
หญิงสาวหัวเราะกับคำสั่งเสียนั้นอย่างไม่ใส่ใจ แต่เมื่อเวลากระชั้นเข้ามา ลลิลดากลับร้อนรนที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของอีกฝ่าย ค้นหาชุดกระโปรงชิ้นเดียวที่เธอมักจัดติดกระเป๋าเวลาออกเดินทางเผื่อต้องร่วมงานสังสรรค์ เธอทาบชุดเดรสสั้นสีครีมกับตัวหน้ากระจก แล้วก็ให้ขัดเขินขึ้นมาเมื่อคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอแต่งตัวสวยสมกุลสตรีต่อหน้าเขา ไม่ใช่ชุดทะมัดทะแมงสำหรับท่องเที่ยวเหมือนทุกครา
ลลิลดาไดร์ผมซอยสั้นของตนเป็นลอนน้อยๆ เธอแต่งหน้าบางๆ พอให้เข้ากับเครื่องแต่งกาย ขณะเดียวกันกับที่เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น
................................
ยามเย็นของเมืองหลวงพลุกพล่านด้วยคนทำงานที่กำลังเดินทางกลับบ้าน นักท่องเที่ยวสาวมองบรรยากาศบ้านเมืองผ่านกระจกรถยนต์ซึ่งเคลื่อนออกจากตัวเมืองเรื่อยๆ หลังวิคเตอร์ไปรับเธอจากโรงแรม แต่แล้วลลิลดาก็หมดความสนใจต่อสิ่งต่างๆ เมื่อบ้านเรือนสองข้างทางเริ่มเว้นช่วงห่างกัน ถนนหนทางมืดลงตามช่วงเวลาโพล้เพล้ มองเห็นทางข้างหน้าได้จากไฟหน้ารถเท่านั้น
ความคิดคำนึงของเธอกลับมาพะวงกับการพบเจอคาชาลในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ในอกในใจหวิวโหวงราวหัวใจนำทางไปอยู่ที่เขาแล้วตั้งแต่ออกเดินทาง
กระทั่งรถมาหยุดยังหน้ารั้วสีขาวสูงใหญ่ เด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาเปิดอย่างจำแขกผู้มาเยือนได้ดี หญิงสาวมองทางเข้าซึ่งลาดยาวไปถึงตัวบ้านอย่างตะลึงพรึงเพริด จนต้องหันไปถามกับผู้พามา
คุณพาฉันมาที่ไหนน่ะ วิคเตอร์
บ้านคาชาลไงครับ หมอนี่มันชอบที่โล่ง เลิกร่อนเร่ทั้งทีก็ต้องมีบ้านที่มีเนื้อที่มากหน่อย จริงไหมครับ เขากล่าวกลั้วหัวเราะ
เธอแลเลยไปยังบ้านทรงกลมชั้นเดียวสีขาว ลักษณะคล้ายกระโจมชาวทิชกู แต่มีปีกอาคารยื่นออกมาสองข้าง ปลูกสร้างอยู่กลางสนามหญ้าโล่งเตียน แล้วก็ไม่อยากเชื่ออยู่นั่นเองว่านี่คือบ้านของคาชาลหรือคนธรรมดาคนไหนๆ มันเกินฐานะมากไปจนเผลอหวาดระแวงว่าเขาได้มันมาด้วยความสุจริตหรือไม่ หากเธอต้องเก็บความเคลือบแคลงไว้ในใจ เมื่อวิคเตอร์อ้อมมาเปิดประตูรถเชื้อเชิญ
คาชาลอยู่ใช่ไหม บอกเขาว่าฉันมาพบ เขาสั่งกับเด็กอีกคนหนึ่ง
ชายหนุ่มผายมือเชิญเธอไปยังห้องรับแขกอย่างคุ้นเคยกับส่วนต่างๆ ในบ้านหลังนี้ดี ลลิลดานั่งรอเจ้าของบ้านบนโซฟาหนังแท้สีน้ำตาลด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ เธอไม่ได้สำรวจภายในบ้านดังใจคิด เพราะมัวแต่ลุ้นระทึกว่าคาชาลจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหากเห็นเธอ
ทว่าเด็กรับใช้คนเดิมกลับเป็นฝ่ายเดินเข้ามาอีกครั้ง ยาโบให้เชิญท่านรองฯ ไปพบที่ห้องทำงานได้เลยขอรับ
ไฮ้! ไม่ได้ซี ให้เขามาที่นี่ บอกว่าฉันมีแขกมาด้วย
แขกสาวหัวเราะเสียงขื่นในใจ เธอเพิ่งรู้ว่าการจะพบเขาสักทีนี่ช่างวุ่นวายเสียจริง ยากลำบากกว่าคราวที่เธอดั้นด้นหาที่อยู่เขาในรัสเซีย และยังแตกต่างกับการที่เขาดักพบเธอได้ง่ายดายทั้งหน้าบ้านและที่ทำงานในอเมริกา
ไม่นานร่างสูงในชุดทำงานก็ปรากฏกายหน้าประตู เขาดูทรุดโทรมลงกว่าตอนเจอกันครั้งสุดท้าย ดวงตาลึกโหลแลเลยมายังแขกบนเก้าอี้ยาว ก่อนประกายตาที่เธออ่านไม่ออกจะฉายขึ้นวูบหนึ่ง
คุณ...มาที่นี่ได้อย่างไร
เขามองเธอสลับกับรุ่นพี่ แล้วใบหน้าเซียวก็ขึ้นสีเข้ม
อย่ามองข้าแบบนั้นซีวะ คนเขาอุตส่าห์หวังดี ทนเห็นแกทำตัวเป็นคนไร้จิตวิญญาณต่อไปไม่ได้ ไม่รู้เรอะ ใครๆ เขาลือว่าแกจะเป็นบ้าเสียก่อน
ใคร ใครมันพูด อีกฝ่ายย้อนเสียงขม ข้าจะไปเราะฟันมันออกจากปากให้หมด
ดร. อูราล วิคเตอร์แทบยืดอกตอบ ไง แกยังจะไปเราะฟันท่านอีกไหม
คาชาลนิ่งงัน คิ้วเข้มขมวดอย่างใช้ความคิดว่าตนบกพร่องสิ่งใดจึงทำให้ใครต่อใครมองเขาเช่นนั้น ในเมื่อนับแต่พี่จากไป เขาก็ทุ่มเทกำลังแรงกายทั้งหมดลงกับงาน สานต่อเจตนารมณ์ของนิโก้ที่ต้องการเห็นชาวคาซานทุกคนได้รับสิทธิและโอกาสอันเท่าเทียม
เขายังคิดไม่ออกว่าตนแสดงความอ่อนแอจนคนลือกันไปอย่างนั้นได้อย่างไร หากการโหมงานอย่างบ้าคลั่งของเขานี่แหละที่สร้างความสะเทือนใจแก่คนใกล้ชิด ทุกคนทราบดีว่าชายหนุ่มทำเช่นนั้นเพราะต้องการกลบความเสียใจ เสียศูนย์ต่อการจากไปกะทันหันของสมาชิกครอบครัวคนสุดท้าย
น้องข้า ไม่ใช่เรื่องน่าอายกับการที่เราได้รับความเห็นใจจากผู้อื่น นั่นเพราะแกมีความหมายต่อพวกเรา วิคเตอร์บีบไหล่รุ่นน้องพร้อมกับเอ่ยเสียงจริงจัง ข้าพาครอบครัวของเจ้ามาส่งแล้ว ขอจงรักษาให้ดี
ร่างท้วมดึงอีกฝ่ายมาสวมกอดก่อนออกจากห้องไป ทิ้งไว้แต่สองหนุ่มสาวให้มองตากันด้วยความไม่แน่ใจ
ลลิลดาผิดหวังลึกๆ ที่คาชาลมิได้ยินดียินร้ายกับการมาของเธอดังเช่นครั้งที่เธอไปปรากฏกายต่อหน้าเขาในรัสเซีย ซ้ำยังสูญเสียความมั่นใจไม่น้อยเมื่อตนบรรจงแต่งตัวเสียสวยงามเพื่อให้เขาประทับใจ แต่ก็ไร้ปฏิกิริยาใดๆ
ความอึดอัดขัดเขินปกคลุมห้องรับแขกโอ่โถง ทั้งสองกระแอมขึ้นพร้อมกัน
คุณไม่น่ามาที่นี่...
ในที่สุดเจ้าบ้านก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบด้วยประโยคซึ่งลิดรอนลมหายใจหญิงสาวไป เธอเจ็บราวสายฟ้าแล่นผ่ากลางหัวใจ
ใช่ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เธอเชิดหน้าขึ้นพลางเอ่ยเสียงขึ้นจมูก ฉันน่าจะรู้ว่าหากเธอต้องการสิ่งใด เธอย่อมขวนขวายมันมาเอง ขอบใจนะคาชาลที่ช่วยยืนยันว่าฉันคิดถูก
ลลิลดาตัดสินใจฉวยกระเป๋าถือใบเล็กของตนแล้วเดินผ่านอีกฝ่ายไปทันทีที่พูดจบ คาชาลตะลึงงันกับการกระทำนั้น ไวกว่าความคิด ขายาวก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็ทันสวมกอดร่างบางจากทางด้านหลัง ก่อนเจ้าหล่อนจะออกจากห้องไป
ลิลลี่ ฟังก่อน ได้โปรด... เขาพึมพำกับลาดไหล่เนียนของเธอ สัมผัสได้ถึงร่างกายอันสั่นเทาในอ้อมกอดตน
ปล่อย เสียงเครือเอ่ยสั่ง
ไม่ ผมจะไม่ยอมสูญเสียอีกแล้ว โดยเฉพาะคุณ เขาโต้กลับทันควันแล้วรัดอ้อมแขนแน่นเข้าอีก
หญิงสาวทำเสียงขึ้นจมูก เย้ยหยันทั้งเขาและตนเองที่เริ่มใจอ่อนลง เออหนอ เธอต้องเสียใจเพราะพ่อคนความรู้สึกช้าคนนี้อีกนานเท่าไร กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เขาทำเธอเสียใจแล้วจึงคิดได้ ที่น่าโมโหที่สุดคือคนเจ็บแล้วไม่จำอย่างเธอ
คาชาล ปล่อย... ลลิลดากลั้นใจเอ่ยเสียงแข็ง พยายามเอียงคอหนีริมฝีปากของเขาซึ่งเริ่มพร่างพรมจุมพิตบนไหล่เปลือยของตน
คุณต้องสัญญาก่อนว่าจะฟังผม เมื่อกี้ผมยังพูดไม่จบคุณก็หุนหันขึ้นมา
ก็ได้ ปล่อยสิ
คาชาลหมุนร่างเจ้าหล่อนมาเผชิญหน้า ปลายจมูกรั้นแดงเรื่อทำให้เขานึกตำหนิตัวเอง
ที่ผมบอกว่าคุณไม่ควรมาที่นี่ เพราะมันไม่ปลอดภัย ประเทศของเรายังไม่สงบเรียบร้อย คนของนายพลวายุ้คยังคิดแค้นเรา ผมไม่ต้องการดึงคุณมาลำบากหรือเสี่ยงชีวิตเลย
เธอดูถูกน้ำใจฉันเกินไป เธอเข้าใจคำว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขไหม จะให้ฉันรอรับความรักจากเธอฝ่ายเดียว ฉันทำไม่ได้หรอกคาชาล เพราะคนแบบนั้นคือคนเห็นแก่ตัวที่สุด และไม่คู่ควรกับความรักของใครเลย
มิส... ครั้งนี้เขาเรียกเธอด้วยความยกย่องอย่างแท้จริง
ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งช่างมีความรักที่ยิ่งใหญ่ เขาเคยได้รับความรักจากเธอในฐานะเพื่อนมนุษย์ และวันนี้เธอได้พิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่าเมื่อเขาและเธอมีใจตรงกัน เธอก็พร้อมเสียสละความสุขสบายมาร่วมหัวจมท้ายกับเขา
ลำคอเขาพลันตีบตื้อขึ้นมาด้วยความรัก บูชาท่วมท้นหัวใจ ชายหนุ่มจุมพิตปลายนิ้วของเจ้าหล่อน อันเป็นการกระทำที่ชายชาวทิชกูปฏิบัติเพื่อแสดงความให้เกียรติสูงสุดแก่ผู้หญิงของพวกเขา
เว้นแต่เธอจะมีคนเคียงข้าง ฉันจะได้สบายใจ
ผมไม่มีใคร ไม่มีใครสักคน
แล้วเธอยังคิดว่าฉันไม่ควรมาที่นี่อีกไหม
ไม่ครับ ถึงมิสจะกลับ ผมก็ไม่ยอมและจะขัดขวางอย่างถึงที่สุด
ลลิลดาย่นจมูกใส่คนเปลี่ยนท่าทีฉับไว เธอยอมให้เขาดึงร่างตนเข้าสู่อ้อมกอดและกอดตอบเขาเช่นกัน ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขามันมากมายเกินกว่าจะยึดถือเอาความขุ่นเคืองเป็นสำคัญ
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
10 มิ.ย. 55 11:30:28
|
|
|
|