Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผู้ทอแสง [บทที่ 2 รอยยิ้มของคิริล] ติดต่อทีมงาน

บทนำ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12162460/W12162460.html
บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12170224/W12170224.html

บทที่ 1 มีปรับนิดหน่อยให้กระชับขึ้น แต่ใจความสำคัญคงเดิม ถ้าเคยอ่านไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอ่านใหม่ค่ะ ไม่แน่ใจว่าการปรับเนื้อหาหลังจากลงไปแล้วแบบนี้เสียมารยาทหรือเปล่า ถ้าเสียมารยาทก็ขอโทษด้วยนะคะ จะพยายามไม่ให้เป็นแบบนี้อีกค่ะ

-----------------------------------------------------------------

อเรียนน่ากำลังหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง

เด็กสาวนั่งรากงอกอยู่ในห้องประชุมนี้มาเกือบครึ่งคืนแล้ว และคงไม่ได้ลุกออกไปจนกว่าการลงมติจะเสร็จสิ้นและปิดประชุม เธอถอนใจเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน พยายามทำหูทวนลม จะได้ไม่ต้องฉุนมากไปกว่านี้ หากไม่ได้ผลนัก เพราะเหตุแห่งความหงุดหงิดยังคงลอยมาเข้าหู

"หากเด็กสาวคนนั้นไม่ใช่ผู้ทอแสง เจ้าชายอาเธลคือผู้ที่สมควรไปตามรอย" ผู้ร่วมโต๊ะที่อยู่ห่างเธอออกไปไม่มาก เอ่ยขึ้น เขาเป็นชายสูงวัยตัวอ้วนกลม หน้าอูมอย่างคนกินดีอยู่ดี "หากไม่ใช่เจ้าชายแล้วจะเป็นใคร"

แหม เด็กสาวอุทานในใจ ถามมาได้นะเจ้าคะ ท่านเสนาบดีพลเรือนคนเก่ง คนที่เหมาะสมกว่าน้องชายเธอมีเป็นร้อย นักเวท ทหารพราน ผู้ใหญ่ฝีมือดี ๆ ก็ส่งไปสิ เรื่องอะไรจะให้เด็กตัวเล็กนิดเดียวไปผจญภัยเสี่ยงตาย

"แต่เจ้าชายเพิ่งจะสิบหกชันษาเท่านั้น ไม่ควรให้ออกไปเสี่ยงอันตราย" หัวหน้าราชองครักษ์แย้ง ทำให้พี่สาวของคนที่ถูกกล่าวถึงอารมณ์ดีขึ้นนิด

อย่างน้อยในสภาสูงก็ยังมีคนมีหัวคิด เสียแต่คิดเป็นอัตราส่วนได้น้อยไปหน่อย เสียงแย้งคำพูดของหัวหน้าองครักษ์จึงตามมาอีกเป็นพรวน

ตอนที่ทีแลนรายงานมาว่าพบตัวเด็กสาวที่น่าสงสัยว่าจะเป็นผู้ทอแสง อเรียนน่าโล่งอกว่าจะได้หมดเรื่องและเลิกเถียงกันเสียที ทว่ามีบางคนในที่ประชุมเสนอขึ้นมาว่าควรหารือกันต่อไป เผื่อไว้ในกรณีที่เด็กคนนั้นไม่ใช่ผู้ทอแสง การประชุมจึงยืดเยื้อมาจนถึงบัดนี้ ซ้ำยังเป็นไปในแนวทางที่ขัดใจอเรียนน่าเหลือเกิน

เจ้าหญิงองค์รองแห่งวินเดเมียร์กลอกตาขึ้นเพดานอย่างเบื่อ ๆ อยากเข้าไปช่วยหัวหน้าองครักษ์เถียงใจแทบขาด แต่เธอทำไม่ได้ จริงอยู่ว่าพ่อของเธอเป็นกษัตริย์ และเธอเป็นเจ้าหญิง สมควรบัญชาการขุนนางได้ หากกฎมณเทียรบาลมีอยู่ว่า ในเรื่องที่เกี่ยวโยงกับเชื้อพระวงศ์โดยตรง กษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ทั้งหมดจะต้องปฏิบัติตามมติของสภาสูงโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น แน่นอนว่าแย้งในที่ประชุมก็ไม่ได้ ได้แต่ฟัง เก้าอี้ที่นั่งยังถูกแยกออกมาเสียห่างจากโต๊ะประชุมด้วยซ้ำ ท่านพ่อและท่านแม่เธอนั่งอยู่แถวหน้า เธอนั่งถัดมาด้านหลัง

และอเรียนน่าก็คิดว่ามันประสาทสิ้นดี ท่านพ่อของเธอบงการชีวิตของคนทั้งปวงในดินแดนได้ ทว่าเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองและครอบครัวไม่ได้ ไม่รู้ใครตั้งกฎบ้า ๆ แบบนี้ขึ้นมา

แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่เดือดร้อนล่ะนะ...เด็กสาวเหลือบมองไปทางขวา พี่ชายซึ่งนั่งถัดไปจากเธอกำลังโขกหมากรุกอยู่เงียบ ๆ  คู่ต่อสู้คือแพทย์หลวงซึ่งอเรียนน่าไม่เข้าใจนักว่ามาอยู่ในที่ประชุมนี้ด้วยเหตุอันใด แพทย์หลวงเกี่ยวอะไรกับสภาสูง และการที่ไม่มีใครคัดค้านเมื่อเขาเข้าร่วมประชุม ก็ยังเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อพบตัวเด็กสาวความจำเสื่อมและต้องมีการตรวจร่างกาย จึงกลายเป็นว่าหมอประจำพระราชวังอยู่ถูกที่ถูกเวลาพอดี...ราวกับคะเนการณ์ได้ล่วงหน้า

หมอนี่จะหูผีจมูกมดไปถึงไหนกัน

แพทย์หลวงคิริลอาจรู้สึกถึงสายตาขวาง ๆ ของเด็กสาว จึงเงยหน้าขึ้นจากกระดานหมากรุกและส่งรอยยิ้มลึกลับซึ่งเป็นเหมือนเอกลักษณ์ประจำตัวมาให้ รอยยิ้มที่ดูราวกับว่าเจ้าของของมันอ่านเธอได้ทะลุและกำลังขบขันกับอะไรบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ มันทำให้อเรียนน่าหงุดหงิดยิ่งขึ้น และเริ่มเบนเป้าความอาฆาตไปยังพี่ชาย...เจ้าชายเอธาน... ซึ่งเล่นหมากรุกสบายอารมณ์ ไม่มีท่าทีว่าจะเป็นห่วงน้องชายคนเล็กเลย ทั้งที่เธอแทบจะประสาทกินแล้วแท้ ๆ

หากเมื่อพี่ชายหันมามองและยิ้มแห้ง ๆ ส่งมาให้เหมือนเขิน โทสะใด ๆ ในใจของเด็กสาวก็ปลาศนาการไปทันที

ไม่ใช่เพราะพี่ชายยิ้มให้ หากเป็นเพราะเธอเห็นว่ามือของเอธานซึ่งจับตัวหมากรุกอยู่นั้นไม่มั่นคงนัก ดวงตาสีม่วงใสของพี่ชายแม้มองผาด ๆ จะสงบและอ่อนโยนเช่นในยามปกติ หากมันแฝงความกังวล และหวั่นกลัวไปพร้อมกัน

เด็กสาวถอนใจ พี่ก็คงกำลังเป็นห่วงอาเธลในแบบของพี่

การถกเถียงในห้องประชุมเงียบลงทันควันเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ นักเวทหลวงซึ่งอยู่ใกล้ประตูที่สุดก้าวพรวด ๆ ไปเปิด และเอ็ดลั่นเมื่อเห็นว่าใครคือผู้มาใหม่

"ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนของเจ้ามา หา ทีแลน เจ้าควรกลับมาตั้งแต่ชั่วยามที่แล้วไม่ใช่หรือ"

คนโดนเอ็ดทำคอย่น หากยังยิ้มหน้าเป็น

"ข้าไม่ผิดนะพ่อ ถ้าจะโทษก็ไปโทษแม่สาวน้อยโน่น กลัวภูตข้าเสียจนไม่ยอมให้ข้าพาเดินทาง ต้องกล่อมกันอยู่ตั้งนาน จนป่านนี้ก็ยังไม่หายกลัว ไม่ยอมพูดยอมจา" ทีแลนว่าพลางบุ้ยใบ้ไปข้างหลัง อาเธลยืนอยู่ตรงนั้น มีลูมินัสกำชายเสื้อไว้แน่นและหลบอยู่หลังเขาอีกต่อหนึ่ง ดวงตาของเด็กสาวซึ่งมองทีแลนเต็มไปด้วยความระแวดระวัง

คนเป็นพ่อไม่อยากต่อความยาวให้เสียเวลา จึงเพียงถอนหายใจกระฟัดกระเฟียดก่อนจัดการต้อนเด็กทั้งสามให้เข้ามาในห้องและปิดประตู

เมื่ออาเธลก้าวมายืนที่กลางห้องประชุม พาเอาเด็กสาวที่เกาะเขาแจมาด้วย สายตาแทบทุกคู่ก็จับจ้องไปที่เธอโดยพร้อมเพรียง ใช่แล้ว เพียงแค่ 'แทบทุกคู่' เพราะอเรียนน่าสนใจอาเธลมากกว่า ไม่ได้เจอกันเป็นปี น้องชายของเธอโตขึ้นเยอะทีเดียว อาเธลยิ้มบาง ๆ ตอบเมื่อเห็นว่าอเรียนน่าโบกมือให้ ก่อนเลิกคิ้วขึ้นนิดเมื่อเลื่อนสายตาไปยังเอธาน คงแปลกใจกับกระดานหมากรุกนั่นเอง อเรียนน่ามองตาม เห็นว่าคิริลยังคงพินิจหมากบนกระดานอย่างครุ่นคิด ไม่ใส่ใจดูคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ทอแสงแม้แต่น้อย ผิดกับเอธานซึ่งจ้องเป๋งทีเดียว

ใช่ผู้ทอแสงหรือเปล่า...

คำถามนี้ดังขึ้นในใจของแทบทุกคนในที่นั้น นอกจากนักบวชแห่งหอแสงแล้ว ไม่มีใครเคยเห็นผู้ทอแสง ทุกคนรู้จักผู้ทอแสงจากคำเล่าลือมาตลอดชีวิต หากเด็กสาวคนนี้คือผู้ทอแสง ก็ถือเป็นโชคดีเหลือเกินที่พวกเขามีโอกาสได้พบตัวจริง และหากเด็กคนนี้คือตัวจริง ก็สมควรแล้วที่เธอจะเป็นผู้ที่ให้แสงสว่างแก่สรรพชีวิต แม้สภาพจะกระเซอะกระเซิง เธอก็ยังงดงาม ซ้ำยังให้ความรู้สึกชุ่มชื่นและอบอุ่นในใจอย่างประหลาดเมื่อมองดู ไม่ต่างอะไรกับแสงสว่างบนท้องฟ้าเลย

แรงกดดันของสายตาจำนวนมากทำให้เด็กสาวผู้มีหางเปียยาวเกือบลากพื้นยึดชายเสื้อและขยับเข้าหลบหลังอาเธลยิ่งกว่าเดิม สีหน้าประหม่าและสับสน

"ไทซ์ ว่าอย่างไร ใช่หรือเปล่า" บิดาของอเรียนน่า...หรืออีกนัยหนึ่ง องค์ราชา...ถามนักเวทหลวงด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ

"ไม่แน่ใจ แต่กระหม่อมจับสัมผัสพลังเวทเช่นที่ผู้ทอแสงมีจากตัวนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เว้นแต่ที่สร้อยข้อมือที่ทีแลนบอกว่าลงอาคมผนึกไว้" บิดาของทีแลนตอบ "คงต้องให้พวกนักบวชยืนยันตัว"

"ถ้าอย่างนั้นเจ้ารีบพาอาเธลไปที่หอแสงและลองถามพวกนักบวชดู หากไม่ใช่ ก็ให้เจ้ารีบหาร่องรอยเวทมนตร์ แต่หากมีแนวโน้มว่านางจะเป็นผู้ทอแสง ค่อยกลับมารับนางไปอีกครั้ง" องค์ราชาบัญชา "ระหว่างนี้ คิริล เจ้าตรวจร่างกายนางเสีย ดูว่ามีอะไรผิดปกติบ้างหรือเปล่า"

นักเวทหลวงและแพทย์หลวงผู้ได้รับพระราชบัญชาทั้งสองลุกขึ้นคำนับพร้อมกัน

ทว่าอเรียนน่าสงสัย...เธอคิดไปเอง หรือว่าบนใบหน้าของคิริล มีรอยยิ้มคล้ายพอใจปรากฏขึ้นแวบหนึ่งจริง ๆ กันแน่

ยิ้มอะไร...พอใจอะไรอยู่หรือ

นักเวทหลวงยืนรออยู่ที่ประตูแล้ว อาเธลจึงขยับจะเดินไปหา เด็กสาวเดินตามเขามาด้วย มือกำชายเสื้อเขาแน่น

"เจ้าอยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวข้ากลับมา" อาเธลบอก และได้รับคำตอบเป็นอาการกะพริบตาอย่างงุนงง

"ไปไหน" เสียงใสถามราวกับเด็กน้อย

"ใกล้ ๆ นี่เอง"

"ข้าไปด้วย"

"ไม่ได้ เจ้าอยู่ที่นี่ ให้ท่านคิริลดูอาการ"

"ไม่เอา" เด็กสาวปฏิเสธทันควัน สีหน้าตระหนกจนอเรียนน่านึกสงสาร "ข้าไปด้วย"

"ไม่ได้" อาเธลปรามเสียงเข้ม

"คิริล" สุรเสียงหนัก ๆ คล้ายหมดความอดทนขององค์ราชาเรียกแพทย์หลวงผู้คำนับน้อย ๆ ก่อนเดินเข้าไปใกล้อาเธลและลูมินัส ชายหนุ่มเอื้อมมือไปสะกิดข้อมือของเด็กสาวครั้งเดียว มือที่กำแน่นอยู่ก็ปล่อยชายเสื้อของอาเธลทั้งที่เจ้าของมือไม่ได้สั่ง แพทย์หนุ่มใช้จังหวะที่เด็กสาวกำลังตกใจคว้าข้อมือเธอไว้ไม่ให้กลับยึดเสื้อของอาเธลอีก แม้เจ้าของข้อมือจะพยายามบิดข้อมือออกก็ไม่เป็นผล

"ไปกับข้านะ คุณหนู" คิริลเอ่ยนุ่ม ๆ

ลูมินัสหันมองต้นเสียงก่อนผงะ ครางฮือ และยิ่งพยายามดึงมือกลับมา

"สัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาดอีกแล..." ปลายเสียงเลือนหายไปในลำคอ เมื่อดวงตาของคนพูดปรือลงก่อนปิดสนิท ร่างทั้งร่างอ่อนยวบก่อนพับทรุดลง คิริลคว้าเอวเธอไว้ไม่ให้กระแทกพื้น ก่อนอุ้มร่างนั้นขึ้น เขาโค้งให้องค์ราชาเป็นเชิงลา ส่งยิ้มแปลก ๆ เลยมาทางที่อเรียนน่านั่ง และเดินออกไปจากห้องประชุม มีทีแลนซึ่งพึมพำว่า 'ข้าไปด้วย' ตามหลังไป

ทิ้งให้รอยยิ้มสุดท้ายนั้นรบกวนความรู้สึกของเจ้าหญิงองค์รอง เธอไม่เข้าใจความหมายในรอยยิ้มนั้นเลยจนนิดเดียว

อเรียนน่าจึงหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม

แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 55 05:56:50

จากคุณ : พลอยฟ้าปรายฝน
เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 05:46:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com