Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บันทึกความทรงจำบทที่ 13: ปีใหม่กับการเริ่มต้นเทอมสุดท้าย ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12134405/W12134405.html

บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12137466/W12137466.html

บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12142609/W12142609.html

บทที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12155159/W12155159.html

บทที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12160123/W12160123.html

บทที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12165127/W12165127.html

บทที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12170398/W12170398.html

บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12175926/W12175926.html

บทที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12192814/W12192814.html

บทที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12198174/W12198174.html

บทที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12202507/W12202507.html

บทที่ 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12207363/W12207363.html


ผ่านวันคริสต์มาสไปไม่ทันไรก็ปีใหม่แล้วนะครับ เช้าวันนึงก่อนวันสิ้นปีขณะที่ผมนอนเล่นอยู่ ก็ได้ยินเสียง "ปิ๊งงงงง" มาจากคอมพิวเตอร์มีการแจ้งเตือนอีเมลเข้ามา ใครเอ่ย พอเช็คดูปรากฎว่าเป็น มาอิ นั่นเอง มาอิ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ไม ไม เป็นสาวญี่ปุ่นใส่แว่น เป็นคนอารมณ์ดี นิสัยดี เคยมาเรียนหนังสือที่เมืองไทยมาก่อนเพราะตอนนั้นคุณพ่อของเธอต้องมาทำธุรกิจที่เมืองไทยระยะหนึ่ง รู้สึกว่าจะเป็นเชียงใหม่ครับ ที่สำคัญเธอพูดภาษาไทยได้ด้วย เราอยู่ในกลุ่มเรียนภาษาดัวยกัน สนิทกันมากๆ ปัจจุบันนี้ เธอไปทำงานอาสาสมัครขององค์การะหว่างประเทศแห่งหนึ่งในกัมพูชา และได้พบรัก แต่งงานกับหนุ่มชาวกัมพูชาไปแล้ว ไม ไม เป็นคนที่ชอบนัดเพื่อนๆ มาสังสรรกัน แล้ววันนี้เธอก็ส่งอีเมลมาชวนทุกคนไปรวมตัวกันที่บ้านของชอน หัวหน้ากลุ่มเรียนภาษาของเรา เพื่อกินเลี้ยงปีใหม่กัน โดยให้แต่ละคนทำอาหารไปกันคนละอย่างสองอย่างแล้วเอามาแบ่งกันทาน

วันนี้ไม่ใช่แค่การสังสรรค์ปีใหม่กันอย่างเดียว พวกเรายังคุยกันเรื่องงานเลี้ยงนักศึกษาต่างชาติประจำปีด้วย ได้ข่าวมาว่าปีนี้จะจัดในช่วงสัปดาห์ที่สองหลังจากเปิดเทอม แถมคราวนี้ theme ของงานคือชุดแฟนซี คือนอกจากชุดประจำชาติที่นักศึกษาต่างชาติจะสวมอยู่ประจำซุ้มของชาติตัวเองแล้ว นักศึกษาคนไหนจะแต่งตัวแฟนซีเป็นอะไรได้ทั้งนั้น แล้วถ้าใครแต่งตัวโดนใจก็รับรางวัลไปได้เลย  พวกเรากินกันไป คิดกันไปว่าจะแต่งอะไรกันดี แอนโทนีบอกจะแต่งเป็นเอเลี่ยน เอาเข้าไป วิกกี้จะแต่งตัวเลียนแบบพวกเซเล็บดังๆ คนอื่นๆก็ออกไอเดียสุดบรรเจิด ส่วนผมเองยังไม่มีไอเดียดีๆ จะแต่งเป็นอะไรดีล่ะ

“ปิง เธอก็แต่งเป็นโจรสลัดไง มันเหมาะกับเธอออก” ยุน จี ออกความเห็น

“5555 เอางั้นเหรอ (เข้าใจว่าผมโดนหลอกด่าว่าหน้าเหมือนโจร แต่โจรสลัดที่ไหนจะขาว ตี๋แบบนี้ 555) เออ ก็ได้ๆ ไหนๆก็ไม่มีไอเดียอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอยู่แล้ว แล้วเธอล่ะ จะแต่งเป็นอะไร"

"ยังไม่รู้เลย ช่วยคิดหน่อยสิ แต่ว่าจะยังไงไม่รู้ ปัญหาคือจะเอาชุดที่ว่านี่จากไหน”

“มีอยู่ในเมือง เคยเห็นอยู่ร้านนึงอยู่ตรงซอยหลัง Oxfam มีพวกชุดแฟนซีให้เช่า เอาไว้ไปดูกัน คิดว่าราคาไม่น่าจะแพง” ฟีลิกซ์ ออกความเห็น พอตกลงกันได้ พวกเราเลยนัดวันไปดูกัน

ปัญหาของผมในวันนั้นยังไม่จบแค่นั้น หลังจากเรากินเลี้ยงปีใหม่อย่างสนุกสนาน ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับ บางคนเข้าไปเดินในเมือง ส่วนผมกับยุน จี ก็กลับหอพัก ช่วงระหว่างที่เราเดินใกล้ถึงหอพัก เราเห็นชายคนนึงยืนตรงหน้าประตู เหมือนกำลังรอใครอยู่ เขาเป็นคนเอเชีย รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดี พอเห็นเขาเท่านั้น สีหน้าของ ยุน จีก็เปลี่ยนไป จากที่ยิ้มแย้มแจ่มใส กลับไปเป็นเคร่งขรึม

ครับ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือใคร คัง ดง อุก แฟนของเธอ!!!

ดง อุกมาทำไมไม่มีใครรู้ แต่ผมเดาเอาเองว่า เขาคงต้องการเคลียร์เรื่องนั้นให้จบเร็วๆ หรือไม่ก็มาขอคืนดี อย่างว่าแหละ คนเคยรักเคยชอบพอกันมาก่อนจะเลิกกันง่ายๆ มันก็แปลก พอเห็นดังนั้น ทั้งคู่ก็ส่งภาษาเสียงในฟิล์ม (ภาษาเกาหลี) แต่ดูจากลักษณะท่าทาง เธอมีสีหน้าไม่สู้ดี ก่อนจะเรียกให้เขาเข้าไปคุยกันในครัวข้างในแฟลท ผมเดินตามทั้งคู่เข้าไปอย่างเงียบๆ ดง อุก มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจที่เห็นเธอเดินมากับผม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมเดินตามทั้งคู่เข้าไปถึงครัว ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง จริงๆ แล้วผมควรออกมาจากวงสนทนาซะ เป็นมารยาท แต่ด้วยความที่กลัวจะเกิดเหตุอะไรขึ้น ผมเลยตัดสินใจอยู่ตรงนั้น เพราะถึงยังไงผมก็ฟังภาษาเกาหลีไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ครั้นจะไปบอกทั้งคู่ให้พูดภาษาไทยมันก็ใช่ที่ อาจโดนกระทืบได้ แต่ดูทั้งคู่ไม่สนใจผมเท่าไหร่ แล้วก็เริ่มบทสนทนา จากโทนต่ำ เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆๆๆ กลายเป็นเสียงทะเลาะกันไปในที่สุด เคยได้ยินคนเกาหลีทะเลาะกันมั้ยครับ ถ้าไม่เคย ขอแนะนำให้ดูซีรีย์เรื่อง Coffee Prince ตอนที่พระรองกับนางรองทะเลาะกัน เสียงดังประมาณนั้นเลย

หลังจากที่ทะเลาะกันมาซักพัก ท่าทางทั้งคู่ไม่ลดราวาศอกกันเลย แล้วก็ไม่มีใครคิดจะเหนื่อยด้วย แอนโทนีก็เดินเข้ามา คิดว่าคงเข้ามาชงกาแฟ แต่ต้องผงะ เพราะเห็นคนทะเลาะกัน แล้วยืนหลบมุมตรงประตูทางเข้าห้องครัว ก่อนกวักมือเรียกผม ผมก็ต้องค่อยๆ ย่องๆๆ ออกมา

“เกิดอะไรขึ้น” แอนโทนีถามพลางทำหน้าเหมือนหมาสงสัย

เรื่องหมาทำหน้าสงสัยเนี่ยมีจริงๆนะครับ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ช่วงปิดเทอมผมมักจะไปเล่นกับพี่สาวที่บ้านป้า พอดีที่บ้านป้าจะมีบ่อน้ำเลี้ยงปลาบ่อนึงค่อนข้างกว้าง แล้วหมามันชอบนอนอยู่แถวๆ นั้น ผมเองด้วยความที่ซน เลยแกล้งหยิบหินก้อนเล็กๆ โยนลงไปในน้ำ เสียงดัง จ๋อม หมาจากที่นอนๆ อยู่มันก็ลุกขึ้นมามองไปในน้ำ ทำท่าเอียงคอนิดๆ แววตาแสดงความฉงนสนเท่ห์ แต่ความซนของผมไม่หยุดแค่นั้น พอมันกลับมานอน ผมก็ได้ใจ หยิบก้อนหินก้อนใหญ่มากกกก มาโยนลงน้ำ คราวนี้แทนที่จะเป็นเสียงจ๋อม กลับกลายเป็นเสียงดังตูมมม น้ำกระจาย ปรากฎว่าทั้งผม และหมากระเจิง วิ่งหนีไปพร้อมกัน 5555 เข้าเรื่องต่อดีกว่า

“ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ คนทะเลาะกัน” ผมตอบ

“แล้วนายมาอยู่ตรงนี้ทำไม ออกมาสิ เดี๋ยวโดนลูกหลงหรอก แต่เดี๋ยวก่อน ผู้ชายคนนี้เคยเห็นหน้านี่นา จำได้ เคยมานี่หนนึง”

“แฟน ยุน จี” ผมตอบสั้นๆ

“อ้าว เธอมีแฟนแล้วเหรอ ตอนแรกนึกว่าเป็นแฟนกับนายซะอีก เห็นสนิทกันเหลือเกิน”

“เหอะๆๆ ใช่ที่ไหนกันล่ะ” บางทีไอ้การซ่อนความรู้สึกกับคนอื่นนี่มันก็ลำบากเหมือนกันนะครับ
ถามแค่นั้น แอนโทนีก็เดินจากไปหลังจากที่กดน้ำร้อนลงไปเกือบเต็มแก้ว ท่ามกลางบรรยากาศในครัวอันร้อนระอุ จนถึงตอนนี้ทั้งคู่ลดเสียงลงไปแล้ว แต่เกิดอะไรอีกไม่รู้ ดง อุก ชี้มือชี้ไม้มาที่ผมแล้วพูดอะไรสองสามคำ เธอหันมามองที่ผม ส่งสายตามาให้ เธอตาแดงเหมือนกำลังจะร้องไห้ ก่อนจะพูดอะไรกับเขาเพียงไม่กี่ประโยค

หลังจากที่ ดง อุก จากไป ดูเธอเศร้ามากๆ แสดงว่าเธอยังตัดเขาไม่ขาด หรือจะด้วยเหตุผลอะไรผมเองก็ไม่รู้ ผมเองก็ไม่กล้าเข้าไปปลอบเธอ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพียงแต่เดินไปหาน้ำให้เธอดื่ม แล้วเดินไปส่งเธอที่ห้อง ก่อนจะถามเพียงสั้นๆ ว่า “เป็นยังไงบ้าง” เธอหันมาส่งยิ้มเศร้าๆ ให้กับผมก่อนพูดว่า “มันจบไปแล้ว”

ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเรื่องสะเทือนใจอีกครั้งก่อนเปิดเทอม แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ผมจะคงอยู่เคียงข้างเธอ และดูแลเธอต่อไป และคิดเสมอว่า ระหว่างเธอกับเขามันจบไปแล้ว

ครับ มันจบไปแล้วจริงๆ.......................................................

จากคุณ : Red Boomer
เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 09:00:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com