พี่พีทจะส่งพี่ชายมาทำไมคะ
ดุจฝันเอ่ยถามทันทีแทนที่จะสวัสดีเมื่อรับโทรศัพท์จากพิธกรหลังจากที่ส่งรถเข้าอู่แล้วเรียกแท็กซี่กลับถึงบ้านแล้วเรียบร้อย เธอได้ยินเสียงหัวเราะแห้งๆจากคนปลายสาย
ขอโทษนะฝัน แต่หลังจากที่ฝันโทรมาก็มีลูกค้าขอนัดพบด่วน พี่เลยโทรหาพี่ไพรด์เพราะเห็นว่าทำงานอยู่ตรงนั้นพอดี อีกอย่างก็เป็นตอนที่พี่เขาสอนเสร็จแล้ว แต่ก็ขอโทษจริงๆที่ทำให้ฝันหนักใจ
ดุจฝันถอนหายใจในเหตุสุดวิสัยของพิธกร ถึงอย่างไรเธอก็ต้องขอบคุณเขาที่พยายามช่วยเธอแม้ว่าวิธีของเขามันจะทำให้เธอลำบากใจมากก็ตามที
ช่วงมันเถอะค่ะ ฝันก็พาลไปตามเรื่องตามราวนั่นล่ะ ฝันนิสัยไม่ดีเอง แต่ครั้งหน้าถ้าพี่พีทลำบากหรือไม่สะดวกตอนที่ฝันขอความช่วยเหลือก็ไม่เป็นไรนะคะ ฝันโอเคค่ะ แล้วพี่พีทก็ไม่ต้องส่งใครมาแทนนะคะ... โดยเฉพาะพี่ชายของพี่พีท
ไม่อยากเจอผมขนาดนั้นเลยเหรอ
น้ำเสียงที่ต่างจากไปจากคนที่คุยอยู่เมื่อครู่นี้เอ่ยถามขึ้น ดุจฝันใจหายวูบเมื่อได้ยินเสียงแทรกเข้ามาในสายว่าอย่าแย่งคุยโทรศัพท์ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วตอบเสียงเรียบ
แค่เสียงคุณก็ยังไม่อยากได้ยินเลย ส่งให้พี่พีทเดี๋ยวนี้ ฉันจะคุยกับพี่พีท
ผมกับพีทก็ไม่ต่างกันหรอก เพราะวันนี้เราก็อยากช่วยคุณทั้งคู่
ไม่เหมือน เพราะฉันเกลียดคุณ
คำพูดเด็ดขาดของเธอทำให้ปลายสายเงียบสนิท... เงียบจนเธอไม่แน่ใจว่าเขายังอยู่ตรงนั้นฟังคำบอกเกลียดของเธออยู่ไหม จนกระทั่งเขาย้อนถามอีกทีเมื่อผ่านไปเกือบนาทีที่ทำให้ดุจฝันแน่ใจว่าเขาได้ยินเธออย่างชัดเจน
...เกลียดผมมากเหรอ
ใช่ มากด้วย
หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตอบเช่นนั้น
ทำไงคุณถึงจะเลิกเกลียดผม
ไม่มีวันและไม่มีทาง
ถ้าอย่างนั้น ถ้าวันนี้ผมโดนรถชนตายระหว่างเข้าไปหาคุณ คุณจะยังเกลียดผมไหม
สถานการณ์สมมติที่ภาคภูมิยกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจทำให้ดุจฝันถึงกับหยุดนิ่ง เธอรวบรวมสติแล้วตอบไปทันทีแบบพยายามไม่ใส่ใจ
คุณตายไปก็เรื่องของคุณ ฉันก็จะยังเกลียดคุณเหมือนเดิม
ปลายสายเงียบไปอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเศร้า
เข้าใจแล้ว
ดุจฝันกดสายทิ้งทันทีหลังจากที่คำพูดนั้นจบลง ภาคภูมิยื่นโทรศัพท์ส่งกลับมาให้พิธกร ก่อนจะหันกลับมาเหม่อมองตัวเลขดัชนีหุ้นบนจอคอมพิวเตอร์ต่อด้วยสายตาว่างเปล่าอย่างไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น สักพักนึงน้องชายก็เดินเข้ามาหาแล้วตบบ่าเขาเบาๆ
นี่จะไม่ถามเลยเหรอว่าเขาพูดอะไรกับพี่บ้าง
ภาคภูมิแกล้งยิ้มแล้วพูดกับพิธกร
ไม่ต้องแกล้งฝืนยิ้มหรอก
คนเป็นพี่ชายถอนหายใจทันที ไม่มีความรู้สึกไหนที่เขาสามารถปิดน้องชายคนนี้ได้ พิธกรเข้าใจเขาดีทุกอย่าง
หุ้นเป็นไงบ้างล่ะ
ก็ดี ที่ซื้อไว้ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ขึ้นเกือบทุกตัว
เล็งอะไรก็ไม่เคยพลาด นี่ละนะนักลงทุน
ภาคภูมิรับฟังคำชมนั้นแล้วตีหน้านิ่ง เขาเงียบไปครู่นึง
มีเรื่องนึงเท่านั้นล่ะ... ที่พลาดอย่างจัง
พิธกรพอจะรู้ทันทีว่าเรื่องไหน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่ไพรด์ใช้แต่สายตาตัดสินทุกเกือบจะทุกเรื่องจากตัวเลขและความน่าจะเป็น ทุกครั้งที่พี่ไพรด์คาดการณ์เรื่องหุ้น มันไม่เคยผิดพลาด เพราะมันเป็นแค่หุ้น มันไร้ชีวิต
...
แต่เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้สึกของคน มันมีชีวิตจิตใจ เราไม่สามารถเอาสายตาที่ใช้ตอนมองหุ้น ไปคาดการณ์มันได้ เพราะทุกอย่างมันคืออารมณ์ที่ไม่สามารถจะเดาได้ล่วงหน้า
พิธกรพูดถูกทุกอย่าง
ภาคภูมิเคยคิดว่าแค่ข้อมูลเยอะแล้วคิดวิเคราะห์ได้ก็เพียงพอแล้ว เขารู้วิธีมากมายที่จะจัดการเวลาพบปัญหาเกี่ยวกับการลงทุน เพียงแค่มีข้อมูลเท่านั้น ดังเช่นในกรณีของดุจฝัน เขาเคยคิดว่ามันคงคล้ายกัน ก่อนการวางแผนนั้นเขาจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอให้มากที่สุดจนรู้ทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของเธอ ชายหนุ่มวิเคราะห์ว่าต้องทำเช่นไรเพื่อให้เธอคนนี้ต้องเจ็บใจมากที่สุด แล้วสังเคราะห์ออกมาเป็นแผนการแก้แค้น หากแต่ผลลัพธ์มันต่างจากที่เขาคาดคิดไว้มากมายในเมื่อมันออกมากลายเป็นว่าเขาเองก็ต้องเจ็บไม่แพ้กัน
พิธกรไม่เคยเห็นสภาพพี่ชายต้องนั่งหน้าเครียดเพราะเรื่องแบบนี้มาก่อนในชีวิต ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนที่คอยขอความช่วยเหลือภาคภูมิมาตลอด แต่ในวันนี้ เขาจะขอเป็นฝ่ายให้ความช่วยเหลือพี่ชายบ้าง พิธกรคิดได้ดังนั้นก็เอ่ยขึ้นมาทันที
ในเมื่อมันเป็นเรื่องของความรู้สึก ก็ใช้ความรู้สึกของตัวเองจัดการมันซะ
To be continued :)